นางร้ายอ้อนรัก เปลี่ยนชื่อเป็น เล่ห์พิศวาสซาตาน
เดี๋ยวมาลงให้ค่ะ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 22
ตอนที่ 22
เมืองซาลส์บวร์ก เป็นเมืองอันดับต้นๆ ของประเทศออสเตรีย ที่มีผู้คนไปเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย เมืองแสนโรแมนติกที่มีทัศนียภาพอันสวยงาม และยังเป็นเมืองเกิดของคีตกวีชื่อก้องโลก โมซาร์ท นอกจากนี้ยังมีปราสาทโฮเฮนซาลส์ ที่สร้างอยู่บนเนินเขาสถานที่โรแมนติก เคนพาภรรยาสาวคนสวยมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่เมืองนี้ และคิดว่าจะเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ อีกหลายเมืองเพราะเขามีเวลาอีกมากเนื่องจากพี่ชายคนโตนริน อาสานั่งแท่นรักษาการผู้บริหารโรงงานที่จันทบุรีแทนเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนเต็มนั่นเป็นเพราะนรินมีจุดประสงค์ที่จะทำอะไรบางอย่าง
+++++++++++++++++++++++++++
ณ. จังหวัดจันทบุรี
“มานี่สิเปรี้ยว ทางนี้ๆ” จี๊ดเรียกสาวใช้วัยละอ่อนให้เข้ามาหาเธอเพราะเห็นว่ามีบุคคลที่เธอเพิ่งไปอาละวาดเขาที่บ้านกำลังนั่งคุยกับคุณนพดลพ่อของเธออยู่บริเวณชั้นล่างของบ้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ร่างเล็กสมส่วนแต่ซ่อนไว้ด้วยเสน่ห์อันเหลือร้ายของจี๊ด หรือ เกตุมุกดา ดึงแขนสาวใช้ให้เข้ามาในห้อง
“เปรี้ยวนายนั่นมาทำอะไร เขามาฟ้องคุณพ่อว่าฉันเอาปืนไปยิงประตูบ้านเขาเหรอ”
“คุณหนูเอาปืนไปยิงประตูบ้านเขา!” เปรี้ยวร้องเสียงดัง แต่จี๊ดตีแขนสาวใช้เบาๆ “ยัยเปรี้ยวเบาๆสิเดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า”
ทันใดนั้นประตูห้องนอนของหญิงสาวก็ถูกผลักออก “แต่แม่ได้ยินหมดแล้ว ลูกทำแบบนั้นได้ยังไงยัยจี๊ดแม่อุตสาห์ส่งไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาทำไมถึงได้กลายเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรงไปได้”
ไม่พูดเปล่าแต่คุณสุรางค์หยิกแขนลูกสาวเบาๆ
“คุณแม่ จี๊ดเจ็บนะคะ”
“เปรี้ยวออกไปก่อนไป”คุณสุรางค์ไล่
“ค่ะ” สาวรับใช้รีบออกไปอย่างรวดเร็ว
“เขามาที่นี่ทำไมคะคุณแม่”
“คุณนรินเขาก็จะมาเอาเรื่องพ่อของลูกให้หาเงินสิบล้านไปคืนเขาให้ได้ไม่อย่างนั้นเขาจะดำเนินคดีน่ะสิ”
“นริน! นายคนนั้นไม่ใช่นายนเรนธร ที่ไล่คุณพ่อออกจากงานอย่างไม่เป็นธรรมเหรอคะ”
มารดาส่ายหน้า พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจุทรุดกายวัยเกือบห้าสิบที่มีเคล้าลางความสวยนั่งบนปลายเตียงของลูกสาว
“คนนี้เขี้ยวและดุยิ่งกว่าคุณนเรนธรอีกหลายเท่า เขาชื่อคุณนรินเป็นพี่ชายของคุณนเรนธรเป็นเจ้าของบริษัทในเครือบริษัทเอ็นแอนด์เอ็น สยาม จำกัด ทั้งหมดลูกไปกระตุกหนวดเสือเข้าแล้วรู้ไหม”
“ถึงไม่ใช่เจ้านายพ่อ แต่เขาเป็นพี่ชายและเป็นเจ้าของบริษัทในเครือทั้งหมดก็สมควรแล้วที่จะรับรู้ว่าบริษัทของเขา และน้องชายของเขาไล่คุณพ่อออกอย่างไม่เป็นธรรม” หญิงสาวนัยน์ตาแข็งกร้าว
“จี๊ด ลูกเข้าใจผิดแล้ว”
ใบหน้าสวยทำสีหน้าไม่เข้าใจ “จี๊ดเข้าใจอะไรผิดคะคุณแม่”
“ที่จริงแล้ว คุณนเรนธรไล่คุณพ่ออกเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แถมยังให้โอกาสเราหาเงินไปคืนเขาอีกนับว่าเขาเมตตาครอบครัวเรามากแล้ว”
“จี๊ดไม่เข้าใจค่ะคุณแม่”
คุณสุรางค์หน้าซีด รู้สึกว่าแต่ละคำที่เธอจะพูดออกมามันยากลำบากนัก แต่จำเป็นที่ต้องบอกความจริงกับลูกสาวดีกว่าจะให้ลูกสาวเข้าใจแบบผิดๆ ตามคำที่คุณนพดลโกหกเอาไว้
“คุณพ่อโกงเงินบริษัทของเขาไปสิบล้านเพราะติดหนี้บ่อนคุณนเรนธรรู้เข้าจึงเรียกคุณพ่อไปคุยและให้ลาออกจากงาน ส่วนเรื่องเงินที่คุณพ่อโกงไปคุณนเรนธรให้โอกาสหากว่าหาเงินมาคืนจนครบภายในสิ้นเดือนนี้เขาก็จะไม่แจ้งความดำเนินคดีกับคุณพ่อ แต่ตอนนี้คุณนเรนธรเขาไม่อยู่รู้สึกว่ากำลังไปฮันนีมูลกับภรรยา คุณนรินพี่ชายจึงรับหน้าที่สานต่อเรื่องนี้เอง”
หญิงสาวรู้สึกราวกับฟ้าฟาดลงตรงหน้าไม่อยากเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดบิดาจะแต่งขึ้น มันเป็นคนละเรื่องกับความเป็นจริงที่ได้ยินจากปากของคนเป็นแม่
“คุณแม่ จี๊ดไม่อยากเชื่อค่ะ คุณพ่อทำแบบนั้นได้ยังไงคะ แล้วเราจะหาเงินสิบล้านมาจากไหนเงินตั้งมากมายขนาดนั้น” หญิงสาวยกมือทาบอกรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ
คุณสุรางค์น้ำตาไหล “ก็คุณพ่อทำไปแล้วไม่รู้ผีตัวไหนมันสิงคุณพ่อของลูกเหมือนกัน แล้วลูกยังเอาปืนไปยิงประตูบ้านเขาอีกนี่แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามาตกลงอะไรกับคุณพ่อ”
“จี๊ดขอโทษค่ะคุณแม่ ที่จี๊ดวู่วามก็จี๊ดไม่คิดว่าคุณพ่อจะโกหก”
“ช่างเถอะลูก ก็ลูกถูกหลอกจริงๆ เป็นแม่ๆก็คงโกรธเขา ทั้งที่คนผิดจริงๆมันคือพ่อของลูก”
“จี๊ดจะลงไปขอโทษเขา” หญิงสาวทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง แต่คนเป็นแม่ดึงแขนเอาไว้
“อย่าเลยลูก ผู้ใหญ่เขาคุยกันอยู่ วันหลังเราค่อยไปขอโทษเขาจะดีกว่านะ”
“ก็ได้ค่ะ ดีไม่ดีเขาเห็นหน้าจี๊ดจะยิ่งโกรธหนักเข้าไปอีก อาจจะแจ้งความจับคุณพ่อเลยก็ได้” หญิงสาวทรุดตัวนั่งลงเคียงข้างมารดา ++++++++++++++++
“ไม่ๆ ผมไม่ยอมยังไงผมก็ไม่ยอม”
“ถ้าอย่างนั้นก็เลือกเอาละกันว่าคุณอยากจะใช้ชีวิตนอกคุก หรือว่าในคุก” นัยน์ตาเจ้าเล่ห์ของนรินมองผู้อาวุโสอย่างถือไพ่เหนือกว่า
“คุณมันจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ คุณนริน”
“ใช่ผมมันจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ แต่ก็ยังดีกว่าคุณที่คิดจะเอาลูกสาวไปขายให้กับนายประวิทย์”
คุณนพดลหน้าซีดรู้สึกตกใจนายนรินรู้เรื่องที่เธอเรียกลูกสาวกลับมาและมีแผนจะยกลูกให้กับเสี่ยประวิทย์เพื่อนของเขาได้อย่างไร
“อย่าตกใจไปเลยครับ นายประวิทย์คงไม่กล้ารับเลี้ยงลูกสาวคุณแล้วล่ะเพราะผมบอกเขาว่าเธอนอนกับผมเรียบร้อยแล้ว ถึงเป็นเมียน้อยแต่นายประวิทย์ก็คงไม่อยากได้เมียน้อยมือสองหรอกนะ” นรินหัวเราะ
“เลว!”
“ครับผมรับว่าผมเลว แต่นั่นคงน้อยกว่าสิ่งที่คุณคิดจะทำกับลูกสาวที่คุณบอกว่ารักนักรักหนา”
“แล้วคุณจะเอายังไงที่ผมทำแบบนั้นก็เพื่อจะหาเงินมาใช้คืนคุณยังไม่ดีอีกเหรอไง หรือคุณไม่อยากได้เงินคืน”
ตั้งแต่เขาได้พบหน้าเธอยัยตัวร้ายที่เอาปืนไปยิงหน้าบ้านเขานรินก็ตอบไม่ถูกว่าอยากได้เงินหรืออยากได้อย่างอื่นจากนายนพดลกันแน่ความรู้สึกแบบนี้มันหายไปนานสิบกว่าปีแล้ว
“เงินจากการขายลูกสาวเนี่ยนะ” นรินเย้ยหยัน
“ผมไม่มีทางเลือก ถ้าหาเงินมาคืนคุณไม่ได้คุณก็ต้องดำเนินคดีกับผม”
นรินถอนหายใจ “สิบล้านแลกกับลูกสาวคุณล้างหนี้แล้วเราจบกัน”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็ข้อเสนอเดียวกับที่คุณไปเสนอคุณประวิทย์ แต่จะดีกว่าที่เธอไม่ต้องเป็นเมียน้อยใครไม่ใช่เหรอ เพราะผมยังไม่มีเมียหลวง”
“แล้วลูกสาวผมจะไปอยู่กับคุณในฐานะอะไร” นพดลถามในใจรู้สึกห่วงบุตรสาวเพียงคนเดียวขึ้นมาย่างประหลาด พราะรู้มาว่าถึงนรินยังไม่มีภรรยาแต่เขาก็มีผู้หญิงอยู่ลอบตัว
“เมียเก็บ”
“บ้า ผมไม่ยอมแน่”
“ระหว่างเป็นเมียน้อยของนายประวิทย์ กับเป็นเมียเก็บของผมมันต่างกันตรงไหน” นรินถามแกมขู่
“คุณประวิทย์จะให้เงินเดือนลูกสาวผมเดือนละสี่หมื่น” คุณนพดลรู้ว่าต่อไปนี้ตัวเองจะไม่มีเงินเพราะตกงาน ทางเดียวที่จะอยู่รอดต่อไปได้คือต้องให้ลูกสาวส่งเสีย
“ผมจะให้เงินคุณก้อนหนึ่ง แต่ว่าขายขาดนะ” รอยยิ้มหยันผุดที่มุมปากของนริน
หากจี๊ดได้ยินคำนี้เธอคงไม่อาจจะอยู่เฉยที่ผู้ชายสองคนกำลังต่อรองกันเรื่องราคาค่าตัวของเธอราวกับว่าเธอเป็นสิ่งของไม่มีหัวใจที่ซื้อหาได้ตามตลาด
