รักรออุ้ม: ทักษิณา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
ความคึกคะนอง ย่ามใจของเขา กับความอ่อนด้อยประสบการณ์ของเธอ ก่อเกิดหนึ่งชีวิตที่ไม่ตั้งใจขึ้นมา
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ลูก ครอบครัว ดราม่า โรแมนติก ท้อง
ตอน: บทที่ 12 -60% + แจ้งข่าวงานหนังสือ
โอย...ยายนิล ทำไมใจเต้นแรงมากขนาดนี้ สงบสติอารมณ์หน่อย ไม่มีอะไรสักหน่อย!
เธอย้ำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า สูดหายใจลึกเข้าไว้ ก้มหน้าตักไอศกรีมง่วนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เผลอครู่เดียวก็เกลี้ยงหมดถ้วย นิลยาหันมายิ้มยิงฟันขาวส่งให้ธีรไนย แต่ถูกเขาจับแก้มนุ่มตรึงเอาไว้กะทันหัน ทำเอาเจ้าตัวตกใจสะดุ้งหน้าตาตื่น
“พี่ไนยทำอะไรคะ!”
“อยู่นิ่งๆ กินเลอะเหมือนกันนะเรา พี่จะเช็ดให้”
เขาบอกยิ้มๆ ดึงทิชชูบนโต๊ะมา บรรจงเช็ดริมฝีปากอิ่มสีแดงเรื่อของเธออย่างตั้งใจ
คนถูกจ้องมองปากหน้าแดงก่ำ กลับมาใจเต้นแรงรัวอีกแล้ว เธอพยายามจำกัดสายตาตัวเองให้จ้องมองแต่ริมฝีปากของเขาเช่นเดียวกัน แต่...โอย ริมฝีปากบางๆ สีชมพูเรื่อของพี่ไนยก็น่าจุ๊บชะมัด!!
นิลยารู้สึกว่าตัวเองฟุ้งซ่านไปกันใหญ่ เพื่อตัดปัญหาเธอเลยหลับตาปี๋ จะได้ไม่ต้องเห็นปากของเขา ไม่คาดว่านี่จะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
“เป็นอะไร กินขนมหมดแล้วก็ง่วงนอนเลยหรือไง”
“ทำอะไรน่ะ เค้าเจ็บนะพี่ไนย!”
นิลยาโวยวายเสียงขึ้นจมูก เพราะอีกฝ่ายใช้ปลายนิ้วคีบหนีบจมูกโด่งน้อยๆ ของเธอบีบเล่นอย่างมันเขี้ยว หญิงสาวลืมตาโตแป๋วขึ้นมาสบตาเรียวรีพราวระยับของเขาทันที พลันที่เห็นหน้าคมคายสะอ้านนั้น เจ้าตัวก็เขินจนลืมหายใจ นั่งนิ่งตัวแข็งทื่อจนอีกฝ่ายต้องเลื่อนฝ่ามือหนา จับบ่าเล็กทั้งสองข้างแล้วเขย่าจนร่างแข็งทื่อคลอนไปมา
“โอ๊ะๆ เบาค่ะพี่ไนย นิลเวียนหัว...” เสียงเล็กคราง ขอความเห็นใจ ธีรไนยมองอีกฝ่ายอย่างอ่อนใจก่อนจะหลุดเสียงหัวเราะขำออกมาเบาๆ มือใหญ่อบอุ่นวางลงบนศีรษะ ซึ่งปกคลุมด้วยเส้นผมหยักศกสลวยของเธอ
“ก็หลับตาทำไมล่ะ ลืมตาขึ้นมาสิ” เขาสั่ง แล้วก็เพราะเสียงนุ่ม ละลายใจของเขานี่เอง นิลยาจึงค่อยๆ เปิดตาของตัวเองขึ้นมองเขาทีละข้าง
“อะไรกัน แค่จะขอพักสายตาหน่อยเดียว พี่ไนยก็ทำตื่นเต้นไปได้” เธอยิ้มเกลื่อนเขิน ยังเสียดายไออุ่นจากฝ่ามือแกร่งที่ถอนห่างออกไปไม่หาย แต่จะทำอย่างไรได้ สำหรับเขาแล้ว เธอก็เป็นแค่เพื่อนของน้องสาว...ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้เลย
เป็นความสุขบนความเศร้า อยากจะร้องไห้แต่ไม่กล้าปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาต่อหน้าเขา แม้ภายนอกเธอจะยิ้มร่าเริงสดใส แต่หัวใจของเธอกำลังจมอยู่กับทะเลน้ำตา
“จะกินอีกไหม สั่งได้นะ” เขาเสนอเอาใจคนหน้าเง้า คิดว่าตัวเองอาจจะเขย่าไหล่เธอแรงไปหน่อย เลยอยากเอาใจแก้ตัว ซึ่งนิลยาก็ฮุบเบ็ดล่อของเขา ยิ้มแป้นจนตาหยีทันที
