กลรักนักดีไซน์
...โบแว...หนุ่มฝรั่งเศสเอาแต่ใจรักการออกแบบเสื้อผ้าเป็นชีวิตจิตใจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ
...เพลิงฟ้า...สาวไทยหนีไปอยู่ปารีส
...เรื่องของคนเอาแต่ใจกับคนชอบตามใจมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น...
Tags: รักลวง อิสระ

ตอน: Designer's desire By คชสีห์ 19

กลรักนักดีไซน์ (Designer's desire By คชสีห์) 19

สายตาเหม่อมองเส้นขอบฟ้าไกลตัดกับน้ำทะเลสีเข้ม บอกไม่ถูกเลยว่าทำไมพ่อถึงต้องทำขนาดนี้ เพื่อแยกเขากับเพลิงฟ้า เขานั่งอยู่บนกระดานโต้คลื่น แล้วถอนหายใจยาว ไม่มีใครสนับสนุนให้เขาฟ้องพ่อตัวเอง ทีนี้เขาก็ต้องมานั่งคิดว่าจะเอายังไงต่อไป หลังจากเอาพี่สาวออกจากชีรักเรียบร้อยแล้ว แม้เลอาจะงอน แต่เขาไม่อยากขาดอิสระในการตัดสินใจ จึงให้เป็นเพียงหุ้นส่วน แล้วไม่ต้องทำอะไรเลยแทน

เขากำลังรอคลื่นลูกพอเหมาะ จึงได้แต่สงบใจมองฟ้าและน้ำไปเรื่อยๆ เมื่อคลื่นลูกนั้นมาถึง เขาก็เตรียมตัวแล้วปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ร่างกายบังคับ เขาแตะเกลียวคลื่น และมีผู้หญิงคนหนึ่งตามเขามาติดๆ ก่อนเคลื่อนผ่านเขาไป ขณะที่เขาพยายามรักษาการทรงตัวค่อยๆ บังคับกระดานโต้คลื่นไม่ให้ล้มแล้วกลับเข้าฝั่งอย่างสวยงาม

กระดานโต้คลื่นสีชมพูสดใสพอๆ กับเจ้าของเส้นผมสีแดงที่เข้ามาทักทายเขา ต่างก็มองหน้ากันแล้วยิ้มให้กันเล็กน้อย และทำให้โบแวนึกสะกิดใจว่าเคยเห็นหน้าหล่อนที่ไหน ก่อนนึกขึ้นได้

“โรซารีนเหรอครับ” โบแวถามขึ้นอย่างสุภาพ

โรซารีนหัวเราะน้อยๆ “รู้ได้ยังไงคะ”

“จำได้สิ ก็พ่อคุณทำธุรกิจแข่งกับพ่อผมนี่นะ” โบแวบอกตามตรงโดยไม่ต้องกลัวเธอโกรธ

โรซารีนยิ่งหัวเราะเข้าไปใหญ่ ก่อนพูดอย่างมีจริต “เราแค่ทำธุรกิจคล้ายกัน ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกันนี่คะ ต่างคนต่างก็ทำงานของตัวเองไป แค่นี้ก็ไม่มีเรื่องขัดแย้งอะไรแล้ว”

โบแวฟังแล้วก็พยักหน้า “นั่นสิครับ แต่คุณเล่นเซิร์ฟเก่งมากนะครับ”

“พรุ่งนี้ฉันจะไปเล่นอย่างอื่นอีกค่ะ ถ้าคุณสนใจไปด้วยกันก็ได้ แต่ถ้าคุณกลัวผู้หญิงที่ชอบกีฬาผาดโผนอย่างฉันล่ะก็ ก็ไม่เป็นไรค่ะ” โรซารีนยิ้มที่มุมปากเป็นเชิงท้าทาย

โบแวเห็นแล้วก็ยิ้ม พูดอย่างมีชั้นเชิง “ถ้าคุณให้เบอร์ติดต่อผม บางทีผมอาจโทรไปเพื่อถามรายละเอียดและตามไปก็ได้”

“ฉันก็ไม่มีปากกาด้วยสิคะ คุณบอกมาสิว่าพักที่ไหน เดี๋ยวฉันจะโทรไปหาที่โรงแรม” โรซารีนได้เห็นโบแวใกล้ๆ ก็รู้เลยว่าทำไมเขาถึงมีชื่อเรื่องความสวยมากกว่าความหล่อ น่าจะสวยเหมือนพ่อเขา

โบแวบอกที่พักแล้วก็ขอตัวไปเล่นอีกหลายรอบ เขาโต้คลื่นจนผิวเขาสีเข้มขึ้นแล้ว บอกได้เลยว่าเขาพอใจมากกับชีวิตตอนนี้ เขามองไปที่ชายหาดแล้วเห็นผู้คนมากมาย จากนั้นเขาก็หันหน้าออกทะเลโดยไม่กลัวสิ่งที่ต้องเผชิญหน้า หากหญิงสาวคนเดิมก็เอากระดานโต้คลื่นมาอยู่ข้างๆ เขาก็แค่ยิ้ม

แววตาทั้งสองต่างก็ท้าทายกันและกัน และต่างก็รอดูว่าอีกฝ่ายจะจับคลื่นประเภทไหน สักพักก็ออกไปไกลอีก รอคลื่นลูกใหญ่ที่กำลังจะมา ความประทับใจที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่ที่การตัดสินใจว่าจะแตะคลื่นลูกไหนเท่านั้น

***********************

สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่สามารถห้ามความสงสัยได้อีก เมื่อตามหาข่าวแล้วมีข่าวอยู่เต็มไปหมด ใจเธอไม่ค่อยดีนัก แม้แต่ในนิตยสารของมอร์กาน เธอจึงโทรหาเขา

