รักรออุ้ม: ทักษิณา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
ความคึกคะนอง ย่ามใจของเขา กับความอ่อนด้อยประสบการณ์ของเธอ ก่อเกิดหนึ่งชีวิตที่ไม่ตั้งใจขึ้นมา
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ลูก ครอบครัว ดราม่า โรแมนติก ท้อง
ตอน: บทที่ 10 -60%
ปุกาศๆ วันนี้ก่อนลงนิยาย ทีมงานขอแจ้งข่าวก่อนน้าาา ตื่นเต้น >///< รักรออุ้มมีวางจำหน่ายที่ ‘ศูนย์หนังสือจุฬาฯ’ แล้วนะคะ สดๆร้อนๆเลยจ้า ใครอยากสอยไปสอยกันได้แล้วนะ เรื่องนี้ปลายปากกาสำนักพิมพ์กับนักเขียนรันงานกันยาวนานกว่าทุกเรื่องที่เคยตีพิมพ์มา เล่มหนาด้วยน่ะค่ะ5555 เห็นแล้วหายเหนื่อย ฝากครอบครัวรักรออุ้มด้วยนะคะ^^
*************
เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ดังขึ้นพอเป็นพิธี ก่อนจะถูกเปิดเข้ามาด้วยมือแกร่งของชายหนุ่มหน้าคมเข้ม หล่อเหลา ถอดแบบมาจากทั้งบิดาและมารดาด้วยส่วนผสมที่ลงตัวเหมาะเจาะ
คุณก่อกิจขยับแว่นสายตากรอบทองของตัวเอง มองร่างสูงใหญ่ของลูกชายคนเดียวลอดแว่น ใบหน้ามีริ้วรอยตามวัย แต่เครื่องหน้ายังแสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวเคยเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีมากคนหนึ่งมาก่อน แม้ตอนนี้ก็ยังไม่ทิ้งมาดภูมิฐาน ดูน่าเกรงขาม
“คุณพ่อเรียกผมมาหา มีธุระด่วนอะไรหรือเปล่าครับ” กานต์ชนกในชุดสูทสีดำเรียบกริบ เนี้ยบสมกับตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการของบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ในวงการ เอ่ยถามบิดาด้วยกิริยาสำรวม สงบนิ่ง ตั้งใจรอฟัง
ทว่าแทนคำตอบ คุณก่อกิจกลับโยนนิตยสารเล่มหนึ่งมาต่อหน้าลูกชาย นัยน์ตาคมดุวาววาบ
“มีคนเอาหนังสือนี่มาให้พ่อดู แกทำเรื่องอีกแล้วนะเจ้ากานต์ เมื่อไหร่จะเลิกเสเพลสักที ทำอย่างนี้เดี๋ยวหนูชาช่าก็หนีกันพอดี”
คุณก่อกิจตำหนิลูกชาย หนักใจกับพฤติกรรมเสเพลของอีกฝ่าย เมื่อก่อนกานต์ชนกไม่เป็นอย่างนี้ ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ถึงเปลี่ยนไปได้
“เขารับที่ผมเป็นอย่างนี้ไม่ได้ก็ช่างเขาสิครับ ถ้าแค่นี้ยังรับไม่ได้ ขืนแต่งงานกันไปไม่ยิ่งแย่เหรอ” กานต์ชนกตอบบิดากลับไปอย่างไม่ยี่หระ ชื่อ ‘ชาช่า’ ยิ่งทำให้ตาคมของเขาแข็งกร้าวขึ้นกว่าปกติ
“เป็นอะไรของแกเจ้ากานต์ แกคบกับหนูชาช่าเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเที่ยวไปมีข่าวกับคนโน้นคนนี้ไปทั่ว ทำไมไม่รู้จักให้เกียรติแฟนตัวเองบ้าง”
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณพ่อเข้าใจหรอกครับ” ลูกชายตอบโต้อย่างเสียมิได้
