กลรักนักดีไซน์
...โบแว...หนุ่มฝรั่งเศสเอาแต่ใจรักการออกแบบเสื้อผ้าเป็นชีวิตจิตใจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ
...เพลิงฟ้า...สาวไทยหนีไปอยู่ปารีส
...เรื่องของคนเอาแต่ใจกับคนชอบตามใจมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น...
Tags: รักลวง อิสระ

ตอน: Designer's desire By คชสีห์ 18

กลรักนักดีไซน์ (Designer's desire By คชสีห์) 18

เสียงเคาะคีย์บอร์ดลากเมาท์ดังเป็นระยะ นานๆ ครั้งเขาจะเข้ามาสะสางงานในสำนักงานแบบนี้ เพราะเขาไม่ต้องการเจอหุ้นส่วนธุรกิจของพ่อ เขาลงสีคล่องแต่ไม่ค่อยทำในคอมพิวเตอร์เพราะยังชอบบรรยายกาศและอารมณ์ของการวาดมือนอกคอมพิวเตอร์อยู่นั่นเอง

เขาร่างแบบได้มากกว่าห้าสิบแบบแล้ว และนี่ก็เป็นแบบที่ส่งมาเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ให้ทีมงานแสกนลงคอมพิวเตอร์แล้วเขาก็มาใส่รายละเอียดที่มีแต่เพียงเขาเท่านั้นที่รู้ บางทีเขาก็บอกทีมงาน ถ้าเขาไม่ว่างจริงๆ แต่เขาจะไม่มีวันเขียนลงบนภาพต้นฉบับแน่นอน

เสียงเปิดประตูเข้ามา โบแวรีบปิดจอคอมพิวเตอร์ทันที เห็นเป็นพ่อ เขาก็ถอนหายใจยาว “มีอะไรเหรอครับ พรวดพราดเข้ามาแบบนี้ ผมตกใจหมด”

“แกจะตกใจทำไม ที่นี่บริษัทฉัน แล้วฉันจะเข้ามาเมื่อไรก็ได้ ว่าแต่ทำไมวันนี้แกเข้ามาในออฟฟิศล่ะ” ฌากนั่งลงที่โซฟาส่วนจัดรับรองในห้องของลูกชาย เขารู้แล้วว่าลูกชายอยู่ในห้องทำงาน แต่เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้

“พ่อมีอะไรกันแน่ คงไม่ได้มาเพื่อมองผมทำงานหรอกนะ” โบแวย้อนถาม

ฌากกำลังจะพูดแต่โนอาเดินเข้ามา

“แกออกไป” โบแวตะคอกทันที

“รู้แล้วน่า แค่จะเอาเอกสารมาให้ฌาก” โนอารีบส่งเอกสารให้แล้วจูบฌากก่อนเดินออกไปสบตาโบแว แล้วแอบขยิบตาให้โบแวด้วย แล้วออกไปจากห้อง

โบแวมองแล้วกระแทกลมหายใจ รู้สึกเบื่อหน่ายสิ่งที่ต้องเจอ แต่ทำอะไรไม่ได้ ก่อนถามพ่อ “ตกลงมีอะไรแน่ครับ ผมจะรีบใส่รายละเอียดชุดทั้งสามสิบชุดนี้ให้เสร็จ”

“พ่ออยากได้รายละเอียดของชุดพวกนี้” ฌากเอาเอกสารที่โนอาเอามาให้วางลง

โบแวเห็นครั้งแรกก็โกรธจัด ทุบโต๊ะเสียงดังลั่น ก่อนตะคอกอย่างรุนแรง “พ่อเอาแบบเสื้อผ้าพวกนี้มาได้ยังไง อ๋อ ขโมยออกมาจากตู้เซฟผมใช่ไหม ทำไมพ่อต้องทำแบบนี้ด้วย ทำไม!!!!”

“แกอย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ โบแว ทุกอย่างที่แกออกแบบต้องเป็นของราฟาแร็งอยู่แล้ว ทำไมฉันจะเอามาไม่ได้” ฌากยักไหล่ไม่ใส่ใจนัก

“คบคนเลวๆ ก็เลยต้องทำตัวเลวๆ ใช่ไหม พอทีผมจะไม่ทำงานกับพ่อแล้วผมก็จะส่งทนายความมาคุยด้วย” โบแวปิดคอมพิวเตอร์แล้วไม่เซฟข้อมูลอะไรเลย

“นี่แกจะฟังฉันก่อนได้ไหม ราฟาแร็งยังไงก็ต้องเป็นของแกแน่นอน แล้วทำไมฉันจะเอางานที่แกออกแบบไว้มาใช้ไม่ได้ล่ะ” ฌากพยายามใจเย็นกล่อมลูก

“ผมจะไม่มีวันทำงานร่วมกับนังผู้หญิงหิวเงินอย่างรีอา” โบแวบอกออกชัดเจน ก่อนที่พ่อจะได้ตบเขา เขาจับมือพ่อเขาไว้ก่อน “อย่าคิดว่าผมจะอยู่เฉยให้พ่อตบได้อีก”

“ปล่อย!!!” ฌากสั่งลูกชายเสียงแข็ง

โบแวปล่อยตามแรงที่พ่อสะบัดแล้วถอยออกมาให้ห่าง เพราะไม่อยากทำร้ายพ่อ แม้จะโกรธมากก็ตาม เขาเก็บของแล้วเตรียมฉีกสัญญา ทั้งยังบอกพ่ออีก “รอผมแจ้งความฐานขโมยแล้วกันครับ”

“นี่แกจะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้ขโมย” ฌากแย้งแล้วเริ่มหงุดหงิด

“แอบไปเอามาโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ใช่ขโมยแล้วมันอะไร ต่อไปนี้ผมจะไม่ข้องเกี่ยวกับราฟาแร็งอีก” โบแวบอกแล้วเก็บของเดินออกไปจากห้อง ฌากกระชากลูกชายกลับมา ทำให้ของของโบแวหล่นเต็มพื้น

โบแวโกรธจัดแล้วหันไปชกกำแพงดังลั่น แล้วสองพ่อลูกก็จ้องตากันแบบไม่มีใครยอมใคร โบแวกำมือแน่นแล้วพยายามสะกดกั้น

“ทำแบบนี้แล้วคิดว่าอะไรจะดีขึ้นเหรอ” โบแวถามพ่อ เพราะสถานการณ์ตอนนี้มีแต่จะเลวร้ายลง

“ถ้าแกยอมเลิกรากับนังกาฝากนั่น ฉันจะยอมคืนงานทั้งหมดให้แก” ฌากตัดสินใจพูดก่อนที่ลูกชายจะหนีหายไป

โบแวหัวเราะเสียดังลั่น ปิดประตูกระแทกเสียงดังเพราะมีคนออกมาฟังเยอะเกินไป ก่อนคุยกับพ่อ “พ่อคิดว่าผมจะเลิกกับพีชง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ”

“แกจะแลกกับงานออกแบบของแกก็ได้” ฌากกอดอกเหมือนจะถือไพ่เหนือกว่า

“ผมว่าพ่อคิดอะไรโง่ๆ ออกมาแบบนี้ไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะการแนะนำของไอ้โง่โนอากับนังรีอา” โบแวหลบหมัดของพ่อแล้วจับพ่อบิดแขนกดเข้ากับกำแพง

เมื่อโนอาถลาเข้ามา เขาก็เอาเท้ายกขึ้นยันเข้าที่กล้ามหน้าท้องของโนอา เขากะจังหวะถูกทำให้โนอากระเด็นและนั่งจุกกับพื้น โบแวจัดได้ว่าช่ำชองเรื่องการต่อสู้มากพอควร และเป็นเหตุผลที่โนอาต้องพยายามวางยาโบแวมาตลอด

“โบแวปล่อยฌากนะ!!!” รีอาพยายามห้ามโบแวให้ปล่อย เพราะไม่มีคนไหนในนี้ที่กล้าเข้าไปช่วยฌาก กลัวโดนถีบกลับมาเหมือนโนอามากกว่า

“แกมีสิทธิอะไรมาสั่งฉัน!!!” โบแวตะคอกกลับ

“ปล่อยฉันนะ ไอ้โบแว ปล่อย” ฌากโดนล็อกติดกำแพงก็หงุดหงิดเป็นกำลัง

โบแวกดพ่อให้แรงกว่าเดิม แล้วพูดกับพ่อ “หุบปากไปเลยนะ พ่อโจมตีผมก่อน แล้วจะให้ปล่อยพ่อมาทำร้ายผมรึไง”

“โบแวปล่อยพ่อเดี๋ยวนี้นะ” เสียงที่เข้มงวดและคุ้นเคยดังขึ้นที่ด้านหลังรีอา มอร์กานยังพูดซ้ำอีกด้วย “ฌาก ห้ามทำร้ายลูก”

โบแวเห็นว่าพ่อไม่ขัดขืน ก็ปล่อยแล้วยืนนิ่ง “ผมถอนหุ้นแน่ ลาก่อน ไม่คิดเลยว่ามีพ่อเป็นขโมย”

“แก ไอ้โบแว ถ้าแกเลิกกับนังกาฝากนั่น ฉันจะคืนทุกอย่างให้” ฌากบอกเล่า แล้วอยากเอาคืนลูกชาย

“ผมจะแจ้งความ” โบแวพูดในตอนท้าย

“จำเป็นด้วยเหรอ โบแว” มอร์กานโบกมือไล่โนอาแล้วเปิดประตุห้องทำงานลูกชายเพื่อคุยกัน

“ใช่ พ่อจะได้เรียนรู้ว่าการขโมยความคิดของคนอื่นมันเป็นยังไง ไม่อยากเชื่อเลยว่าพ่อจะทำแบบนี้” โบแวถอนหายใจยาว โกรธระคนผิดหวัง

“แกมีหลักฐานอะไรว่านี่เป็นงานออกแบบของแก ลายเซ็นแกก็ไม่มี” ฌากเริ่มตีรวน

“ฌาก!!!” ทำไมต้องทำแบบนี้กับลูกด้วย

“ผมมีหลักฐานแน่” โบแวเอาแบบที่เขาเพิ่งส่งเข้าให้พ่อออกมา แล้วเอาไฟฉายแสงยูวีส่องกระดาษ เห็นลายเซ็นของโบแวปรากฏขึ้น ก่อนมองหน้าพ่ออย่างสะใจ “ผมจะไปเปิดเซฟแล้วแจ้งความพ่อขโมยงานผม ผมทำสำเนานภาพไว้ในคอมพิวเตอร์ว่าทั้งหมดนี่แหละ พ่อเอาไปจากบ้านของผม”

“นี่แกไม่ไว้ใจฉันถึงขั้นทำกระดาษแบบนี้ขึ้นมาเลยเหรอ” ฌากถามลูกชายอย่างหงุดหงิด

“เปล่า ผมไม่ไว้ใจรีอา” โบแวบอกตามตรง

“หยุดเถอะ โบแว แม่ขอร้อง ใจเย็นๆ กันก่อนได้ไหม” มอร์กานถอนหายใจยาว

โบแวเมินหนาไม่มองพ่อ ส่วนฌากก็โดนภรรยาห้ามไม่ให้พูดมาก

โบแวนึกขึ้นได้ จึงถามอย่างสงสัย “แม่มาที่นี่ได้ยังไงครับ”

