รักรออุ้ม: ทักษิณา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
ความคึกคะนอง ย่ามใจของเขา กับความอ่อนด้อยประสบการณ์ของเธอ ก่อเกิดหนึ่งชีวิตที่ไม่ตั้งใจขึ้นมา
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ลูก ครอบครัว ดราม่า โรแมนติก ท้อง
ตอน: บทที่ 20 -100%
น้ำเสียงและสีหน้าของเขาฉายชัดความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า หญิงสาวถึงกับอึ้ง พูดอะไรไม่ออก เธอต้องรวบรวมสมาธิอยู่ชั่วขณะ กว่าจะตอบโต้เขากลับไปได้
“งั้น...งั้นก็ตามใจคุณ จะทำอะไรก็เรื่องของคุณ ไม่มีประโยชน์ที่เราจะพูดกันอีกแล้ว!”
ปกเกศหันหลังไปเปิดประตูรั้ว ตั้งใจจะหนีกลับเข้าบ้านให้เร็วที่สุด เธอไม่อยากอยู่เผชิญหน้ากับเขาอีก กานต์ชนกกดดันจนเธอหายใจไม่ออก อึดอัด กังวล หวาดกลัวสารพัด
เขาอยากทำอะไรก็ช่างสิ ตราบใดที่เธอไม่ยอมเสียอย่าง ใครหน้าไหนจะมาจับลูกชายเธอไปตรวจดีเอ็นเอได้
หญิงสาวยังใจชื้นอยู่บ้างก็ตรงนี้ เชื่อว่าหากเธอยืนยันต่อ อีกไม่นานกานต์ชนกก็ต้องยอมแพ้ หมดความสนใจเรื่องน้องปั้นไปเอง ในเมื่อเขาก็ไม่ได้รักใคร่ไยดีอยากมีลูกด้วยใจจริง คนอย่างเขาคงทนตามตื๊อใครไม่ได้นานหรอก
พอคิดถึงตรงนี้ก็ค่อยยิ้มออกมาได้ เจ้าตัวเปิดประตูรั้วแล้วก้าวผ่านเข้าไป ยังไม่ทันได้งับบานประตู จู่ๆ ปกเกศก็ต้องสะดุ้ง เบิกตาตกใจเพราะการตามเข้ามาประชิดกะทันหันของอีกฝ่าย
“คุณกานต์ชะ...”
ปกเกศเรียกชื่อของเขาไม่จบ ใจหายเมื่อกานต์ชนกดึงร่างเธอเข้าไปกอดไว้แน่น ใบหน้าหวานซุกซบแนบชิดอยู่กับอกเสื้อเชิ้ตเนื้อดี รับรู้ได้ถึงตัวตนของเขาที่โอบล้อมเธออยู่ รู้สึกไม่ต่างจากถูกขุนเขามหึมาทั้งลูกปิดล้อมเอาไว้ หาทางออกไม่ได้ กระดิกกระเดี้ยตัวยังยากลำบาก
...แม้กระทั่งลมหายใจ เธอก็รู้สึกราวกับว่ามันจะไม่ใช่ของตัวเอง...
ปกเกศเข้าใจว่าเธอคงตกใจเลยคิดมากไปเอง ทว่าสัมผัสร้อนผ่าวที่แตะมาข้างขมับของตัวเองทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมองโดยอัตโนมัติ กว่าจะรู้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ ‘พลาด’ อย่างยิ่งของตัวเองก็ไม่ทันเสียแล้ว
ริมฝีปากอุ่นอ้าวของกานต์ชนกทาบลงมา ปิดเรียวปากนุ่มของเธอแนบสนิท หญิงสาวเบิกตาโพลงตกตะลึงสุดขีด จนลืมหายใจไปชั่วขณะ พริบตานั้น ความทรงจำเลือนรางของค่ำคืนเมื่อหนึ่งปีก่อนก็หวนคืนสู่ความทรงจำ พวงแก้มเนียนของหญิงสาวร้อนฉ่า หัวใจเธอเต้นแรงแทบระเบิดและเชื่อว่ากานต์ชนกก็คงรับรู้ได้ เพราะเธอก็รู้สึกถึงแรงเต้นกระหน่ำจากหัวใจของเขาเช่นเดียวกัน
เธอตกอยู่ในความพิศวง งงงวย ราวกับต้องมนต์สะกด หลงลืมตัวไปชั่วขณะ ราวกับทั้งโลกนี้มีแค่เธอกับกานต์ชนกเพียงลำพังสองคนเท่านั้น
ทว่าทันใดนั้น เสียงคุ้นเคยของนวินดาก็ดังแทรกผ่านเข้ามาในโสตรับรู้ ปลุกให้ปกเกศรู้สึกตัวตื่นจากภวังค์
“พี่เกศ ทำอะไรคะ!!”