“จริงเหรอคะ งั้นคราวนี้เอาช็อกโกแลตชิปกับไอศกรีมมะม่วงซันเดย์ใส่ท็อปปิ้งเยอะๆ ราดแยมเยอะๆ ด้วย ขอบคุณมากนะคะพี่ไนย...” บอกเขาแล้วนิลยาก็ทอดเสียงหยอดอย่างหวานเจี๊ยบล้อเลียน
ธีรไนยหลุดเสียงหัวเราะขำอีกฝ่ายออกมา รอยยิ้มของเขาทำให้คนมองเห็นหัวใจพองโต ชุ่มชื่นเหมือนได้น้ำทิพย์รินรด
ไม่บ่อยเลยที่จะได้เห็นเขาหัวเราะยิ้มแย้ม ยิ่งสถานการณ์ไม่ปกติเพราะกำลังเป็นห่วงปกเกศที่หายตัวไปติดต่อไม่ได้อยู่ตอนนี้ด้วยแล้ว
เธอรู้สึกไม่ต่างกับว่ารอยยิ้มของธีรไนยเป็นรางวัลเล็กๆ ที่เธอได้รับกลับมาในเวลานี้เลยทีเดียว
****************
ธนวุฒิขับรถไปพลางลอบมองผ่านกระจกมองหลัง เห็นเจ้านายของเขานั่งหน้าบึ้งเป็นยักษ์ดุ เหมือนโกรธเคืองใครอยู่ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเจ้านายโกรธใคร เพราะหากโกรธสาวหน้าหวานที่มาด้วยกันนั่นก็ไม่น่าใช่...เพราะตอนนี้เจ้านายก็ปล่อยให้ฝ่ายนั้นเข้ามาซุกซบศีรษะแนบไหล่หนาของเจ้าตัว ไม่ได้ผลักไส หรือโยนเธอทิ้งออกจากรถไป ตามนิสัยที่ไม่ค่อยจะทานทนกับอะไรมากมายนักของเจ้าตัว
แต่เจ้านายก็ปั้นหน้าบึ้ง ไม่พอใจมาตลอดทางระหว่างที่นั่งมาในรถ ธนวุฒิไม่กล้าถามว่าสาวน้อยคนนี้เป็นใคร ทำไมจึงดู ‘พิเศษ’ กว่าคนอื่น ทว่าลูกน้องอย่างเขาหรือจะกล้าซักถามเจ้านาย เลยได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ จนรถเข้ามาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ทรงยุโรปสุดหรู ธนวุฒิจอดรถแล้วรีบลงมาเปิดประตูให้เจ้านาย หากก็ต้องตกใจเพราะกานต์ชนกไม่ได้ลงมาคนเดียว เขากลับอุ้มร่างเล็กของหญิงสาวที่หลับอยู่ติดมือออกมาด้วย
“เจ้านายครับ ผมช่วยอุ้มเธอให้ก็ได้นะครับ” ลูกน้องเสนอตัวช่วย ไม่อยากให้เจ้านายเหนื่อย ทว่ากานต์ชนกปฏิเสธหน้าเคร่ง
“ไม่ต้อง ฉันจัดการเอง นายเอารถไปเก็บแล้วจะไปไหนก็ไป”
“เอ่อ...แล้วเจ้านายไม่เวียนหัวคลื่นไส้แล้วเหรอครับ” ธนวุฒิยังเป็นห่วงนาย
“ไม่เป็นไรแล้ว นายไปเถอะ” กานต์ชนกโบกไล่ ก่อนจะพาปกเกศขึ้นบันไดเข้าไปในตัวบ้าน
คนรับใช้ในบ้านลอบมองอย่างประหลาดใจ แต่ไม่มีใครกล้าออกมา รู้ดีว่าหากนายไม่เรียกแล้วออกมาจุ้นจ้าน เป็นต้องถูกเอ็ดตะโร หูชา
กานต์ชนกเข้าไปในห้องนั่งเล่น ตั้งใจจะวางร่างของปกเกศลงบนโซฟาตัวยาวกลางห้อง แต่ยังไม่ทันเดินเข้าไปถึงจุดหมาย ปกเกศกลับรู้สึกตัวขึ้นมาก่อน
ดวงตากลมโตคู่สวยเปิดขึ้นมองเขางงๆ พอเห็นสภาพตัวเองก็เริ่มดิ้นรน โวยวาย
“คุณ...จะพาฉันไปไหน ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้”
“จะดิ้นทำไมนักหนา เดี๋ยวก็ปล่อยตกลงไปเลยนี่” กานต์ชนกเอ็ดอึง หน้าดุ เสียงหงุดหงิดรำคาญ ทว่ายังคงรัดร่างเธอแน่นไม่ยอมปล่อย จนมาถึงโซฟาตัวยาว จึงโยนเธอลงไป ปล่อยให้ร่างเล็กได้อิสรภาพอย่างที่เจ้าหล่อนต้องการ
ปกเกศไม่ได้เจ็บปวดอะไร แต่ตกใจมากกว่าที่จู่ๆ ก็ถูกโยนลงมาบนโซฟานุ่ม เธอรีบยันกายลุกขึ้น แต่ไม่สามารถทำได้ดั่งใจเพราะอีกฝ่ายตามเข้ามาคร่อมร่าง กางแขนขวางเอาไว้ไม่ให้เธอลุกขึ้นมาได้
“คุณกานต์ชนก ถอยไปเลยนะ คุณจะทำอะไร!”