ต่อจากนั้นนรินก็ยิ้มให้แก่นายนพดลก่อนจะเซ็นเช็คใบหนึ่งมูลค่าหนึ่งล้านบาทส่งให้กับนายนพดล “ผมอยากบอกคุณว่าผมไม่ได้ขายลูกสาวกิน ผมแค่ไม่มีทางเลือก”นายนพดลกล่าวเสียงอ่อยๆ แต่รีบรับเช็ก
“เรื่องนั้นผมไม่สนใจ แต่ส่งมอบเธอให้ผมในวันพรุ่งนี้ตามที่ตกลงกันไว้นะครับ” นรินเดินไป
“ผมจะพยายามครับ”
นรินหันกลับมายิ้มให้กับนายนพดลพร้อมน้ำเสียงเย็นยะเยือก “พยายามไม่ได้ครับ แต่คุณต้องทำให้ได้เพราะคุณรับเงินผมไปแล้ว” +++++++++++++++++++++++
หลังอาหารมื้อเย็นเสร็จสิ้นเป็นเวลาที่คนในครอบครัวจะได้คุยกัน ทั้งนายนพดลและจี๊ดต่างมีสีหน้าแปลกๆ เพราะต่างคนก็ต่างมีเรื่องที่จะพูดแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไรดี
“คุณพ่อ”
“ยัยจี๊ด”
ทั้งสองเอ่ยพร้อมกัน “ใจตรงกันเลยนะคะพ่อลูก” คุณสุรางค์ยิ้มน้อยๆและเป็นกรรมการตัดสินให้คุณนพดลเริ่มพูดก่อน
“ยัยจี๊ดวันนี้คุณนรินทมาหาพ่อที่บ้าน”
“จี๊ดเห็นแล้วค่ะ เขามาทำไมคะ”
“เอ่อ.....เขามา”
“ทวงเงินคุณพ่อ” จี๊ดเดา
คุณสุรางค์แทรกขึ้น “ฉันเล่าความจริงทั้งหมดให้ยัยจี๊ดฟังแล้วค่ะ”
“คุณสุรางค์” คุณนพดลทำทีจะตำหนิภรรยาแต่แล้วเขากลับตำหนิตัวเอง “พ่อเองที่ทำให้ครอบครัวเดือนร้อนกันไปหมด”
“ช่างมันเถอค่ะคุณพ่อไหนๆเรื่องมันก็มาถึงป่านนี้แล้วเราควรช่วยกันแก้ปัญหาจะดีกว่า”
“จริงด้วยค่ะ คุณอย่ามัวโทษตัวเองกับเรื่องที่ผ่านมาจะดีกว่า ชีวิตคนเรามันต้องเดินไปข้างหน้า”
“นายนรินคนนั้นเขาว่ายังไงบ้างคะ แล้วเขาฟ้องพ่อด้วยหรือเปล่าเรื่องที่จี๊ดเอาปืนไปยิงประตูบ้านเขา”
“ยัยจี๊ด!” คุณนพดลตกใจ แต่เรื่องนี้เขาไม่เห็นนายนรินจะพูดถึงเลย
“คือหนูรู้ค่ะว่าผิดแล้วจะสร้างปัญหาให้คุณพ่อมากขึ้น เอาเป็นว่าพรุ่งนี้หนูจะไปขอโทษเขาเองนะคะคุณพ่อ”
“แม่จะไปเป็นเพื่อน” คุณสุรางค์อาสา
“อย่าเลยคุณ”คุณนพดลคิดออกแล้ว แต่รู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อที่เลวเหมือนส่งลูกสาวเข้าปากเสืออย่างไรก็ไม่รู้แต่บางทีมันอาจจะทำให้ชีวิตของจี๊ดดีขึ้นหากนายนรินเมตตาลูกสาวของเขาบ้าง
“ทำไมล่ะคะ” คุณสุรางค์ถามด้วยความสงสัย
“คุณไปด้วยเขาอาจจะคิดว่าเราบังคับลูกให้ไปขอโทษเขาก็ได้ ให้ยัยจี๊ดไปขอโทษคุณนรินคนเดียวจะดีกว่า ตอนไปยิงประตูบ้านเขายังไปคนเดียวได้เลย”
“จริงด้วยค่ะคุณแม่ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้จี๊ดจะไปขอโทษนายนริน”
จี๊ดพ่อขอโทษด้วยนะลูก อภัยให้พ่อเลวๆคนนี้ด้วย นายนพดลได้แต่นึกขอโทษและขอให้บุตรสาวอภัยให้เขาอยู่ในใจ +++++++++++++++++++++++++++
เสียงรถทำลายความสงบเงียบของบ้านสวน นรินมองผ่านหน้าต่างชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่หรี่ตาลงเมื่อเห็นหญิงสาวสวยที่เขารอคอยเดินลงมาจากรถพร้อมกระเช้ารังนกบำรุงกำลัง แทนที่จะเป็นกระเป๋าใบโต
“หรือว่าคุณต้องการเอามาบำรุงกำลังผมสำหรับคืนนี้ ไม่ต้องเอามามากมายขนาดนี้ก็ได้”นรินลอบยิ้มเขายังไม่แก่ขนาดต้องโด๊ปเครื่องดื่มบำรุงกำลังสักนิดเขาแค่สามสิบแปดปลายๆไม่ใช่ชายวัยแปดสิบสักหน่อย
“คุณนรินคะ” หญิงสาวเรียกด้วยเสียงหวานตามปกติ ไม่ได้ฉุนเฉียวแบบคราวก่อน
นรินเปิดประตูออกมาต้อนรับ “เชิญครับ เสียงหวานๆ พูดเพราะๆ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย”
วันนี้จี๊ดสวมแซกสั้นสีฟ้าน้ำทะเลยาวเหนือเข่าเล็กน้อย อวดผิวขาวอมชมพูดูสวยสดใสไปทั้งเนื้อทั้งตัว
“จี๊ดต้องขอโทษคุณด้วยค่ะสำหรับเรื่องเข้าใจผิดครั้งก่อน”
“มาแบบเสียงอ่อนเสียงหวานน่ารักแบบนี้ผมจะไม่ให้อภัยคุณได้ยังไงล่ะครับ” นรินผายมือเชื้อเชิญเธอไปนั่งที่โซฟารับแขก
“จี๊ดมีของมาฝากค่ะ”เธอยื่นตระกร้ารังนกให้เขา
นรินรับมา“ขอบคุณครับแต่รังนกพวกนี้ ผมไม่ต้องพึ่งมันหรอกครับ ผมดูแก่ขนาดนั้นเชียวเหรอครับ” หญิงสาวมีสีหน้ามึนงง “หมายความว่ายังไงคะ”
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายยิ้มน้อยๆ “ช่างมันเถอะครับ”
“ว่าแต่กระเป๋าเสื้อผ้าคุณอยู่ที่ไหนครับ ผมจะได้ไปช่วยยกเอาไปไว้ในห้อง”
“กระเป๋าเสื้อผ้า!”
“เอามาทำไมคะ” หญิงสาวยิ้มสดใสในใจคิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าคงอำเล่น
“ก็วันนี้คุณมาที่นี่เพื่ออะไรล่ะครับ” ยิ่งมองเธอนรินก็คิดเพียงอย่างเดียวว่าเขาไม่อยากนั่งคุยกับเธออยู่ตรงนี้แล้ว เขาอยากจะเรียกร้องและครอบครองเธอเสียเดี๋ยวนี้ตามกรรมสิทธ์ที่เขาได้รับมาจากพ่อของเธอ
“จี๊ดมาขอโทษคุณเรื่องวันนั้น ที่จี๊ดเอาปืนมายิงประตูบ้านคุณแล้วก็ทำร้ายคุณ”
“คุณมาเพราะเรื่องแค่นี้เองเหรอครับ” นรินขมวดคิ้วแสดงความแปลกใจ
“ใช่สิคะ” เธอยิ้มกว้าง นรินมองเห็นความใสซื่อยามที่เธอไม่ได้ร้ายกาจเหมือนเช่นวันนั้น
“แสดงว่าพ่อของคุณยังไม่ได้บอกอะไรบางอย่างกับคุณใช่ไหม”
“บอกอะไรคะ” จี๊ดเอียงคอและถามเขาพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ
อย่างนี้หรือเปล่าที่เรียกว่าน่ารักบ่องแบ๊ว นรินมองเธอจนเพลิน แต่เราเขากับหุบยิ้มจะน่ารักยังไงเขาก็ไม่ปล่อยเธอกลับไปหรอกยังไงเธอก็คือคนของเขาแล้ว
“บอกว่าคุณจะต้องอยู่ที่นี่ อยู่กับผม”
หญิงสาวยืนขึ้นรอยยิ้มเธอหายไปทันที “หมายความว่ายังไงคะ จี๊ดไม่เข้าใจ”
นรินยืนขึ้นตาม “โอเค ถ้าพ่อของคุณเขาไม่บอกผมจะบอกให้ พ่อคุณยกคุณให้กับผมลบล้างกับเงินสิบล้านที่พ่อคุณโกงเงินบริษัทผมไป”
จี๊ดถอยหลัง “หมายความว่าพ่อจะเอาฉันมาขัดดอกกับคุณเหรอคะ”ใบหน้าสวยเฉียบคม แสดงอาการระแวดระวังตัว
“ไม่ได้ขัดดอกครับ เพราะขัดดอกแปลว่าชั่วคราว แต่พ่อคุณขายขาด” เขากระตุกยิ้มเมื่อเห็นแม่สาวคนเก่งหน้าซีด
“ไม่จริง!”
“จริงเสียยิ่งกว่าจริง”
“นี่มันพ.ศ ไหนแล้วคุณ ฉันไม่เชื่อว่าพ่อจะใจร้ายกับฉันขนาดนั้น” หญิงสาวหยิบกระเป๋าถือและกำลังจะเดินออกจากประตู
“จะไปไหนต่อไปนี้คุณต้องอยู่กับผมทุกที่ที่ผมต้องการ” นรินรั้งแขนบางเอาไว้
“ฉันไม่ใช่นางทาสนะ” หญิงสาวสะบัดแขนพร้อมแหวใส่เสียงดัง
“พ่อคุณนอกจากจะส่งคุณมาล้างหนี้ ยังเรียกเงินค่าตัวคุณไปอีกหนึ่งล้าน”
“ฉันไม่เชื่อ ไอ้คนเจ้าเล่ห์ จอมลวงโลก”
“เชื่อผมเถอะ อย่าเสียใจไปเลยนับว่าโชคดีแล้วที่พ่อคุณเขาตัดสินใจถูกยกคุณมาแลกหนี้ผม ไม่อย่างนั้นคุณก็ต้องกลายไปเป็นเมียน้อยเสี่ยประวิทย์เพราะพ่อคุณไปเสนอเอาไว้”
“ไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่อ”
“โทรไปสิ ถ้าไม่เชื่อ”
จี๊ดรีบหยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋าและโทรไปหาคนเป็นพ่อ เธอคุยกับนายนพดลอยู่สักพักนรินสังเกตเห็นขอบตาแดงก่ำที่สักพักมีหยดน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด
“นี่พ่อขายหนูให้นายนรินเหรอคะ พ่อทำกับหนูแบบนี้ได้ยังไงคะ พ่อไม่ต้องพูดอะไรแล้วจี๊ดไม่อยากรับฟัง”
นรินมองภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกสงสารจับใจ แต่เมื่อนึกอีกทีหากเขาไม่ชิงเธอมาเสียก่อน สาวน้อยตรงหน้าอาจจะหน้าสงสารมากกว่านี้หากต้องไปบำเรอกามให้ชายแก่คราวพ่ออย่างนายประวิทย์
“คราวนี้คุณเชื่อผมหรือยังล่ะ”
หญิงสาวตัดสายโทรศัพท์ นรินเดาได้ว่านายนพดลก็คงเสียใจมากที่ทำแบบนี้กับบุตรสาวคนเดียว
“นี่มันหมดสมัยการค้ามนุษย์แล้วนะ อย่านึกว่าฉันจะยอมถ้าพ่อกับคุณตกลงกันคุณก็เอาตัวพ่อฉันมาทำหน้าที่นั้นเองสิ เพราะฉันไม่ยอม”
ผิดคลาดนรินคิดเขาเชื่อว่าเธอจะยอมง่ายๆ เสียอีก หญิงสาวเดินออกจากบ้านขณะที่นรินกำลังยืนตะลึง
เฮ้ย! “ไม่ได้นะคุณ ผมเสียเงินไปตั้งมากทำอย่างนี้ได้ไง” นรินวิ่งไปขวางทางหญิงสาวไม่ให้เดินผ่านประตูไป แต่เธอผลักเขาที่หน้าอกอย่างเต็มแรง
“ฉันจะกลับบ้าน”
“ผมไม่อนุญาต”
“ฉันไม่สนใจ หลีกไป” จี๊ดตวาดเสียงดัง