“ไม่ใช่อย่างที่พ่อเข้าใจ แล้วมันคืออะไร ไหนอธิบายให้พ่อเข้าใจหน่อยซิเจ้ากานต์” คุณก่อกิจชี้นิ้วเป็นเชิงสั่งให้ลูกชายนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมนุ่มสบายหน้าโต๊ะทำงานของเขา กานต์ชนกยอมทำตาม แต่สีหน้ายังนิ่งเฉย เย็นชา
“ผมไม่ใช่แฟนของชาช่า เราเลิกกันมาสองปีแล้วครับ” เขาตัดสินใจบอกบิดา เบื่อจะเก็บงำความจริงเอาไว้ให้บิดาเข้าใจผิดอีกต่อไปแล้ว
“หือ” คุณก่อกิจเลิกคิ้วดกหนาของตัวเองขึ้นสูง ดวงตาเบิกกว้าง
“ชาช่าเขาชอบไอ้อัครเพื่อนผมต่างหากครับ” กานต์ชนกอธิบาย ทำเอาบิดามึนงง ประหลาดใจกับข้อมูลใหม่ที่เพิ่งรับรู้
“แกหมายถึงนายอัครชัย เพื่อนรักของแกน่ะเหรอ” บิดาถามลูกชายเพื่อความชัดเจน และอีกฝ่ายก็ใช้ความเงียบแทนการยอมรับโดยดุษณี
“ตั้งแต่เมื่อไหร่...สองปีก่อนเหรอ ทำไมแกไม่ยอมบอกใคร ปล่อยให้ทุกคนยังคิดว่าแกคบกับหนูชาช่ามาจนทุกวันนี้ได้ยังไง”
“เมื่อสองปีก่อนชาช่าเขาบอกผมเองว่าเขาคบกับไอ้อัครแล้ว แต่เขาไม่อยากให้ผู้ใหญ่ไม่สบายใจก็เลยขอร้องผมเอาไว้ ไม่ให้บอกเรื่องที่เขาขอเลิกกับผมให้ผู้ใหญ่ทราบ...เรื่องมันก็เท่านี้”
ลูกชายบอกพลางยกสองมือกอดอก ยกสองขานั่งไขว่ห้างสบายๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ผู้เป็นบิดาพอจะทราบดีว่า ชาช่าหรือสโรชา นั้น เธอเป็นบุตรสาวของเพื่อนรักของคุณตีรณา ภรรยาของเขา ดังนั้นสโรชาจึงรู้จักสนิทสนมกับกานต์ชนกมานานกว่าใคร
ทั้งสองครอบครัว ต่างก็พูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการเอาไว้นานมากแล้วว่า อยากให้เด็กทั้งคู่ได้แต่งงานเป็นทองแผ่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อเด็กทั้งคู่คบหากันในฐานะคนรักเมื่อสี่ปีก่อน ทุกคนจึงปิติยินดี และเข้าใจมาโดยตลอดว่าเด็กทั้งคู่ยังรักใคร่เข้าใจกันดีเสมอมา ไม่เคยรู้เลยว่า ที่แท้สิ่งที่เห็นกับความเป็นจริงนั้นมันตรงกันข้าม!
“โธ่ถัง แล้วนี่ถ้าแม่แกเขารู้เรื่องเข้า มิเสียใจแย่เหรอ ทุกวันนี้เขายังคิดว่าแกกับหนูชาช่ารักใคร่กันดีอยู่เลย เตรียมจะหาฤกษ์ไปสู่ขออยู่แล้วด้วยซ้ำ” คุณก่อกิจถอนใจยาว อดผิดหวังไม่ได้ แต่เชื่อว่าเขายังอาการน้อยกว่าตีรณาแน่นอน หากภรรยาทราบเรื่องนี้เข้า คงโวยวายเป็นเรื่องใหญ่โต เจ้าตัวคาดหวังเอาไว้มากว่า ลูกสะใภ้ของบ้านธรรมธาดาจะต้องเป็น สโรชา วิชยุทธ เท่านั้น
“ก็ยังดีกว่าให้พ่อกับแม่บ่นกรอกหูผมเรื่องผู้หญิงอยู่ทุกวันนั่นละครับ ผมเองก็เบื่อเต็มทีแล้ว ว่าจะให้ชาช่าบอกทุกคนเอง แต่ผ่านมาสองปีแล้วก็ยังไม่บอก ผมขี้เกียจรอแล้วละครับ”
“ไม่น่าเลย...เสียดายจริงๆ...”
