เคียงเธอ
หวันยิหวาแอบรักจิระ เพื่อนชายข้างบ้านที่รู้จักกันตั้งแต่เกิด โดยที่ไม่รู้ว่าเขาและเธอมีใจตรงกัน วันหนึ่งหวาไม่สบาย จิระจึงช่วยดูแล...แล้วเขาก็เผลอใจจูบเธอเข้าโดยที่เธอไม่รู้ตัว

เป็นตัวละครคู่พี่ของเรื่องเหตุเกิดที่...หัวใจ แต่เพื่อความกระชับและความต่อเนื่อง จึงขอแยกออกมาเป็นอีกเรื่องนึงค่ะ
Tags: จิระ หวันยิหวา แอบรัก เพื่อนสนิท

ตอน: ตอนที่ 5 : ล่วงเกิน


หวันยิหวาค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ ภาพตรงหน้าขุ่นมัวด้วยความที่หญิงสาวสายตาสั้นทำให้หล่อนเห็นภาพได้ไม่ชัดเจน

“...จี...” พูดได้เพียงแค่สองคำเรียวปากงามก็เงียบเสียงลงเนื่องจากถูกทาบทับด้วยเรียวปากหยักลึกของชายหนุ่มแทน ริมฝีปากอุ่นจัดของเขาสัมผัสลงบนกลีบปากบางคู่สวยสีชมพูอ่อนอย่างแผ่วเบา...อ่อนหวาน นุ่มนวลและ...เนิ่นนาน...



ถึงครั้งก่อนจูบแรกของเรามันจะเป็นอุบัติเหตุแต่จิระก็รู้สึกได้ถึงอ่อนหวานนุ่มนวลที่ได้รับจากกลีบปากเรียวบาง ถึงจะเป็นแค่เหตุสุดวิสัยแต่ยังตรึงใจเขาอยู่ไม่คลายลงเลย

หวันยิหวารับรู้ถึงสัมผัสอ่อนโยนนั้นมันช่างเนิ่นนานวาบหวามหัวใจเหลือเกิน รสสัมผัสนั้นคล้ายกับจูบแรกเพียงแต่ในครั้งนี้จะนุ่มนวลและอ่อนหวานกว่ามากนัก จูบแรกในชีวิตจากชายคนที่หล่อนได้แต่แอบรัก แต่ครั้งนี้มันใช่ความจริงแน่หรือ...จิระหรือจะจูบหล่อน ไม่มีทางหรอกยัยหวา เขาจะจูบหล่อนทำไมหล่อนเป็นอะไรกับเขา...ใช่...เพื่อน...หล่อนเป็นแค่เพื่อนเท่านั้นแหละ สงสัยอาจเพราะพิษไข้ทำให้หล่อนฝันเช่นนี้ นี่คงเป็นความฝันแน่ๆ แต่หากว่าเป็นความจริงล่ะถ้าเขาทำทำอย่างนี้กับหล่อน...หล่อนจะปฏิเสธเขาไหม...จะปฏิเสธเขาไหมนะ...

ชายหนุ่มไล้ริมฝีปากจากลีบปากงามไปที่พวงแก้มชมพูระเรื่อจนถึงกกหูเรื่อยไปจนถึงลำคอเรียวระหงโดยที่เขาเองก็หยุดอารมณ์ที่มันพลุ่งพล่านนี้ไม่ได้ เมื่อไล้สัมผัสตรงซอกคอและสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จนพอใจแล้วริมฝีปากหยักลึกจึงไปหยุดอยู่ที่กลีบปากของหญิงสาวอีกครั้งแต่ทว่าครั้งนี้เร่าร้อนรุนแรงและเนิ่นนานกว่าครั้งก่อนมาก

ครั้งนี้หญิงสาวตอบสนองริมฝีปากเขาอย่างยินดีหากแต่ยังเงอะๆ งะๆ ด้วยความที่ยังไม่มีประสบการณ์ หล่อนไม่รู้หรอกว่าหล่อนทำอย่างนี้มันทำให้อารมณ์เขากระเจิดกระเจิงมากขึ้นอีกไม่รู้กี่เท่าตัว และตอนนี้หวันยิหวากำลังคิดอยู่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นความฝัน...ความฝันของหล่อนเพียงคนเดียว...