หากคนรับกลับเป็นผู้หญิง “ฮัลโหล”

“ขอสายโบแวค่ะ” เพลิงฟ้ากลั้นใจถามหาโบแว

“เขาเพิ่งตื่นน่ะ อาบน้ำอยู่ ถ้าไม่มีอะไรเร่งด่วนก็รอเขาโทรกลับนะคะ” ปลายสายตัดบทแล้ววางหูไปเลย ทำให้เพลิงฟ้ามั่นใจว่าโบแวจะไม่โทรกลับมาแน่นอน แต่ความโกรธไม่ได้เกิดจากการที่ผู้หญิงคนนั้นรับสาย กลับเกิดจากบางอย่างเท่านั้น

เพลิงฟ้ารออยู่เกือบชั่วโมง โดยไม่เป็นอันทำอะไร เพราะต้องการคุยกับเขาเท่านั้น สักพักเธอโทรกลับไปอีกครั้งและโบแวเป็นคนรับสาย

“ว่าไง คนสวย” โบแวทักทายแล้วปล่อยมือจากเอวของผู้หญิงอีกคนที่เพิ่งรู้จักและค่อนข้างถูกใจ เพราะนิสัยคล้ายกัน

“ก็ดีค่ะ คุณเห็นข่าวหรือยังคะ” เพลิงฟ้าถามเขาอย่างเรียบง่าย

“ข่าวเหรอ ข่าวอะไร” โบแวถามอย่างงุนงง

“ข่าวคุณกับผู้หญิงอีกคน ผมสีแดง สวยๆ น่ะค่ะ” เพลิงฟ้าไม่ได้บอกละเอีอดนัก

“อ๋อ โรซารีน เธอเป็นลูกสาวเจ้าของเสื้อผ้าน่ะ” โบแวบอกแล้วหาทางตัดบท

“คุณนอนกับเธอแล้วใช่ไหม” เพลิงฟ้าถามเข้าประเด็นที่อยากรู้

โบแวฟังคำถามแล้วก็หงุดหงิด “ถามเพื่ออะไร”

“คุณนอนกับเธอแล้ว” เพลิงฟ้าพูดจบก็กดตัดสายทันที

โบแวขมวดคิ้วแล้วโทรกลับ แต่เพลิงฟ้าปิดเครื่องไม่รับสาย จะโทรหาแม่ก็กระไร เขาหาทางแก้อะไรไม่ได้เลย

มือของเธอสั่นไม่หยุดจนกดปิดเครื่อง และพยายามสงบสติอารมณ์ แต่ก็รู้ฐานะตัวเองว่าไม่ควรถามเขาเรื่องนั้น จากนั้นก็กลับห้องตัวเองแล้วมาดามโบวิเย่ว์ก็มาพร้อมโทรศัพท์บ้าน เธอก็กดตัดสายทิ้ง เพราะรู้ว่าเป็นโบแว

เธอเก็บของของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็โทรไปจองโรงแรมพร้อมเรียกแท็กซี่ จากนั้นก็โทรหามอร์กานที่ทำงานอยู่

“สวัสดีค่ะ มอร์กานคะ ฉันขอลาออกนะคะ ฉันอยากกลับบ้านที่เมืองไทยแล้วค่ะ” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วไม่พอเหตุผล พยายามที่จะไม่ร้องไห้ แล้วเก็บอารมณ์และเสียงที่สั่นเพราะความเศร้าที่กำลังจู่โจม

“ใจเย็นมีเรื่องอะไรเหรอ” มอร์กานถามอย่างงุนงง

เพลิงฟ้าตั้งสติแล้วก็นึกได้ว่าควรโทรหาปิแยร์มากกว่า จึงบอกมอร์กาน “ขอโทษค่ะ ฉันลืมไปว่าต้องโทรหาปิแยร์ แค่นี้ก่อนนะคะ”

“พีช ห้ามกดตัดสายฉันนะ” มอร์กานห้ามเสียงแข็ง

“คะ” เพลิงฟ้าจึงได้สติแล้วหยุดฟัง

“เกิดอะไรขึ้น” มอร์กานถามเมื่อสงบใจได้แล้ว

“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่เบื่อปารีส อยากกลับไปใช้ชีวิตสงบในชนบท” เพลิงฟ้าตัดสินใจไปจากความเจริญที่แสนโดดเดี่ยวนี้แทน

“แน่ใจเหรอว่ามีแค่นั้น เรื่องข่าวของโบแวใช่ไหม” มอร์กานถามตรงจุด ทั้งที่ไม่คิดว่าเพลิงฟ้าจะมีปฏิกิริยาอะไร นี่ก็ถือว่าหลายวันแล้วที่มีการเล่นข่าวแบบนั้น

“ใช่ค่ะ ฉันจะหลีกทางเอง น่าจะดีกับทุกฝ่าย” เพลิงฟ้าบอกเล่า แล้วใจหาย แต่ตัดสินใจแล้ว “แค่นี้ก่อนนะคะ มอร์กาน ฉันจะโทรหาปิแยร์และแท็กซี่ก็มาแล้วค่ะ จะได้ให้คนมาขนเอาคอมพิวเตอร์กลับสำนักงาน พรุ่งนี้ฉันจะไปทำเรื่องลาออก ส่วนเรื่องที่มารีไปเมืองไทย ฉันรับรองว่าจะดูแลเธอเอง”

“เดี๋ยวสิ บอกให้แท็กซี่รอก่อน เธอจะไปพักที่ไหน” มอร์กานไม่ห้าม เพราะรู้ว่าแต่ละคนก็เป็นผู้ใหญ่แล้วเธอก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาต่างๆ ยังไงด้วย”

