รักรออุ้ม: ทักษิณา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
ความคึกคะนอง ย่ามใจของเขา กับความอ่อนด้อยประสบการณ์ของเธอ ก่อเกิดหนึ่งชีวิตที่ไม่ตั้งใจขึ้นมา
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ลูก ครอบครัว ดราม่า โรแมนติก ท้อง
ตอน: บทที่ 11 -50%
ทักทายกันในวันเริ่มต้นทำงานจ้านักอ่านเว็บเลิฟ ^O^ ไม่ค่อยมีเม้นเลย แต่แอบตามกันอยู่ใช่ไหมคะ 555555 มาต่อให้แล้วน้าาา ฝากผลงานล่าสุดของ ‘ทักษิณา’ ด้วยนะคะ
************
อาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทธรรมธาดาแอดเวอร์ไทซิ่ง เป็นอาคารดีไซน์เล่นระดับทันสมัย สูงเก้าชั้น ใหญ่โตเด่นตระหง่านอยู่ท่ามกลางย่านเศรษฐกิจใจกลางกรุงเทพฯ หาไม่ยากแต่กว่าจะฝ่าด่านรถติดเข้ามาถึงได้ ก็กินเวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมง
ปกเกศยืนอยู่บนทางเท้าบริเวณหน้าทางเข้าบริษัท ซึ่งขวักไขว่ทั้งรถราและผู้คน พอเห็นความใหญ่โตโอ่โถงของสถานที่แล้ว ความตั้งใจเดิมก่อนหน้าของเจ้าตัวก็เริ่มสั่นคลอน เธอหยุดยืนรวบรวมความกล้า เมื่อตัดสินใจมาถึงนี่แล้วก็จะต้องพบกับกานต์ชนกให้ได้
เข้มแข็งเข้าไว้ปกเกศ เธอต้องทำในสิ่งที่ควรทำ จะให้พี่ไนยมาเดือดร้อนมากไปกว่านี้ไม่ได้
กานต์ชนกควรต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำเอาไว้!
ริมฝีปากสีเรื่อเม้มเข้าหากัน มือเล็กลูบที่ท้องน้อยของตัวเองเรียกขวัญกำลังใจ
ช่วยเป็นกำลังใจให้แม่ด้วยนะลูก...
ปกเกศซึ่งอยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อย ก้าวตรงไปขอแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อเข้าไปภายในอาคาร จากนั้นก็ขึ้นบันไดสำนักงาน เข้าไปติดต่อขอพบกานต์ชนกกับพนักงานประชาสัมพันธ์สาวสวยในชุดสูทกระโปรงสั้นสีม่วงอ่อนเรียบกริบ
ทว่าทันทีที่แจ้งความประสงค์ของเธอให้อีกฝ่ายทราบ ฝ่ายนั้นก็ถึงกับชะงัก กวาดตามองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ขอพบใครนะคะ” พนักงานประชาสัมพันธ์สาวย้อนถามอีกครั้ง เหมือนไม่แน่ใจ
“คุณกานต์ชนก ธรรมธาดาค่ะ...เขาอยู่หรือเปล่าคะ” ปกเกศย้ำอย่างมั่นใจแล้วถามต่อ อีกฝ่ายจึงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยตอบ เสียงแหลมวางอำนาจของผู้หญิงคนหนึ่งก็โพล่งแทรกเข้ามา จนปกเกศกับพนักงานประชาสัมพันธ์สาวสะดุ้ง
“คุณกานต์อยู่หรือเปล่า!”
“อุ๊ย คุณชาช่า...คุณกานต์อยู่ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะโทร.ไปรายงานท่าน ว่าคุณชาช่ามาขอพบนะคะ” พนักงานสาวลนลานจะรีบต่อสายภายในหาเลขาของกานต์ชนก แต่ยังไม่ทันได้คุยกับฝ่ายนั้น สโรชาก็กลับเอื้อมมือมา กดตัดสายการสนทนาเอาดื้อๆ
“ไม่จำเป็น ไม่เห็นต้องขออนุญาตเลย ไม่รู้หรือไงว่าฉันเป็นใคร ที่ฉันถามเธอก็เพราะอยากให้แน่ใจจะได้ไม่ต้องขึ้นไปเสียเที่ยว”
สาวสวยหน้าคม แต่งตัวเปรี้ยวในชุดเกาะอกเว้าหน้าเว้าหลัง สีน้ำเงินเข้มขับผิวขาวจัดของเจ้าตัวให้ยิ่งขาวราวกับไข่ปอก เจ้าหล่อนไม่สนใจใครทั้งสิ้น พูดจบแล้วก็ก้าวฉับๆ ตรงไปที่หน้าประตูลิฟต์ ใบหน้าสวยคมจนดูดุ น่าเกรงขามเชิดสูงอย่างคนที่หยิ่งทระนงในตัวเองอยู่เป็นนิจ
ปกเกศมองตามหญิงสาวคนนั้นไป จำได้ว่าเป็นสโรชา คนรักของกานต์ชนก เธอเคยเห็นทั้งคู่ถ่ายรูปคู่กันลงในนิตยสารมาก่อน
แย่ละสิ แล้วอย่างนี้เขาจะมีเวลาคุยกับเธอเหรอ...