“มีคนโทรไปบอกว่าพ่อของลูกอาจก่อปัญหาได้ นี่มันเกี่ยวกับที่พ่อเขาเข้าไปในห้องทำงานของลูกเมื่ออาทิตย์ก่อนใช่ไหม” มอร์กานถามแนวสืบสวน

“ใช่สิครับ ผมไม่คิดเลยว่าพ่อจะตามช่างมางัดเซฟผม ดีจริงๆ ทำได้ดีมากจริงๆ” โบแวประชดพ่อของตัวเอง

“แกก็แค่เลิกกับนังกาฝากนั่น” ฌากย้ำจุดยืนเขาเสมอ

“ไม่เลิก คิดว่าพ่อจะบังคับให้ผมเลิกกับพีชได้เหรอ ฝันไปเถอะ อีกอย่างผมไม่จำเป็นต้องเลิก เพราะผมกับพีชไม่ได้คบกัน” โบแวพูดตามตรง ก่อนถามให้แน่ใจ “ตกลงพ่อจะไม่ยอมคืนให้ผมแน่นอนแล้วใช่ไหม ก็เตรียมเจอทนายของผมก็แล้วกัน ผมจะขายหุ้นในราฟาแร็งซะ”

โบแวไม่เพียงขู่ เขายังห้ามแม่พูดขึ้นอีก “สิ่งที่พ่อทำมันเกินรับได้จริงๆ ผมจะไม่ทะเลาะกับพ่ออีกแล้ว ต่อไปนี้ให้เป็นเรื่องของกฎหมายก็แล้วกัน แม่ไม่ต้องพูดแล้ว ผมผิดหวังในความโง่ของพ่อมากๆ”

“ใจเย็นๆ สิ โบแว” มอร์กานพยายามให้ลูกใจเย็น

ฌากรู้สึกว่ารอบนี้ลูกดูสุขุมผิดปกติ แล้วได้แต่มองลูกเดินออกไปจากห้องทำงาน โดยไม่พูดอะไรกับโนอาหรือรีอา ไม่สนใจอะไรเลยสักอย่าง เดินออกไปอย่างหงุดหงิด แต่พยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้

มอร์กานยกมือขึ้นปิดหน้า ก่อนหันมามองสามี “คุณรู้ตัวไหมว่าคุณทำอะไรลงไป”

“ก็แค่ต้องการให้มันเลิกติดต่อกับยัยนั่น” ฌากบอกเหตุผลของเขา

“ด้วยการทำให้ลูกผิดหวังในตัวคุณมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างนั้นเหรอ ฌาก คุณเป็นพ่อเขานะ คุณสมควรทำตัวเป็นผู้ใหญ่กว่าเขา อีกอย่างพีชเป็นคนดี เขาแค่ไม่ประจบคุณไม่ได้แปลว่าเขาเป็นคนเลว เชื่อคำพูดคนชั่วมากไป แบบนี้คุณจะเสียลูกไปนะ” มอร์กานเข้าใจเหตุการณ์ดี คาดว่าฌากคงบ่นให้โนอากับรีอาฟัง ทั้งสองเลยอยากยั่วโมโหโบแวด้วยการเป่าหูฌาก

“ฉันจะไปพูดให้ลูกใจเย็น เอางานมาคืนโบแวด้วย” มอร์กานบอกเล่าแล้วถอนหายใจ

“ไม่ จนกว่ามันจะเลิกกับนั่งนั่น” ฌากกอดอกแล้วถือดี

“ฌาก คุณต้องการจะเสียลูกไปจริงๆ ใช่ไหม” มอร์กานย้อนถาม เห็นท่าทางดื้อดึงของเขาแล้วก็เดินออกไปจากห้อง โดยไม่พูดอะไรอีก

ฌากได้แต่นิ่งคิด แต่ก็ไม่รู้จะหาหนทางไหนให้ลูกชายแยกจากผู้หญิงที่เขาไม่ชอบหน้า หรือจะจ้างคนไปอุ้มหายดี แต่โบแวคงเดาได้อีกว่าเป็นฝีมือเขา จะเอาเงินซื้อเพลิงฟ้าก็ทำไม่ได้อีก

เขาจะทำยังไงดี...

************************

เหนื่อยจัด...

เธอไม่ต้องรีบไปทำรับงานก็ถือเป็นความโชคดี แต่ไปอเมริกากับเขาสองอาทิตย์เป็นเรื่องที่ทรหดสิ้นดี เช้าไปคุยงาน บ่ายไปดูงาน เย็นไปออกงาน เป็นอย่างนี้ทุกวัน แต่ได้ข่าวจากแจ็คเกอลีนแล้วก็รู้ว่าเขาจ่ายค่าจ้างคุ้มค่า

วันนี้อยากนอนแต่งานของปิแยร์ก็ด่วนอีกเช่นเคย เธอกำลังไล่อ่านตรวจทานก่อนทำงาน ดูเทรนดูสีให้เรียบร้อย เพราะไม่ต้องการให้ใครว่าเธอทำงานมักง่าย แล้วอาทิตย์หน้าต้องไปเดินแบบให้อีกชีรักอีกงาน แล้วก็มีงานถ่ายโฆษณาเครื่องสำอางอีก แค่นี้ก็ถือว่างานรัดตัวแล้ว ดูเหมือนฌากจะพยายามไม่ให้เธอได้งานในยุโรป แต่แจ็คเกอลีนก็หางานให้เธอได้ที่อเมริกากับจีน ซึ่งเธอก็ต้องลางานอีก ทำให้ต้องคิดแล้วว่าอาจจะต้องลาออกจากงานในอนาคต