“ทำไม เป็นผู้หญิงของผมถ้าคุณทำตัวดีๆน่ารักๆ เอาใจเก่งๆ คุณอยากได้อะไรผมให้คุณได้ทุกอย่าง” “ฉันไม่อยากได้อะไรของคุณเข้าใจไหม แล้วไม่สนใจด้วยว่าคุณจะตกลงกับคุณพ่อยังไงบ้าง คนอย่างจี๊ดไม่ยอมเป็นเมียเก็บของใคร ถ้าคุณบังคับฉันคุณจะได้แต่ศพเพราะฉันจะกลั้นใจตาย”
“ถึงขนาดเอาความตายมาขู่เลยเหรอ” นรินคิดถ้าจะหักหาญน้ำใจอุ้มไปจัดการในห้องนอนเสียเขาก็สมใจแต่ว่าไม่รู้ทำไมเขากลับไม่กล้าทำ
“แต่พ่อคุณเอาเงินผมไปแล้วสิบเอ็ดล้านทั้งหมด คุณจะปล่อยให้พ่อคุณติดคุกเหรอ”
“ใช่ค่ะ อย่าว่าฉันอกตัญญูนะคะ แต่จะเอาตัวฉันมาแลกแบบนี้มันไม่ถูกต้อง คดีแพ่งคงไม่กี่ปีหรอกค่ะถ้าพ่อออกจากคุกมาฉันจะเลี้ยงดูท่านอย่างดี”
นรินเกาศีรษะมันไม่ง่ายแบบที่คิดเสียแล้วล่ะสิ “จะเป็นลูกอกตัญญูจริงๆ เหรอ” นรินถามย้ำ
ใบหน้าสวยพยักหน้า “ใช่ค่ะ คุณฟ้องพ่อฉันดำเนินคดีต่อไปได้เลย ไอ้เอาลูกมาขายแลกหนี้มันมีแต่ในละครน้ำเน่าเท่านั้น”
หญิงสาวพยายามเบี่ยงตัวและผลักเขาให้พ้นทาง “เดี๋ยวสิเรายังคุยกันไม่จบ”
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”
“ไม่สงสารคุณพ่อคุณบ้างเหรอ อยู่ในคุกมันลำบากมากนะ ต้องกินข้าวแดง แกงไม่มีรสชาติ ไหนจะนักเลงในนั้นอีก”
“คุณพ่อเลือกเดินทางผิดเล่นการพนันจนเป็นหนี้สินมากมาย บางทีไปอยู่ในนั้นท่านอาจจะรู้สึกตัวก็ได้”
“ผู้หญิงใจดำ”
“ค่ะฉันยอมรับ จะด่าว่าใจดำ หรืออกตัญญูสักกี่พันครั้งฉันก็ยอม แต่ฉันไม่ยอมเป็นเมียเก็บของคุณเพื่อใครหรอก”
นรินถอนหายใจ แต่เขาอยากได้ลูกสาวนายนพดลคนนี้จริงๆ ขืนกลับไปพ่อเธออาจจะเอาเธอไปเสนอใครต่อใครก็ได้ซึ่งนั้นเขายอมไม่ได้
“แล้วถ้าอยู่ในฐานะคนใช้ ไม่ใช่เมียเก็บล่ะเธอจะตกลงไหม”พูดไปแล้วนรินก็อยากตบปากตัวเอง แล้วด่าว่าโง่
หญิงสาวขมวดคิ้วเรียว “คุณจะจ้างฉันเป็นคนใช้ในราคาสิบเอ็ดล้าน”
“ทำไมผมรวย มีเงินจ่าย และจ่ายไปแล้วเขาย้ำ” นรินคิดว่าตัวเองกำลังเป็นผู้ชายที่โง่ที่สุดที่ยื่นข้อเสนอที่ตัวเองกำลังเสียเปรียบอย่างมากให้กับหญิงสาวตรงหน้า
“โดยฉันไม่ต้องทำหน้าที่บนเตียง” จี๊ดสบตาเขา
“ใช่ ยกเว้นคุณเต็มใจหรือคุณยั่วผมจนผมต้องตบะแตก”
“ไม่มีวัน” หญิงสาวสวนทันควัน
“ถ้าอย่างนั้น โน่นในครัวตั้งแต่เย็นผมยังไม่ได้กินอะไรเลย” เขาชี้ไปที่ครัว
“เดี๋ยวนี้เลยเหรอ”
“ใช่”เขาดันหลังเธอไปที่ครัว “คนใช้ที่ราคาแพงที่สุดในโลกรีบทำงานสักที อย่าพูดมาก”
“แล้วฉันต้องเป็นคนใช้คุณไปนานเท่าไหร่คุณยังไม่ได้บอกเลย”
“สิบเอ็ดล้านผมจ้างคนใช้ได้เป็นร้อยคนนะคุณ ได้คืบอย่าเอาศอก อย่าต่อรองมาก”
“ถ้าไม่กำหนดเวลาฉันก็ไม่ยอม” จี๊ดเถียง
“ถ้าทำงานดีๆ สักห้าปีผมจะปลดปล่อยคุณไปเป็นอิสระ ทำงานไม่ได้เรื่องก็สักสิบปี”
“ฉันต้องการสัญญาเป็นลายลักษ์อักษร จะได้เชื่อใจว่าคุณจะไม่หลอกฉัน”
“เซ็นสัญญาการเป็นคนใช้เนี่ยนะ” นรินถอนหายใจ
“ใช่”
“จะบอกเลขาให้จัดการให้แล้วกัน”
จี๊ดคิดยังไงเสียเป็นคนใช้ก็ยังดีกว่าต้องเป็นเมียเก็บเป็นไหนๆ หากไม่สำนึกถึงบุญคุณที่พ่อส่งเสียเธอมาเธอจะไม่ยอมทำอะไรแบบนี้เด็ดขาด แต่จะให้ทนเห็นพ่อติดคุกมันก็ทรมานใจเหลือเกิน
“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลง”
“ขอฉันไปเก็บเสื้อผ้าที่บ้านก่อนได้ไหม”
“ไม่ต้องซื้อใหม่ดีกว่า เสื้อผ้าของคุณแต่ละตัวมันคงไม่เหมาะเอามาใส่ทำงานบ้าน”
“ฉันนักเรียนนอกนะ จะให้ฉันเป็นคนใช้จริงๆเหรอ” หญิงสาวหันมาถามย้ำ
“ใช่ ผมอยากมีคนใช้เป็นนักเรียนนอก ไม่เหมือนใครมีอะไรไหม เสียเงินไปตั้งสิบเอ็ดล้านมันก็ต้องได้อะไรให้คุ้มหน่อย ถ้าคนใช้จบประถม มัธยมไม่ต้องจ้างแพงแบบนี้หรอก”
“แต่ว่า” จี๊ดยังมีคำถามอีกมากมาย
“เป็นคนใช้อย่าเถียงเจ้านาย อย่าถามมากเรื่อง สั่งให้ทำอะไรก็ทำ” นรินเล่นบทเจ้านายขึ้นมาทันที พร้อมทั้งสั่งการให้เธอรีบเข้าครัวไปทำกับข้าวเดี๋ยวนี้
+++++++++++++++++++++
นรินทรุดตัวลงที่โต๊ะอาหาร “ยืนมองผมอยู่ได้ผมรู้ว่าตัวเองหน้าตาดีแต่ไม่ต้องจ้องขนาดนี้หรอก ไปทำกับข้าวได้แล้ว” เขาสั่ง
จี๊ดหายไปในครัวสักพักใหญ่ๆ ระหว่างทำอาหารเธอก็คิดตลอดว่าสิ่งที่เธอทำอยู่มันถูกต้องหรือเปล่า ทำไมเธอต้องมากลายเป็นคนใช้ให้นายนรินนี่ด้วย อีกใจก็นึกน้อยใจบิดาที่ทำกับเธอได้ลง
กลิ่นเหม็นไหม้โชยเข้าจมูกโด่งของนรินเข้าทำจมูกฟุดฟิดคิดจะเดินเข้าไปในครัว
“อาหารมาแล้วค่ะ” หญิงสาวยิ้มเก้อๆ ก่อนจะวางจานข้าวผัดเสริฟลงหน้าของนริน
นรินมองจานข้าวผัดและเงยหน้าขึ้นไปมองหญิงสาว “ข้าวผัดหรือข้าวคุกกะปิ” ข้าวผัดไข่ที่บางส่วนไหม้ดูไม่น่ากินวางอยู่ตรงหน้านริน
“ฉันทำกับข้าวไม่เป็น”
นรินกุมศีรษะแน่น “อะไรนะ ผมกำลังจ้างคนใช้ด้วยเงินสิบเอ็ดล้านโดยที่คนใช้ของผมทำกับข้าวไม่เป็น”
“นอกจากนี้ฉันก็ยังไม่เคยต้องทำงานบ้านเองด้วยค่ะ” ก็เธอมุ่งเน้นแต่การเรียนตอนอยู่ที่เมืองนอกก็มีแม่บ้านของหอพักที่จะเข้ามาทำรความสะอาดให้อาทิตย์ละสองครั้ง
“อะไรนะ”นรินถลึงตา “ทำกับข้าวไม่เป็น ทำงานบ้านไม่ได้ผมจะบ้าตาย”
“คุณจะเลิกจ้างฉันก็ได้”
“ถ้าผมเลิกจ้างคุณ แล้วคุณหาเงินมาคืนผมได้รึเปล่าล่ะ สิบเอ็ดล้านนะ”
หญิงสาวสวยถอนหายใจ“ไม่มีค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็นั่งลง”นรินสั่ง
“คุณทานข้าวเย็นมาหรือยัง” เขาถาม
“ยังค่ะ”
นรินสั่นศีรษะแล้วหายไปในครัวสักพักหนึ่งเขากลับออกมาพร้อมข้าวผัดสองจานที่หน้าตาดีไม่แพ้ตามร้านอาหาร
“เป็นไงทึ่งไปเลยล่ะสิท่า”
หญิงสาวแกล้งไม่สนใจ
“ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันตกลงผมจ้างคุณมาเป็นคนใช้ใช่ไหม” นรินชี้ไปที่เธอ “คุณเป็นคนใช้ แต่ผมเป็นคนที่ถูกใช้”
“ก็แล้วแต่คุณจะคิด”
ยัยจี๊ดจอมแสบนรินคาดโทษเอาไว้ในใจ การต่อรองให้เธอมาเป็นคนใช้นั้นมันเป็นแผนถ่วงเวลาเธอเอาไว้เท่านั้นนรินรู้ดีว่าเขาต้องการเธอมาอยู่กับเขาเผื่ออะไร ++++++++++++++++++
หลายอาทิตย์ที่จี๊ดมาอยู่กับนรินเขาก็ทำตามอย่างที่พูดจริงๆ เขาไม่เคยล่วงเกินเธอ อย่างมากวันๆเขาก็จะใช้เธอชงกาแฟบ้างล่ะ และทำนั่นทำนี่นิดๆหน่อยๆ แต่ดูเหมือนสิ่งที่เขาให้เธอทำมันมักจะอยู่รอบๆตัวเขาเช่นให้เธอช่วยอ่านหนังสือให้ฟัง ช่วยหยิบโน่นหยิบนี่ แต่ทว่าฝีมือการทำอาหารของเธอก็ก้าวหน้าขึ้นมากเรียกได้ว่าอาหารจานเดียวตอนนี้เป็นเรื่องง่ายๆ ที่เธอทำได้อย่างสบาย แต่เธอไม่รู้หรอกว่าทุกครั้งยามเธอหันหลังให้เขาสายตาของนรินจะเฝ้ามองตามเธอไปทุกที่
“คุณนรินคะ วันนี้จี๊ดขอกลับบ้านนะคะ” หลังจากที่หญิงสาวไม่ยอมกลับบ้านเลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เพราะว่ายังโกรธบิดาไม่หาย
“ก็ได้ครับ เอาสิผมจะไปส่งคุณเอง”
“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ จี๊ดกลับเองได้”
“ทำไมถึงไม่ยอมให้ไปส่งแอบนัดใครไว้อย่างนั้นเหรอ”
“เปล่านี่คะ ฉันแค่อยากกลับไปเยี่ยมแม่บ้างก็เท่านั้น”
“ก็ได้ แต่กลับมาทำอาหารเย็นให้ทันก็แล้วกัน คุณอย่าลืมสิว่าคุณมันเป็นคนใช้ที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกหัดทำงานให้คุ้มค่าแรงหน่อย” นรินมีท่าทีฉุนเฉียวเขาหยุดการอ่านหนังสือและเดินเข้าไปในห้องปล่อยให้เธอยืนงง”
“คนบ้าอำนาจ เป็นแค่เจ้านายไม่ใช่เจ้าชีวิตเสียหน่อย”
หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวเสียสวยเหมือนคนเดิม ไม่ได้ใส่เสื้อตัวหลวมโคกกับเกงสามส่วนอย่างที่ทำงานทุกวัน นรินเปิดประตูและแง้มมอง