ปกเกศตกใจ รีบผลักร่างสูงใหญ่ของกานต์ชนกออกห่าง ใบหน้าตื่นตระหนกเมื่อตอนนี้ หน้าบ้านไม่ได้มีแค่นวินดาคนเดียว แต่ธีรไนยก็อุ้มน้องปั้นที่ร้องไห้จ้า เดินตามออกมาเห็นเธอกับกานต์ชนก อาวสินและภานีก็ยังอุตส่าห์เดินออกมารั้งอยู่ท้ายสุดด้วย
ปกเกศใจหายวูบ รู้สึกไม่ต่างจากถูกผลักตกจากหน้าผาสูง เข่าอ่อนแทบทรุดฮวบ
มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนถึงออกมานอกบ้านในเวลานี้ แล้ว...
เธอค่อยๆ หันไปมองกานต์ชนก สังหรณ์บางอย่าง แล้วก็ร้อนวูบไปทั้งกรอบตา หยดน้ำใสวาวรื้นขึ้นมาทันที
กานต์ชนกยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ...ที่เขาจูบเธอ เพราะเห็นทุกคนเดินออกจากบ้านมาอย่างนั้นเหรอ!?
“โอ๊ย ตาย...งามไส้ละ พ่อของลูกอยู่ตรงนี้ แต่ยังไปจูบกับผู้ชายอื่นได้ลงคอ ตายๆ ฉันสงสารเธอจริงๆ ธีรไนย!”
ภานีเป็นคนแรกที่หายจากอาการตะลึง แล้วรีบพูดขึ้นอย่างหมั่นไส้แกมริษยาลูกเลี้ยงคนสวยของตนเอง
ขนาดผู้หญิงมีลูกตัวกระจิ๋วร้องไห้แงๆ อยู่แล้ว แต่กานต์ชนกพ่อหนุ่มสุดหล่อเท่และรวยมากก็ยังตามตอแย ทำอย่างกับไม่เห็นธีรไนยอยู่ในสายตา ฉากอย่างนี้เธอเคยเห็นในละครบ่อย เคยแต่จินตนาการตัวเองเป็นสาวสวยที่ถูกยื้อแย่ง แต่พอมาเห็นลูกเลี้ยงสาวของตัวเองเป็นนางเอกผู้โชคดี ภานีก็อดริษยาตาร้อนผ่าวไม่ได้
อะไรจะเสน่ห์แรงปานนั้น ว่ากันตามจริงแล้ว ตอนสาวๆ เธอสวยกว่ายายปกเกศตั้งหลายเท่า!
“พอเถอะน้านี ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาทับถมกัน” ธีรไนยหันไปตำหนิภานี หน้าดุเคร่ง ขมับยังเต้นตุ้บๆ กับภาพบาดตาที่ได้เห็นไปสดๆ ร้อนๆ
ไอ้หมอนั่นมันไม่มีสลด ไม่ได้รู้สึกผิดเลย...กลับยังยิ้มเยื้อนอวดดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จงใจปั่นหัวเขาอยู่ชัดๆ!