จะว่าไปก็คืองานในฝันของเธอ เมื่อตอนอยู่เมืองไทย ก่อนเกิดเรื่องต่างๆ ที่นั่น

เสียงกระแทกประตูห้องทำงานของเธอดังเสียงจนเธอตกใจ หันไปเห็นโบแวเปลือยอกและกำลังเมาเดินเข้ามา เธอก็ต้องวางงานลงแล้วมองเขา เขาขว้างขวดเหล้าเข้าใส่กำแพง แล้วเตะโต๊ะอย่างแรง เขาไม่แสดงท่าทีที่บริษัทมากถือว่าเขาก็พัฒนาตนเองได้ระดับหนึ่ง ตอนแรกตั้งใจจะไปเที่ยวแต่อยากพาเพลิงฟ้าไปด้วย จะได้คลายเครียดจากเรื่องยุ่งๆ ของพ่อ หากพอถึงบ้าน เขาก็ดื่มเหล้าจากตู้แล้วหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ

“เกิดอะไรขึ้นคะ” เพลิงฟ้าตกใจเมื่อเขาอาละวาดในห้องไม่หยุด สักพักเขาก็หยุดนิ่งแล้วกระแทกลงนั่งที่เก้าอี้นวมที่เขาเอามาตั้งไว้เพื่อนั่งออกแบบเสื้อผ้า

“ขอโทษ แต่มันโมโหจริงๆ” โบแวถอนหายใจยาว

กลิ่นเหล้าคลุ้งไปทั่วห้อง เขาก็ยังนิ่งครุ่นคิดแล้วผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพลิงฟ้าเดินไปหยิบน้ำอุ่นมายื่นให้เขา ก่อนนั่งลงอยู่ข้างๆ ปล่อยให้เขานิ่งคิดเองอยู่นาน โดยที่ไม่ลุกไป

เพลิงฟ้าก็นั่งเป็นเพื่อนอยู่พัก เห็นเขาจมอยู่กับความคิดของตัวเอง เธอก็ลุกไปจัดการงานที่จะส่งในวันรุ่งขึ้น แต่เขาก็ดึงเธอไว้ให้นั่งข้างๆ ถอนหายใจหลังสงบสติได้

“ฉันคิดว่าเธอคงไม่รู้ใช่ไหมว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนพ่อฉันทำอะไรที่ชั้นล่าง” โบแวไม่รู้จะเริ่มเล่ายังไง เรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้วแก้ไม่ได้

เขารู้ว่าแม่ก็ไม่อยู่บ้าน เพลิงฟ้าก็ทำงานอ่านหนังสืออยู่ในห้องชั้นบน พอเขากลับมาจากข้างนอกมาดามโบวิเย่ว์ก็เข้ามาบอกว่าพ่อเขาเอาช่างมาทำอะไรสักอย่างในห้องทำงานเขา เขาไม่ได้สนใจมากนักจนกระทั่งวันนี้ เพราะวันนั้นเขากับพ่อก็ไม่เจอกันเลย และพ่อกลับไปนอนบ้านตัวเองตลอด

“เกิดอะไรขึ้นคะ” เพลิงฟ้าต้องถามซ้ำอีกรอบ

“มันแย่มากตอนรู้ว่าโดนพ่อปล้นความคิด” โบแวบอกสั้นๆ แล้วก็โกรธมากขึ้นไปอีก ก็หันไปคว้าโคมไฟจะขว้างแต่เพลิงฟ้ารีบห้าม

“ใจเย็นๆ ค่ะ ข้าวของเสียหายก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้หรอกนะคะ” เพลิงฟ้ารีบห้าม แอบถอนหายใจที่เขาระบายอารมณ์ด้วยการทำลายสิ่งของ

“พ่อทรยศฉันด้วยการให้ช่างมาเปิดเซฟที่ฉันเก็บแบบเสื้อผ้าไว้ ขนไปหมดแม้แต่ของชีรัก แล้วแม่ก็ยังเข้าข้างพ่อ พ่อจะเปิดแสดงผลงานในนาม ‘Black & Color & White’ แต่กลับมาขนเอางานทุกชิ้นของฉันไป แล้วบอกว่าทุกอย่างที่ฉันออกแบบจะต้องเป็นของราฟาแร็ง มีไอ้โนอากับรีอาลอยหน้าลอยตาอยู่ด้วย” โบแวหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“เฮ้อ แล้วคุณจะทำยังไง” เพลิงฟ้าถามมากกว่าแสดงความเห็น เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัวที่เธอจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง

“ฉันจะส่งทนายไปฟ้อง” โบแวเอาจริงเอาจังและได้ปรึกษาทนายความไว้แล้ว

“โบแว คุณจะฟ้องพ่อตัวเองเลยเชียวเหรอ” เพลิงฟ้าถามอย่างแปลกใจ

“พ่อบอกเองเป็นเรื่องธุรกิจ ก็ได้ ธุรกิจก็คือธุรกิจ” โบแวตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

“ไม่รอให้หายเมาและโมโหก่อนค่อยตัดสินใจล่ะคะ” เพลิงฟ้าเตือนสติเขา

“ไม่ล่ะ พ่อทำเจ็บแสบมาก นังรีอาคงบอกให้พ่อพาช่างมาขโมยงานของฉันไปหมด ครั้งหน้าฉันจะเอาไปฝากธนาคาร ดูสิว่าใครจะกล้าไปปล้นมาอีก ดีที่มีกล้องวงจรปิดอยู่เต็มบ้าน ฉันมีหลักฐานว่าพ่อขโมยของฉัน โดนดีแน่ ฉันจะยกเลิกสัญญากับราฟาแร็งแล้วทำงานของฉันเต็มที่ จะเอาเลอาออกจากหุ้นส่วนด้วย เข้าข้างพ่อดีนัก” โบแวไม่ได้มีท่าทีเหมือนเด็กถูกขัดใจอีกแล้ว เขากำลังคิดบางอย่าง