ปกเกศร้องถามเขาหน้าตาตื่น หัวใจเต้นโครมครามรัวกระหน่ำ ใบหน้าคมเข้มอยู่ห่างไม่ถึงคืบ มันใกล้จนเธอประหม่า ตื่นกลัว เก็บอาการไม่อยู่
“ถามได้ว่าจะทำอะไร ก็จะสั่งสอนเธอไง...ที่มาหาฉันเนี่ย ไม่ใช่เพราะอยากใกล้ชิดกับฉันหรอกเหรอ ไหนว่าชาตินี้ไม่อยากเจอหน้าฉันอีกแล้วไง ทนไม่ไหวก็บอกมาตรงๆ เถอะ ฉันเข้าใจ”
เขาเย้ยหยาม แต่ละคำพูดล้วนแสดงถึงความหลงตัวเองอย่างร้ายกาจ โดยเฉพาะรอยยิ้มกวนประสาท ปกเกศเผลอเงื้อฝ่ามือขึ้น แต่ไม่ทันได้ฟาดเปรี้ยงออกไป ก็ถูกมือแกร่งกดกระชับเอาไว้แน่น รับรู้ได้ถึงไอร้อนจากอุ้งมือนั้น
หญิงสาวแก้มแดงเรื่อ มีเลือดฝาดขึ้นมาทันที ทว่าเจ้าตัวรีบสลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้ง ถลึงตาดุใส่เขาอย่างโกรธจัด
“อย่ามาพูดจาไร้สาระ คนอย่างคุณถ้าไม่มีเรื่องจำเป็น ฉันก็ไม่อยากเห็นหน้าหรอก อย่าหลงตัวเอง มโนมั่วซั่ว”
“ปากดี ขนาดนี้แล้วยังจะอวดเก่งอีก ก็แค่เด็กผู้หญิงตัวกระเปี๊ยก”
กานต์ชนกคำรามฮึ่มในลำคอ ใช้ฝ่ามือใหญ่อีกข้างหนึ่งของตัวเอง บีบปลายคางมนของเธอกระชับแน่น รอยยิ้มยั่วเย้าค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อเจ้าตัวจ้องมองใบหน้าหวานของหญิงสาว เขาเรียกเธอเป็น ‘เด็ก’ ก็จริง แต่รู้ดีที่สุดกว่าใคร...อีกฝ่ายไม่ใช่เด็กอย่างที่เขาจงใจแกล้งย้ำให้เธอหัวเสีย ผิวของเธอนุ่มลื่น ละมุนละไม ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งเพลิดเพลิน แทบหยุดไม่อยู่
“แล้วผู้ใหญ่ตัวโตอย่างคุณดีแค่ไหนกัน ทั้งเจ้าเล่ห์ชอบใช้กำลัง...ถอยไปเลย ไม่งั้นฉันจะร้อง” ปกเกศขู่ฟ่อ ส่ายหน้าหนีฝ่ามือร้อนรุ่มของเขา รู้สึกกดดันเพราะตัวเองตกเป็นเบี้ยล่างอีกฝ่าย ถูกเขาตรึงเอาไว้แน่น ดิ้นหนีไปไหนไม่ได้เลย
“แหม...ตัวเล็กแค่นี้เก่งเหลือเกินนะ ร้องแล้วจะช่วยอะไรได้ นี่มันบ้านฉัน ไม่มีใครกล้ามาช่วยเธอหรอก หนูน้อยผู้น่าสงสาร” กานต์ชนกยิ้มเยาะที่มุมปากได้รูป ดวงตาคมพราวระยับ ดูมั่นใจจนน่าหมั่นไส้
“ถึงไม่มีใครกล้ามาช่วยฉัน แต่พวกเขาก็จะรู้กันทั่วว่าคุณเป็นคนเลว รังแกผู้หญิง หน้าไม่อาย...คุณอยากถูกคนในบ้านมองอย่างนั้นก็เอาสิ จะได้รู้กันไปเลยว่าคุณมันเป็นพวกโรคจิต หน้าด้าน!”