...แต่...ทำไมหล่อนรู้สึกว่ามันเหมือนจริงมาก เหมือนมากเสียจนนึกว่าเป็นความจริง ถึงจะเป็นแค่ความฝันหล่อนก็คงต้องหยุดการกระทำเช่นนี้ไว้เพราะหากฝันไปไกลกว่านี้หล่อนนั่นแหละที่จะเจ็บ เพราะในความเป็นจริงมันคงตรงกันข้ามกับความฝันอย่างสิ้นเชิง สถานะของเราสองคนคงไม่มีทางได้เป็นเกินกว่าคำว่าเพื่อนอย่างแน่นอน

หากว่าเป็นความจริงล่ะ...หล่อนก็ทำไม่ได้อยู่ดีพ่อแม่หล่อนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนหากรู้ว่าลูกสาวคนเดียวทำตัวเหลวไหลมีอะไรกับผู้ชายก่อนแต่งงาน ยังไงหล่อนต้องทำอะไรสักอย่างอย่าให้เหตุการณ์นี้ดำเนินต่อไปถึงแม้จะแค่ไหนฝันก็ตามที...

“...อย่า...” หญิงสาวปฏิเสธเสียงสั่น คำพูดแผ่วๆ นั้นช่างออกมาอย่างลำบากยากเย็นหลังรสจูบร้อนแรงที่เพิ่งผ่านพ้นไป ชายหนุ่มที่กำลังไล้จมูกโด่งกับแก้มเนียนถึงกับหยุดชะงักสติสัมปชัญญะจึงกลับคืนมา

‘นี่เขาทำอะไรลงไป’ ชายหนุ่มถามตัวเองในใจ

‘เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ถึงกระนั้นเชียวเหรอ เขากำลังล่วงเกินหวันยิหวาโดยที่หล่อนนั้นยังเป็นไข้ไม่ได้สติ...ถึงนายจะชอบเธอแค่ไหนก็ไม่ควรทำแบบนี้ ไอ้จีทำไมแกชั่วอย่างนี้วะไอ้เลวเอ๊ยยย’ ชายหนุ่มทรุดลงข้างเตียงพร้อมกร่นด่าตัวเองในใจถึงความเลวร้ายของตัวเองที่กระทำลงไป ขนาดตัวเองยังด่าตัวเองว่าเลวทรามต่ำช้าขนาดนี้ แล้วหวันยิหวาล่ะ...คงถึงขั้นไม่อยากมองหน้าเขาตลอดชีวิตเลยก็ได้

จิระขยับเสื้อคลุมที่เลื่อนหลุดให้เข้าที่ก่อนจะคลุมผ้าห่มให้เธออีกครั้ง แล้วจึงเดินออกจากห้องไป



หลังจากยืนสงบสติอารมณ์อยู่กว่าครึ่งชั่วโมง จิระจึงเดินเข้ามาในห้องอีกครั้ง ร่างสูงทรุดลงนั่งที่พื้น พร้อมกับเอื้อมมือไปกุมมือบางไว้ หวังเพียงว่าความรู้สึกผิดในตอนนี้จะถ่ายทอดไปถึงเธอได้

“หวา...จีขอโทษนะ จีขอโทษ” จิระกล่าว

“คงถึงเวลาที่จีจะต้องบอกความในใจให้หวารู้สักที”

จิระเปลี่ยนชุดนอนให้หญิงสาวแล้วจึงอุ้มหวันยิหวาไปนอนที่ห้องนอนห่มผ้าให้เรียบร้อย ก่อนนำผ้าขนหนูผืนเล็กจุ่มน้ำบิดหมาดๆ มาวางที่หน้าผากนวล ชายหนุ่มคอยเปลี่ยนผ้าขนหนูที่หน้าผากให้เมื่อรู้สึกว่าผ้านั้นเริ่มอุ่น เขามองดูหล่อนนอนหลับเงียบๆ จนเวลาล่วงเลยเป็นสี่นาฬิกาของวันใหม่แล้ว แต่จิระก็หลับไม่ลง