“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันหาที่พักได้ จองโรงแรมไว้ ระหว่างเดินเรื่องกลับเมืองไทย แค่นี้นะคะ” เพลิงฟ้าบอกลามอร์กานอีกเล็กน้อยก่อนวางสายแล้วโทรหาหัวหน้าโดยตรง

“ทำทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วกัน” ปิแยร์ไม่รู้จะพูดยังไงกับเรื่องนี้ เขาคงได้แต่พูดแบบนี้เท่านั้น

“ค่ะ รับรองค่ะ อืมเดี๋ยวยังไงคงต้องให้ใครมาเอาคอมพิวเตอร์ที่บ้านโบแวนะคะ” เพลิงฟ้าบอกและปล่อยให้เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น

“อืม ลาก่อน” ปิแยร์บอกเพียงแค่นั้นแล้วทำงานของเขาต่อ เขาเป็นมืออาชีพพอที่จะไม่เหนี่ยวรั้งใคร โดยเฉพาะคนที่ต้องการจะไปเองแบบนี้

เพลิงฟ้าทิ้งของที่เขาให้เธอไว้ที่นี่หมด ไม่นำอะไรติดตัวไปนอกจากของของเธอเท่านั้น ขึ้นแท็กซี่แล้วเข้าพักที่โรงแรม จากนั้นก็ปิดประตูห้อง แล้วทิ้งตัวลงที่เตียง ร้องไห้จนค่ำมืด โทรเช็คสายการบินแล้วจองตั๋วในหนึ่งอาทิตย์ เธอก็จะกลับบ้านแล้ว

เธอเห็นสายที่ไม่ได้รับจากโบแว แต่ไม่คิดจะรับ เมื่อเขาโทรมาก็กดตัดสาย แล้วปิดเสียง

ให้ทุกอย่างมันจบลงแค่นี้...

***********************

เสียงถอนหายใจดังขึ้น เมื่อวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะเข้ามาที่นี่ เพื่อเซ็นชื่อรับเช็คเงินเดือนเดือนสุดท้าย มอร์กานใจดีให้เธอเต็มเดือน แต่เธอก็รู้จากแจ็คเกอลีนว่าเธอจะยกเลิกสัญญาไม่ได้ และอาจต้องข้ามไปทำงานฝั่งอเมริกาแทน จนกว่าจะหมดสัญญา เพลิงฟ้ามองว่ามีงานก็ยังดีกว่าไม่มี แม้ต้องออกเดินทางก็ตาม แต่เวลาพักก็มาก เพราะเธอไม่ใช่นางแบบคิวทองเหมือนโนรา

เพลิงฟ้าตรงไปฝ่ายบุคคลเพื่อจัดการงานขั้นสุดท้าย ก่อนไปลาปิแยร์ และเอางานที่ค้างอยู่มาส่งด้วย

“ไปดีล่ะ ถ้าฉันไปเที่ยวเมืองไทย ฉันจะโทรหาเธอ” ปิแยร์บอกแล้วถอนหายใจ ดูสภาพแล้วไม่น่าจะไปเหมือนติดปีก แต่ไปแบบปีกหักมากกว่า

โบแวเป็นชายหนุ่มที่ดึงผู้หญิงที่ต้องการความสงบมาสู่แสงสี แล้วหักปีกโยนทิ้งลงสู่ดินมานักต่อนักแล้ว เขาไม่กล้าเตือนเพลิงฟ้า เพราะรู้ดีว่าเพลิงฟ้าก็ดื้อพอกัน

“ขอบคุณค่ะ ฉันจะรอสายจากคุณนะคะ จะพาไปเที่ยวให้ทั่วเลยค่ะ” เพลิงฟ้าฝืนยิ้มให้หัวหน้าเก่า

หลังจากนอนร้องไห้มาสามวัน เธอก็รู้ว่าต้องลุกขึ้นมาจัดการทุกอย่างให้เสร็จๆ ไปเสีย หากโบแวคิดอยากปรับความเข้าใจกับเธอจริง ก็คงรีบกลับมาแล้ว แต่นี่เขาโทรหาเธอแค่วันแรก เมื่อเธอไม่รับสายเขา เขาก็ไม่คิดจะโทรมาอีก

เพลิงฟ้าขอตัวกลับแล้วไม่ไปหามอร์กาน เจอกับเจเนวีฟที่กอดอกยืนยิ้มเยาะ

“ตายจริงพ่อเทวดาทิ้งแล้วเหรอจ๊ะ” เจเนวีฟได้ทีก็เยาะเย้ย

เพลิงฟ้าไม่ตอบเพราะไม่อยู่ในอารมณ์ จึงเดินไปที่ลิฟต์แล้วกดปิด แต่เจเนวีฟเอามือกันไว้ จึงมองหน้าอย่างไม่พอใจนัก “อยากโดนถีบใช่ไหม วีฟ”

“ยังมีฤทธิ์อีกนะ” เจเนวีฟขยาดจึงปล่อยมือจากประตูลิฟต์ แต่ก็สะใจมากพอแล้ว คาดว่าคงโดนไล่ออกแน่นอน

เพลิงฟ้ามองตึกที่ทำงานมาตลอดเกือบสามปี พอหันไปก็เจอฌอง-ปิแยร์ เธอก็ชะงักไปเหมือนกัน

“ได้ยินว่าลาออกแล้ว” ฌอง-ปิแยร์พูดแค่นั้นก่อนบอก “ขอให้โชคดีนะ”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ โชคดีเช่นกันค่ะ” เพลิงฟ้ารีบไปเรียกแท็กซี่ เมื่อได้แล้วก็เรียกไปโรงแรมที่พัก