ธีรไนยสูดลมหายใจเข้าปอดลึก เสียงร่ำไห้จ้าของเจ้าหนูตัวจิ๋วในอ้อมแขนช่วยปลุกสติของเขาและเรียกให้ปกเกศรีบวิ่งเข้ามา รวบผ้าห่อตัวเอาลูกชายที่ดิ้นร้องงอแงจากมือธีรไนยเข้าไปอุ้ม ทว่าคราวนี้ไม่เหมือนทุกที น้องปั้นเอาแต่ร้องไห้จ้าไม่หยุด ท่าทางของลูกชายทำให้เธอตกใจ รีบอังมือกับหน้าผากและแก้มยุ้ยแสนนุ่มนิ่ม แล้วต้องสะดุ้งพลัน ยิ่งหน้าเสียเพราะกระไอร้อนจัดจากร่างเล็ก
“น้องปั้นไม่สบาย!” เธอร้องขึ้น มองหน้าธีรไนยอย่างลืมตัว
“ใช่ พวกเราได้ยินเสียงน้องปั้นร้องเลยเข้าไปดู ไม่เห็นเกศอยู่ในห้อง เราเลยอุ้มน้องปั้นออกมาตาม...” ชายหนุ่มเล่าให้ญาติสาวฟัง ทั้งที่ตัวเองกำลังเจ็บ แต่พอเห็นน้ำตาหยดเผาะลงมาจากดวงตาคู่สวยของเธอ ธีรไนยก็ตัดสินใจทันที
ที่เขาเจ็บมันยังเล็กน้อยกว่าที่ปกเกศเจ็บ เขาไม่อยากเพิ่มความทุกข์ด้วยการซ้ำเติมเธอ
“รีบพาลูกไปโรงพยาบาลเถอะ พี่จะพาไปเอง!” เขาบอกอย่างกระตือรือร้น ทว่าเพียงหันหลังจะวิ่งไปที่รถของตัวเอง เสียงทุ้มมีอำนาจของกานต์ชนกลับดังแทรกเข้ามา หยุดฝีเท้าของเขาเอาไว้
“ไปรถฉันเกศ ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่บ้านของฉันมีหุ้นส่วนอยู่ น้องปั้นจะได้รับการรักษาทันที ไม่ต้องรอคิวเลย มาเถอะ!”
“...คุณกานต์ชนก...” ปกเกศหันไปทางกานต์ชนก กะพริบตามองเขางงๆ ทว่าไม่ทันไร ฝ่ายนั้นก็เดินดุ่มๆ เข้ามาถึงตัว เลื่อนฝ่ามือเข้ามาโอบเอวบาง รั้งให้หญิงสาวเดินไปด้วยกันที่รถของเขา
ปกเกศกำลังเสียขวัญและเป็นห่วงลูกชายจนแทบคิดอะไรไม่ออก เธอเดินตามแรงรั้งของเขามาอย่างคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จนเสียงเรียกของธีรไนยดังมาจากด้านหลัง
“เกศ!!”
“พี่ไนย...” เธอหันไปมองก็เห็นธีรไนยตามมาหยุดอยู่ เกือบถึงตัวเธอกับกานต์ชนกที่หน้าประตูรั้วแล้ว สีหน้าเคร่งเครียดอย่างหนักของเขากดดันให้เธออึดอัด ทรมาน เธอตัดสินใจผละจากกานต์ชนกเข้าไปหาฝ่ายนั้น แต่ญาติหนุ่มกลับเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม ต่ำลึก
“รีบพาน้องปั้นไปหาหมอเถอะ เร็วเข้า”
ปกเกศชะงัก หน้าเผือดซีด น้ำตาที่เพิ่งหยุดไหลกลับมาร่วงเผาะอีก
เธอรู้ว่าเขาเจ็บปวด แต่พี่ไนยก็ยังเห็นแก่น้องปั้นที่สุด...
“ไปเถอะปกเกศ มากับฉัน น้องปั้นปลอดภัยแน่นอน รับรอง!”
