รักรออุ้ม: ทักษิณา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
ความคึกคะนอง ย่ามใจของเขา กับความอ่อนด้อยประสบการณ์ของเธอ ก่อเกิดหนึ่งชีวิตที่ไม่ตั้งใจขึ้นมา
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ลูก ครอบครัว ดราม่า โรแมนติก ท้อง
ตอน: บทที่ 12 -100%
โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น กลบเสียงพูดแผ่วเบาของปกเกศเสียก่อน หญิงสาวชะงักหน้าเจื่อน นั่งนิ่งตัวแข็งทื่อ รอฟังเขาคุยสายกับอีกฝ่าย ซึ่งฟังปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าคนที่โทร.เข้ามาเป็นคู่ควงคนล่าสุดของเขา น้องลูกเกดปานภัทร นางเอกสาวสวยคนดังของวงการในเวลานี้
“ลูกเกดเหรอ ว่าไงครับ อยากเจอผมตอนนี้เหรอ...คงไม่ได้ ผมติดธุระอยู่ เอาไว้วันหลัง...ฮะ! อะไรนะ ท้องงั้นเหรอ!”
ปกเกศสาบานได้ว่า เธอไม่ได้อยากเสียมารยาทฟังเขาคุยโทรศัพท์เลยแม้แต่น้อย แต่เสียงของกานต์ชนกอย่างกับฟ้าผ่า เธอที่อยู่ตรงนี้ยังตกใจ ส่วนคู่สนทนาของเขานั้น คงตกใจยิ่งกว่า
“ผมไม่คุยเรื่องไร้สาระนะลูกเกด ผมไม่ว่าง ถ้ายังอยากจะคบกันต่อไป ก็อย่ามาพูดเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้กับผมอีก ผมไม่ใช่พ่อพระ จะได้หน้ามึนรับเด็กที่ไหนมาเป็นลูกง่ายๆ อย่าคิดจะใช้วิธีนี้จับผม แค่นี้นะ ผมมีธุระ”
กานต์ชนกตัดบทคู่สนทนาอย่างไร้เยื่อใย ก่อนจะหันมาทางปกเกศที่นั่งหน้าซีดขาวอยู่ใกล้ๆ กัน เอ่ยปากถามเธอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ฉันคุยจบแล้ว พูดเรื่องของเธอต่อสิ มีธุระอะไรว่ามาเลย ฉันรอฟังอยู่”
“ฉัน...”
ปกเกศอยากจะร้องไห้ ทุกคำที่เขาพูดกับผู้หญิงคนเมื่อครู่ บันทึกแน่นอยู่ในสมองของเธอละเอียดยิบ
ผู้หญิงคนนั้นคงบอกว่าท้องกับเขา แต่เขาไม่สนใจไยดี ดูถูกดูหมิ่น แถมยังหาว่าเจ้าหล่อนคิด ‘จับ’ เขาอีก!!
“ปกเกศ...หรือว่าจริงๆ แล้วเธอไม่มีธุระอะไร ถ้าแค่อยากจะมาเห็นหน้าฉันละก็ บอกกันตรงๆ ก็ได้ ไม่ต้องปั้นหน้าเครียดขนาดนั้น...ฉันเข้าใจ”
กานต์ชนกคิดเองเออเอง เพราะหญิงสาวไม่ยอมบอกเขาเสียที ใบหน้าคมเข้มแต้มรอยยิ้ม มั่นใจในตัวเอง ทว่านั่นกลับยิ่งทำให้ปกเกศกระอักกระอ่วน สับสน
“ถ้าคุณคิดอย่างนั้นแล้วสบายใจ ก็แล้วแต่คุณเถอะ นี่เย็นมากแล้วฉันกลับบ้านดีกว่า” เธอไม่อยากต่อล้อต่อเถียง หมดความคิดจะบอกเขาเรื่องลูก แต่อยากหนีไปให้ไกลโดยเร็วที่สุดแทน ดังนั้นเมื่อเอ่ยปากออกไปแล้ว เจ้าตัวจึงผุดลุกขึ้นจากโซฟา ตั้งใจจะจ้ำอ้าวออกจากบ้านเขาทันที
ทุกคำที่เขาพูดกับน้องลูกเกดเมื่อครู่ มันเพียงพอแล้ว ขนาดแฟนของเขาเป็นถึงนางเอกดัง ทั้งสวยทั้งมีชื่อเสียง เขายังไม่แยแส แล้วกับเธอ เขาจะไม่ยิ่งเหยียบย่ำให้จมดินเหรอ
ไม่ล่ะ...ไม่มีทาง เธอไม่ยอมให้กานต์ชนกมาดูหมิ่นศักดิ์ศรี ต่อให้ลำบากแค่ไหนก็ไม่มีวัน!