บิดาส่ายหน้าไปมา แม้จะไม่พอใจแต่ยังคงมีอาการสงบนิ่ง ไม่ต่างจากลูกชายนัก เพราะฝ่ายนั้นก็ไม่ยี่หระต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน
ก็คงจะอย่างนั้น...เพราะมันผ่านมาตั้งสองปีแล้ว ต่อให้เจ้าลูกชายเคยชอบสโรชาจริงๆ ป่านนี้ก็คงเปลี่ยนใจไปแล้ว
“ผมไม่สนใจอยู่แล้ว แค่ไม่อยากให้คุณแม่รู้เรื่องเพราะขี้เกียจฟังเสียงบ่นเท่านั้นเอง...อุบ!!”
พูดอยู่ดีๆ กานต์ชนกก็ยกมือปิดปากตัวเองแล้วลุกพรวด วิ่งไปที่ห้องน้ำด้านข้าง ยึดอ่างล้างหน้าไว้แน่น ก้มหน้าลงไปอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง
“เฮ้ย กานต์เป็นอะไร!!”
ผู้เป็นบิดาลุกตามเข้ามาดูอาการของลูกชายอย่างตกใจ ไม่เคยเห็นกานต์ชนกมีอาการ ‘หนัก’ ขนาดนี้มาก่อนเลย
“คลื่นไส้มากเลยครับคุณพ่อ ไม่รู้เป็นอะ...อุบ!!”
พูดไม่จบก็อาเจียนออกมาอีก ร่างสูงใหญ่อาเจียนจนตัวงอ หน้าซีดหน้าเซียว คุณก่อกิจตะลึงงงกับอาการของลูกชาย ทำอะไรไม่ถูกชั่วขณะก่อนจะรีบวิ่งไปกดอินเตอร์คอม เรียกเลขาหน้าห้องเข้ามาช่วยกันจ้าละหวั่น
“คุณดวงตา เข้ามาช่วยหน่อยเร็ว มียาแก้แพ้แก้ลมอะไรเอามาหมดเลยนะ ด่วนสุดเลย!”
เสียงโหวกเหวกของบิดาไม่ได้เข้าหัวสมองของกานต์ชนกเท่าใดนัก เขาวิงเวียน คลื่นไส้ ใจสั่นหวิว อาการเหมือนคนอ่อนแอเป็นไข้หนัก แต่ตอนนี้เขาก็ไม่ได้ตัวร้อนสักหน่อย แล้วทำไม...
เวรกรรมแท้ นี่มันวันซวยอะไรของเขา!!
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
*************
เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่ดังขึ้นพอเป็นพิธี ก่อนจะถูกเปิดเข้ามาด้วยมือแกร่งของชายหนุ่มหน้าคมเข้ม หล่อเหลา ถอดแบบมาจากทั้งบิดาและมารดาด้วยส่วนผสมที่ลงตัวเหมาะเจาะ
คุณก่อกิจขยับแว่นสายตากรอบทองของตัวเอง มองร่างสูงใหญ่ของลูกชายคนเดียวลอดแว่น ใบหน้ามีริ้วรอยตามวัย แต่เครื่องหน้ายังแสดงให้เห็นว่าเจ้าตัวเคยเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีมากคนหนึ่งมาก่อน แม้ตอนนี้ก็ยังไม่ทิ้งมาดภูมิฐาน ดูน่าเกรงขาม
“คุณพ่อเรียกผมมาหา มีธุระด่วนอะไรหรือเปล่าครับ” กานต์ชนกในชุดสูทสีดำเรียบกริบ เนี้ยบสมกับตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการของบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ในวงการ เอ่ยถามบิดาด้วยกิริยาสำรวม สงบนิ่ง ตั้งใจรอฟัง
ทว่าแทนคำตอบ คุณก่อกิจกลับโยนนิตยสารเล่มหนึ่งมาต่อหน้าลูกชาย นัยน์ตาคมดุวาววาบ
“มีคนเอาหนังสือนี่มาให้พ่อดู แกทำเรื่องอีกแล้วนะเจ้ากานต์ เมื่อไหร่จะเลิกเสเพลสักที ทำอย่างนี้เดี๋ยวหนูชาช่าก็หนีกันพอดี”