ฌอง-ปิแยร์รู้ว่าเพลิงฟ้าพักที่ไหนจากคู่หมั้น เพราะวันก่อนเพื่อนโทรมาถามเรื่องเพลิงฟ้า เขาจึงไปถามคู่หมั้นอีกที แต่ก็ยังไม่ได้บอกโบแว

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะเขาทำงาน เห็นเบอร์ก็รู้แล้วว่าเป็นเพื่อนรัก “ว่าไง”

“ถามแมเรียนหรือยังว่าพีชพักที่ไหน” โบแวไม่พูดมากเข้าเรื่องที่ต้องการรู้ทันที

“นายไม่ปล่อยหล่อนไปซะ หล่อนต้องการไปจากชีวิตนาย” ฌอง-ปิแยร์หวังให้เพื่อนเปลี่ยนใจ “พอทีเถอะเรื่องเอาชนะฌากน่ะ มันไม่ใช่เรื่องเลยนะ”

“เอาชนะฌาก? จะบ้าหรือไง เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับฌากเลย นายอย่าทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย รู้แล้วใช่ไหมว่าพีชพักที่ไหน” โบแวกระแทกลมหายใจช้าๆ

“ไว้นายอยู่ปารีสแล้วจะบอก” ฌอง-ปิแยร์ตัดบท เพราเขาโดนเรียกไปทำงานแล้ว

“ฌอง ฉันอยู่ปารีสโว๊ย!!!” โบแวบอกเพื่อน

“เฮ้ย!!! มาถึงแล้วเมื่อไร” ฌอง-ปิแยร์แปลกใจมาก

“ถึงก็โทรหาแกเลยนี่ไง บอกมาเสียที” โบแวคาดคั้นเอากับเพื่อน พอเพื่อนบอกก็กดตัดสายทันที

ฌอง-ปิแยร์ได้แต่ส่ายหน้า เพื่อนเขาเป็นแบบนี้เสมอ เขาไม่คิดกับเพื่อนในแง่ร้าย เพราะเห็นว่าเป็นธรรมชาติของโบแว แล้วโบแวก็ชดเชยให้เสมออย่างมีน้ำใจ

***********************

เสียงเคาะประตูดังถี่จนผิดวิสัย เพลิงฟ้ามองที่ช่องมองแล้วเห็นโบแวก็ทำเฉยไม่เปิดประตู

“รู้นะว่าเธออยู่ พีช เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ” โบแวพูดขึ้นแล้วเคาะถี่ๆ อีกรอบ

“อย่ามายุ่งกับฉันอีก เราไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว คุณก็ได้คู่นอนใหม่แล้วนี่ แล้วก็เป็นผู้หญิงที่เหมาะสมจะแต่งงานกับคุณด้วย ปล่อยฉันไปเถอะ อีกสามวันฉันก็จะกลับเมืองไทยแล้ว ไม่มีทางสร้างปัญหาให้คุณ” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วพยายามบังคับไม่ให้เสียงสั่น

“ผู้หญิงคนไหนเหมาะ ฉันจะบอกเอง” โบแวบอกแล้วส่ายหน้าช้าๆ “เปิดประตู อย่าให้ฉันต้องพังเข้าไป ฉันไม่อยากโดนจับ”

“ถ้าไม่อยากโดนจับก็อย่าพังเข้ามาสิ” เพลิงฟ้าไม่ยอมเปิดง่ายๆ แน่ “กลับไปเถอะ โบแว ฉันก็คงไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนก่อนหน้านี้หรอกนะ”

“ให้ฉันบอกเองว่าต่างหรือไม่ต่าง เปิดประตูนะ” โบแวหงุดหงิดแล้วก็เคาะไปเรื่อยๆ

เพลิงฟ้าถอยกลับไปนั่ง ฟังเสียงเขาเคาะประตูแล้วเปลี่ยนเป็นทุบเบาๆ ไม่ถึงกับทุบหนักๆ สุดท้ายทนไม่ไหว ยอมรับว่าดีใจที่เขามาเช่นกัน จึงเดินไปเปิดประตู

เมื่อประตูเปิดออก เขาก็ดันเธอเข้าไปด้านในแล้วปิดประตู จากนั้นก็ออกคำสั่ง “ไปนั่ง”

“ทำไมต้องนั่ง มีอะไรจะพูดก็พูดมาเถอะค่ะ หมดธุระแล้วก็เชิญกลับไปได้” เพลิงฟ้าถอนหายใจยืนพิงกำแพง

“ก็ได้ ฟังนะ อย่ามายัดเยียดข้อหาให้ฉัน ฉันไม่เคยนอนกับโรซารีน แต่ก็ไม่พอใจนะ ที่เธอมาถามฉันแบบนั้น” โบแวพูดสิ่งที่เขาอยากพูด “คนอย่างฉัน ถ้านอนกับใคร ไม่ต้องกลัวใครว่า แล้วเธอล่ะ เป็นบ้าอะไร ขนของออกจากบ้านแล้วก็ไม่รับสายฉัน”

เพลิงฟ้านิ่งงัน ไม่รู้ควรพูดยังไง แต่ตอนนี้เธออยากกลับบ้านเท่านั้น สรุปในตอนท้าย “ฉันเหนื่อยแล้วอยากกลับเมืองไทย อยากพอกับสองงาน อยากไปใช้ชีวิตอย่างสงบที่ไม่ต้องวุ่นวายกับใคร เหนื่อยและเอือมระอากับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าฉันไปคนเดียว พ่อและพี่สาวคุณก็จะได้จบ”