“เดี๋ยวสิปกเกศ นึกอยากมาก็มา อยากไปก็ไปง่ายๆ อย่างนี้ได้ยังไง ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย” กานต์ชนกคว้าข้อมือบาง ยึดเอาไว้ไม่ยอมให้เธอเดินหนีไปง่ายๆ
“ฉันเปลี่ยนใจไม่คุยแล้ว ปล่อยด้วยค่ะ ฉันต้องรีบไป” เธอหันไปสั่งเสียงเข้มเอาเรื่อง แต่อีกฝ่ายไม่สนใจ ยังคงยึดมือเธอไว้แน่น
“จะรีบไปไหน ยังไม่ได้ของที่เธอต้องการเลยไม่ใช่เหรอ...รอก่อนสิ”
เขายิ้มเย้ยดักคอ ทำราวกับล่วงรู้จิตใจเธอ ปกเกศถึงกับชะงัก ขมวดคิ้ว งุนงง
“ของที่ฉันต้องการเหรอ...อะไร?”
“รอเดี๋ยวนะ” ชายหนุ่มบอก แล้วปล่อยมือเล็ก เขาเดินไปเปิดกระเป๋าเอกสารของตัวเอง แล้วหยิบสมุดเช็คขึ้นมาเซ็นชื่อและตัวเลขลงไป จากนั้นจึงฉีกแควก นำมายื่นส่งให้ต่อหน้าปกเกศ
เธอต้องมาหาเขาเพราะ ‘อยากได้เงิน’ แน่นอน เขาเดาไม่ผิดหรอก พวกผู้หญิงก็มีแค่นี้!
“รับไปสิ คราวก่อนห้าหมื่นไม่พอ คราวนี้ฉันเพิ่มให้อีกเท่าหนึ่งเลย คงพอใจนะ”
กานต์ชนกพูดยิ้มแย้มเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา ตรงกันข้ามกับคนฟังที่ชาหนึบไปทั้งร่าง หนาวเยือกในอกทว่าหัวใจกลับเต้นแรงแทบระเบิด
ดวงตากลมโตสั่นระริก จ้องมองสบตากับชายหนุ่ม เขาชะงักไปเมื่อเห็นอาการผิดปกติของเธอ ทว่ายังไม่ทันได้พูดอะไร มือเล็กๆ ของปกเกศก็ยื่นมาคว้าเช็คจากมือเขาไปถือเอาไว้
กานต์ชนกกดรอยยิ้มพึงพอใจที่มุมปาก ในที่สุดยายเด็กดื้ออวดดีก็ยอมละทิฐิ เลิกอวดเก่งสักที!
“ก็แค่นี้ แต่ก็นะ ถ้าเธอรับไว้ตั้งแต่คราวก่อน ก็คงไม่ได้เยอะขึ้นอย่างนี้ ถือว่าเธอฉลาดกว่าคนอื่น” กานต์ชนกหัวเราะอารมณ์ดี ลำพองอย่างผู้ชนะ เขาดูไม่เคยพลาดโดยเฉพาะพวกผู้หญิง
“ฉันรับเงินตามที่คุณต้องการแล้ว ขอตัวนะคะ” ปกเกศกัดฟันเอ่ย ดวงตาคลอหยดน้ำใสวาวรื้น มือที่ถือกระดาษเช็คเอาไว้กำแน่น สั่นสะท้าน
หากไม่ติดว่าตัวเองไม่ใช่ตัวคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เธอจะฉีกเช็คแผ่นนี้โยนใส่หน้าเขาแบบคราวก่อน...ทว่าตอนนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่จะต้องดูแล...