“โบแวคะ ฉันรู้ว่าคุณโกรธพ่อคุณมาก แต่คิดบ้างไหมว่า คุณเป็นอัจฉริยะด้านนี้ ความคิดจะหลั่งไหลออกมาเรื่อยๆ เชื่อฉันเถอะ คุณคิดงานได้เรื่อยๆ แต่คุณโกรธพ่อไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอก ดูอย่างฉันสิ โกรธกับแพร์มาเจ็ดปี สุดท้ายฉันก็ต้องคืนดีกับเขา เพียงแต่ยังติดนิสัยพูดหยาบคายกับเขาอยู่” เพลิงฟ้าเปรียบเทียบให้เขาฟัง

“พ่อต้องการให้ฉันเลิกกับเธอแล้วไปคบกับแอนน์อย่างจริงจัง” โบแวบอกในตอนท้าย เผื่อเพลิงฟ้าจะโกรธ

เพลิงฟ้ากลับหัวเราะ แต่ก็รู้ว่าเขาโกรธเพราะโดนขโมย ที่โกรธยิ่งกว่า คงเป็นเรื่องโดนบังคับให้ทำโน่นทำนี่มากกว่า ไม่ใช่เพราะต้องเลิกกับเธอ แต่เพราะเขาชอบทำตามใจตัวเองมากกว่า

“หัวเราะอะไร เธอกำลังจะโดนเขี่ยไปจากชีวิตฉันนะ” โบแวถามแล้วขมวดคิ้ว

“ฉันรู้ว่าคุณโกรธที่โดนบังคับ ไม่ใช่เพราะต้องเลิกกับฉัน” เพลิงฟ้าบอกในที่สุด

“ไม่คิดเหรอว่าฉันอาจจะรักเธอเข้าจริงๆ จึงโกรธที่พ่อพยายามบังคับฉันก็ได้” โบแวย้อนถาม

“รักเหรอคะ รักจริงๆ เหรอคะ” เพลิงฟ้าถามออกแนวขำมากกว่า

“ไม่ใช่เรื่องตลก ผู้หญิงทุกคนก็อยากได้ความรักจากผู้ชายไม่ใช่เหรอ” โบแวย้อนถาม เพราะตอนนี้พ่อแม่เขาก็กลับมาสนิทกันมากขึ้น

“ใช่ค่ะ แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เอาค่ะ เรื่องจะไปบีบบังคับให้ได้มานี่ ฉันไม่ทำแน่นอนค่ะ เพราะมันก็แค่หลอกตัวเอง ไม่ใช่ความจริง ถ้าฉันอยากได้ความรัก ฉันต้องการความรักจริงๆ ไม่ใช่แค่หลอกตัวเองไปวันๆ ถ้าหาไม่เจอ ฉันยอมรักพระเอกในนิยายของฉันต่อไปดีกว่า” เพลิงฟ้าบอกแล้วไม่ใส่ใจนัก

โบแวไม่พูดอะไรต่อ เขารู้สึกว่าปล่อยให้ทุกอย่างวุ่นวายเกินไปแล้ว ก่อนสรุปและตัดสินใจในที่สุด “เอาล่ะ ฉันจะไม่ฟ้องพ่อฉัน แต่ฉันจะขู่ให้พ่อเอางานออกแบบคืนมา แล้วถอนตัวออกจากราฟาแร็ง ไปทุ่มเทงานกับชีรักให้เต็มที่”

“ดีมากค่ะ งั้นฉันขอไปทำงานต่อก่อนนะคะ” เพลิงฟ้าลุกขึ้นจะเดินไปทำงาน แต่โดนเขาลากมานั่งตัก

“ช่วยฉันคลายเครียดก่อน แล้วฉันจะปล่อยไปทำงาน” โบแวบอกแล้วยิ้ม ก่อนนึกขึ้นได้ “เราไปเที่ยวนิวซีแลนด์กันเถอะ ฉันอยากเล่นเกมผาดโผนโต้คลื่น”

“คุณก็รู้ว่าฉันมีงานต้องทำอีกเยอะ” เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว จะให้เขาลากไปในที่ต่างๆ ตามใจเขาก็เป็นเรื่องยาก

“ลาออกแล้วคอยตามฉันไปทุกที่ ฉันจะจ่ายเงินเดือนให้เธอเอง” โบแวยื่นข้อเสนอให้เธอ

“ถ้ามีใครสั่งไม่ให้คุณทำงาน แล้วคอยตามเขา คุณจะทำไหมคะ” เพลิงฟ้าถามเขาแทนการปฏิเสธ

“โอเค งั้นฉันไปเที่ยวคนเดียวก็ได้ ดีไม่ดี เจอผู้หญิงอื่นจะหิ้วกลับมาด้วย” โบแวแกล้งพูดประชด

“บอกฉันก่อน ฉันจะได้ไปหาที่อยู่ใหม่” เพลิงฟ้าพยายามรักษาสีหน้าไม่ให้หวั่นไหว

โบแวเห็นแล้วก็จูบเธอโดยไม่พูดอะไรอีก อุ้มเธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ “ช่างเถอะ ไปคลายเครียดกัน แล้วฉันจะวางแผนเคลียร์สมองแล้วค่อยมาต่อสู้กับพ่อฉันอีกที”