“พวกเขาควรจบ ไม่ควรมายุ่งเรื่องของฉันอีก แต่เมื่ออยากมายุ่งเอง ฉันก็ช่วยไม่ได้” โบแวพูดขึ้นก่อนมองสภาพห้องธรรมดาที่ราคาถูกที่สุดของโรงแรมสามดาวแล้วถอนหายใจ “เก็บของแล้วกลับไปนอนที่บ้านฉัน”

“ไม่ค่ะ อีกไม่กี่วันฉันจะกลับเมืองไทยแล้ว” เพลิงฟ้าแข็งข้อขึ้นมาทันที

“ไปยกเลิกไฟต์ซะ ไว้ฉันว่างจะพาไปเอง” โบแวพูดขึ้น โดยไม่ฟังคำปฏิเสธของเพลิงฟ้า เขาถือวิสาสะไปเปิดตู้เสื้อผ้าเธอเอาของออกมาแล้วยัดลงกระเป๋า

“โบแว คุณจะทำอะไรน่ะ หยุดนะ” เพลิงฟ้าพยายามห้ามเขา

“เงียบไปเลยนะ กลับไปกับฉัน ฉันมีบ้านหลังใหญ่ มีเตียงที่แสนนุ่ม ทำไมต้องมาพักโรงแรมกับเธอด้วย” โบแวไม่หยุด จับเสื้อผ้าเธอพับลวกๆ ก่อนสังเกตได้ว่าเนื้อผ้าของเสื้อผ้าพวกนี้ไม่ใช่ที่เขาเคยซื้อให้เธอ “นี่เธอไปเอาเสื้อผ้าพวกนี้มาจากไหน”

“ก็เสื้อผ้าเดิมๆ ของฉัน” เพลิงฟ้าได้แต่อ่อนใจ

คนอย่างโบแวเคยฟังใครที่ไหน ตอนแรกคิดว่าจะแอบกลับเอง แต่ไม่คิดว่าเขาจะตามมาเจอได้รวดเร็วแบบนี้

“ผ้าหยาบๆ แบบนี้ เธอใส่ได้ยังไง ฉันไม่เข้าใจ” โบแวถอนหายใจแล้วถอยออกมา เมื่อเธอเข้ามาไล่เขาออกไปแล้วจะเก็บข้าวของเอง

“ฉันจน คุณเข้าใจไหม” เพลิงฟ้ากระแทกลมหายใจแล้วเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า พร้อมด้วยอุปกรณ์ส่วนตัวต่างๆ ขณะนั้นก็นึกได้ “คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันพักอยู่ที่นี่”

“ไม่ใช่จากปากนักสืบของพ่อฉันหรอก แต่ฉันมีวิธีของฉันก็แล้วกัน” โบแวบอกแล้วมองเพลิงฟ้า จะว่าไปสองเดือนกว่านี้ เขาก็ไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงเลย เพราะมัวตกอยู่ในความคิด แม้มีผู้หญิงที่ถูกใจเข้ามา แต่เขาก็ยังไม่มีเวลาเริ่มต้นอะไรกับใคร

เพลิงฟ้าไม่ต่อปากต่อคำนาน เธอจัดของหยิบโน่นนี่ลงกระเป๋า ของที่ไม่จำเป็น เธอเอาไปเก็บไว้ที่บ้านญาติของนีกอลาแล้ว กำลังจะไปกำจัดก่อนถึงวันที่เธอกลับ เธอกำลังเก็บของเพลินๆ ก็ถูกเขาเข้ามากอดที่ด้านหลัง แล้วเริ่มวุ่นวาย

“กลับบ้านก่อนได้ไหม” เพลิงฟ้าถามแม้อยากตามใจแต่ก็ไร้อารมณ์

“ใครว่าฉันจะทำที่นี่” โบแวพลิกเธอหันมาแล้วเชยคางจูบแนบแน่น กอดรัดร่างเธอไว้แนบชิด ใจก็ปรารถนาจะกอดให้แน่นขึ้นเรื่อยๆ

“ฉันหายใจไม่ออก” เพลิงฟ้าต้องผลักเขาเพื่อถอนจูบ

“ทีหลังอย่าคิดหนีฉันอีกนะ” โบแวพูดเชิงสั่งก่อนปล่อยเธอเก็บของ

“ใครว่าฉันหนี ฉันแค่รู้ตัวดีว่าต้องอยู่ที่ไหนยังไงมากกว่า” เพลิงฟ้าบอกแล้วหันมามองเขาเมื่อเก็บของเสร็จแล้ว “กลับเลยไหมคะ”

“ก็คงต้องอย่างนั้นแหละ ฉันง่วงจะตายอยู่แล้ว ทั้งเรื่องนั่งเครื่องนาน ทั้งเรื่องเธอ ไว้ตื่นเมื่อไร อย่าหวังว่าฉันจะปล่อยเธอเลย” โบแวบอกแล้วหัวเราะพอใจ เมื่อเห็นสีหน้ายุ่งๆ ของเพลิงฟ้า ก็พูดปลอบอย่างไม่จริงจังนัก “รับรองเร้าใจหายห่วง”

“ใครจะไปเร้าใจได้อย่างคุณล่ะ” เพลิงฟ้าบ่นๆ แล้วก็โทรไปเรียกรถเข็นขึ้นมาเข็นกระเป๋าหลายใบของเธอ

“ยอมรับแล้วสินะ ว่าฉันเร้าใจ” โบแวเข้าใจความหมายแค่แกล้งพูดเหมือนไม่เข้าใจ หากรอยยิ้มกวนประสาทของเขาทำเอาเพลิงฟ้าหงุดหงิดเป็นกำลัง