“ปากร้าย” กานต์ชนกเอ็ด มือใหญ่บีบแก้มนุ่มจนหญิงสาวหน้ายู่ ดูตลกจนเขาเผลอกระตุกยิ้ม ขบขัน
“เก่งเสมอเลยนะยายเด็กหัวแข็ง”
“ฉันไม่ใช่เด็ก อย่ามาเรียก!” ปกเกศโมโห ฉุนปรี๊ด เขาเป็น ‘ผู้ใหญ่’ มากนักหรือไง ก็แก่แต่อายุเท่านั้นล่ะ!
“รู้แล้วว่าไม่ใช่เด็ก แต่ก็เด็กกว่าฉันไม่ใช่หรือไง...เอาเถอะ ขี้เกียจเถียงกับเธอแล้ว มาหาฉันวันนี้มีธุระอะไร”
ชายหนุ่มเป็นฝ่ายเข้าเรื่องเสียเอง และนั่นทำให้คนถูกถามชะงัก
“ฉัน...เอ่อ...” ปกเกศหน้าเจื่อน กะพริบตาปริบๆ ลังเล
พฤติกรรมของกานต์ชนกที่แสดงออกกับเด็กน้อยที่บริษัทของเขาก่อนหน้านี้ ย้อนกลับเข้ามาในห้วงคำนึงของหญิงสาวทันใด สิ่งที่ธนวุฒิเลขาของเขาบอกไว้ว่า กานต์ชนก ‘ไม่ชอบเด็ก’ ยังฝังจำ
ปกเกศจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าอยู่นั่นเอง อยากพูด แต่ก็พูดไม่ออก ขณะที่กานต์ชนกเองก็จ้องเขม็งมองมาอย่างรอคอยเช่นกัน แต่จุดที่เขาจ้องอยู่ตลอดนั้นคือที่ริมฝีปากของเธอ
ปกเกศเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ส่งสายตาขุ่นขึงใส่เขาเกลื่อนความเก้อกระดาก อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายเผลอ ผลักลำตัวหนาที่คร่อมขวางตนเองออกไป รีบทรงตัวลุกขึ้นนั่ง หน้าแดงก่ำ
“คือฉัน...”
“ฉันอะไร พูดมาสิ” กานต์ชนกไม่โกรธที่ถูกผลักจนต้องถอยห่างออกมา กลับตั้งใจรอฟังที่เธอจะพูด
“ฉันท้อ...ง”
ตื๊ด...
*************
วิดวิ้วๆ แจ้งข่าวค่ะ^^
พบกับนิยายของปลายปากกาสำนักพิมพ์ได้ในงานหนังสือตุลาคมนี้นะคะ มีนำไปฝากวางขายอยู่ 2 บูธ ตามนี้จ้า
-บูธ O 06 โซน C1 สำนักพิมพ์ภัสรสา
วางขาย รักรออุ้ม (ทักษิณา) กับ นาฏกรรมลวง (ขวัญของใจ)
-บูธ N 22 โซน C1 สำนักพิมพ์บ้านมงคล
วางขาย รักรออุ้ม (ทักษิณา) กับ ทรายล้อมเพชร (สะมะเรีย)
*****************
สำหรับ พนาพร่ำรัก (หอมดึก) เนื่องจากตอนนี้มีจำนวนหนังสือไม่มากพอที่จะฝากวางขายแล้ว ฉะนั้นถ้าใครสนใจ ต้องสั่งซื้อทางออนไลน์เท่านั้นนะคะ หรือที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ก็ยังมีวางขายอยู่จ้า
ใครเล็งเรื่องไหนกันไว้ ตามไปสอยน้าาาา
ปล. เนื่องจากระบบการจ่ายค่าตอบแทนให้นักเขียน สนพ.จ่ายตามจำนวนที่ขายได้จริง ฉะนั้น รักนักเขียนท่านไหน หรือชื่นชอบผลงานเรื่องใด โปรดอุดหนุนทางตรงกันก่อนนะจ๊ะ ไม่ว่าจะตามร้านที่สนพ.แจ้งไว้ หรือจะ inbox สั่งซื้อกับแอดมินเพจสนพ.ก็ตาม พลีสสสส เพราะถ้าเป็นช่องทางอื่น ค่าตอบแทนที่นักเขียนควรได้รับ จะหายไปในบัดดลค่ะ ฝากด้วยนะคะ จุ๊บๆ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
เธอย้ำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า สูดหายใจลึกเข้าไว้ ก้มหน้าตักไอศกรีมง่วนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เผลอครู่เดียวก็เกลี้ยงหมดถ้วย นิลยาหันมายิ้มยิงฟันขาวส่งให้ธีรไนย แต่ถูกเขาจับแก้มนุ่มตรึงเอาไว้กะทันหัน ทำเอาเจ้าตัวตกใจสะดุ้งหน้าตาตื่น
“พี่ไนยทำอะไรคะ!”