“ขอร้องล่ะค่ะ ขอให้ฉันได้กลับมาทำงาน เดี๋ยวงานไม่เสร็จ” เพลิงฟ้าบอกแล้วก็ต้องยอม เพราะเขาอุ้มไว้สูง

“แล้วแต่เธอละกัน คิดว่าคงไม่กี่ชั่วโมงหรอกนะ” โบแวพูดแล้วก็หัวเราะ พาเพลิงฟ้ากลับไปที่ห้องนอน และคลายเครียดกันอย่างมีความสุข

มอร์กานรีบตามมาหวังกล่อมให้ลูกชายคลายความโมโห จึงได้ยินลูกชายกำลังคุยกับเพลิงฟ้า ทำให้รู้ว่าทุกอย่างคลี่คลายลงแล้ว และเพลิงฟ้าก็ไม่พูดถึงฌากในทางที่เสียหาย เท่านี้ก็รู้แล้วว่าเนื้อแท้ของเพลิงฟ้าถือว่าใช้ได้ เพียงแต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าลูกชายจะจริงจังกับหญิงสาวคนนี้แค่ไหน

************************

เสียงเคาะโต๊ะดังขึ้นเป็นจังหวะ ปัญหาครอบครัวเป็นปัญหาที่น่าหนักใจสำหรับเธอ หลังจากที่สุขภาพแข็งแรงพอที่จะมาทำงานได้แล้ว มอร์กานหนักใจเรื่องปัญหาระหว่างสามีกับลูกชายมากที่สุด ยิ่งตอนนี้ฌากเอาเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ทำให้เธอปวดหัวและปวดใจมากขึ้น

ปัญหาไม่ใช่เพลิงฟ้า...จะแก้ปัญหานี้ได้ก็ต้องแก้ที่สองพ่อลูกอีก และตอนนี้ก็ไม่รู้จะแก้ยังไง ถึงโบแวจะปล่อยทุกอย่างแล้วไม่เอาเรื่องพ่อ แต่ก็หายหน้าไป ถามเพลิงฟ้าก็ไม่รู้เรื่อง บอกแต่โบแวไปเที่ยว คิดว่าคงไปเคลียร์สมองมากกว่า

เสียงเปิดประตูดังขึ้นหลังจากเคาะเตือนแล้ว เพลิงฟ้าเปิดประตูเข้ามาด้วยหน้าที่แต่งแต้มไว้เต็มที่ แสดงว่าเพิ่งกลับมาจากกงานถ่ายแบบ ถึงฌากจะไม่เรียกใช้เพลิงฟ้า แต่ก็ไม่ถึงกับใส่ร้ายป้ายสีไป แค่แสดงท่าทีไม่ปลื้มเท่านั้น อีกทั้งแจ็คเกอลีนก็มีความสามารถในการหางานของหล่อน เพื่อขายสินค้าชั้นดี

“สวัสดีค่ะ มีอะไรคะ” เพลิงฟ้าออกจะแปลกใจ เพราะเมื่อวานมอร์กานก็ไม่ได้บอกอะไร แต่วันนี้โทรไปเรียกเธอมาพบที่สำนักงาน โดยบอกให้มาในฐานะพีโอนี่ ทำให้ประหลาดใจอย่างเหลือเชื่อ

“เข้าประเด็นเร็วดี ฉันอยากให้เธอไปดูงานที่เมืองไทย ถ้าการเจรจาเป็นไปได้ด้วยดีนะ” มอร์กานถอนหายใจยาว ก่อนบอก “ไม่ใช่ฉันอยากจะแยกเธอกับโบแวหรอกนะ แต่ตอนนี้ฉันยังแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ อีกอย่างเธอก็ไม่ได้กลับบ้านมานานแล้วนี่ และเธอก็คล่องกับเรื่องที่นั่นมากกว่า ฉันจะส่งมารีไปด้วย จะได้เข้าใจวัฒนธรรมพื้นฐานของที่นั่น จริงๆ มารีก็ไปเมืองไทยบ่อยเหมือนกัน ที่นั่นมีลักษณะแฟชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ ถึงตอนหลังๆ จะรับเอาวัฒนธรรมของที่อื่นไปเสียเยอะก็เถอะ”

“ฉันเข้าใจค่ะ” เพลิงฟ้ารู้ว่ามอร์กานเป็นเจ้านายที่ดี ถึงบางทีจะเย็นชาไปบ้าง แต่ลึกๆ แล้วมอร์กานเข้าใจทุกอย่างดีมาก เธอจึงไม่มีความจำเป็นต้องมองมอร์กานในแง่ร้าย

“โบแวติดต่อมาบ้างไหม” มอร์กานเป็นห่วงลูกชายที่ตอนนี้นิ่งเสียจนน่ากลัว

“ไม่ค่ะ” เพลิงฟ้าบอกตามตรง เธอไม่จำเป็นต้องโกหก

“ไม่รู้สึกร้อนรนเลยเหรอ เขาหายไปแบบนี้” มอร์กานถอนหายใจ

เรื่องอะไรก็ปล่อยวางได้ แต่เรื่องลูกๆ เป็นเรื่องที่ปล่อยไว้ไม่ได้เลยทีเดียว

เลอาก็ร้ายให้คนทำลายชื่อเสียงของเพลิงฟ้าไปเสียหมด มอร์กานต้องให้คนคอยช่วยเหลือเพลิงฟ้าอยู่ลับๆ เพราะรู้ดีกว่าเด็กคนนี้เป็นคนดีและรักสงบคนหนึ่ง แต่ถ้าวันหนึ่งถึงจุดเดือดคาดว่าจะร้อนได้ไม่แพ้ลูกชายเลยทีเดียว เพราะรับรู้เรื่องภายในสำนักงานที่ไม่มีใครยอมบอก แต่เธอก็มีสายสืบ จึงรู้เรื่องทุกอย่าง