คุณก่อกิจตำหนิลูกชาย หนักใจกับพฤติกรรมเสเพลของอีกฝ่าย เมื่อก่อนกานต์ชนกไม่เป็นอย่างนี้ ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ถึงเปลี่ยนไปได้
“เขารับที่ผมเป็นอย่างนี้ไม่ได้ก็ช่างเขาสิครับ ถ้าแค่นี้ยังรับไม่ได้ ขืนแต่งงานกันไปไม่ยิ่งแย่เหรอ” กานต์ชนกตอบบิดากลับไปอย่างไม่ยี่หระ ชื่อ ‘ชาช่า’ ยิ่งทำให้ตาคมของเขาแข็งกร้าวขึ้นกว่าปกติ
“เป็นอะไรของแกเจ้ากานต์ แกคบกับหนูชาช่าเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเที่ยวไปมีข่าวกับคนโน้นคนนี้ไปทั่ว ทำไมไม่รู้จักให้เกียรติแฟนตัวเองบ้าง”
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณพ่อเข้าใจหรอกครับ” ลูกชายตอบโต้อย่างเสียมิได้
“ไม่ใช่อย่างที่พ่อเข้าใจ แล้วมันคืออะไร ไหนอธิบายให้พ่อเข้าใจหน่อยซิเจ้ากานต์” คุณก่อกิจชี้นิ้วเป็นเชิงสั่งให้ลูกชายนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมนุ่มสบายหน้าโต๊ะทำงานของเขา กานต์ชนกยอมทำตาม แต่สีหน้ายังนิ่งเฉย เย็นชา
“ผมไม่ใช่แฟนของชาช่า เราเลิกกันมาสองปีแล้วครับ” เขาตัดสินใจบอกบิดา เบื่อจะเก็บงำความจริงเอาไว้ให้บิดาเข้าใจผิดอีกต่อไปแล้ว
“หือ” คุณก่อกิจเลิกคิ้วดกหนาของตัวเองขึ้นสูง ดวงตาเบิกกว้าง
“ชาช่าเขาชอบไอ้อัครเพื่อนผมต่างหากครับ” กานต์ชนกอธิบาย ทำเอาบิดามึนงง ประหลาดใจกับข้อมูลใหม่ที่เพิ่งรับรู้
“แกหมายถึงนายอัครชัย เพื่อนรักของแกน่ะเหรอ” บิดาถามลูกชายเพื่อความชัดเจน และอีกฝ่ายก็ใช้ความเงียบแทนการยอมรับโดยดุษณี
“ตั้งแต่เมื่อไหร่...สองปีก่อนเหรอ ทำไมแกไม่ยอมบอกใคร ปล่อยให้ทุกคนยังคิดว่าแกคบกับหนูชาช่ามาจนทุกวันนี้ได้ยังไง”
“เมื่อสองปีก่อนชาช่าเขาบอกผมเองว่าเขาคบกับไอ้อัครแล้ว แต่เขาไม่อยากให้ผู้ใหญ่ไม่สบายใจก็เลยขอร้องผมเอาไว้ ไม่ให้บอกเรื่องที่เขาขอเลิกกับผมให้ผู้ใหญ่ทราบ...เรื่องมันก็เท่านี้”
ลูกชายบอกพลางยกสองมือกอดอก ยกสองขานั่งไขว่ห้างสบายๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ผู้เป็นบิดาพอจะทราบดีว่า ชาช่าหรือสโรชา นั้น เธอเป็นบุตรสาวของเพื่อนรักของคุณตีรณา ภรรยาของเขา ดังนั้นสโรชาจึงรู้จักสนิทสนมกับกานต์ชนกมานานกว่าใคร
ทั้งสองครอบครัว ต่างก็พูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการเอาไว้นานมากแล้วว่า อยากให้เด็กทั้งคู่ได้แต่งงานเป็นทองแผ่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อเด็กทั้งคู่คบหากันในฐานะคนรักเมื่อสี่ปีก่อน ทุกคนจึงปิติยินดี และเข้าใจมาโดยตลอดว่าเด็กทั้งคู่ยังรักใคร่เข้าใจกันดีเสมอมา ไม่เคยรู้เลยว่า ที่แท้สิ่งที่เห็นกับความเป็นจริงนั้นมันตรงกันข้าม!