“แต่งตัวเสียสวยแบบนี้จะให้เชื่อได้อย่างไรว่าจะกลับบ้าน” เขาอดทนอดกลั้นแค่ไหนที่ต้องทนแบบนี้เขาไม่เคยล่วงเกินเธอ เพราะว่าเขารออย่างใจเย็น รอว่าสักวันหนึ่งความใกล้ชิดจะทำให้เธอสนใจเขา หากอันที่จริงเขาต้องการผู้หญิงมาระบายอารมณ์ใคร่ที่มันเกิดขึ้นตามวิสัยของผู้ชายแค่เขายกหูกริ๊งเดียวเท่านั้นมันไม่ยากเลยแต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ตั้งแต่เห็นเธอผู้หญิงเหล่านั้นก็ไม่ได้อยู่ในสายตาหรือความรู้สึกนึกคิดของเขาอีกเลย +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ประเทศออสเตรีย ห้องสวีทของโรงแรมหรูชื่อดัง
ภายในห้องถูกตกแต่งอย่างสวยงามราวกับว่าเป็นห้องบรรทมในปราสาทที่ถูกจำลองขึ้นมาและเต็มไปด้วยแจกันดอกกุหลาบสีขาวแซมชมพูอันแสนหวานหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง เหมาะจะเป็นห้องพักของคู่ฮันนีมูน แสงจันทร์สว่างส่องแสงลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาแสงนวลของดวงจันทร์ทำให้พอเห็นร่างขาวสะอาดนวลเนียนน่าทะนุถนอม ที่ผมเป็นลอนอ่อนสีน้ำตาลเหยียดยาวปกคลุมถึงกลางหลัง และอีกร่างล่ำสันนอนกอดก่ายกันเต็มไปด้วยอุ่นไอแห่งความรัก
“ที่รักคุณว่าไหม คราวนี้พี่ชายของผมสงสัยจะได้มีภรรยาเป็นตัวเป็นตนกับเขาแล้วล่ะ”
“ทำไมเหรอคะ” พันธิตาถาม ขณะที่ร่างเปลือยของเธออยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของสามีหนุ่ม ผู้ที่พาเธอไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์มาเกือบตลอดทั้งคืน
“ก็พี่นรินน่ะสิครับ สงสัยจะหลงเสน่ห์ลูกสาวของลูกหนี้เรา นายนพดลยังไงล่ะครับ”
“ที่คุณบอกว่าเคยเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ แล้วทุจริตยักยอกเงินไปใช่ไหมคะ”
“ใช่แล้วล่ะครับ แต่ผมว่าคราวนี้พี่นรินคงจะเหนื่อยสักหน่อยล่ะ เพราะคุณจี๊ดคนนั้นก็ดูท่าจะแสบจี๊ดสมชื่อจริงๆ”
“คุณเคยเห็นหน้าเธอแล้วหรือคะ”
“ใช่ ก่อนวันแต่งงานของเรา ผมพบเธอโดยบังเอิญ”
“สวยไหมล่ะคะ”
“สวยมากทีเดียวล่ะ” หญิงสาวหุบยิ้มลง เคนจึงรีบประทับจุมพิตที่หน้าผากมน “แต่ในสายตาของพี่นรินเขานะ เพราะว่าสำหรับผมคุณสวยที่สุด” เขาไม่เพียงแต่พูดเท่านั้นแต่รีบพลิกร่างบางให้นอนหงายสายตาคมปนหวานยามเคนมองภรรยาสาวเต็มไปด้วยความรักความอบอุ่นอันวาบหวาม
“ไม่แล้วนะคะ ฉันเหนื่อยค่ะ”
หญิงสาวทำตาปรอย และเอียงอาย
“เรายังมีเวลานอนหลับกันอีกตั้งเยอะ นะครับนะนะ” เขากระซิบออดอ้อนเธอ ในขณะที่ฝ่ามืออุ่นร้อนเริ่มลูบไล้ไปตามปลีน่องเนียนอย่างไม่เคยคิดที่จะเบื่อเลยสักครั้ง จากนั้นแยกขาเรียวให้ห่างออกจากกัน
“ฉันเพิ่งจะรู้ว่ามีสามีที่มีพลังเหลือเฟือ” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ก่อนจะสอดแขนทั้งสองไปคล้องคอเขาเอาไว้
“คุณยังเล่าเรื่องความรักของพี่นรินให้ฉันฟังไม่จบเลยนะคะ”
“ผมเล่าให้คุณฟังแน่ๆ รวมถึงความคืบหน้าของครอบครัวยัยพายไข่น้องสาวตัวแสบของผม ที่เธอเพิ่งจะรู้ว่าได้สามีเป็นเศรษฐีที่นา ราชาที่ดินแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวนายวุธไม่ใช่คนงานธรรมดาจริงๆ แบบที่พี่นรินสงสัย แต่ว่าต้องรอหลังจากนี้นะ”
“ทำไมล่ะคะ”
“ยังมาถามอีก ก็คุณกับผมมีเรื่องที่จะต้องทำกันต่อน่ะสิครับ ผมจะเล่าให้คุณฟังว่าผมรักคุณมากแค่ไหนโดยผ่านร่างกายของผม”
“บ้า คุณน่ะพูดอะไรก็ไม่รู้ฉันเขินนะคะ”
ลิ้นอุ่นร้อนแทรกเข้าไปดูดดื่มความหอมหวานจากริมฝีปากหยักอวบอิ่ม ก่อนที่ร่างกายหนากว่าจะพลิกกายไปอยู่บนเจ้าของร่างบาง จมูกโด่งของเคนซุกไซ้ไปตามพวงแก้มอิ่มเอิบสีชมพู จากนั้น ฝ่ามือทั้งสองก็ประคองหน้าอกอวบหยุ่นเอาไว้ก่อนจะฝังจมูกโด่งลงไปที่ร่องระหว่างอกสูดความหอมหวานที่ไม่ต่างจากดอกไม้ที่กำลังแรกแย้มจนได้ยินเสียงภรรยาคนสวยของเขาครางฮือเบาๆ และตอบรับด้วยการยกสะโพกสวยเบียดเข้าหาแก่นกายอันร้อนรุ่มของเขา จากนั้นเคนก็เริ่มหลอมละลายให้เธอและเขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปตามทางของมันอย่างที่ควรจะเป็น แต่สิ่งที่หลงเหลือเอาไว้ยามเมื่อกองไฟอันลุกโชนภายในห้องได้สงบลงก็คือ ความารัก ความห่วงหา อาทรที่นเรนธรจะมีให้ภรรยาสุดที่รักของเขา
+++++++++++++++++++++++
เมืองซาลส์บวร์ก เป็นเมืองอันดับต้นๆ ของประเทศออสเตรีย ที่มีผู้คนไปเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย เมืองแสนโรแมนติกที่มีทัศนียภาพอันสวยงาม และยังเป็นเมืองเกิดของคีตกวีชื่อก้องโลก โมซาร์ท นอกจากนี้ยังมีปราสาทโฮเฮนซาลส์ ที่สร้างอยู่บนเนินเขาสถานที่โรแมนติก เคนพาภรรยาสาวคนสวยมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่เมืองนี้ และคิดว่าจะเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ อีกหลายเมืองเพราะเขามีเวลาอีกมากเนื่องจากพี่ชายคนโตนริน อาสานั่งแท่นรักษาการผู้บริหารโรงงานที่จันทบุรีแทนเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนเต็มนั่นเป็นเพราะนรินมีจุดประสงค์ที่จะทำอะไรบางอย่าง
+++++++++++++++++++++++++++
ณ. จังหวัดจันทบุรี
“มานี่สิเปรี้ยว ทางนี้ๆ” จี๊ดเรียกสาวใช้วัยละอ่อนให้เข้ามาหาเธอเพราะเห็นว่ามีบุคคลที่เธอเพิ่งไปอาละวาดเขาที่บ้านกำลังนั่งคุยกับคุณนพดลพ่อของเธออยู่บริเวณชั้นล่างของบ้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ร่างเล็กสมส่วนแต่ซ่อนไว้ด้วยเสน่ห์อันเหลือร้ายของจี๊ด หรือ เกตุมุกดา ดึงแขนสาวใช้ให้เข้ามาในห้อง
“เปรี้ยวนายนั่นมาทำอะไร เขามาฟ้องคุณพ่อว่าฉันเอาปืนไปยิงประตูบ้านเขาเหรอ”
“คุณหนูเอาปืนไปยิงประตูบ้านเขา!” เปรี้ยวร้องเสียงดัง แต่จี๊ดตีแขนสาวใช้เบาๆ “ยัยเปรี้ยวเบาๆสิเดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า”
ทันใดนั้นประตูห้องนอนของหญิงสาวก็ถูกผลักออก “แต่แม่ได้ยินหมดแล้ว ลูกทำแบบนั้นได้ยังไงยัยจี๊ดแม่อุตสาห์ส่งไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนาทำไมถึงได้กลายเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรงไปได้”
ไม่พูดเปล่าแต่คุณสุรางค์หยิกแขนลูกสาวเบาๆ
“คุณแม่ จี๊ดเจ็บนะคะ”
“เปรี้ยวออกไปก่อนไป”คุณสุรางค์ไล่
“ค่ะ” สาวรับใช้รีบออกไปอย่างรวดเร็ว
“เขามาที่นี่ทำไมคะคุณแม่”
“คุณนรินเขาก็จะมาเอาเรื่องพ่อของลูกให้หาเงินสิบล้านไปคืนเขาให้ได้ไม่อย่างนั้นเขาจะดำเนินคดีน่ะสิ”
“นริน! นายคนนั้นไม่ใช่นายนเรนธร ที่ไล่คุณพ่อออกจากงานอย่างไม่เป็นธรรมเหรอคะ”
มารดาส่ายหน้า พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจุทรุดกายวัยเกือบห้าสิบที่มีเคล้าลางความสวยนั่งบนปลายเตียงของลูกสาว
“คนนี้เขี้ยวและดุยิ่งกว่าคุณนเรนธรอีกหลายเท่า เขาชื่อคุณนรินเป็นพี่ชายของคุณนเรนธรเป็นเจ้าของบริษัทในเครือบริษัทเอ็นแอนด์เอ็น สยาม จำกัด ทั้งหมดลูกไปกระตุกหนวดเสือเข้าแล้วรู้ไหม”
“ถึงไม่ใช่เจ้านายพ่อ แต่เขาเป็นพี่ชายและเป็นเจ้าของบริษัทในเครือทั้งหมดก็สมควรแล้วที่จะรับรู้ว่าบริษัทของเขา และน้องชายของเขาไล่คุณพ่อออกอย่างไม่เป็นธรรม” หญิงสาวนัยน์ตาแข็งกร้าว
“จี๊ด ลูกเข้าใจผิดแล้ว”
ใบหน้าสวยทำสีหน้าไม่เข้าใจ “จี๊ดเข้าใจอะไรผิดคะคุณแม่”
“ที่จริงแล้ว คุณนเรนธรไล่คุณพ่ออกเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แถมยังให้โอกาสเราหาเงินไปคืนเขาอีกนับว่าเขาเมตตาครอบครัวเรามากแล้ว”
“จี๊ดไม่เข้าใจค่ะคุณแม่”
คุณสุรางค์หน้าซีด รู้สึกว่าแต่ละคำที่เธอจะพูดออกมามันยากลำบากนัก แต่จำเป็นที่ต้องบอกความจริงกับลูกสาวดีกว่าจะให้ลูกสาวเข้าใจแบบผิดๆ ตามคำที่คุณนพดลโกหกเอาไว้
“คุณพ่อโกงเงินบริษัทของเขาไปสิบล้านเพราะติดหนี้บ่อนคุณนเรนธรรู้เข้าจึงเรียกคุณพ่อไปคุยและให้ลาออกจากงาน ส่วนเรื่องเงินที่คุณพ่อโกงไปคุณนเรนธรให้โอกาสหากว่าหาเงินมาคืนจนครบภายในสิ้นเดือนนี้เขาก็จะไม่แจ้งความดำเนินคดีกับคุณพ่อ แต่ตอนนี้คุณนเรนธรเขาไม่อยู่รู้สึกว่ากำลังไปฮันนีมูลกับภรรยา คุณนรินพี่ชายจึงรับหน้าที่สานต่อเรื่องนี้เอง”