“อยู่นิ่งๆ กินเลอะเหมือนกันนะเรา พี่จะเช็ดให้”
เขาบอกยิ้มๆ ดึงทิชชูบนโต๊ะมา บรรจงเช็ดริมฝีปากอิ่มสีแดงเรื่อของเธออย่างตั้งใจ
คนถูกจ้องมองปากหน้าแดงก่ำ กลับมาใจเต้นแรงรัวอีกแล้ว เธอพยายามจำกัดสายตาตัวเองให้จ้องมองแต่ริมฝีปากของเขาเช่นเดียวกัน แต่...โอย ริมฝีปากบางๆ สีชมพูเรื่อของพี่ไนยก็น่าจุ๊บชะมัด!!
นิลยารู้สึกว่าตัวเองฟุ้งซ่านไปกันใหญ่ เพื่อตัดปัญหาเธอเลยหลับตาปี๋ จะได้ไม่ต้องเห็นปากของเขา ไม่คาดว่านี่จะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
“เป็นอะไร กินขนมหมดแล้วก็ง่วงนอนเลยหรือไง”
“ทำอะไรน่ะ เค้าเจ็บนะพี่ไนย!”
นิลยาโวยวายเสียงขึ้นจมูก เพราะอีกฝ่ายใช้ปลายนิ้วคีบหนีบจมูกโด่งน้อยๆ ของเธอบีบเล่นอย่างมันเขี้ยว หญิงสาวลืมตาโตแป๋วขึ้นมาสบตาเรียวรีพราวระยับของเขาทันที พลันที่เห็นหน้าคมคายสะอ้านนั้น เจ้าตัวก็เขินจนลืมหายใจ นั่งนิ่งตัวแข็งทื่อจนอีกฝ่ายต้องเลื่อนฝ่ามือหนา จับบ่าเล็กทั้งสองข้างแล้วเขย่าจนร่างแข็งทื่อคลอนไปมา
“โอ๊ะๆ เบาค่ะพี่ไนย นิลเวียนหัว...” เสียงเล็กคราง ขอความเห็นใจ ธีรไนยมองอีกฝ่ายอย่างอ่อนใจก่อนจะหลุดเสียงหัวเราะขำออกมาเบาๆ มือใหญ่อบอุ่นวางลงบนศีรษะ ซึ่งปกคลุมด้วยเส้นผมหยักศกสลวยของเธอ
“ก็หลับตาทำไมล่ะ ลืมตาขึ้นมาสิ” เขาสั่ง แล้วก็เพราะเสียงนุ่ม ละลายใจของเขานี่เอง นิลยาจึงค่อยๆ เปิดตาของตัวเองขึ้นมองเขาทีละข้าง
“อะไรกัน แค่จะขอพักสายตาหน่อยเดียว พี่ไนยก็ทำตื่นเต้นไปได้” เธอยิ้มเกลื่อนเขิน ยังเสียดายไออุ่นจากฝ่ามือแกร่งที่ถอนห่างออกไปไม่หาย แต่จะทำอย่างไรได้ สำหรับเขาแล้ว เธอก็เป็นแค่เพื่อนของน้องสาว...ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้เลย
เป็นความสุขบนความเศร้า อยากจะร้องไห้แต่ไม่กล้าปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาต่อหน้าเขา แม้ภายนอกเธอจะยิ้มร่าเริงสดใส แต่หัวใจของเธอกำลังจมอยู่กับทะเลน้ำตา
“จะกินอีกไหม สั่งได้นะ” เขาเสนอเอาใจคนหน้าเง้า คิดว่าตัวเองอาจจะเขย่าไหล่เธอแรงไปหน่อย เลยอยากเอาใจแก้ตัว ซึ่งนิลยาก็ฮุบเบ็ดล่อของเขา ยิ้มแป้นจนตาหยีทันที
“จริงเหรอคะ งั้นคราวนี้เอาช็อกโกแลตชิปกับไอศกรีมมะม่วงซันเดย์ใส่ท็อปปิ้งเยอะๆ ราดแยมเยอะๆ ด้วย ขอบคุณมากนะคะพี่ไนย...” บอกเขาแล้วนิลยาก็ทอดเสียงหยอดอย่างหวานเจี๊ยบล้อเลียน
ธีรไนยหลุดเสียงหัวเราะขำอีกฝ่ายออกมา รอยยิ้มของเขาทำให้คนมองเห็นหัวใจพองโต ชุ่มชื่นเหมือนได้น้ำทิพย์รินรด
ไม่บ่อยเลยที่จะได้เห็นเขาหัวเราะยิ้มแย้ม ยิ่งสถานการณ์ไม่ปกติเพราะกำลังเป็นห่วงปกเกศที่หายตัวไปติดต่อไม่ได้อยู่ตอนนี้ด้วยแล้ว
