เปลวไฟในกระแสลม
ชีวิตชายหนุ่ม หล่อ พ่อรวย แต่กลับดวงซวย โชกเลือด ชุ่มเหงื่อ และหยาดน้ำตา แถมฉ่ำรักใคร่เสน่หา เกิดราศีเมถุน ตำราโหราศาสตร์ว่าเกิดในธาตุลม
ชะตาชีวิตผกผันพบเจอเธอ หญิงสาวราศีเมษอันเป็นธาตุไฟ เกิดปลายเดือนมีนา รักเคารพบิดา แต่ดวงชะตาความรักแย่ บิดาไม่อยากฝากอนาคตที่เธอ หากแต่จะยกมรดกให้หลานชาย อันเกิดเป็นลูกของเธอ โดยหาว่าที่เจ้าบ่าวในอนาคตไว้ให้
เธอให้มิตรภาพเป็นเพื่อนแท้ ร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมแก๊ง ‘เฮอริเคน’ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งค้นเจอ เธอคือคนที่ ‘ใช่’ เขาจึงเหมือนกระแสลมแรง เปลี่ยนแปลงจากมิตรแท้ ร่วมทางสู่คู่ครองชั่วชีวิต
จึงเป็นที่มาของชื่อเรื่อง ‘เปลวไฟในกระแสลม’
ชะตาชีวิตผกผันพบเจอเธอ หญิงสาวราศีเมษอันเป็นธาตุไฟ เกิดปลายเดือนมีนา รักเคารพบิดา แต่ดวงชะตาความรักแย่ บิดาไม่อยากฝากอนาคตที่เธอ หากแต่จะยกมรดกให้หลานชาย อันเกิดเป็นลูกของเธอ โดยหาว่าที่เจ้าบ่าวในอนาคตไว้ให้
เธอให้มิตรภาพเป็นเพื่อนแท้ ร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมแก๊ง ‘เฮอริเคน’ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งค้นเจอ เธอคือคนที่ ‘ใช่’ เขาจึงเหมือนกระแสลมแรง เปลี่ยนแปลงจากมิตรแท้ ร่วมทางสู่คู่ครองชั่วชีวิต
จึงเป็นที่มาของชื่อเรื่อง ‘เปลวไฟในกระแสลม’
Tags: กุ๊กกิ๊ก, หวานแหวว, บู๊, แอคชั่น, คอมเมดี้, ตลกขบขัน, ไตรติมา, รวย, หล่อ, เท่ห์,
ตอน: ตอน 8 คนสำคัญไม่เหมือนกันกับคนรัก
..........คลินิกกุมารเวชศาสตร์
ฮายาโตะพายูกิมาตรวจการตั้งครรภ์และได้พบแพทย์
“จากผลการตรวจเธอเครียดมากเกินไป ประจำเดือนเลยไม่มาตามกำหนด ไม่ได้ตั้งครรภ์ครับ หมอจะให้ยาบำรุงกับยาคลายเครียดไปรับประทานนะครับ”
แพทย์ให้การยืนยันเรื่องที่ยูกิไม่ได้ตั้งครรภ์ จากนั้นจึงก้มหน้าก้มตาเขียนใบสั่งยาให้ไปรับยาที่แผนกจ่ายยา
หลังจากนั้นฮายาโตะจึงพายูกิกลับออกมาจากคลินิก
ระหว่างนั้นได้เจอคนที่ไม่คาดฝันว่าจะได้เจอ... เลื่อมลาวัณย์ เธอมาตรวจครรภ์
คนที่เคียงข้างประคองเธอมาคือมารดาของเธอเอง
“เป็นไงบ้างคุณฮาย ไม่เจอกันนานเลยสบายดีไหม”
คุณเรนะเอ่ยทักทายเด็กหนุ่มคนคุ้นหน้าซึ่งเป็นเพื่อนชายของบุตรสาว เพราะฮายาโตะชอบไปเที่ยวเยี่ยมเยียนที่บ้านบ่อย และเคยคบหาอยู่กับบุตรสาวของตน
“สบายดีครับ แล้วเลื่อมมาทำไมที่นี่”
“มาตรวจครรภ์ค่ะ ห้าเดือนแล้วเร็วจังนะคะเวลาที่เราจากกัน”
เลื่อมลาวัณย์พูดเพียงไม่กี่คำ ทำดวงตาฉ่ำคลอไปด้วยน้ำตา
คนมองดู... รับรู้รับฟังอย่างเขาพลอยใจตื้นเหมือนจะสะอื้นร่ำไห้ตามไปด้วย เอ่อท้นด้วยน้ำตาเริ่มออจะล้นออกมานอกดวงตา ฮายาโตะพยายามสะกดกลั้น ฝืนยิ้มให้ทั้งน้ำตาคลอเช่นนั้น
“เธอกำลังจะมีเด็กมีคนสำคัญที่สุดในชีวิตแล้วอย่างนี้ครอบครัวคงเป็นสุขสมบูรณ์ ไม่เป็นคนหัวใจว่างเปล่ามันก็ดีนะ จะได้ไม่รู้สึกเหงา”