“เอ่อ ก็อย่างที่คุณเห็นนะคะ ตอนนี้คุณกานต์ชนกท่านมีแขกแล้ว ท่านคงไม่สะดวกต้อนรับคุณ ถ้าคุณจะมาพบท่านวันหลัง ดิฉันจะโทร.นัดเวลากับเลขาของท่านเอาไว้ให้ ดีไหมคะ”
พนักงานสาวส่งยิ้มแห้งๆ ให้ปกเกศ อย่างว่าเธอเป็นแค่เด็กกะโปโลธรรมดา ไม่ใช่คนสำคัญอะไร เทียบกับสโรชาที่เป็นถึงคนรักของกานต์ชนกแล้ว พนักงานสาวก็ต้องรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง ใครจะกล้างัดข้อกับว่าที่ภรรยาของเจ้านาย
“ก็ได้ค่ะ งั้นพรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่...ฝากช่วยนัดเวลาคุณกานต์ชนกให้ด้วยนะคะ”
ปกเกศเห็นว่าวันนี้คงไม่เหมาะที่จะคุยกับกานต์ชนกแล้ว จึงตั้งใจจะมาใหม่วันพรุ่งนี้ เธอฝากเรื่องเอาไว้ที่พนักงานต้อนรับ เรียบร้อยแล้วก็เดินผละออกมา ตรงไปที่หน้าประตูกระจกสีขุ่น ไม่ทันหันไปดูจึงไม่เห็นว่า ตอนนี้ข้างหลังตัวเองมีชายร่างสูงใหญ่กลุ่มหนึ่งเดินมาด้วยความเร่งรีบ และหนึ่งในนั้นก็เบียดไหล่ของเธอ จนร่างเล็กเสียหลักเกือบหกล้ม
“โอ๊ย!!”
“ไม่เป็นไรใช่ไหมหนู”
เสียงหนักๆ กังวานมีอำนาจของบุรุษสูงวัยที่ช่วยประคองเธอเอาไว้ ทำให้ปกเกศต้องเหลียวหันไปมองอย่างประหลาดใจ เธอพบว่าคนที่ช่วยเธอเป็นชายสูงวัย อายุประมาณหกสิบปี แต่เพราะเขาสวมสูทผูกไทเรียบร้อยและมีรูปร่างสูงใหญ่จึงแลดูมีอำนาจน่าเกรงขามอยู่ในที
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” เธอผละออกห่าง ถอยมาตั้งหลักได้แล้วก็ยกมือไหว้ขอบคุณผู้อาวุโสกว่าทันที
“ไม่เป็นไรหนู ลูกชายฉันมันไม่ดีเอง เป็นฝ่ายไปชนหนูก่อน...เจ้า กานต์ ขอโทษหนูคนนี้ด้วย แกชนหนูเขาแรงอยู่นะ” พูดกับเธอจบแล้วก็หันไปเรียกลูกชายตัวเอง
พลันเจ้าของหน้าหล่อเหลาแต่ซีดเซียวหันขวับมา ตาคมจ้องมองสาวหน้าหวานที่ยืนคุยอยู่กับบิดาของเขาเองอย่างตกตะลึง
“เธอ...มาทำอะไรที่นี่ ไหนบอกว่าชาตินี้จะไม่เจอหน้าฉันอีกแล้วไม่ใช่หรือไง อุบ!!”