เธอรู้สึกไม่ต่างกับว่ารอยยิ้มของธีรไนยเป็นรางวัลเล็กๆ ที่เธอได้รับกลับมาในเวลานี้เลยทีเดียว
****************
ธนวุฒิขับรถไปพลางลอบมองผ่านกระจกมองหลัง เห็นเจ้านายของเขานั่งหน้าบึ้งเป็นยักษ์ดุ เหมือนโกรธเคืองใครอยู่ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเจ้านายโกรธใคร เพราะหากโกรธสาวหน้าหวานที่มาด้วยกันนั่นก็ไม่น่าใช่...เพราะตอนนี้เจ้านายก็ปล่อยให้ฝ่ายนั้นเข้ามาซุกซบศีรษะแนบไหล่หนาของเจ้าตัว ไม่ได้ผลักไส หรือโยนเธอทิ้งออกจากรถไป ตามนิสัยที่ไม่ค่อยจะทานทนกับอะไรมากมายนักของเจ้าตัว
แต่เจ้านายก็ปั้นหน้าบึ้ง ไม่พอใจมาตลอดทางระหว่างที่นั่งมาในรถ ธนวุฒิไม่กล้าถามว่าสาวน้อยคนนี้เป็นใคร ทำไมจึงดู ‘พิเศษ’ กว่าคนอื่น ทว่าลูกน้องอย่างเขาหรือจะกล้าซักถามเจ้านาย เลยได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ จนรถเข้ามาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ทรงยุโรปสุดหรู ธนวุฒิจอดรถแล้วรีบลงมาเปิดประตูให้เจ้านาย หากก็ต้องตกใจเพราะกานต์ชนกไม่ได้ลงมาคนเดียว เขากลับอุ้มร่างเล็กของหญิงสาวที่หลับอยู่ติดมือออกมาด้วย
“เจ้านายครับ ผมช่วยอุ้มเธอให้ก็ได้นะครับ” ลูกน้องเสนอตัวช่วย ไม่อยากให้เจ้านายเหนื่อย ทว่ากานต์ชนกปฏิเสธหน้าเคร่ง
“ไม่ต้อง ฉันจัดการเอง นายเอารถไปเก็บแล้วจะไปไหนก็ไป”
“เอ่อ...แล้วเจ้านายไม่เวียนหัวคลื่นไส้แล้วเหรอครับ” ธนวุฒิยังเป็นห่วงนาย
“ไม่เป็นไรแล้ว นายไปเถอะ” กานต์ชนกโบกไล่ ก่อนจะพาปกเกศขึ้นบันไดเข้าไปในตัวบ้าน
คนรับใช้ในบ้านลอบมองอย่างประหลาดใจ แต่ไม่มีใครกล้าออกมา รู้ดีว่าหากนายไม่เรียกแล้วออกมาจุ้นจ้าน เป็นต้องถูกเอ็ดตะโร หูชา
กานต์ชนกเข้าไปในห้องนั่งเล่น ตั้งใจจะวางร่างของปกเกศลงบนโซฟาตัวยาวกลางห้อง แต่ยังไม่ทันเดินเข้าไปถึงจุดหมาย ปกเกศกลับรู้สึกตัวขึ้นมาก่อน
ดวงตากลมโตคู่สวยเปิดขึ้นมองเขางงๆ พอเห็นสภาพตัวเองก็เริ่มดิ้นรน โวยวาย
“คุณ...จะพาฉันไปไหน ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้”
“จะดิ้นทำไมนักหนา เดี๋ยวก็ปล่อยตกลงไปเลยนี่” กานต์ชนกเอ็ดอึง หน้าดุ เสียงหงุดหงิดรำคาญ ทว่ายังคงรัดร่างเธอแน่นไม่ยอมปล่อย จนมาถึงโซฟาตัวยาว จึงโยนเธอลงไป ปล่อยให้ร่างเล็กได้อิสรภาพอย่างที่เจ้าหล่อนต้องการ
ปกเกศไม่ได้เจ็บปวดอะไร แต่ตกใจมากกว่าที่จู่ๆ ก็ถูกโยนลงมาบนโซฟานุ่ม เธอรีบยันกายลุกขึ้น แต่ไม่สามารถทำได้ดั่งใจเพราะอีกฝ่ายตามเข้ามาคร่อมร่าง กางแขนขวางเอาไว้ไม่ให้เธอลุกขึ้นมาได้
“คุณกานต์ชนก ถอยไปเลยนะ คุณจะทำอะไร!”