หญิงสาวรู้สึกราวกับฟ้าฟาดลงตรงหน้าไม่อยากเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดบิดาจะแต่งขึ้น มันเป็นคนละเรื่องกับความเป็นจริงที่ได้ยินจากปากของคนเป็นแม่
“คุณแม่ จี๊ดไม่อยากเชื่อค่ะ คุณพ่อทำแบบนั้นได้ยังไงคะ แล้วเราจะหาเงินสิบล้านมาจากไหนเงินตั้งมากมายขนาดนั้น” หญิงสาวยกมือทาบอกรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ
คุณสุรางค์น้ำตาไหล “ก็คุณพ่อทำไปแล้วไม่รู้ผีตัวไหนมันสิงคุณพ่อของลูกเหมือนกัน แล้วลูกยังเอาปืนไปยิงประตูบ้านเขาอีกนี่แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามาตกลงอะไรกับคุณพ่อ”
“จี๊ดขอโทษค่ะคุณแม่ ที่จี๊ดวู่วามก็จี๊ดไม่คิดว่าคุณพ่อจะโกหก”
“ช่างเถอะลูก ก็ลูกถูกหลอกจริงๆ เป็นแม่ๆก็คงโกรธเขา ทั้งที่คนผิดจริงๆมันคือพ่อของลูก”
“จี๊ดจะลงไปขอโทษเขา” หญิงสาวทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง แต่คนเป็นแม่ดึงแขนเอาไว้
“อย่าเลยลูก ผู้ใหญ่เขาคุยกันอยู่ วันหลังเราค่อยไปขอโทษเขาจะดีกว่านะ”
“ก็ได้ค่ะ ดีไม่ดีเขาเห็นหน้าจี๊ดจะยิ่งโกรธหนักเข้าไปอีก อาจจะแจ้งความจับคุณพ่อเลยก็ได้” หญิงสาวทรุดตัวนั่งลงเคียงข้างมารดา ++++++++++++++++
“ไม่ๆ ผมไม่ยอมยังไงผมก็ไม่ยอม”
“ถ้าอย่างนั้นก็เลือกเอาละกันว่าคุณอยากจะใช้ชีวิตนอกคุก หรือว่าในคุก” นัยน์ตาเจ้าเล่ห์ของนรินมองผู้อาวุโสอย่างถือไพ่เหนือกว่า
“คุณมันจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ คุณนริน”
“ใช่ผมมันจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ แต่ก็ยังดีกว่าคุณที่คิดจะเอาลูกสาวไปขายให้กับนายประวิทย์”
คุณนพดลหน้าซีดรู้สึกตกใจนายนรินรู้เรื่องที่เธอเรียกลูกสาวกลับมาและมีแผนจะยกลูกให้กับเสี่ยประวิทย์เพื่อนของเขาได้อย่างไร
“อย่าตกใจไปเลยครับ นายประวิทย์คงไม่กล้ารับเลี้ยงลูกสาวคุณแล้วล่ะเพราะผมบอกเขาว่าเธอนอนกับผมเรียบร้อยแล้ว ถึงเป็นเมียน้อยแต่นายประวิทย์ก็คงไม่อยากได้เมียน้อยมือสองหรอกนะ” นรินหัวเราะ
“เลว!”
“ครับผมรับว่าผมเลว แต่นั่นคงน้อยกว่าสิ่งที่คุณคิดจะทำกับลูกสาวที่คุณบอกว่ารักนักรักหนา”
“แล้วคุณจะเอายังไงที่ผมทำแบบนั้นก็เพื่อจะหาเงินมาใช้คืนคุณยังไม่ดีอีกเหรอไง หรือคุณไม่อยากได้เงินคืน”
ตั้งแต่เขาได้พบหน้าเธอยัยตัวร้ายที่เอาปืนไปยิงหน้าบ้านเขานรินก็ตอบไม่ถูกว่าอยากได้เงินหรืออยากได้อย่างอื่นจากนายนพดลกันแน่ความรู้สึกแบบนี้มันหายไปนานสิบกว่าปีแล้ว
“เงินจากการขายลูกสาวเนี่ยนะ” นรินเย้ยหยัน
“ผมไม่มีทางเลือก ถ้าหาเงินมาคืนคุณไม่ได้คุณก็ต้องดำเนินคดีกับผม”
นรินถอนหายใจ “สิบล้านแลกกับลูกสาวคุณล้างหนี้แล้วเราจบกัน”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็ข้อเสนอเดียวกับที่คุณไปเสนอคุณประวิทย์ แต่จะดีกว่าที่เธอไม่ต้องเป็นเมียน้อยใครไม่ใช่เหรอ เพราะผมยังไม่มีเมียหลวง”
“แล้วลูกสาวผมจะไปอยู่กับคุณในฐานะอะไร” นพดลถามในใจรู้สึกห่วงบุตรสาวเพียงคนเดียวขึ้นมาย่างประหลาด พราะรู้มาว่าถึงนรินยังไม่มีภรรยาแต่เขาก็มีผู้หญิงอยู่ลอบตัว
“เมียเก็บ”
“บ้า ผมไม่ยอมแน่”
“ระหว่างเป็นเมียน้อยของนายประวิทย์ กับเป็นเมียเก็บของผมมันต่างกันตรงไหน” นรินถามแกมขู่
“คุณประวิทย์จะให้เงินเดือนลูกสาวผมเดือนละสี่หมื่น” คุณนพดลรู้ว่าต่อไปนี้ตัวเองจะไม่มีเงินเพราะตกงาน ทางเดียวที่จะอยู่รอดต่อไปได้คือต้องให้ลูกสาวส่งเสีย
“ผมจะให้เงินคุณก้อนหนึ่ง แต่ว่าขายขาดนะ” รอยยิ้มหยันผุดที่มุมปากของนริน
หากจี๊ดได้ยินคำนี้เธอคงไม่อาจจะอยู่เฉยที่ผู้ชายสองคนกำลังต่อรองกันเรื่องราคาค่าตัวของเธอราวกับว่าเธอเป็นสิ่งของไม่มีหัวใจที่ซื้อหาได้ตามตลาด
ต่อจากนั้นนรินก็ยิ้มให้แก่นายนพดลก่อนจะเซ็นเช็คใบหนึ่งมูลค่าหนึ่งล้านบาทส่งให้กับนายนพดล “ผมอยากบอกคุณว่าผมไม่ได้ขายลูกสาวกิน ผมแค่ไม่มีทางเลือก”นายนพดลกล่าวเสียงอ่อยๆ แต่รีบรับเช็ก
“เรื่องนั้นผมไม่สนใจ แต่ส่งมอบเธอให้ผมในวันพรุ่งนี้ตามที่ตกลงกันไว้นะครับ” นรินเดินไป
“ผมจะพยายามครับ”
นรินหันกลับมายิ้มให้กับนายนพดลพร้อมน้ำเสียงเย็นยะเยือก “พยายามไม่ได้ครับ แต่คุณต้องทำให้ได้เพราะคุณรับเงินผมไปแล้ว” +++++++++++++++++++++++
หลังอาหารมื้อเย็นเสร็จสิ้นเป็นเวลาที่คนในครอบครัวจะได้คุยกัน ทั้งนายนพดลและจี๊ดต่างมีสีหน้าแปลกๆ เพราะต่างคนก็ต่างมีเรื่องที่จะพูดแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไรดี
“คุณพ่อ”
“ยัยจี๊ด”
ทั้งสองเอ่ยพร้อมกัน “ใจตรงกันเลยนะคะพ่อลูก” คุณสุรางค์ยิ้มน้อยๆและเป็นกรรมการตัดสินให้คุณนพดลเริ่มพูดก่อน
“ยัยจี๊ดวันนี้คุณนรินทมาหาพ่อที่บ้าน”
“จี๊ดเห็นแล้วค่ะ เขามาทำไมคะ”
“เอ่อ.....เขามา”
“ทวงเงินคุณพ่อ” จี๊ดเดา
คุณสุรางค์แทรกขึ้น “ฉันเล่าความจริงทั้งหมดให้ยัยจี๊ดฟังแล้วค่ะ”
“คุณสุรางค์” คุณนพดลทำทีจะตำหนิภรรยาแต่แล้วเขากลับตำหนิตัวเอง “พ่อเองที่ทำให้ครอบครัวเดือนร้อนกันไปหมด”
“ช่างมันเถอค่ะคุณพ่อไหนๆเรื่องมันก็มาถึงป่านนี้แล้วเราควรช่วยกันแก้ปัญหาจะดีกว่า”
“จริงด้วยค่ะ คุณอย่ามัวโทษตัวเองกับเรื่องที่ผ่านมาจะดีกว่า ชีวิตคนเรามันต้องเดินไปข้างหน้า”
“นายนรินคนนั้นเขาว่ายังไงบ้างคะ แล้วเขาฟ้องพ่อด้วยหรือเปล่าเรื่องที่จี๊ดเอาปืนไปยิงประตูบ้านเขา”
“ยัยจี๊ด!” คุณนพดลตกใจ แต่เรื่องนี้เขาไม่เห็นนายนรินจะพูดถึงเลย
“คือหนูรู้ค่ะว่าผิดแล้วจะสร้างปัญหาให้คุณพ่อมากขึ้น เอาเป็นว่าพรุ่งนี้หนูจะไปขอโทษเขาเองนะคะคุณพ่อ”
“แม่จะไปเป็นเพื่อน” คุณสุรางค์อาสา
“อย่าเลยคุณ”คุณนพดลคิดออกแล้ว แต่รู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อที่เลวเหมือนส่งลูกสาวเข้าปากเสืออย่างไรก็ไม่รู้แต่บางทีมันอาจจะทำให้ชีวิตของจี๊ดดีขึ้นหากนายนรินเมตตาลูกสาวของเขาบ้าง
“ทำไมล่ะคะ” คุณสุรางค์ถามด้วยความสงสัย
“คุณไปด้วยเขาอาจจะคิดว่าเราบังคับลูกให้ไปขอโทษเขาก็ได้ ให้ยัยจี๊ดไปขอโทษคุณนรินคนเดียวจะดีกว่า ตอนไปยิงประตูบ้านเขายังไปคนเดียวได้เลย”
“จริงด้วยค่ะคุณแม่ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้จี๊ดจะไปขอโทษนายนริน”
จี๊ดพ่อขอโทษด้วยนะลูก อภัยให้พ่อเลวๆคนนี้ด้วย นายนพดลได้แต่นึกขอโทษและขอให้บุตรสาวอภัยให้เขาอยู่ในใจ +++++++++++++++++++++++++++
เสียงรถทำลายความสงบเงียบของบ้านสวน นรินมองผ่านหน้าต่างชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่หรี่ตาลงเมื่อเห็นหญิงสาวสวยที่เขารอคอยเดินลงมาจากรถพร้อมกระเช้ารังนกบำรุงกำลัง แทนที่จะเป็นกระเป๋าใบโต
“หรือว่าคุณต้องการเอามาบำรุงกำลังผมสำหรับคืนนี้ ไม่ต้องเอามามากมายขนาดนี้ก็ได้”นรินลอบยิ้มเขายังไม่แก่ขนาดต้องโด๊ปเครื่องดื่มบำรุงกำลังสักนิดเขาแค่สามสิบแปดปลายๆไม่ใช่ชายวัยแปดสิบสักหน่อย
“คุณนรินคะ” หญิงสาวเรียกด้วยเสียงหวานตามปกติ ไม่ได้ฉุนเฉียวแบบคราวก่อน
นรินเปิดประตูออกมาต้อนรับ “เชิญครับ เสียงหวานๆ พูดเพราะๆ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย”
วันนี้จี๊ดสวมแซกสั้นสีฟ้าน้ำทะเลยาวเหนือเข่าเล็กน้อย อวดผิวขาวอมชมพูดูสวยสดใสไปทั้งเนื้อทั้งตัว
“จี๊ดต้องขอโทษคุณด้วยค่ะสำหรับเรื่องเข้าใจผิดครั้งก่อน”
“มาแบบเสียงอ่อนเสียงหวานน่ารักแบบนี้ผมจะไม่ให้อภัยคุณได้ยังไงล่ะครับ” นรินผายมือเชื้อเชิญเธอไปนั่งที่โซฟารับแขก
“จี๊ดมีของมาฝากค่ะ”เธอยื่นตระกร้ารังนกให้เขา
นรินรับมา“ขอบคุณครับแต่รังนกพวกนี้ ผมไม่ต้องพึ่งมันหรอกครับ ผมดูแก่ขนาดนั้นเชียวเหรอครับ” หญิงสาวมีสีหน้ามึนงง “หมายความว่ายังไงคะ”