ยังตวาดร่ายยาวใส่หญิงสาวไม่ทันจบ เจ้าตัวก็ต้องยกมือปิดปากตัวเอง แล้วผลุนผลันวิ่งออกจากตัวตึกไปโก่งคออาเจียน ที่พื้นหญ้าในสวนหย่อมข้างลานจอดรถอย่างเอาเป็นเอาตาย เดือดร้อนชายหนุ่มอีกสองคนที่เดินมาด้วยกันและคุณก่อกิจรีบวิ่งตามไปดูอาการของกานต์ชนกอย่างตื่นตระหนก
“กานต์ เป็นยังไงบ้าง ยังไม่ดีขึ้นอีกเหรอ” คนเป็นบิดาถามพลางช่วยลูบหลังให้ลูกชายที่ยังอาเจียน โอ้กอ้ากไม่หยุด
“ที่จริงมันก็ อึก...มันก็ค่อยยังชั่วแล้วนะครับ แต่พอเห็นหน้า...” กานต์ชนกปรายตามองมาทางปกเกศซึ่งตามมาสมทบมุงดูอาการของเขาด้วย ยังไม่ทันเอ่ยชื่อเธอ ชายหนุ่มก็หันไปก้มหน้าก้มตาโก่งคออาเจียนอีกรอบ เขาคลื่นไส้ อาเจียนมาเป็นชั่วโมงแล้ว ตอนนี้จึงไม่มีอะไรเหลือให้ไหลออกมานอกจากน้ำลายเหนียวๆ
อาการของกานต์ชนกทำให้ปกเกศอดนึกถึงตัวเองไม่ได้ แต่ก็แปลก ตอนนี้เธอไม่มีอาการแพ้หรือคลื่นเหียนอาเจียนอะไรเลย...อีกฝ่ายเป็นผู้ชายตัวโตแข็งแรงแท้ๆ ดูอาการหนักยิ่งกว่าคนท้องตัวจริงเสียอีก
“ท่านครับ ผมว่าอาการคุณกานต์ไม่ดีเลย น่าจะพาไปโรงพยาบาลดีกว่านะครับ” ธนวุฒิ เลขาของกานต์ชนกรีบร้องบอกคุณก่อกิจด้วยความเป็นห่วงเจ้านาย ทว่าตัวต้นเรื่องกลับโบกมือ ส่ายหน้าไปมา หอบน้อยๆ เพราะเหนื่อยกับการอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง
“ไม่ต้องหรอกวุฒิ มันคงไม่เหลืออะไรให้อาเจียนแล้ว พักสักเดี๋ยวก็คงหาย”
“งั้นเจ้านายนั่งพักตรงม้านั่งก่อนนะครับ” ว่าแล้วเลขาก็ช่วยพยุงเจ้านายของตัวเอง เข้าไปทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ม้านั่งตัวยาวใกล้ๆ ใต้ร่มเงาต้นหางนกยูงใหญ่ ผลิดอกดกสีแสดสว่างไสว
คุณก่อกิจตามมาหยุดยืนสังเกตอาการของลูกชายด้วย เขาจัดการไล่พวกพนักงานที่เมียงมองอยากเข้ามามุงดูให้แตกฮือไป เหลือแต่ปกเกศที่ยังหยุดดูอาการของกานต์ชนกอยู่เงียบๆ
“หนู รู้จักลูกชายฉันด้วยเหรอ” หนุ่มใหญ่หันมาถามหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ สนใจอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร ทำไมกานต์ชนกต้องตกใจที่เห็นเธอ
“ค่ะ หนูชื่อปกเกศ...พอรู้จักกับคุณกานต์ชนกอยู่บ้าง...นิดหน่อย” ปกเกศตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้
“เหรอ แล้วหนูมีธุระอะไรที่บริษัทของฉันล่ะ...มาพบลูกชายของฉันหรือเปล่า” คุณก่อกิจถามแล้วก็เดาคำตอบเอาไว้ด้วย ทำเอาปกเกศชะงัก หน้าเก้อ
“ค่ะ” หญิงสาวยิ้มเจื่อน
“หนูมีธุระกับคุณกานต์ชนก...มีเรื่องสำคัญอยากพูดกับเขาน่ะค่ะ”
“เรื่องอะไร เรามีเรื่องต้องคุยกันด้วยเหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเราสนิทกันขนาดนั้น”
กานต์ชนกใช้ผ้าเช็ดหน้า เช็ดปากตัวเองขณะเอ่ยแขวะอย่างห่างเหิน ตั้งแง่
“ฉันขอโทษที่มารบกวน แต่ฉันมีเรื่องสำคัญจริงๆ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่มาหรอกค่ะ” ปกเกศพูดตามตรง แต่การพูดตรงแน่วของเธอนั้นจี้ใจดำอีกฝ่าย เขาถึงกับผุดลุกขึ้นจากม้านั่ง ก้าวเข้ามาเผชิญหน้ากับเธอ ดวงตาคมกริบวาวโรจน์
“ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอเหมือนกัน กลับไปซะ!”