กานต์ชนกรั้งเอว พาหญิงสาวเข้าไปในรถของเขา ปิดประตูให้เธอเรียบร้อยแล้วก็เหลือบมองทางธีรไนยด้วยแววตาไม่เป็นมิตรชั่วแวบหนึ่ง จากนั้นจึงรีบอ้อมไปประจำที่นั่งหลังพวงมาลัย ขับรถตรงดิ่งไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
ปกเกศร้องไห้เงียบๆ ขณะพยายามเห่กล่อม ปลอบโยนลูกชายที่เอาแต่ร้องไห้งอแงไม่หยุด นานทีเดียวกว่าเธอจะรู้สึกตัวแล้วช้อนตามองคนที่ขับรถอยู่ ไม่ปริปากพูดอะไรเลย ดวงตากลมโตคู่สวยกะพริบถี่ๆ เมื่อเจ้าตัวแลเห็นสีหน้าเครียดจัดเป็นกังวลของเขา
ทำไมกานต์ชนกต้องเครียดอย่างนี้ด้วย...เขาเป็นห่วงน้องปั้นขนาดนั้นเลยเหรอ?
ไม่จริง...คนใจร้าย ไม่มีหัวใจอย่างนั้น จะมาสนใจอะไรน้องปั้นจริงจัง เขาก็แค่ต้องการแกล้งเธอเท่านั้น คนโรคจิต!
หญิงสาวปัดความหวั่นไหวของตัวเองทิ้งไปให้หมด โอบกอดลูกชายไว้แนบอกด้วยความรักและความหวงแหนสุดจิตสุดใจ
อย่าเป็นอะไรนะน้องปั้น แม่ขอโทษที่ไม่ทันสังเกตหนู แม่ขอโทษจริงๆ...
*************
นายกานต์ชนกหนอ เจ้าเล่ห์ได้โล่เลยนะ...
ยังคงหาซื้อรักรออุ้มได้ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และตามร้านออนไลน์นะคะ ที่ shopee ตอนนี้ก็กำลังจัดโปรฯ อยู่ด้วยจ้า สั่งซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ได้เลยนะคะ หรือถ้าสั่งซื้อผ่านเพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’ โดยตรง ช่วงนี้มีของแถมเป็นสมุดโน้ตแบบ memo card พร้อมปฏิทินขนาดเล็กลายปลายปากกาสำนักพิมพ์ให้ทุกออเดอร์เลยค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
“งั้น...งั้นก็ตามใจคุณ จะทำอะไรก็เรื่องของคุณ ไม่มีประโยชน์ที่เราจะพูดกันอีกแล้ว!”
ปกเกศหันหลังไปเปิดประตูรั้ว ตั้งใจจะหนีกลับเข้าบ้านให้เร็วที่สุด เธอไม่อยากอยู่เผชิญหน้ากับเขาอีก กานต์ชนกกดดันจนเธอหายใจไม่ออก อึดอัด กังวล หวาดกลัวสารพัด
เขาอยากทำอะไรก็ช่างสิ ตราบใดที่เธอไม่ยอมเสียอย่าง ใครหน้าไหนจะมาจับลูกชายเธอไปตรวจดีเอ็นเอได้
หญิงสาวยังใจชื้นอยู่บ้างก็ตรงนี้ เชื่อว่าหากเธอยืนยันต่อ อีกไม่นานกานต์ชนกก็ต้องยอมแพ้ หมดความสนใจเรื่องน้องปั้นไปเอง ในเมื่อเขาก็ไม่ได้รักใคร่ไยดีอยากมีลูกด้วยใจจริง คนอย่างเขาคงทนตามตื๊อใครไม่ได้นานหรอก
พอคิดถึงตรงนี้ก็ค่อยยิ้มออกมาได้ เจ้าตัวเปิดประตูรั้วแล้วก้าวผ่านเข้าไป ยังไม่ทันได้งับบานประตู จู่ๆ ปกเกศก็ต้องสะดุ้ง เบิกตาตกใจเพราะการตามเข้ามาประชิดกะทันหันของอีกฝ่าย
“คุณกานต์ชะ...”