“ไม่ค่ะ” เพลิงฟ้าฝืนพูด เพราะไม่อยากให้มอร์กานเข้าใจผิด

แรกๆ มันก็ทรมาน อยากโทรหา แต่ก็รู้ว่าโทรไปยิ่งทำให้โบแวเข้าใจผิด หลายครั้งที่มือถือโทรศัพท์แต่ไม่กล้าพอจะโทรไป

“เขาต้องการเวลาคิดค่ะ ฉันก็เลยไม่กล้ารบกวน” เพลิงฟ้าบอกอ้อมๆ เพราะเธอก็คิดแบบนั้นจริงๆ

“แล้วไม่คิดบ้างเหรอว่า เขาอาจจะไปเจอผู้หญิงอื่น” มอร์กานถามอ้อมๆ เพราะรู้ว่าเลอาทำอะไรลงไป

“ไม่คิดค่ะ ถ้าเขาจะมี ฉันก็คงห้ามไม่ได้ อย่างที่คุณรู้ โบแวเป็นผู้ชายที่บังคับไม่ได้ค่ะ” เพลิงฟ้าบอกอย่างปลงๆ เอาเข้าจริงตอนนี้เธอก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

“นั่นสินะ” มอร์กานถอนหายใจก่อนเรียกมาคุยเรื่องรายละเอียดงานตามที่ต้องไปทำงาน และเรียกมารีมาด้วย

ตอนนี้ได้แต่ปล่อยให้สิ่งที่เกิดขึ้นทดสอบความรู้สึกของทั้งสอง บางทีอาจไม่เป็นอย่างที่ฌากและเลอาคิดไปเสียหมด เพราะสุดท้ายแล้ว ทั้งสองคนก็เป็นคนที่ใครก็ไม่สามารถบังคับให้อยู่ด้วยกันได้แน่นอน

************************

เสียงถอนหายใจดังขึ้นชัดเจน เมื่อเลอาส่งคนขับรถไปรับเธอที่บ้าน ทั้งที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเจอเลอากับพ่อของหล่อน หากดูเหมือนสองคนนี้จะไม่มีวันเลิกยุ่งกับเธอ ตราบที่เธอยังอยู่กับโบแว

ไม่รู้ทำไมทุกคนต้องเข้าใจว่าเธอกับเขาคบหากัน แม้แต่เธอยังไม่รู้เลยว่าคบกับโบแวแบบไหน ไม่ใช่เพื่อนและไม่ใช่คนรัก และคงไม่ใช่กิ๊กเพราะถือว่าอยู่อาศัยร่วมกันแล้ว เมื่อวานเขาโทรมาบอกให้เธอสบายใจได้ว่าเขายังคงเที่ยวอยู่ แต่ไม่พูดรายละเอียดอะไรมากนัก หลังจากเงียบไปเป็นเดือนที่เธอไม่กล้าโทรหาเขา แต่ก็พอใจที่เขาโทรมาบอก มากกว่าปล่อยให้เธอรอคอยด้วยความเป็นห่วง

ตอนนี้เธอได้แค่ครุ่นคิดแล้วว่าเลอาเรียกเธอมาบ้านของหล่อนเรื่องอะไร พอลงจากรถแล้วก็มีคนนำทางไปยังห้องของเลอากับสามี เห็นสามีเลอานั่งอยู่กำลังคุยกับเลอาเล็กน้อย ก่อนขอตัว

“มาก็ดีแล้ว ฉันไม่สามารถลากสังขารไปหาเธอได้เพราะสิ่งที่เธอทำ” เลอายังคงโทษทุกอย่างไปที่เพลิงฟ้าเสมอ

“คุณต้องการอะไร” เพลิงฟ้าไม่พูดมาก ดูเหมือนสามีของเลอาจะไม่ชอบหน้าเธอด้วย เพราะหลบฉากไปเร็วมาก

เลอาพยักหน้ากับคนดูแลแล้วคนดูแลก็โยนหนังสือพิมพ์ลงที่พื้นให้ ทำเอาเพลิงฟ้ามีอารมณ์พุ่งขึ้นด้วยความโกรธ แต่ก็พยายามสะกดอารมณ์แล้วเปิดดูข่าวด้านในทีละหน้า เห็นภาพโบแวกอดจูบกับผู้หญิงคนหนึ่ง มีข่าวว่าเขาอยู่ที่ฟิจิกับเธอ และเธอคือลูกสาวของนักออกแบบอีกแบรนด์หนึ่ง ทำให้คนตีข่าวว่าสองยี่ห้อดังนี้กำลังจะรวมตัวกัน

ใจของเพลิงฟ้าเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกถึงอารมณ์บางอย่าง และสะกดอารมณ์ลงให้สงบก่อนพูดกับเลอา

“แค่นี้เหรอคะ ที่เรียกมาคุย” เพลิงฟ้าบอกแล้วเอาหนังสือพิมพ์วางบนเตียงของเลอา

“ใช่ เธอจะได้ฉลาดเสียทีแล้วไปให้พ้นจากชีวิตเขา เธอมีแต่จะลากเขาให้ต่ำลงเรื่อยๆ” เลอายิ้มเยาะ เพราะสีหน้าของเพลิงฟ้ายังแสดงออกชัดว่าใจเสียอยู่มาก