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายยิ้มน้อยๆ “ช่างมันเถอะครับ”
“ว่าแต่กระเป๋าเสื้อผ้าคุณอยู่ที่ไหนครับ ผมจะได้ไปช่วยยกเอาไปไว้ในห้อง”
“กระเป๋าเสื้อผ้า!”
“เอามาทำไมคะ” หญิงสาวยิ้มสดใสในใจคิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าคงอำเล่น
“ก็วันนี้คุณมาที่นี่เพื่ออะไรล่ะครับ” ยิ่งมองเธอนรินก็คิดเพียงอย่างเดียวว่าเขาไม่อยากนั่งคุยกับเธออยู่ตรงนี้แล้ว เขาอยากจะเรียกร้องและครอบครองเธอเสียเดี๋ยวนี้ตามกรรมสิทธ์ที่เขาได้รับมาจากพ่อของเธอ
“จี๊ดมาขอโทษคุณเรื่องวันนั้น ที่จี๊ดเอาปืนมายิงประตูบ้านคุณแล้วก็ทำร้ายคุณ”
“คุณมาเพราะเรื่องแค่นี้เองเหรอครับ” นรินขมวดคิ้วแสดงความแปลกใจ
“ใช่สิคะ” เธอยิ้มกว้าง นรินมองเห็นความใสซื่อยามที่เธอไม่ได้ร้ายกาจเหมือนเช่นวันนั้น
“แสดงว่าพ่อของคุณยังไม่ได้บอกอะไรบางอย่างกับคุณใช่ไหม”
“บอกอะไรคะ” จี๊ดเอียงคอและถามเขาพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ
อย่างนี้หรือเปล่าที่เรียกว่าน่ารักบ่องแบ๊ว นรินมองเธอจนเพลิน แต่เราเขากับหุบยิ้มจะน่ารักยังไงเขาก็ไม่ปล่อยเธอกลับไปหรอกยังไงเธอก็คือคนของเขาแล้ว
“บอกว่าคุณจะต้องอยู่ที่นี่ อยู่กับผม”
หญิงสาวยืนขึ้นรอยยิ้มเธอหายไปทันที “หมายความว่ายังไงคะ จี๊ดไม่เข้าใจ”
นรินยืนขึ้นตาม “โอเค ถ้าพ่อของคุณเขาไม่บอกผมจะบอกให้ พ่อคุณยกคุณให้กับผมลบล้างกับเงินสิบล้านที่พ่อคุณโกงเงินบริษัทผมไป”
จี๊ดถอยหลัง “หมายความว่าพ่อจะเอาฉันมาขัดดอกกับคุณเหรอคะ”ใบหน้าสวยเฉียบคม แสดงอาการระแวดระวังตัว
“ไม่ได้ขัดดอกครับ เพราะขัดดอกแปลว่าชั่วคราว แต่พ่อคุณขายขาด” เขากระตุกยิ้มเมื่อเห็นแม่สาวคนเก่งหน้าซีด
“ไม่จริง!”
“จริงเสียยิ่งกว่าจริง”
“นี่มันพ.ศ ไหนแล้วคุณ ฉันไม่เชื่อว่าพ่อจะใจร้ายกับฉันขนาดนั้น” หญิงสาวหยิบกระเป๋าถือและกำลังจะเดินออกจากประตู
“จะไปไหนต่อไปนี้คุณต้องอยู่กับผมทุกที่ที่ผมต้องการ” นรินรั้งแขนบางเอาไว้
“ฉันไม่ใช่นางทาสนะ” หญิงสาวสะบัดแขนพร้อมแหวใส่เสียงดัง
“พ่อคุณนอกจากจะส่งคุณมาล้างหนี้ ยังเรียกเงินค่าตัวคุณไปอีกหนึ่งล้าน”
“ฉันไม่เชื่อ ไอ้คนเจ้าเล่ห์ จอมลวงโลก”
“เชื่อผมเถอะ อย่าเสียใจไปเลยนับว่าโชคดีแล้วที่พ่อคุณเขาตัดสินใจถูกยกคุณมาแลกหนี้ผม ไม่อย่างนั้นคุณก็ต้องกลายไปเป็นเมียน้อยเสี่ยประวิทย์เพราะพ่อคุณไปเสนอเอาไว้”
“ไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่อ”
“โทรไปสิ ถ้าไม่เชื่อ”
จี๊ดรีบหยิบมือถือขึ้นมาจากกระเป๋าและโทรไปหาคนเป็นพ่อ เธอคุยกับนายนพดลอยู่สักพักนรินสังเกตเห็นขอบตาแดงก่ำที่สักพักมีหยดน้ำตาไหลออกมาไม่หยุด
“นี่พ่อขายหนูให้นายนรินเหรอคะ พ่อทำกับหนูแบบนี้ได้ยังไงคะ พ่อไม่ต้องพูดอะไรแล้วจี๊ดไม่อยากรับฟัง”
นรินมองภาพตรงหน้าแล้วรู้สึกสงสารจับใจ แต่เมื่อนึกอีกทีหากเขาไม่ชิงเธอมาเสียก่อน สาวน้อยตรงหน้าอาจจะหน้าสงสารมากกว่านี้หากต้องไปบำเรอกามให้ชายแก่คราวพ่ออย่างนายประวิทย์
“คราวนี้คุณเชื่อผมหรือยังล่ะ”
หญิงสาวตัดสายโทรศัพท์ นรินเดาได้ว่านายนพดลก็คงเสียใจมากที่ทำแบบนี้กับบุตรสาวคนเดียว
“นี่มันหมดสมัยการค้ามนุษย์แล้วนะ อย่านึกว่าฉันจะยอมถ้าพ่อกับคุณตกลงกันคุณก็เอาตัวพ่อฉันมาทำหน้าที่นั้นเองสิ เพราะฉันไม่ยอม”
ผิดคลาดนรินคิดเขาเชื่อว่าเธอจะยอมง่ายๆ เสียอีก หญิงสาวเดินออกจากบ้านขณะที่นรินกำลังยืนตะลึง
เฮ้ย! “ไม่ได้นะคุณ ผมเสียเงินไปตั้งมากทำอย่างนี้ได้ไง” นรินวิ่งไปขวางทางหญิงสาวไม่ให้เดินผ่านประตูไป แต่เธอผลักเขาที่หน้าอกอย่างเต็มแรง
“ฉันจะกลับบ้าน”
“ผมไม่อนุญาต”
“ฉันไม่สนใจ หลีกไป” จี๊ดตวาดเสียงดัง
“ทำไม เป็นผู้หญิงของผมถ้าคุณทำตัวดีๆน่ารักๆ เอาใจเก่งๆ คุณอยากได้อะไรผมให้คุณได้ทุกอย่าง” “ฉันไม่อยากได้อะไรของคุณเข้าใจไหม แล้วไม่สนใจด้วยว่าคุณจะตกลงกับคุณพ่อยังไงบ้าง คนอย่างจี๊ดไม่ยอมเป็นเมียเก็บของใคร ถ้าคุณบังคับฉันคุณจะได้แต่ศพเพราะฉันจะกลั้นใจตาย”
“ถึงขนาดเอาความตายมาขู่เลยเหรอ” นรินคิดถ้าจะหักหาญน้ำใจอุ้มไปจัดการในห้องนอนเสียเขาก็สมใจแต่ว่าไม่รู้ทำไมเขากลับไม่กล้าทำ
“แต่พ่อคุณเอาเงินผมไปแล้วสิบเอ็ดล้านทั้งหมด คุณจะปล่อยให้พ่อคุณติดคุกเหรอ”
“ใช่ค่ะ อย่าว่าฉันอกตัญญูนะคะ แต่จะเอาตัวฉันมาแลกแบบนี้มันไม่ถูกต้อง คดีแพ่งคงไม่กี่ปีหรอกค่ะถ้าพ่อออกจากคุกมาฉันจะเลี้ยงดูท่านอย่างดี”
นรินเกาศีรษะมันไม่ง่ายแบบที่คิดเสียแล้วล่ะสิ “จะเป็นลูกอกตัญญูจริงๆ เหรอ” นรินถามย้ำ
ใบหน้าสวยพยักหน้า “ใช่ค่ะ คุณฟ้องพ่อฉันดำเนินคดีต่อไปได้เลย ไอ้เอาลูกมาขายแลกหนี้มันมีแต่ในละครน้ำเน่าเท่านั้น”
หญิงสาวพยายามเบี่ยงตัวและผลักเขาให้พ้นทาง “เดี๋ยวสิเรายังคุยกันไม่จบ”
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”
“ไม่สงสารคุณพ่อคุณบ้างเหรอ อยู่ในคุกมันลำบากมากนะ ต้องกินข้าวแดง แกงไม่มีรสชาติ ไหนจะนักเลงในนั้นอีก”
“คุณพ่อเลือกเดินทางผิดเล่นการพนันจนเป็นหนี้สินมากมาย บางทีไปอยู่ในนั้นท่านอาจจะรู้สึกตัวก็ได้”
“ผู้หญิงใจดำ”
“ค่ะฉันยอมรับ จะด่าว่าใจดำ หรืออกตัญญูสักกี่พันครั้งฉันก็ยอม แต่ฉันไม่ยอมเป็นเมียเก็บของคุณเพื่อใครหรอก”
นรินถอนหายใจ แต่เขาอยากได้ลูกสาวนายนพดลคนนี้จริงๆ ขืนกลับไปพ่อเธออาจจะเอาเธอไปเสนอใครต่อใครก็ได้ซึ่งนั้นเขายอมไม่ได้
“แล้วถ้าอยู่ในฐานะคนใช้ ไม่ใช่เมียเก็บล่ะเธอจะตกลงไหม”พูดไปแล้วนรินก็อยากตบปากตัวเอง แล้วด่าว่าโง่
หญิงสาวขมวดคิ้วเรียว “คุณจะจ้างฉันเป็นคนใช้ในราคาสิบเอ็ดล้าน”
“ทำไมผมรวย มีเงินจ่าย และจ่ายไปแล้วเขาย้ำ” นรินคิดว่าตัวเองกำลังเป็นผู้ชายที่โง่ที่สุดที่ยื่นข้อเสนอที่ตัวเองกำลังเสียเปรียบอย่างมากให้กับหญิงสาวตรงหน้า
“โดยฉันไม่ต้องทำหน้าที่บนเตียง” จี๊ดสบตาเขา
“ใช่ ยกเว้นคุณเต็มใจหรือคุณยั่วผมจนผมต้องตบะแตก”
“ไม่มีวัน” หญิงสาวสวนทันควัน
“ถ้าอย่างนั้น โน่นในครัวตั้งแต่เย็นผมยังไม่ได้กินอะไรเลย” เขาชี้ไปที่ครัว
“เดี๋ยวนี้เลยเหรอ”
“ใช่”เขาดันหลังเธอไปที่ครัว “คนใช้ที่ราคาแพงที่สุดในโลกรีบทำงานสักที อย่าพูดมาก”
“แล้วฉันต้องเป็นคนใช้คุณไปนานเท่าไหร่คุณยังไม่ได้บอกเลย”
“สิบเอ็ดล้านผมจ้างคนใช้ได้เป็นร้อยคนนะคุณ ได้คืบอย่าเอาศอก อย่าต่อรองมาก”
“ถ้าไม่กำหนดเวลาฉันก็ไม่ยอม” จี๊ดเถียง
“ถ้าทำงานดีๆ สักห้าปีผมจะปลดปล่อยคุณไปเป็นอิสระ ทำงานไม่ได้เรื่องก็สักสิบปี”
“ฉันต้องการสัญญาเป็นลายลักษ์อักษร จะได้เชื่อใจว่าคุณจะไม่หลอกฉัน”
“เซ็นสัญญาการเป็นคนใช้เนี่ยนะ” นรินถอนหายใจ
“ใช่”
“จะบอกเลขาให้จัดการให้แล้วกัน”
จี๊ดคิดยังไงเสียเป็นคนใช้ก็ยังดีกว่าต้องเป็นเมียเก็บเป็นไหนๆ หากไม่สำนึกถึงบุญคุณที่พ่อส่งเสียเธอมาเธอจะไม่ยอมทำอะไรแบบนี้เด็ดขาด แต่จะให้ทนเห็นพ่อติดคุกมันก็ทรมานใจเหลือเกิน
“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลง”
“ขอฉันไปเก็บเสื้อผ้าที่บ้านก่อนได้ไหม”
“ไม่ต้องซื้อใหม่ดีกว่า เสื้อผ้าของคุณแต่ละตัวมันคงไม่เหมาะเอามาใส่ทำงานบ้าน”
“ฉันนักเรียนนอกนะ จะให้ฉันเป็นคนใช้จริงๆเหรอ” หญิงสาวหันมาถามย้ำ
“ใช่ ผมอยากมีคนใช้เป็นนักเรียนนอก ไม่เหมือนใครมีอะไรไหม เสียเงินไปตั้งสิบเอ็ดล้านมันก็ต้องได้อะไรให้คุ้มหน่อย ถ้าคนใช้จบประถม มัธยมไม่ต้องจ้างแพงแบบนี้หรอก”
“แต่ว่า” จี๊ดยังมีคำถามอีกมากมาย
“เป็นคนใช้อย่าเถียงเจ้านาย อย่าถามมากเรื่อง สั่งให้ทำอะไรก็ทำ” นรินเล่นบทเจ้านายขึ้นมาทันที พร้อมทั้งสั่งการให้เธอรีบเข้าครัวไปทำกับข้าวเดี๋ยวนี้
+++++++++++++++++++++
นรินทรุดตัวลงที่โต๊ะอาหาร “ยืนมองผมอยู่ได้ผมรู้ว่าตัวเองหน้าตาดีแต่ไม่ต้องจ้องขนาดนี้หรอก ไปทำกับข้าวได้แล้ว” เขาสั่ง