“โธ่ถัง แล้วนี่ถ้าแม่แกเขารู้เรื่องเข้า มิเสียใจแย่เหรอ ทุกวันนี้เขายังคิดว่าแกกับหนูชาช่ารักใคร่กันดีอยู่เลย เตรียมจะหาฤกษ์ไปสู่ขออยู่แล้วด้วยซ้ำ” คุณก่อกิจถอนใจยาว อดผิดหวังไม่ได้ แต่เชื่อว่าเขายังอาการน้อยกว่าตีรณาแน่นอน หากภรรยาทราบเรื่องนี้เข้า คงโวยวายเป็นเรื่องใหญ่โต เจ้าตัวคาดหวังเอาไว้มากว่า ลูกสะใภ้ของบ้านธรรมธาดาจะต้องเป็น สโรชา วิชยุทธ เท่านั้น
“ก็ยังดีกว่าให้พ่อกับแม่บ่นกรอกหูผมเรื่องผู้หญิงอยู่ทุกวันนั่นละครับ ผมเองก็เบื่อเต็มทีแล้ว ว่าจะให้ชาช่าบอกทุกคนเอง แต่ผ่านมาสองปีแล้วก็ยังไม่บอก ผมขี้เกียจรอแล้วละครับ”
“ไม่น่าเลย...เสียดายจริงๆ...”
บิดาส่ายหน้าไปมา แม้จะไม่พอใจแต่ยังคงมีอาการสงบนิ่ง ไม่ต่างจากลูกชายนัก เพราะฝ่ายนั้นก็ไม่ยี่หระต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน
ก็คงจะอย่างนั้น...เพราะมันผ่านมาตั้งสองปีแล้ว ต่อให้เจ้าลูกชายเคยชอบสโรชาจริงๆ ป่านนี้ก็คงเปลี่ยนใจไปแล้ว
“ผมไม่สนใจอยู่แล้ว แค่ไม่อยากให้คุณแม่รู้เรื่องเพราะขี้เกียจฟังเสียงบ่นเท่านั้นเอง...อุบ!!”
พูดอยู่ดีๆ กานต์ชนกก็ยกมือปิดปากตัวเองแล้วลุกพรวด วิ่งไปที่ห้องน้ำด้านข้าง ยึดอ่างล้างหน้าไว้แน่น ก้มหน้าลงไปอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง
“เฮ้ย กานต์เป็นอะไร!!”
ผู้เป็นบิดาลุกตามเข้ามาดูอาการของลูกชายอย่างตกใจ ไม่เคยเห็นกานต์ชนกมีอาการ ‘หนัก’ ขนาดนี้มาก่อนเลย
“คลื่นไส้มากเลยครับคุณพ่อ ไม่รู้เป็นอะ...อุบ!!”
พูดไม่จบก็อาเจียนออกมาอีก ร่างสูงใหญ่อาเจียนจนตัวงอ หน้าซีดหน้าเซียว คุณก่อกิจตะลึงงงกับอาการของลูกชาย ทำอะไรไม่ถูกชั่วขณะก่อนจะรีบวิ่งไปกดอินเตอร์คอม เรียกเลขาหน้าห้องเข้ามาช่วยกันจ้าละหวั่น
“คุณดวงตา เข้ามาช่วยหน่อยเร็ว มียาแก้แพ้แก้ลมอะไรเอามาหมดเลยนะ ด่วนสุดเลย!”
เสียงโหวกเหวกของบิดาไม่ได้เข้าหัวสมองของกานต์ชนกเท่าใดนัก เขาวิงเวียน คลื่นไส้ ใจสั่นหวิว อาการเหมือนคนอ่อนแอเป็นไข้หนัก แต่ตอนนี้เขาก็ไม่ได้ตัวร้อนสักหน่อย แล้วทำไม...
เวรกรรมแท้ นี่มันวันซวยอะไรของเขา!!
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.ย. 2561, 13:12:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.ย. 2561, 13:12:54 น.
จำนวนการเข้าชม : 734
<< บทที่ 10 -30% | บทที่ 10 -100% >> |