**************
ใครสาย eBook รักรออุ้มมีวางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket ที่เดียวเท่านั้นค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
************
อาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทธรรมธาดาแอดเวอร์ไทซิ่ง เป็นอาคารดีไซน์เล่นระดับทันสมัย สูงเก้าชั้น ใหญ่โตเด่นตระหง่านอยู่ท่ามกลางย่านเศรษฐกิจใจกลางกรุงเทพฯ หาไม่ยากแต่กว่าจะฝ่าด่านรถติดเข้ามาถึงได้ ก็กินเวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมง
ปกเกศยืนอยู่บนทางเท้าบริเวณหน้าทางเข้าบริษัท ซึ่งขวักไขว่ทั้งรถราและผู้คน พอเห็นความใหญ่โตโอ่โถงของสถานที่แล้ว ความตั้งใจเดิมก่อนหน้าของเจ้าตัวก็เริ่มสั่นคลอน เธอหยุดยืนรวบรวมความกล้า เมื่อตัดสินใจมาถึงนี่แล้วก็จะต้องพบกับกานต์ชนกให้ได้
เข้มแข็งเข้าไว้ปกเกศ เธอต้องทำในสิ่งที่ควรทำ จะให้พี่ไนยมาเดือดร้อนมากไปกว่านี้ไม่ได้
กานต์ชนกควรต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำเอาไว้!
ริมฝีปากสีเรื่อเม้มเข้าหากัน มือเล็กลูบที่ท้องน้อยของตัวเองเรียกขวัญกำลังใจ
ช่วยเป็นกำลังใจให้แม่ด้วยนะลูก...
ปกเกศซึ่งอยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อย ก้าวตรงไปขอแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อเข้าไปภายในอาคาร จากนั้นก็ขึ้นบันไดสำนักงาน เข้าไปติดต่อขอพบกานต์ชนกกับพนักงานประชาสัมพันธ์สาวสวยในชุดสูทกระโปรงสั้นสีม่วงอ่อนเรียบกริบ
ทว่าทันทีที่แจ้งความประสงค์ของเธอให้อีกฝ่ายทราบ ฝ่ายนั้นก็ถึงกับชะงัก กวาดตามองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“ขอพบใครนะคะ” พนักงานประชาสัมพันธ์สาวย้อนถามอีกครั้ง เหมือนไม่แน่ใจ
“คุณกานต์ชนก ธรรมธาดาค่ะ...เขาอยู่หรือเปล่าคะ” ปกเกศย้ำอย่างมั่นใจแล้วถามต่อ อีกฝ่ายจึงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยตอบ เสียงแหลมวางอำนาจของผู้หญิงคนหนึ่งก็โพล่งแทรกเข้ามา จนปกเกศกับพนักงานประชาสัมพันธ์สาวสะดุ้ง
“คุณกานต์อยู่หรือเปล่า!”
“อุ๊ย คุณชาช่า...คุณกานต์อยู่ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะโทร.ไปรายงานท่าน ว่าคุณชาช่ามาขอพบนะคะ” พนักงานสาวลนลานจะรีบต่อสายภายในหาเลขาของกานต์ชนก แต่ยังไม่ทันได้คุยกับฝ่ายนั้น สโรชาก็กลับเอื้อมมือมา กดตัดสายการสนทนาเอาดื้อๆ
“ไม่จำเป็น ไม่เห็นต้องขออนุญาตเลย ไม่รู้หรือไงว่าฉันเป็นใคร ที่ฉันถามเธอก็เพราะอยากให้แน่ใจจะได้ไม่ต้องขึ้นไปเสียเที่ยว”
สาวสวยหน้าคม แต่งตัวเปรี้ยวในชุดเกาะอกเว้าหน้าเว้าหลัง สีน้ำเงินเข้มขับผิวขาวจัดของเจ้าตัวให้ยิ่งขาวราวกับไข่ปอก เจ้าหล่อนไม่สนใจใครทั้งสิ้น พูดจบแล้วก็ก้าวฉับๆ ตรงไปที่หน้าประตูลิฟต์ ใบหน้าสวยคมจนดูดุ น่าเกรงขามเชิดสูงอย่างคนที่หยิ่งทระนงในตัวเองอยู่เป็นนิจ
ปกเกศมองตามหญิงสาวคนนั้นไป จำได้ว่าเป็นสโรชา คนรักของกานต์ชนก เธอเคยเห็นทั้งคู่ถ่ายรูปคู่กันลงในนิตยสารมาก่อน
แย่ละสิ แล้วอย่างนี้เขาจะมีเวลาคุยกับเธอเหรอ...