“หวา” ชายหนุ่มสะกิดตัวหญิงสาวที่นอนหลับยังไม่ได้สติเพราะพิษไข้

“กินยาก่อนนะแล้วค่อยนอนต่อ” จิระกล่าวต่อเมื่อหญิงสาวสะลึมสะลือลืมตาอย่างยากเย็น

“...จ้ะ...” หญิงสาวพยายามยันตัวขึ้นมาแต่เรี่ยวแรงที่มีไม่รู้ว่ามันหายไปไหนหมดจนชายหนุ่มต้องเข้ามาประคอง

“ค่อยๆ ลุกนะ” จิระว่าพลางขยับหมอนให้เจ้าหล่อนนั่งพิงที่หัวเตียง

“กี่โมงแล้วอ่ะ” หวันยิหวาถามเสียงงัวเงียตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่

“ตีสี่แล้ว กินยาซะ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับที่มือใหญ่ยื่นยาลดไข้มาให้หญิงสาวก่อนที่จะหยิบน้ำส่งตามให้ หวันยิหวาทำตามอย่างว่าง่ายกินยาแล้วดื่มน้ำตามจนหมดแก้ว

“จี ไปนอนก่อนก็ได้หวาไม่เป็นไรหรอก” ถึงเสียงเจ้าหล่อนจะบอกว่าง่วงเต็มแก่แต่ก็ยังไม่วายเป็นห่วงชายหนุ่ม จิระอดสะท้อนใจกับสิ่งที่ตนเองทำลงไปไม่ได้

“จีจะนอนเฝ้าหวาที่นี่ นอนเถอะนะ” ชายหนุ่มก็ค่อยประคองตัวหญิงสาวให้เลื่อนลงมานอนที่เดิมมืออีกข้างที่ไม่ได้ประคองหัวไว้เขยิบหมอนให้วางราบ จิระดึงผ้าห่มคลุมจนถึงคอแล้วจึงลุกขึ้นไปปิดไฟ ชายหนุ่มเอาฟูกมาปูข้างเตียงก่อนจะผล็อยหลับไป



ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินหวันยิหวานอนเพ้อด้วยพิษไข้ ร่างบางกอดอกนอนขดตัวด้วยความหนาว เขาเอาผ้าห่มมาห่มให้อีกผืน อาการสั่นก็ไม่ลดลง

“เอาไงดีวะ” รู้สึกว่าคืนนี้เขาจะพูดประโยคนี้มาหลายรอบเหลือเกิน

จิระจึงตัดสินใจโอบหล่อนไว้ในอ้อมแขน ตอนแรกๆ หวันยิหวาก็ดิ้นขลุกขลักๆ อยู่ในวงแขนแต่สักพักก็สงบลง ไออุ่นจากร่างกายของจิระค่อยๆ ไหลเข้าสู่ร่างของหญิงสาวเพียงไม่นานอาการสั่นก็คลายลง เขาขยับผ้าห่มให้อีกครั้งก่อนจะหลับไปพร้อมกับคนไข้ในอ้อมแขน



แสงแดดยามเช้าปลุกหวันยิหวาที่กำลังนอนอยู่ให้ตื่นจากห้วงนิทรา เจ้าหล่อนพยายามขยับเปลือกตาให้เปิดขึ้น แต่ทำไมหนอถึงได้รู้สึกว่าเปลือกตาที่กำลังปิดอยู่ตอนนี้มันหนักอึ้ง มันไม่ได้รู้สึกหนักแค่เปลือกตาแต่แขนและเอวหล่อนก็รู้สึกหนักๆ

หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แล้วก็ต้องตกใจแทบช็อคเพราะคนที่นอนอยู่ข้างๆ หล่อนคือจิระ และที่สำคัญ ตอนนี้หล่อนนอนอยู่ในอ้อมแขนเขา ยังไม่ทันจะคิดอะไรต่อชายหนุ่มที่นอนข้างๆ ก็ขยับตัว หวันยิหวานอนตัวแข็งทื่อ แล้วตัดสินใจแกล้งหลับต่อทันที