เพลิงฟ้าถอนหายใจแรงๆ แล้วนั่งรอคนยกกระเป๋า พอมาถึง เธอก็ตามคนยกกระเป๋าออกไปที่ล็อบบี้เพื่อเคลียร์เงิน โบแวก็เอาเครดิตการ์ดของเขาให้แทน แล้วให้คิดค่าเสียหายในช่วงเวลาที่เพลิงฟ้าจองไว้แต่ไม่ได้พักด้วย เขาไม่สนใจเงินพวกนี้มากนัก

“ไปยังไงคะ” เพลิงฟ้าถามเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว

“รถยนต์สิ ฉันแวะไปที่บ้านเอาของไปเก็บแล้วค่อยมาหาเธอนั่นแหละ ไปเถอะ ให้คนเอาของไปไว้ท้ายรถ แล้วเลื่อนวันกลับด้วย ดูโอกาสอีกที ฉันอาจต้องจัดการงานอีกนิดหน่อย” โบแวพูดแบบนี้ แปลว่าไม่นิดแล้ว แต่เธอก็ไม่อยากถามเขามาก หากก็นึกได้

“แล้วฉันกลับเมืองไทยเกี่ยวอะไรกับคุณ” เพลิงฟ้าถามโบแวขณะที่รอรถมาจอด

“ฉันจะไปด้วย” โบแวบอกอย่างไม่ต้องคิดมาก

“ไม่ได้ค่ะ ฉันกลับไปพักผ่อน ต้องการเวลาส่วนตัว อีกอย่างฉันกับคุณก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน ทีคุณยังไปเที่ยวตั้งหลายเดือนได้เลย ฉันก็จะไปบ้าง ช่วงที่คุณไม่อยู่ ฉันทำงาน ไม่ได้อยู่เฉยนะคะ” เพลิงฟ้าพูดดักคอเขาไว้ทุกทาง เพราะไม่อยากให้เขาไป เธออยากใช้เวลานอนอยู่ในห้องแล้วไม่ต้องทำอะไรนอกจากอ่านนิยาย

นิยายทุกเล่มที่เธอซื้อมา เธอทยอยส่งกลับเมืองไทยไปหมดแล้ว ตั้งแต่ย้ายออกจากอพาร์ทเม้นต์ ตอนนี้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องนิยายที่จะส่งกลับอีก

“เธอคิดว่าจะห้ามฉันได้เหรอ” โบแวย้อนถามแล้วเงียบไม่พูดต่อ

เป็นอันรู้กันว่าเขาไม่ต้องการฟังคำค้านของเธออีก เพลิงฟ้าชักรู้สึกอึดอัดกับคำสั่งของเขา แต่ก็ไม่อยากทะเลาะ ทำให้ได้คิดว่าเมื่อไรที่รักจาง คาดว่าความอดทนของเธอจะหายไปเช่นกัน ตราบที่โบแวยังไม่ลดความเอาแต่ใจอย่างนี้ เธอก็ไม่คิดว่าจะมีชีวิตที่เธอกับเขาจะอยู่ร่วมกันตลอดไปได้

***********************

“ครับ” ชายหนุ่มตอบแม่โดยยังไม่ค่อยมีสติเท่าไรนัก

“ลูกพาพีชกลับมาอยู่ด้วยอีกแล้วเหรอ” มอร์กานถามลูกชายเมื่อรู้ข่าว

“แล้วแม่มีปัญหาอะไรเหรอครับ” โบแวถามแม่อย่างมึนๆ ออกจะรำคาญที่แม่มาถามเขาแบบนี้

“มีสิ ก็พีชเขาลาออกแล้วกำลังจะกลับเมืองไทย ลูกจะก่อปัญหาอีกทำไม” มอร์กานรู้ดีว่าถ้าเพลิงฟ้ายังอยู่ สองพ่อลูกไม่มีทางคืนดีกันแน่นอน

“แม่พูดเหมือนกับแม่มีส่วนรู้เห็นให้พีชไปจากผม” โบแวเริ่มระแวงแม่เขาบ้างแล้ว

“โบแว แม่ไม่รู้เรื่องนี้เลย แต่ก็ไม่อยากให้ลูกทรมานผู้หญิงคนหนึ่งที่ลูกจะหาใครมาแทนที่เธอก็ได้ อย่าทำร้ายเธอด้วยความเอาแต่ใจอยากเอาชนะพ่อเลยนะ” มอร์กานพูดตามที่คิด รู้สึกสงสารเพลิงฟ้าด้วยซ้ำที่ต้องมาอยู่ในสงครามของพ่อลูกคู่นี้

“พอเถอะครับ ถ้าโทรมาเพื่อคุยเรื่องนี้ ผมขอนอนพักก่อน ผมยังมีงานต้องทำอีกเยอะ ไม่มีเวลามาสนใจความงี่เง่าของพ่อหรอก ผมขอทำงานดีกว่า แค่นี้นะครับ” โบแวบอกแล้วลาแม่ทันที วางมือถือลงแล้วพลิกไปกอดเพลิงฟ้า “ไร้สาระสิ้นดี”

เพลิงฟ้าหันไปมองเขาแล้วงุนงง “มีอะไรเหรอคะ”

“ช่างมันเถอะ นอนเถอะ เพิ่งได้นอนเดี๋ยวเดียวเอง ตื่นมาค่อยว่ากัน” โบแวบอกแล้วกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น