หญิงสาวข่มกลั้นน้ำตาตัวเองที่เอ่อท้นไม่ให้หยดเผาะลงมา เดินก้าวผ่านร่างสูงใหญ่ของกานต์ชนกไปอย่างมั่นคง ไม่ให้เขารู้เลยว่าเพียงก้าวผ่านเขามาทันทีนั้น น้ำตาของเธอก็ร่วงพรูลงมาอาบนวลแก้มนุ่ม
“ในเมื่อรับเงินไปแล้ว ก็ถือว่าฉันชดใช้ให้เธอแล้ว ต่อไปนี้เราไม่มีอะไรติดค้างกัน ไม่ต้องมาหาฉันอีกละ ฉันไม่อยากเจอหน้าเธอ”
เสียงทุ้มสำทับดังกังวานตามมา ดุจยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ปกเกศตระหนักแจ้งแก่ใจ
เธอไม่มีค่าอะไรกับเขาจริงๆ เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ในบรรดามากมายที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านเลยไป
ถ้าเช่นนั้นเธอคงตัดสินใจไม่ผิดแล้ว ที่ไม่บอกเขาเรื่องลูก เพราะลูกของเธอก็คงไม่มีความหมายสำหรับเขาเช่นกัน...
“ปกเกศ ฉัน...”
ได้ยินเสียงแผ่วของเขาดังตามมาอีก แต่เวลานี้เธอไม่สนใจแล้วว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรอีก หัวใจเจ็บจนชา ไม่เหลือความสนใจอะไรอีกต่อไป
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่มารบกวนคุณอีก...” บอกกับเขาโดยไม่หันกลับไป “เราไม่ต้องเจอกันตลอดไปดีที่สุด ฉันเห็นด้วย”
ปกเกศกัดฟันข่มเสียงสะอื้น จากนั้นจึงก้มหน้าก้มตาเดินจากไป หูอื้อตาลายแทบมองไม่เห็นสิ่งใด นอกจากม่านน้ำตาของตัวเอง
หากน้ำตาไม่กบหน้าจนบดบังวิสัยทัศน์การมองเห็นเกินไป...ถ้าเธอหันกลับไปสักนิด ก็จะเห็นชายหนุ่มผู้เย่อหยิ่ง มาดมั่นใจในตัวเองอย่างกานต์ชนก มีใบหน้าที่จืดเจื่อนไปกว่าปกติเช่นกัน
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
“ลูกเกดเหรอ ว่าไงครับ อยากเจอผมตอนนี้เหรอ...คงไม่ได้ ผมติดธุระอยู่ เอาไว้วันหลัง...ฮะ! อะไรนะ ท้องงั้นเหรอ!”
ปกเกศสาบานได้ว่า เธอไม่ได้อยากเสียมารยาทฟังเขาคุยโทรศัพท์เลยแม้แต่น้อย แต่เสียงของกานต์ชนกอย่างกับฟ้าผ่า เธอที่อยู่ตรงนี้ยังตกใจ ส่วนคู่สนทนาของเขานั้น คงตกใจยิ่งกว่า
“ผมไม่คุยเรื่องไร้สาระนะลูกเกด ผมไม่ว่าง ถ้ายังอยากจะคบกันต่อไป ก็อย่ามาพูดเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้กับผมอีก ผมไม่ใช่พ่อพระ จะได้หน้ามึนรับเด็กที่ไหนมาเป็นลูกง่ายๆ อย่าคิดจะใช้วิธีนี้จับผม แค่นี้นะ ผมมีธุระ”
กานต์ชนกตัดบทคู่สนทนาอย่างไร้เยื่อใย ก่อนจะหันมาทางปกเกศที่นั่งหน้าซีดขาวอยู่ใกล้ๆ กัน เอ่ยปากถามเธอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ฉันคุยจบแล้ว พูดเรื่องของเธอต่อสิ มีธุระอะไรว่ามาเลย ฉันรอฟังอยู่”
“ฉัน...”