“เอ่อ ก็อย่างที่คุณเห็นนะคะ ตอนนี้คุณกานต์ชนกท่านมีแขกแล้ว ท่านคงไม่สะดวกต้อนรับคุณ ถ้าคุณจะมาพบท่านวันหลัง ดิฉันจะโทร.นัดเวลากับเลขาของท่านเอาไว้ให้ ดีไหมคะ”
พนักงานสาวส่งยิ้มแห้งๆ ให้ปกเกศ อย่างว่าเธอเป็นแค่เด็กกะโปโลธรรมดา ไม่ใช่คนสำคัญอะไร เทียบกับสโรชาที่เป็นถึงคนรักของกานต์ชนกแล้ว พนักงานสาวก็ต้องรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง ใครจะกล้างัดข้อกับว่าที่ภรรยาของเจ้านาย
“ก็ได้ค่ะ งั้นพรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่...ฝากช่วยนัดเวลาคุณกานต์ชนกให้ด้วยนะคะ”
ปกเกศเห็นว่าวันนี้คงไม่เหมาะที่จะคุยกับกานต์ชนกแล้ว จึงตั้งใจจะมาใหม่วันพรุ่งนี้ เธอฝากเรื่องเอาไว้ที่พนักงานต้อนรับ เรียบร้อยแล้วก็เดินผละออกมา ตรงไปที่หน้าประตูกระจกสีขุ่น ไม่ทันหันไปดูจึงไม่เห็นว่า ตอนนี้ข้างหลังตัวเองมีชายร่างสูงใหญ่กลุ่มหนึ่งเดินมาด้วยความเร่งรีบ และหนึ่งในนั้นก็เบียดไหล่ของเธอ จนร่างเล็กเสียหลักเกือบหกล้ม
“โอ๊ย!!”
“ไม่เป็นไรใช่ไหมหนู”
เสียงหนักๆ กังวานมีอำนาจของบุรุษสูงวัยที่ช่วยประคองเธอเอาไว้ ทำให้ปกเกศต้องเหลียวหันไปมองอย่างประหลาดใจ เธอพบว่าคนที่ช่วยเธอเป็นชายสูงวัย อายุประมาณหกสิบปี แต่เพราะเขาสวมสูทผูกไทเรียบร้อยและมีรูปร่างสูงใหญ่จึงแลดูมีอำนาจน่าเกรงขามอยู่ในที
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” เธอผละออกห่าง ถอยมาตั้งหลักได้แล้วก็ยกมือไหว้ขอบคุณผู้อาวุโสกว่าทันที
“ไม่เป็นไรหนู ลูกชายฉันมันไม่ดีเอง เป็นฝ่ายไปชนหนูก่อน...เจ้า กานต์ ขอโทษหนูคนนี้ด้วย แกชนหนูเขาแรงอยู่นะ” พูดกับเธอจบแล้วก็หันไปเรียกลูกชายตัวเอง
พลันเจ้าของหน้าหล่อเหลาแต่ซีดเซียวหันขวับมา ตาคมจ้องมองสาวหน้าหวานที่ยืนคุยอยู่กับบิดาของเขาเองอย่างตกตะลึง
“เธอ...มาทำอะไรที่นี่ ไหนบอกว่าชาตินี้จะไม่เจอหน้าฉันอีกแล้วไม่ใช่หรือไง อุบ!!”