“ค่ะ ขอบคุณที่แนะนำ ขอตัวก่อนนะคะ” เพลิงฟ้าหันหลังแล้วไม่รอให้เลอาพูดอะไรอีก เพราะเห็นรอยยิ้มเยาะเย้ยจากอีกฝ่ายชัดเจน

เมื่อออกมาข้างนอก เพลิงฟ้าก็เดินออกมาจากระยะทางที่แสนไกลจนถึงถนนใหญ่ เดินทอดน่องไปเรื่อยๆ เหมือนเวลาระหว่างเขาและเธอจะจบลงแล้ว เธอถอนหายใจเมื่อกำลังรอรถเมล์ และมีสายเข้า

“ว่าไงโนรา” เพลิงฟ้ารู้เลยว่าเป็นใคร เพราะเบอร์โทรก็แสดงอยู่

“ว่างจ๊ะ ไปเที่ยวกันไหม” โนราหาเวลาว่างได้ในที่สุด

“ไปสิ ไปไหนล่ะ” เพลิงฟ้าขึ้นรถเมล์แล้วก็คุยกับโนรา เพื่อนัดแนะอีกเล็กน้อย แล้วตรงไปยังห้างที่โนรานัด แล้วดูเหมือนโนราจะไปถึงก่อนเธอเสียอีก พอไปถึงร้านกาแฟชื่อดัง เธอก็ตรงไปหาโนรา

“กาแฟดำเข้มน้ำตาลน้อย” โนราส่งกาแฟให้ เห็นสีหน้าเพลิงฟ้าไม่ค่อยดีเท่าไร ก็ถาม “มีอะไรเหรอ”

“เปล่า ช่วงนี้เครียดเรื่องงานน่ะ” เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว ก่อนปรับท่าที “ตกลงว่าไง จะซื้ออะไรบ้างจ๊ะ นางแบบคนสวย”

“อยากได้พีชมากกว่าน่ะสิ” โนราพูดจีบแบบไม่ต้องอาย

“เธอไม่ต้องการผู้ชายแล้วเหรอ” เพลิงฟ้าพูดแล้วก็ยิ้มให้ ก่อนที่โนราจะตอบก็ตัดบท “ช่างเถอะ เดี๋ยวเราช็อปปิ้งดีกว่า ฉันก็ไม่ได้ซื้ออะไรมานานแล้ว”

“โบแวซื้อให้ตลอดเลยเหรอ” โนราถามแล้วทำท่างอนเล็กน้อย

“โบแวซื้อแต่สิ่งที่เขาอยากเห็น อยากให้ฉันเป็นเท่านั้นแหละ ไม่เหมือนเธอหรอกโนรา มาเถอะ เราไปซื้อเสื้อผ้าเถอะ” เพลิงฟ้าชวนโนราที่เข้ามากอดแขนสนิทสนม

“นีกอลายังติดต่อเธออยู่ไหม” โนราถามจะได้รู้ว่ามีคู่แข่งอีกอยู่หรือเปล่า

“ก็โทรมานะ อาทิตย์ละครั้งค่าโทรทางไกลมันแพง สุดท้ายเขาก็เข้าสังคมออนไลน์ส่งข้อความมา แต่ฉันก็ไม่ค่อยได้เข้าเท่าไรหรอก” เพลิงฟ้าบอกอย่างไม่ใส่ใจนัก จึงเดินเล่นไปเรื่อยๆ ตอนนี้เธออยู่ในสภาพเดิม สภาพยัยเฉิ่มที่ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งทำ

“ถ้าเลิกกับโบแว เธอย้ายมาอยู่กับฉันไหม ฉันซื้อคอนโดฯ อยู่แล้วนะ ตอนแรกว่าจะไม่ซื้อ แต่เมื่อกลับมาปารีสก็ต้องหาที่อยู่ จากเช่าก็เลยว่าซื้อเลยดีกว่า ยังไงก็คงต้องอยู่ไปอีกห้าหกปี” โนราพยายามกล่อมเพื่อหาหนทางใกล้ชิดแล้วหวังว่าทุกอย่างจะกลายเป็นเหมือนเดิม

“ไว้ก่อนนะ เรื่องโบแวนี่เดี๋ยวก็มีข้อสรุปเอง ฉันว่าเราไปซื้อของให้สบายใจดีกว่านะ” เพลิงฟ้าไม่ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ตอบรับ

“เอานี่ ฉันให้ไว้ก่อนเลย” โนราให้กุญแจแล้วก็บอกที่ตั้งเสร็จสรรพ

“โนรา ฉันไม่คิดว่าจะได้ใช้เร็วๆ นี้ และเธออาจเจอคนที่เธออยากให้เขาอยู่กับเธอมากกว่าฉัน” เพลิงฟ้าไม่อยากรับปาก เพราะไม่รู้อนาคต

“ช็อปปิ้งกันเถอะ” โนราทำเป็นไม่ได้ยิน ชวนเพลิงฟ้าซื้อของอย่างเพลิดเพลิน

เพลิงฟ้าได้แต่ตามใจแล้วไม่พูดอะไรที่จะทำให้ทุกอย่างเลวร้ายไปอีก ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติเพราะเธอไม่อยากเร่งรัดอะไรอีกแล้ว

************************

^^ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

ตอบคอมเม้น

home.love-stories.net
คุณ konhin : เอลยังไม่เข็ดค่ะ นางยังไม่หายไปไหน เดี๋ยวนางกลับมาอีกค่ะ

fictionlog.co
คุณม่อนม่อน : มาแล้วค่ะ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ก.ย. 2561, 13:04:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.ย. 2561, 13:04:50 น.

จำนวนการเข้าชม : 801





<< Designer's desire By คชสีห์ 17   Designer's desire By คชสีห์ 19 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account