ถึงตอนนี้จะยังไม่ใช่ของเขากับเธอ แต่เขาเชื่อแน่ว่าจะไม่มีวันปล่อยมือจากเธอแน่นอน

หลายชั่วโมงกว่าเพลิงฟ้าจะตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าไม่ได้ฝันไป หนุ่มหน้าสวยนอนอยู่ข้างๆ และเธอไม่ได้อยู่ในห้องโรงแรม เหมือนเธอจะหนีเขาไม่พ้น จนกว่าจะหมดเวรกรรมกันไปเอง

เธอเอามือเขาออกจากตัวแล้วถอนหายใจอีกครั้ง อยากให้ปัญหามันจบแต่ก็โหยหาเขา สังเกตจากที่เธอร้องไห้ถึงสามวัน

ทุกครั้งที่คิดว่าต้องไปจากเขา…

ทุกครั้งที่คิดว่าควรรับสายเขาเมื่อเขาโทรมา...

ทุกครั้งที่นึกถึงเวลาเขาอยู่กับผู้หญิงอื่น...

แม้พยายามไม่นึกอยากครอบครองเขา อยากอยู่กับเขาหรือนึกรักเขา แต่คงยากจะปฏิเสธชายหนุ่ม แล้วเธอก็ร้องไห้อีกครั้งอย่างเงียบๆ พยายามไม่ให้เขาได้ยินเสียงและเดินเลี่ยงเมื่อได้ยินเสียงเขาขยับตัว

โบแวได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ ก็ลืมตาขึ้นมอง เห็นเพลิงฟ้าร้องไห้อย่างไร้สาเหตุ หากเขารู้ว่าถามไปเธอก็ใช่ว่าจะตอบตามตรงเสียเมื่อไร เผลอๆ จะถามกลับแบบกวนประสาทเขาด้วย เขาจึงปล่อยให้เธอร้องไห้ตามสบาย ด้วยการพลิกตัวแล้วแกล้งทำเป็นหลับต่อ

เพลิงฟ้าล้างหน้าแล้วถอนหายใจ จากนั้นก็อาบน้ำให้เรียบร้อย หลังทานมื้อค่ำที่บ้าน เขาทำกิจกรรมที่เขาไม่ได้ทำมานาน รู้แต่ว่าเหนื่อยจนง่วงแต่ก็มีความสุข เมื่อได้อยู่กับเขาอีกครั้ง

เมื่อออกมากจากห้องน้ำแล้วก็เห็นโบแวนั่งพิงหัวเตียงกอดอกมองเธออย่างสำรวจ

“อะไรคะ” เพลิงฟ้าถามแล้วก้มลงมองตัวเอง

“น้ำหนักขึ้นใช่ไหม” โบแวถามตามตรง แล้วกวักมือเรียกให้มานอนข้างๆ

เพลิงฟ้าถอนหายใจแล้วพยักหน้า แล้วเดินไปนอนด้านข้างเขา แล้ว “ใช่ค่ะ แต่แค่สองกิโลเอง คุณรู้ได้ยังไงคะ”

“มันเป็นอาชีพของฉัน และเวลาฉันกอดเธอ เธอตัวนิ่มขึ้น ลดน้ำหนักซะ ฉันจะจ้างเทรนเนอร์ให้” โบแวบอกสั้นๆ แล้วค่อยๆ โอบกอดเธอแนบชิด

“รับไม่ได้เหรอคะ ที่ฉันอ้วนขึ้น” เพลิงฟ้าถามแล้วรู้สึกรำคาญนิดๆ

โบแวหัวเราะก่อนอธิบาย “ไม่ใช่รับไม่ได้แต่ฉันจะมีงานชุดว่ายน้ำให้เธอทำ จบงานแล้วอยากอ้วนแค่ไหนก็ช่างเถอะ อย่าให้ถึงขนาดทำลายสุขภาพตัวเองเถอะ”

เพลิงฟ้าก็หัวเราะ ก่อนพูดขึ้น “นึกว่าไม่ชอบผู้หญิงอ้วน”

“ก็ไม่ถึงกับชอบผู้หญิงอ้วนหรอก แต่ผอมก็ดี จะได้สุขภาพแข็งแรง” โบแวบอกแล้วลูบแขนเธอเบาๆ “ฉันคงต้องทำงานอีกเยอะเลยล่ะ”

“ทำไมเหรอคะ เรื่องชุดว่ายน้ำเหรอคะ” เพลิงฟ้าถามอย่างงุนงง

“ใช่เลย ฉันคงต้องทำอะไรอีกเยอะจริงๆ คงมีคนเดินเข้าออกอีก ดีที่ถอนตัวออกมาแล้ว ฉันไม่เรียกทีมงานมา แต่มีทีมงานบางคนลาออกหลังจากที่ฉันออกมาด้วย เขาติดต่อฉัน และฉันก็จะรับเขาเข้ามาทำชีรักทั้งหมด” โบแวบอกแล้วยังคงนอนกอดเธอ ขณะเดียวกันก็วางแผนธุรกิจของตัวเอง

“มีคนช่วยก็ดีแล้วค่ะ” เพลิงฟ้าวางมือบนอกเขา คอยบอกตัวเองให้กังวลน้อยลงแล้ว

โบแวยังต้องสางระบบงานอีกเยอะ เขาต้องสร้างทุกอย่างขึ้นเอง และต้องวางรากฐานของงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ดีที่ทุกอย่างเกิดขึ้นทำให้เขาได้ออกมาจากปีกของพ่อได้อย่างสมบูรณ์

***********************

‘ฉันมีนัดทานมื้อค่ำกับโรซารีนคืนนี้’