ปกเกศร้องถามเขาหน้าตาตื่น หัวใจเต้นโครมครามรัวกระหน่ำ ใบหน้าคมเข้มอยู่ห่างไม่ถึงคืบ มันใกล้จนเธอประหม่า ตื่นกลัว เก็บอาการไม่อยู่
“ถามได้ว่าจะทำอะไร ก็จะสั่งสอนเธอไง...ที่มาหาฉันเนี่ย ไม่ใช่เพราะอยากใกล้ชิดกับฉันหรอกเหรอ ไหนว่าชาตินี้ไม่อยากเจอหน้าฉันอีกแล้วไง ทนไม่ไหวก็บอกมาตรงๆ เถอะ ฉันเข้าใจ”
เขาเย้ยหยาม แต่ละคำพูดล้วนแสดงถึงความหลงตัวเองอย่างร้ายกาจ โดยเฉพาะรอยยิ้มกวนประสาท ปกเกศเผลอเงื้อฝ่ามือขึ้น แต่ไม่ทันได้ฟาดเปรี้ยงออกไป ก็ถูกมือแกร่งกดกระชับเอาไว้แน่น รับรู้ได้ถึงไอร้อนจากอุ้งมือนั้น
หญิงสาวแก้มแดงเรื่อ มีเลือดฝาดขึ้นมาทันที ทว่าเจ้าตัวรีบสลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้ง ถลึงตาดุใส่เขาอย่างโกรธจัด
“อย่ามาพูดจาไร้สาระ คนอย่างคุณถ้าไม่มีเรื่องจำเป็น ฉันก็ไม่อยากเห็นหน้าหรอก อย่าหลงตัวเอง มโนมั่วซั่ว”
“ปากดี ขนาดนี้แล้วยังจะอวดเก่งอีก ก็แค่เด็กผู้หญิงตัวกระเปี๊ยก”
กานต์ชนกคำรามฮึ่มในลำคอ ใช้ฝ่ามือใหญ่อีกข้างหนึ่งของตัวเอง บีบปลายคางมนของเธอกระชับแน่น รอยยิ้มยั่วเย้าค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อเจ้าตัวจ้องมองใบหน้าหวานของหญิงสาว เขาเรียกเธอเป็น ‘เด็ก’ ก็จริง แต่รู้ดีที่สุดกว่าใคร...อีกฝ่ายไม่ใช่เด็กอย่างที่เขาจงใจแกล้งย้ำให้เธอหัวเสีย ผิวของเธอนุ่มลื่น ละมุนละไม ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งเพลิดเพลิน แทบหยุดไม่อยู่
“แล้วผู้ใหญ่ตัวโตอย่างคุณดีแค่ไหนกัน ทั้งเจ้าเล่ห์ชอบใช้กำลัง...ถอยไปเลย ไม่งั้นฉันจะร้อง” ปกเกศขู่ฟ่อ ส่ายหน้าหนีฝ่ามือร้อนรุ่มของเขา รู้สึกกดดันเพราะตัวเองตกเป็นเบี้ยล่างอีกฝ่าย ถูกเขาตรึงเอาไว้แน่น ดิ้นหนีไปไหนไม่ได้เลย
“แหม...ตัวเล็กแค่นี้เก่งเหลือเกินนะ ร้องแล้วจะช่วยอะไรได้ นี่มันบ้านฉัน ไม่มีใครกล้ามาช่วยเธอหรอก หนูน้อยผู้น่าสงสาร” กานต์ชนกยิ้มเยาะที่มุมปากได้รูป ดวงตาคมพราวระยับ ดูมั่นใจจนน่าหมั่นไส้
“ถึงไม่มีใครกล้ามาช่วยฉัน แต่พวกเขาก็จะรู้กันทั่วว่าคุณเป็นคนเลว รังแกผู้หญิง หน้าไม่อาย...คุณอยากถูกคนในบ้านมองอย่างนั้นก็เอาสิ จะได้รู้กันไปเลยว่าคุณมันเป็นพวกโรคจิต หน้าด้าน!”