จี๊ดหายไปในครัวสักพักใหญ่ๆ ระหว่างทำอาหารเธอก็คิดตลอดว่าสิ่งที่เธอทำอยู่มันถูกต้องหรือเปล่า ทำไมเธอต้องมากลายเป็นคนใช้ให้นายนรินนี่ด้วย อีกใจก็นึกน้อยใจบิดาที่ทำกับเธอได้ลง
กลิ่นเหม็นไหม้โชยเข้าจมูกโด่งของนรินเข้าทำจมูกฟุดฟิดคิดจะเดินเข้าไปในครัว
“อาหารมาแล้วค่ะ” หญิงสาวยิ้มเก้อๆ ก่อนจะวางจานข้าวผัดเสริฟลงหน้าของนริน
นรินมองจานข้าวผัดและเงยหน้าขึ้นไปมองหญิงสาว “ข้าวผัดหรือข้าวคุกกะปิ” ข้าวผัดไข่ที่บางส่วนไหม้ดูไม่น่ากินวางอยู่ตรงหน้านริน
“ฉันทำกับข้าวไม่เป็น”
นรินกุมศีรษะแน่น “อะไรนะ ผมกำลังจ้างคนใช้ด้วยเงินสิบเอ็ดล้านโดยที่คนใช้ของผมทำกับข้าวไม่เป็น”
“นอกจากนี้ฉันก็ยังไม่เคยต้องทำงานบ้านเองด้วยค่ะ” ก็เธอมุ่งเน้นแต่การเรียนตอนอยู่ที่เมืองนอกก็มีแม่บ้านของหอพักที่จะเข้ามาทำรความสะอาดให้อาทิตย์ละสองครั้ง
“อะไรนะ”นรินถลึงตา “ทำกับข้าวไม่เป็น ทำงานบ้านไม่ได้ผมจะบ้าตาย”
“คุณจะเลิกจ้างฉันก็ได้”
“ถ้าผมเลิกจ้างคุณ แล้วคุณหาเงินมาคืนผมได้รึเปล่าล่ะ สิบเอ็ดล้านนะ”
หญิงสาวสวยถอนหายใจ“ไม่มีค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็นั่งลง”นรินสั่ง
“คุณทานข้าวเย็นมาหรือยัง” เขาถาม
“ยังค่ะ”
นรินสั่นศีรษะแล้วหายไปในครัวสักพักหนึ่งเขากลับออกมาพร้อมข้าวผัดสองจานที่หน้าตาดีไม่แพ้ตามร้านอาหาร
“เป็นไงทึ่งไปเลยล่ะสิท่า”
หญิงสาวแกล้งไม่สนใจ
“ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันตกลงผมจ้างคุณมาเป็นคนใช้ใช่ไหม” นรินชี้ไปที่เธอ “คุณเป็นคนใช้ แต่ผมเป็นคนที่ถูกใช้”
“ก็แล้วแต่คุณจะคิด”
ยัยจี๊ดจอมแสบนรินคาดโทษเอาไว้ในใจ การต่อรองให้เธอมาเป็นคนใช้นั้นมันเป็นแผนถ่วงเวลาเธอเอาไว้เท่านั้นนรินรู้ดีว่าเขาต้องการเธอมาอยู่กับเขาเผื่ออะไร ++++++++++++++++++
หลายอาทิตย์ที่จี๊ดมาอยู่กับนรินเขาก็ทำตามอย่างที่พูดจริงๆ เขาไม่เคยล่วงเกินเธอ อย่างมากวันๆเขาก็จะใช้เธอชงกาแฟบ้างล่ะ และทำนั่นทำนี่นิดๆหน่อยๆ แต่ดูเหมือนสิ่งที่เขาให้เธอทำมันมักจะอยู่รอบๆตัวเขาเช่นให้เธอช่วยอ่านหนังสือให้ฟัง ช่วยหยิบโน่นหยิบนี่ แต่ทว่าฝีมือการทำอาหารของเธอก็ก้าวหน้าขึ้นมากเรียกได้ว่าอาหารจานเดียวตอนนี้เป็นเรื่องง่ายๆ ที่เธอทำได้อย่างสบาย แต่เธอไม่รู้หรอกว่าทุกครั้งยามเธอหันหลังให้เขาสายตาของนรินจะเฝ้ามองตามเธอไปทุกที่
“คุณนรินคะ วันนี้จี๊ดขอกลับบ้านนะคะ” หลังจากที่หญิงสาวไม่ยอมกลับบ้านเลยตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เพราะว่ายังโกรธบิดาไม่หาย
“ก็ได้ครับ เอาสิผมจะไปส่งคุณเอง”
“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ จี๊ดกลับเองได้”
“ทำไมถึงไม่ยอมให้ไปส่งแอบนัดใครไว้อย่างนั้นเหรอ”
“เปล่านี่คะ ฉันแค่อยากกลับไปเยี่ยมแม่บ้างก็เท่านั้น”
“ก็ได้ แต่กลับมาทำอาหารเย็นให้ทันก็แล้วกัน คุณอย่าลืมสิว่าคุณมันเป็นคนใช้ที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกหัดทำงานให้คุ้มค่าแรงหน่อย” นรินมีท่าทีฉุนเฉียวเขาหยุดการอ่านหนังสือและเดินเข้าไปในห้องปล่อยให้เธอยืนงง”
“คนบ้าอำนาจ เป็นแค่เจ้านายไม่ใช่เจ้าชีวิตเสียหน่อย”
หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวเสียสวยเหมือนคนเดิม ไม่ได้ใส่เสื้อตัวหลวมโคกกับเกงสามส่วนอย่างที่ทำงานทุกวัน นรินเปิดประตูและแง้มมอง
“แต่งตัวเสียสวยแบบนี้จะให้เชื่อได้อย่างไรว่าจะกลับบ้าน” เขาอดทนอดกลั้นแค่ไหนที่ต้องทนแบบนี้เขาไม่เคยล่วงเกินเธอ เพราะว่าเขารออย่างใจเย็น รอว่าสักวันหนึ่งความใกล้ชิดจะทำให้เธอสนใจเขา หากอันที่จริงเขาต้องการผู้หญิงมาระบายอารมณ์ใคร่ที่มันเกิดขึ้นตามวิสัยของผู้ชายแค่เขายกหูกริ๊งเดียวเท่านั้นมันไม่ยากเลยแต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ตั้งแต่เห็นเธอผู้หญิงเหล่านั้นก็ไม่ได้อยู่ในสายตาหรือความรู้สึกนึกคิดของเขาอีกเลย +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ประเทศออสเตรีย ห้องสวีทของโรงแรมหรูชื่อดัง
ภายในห้องถูกตกแต่งอย่างสวยงามราวกับว่าเป็นห้องบรรทมในปราสาทที่ถูกจำลองขึ้นมาและเต็มไปด้วยแจกันดอกกุหลาบสีขาวแซมชมพูอันแสนหวานหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง เหมาะจะเป็นห้องพักของคู่ฮันนีมูน แสงจันทร์สว่างส่องแสงลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาแสงนวลของดวงจันทร์ทำให้พอเห็นร่างขาวสะอาดนวลเนียนน่าทะนุถนอม ที่ผมเป็นลอนอ่อนสีน้ำตาลเหยียดยาวปกคลุมถึงกลางหลัง และอีกร่างล่ำสันนอนกอดก่ายกันเต็มไปด้วยอุ่นไอแห่งความรัก
“ที่รักคุณว่าไหม คราวนี้พี่ชายของผมสงสัยจะได้มีภรรยาเป็นตัวเป็นตนกับเขาแล้วล่ะ”
“ทำไมเหรอคะ” พันธิตาถาม ขณะที่ร่างเปลือยของเธออยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของสามีหนุ่ม ผู้ที่พาเธอไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์มาเกือบตลอดทั้งคืน
“ก็พี่นรินน่ะสิครับ สงสัยจะหลงเสน่ห์ลูกสาวของลูกหนี้เรา นายนพดลยังไงล่ะครับ”
“ที่คุณบอกว่าเคยเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ แล้วทุจริตยักยอกเงินไปใช่ไหมคะ”
“ใช่แล้วล่ะครับ แต่ผมว่าคราวนี้พี่นรินคงจะเหนื่อยสักหน่อยล่ะ เพราะคุณจี๊ดคนนั้นก็ดูท่าจะแสบจี๊ดสมชื่อจริงๆ”
“คุณเคยเห็นหน้าเธอแล้วหรือคะ”
“ใช่ ก่อนวันแต่งงานของเรา ผมพบเธอโดยบังเอิญ”
“สวยไหมล่ะคะ”
“สวยมากทีเดียวล่ะ” หญิงสาวหุบยิ้มลง เคนจึงรีบประทับจุมพิตที่หน้าผากมน “แต่ในสายตาของพี่นรินเขานะ เพราะว่าสำหรับผมคุณสวยที่สุด” เขาไม่เพียงแต่พูดเท่านั้นแต่รีบพลิกร่างบางให้นอนหงายสายตาคมปนหวานยามเคนมองภรรยาสาวเต็มไปด้วยความรักความอบอุ่นอันวาบหวาม
“ไม่แล้วนะคะ ฉันเหนื่อยค่ะ”
หญิงสาวทำตาปรอย และเอียงอาย
“เรายังมีเวลานอนหลับกันอีกตั้งเยอะ นะครับนะนะ” เขากระซิบออดอ้อนเธอ ในขณะที่ฝ่ามืออุ่นร้อนเริ่มลูบไล้ไปตามปลีน่องเนียนอย่างไม่เคยคิดที่จะเบื่อเลยสักครั้ง จากนั้นแยกขาเรียวให้ห่างออกจากกัน
“ฉันเพิ่งจะรู้ว่ามีสามีที่มีพลังเหลือเฟือ” หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ก่อนจะสอดแขนทั้งสองไปคล้องคอเขาเอาไว้
“คุณยังเล่าเรื่องความรักของพี่นรินให้ฉันฟังไม่จบเลยนะคะ”
“ผมเล่าให้คุณฟังแน่ๆ รวมถึงความคืบหน้าของครอบครัวยัยพายไข่น้องสาวตัวแสบของผม ที่เธอเพิ่งจะรู้ว่าได้สามีเป็นเศรษฐีที่นา ราชาที่ดินแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวนายวุธไม่ใช่คนงานธรรมดาจริงๆ แบบที่พี่นรินสงสัย แต่ว่าต้องรอหลังจากนี้นะ”
“ทำไมล่ะคะ”
“ยังมาถามอีก ก็คุณกับผมมีเรื่องที่จะต้องทำกันต่อน่ะสิครับ ผมจะเล่าให้คุณฟังว่าผมรักคุณมากแค่ไหนโดยผ่านร่างกายของผม”
“บ้า คุณน่ะพูดอะไรก็ไม่รู้ฉันเขินนะคะ”
ลิ้นอุ่นร้อนแทรกเข้าไปดูดดื่มความหอมหวานจากริมฝีปากหยักอวบอิ่ม ก่อนที่ร่างกายหนากว่าจะพลิกกายไปอยู่บนเจ้าของร่างบาง จมูกโด่งของเคนซุกไซ้ไปตามพวงแก้มอิ่มเอิบสีชมพู จากนั้น ฝ่ามือทั้งสองก็ประคองหน้าอกอวบหยุ่นเอาไว้ก่อนจะฝังจมูกโด่งลงไปที่ร่องระหว่างอกสูดความหอมหวานที่ไม่ต่างจากดอกไม้ที่กำลังแรกแย้มจนได้ยินเสียงภรรยาคนสวยของเขาครางฮือเบาๆ และตอบรับด้วยการยกสะโพกสวยเบียดเข้าหาแก่นกายอันร้อนรุ่มของเขา จากนั้นเคนก็เริ่มหลอมละลายให้เธอและเขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกครั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปตามทางของมันอย่างที่ควรจะเป็น แต่สิ่งที่หลงเหลือเอาไว้ยามเมื่อกองไฟอันลุกโชนภายในห้องได้สงบลงก็คือ ความารัก ความห่วงหา อาทรที่นเรนธรจะมีให้ภรรยาสุดที่รักของเขา
+++++++++++++++++++++++