จิระตื่นขึ้นมาก็เห็นสภาพตัวเองนอนกอดสาวเจ้าอยู่ก็ตกใจ ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับตัวและคลายวงแขนที่โอบรอบเอวบางออก ก่อนขยับหมอนและผ้าห่มให้อีกครั้ง ชายหนุ่มนั่งลงที่ข้างเตียงเพื่อมองหวันยิหวาที่กำลังนอนหลับอยู่ มือหนาเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ระลงที่แก้มเนียน พร้อมกับจับมือบางยกขึ้นแนบแก้มตัวเอง แล้วริมฝีปากหยักลึกก็จุมพิตลงบนนิ้วเรียว



หวันยิหวารอจนแน่ใจว่าจิระออกจากห้องไปแล้วจึงค่อยๆ ลืมตาตื่นอีกครั้ง

“เมื่อกี้นายจี...” หญิงสาวก้มลงมองที่มือของตัวเอง แล้วหน้านวลก็ซับสีเรื่อขึ้นทันตา ยิ่งคิดถึงตอนที่อยู่ในอ้อมกอดเขาเมื่อกี้ แต่ที่สำคัญกว่านั้น...หล่อนไม่ได้ใส่เสื้อตัวเดิม แถมเสื้อชั้นในก็ไม่ได้ใส่!!!

“ตายแล้ว...หรือว่าฉันกับนายจี...” จากหน้าที่แดงปลั่งก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือด พูดไม่ทันขาดคำร่างสูงก็เปิดประตูห้องเขาพร้อมอ่างน้ำอุ่นกับผ้าขนหนูผืนเล็ก หวันยิหวาตกใจจึงดึงผ้าห่มขึ้นมาพันตัวทันที

“ตื่นแล้วเหรอหวา” จิระวางอ่างน้ำไว้ที่หัวเตียง

“ไหนขอจีแตะหน้าผากหน่อยว่าดีขึ้นรึยัง” มือหนาแตะเบาๆ ที่หน้าผากมน หวันยิหวาไม่รอช้าถามข้อสงสัยทันที

“จี...หวามานอนนี่ได้ไง แล้วใครเปลี่ยนชุดให้หวา” แล้วหน้านวลก็เรื่อขึ้นอีกครั้ง

"หวาเป็นไข้จีก็รีบไปเปิดบ้าน พอกลับออกมาก็เห็นหวาล้มพับไปกองที่พื้น ก็เลยอุ้มมานอนบนนี้" ชายหนุ่มอธิบาย

"หรือว่าชุดนอนนี่จีก็เป็นคนเปลี่ยนให้หวา...อย่าบอกนะว่าเราสองคน...เอ่อ..." หวันยิหวานึกถึงเรื่องเมื่อคืน หรือว่าสิ่งที่หล่อนนึกว่าเป็นความฝัน...มันจะเป็นเรื่องจริง หวันยิหวามองร่างสูงด้วยสายตาที่ไม่มั่นใจ จิระชะงักไปนิดก่อนจะเอ่ยปากบอกว่า

"จีรู้ว่าหวากำลังจะพูดอะไร เรื่องเสื้อผ้าจีเป็นคนเปลี่ยนให้เอง...ส่วนเรื่องนั้น...จีขอยืนยันว่าเราสองคนไม่ได้มีอะไรกัน" แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแหบเบานักด้วยความรู้สึกผิดที่ตนกระทำเช่นนั้นกับหล่อนเมื่อคืน

"จีเปลี่ยนชุดให้หวา...งั้นจีก็เห็น...หมดเลยน่ะสิ" หน้าที่แดงอยู่แล้วไม่มีทีท่าว่าจะลดความเข้มลง ส่วนเสียงที่ออกจากปากเจ้าหล่อนนั้นเหมือนมาจากที่ที่แสนไกล เมื่อครู่ใบหน้านวลแดงถึงขีดสุดหน้าของหล่อนตอนนี้ปรอทวัดความแดงคงจะแตกโผล๊ะไปแล้วก็เป็นได้

"จีเอาผ้าห่มคลุมไว้ หวาไม่ต้องห่วงนะ" หลบตา แล้วค่อยๆ เดินเลี่ยงออกจากห้องไป หวันยิหวาได้ยินคำกล่าวของชายหนุ่มก็โล่งอก...แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมจิระถึงมานอนกอดหล่อนอยู่บนเตียง...จะถามก็ไม่กล้า เพราะเห็นสีหน้าของเขามันบอกชัดว่าไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้อีก