ยังตวาดร่ายยาวใส่หญิงสาวไม่ทันจบ เจ้าตัวก็ต้องยกมือปิดปากตัวเอง แล้วผลุนผลันวิ่งออกจากตัวตึกไปโก่งคออาเจียน ที่พื้นหญ้าในสวนหย่อมข้างลานจอดรถอย่างเอาเป็นเอาตาย เดือดร้อนชายหนุ่มอีกสองคนที่เดินมาด้วยกันและคุณก่อกิจรีบวิ่งตามไปดูอาการของกานต์ชนกอย่างตื่นตระหนก
“กานต์ เป็นยังไงบ้าง ยังไม่ดีขึ้นอีกเหรอ” คนเป็นบิดาถามพลางช่วยลูบหลังให้ลูกชายที่ยังอาเจียน โอ้กอ้ากไม่หยุด
“ที่จริงมันก็ อึก...มันก็ค่อยยังชั่วแล้วนะครับ แต่พอเห็นหน้า...” กานต์ชนกปรายตามองมาทางปกเกศซึ่งตามมาสมทบมุงดูอาการของเขาด้วย ยังไม่ทันเอ่ยชื่อเธอ ชายหนุ่มก็หันไปก้มหน้าก้มตาโก่งคออาเจียนอีกรอบ เขาคลื่นไส้ อาเจียนมาเป็นชั่วโมงแล้ว ตอนนี้จึงไม่มีอะไรเหลือให้ไหลออกมานอกจากน้ำลายเหนียวๆ
อาการของกานต์ชนกทำให้ปกเกศอดนึกถึงตัวเองไม่ได้ แต่ก็แปลก ตอนนี้เธอไม่มีอาการแพ้หรือคลื่นเหียนอาเจียนอะไรเลย...อีกฝ่ายเป็นผู้ชายตัวโตแข็งแรงแท้ๆ ดูอาการหนักยิ่งกว่าคนท้องตัวจริงเสียอีก
“ท่านครับ ผมว่าอาการคุณกานต์ไม่ดีเลย น่าจะพาไปโรงพยาบาลดีกว่านะครับ” ธนวุฒิ เลขาของกานต์ชนกรีบร้องบอกคุณก่อกิจด้วยความเป็นห่วงเจ้านาย ทว่าตัวต้นเรื่องกลับโบกมือ ส่ายหน้าไปมา หอบน้อยๆ เพราะเหนื่อยกับการอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง
“ไม่ต้องหรอกวุฒิ มันคงไม่เหลืออะไรให้อาเจียนแล้ว พักสักเดี๋ยวก็คงหาย”
“งั้นเจ้านายนั่งพักตรงม้านั่งก่อนนะครับ” ว่าแล้วเลขาก็ช่วยพยุงเจ้านายของตัวเอง เข้าไปทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ม้านั่งตัวยาวใกล้ๆ ใต้ร่มเงาต้นหางนกยูงใหญ่ ผลิดอกดกสีแสดสว่างไสว
คุณก่อกิจตามมาหยุดยืนสังเกตอาการของลูกชายด้วย เขาจัดการไล่พวกพนักงานที่เมียงมองอยากเข้ามามุงดูให้แตกฮือไป เหลือแต่ปกเกศที่ยังหยุดดูอาการของกานต์ชนกอยู่เงียบๆ
“หนู รู้จักลูกชายฉันด้วยเหรอ” หนุ่มใหญ่หันมาถามหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ สนใจอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร ทำไมกานต์ชนกต้องตกใจที่เห็นเธอ
“ค่ะ หนูชื่อปกเกศ...พอรู้จักกับคุณกานต์ชนกอยู่บ้าง...นิดหน่อย” ปกเกศตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้
“เหรอ แล้วหนูมีธุระอะไรที่บริษัทของฉันล่ะ...มาพบลูกชายของฉันหรือเปล่า” คุณก่อกิจถามแล้วก็เดาคำตอบเอาไว้ด้วย ทำเอาปกเกศชะงัก หน้าเก้อ
“ค่ะ” หญิงสาวยิ้มเจื่อน
“หนูมีธุระกับคุณกานต์ชนก...มีเรื่องสำคัญอยากพูดกับเขาน่ะค่ะ”
“เรื่องอะไร เรามีเรื่องต้องคุยกันด้วยเหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเราสนิทกันขนาดนั้น”
กานต์ชนกใช้ผ้าเช็ดหน้า เช็ดปากตัวเองขณะเอ่ยแขวะอย่างห่างเหิน ตั้งแง่
“ฉันขอโทษที่มารบกวน แต่ฉันมีเรื่องสำคัญจริงๆ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่มาหรอกค่ะ” ปกเกศพูดตามตรง แต่การพูดตรงแน่วของเธอนั้นจี้ใจดำอีกฝ่าย เขาถึงกับผุดลุกขึ้นจากม้านั่ง ก้าวเข้ามาเผชิญหน้ากับเธอ ดวงตาคมกริบวาวโรจน์
“ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอเหมือนกัน กลับไปซะ!”
**************
ใครสาย eBook รักรออุ้มมีวางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket ที่เดียวเท่านั้นค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ก.ย. 2561, 09:28:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ก.ย. 2561, 09:28:40 น.
จำนวนการเข้าชม : 671
<< บทที่ 10 -100% | บทที่ 11 -100% >> |