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ส.ค. 2554, 09:15:08 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ส.ค. 2554, 09:15:08 น.
จำนวนการเข้าชม : 4365
<< ตอนที่ 21 | ตอนที่ 23 >> |

rath 19 ส.ค. 2554, 09:38:26 น.
สนุกมากคะ
สนุกมากคะ

XaWarZd 19 ส.ค. 2554, 09:48:27 น.
พี่นรินหนอ ตกบ่วงตัวเองเสียแล้ว ใจดีเกินไปอีกต่างหาก น่าจะสั่งสอนยายจี๊ดให้รู้สำนึก
พี่นรินหนอ ตกบ่วงตัวเองเสียแล้ว ใจดีเกินไปอีกต่างหาก น่าจะสั่งสอนยายจี๊ดให้รู้สำนึก

อัปสรา 19 ส.ค. 2554, 09:50:50 น.
- คุณ rath สวัสดีค่ะ ขอบคุณสำหรับคำชม
- คุณ XaWarZd สวัสดีค่ะ ตอนหน้าจะเกลียดพี่นรินหรือเปล่านะ
- คุณ rath สวัสดีค่ะ ขอบคุณสำหรับคำชม
- คุณ XaWarZd สวัสดีค่ะ ตอนหน้าจะเกลียดพี่นรินหรือเปล่านะ

หญิงใหญ่ 19 ส.ค. 2554, 09:50:56 น.
โผล่มาอีกคู่นึงแระ ตามลุ้นต่อไปจ้า...^^
โผล่มาอีกคู่นึงแระ ตามลุ้นต่อไปจ้า...^^

อัปสรา 19 ส.ค. 2554, 10:20:07 น.
สวัสดีค่ะ คุณ หญิงใหญ่ ต้องมาตามจริงๆนะ
สวัสดีค่ะ คุณ หญิงใหญ่ ต้องมาตามจริงๆนะ

kaero 19 ส.ค. 2554, 11:12:17 น.
มาแล้ว ดีใจจัง ว่าแต่คู่ของพี่นรินเนี่ย ท่าจะเหนื่อยเน้อ
มาแล้ว ดีใจจัง ว่าแต่คู่ของพี่นรินเนี่ย ท่าจะเหนื่อยเน้อ

อัปสรา 19 ส.ค. 2554, 11:40:12 น.
คงเหนื่อยค่ะ เรื่องนี้นางเอกแต่ละคนสู้ยิบตาเชียว แต่ตอนหน้าคงสงสารหนูจี๊ดนะ
คงเหนื่อยค่ะ เรื่องนี้นางเอกแต่ละคนสู้ยิบตาเชียว แต่ตอนหน้าคงสงสารหนูจี๊ดนะ

ธารณ์ 19 ส.ค. 2554, 12:01:10 น.
หนูจี๊ดจะเจออะไรละนี่...
หนูจี๊ดจะเจออะไรละนี่...

nunoi 19 ส.ค. 2554, 13:49:36 น.
ว้าวว ลุ้นๆๆ
ว้าวว ลุ้นๆๆ

คิมหันตุ์ 19 ส.ค. 2554, 13:50:32 น.
อย่าลืมมาเล่าเรื่อง ยัยไข่ นะคะ..รอร๊อรอ
อย่าลืมมาเล่าเรื่อง ยัยไข่ นะคะ..รอร๊อรอ

อัปสรา 19 ส.ค. 2554, 13:57:10 น.
ไม่ลืมค่ะแต่ตอนหน้าเป็นของพี่นรินเขาก่อน
ไม่ลืมค่ะแต่ตอนหน้าเป็นของพี่นรินเขาก่อน

lovemuay 19 ส.ค. 2554, 14:29:24 น.
หนูจิ๊ค ตอนแรกนึกว่าจะน่าสงสาร ที่ไหนได้พี่นรินเป็นสุภาพบุรุษเกินคาด อิอิ
หนูจิ๊ค ตอนแรกนึกว่าจะน่าสงสาร ที่ไหนได้พี่นรินเป็นสุภาพบุรุษเกินคาด อิอิ

อัปสรา 19 ส.ค. 2554, 14:37:05 น.
สวัสดีค่ะ คุณ Lovemuay สงสัยตอนหน้าต้องมาต่อว่า ว่าพีนรินทำไมทำแบบนี้ 555
สวัสดีค่ะ คุณ Lovemuay สงสัยตอนหน้าต้องมาต่อว่า ว่าพีนรินทำไมทำแบบนี้ 555

Gingfara 19 ส.ค. 2554, 18:53:44 น.
โอ๊ยๆๆๆๆ น่ารักมากเลยค่ะทุกคู่เลย โดยเฉพาะคู่ปิดตอน
โอ๊ยๆๆๆๆ น่ารักมากเลยค่ะทุกคู่เลย โดยเฉพาะคู่ปิดตอน

windy2000 19 ส.ค. 2554, 19:30:10 น.
คิดถึงคุณเคนมากกกค่า
คิดถึงคุณเคนมากกกค่า

omelet 20 ส.ค. 2554, 08:06:36 น.
พี่คิมสามแปด ยัยจึ๊ดเท่าไหร่นี่
พี่คิมสามแปด ยัยจึ๊ดเท่าไหร่นี่

nuchababluesky 27 ส.ค. 2554, 20:37:00 น.
พี่นริน ไฮโซจังมีคนรับใช้เป็นนักเรียนนอก หุหุ
พี่นริน ไฮโซจังมีคนรับใช้เป็นนักเรียนนอก หุหุ