ปกเกศเรียกชื่อของเขาไม่จบ ใจหายเมื่อกานต์ชนกดึงร่างเธอเข้าไปกอดไว้แน่น ใบหน้าหวานซุกซบแนบชิดอยู่กับอกเสื้อเชิ้ตเนื้อดี รับรู้ได้ถึงตัวตนของเขาที่โอบล้อมเธออยู่ รู้สึกไม่ต่างจากถูกขุนเขามหึมาทั้งลูกปิดล้อมเอาไว้ หาทางออกไม่ได้ กระดิกกระเดี้ยตัวยังยากลำบาก
...แม้กระทั่งลมหายใจ เธอก็รู้สึกราวกับว่ามันจะไม่ใช่ของตัวเอง...
ปกเกศเข้าใจว่าเธอคงตกใจเลยคิดมากไปเอง ทว่าสัมผัสร้อนผ่าวที่แตะมาข้างขมับของตัวเองทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมองโดยอัตโนมัติ กว่าจะรู้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ ‘พลาด’ อย่างยิ่งของตัวเองก็ไม่ทันเสียแล้ว
ริมฝีปากอุ่นอ้าวของกานต์ชนกทาบลงมา ปิดเรียวปากนุ่มของเธอแนบสนิท หญิงสาวเบิกตาโพลงตกตะลึงสุดขีด จนลืมหายใจไปชั่วขณะ พริบตานั้น ความทรงจำเลือนรางของค่ำคืนเมื่อหนึ่งปีก่อนก็หวนคืนสู่ความทรงจำ พวงแก้มเนียนของหญิงสาวร้อนฉ่า หัวใจเธอเต้นแรงแทบระเบิดและเชื่อว่ากานต์ชนกก็คงรับรู้ได้ เพราะเธอก็รู้สึกถึงแรงเต้นกระหน่ำจากหัวใจของเขาเช่นเดียวกัน
เธอตกอยู่ในความพิศวง งงงวย ราวกับต้องมนต์สะกด หลงลืมตัวไปชั่วขณะ ราวกับทั้งโลกนี้มีแค่เธอกับกานต์ชนกเพียงลำพังสองคนเท่านั้น
ทว่าทันใดนั้น เสียงคุ้นเคยของนวินดาก็ดังแทรกผ่านเข้ามาในโสตรับรู้ ปลุกให้ปกเกศรู้สึกตัวตื่นจากภวังค์
“พี่เกศ ทำอะไรคะ!!”
ปกเกศตกใจ รีบผลักร่างสูงใหญ่ของกานต์ชนกออกห่าง ใบหน้าตื่นตระหนกเมื่อตอนนี้ หน้าบ้านไม่ได้มีแค่นวินดาคนเดียว แต่ธีรไนยก็อุ้มน้องปั้นที่ร้องไห้จ้า เดินตามออกมาเห็นเธอกับกานต์ชนก อาวสินและภานีก็ยังอุตส่าห์เดินออกมารั้งอยู่ท้ายสุดด้วย
ปกเกศใจหายวูบ รู้สึกไม่ต่างจากถูกผลักตกจากหน้าผาสูง เข่าอ่อนแทบทรุดฮวบ
มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนถึงออกมานอกบ้านในเวลานี้ แล้ว...
เธอค่อยๆ หันไปมองกานต์ชนก สังหรณ์บางอย่าง แล้วก็ร้อนวูบไปทั้งกรอบตา หยดน้ำใสวาวรื้นขึ้นมาทันที
กานต์ชนกยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ...ที่เขาจูบเธอ เพราะเห็นทุกคนเดินออกจากบ้านมาอย่างนั้นเหรอ!?
“โอ๊ย ตาย...งามไส้ละ พ่อของลูกอยู่ตรงนี้ แต่ยังไปจูบกับผู้ชายอื่นได้ลงคอ ตายๆ ฉันสงสารเธอจริงๆ ธีรไนย!”