แต่ถึงเขาไม่ทำหน้าแบบนั้น ตัวหล่อนเองยิ่งไม่กล้าถามเข้าไปใหญ่แค่นี้ก็เขินจะตายอยู่แล้ว...ขืนถามไปว่า ทำไมถึงมานอนกอดหวาอยู่บนเตียง แล้วมือกี้ทำไมต้องจูบมือหวา...แล้วตกลงที่หวารู้สึกเมื่อวานมันคือความฝันหรือเรื่องจริง...หล่อนคงเป็นลมตั้งแต่พูดประโยคแรกยังไม่จบดีเลยมั้ง

จิระยืนยันอย่างนั้นก็แสดงว่าทั้งหมดเป็นความฝันของตัวเองฝ่ายเดียว มือเรียวเผลอยกไล้สัมผัสที่ริมฝีปาก ถึงมันจะเป็นแค่ฝันหล่อนก็ยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้ดี ยามที่ริมฝีปากอุ่นจัดทาบทับลงบนเรียวปาก หล่อนรู้สึกไปเองรึเปล่านะว่าความร้อนของรสจูบในฝันมันยังหลงเหลืออยู่

'นึกยังไงถึงไปฝันอย่างนั้นเข้านะ ยัยหวาเอ๊ย...น่าอายจริงเชียว' คิดถึงเรื่องเมื่อวานหน้าหล่อนก็แดงเรื่ออีกเป็นรอบที่สิบของวัน ถ้าในฝันหล่อนไม่ร้องว่า 'อย่า' ออกไปไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น หล่อนคงเตลิดต่อไปไกลจนยากที่จะถอนตัวกลับ...และลืมนึกถึงความเป็นจริงและความถูกต้องที่ว่าเขาและหล่อนเป็นเพียงเพื่อนกัน คิดแล้วก็เจ็บแปลบถึงความจริงที่ผุดขึ้นมาในหัวใจ แต่อีกใจก็คิดถึงการกระทำของเขาที่ผ่านมารวมทั้งเรื่องเมื่อเช้านี้อีก

‘แบบนี้หล่อนจะพอมีหวังไหมนะ’




---------------------------------------------

คุณ violette
กรี๊ดดดด ลุ้นตอนต่อไปค่า สู้ๆทั้งจีและหวานะคะ ยัยขวัญนี่ท่าจะป่วนน่าดู

>> ตอนนี้เกือบติดเรท ....จะโดนแบนไหมคะนี่



คุณ เบลินญา
อีกนิด...อีกนิ้ดดดเดียวเอง

>> มาต่อให้แล้วค่ะ หลายนิดเลยทีเดียว ^^



คุณ anOO
หวังว่านายจีคงไม่ซุ่มซ่าม หน้าทิ่มไปบนเตียงหรอกนะ 555

>> ครั้งนี้ไม่ซุ่มซ่ามนะคะ จัดซะเกือบเต็ม คนเขียนแต่งเองยังเขินไม่หายเลยค่ะ



คุณ silverraindrop
อ๊าย....ลุ้นตัวโก่งเลยค่ะ จะเกิดอะไรขึ้นหรือปล่าวน๊า

>> จะว่าเกิดก็เกิดค่ะ แต่เกิดแบบเกือบๆ 555+




ปาลิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ส.ค. 2554, 00:40:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ส.ค. 2554, 00:40:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 2276





<< ตอนที่ 4 : พิษไข้   ตอนที่ 6 : สระผม >>
violette 19 ส.ค. 2554, 01:14:07 น.
โอยยย ไม่รีบบอกกันเดี๋ยวนางมารมาคราวนี้ได้กินน้ำตา(ตกใน)กันทั้งคู่แน่ๆเล้ยย


anOO 19 ส.ค. 2554, 13:12:16 น.
มัวแต่คิดเอง เออเองอยู่นั่นแหละ
เดี๋ยวมีมือที่สาม สี่ ห้า โผล่มาไม่รู้ด้วยนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account