“ปากร้าย” กานต์ชนกเอ็ด มือใหญ่บีบแก้มนุ่มจนหญิงสาวหน้ายู่ ดูตลกจนเขาเผลอกระตุกยิ้ม ขบขัน
“เก่งเสมอเลยนะยายเด็กหัวแข็ง”
“ฉันไม่ใช่เด็ก อย่ามาเรียก!” ปกเกศโมโห ฉุนปรี๊ด เขาเป็น ‘ผู้ใหญ่’ มากนักหรือไง ก็แก่แต่อายุเท่านั้นล่ะ!
“รู้แล้วว่าไม่ใช่เด็ก แต่ก็เด็กกว่าฉันไม่ใช่หรือไง...เอาเถอะ ขี้เกียจเถียงกับเธอแล้ว มาหาฉันวันนี้มีธุระอะไร”
ชายหนุ่มเป็นฝ่ายเข้าเรื่องเสียเอง และนั่นทำให้คนถูกถามชะงัก
“ฉัน...เอ่อ...” ปกเกศหน้าเจื่อน กะพริบตาปริบๆ ลังเล
พฤติกรรมของกานต์ชนกที่แสดงออกกับเด็กน้อยที่บริษัทของเขาก่อนหน้านี้ ย้อนกลับเข้ามาในห้วงคำนึงของหญิงสาวทันใด สิ่งที่ธนวุฒิเลขาของเขาบอกไว้ว่า กานต์ชนก ‘ไม่ชอบเด็ก’ ยังฝังจำ
ปกเกศจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าอยู่นั่นเอง อยากพูด แต่ก็พูดไม่ออก ขณะที่กานต์ชนกเองก็จ้องเขม็งมองมาอย่างรอคอยเช่นกัน แต่จุดที่เขาจ้องอยู่ตลอดนั้นคือที่ริมฝีปากของเธอ
ปกเกศเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ส่งสายตาขุ่นขึงใส่เขาเกลื่อนความเก้อกระดาก อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายเผลอ ผลักลำตัวหนาที่คร่อมขวางตนเองออกไป รีบทรงตัวลุกขึ้นนั่ง หน้าแดงก่ำ
“คือฉัน...”
“ฉันอะไร พูดมาสิ” กานต์ชนกไม่โกรธที่ถูกผลักจนต้องถอยห่างออกมา กลับตั้งใจรอฟังที่เธอจะพูด
“ฉันท้อ...ง”
ตื๊ด...
*************
วิดวิ้วๆ แจ้งข่าวค่ะ^^
พบกับนิยายของปลายปากกาสำนักพิมพ์ได้ในงานหนังสือตุลาคมนี้นะคะ มีนำไปฝากวางขายอยู่ 2 บูธ ตามนี้จ้า
-บูธ O 06 โซน C1 สำนักพิมพ์ภัสรสา
วางขาย รักรออุ้ม (ทักษิณา) กับ นาฏกรรมลวง (ขวัญของใจ)
-บูธ N 22 โซน C1 สำนักพิมพ์บ้านมงคล
วางขาย รักรออุ้ม (ทักษิณา) กับ ทรายล้อมเพชร (สะมะเรีย)
*****************
สำหรับ พนาพร่ำรัก (หอมดึก) เนื่องจากตอนนี้มีจำนวนหนังสือไม่มากพอที่จะฝากวางขายแล้ว ฉะนั้นถ้าใครสนใจ ต้องสั่งซื้อทางออนไลน์เท่านั้นนะคะ หรือที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ก็ยังมีวางขายอยู่จ้า
ใครเล็งเรื่องไหนกันไว้ ตามไปสอยน้าาาา
ปล. เนื่องจากระบบการจ่ายค่าตอบแทนให้นักเขียน สนพ.จ่ายตามจำนวนที่ขายได้จริง ฉะนั้น รักนักเขียนท่านไหน หรือชื่นชอบผลงานเรื่องใด โปรดอุดหนุนทางตรงกันก่อนนะจ๊ะ ไม่ว่าจะตามร้านที่สนพ.แจ้งไว้ หรือจะ inbox สั่งซื้อกับแอดมินเพจสนพ.ก็ตาม พลีสสสส เพราะถ้าเป็นช่องทางอื่น ค่าตอบแทนที่นักเขียนควรได้รับ จะหายไปในบัดดลค่ะ ฝากด้วยนะคะ จุ๊บๆ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ต.ค. 2561, 15:41:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ต.ค. 2561, 15:41:01 น.
จำนวนการเข้าชม : 664
<< บทที่ 12 -30% | บทที่ 12 -100% >> |