ภานีเป็นคนแรกที่หายจากอาการตะลึง แล้วรีบพูดขึ้นอย่างหมั่นไส้แกมริษยาลูกเลี้ยงคนสวยของตนเอง
ขนาดผู้หญิงมีลูกตัวกระจิ๋วร้องไห้แงๆ อยู่แล้ว แต่กานต์ชนกพ่อหนุ่มสุดหล่อเท่และรวยมากก็ยังตามตอแย ทำอย่างกับไม่เห็นธีรไนยอยู่ในสายตา ฉากอย่างนี้เธอเคยเห็นในละครบ่อย เคยแต่จินตนาการตัวเองเป็นสาวสวยที่ถูกยื้อแย่ง แต่พอมาเห็นลูกเลี้ยงสาวของตัวเองเป็นนางเอกผู้โชคดี ภานีก็อดริษยาตาร้อนผ่าวไม่ได้
อะไรจะเสน่ห์แรงปานนั้น ว่ากันตามจริงแล้ว ตอนสาวๆ เธอสวยกว่ายายปกเกศตั้งหลายเท่า!
“พอเถอะน้านี ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาทับถมกัน” ธีรไนยหันไปตำหนิภานี หน้าดุเคร่ง ขมับยังเต้นตุ้บๆ กับภาพบาดตาที่ได้เห็นไปสดๆ ร้อนๆ
ไอ้หมอนั่นมันไม่มีสลด ไม่ได้รู้สึกผิดเลย...กลับยังยิ้มเยื้อนอวดดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จงใจปั่นหัวเขาอยู่ชัดๆ!
ธีรไนยสูดลมหายใจเข้าปอดลึก เสียงร่ำไห้จ้าของเจ้าหนูตัวจิ๋วในอ้อมแขนช่วยปลุกสติของเขาและเรียกให้ปกเกศรีบวิ่งเข้ามา รวบผ้าห่อตัวเอาลูกชายที่ดิ้นร้องงอแงจากมือธีรไนยเข้าไปอุ้ม ทว่าคราวนี้ไม่เหมือนทุกที น้องปั้นเอาแต่ร้องไห้จ้าไม่หยุด ท่าทางของลูกชายทำให้เธอตกใจ รีบอังมือกับหน้าผากและแก้มยุ้ยแสนนุ่มนิ่ม แล้วต้องสะดุ้งพลัน ยิ่งหน้าเสียเพราะกระไอร้อนจัดจากร่างเล็ก
“น้องปั้นไม่สบาย!” เธอร้องขึ้น มองหน้าธีรไนยอย่างลืมตัว
“ใช่ พวกเราได้ยินเสียงน้องปั้นร้องเลยเข้าไปดู ไม่เห็นเกศอยู่ในห้อง เราเลยอุ้มน้องปั้นออกมาตาม...” ชายหนุ่มเล่าให้ญาติสาวฟัง ทั้งที่ตัวเองกำลังเจ็บ แต่พอเห็นน้ำตาหยดเผาะลงมาจากดวงตาคู่สวยของเธอ ธีรไนยก็ตัดสินใจทันที
ที่เขาเจ็บมันยังเล็กน้อยกว่าที่ปกเกศเจ็บ เขาไม่อยากเพิ่มความทุกข์ด้วยการซ้ำเติมเธอ
“รีบพาลูกไปโรงพยาบาลเถอะ พี่จะพาไปเอง!” เขาบอกอย่างกระตือรือร้น ทว่าเพียงหันหลังจะวิ่งไปที่รถของตัวเอง เสียงทุ้มมีอำนาจของกานต์ชนกลับดังแทรกเข้ามา หยุดฝีเท้าของเขาเอาไว้
“ไปรถฉันเกศ ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่บ้านของฉันมีหุ้นส่วนอยู่ น้องปั้นจะได้รับการรักษาทันที ไม่ต้องรอคิวเลย มาเถอะ!”