ประโยคนี้ออกจะแปลกไปซักหน่อย แต่เธอก็รู้ความหมายของการทานมื้อค่ำ...เสียใจเป็นคำต่อมาที่เกิดขึ้น แล้วเธอก็ต้องทำงานในวันนี้ด้วย ทำงานร่วมกับโนราถือว่าสนุกมาก เพราะสนิทสนมกันอยู่ มีนายแบบอีกคนมาร่วมด้วย แต่ก็ถือว่าเป็นวันสุดยอดอีกวันทำให้ลืมเรื่องที่เขาไปทานมื้อค่ำกับโรซารีน

“เป็นอะไร ไปดื่มกันไหม” โนราบอกเรื่องปาร์ตี้สำหรับคืนนี้

“เธอยังเที่ยวกลางคืนแบบนี้อีกเหรอ” เพลิงฟ้าถามแล้วไม่ได้ลบเครื่องสำอางออกจากหน้า เพราะสัญญากับโบแวว่าจะกลับไปเป็นยัยเฉิ่มเฉพาะอยู่ในบ้านเท่านั้น

“มันก็คือสังคม แต่แน่นอนว่าฉันจะไม่ดื่มมากอีกแล้ว” โนราสัญญา ก่อนอ้อนชวนจนเพลิงฟ้าพยักหน้า

เมื่อตกลงกันได้แล้วก็ไปเดินเล่นฆ่าเวลา เมื่อถึงเวลาปาร์ตี้ก็ไปถึงงานแล้ว เข้าไปเต้นรำสนุกสนานกันเหมือนเดิมอีก เพลิงฟ้าปล่อยตัวปล่อยใจไป โดยไม่ต้องการคิดถึงโบแวกับโรซารีน

สักพักก็มีนายแบบหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาขอนั่งด้วย “ไง พีโอนี่ ฉันมาร์คเธอคงจำได้นะ”

“อ่า เราเคยทำงานด้วยกันนี่นะ” เพลิงฟ้ายิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนมองคนมาเรียกโนรา

“ไงมาร์ค เอ้อ พีโอนี่ขอไปคุยเรื่องงานก่อนนะ” โนราพยักหน้าให้แล้วลุกไปคุยงาน

นางแบบมีโอกาสได้งานเช่นกัน ถ้ามางานแบบนี้ แต่เพลิงฟ้าไม่ต้องไปงานแบบนี้ก็สามารถหางานได้ ถ้ามีสังกัดดูแล ขณะที่โนรามีสังกัดดูแลและรับงานเองไปด้วย เพื่อสะสมเงินให้ได้มากๆ เมื่อยามสาว

“นี่เธอคบใครหรือยัง” มาร์คถามแล้วแกล้งไม่รู้เรื่องเธอกับโบแว ก็รูปร่างและหน้าตาของเพลิงฟ้าดูติดตามอย่างบอกไม่ถูก แล้วทำไมจะต้องปล่อยให้เสียของ

เพลิงฟ้านิ่งคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนส่ายหน้า “ยังไม่มีใครทำไมเหรอ”

“ฉันสนใจเธอมานานแล้วล่ะ ให้โอกาสฉันทำความคุ้นเคยกับเธอได้ไหม” มาร์คพูดแล้วหันไปสั่งเครื่องดื่มมาให้เพิ่ม จากนั้นเพลิงฟ้าก็ได้ฟังมาร์คเล่าสรรพคุณของตัวเองอยู่นาน

สักพักเธอก็เริ่มมึน รู้สึกถึงความผิดปกติแต่บีบบังคับตัวเองไม่ได้ สักพักมาร์คก็เข้ามาประคองกระซิบที่ข้างหู

“ไม่ต้องคิดมาก เราแค่จะสนุกกันแล้วถ่ายทำคลิปนิดหน่อยเท่านั้นแหละ” มาร์คบอกแล้วเปลี่ยนเป็นอุ้มเพลิงฟ้าพาไปห้องด้านใน

เพลิงฟ้าพยายามหันไปมองหาโนราแต่ยากจะลืมตาขึ้น ได้แต่เสียใจที่มากับโนรา แล้วดื่มมากอย่างนี้ ไม่ควรเลยจริงๆ ที่ปล่อยให้ทุกอย่างเกิดขึ้น ถึงเสียใจก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว

เธอถูกพาไปที่ห้องด้านหลัง ซึ่งได้ยินเสียงเพลงเบาลงไปทุกที มีห้องหลายห้องคล้ายกับห้องสำหรับหาความสุข ที่แห่งนี้เป็นผับส่วนตัวที่มีห้องสำหรับหาความสำราญ

ไม่มีอะไรแก้ไขได้แล้วจริงๆ...

***********************

ขอโทษที่มาช้าค่ะ พอดีมีปัญหาชีวิตเลยต้องหยุดไปพัก...ชะงักมากหน่อยค่ะ
มาตามต่อกันนะคะ เชิญค่ะ
^^ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

ตอบคอมเม้น

fictionlog.co
คุณม่อนม่อน : ขอบคุณค่ะ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ก.ย. 2561, 20:16:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ก.ย. 2561, 20:16:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 675





<< Designer's desire By คชสีห์ 18   Designer's desire By คชสีห์ 20 (100%) >>
atua 29 ก.ย. 2561, 12:03:01 น.
ค้างงงงงง มาเร็วๆหน่อยนะค่ะ
รอออออออออออ


konhin 29 ก.ย. 2561, 19:44:29 น.
อ๊ากกก อย่าจบตอนแบบนี้สิ ไม่เอาๆๆๆๆๆ ค้าง


เดิมเดิม 30 ก.ย. 2561, 13:38:55 น.
รออย่างใจจดจ่อเลยค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account