ปกเกศอยากจะร้องไห้ ทุกคำที่เขาพูดกับผู้หญิงคนเมื่อครู่ บันทึกแน่นอยู่ในสมองของเธอละเอียดยิบ
ผู้หญิงคนนั้นคงบอกว่าท้องกับเขา แต่เขาไม่สนใจไยดี ดูถูกดูหมิ่น แถมยังหาว่าเจ้าหล่อนคิด ‘จับ’ เขาอีก!!
“ปกเกศ...หรือว่าจริงๆ แล้วเธอไม่มีธุระอะไร ถ้าแค่อยากจะมาเห็นหน้าฉันละก็ บอกกันตรงๆ ก็ได้ ไม่ต้องปั้นหน้าเครียดขนาดนั้น...ฉันเข้าใจ”
กานต์ชนกคิดเองเออเอง เพราะหญิงสาวไม่ยอมบอกเขาเสียที ใบหน้าคมเข้มแต้มรอยยิ้ม มั่นใจในตัวเอง ทว่านั่นกลับยิ่งทำให้ปกเกศกระอักกระอ่วน สับสน
“ถ้าคุณคิดอย่างนั้นแล้วสบายใจ ก็แล้วแต่คุณเถอะ นี่เย็นมากแล้วฉันกลับบ้านดีกว่า” เธอไม่อยากต่อล้อต่อเถียง หมดความคิดจะบอกเขาเรื่องลูก แต่อยากหนีไปให้ไกลโดยเร็วที่สุดแทน ดังนั้นเมื่อเอ่ยปากออกไปแล้ว เจ้าตัวจึงผุดลุกขึ้นจากโซฟา ตั้งใจจะจ้ำอ้าวออกจากบ้านเขาทันที
ทุกคำที่เขาพูดกับน้องลูกเกดเมื่อครู่ มันเพียงพอแล้ว ขนาดแฟนของเขาเป็นถึงนางเอกดัง ทั้งสวยทั้งมีชื่อเสียง เขายังไม่แยแส แล้วกับเธอ เขาจะไม่ยิ่งเหยียบย่ำให้จมดินเหรอ
ไม่ล่ะ...ไม่มีทาง เธอไม่ยอมให้กานต์ชนกมาดูหมิ่นศักดิ์ศรี ต่อให้ลำบากแค่ไหนก็ไม่มีวัน!
“เดี๋ยวสิปกเกศ นึกอยากมาก็มา อยากไปก็ไปง่ายๆ อย่างนี้ได้ยังไง ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย” กานต์ชนกคว้าข้อมือบาง ยึดเอาไว้ไม่ยอมให้เธอเดินหนีไปง่ายๆ
“ฉันเปลี่ยนใจไม่คุยแล้ว ปล่อยด้วยค่ะ ฉันต้องรีบไป” เธอหันไปสั่งเสียงเข้มเอาเรื่อง แต่อีกฝ่ายไม่สนใจ ยังคงยึดมือเธอไว้แน่น
“จะรีบไปไหน ยังไม่ได้ของที่เธอต้องการเลยไม่ใช่เหรอ...รอก่อนสิ”
เขายิ้มเย้ยดักคอ ทำราวกับล่วงรู้จิตใจเธอ ปกเกศถึงกับชะงัก ขมวดคิ้ว งุนงง
“ของที่ฉันต้องการเหรอ...อะไร?”
“รอเดี๋ยวนะ” ชายหนุ่มบอก แล้วปล่อยมือเล็ก เขาเดินไปเปิดกระเป๋าเอกสารของตัวเอง แล้วหยิบสมุดเช็คขึ้นมาเซ็นชื่อและตัวเลขลงไป จากนั้นจึงฉีกแควก นำมายื่นส่งให้ต่อหน้าปกเกศ
เธอต้องมาหาเขาเพราะ ‘อยากได้เงิน’ แน่นอน เขาเดาไม่ผิดหรอก พวกผู้หญิงก็มีแค่นี้!