“...คุณกานต์ชนก...” ปกเกศหันไปทางกานต์ชนก กะพริบตามองเขางงๆ ทว่าไม่ทันไร ฝ่ายนั้นก็เดินดุ่มๆ เข้ามาถึงตัว เลื่อนฝ่ามือเข้ามาโอบเอวบาง รั้งให้หญิงสาวเดินไปด้วยกันที่รถของเขา
ปกเกศกำลังเสียขวัญและเป็นห่วงลูกชายจนแทบคิดอะไรไม่ออก เธอเดินตามแรงรั้งของเขามาอย่างคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จนเสียงเรียกของธีรไนยดังมาจากด้านหลัง
“เกศ!!”
“พี่ไนย...” เธอหันไปมองก็เห็นธีรไนยตามมาหยุดอยู่ เกือบถึงตัวเธอกับกานต์ชนกที่หน้าประตูรั้วแล้ว สีหน้าเคร่งเครียดอย่างหนักของเขากดดันให้เธออึดอัด ทรมาน เธอตัดสินใจผละจากกานต์ชนกเข้าไปหาฝ่ายนั้น แต่ญาติหนุ่มกลับเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม ต่ำลึก
“รีบพาน้องปั้นไปหาหมอเถอะ เร็วเข้า”
ปกเกศชะงัก หน้าเผือดซีด น้ำตาที่เพิ่งหยุดไหลกลับมาร่วงเผาะอีก
เธอรู้ว่าเขาเจ็บปวด แต่พี่ไนยก็ยังเห็นแก่น้องปั้นที่สุด...
“ไปเถอะปกเกศ มากับฉัน น้องปั้นปลอดภัยแน่นอน รับรอง!”
กานต์ชนกรั้งเอว พาหญิงสาวเข้าไปในรถของเขา ปิดประตูให้เธอเรียบร้อยแล้วก็เหลือบมองทางธีรไนยด้วยแววตาไม่เป็นมิตรชั่วแวบหนึ่ง จากนั้นจึงรีบอ้อมไปประจำที่นั่งหลังพวงมาลัย ขับรถตรงดิ่งไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
ปกเกศร้องไห้เงียบๆ ขณะพยายามเห่กล่อม ปลอบโยนลูกชายที่เอาแต่ร้องไห้งอแงไม่หยุด นานทีเดียวกว่าเธอจะรู้สึกตัวแล้วช้อนตามองคนที่ขับรถอยู่ ไม่ปริปากพูดอะไรเลย ดวงตากลมโตคู่สวยกะพริบถี่ๆ เมื่อเจ้าตัวแลเห็นสีหน้าเครียดจัดเป็นกังวลของเขา
ทำไมกานต์ชนกต้องเครียดอย่างนี้ด้วย...เขาเป็นห่วงน้องปั้นขนาดนั้นเลยเหรอ?
ไม่จริง...คนใจร้าย ไม่มีหัวใจอย่างนั้น จะมาสนใจอะไรน้องปั้นจริงจัง เขาก็แค่ต้องการแกล้งเธอเท่านั้น คนโรคจิต!
หญิงสาวปัดความหวั่นไหวของตัวเองทิ้งไปให้หมด โอบกอดลูกชายไว้แนบอกด้วยความรักและความหวงแหนสุดจิตสุดใจ
อย่าเป็นอะไรนะน้องปั้น แม่ขอโทษที่ไม่ทันสังเกตหนู แม่ขอโทษจริงๆ...
*************
นายกานต์ชนกหนอ เจ้าเล่ห์ได้โล่เลยนะ...
ยังคงหาซื้อรักรออุ้มได้ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ และตามร้านออนไลน์นะคะ ที่ shopee ตอนนี้ก็กำลังจัดโปรฯ อยู่ด้วยจ้า สั่งซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ได้เลยนะคะ หรือถ้าสั่งซื้อผ่านเพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’ โดยตรง ช่วงนี้มีของแถมเป็นสมุดโน้ตแบบ memo card พร้อมปฏิทินขนาดเล็กลายปลายปากกาสำนักพิมพ์ให้ทุกออเดอร์เลยค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ธ.ค. 2561, 10:01:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ธ.ค. 2561, 10:01:15 น.
จำนวนการเข้าชม : 661
<< บทที่ 20 -70% + โปรฯ 7days | บทที่ 21 -30% >> |