“รับไปสิ คราวก่อนห้าหมื่นไม่พอ คราวนี้ฉันเพิ่มให้อีกเท่าหนึ่งเลย คงพอใจนะ”
กานต์ชนกพูดยิ้มแย้มเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา ตรงกันข้ามกับคนฟังที่ชาหนึบไปทั้งร่าง หนาวเยือกในอกทว่าหัวใจกลับเต้นแรงแทบระเบิด
ดวงตากลมโตสั่นระริก จ้องมองสบตากับชายหนุ่ม เขาชะงักไปเมื่อเห็นอาการผิดปกติของเธอ ทว่ายังไม่ทันได้พูดอะไร มือเล็กๆ ของปกเกศก็ยื่นมาคว้าเช็คจากมือเขาไปถือเอาไว้
กานต์ชนกกดรอยยิ้มพึงพอใจที่มุมปาก ในที่สุดยายเด็กดื้ออวดดีก็ยอมละทิฐิ เลิกอวดเก่งสักที!
“ก็แค่นี้ แต่ก็นะ ถ้าเธอรับไว้ตั้งแต่คราวก่อน ก็คงไม่ได้เยอะขึ้นอย่างนี้ ถือว่าเธอฉลาดกว่าคนอื่น” กานต์ชนกหัวเราะอารมณ์ดี ลำพองอย่างผู้ชนะ เขาดูไม่เคยพลาดโดยเฉพาะพวกผู้หญิง
“ฉันรับเงินตามที่คุณต้องการแล้ว ขอตัวนะคะ” ปกเกศกัดฟันเอ่ย ดวงตาคลอหยดน้ำใสวาวรื้น มือที่ถือกระดาษเช็คเอาไว้กำแน่น สั่นสะท้าน
หากไม่ติดว่าตัวเองไม่ใช่ตัวคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เธอจะฉีกเช็คแผ่นนี้โยนใส่หน้าเขาแบบคราวก่อน...ทว่าตอนนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่จะต้องดูแล...
หญิงสาวข่มกลั้นน้ำตาตัวเองที่เอ่อท้นไม่ให้หยดเผาะลงมา เดินก้าวผ่านร่างสูงใหญ่ของกานต์ชนกไปอย่างมั่นคง ไม่ให้เขารู้เลยว่าเพียงก้าวผ่านเขามาทันทีนั้น น้ำตาของเธอก็ร่วงพรูลงมาอาบนวลแก้มนุ่ม
“ในเมื่อรับเงินไปแล้ว ก็ถือว่าฉันชดใช้ให้เธอแล้ว ต่อไปนี้เราไม่มีอะไรติดค้างกัน ไม่ต้องมาหาฉันอีกละ ฉันไม่อยากเจอหน้าเธอ”
เสียงทุ้มสำทับดังกังวานตามมา ดุจยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ปกเกศตระหนักแจ้งแก่ใจ
เธอไม่มีค่าอะไรกับเขาจริงๆ เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ในบรรดามากมายที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านเลยไป
ถ้าเช่นนั้นเธอคงตัดสินใจไม่ผิดแล้ว ที่ไม่บอกเขาเรื่องลูก เพราะลูกของเธอก็คงไม่มีความหมายสำหรับเขาเช่นกัน...
“ปกเกศ ฉัน...”
ได้ยินเสียงแผ่วของเขาดังตามมาอีก แต่เวลานี้เธอไม่สนใจแล้วว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรอีก หัวใจเจ็บจนชา ไม่เหลือความสนใจอะไรอีกต่อไป
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่มารบกวนคุณอีก...” บอกกับเขาโดยไม่หันกลับไป “เราไม่ต้องเจอกันตลอดไปดีที่สุด ฉันเห็นด้วย”
ปกเกศกัดฟันข่มเสียงสะอื้น จากนั้นจึงก้มหน้าก้มตาเดินจากไป หูอื้อตาลายแทบมองไม่เห็นสิ่งใด นอกจากม่านน้ำตาของตัวเอง
หากน้ำตาไม่กบหน้าจนบดบังวิสัยทัศน์การมองเห็นเกินไป...ถ้าเธอหันกลับไปสักนิด ก็จะเห็นชายหนุ่มผู้เย่อหยิ่ง มาดมั่นใจในตัวเองอย่างกานต์ชนก มีใบหน้าที่จืดเจื่อนไปกว่าปกติเช่นกัน
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ต.ค. 2561, 19:37:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ต.ค. 2561, 19:37:33 น.
จำนวนการเข้าชม : 661
<< บทที่ 12 -60% + แจ้งข่าวงานหนังสือ | บทที่ 13 -50% >> |