มาถึงตอนนี้ฮายาโตะรู้ตัวเองแล้วว่าสุดจะเหงา แม้จะมีใครมากมายหลายคนก็ไม่อาจมีคนไหนแทนที่คนเคยรักกันคนนี้ได้เลย
“คนสำคัญไม่เหมือนกันกับคนรักหรอกนะคะ เราอาจมีคนสำคัญเช่นลูกหรือพ่อแม่ แต่คนรักที่อยู่ใกล้ให้ความรู้สึกดีๆ ทำให้มีความสุขเราอาจไม่มีก็ได้ ฉันสวดมนต์ให้คุณฮายทุกคืนก่อนนอนขอพรพระให้มีใครเข้าไปอยู่ในหัวใจคุณฮาย เป็นคนที่คุณฮายรักที่สุดในหัวใจและเขารักคุณฮายเท่าชีวิตอย่างที่ฉันรัก ขอให้เขาได้อยู่กับคุณฮายตลอดไป ฉันอยากฝันไปพร้อมคนนั้นคนที่ฉันได้แค่ฝันอยากเป็น แต่ไม่อาจเป็นจริงได้ ฉันยังรักคุณฮายอยู่ในความฝัน นึกถึงตอนเราเคยอยู่ร่วมกัน ตอนนั้นฉันร้องเพลง ส่วนคุณฮายเล่นคีย์บอร์ด เหมือนเราสองคนเป็นเทวดากับนางฟ้ามีแต่ความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลย คุณฮายยังจำเรื่องของเราสองคนได้ไหม”
เลื่อมลาวัณย์ปล่อยน้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาพร้อมๆ คำพูดรำพึงถึงความหลังหวานชื่นอันไม่อาจหวนคืนมาอีกแล้ว
ฮายาโตะก็เช่นกันเขาพยักหน้าจำได้ทุกอย่าง แต่กลั้นน้ำตาไม่อยู่จริงๆ ต้องใช้มือปิดหน้าตาตัวเอง จำต้องเดินหนี... ไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ขณะก้อนสะอื้นบีบคั้นจนตีบตันลำคอ
จำต้องวิ่งหนีหน้าทุกคนไปสงบสติอารมณ์ด้านหลังตึกของคลินิก ซึ่งเป็นชายคลองมีเหล็กกั้น น้ำตาทะลักมากมายไหลเป็นสาย... ยากจะหยุดร้องไห้ได้ด้วยตัวเองเสียแล้ว
‘ใครก็ได้ช่วยฉันให้หยุดร้องไห้เสียที’
“นายช่วยเล่าเรื่องตลกหน่อยสิ ฉัน... ฉันอยากหัวเราะ...”
ฮายาโตะโทรขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทรู้ใจคือยูริ เพื่อนผู้มีอารมณ์ขันที่สุดในกลุ่มเฮอริเคน แต่น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นอย่างนั้น เพื่อนเลยจับได้
“นายกำลังร้องไห้อยู่ล่ะสิฮาย”
“ฉันเจอเลื่อม...”
“นึกแล้ว... เรื่องที่ทำให้นายเสียน้ำตา ฟังนะ... ไอศกรีมมาแล้ว...”
แล้วยูริจึงร้องเพลงตลกให้ฟัง เป็นเพลงเด็กอยากกินไอศกรีม และเพลงตลกอื่นๆ อีกสักพัก... ก่อนจะชักชวน
“มาหาเพื่อนสิ กลุ่มเฮอริเคนของเราไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันมานานแค่ไหนแล้วนายรู้ไหม”
“อืม... ตกลง วันนี้ฉันจะไปรวมกลุ่มกับพวกเรา”
น้ำตาเริ่มแห้งไปแล้ว ฮายาโตะกลับมาที่รถ
ยูกินั่งรออยู่ในรถนานแล้ว
“ผู้หญิงคนนั้นสวย เขาเป็นคนรักเก่าของคุณฮายใช่ไหม”
ยูกิเอ่ยถาม เมื่อรถเคลื่อนตัวออกไปได้พักหนึ่ง
“ใช่... เคยเป็น”
ฮายาโตะตอบเพียงสั้นๆ
“ฉันเครียดเพราะฉันคิดมาก บางทีฉันอาจไม่ใช่คนที่คุณฮายรักและเลือก ยิ่งคิดยิ่งเศร้า”
“ผมไม่มีคำตอบกับเรื่องนี้”
ฮายาโตะพูดไม่กี่คำจากนั้นจึงมีแต่ความเงียบ... จนกระทั่งส่งยูกิเข้าบ้านไป
..........บาคาดาส ผับใหญ่ใกล้ย่านรปปงงิ มีวงดนตรีเล่นประจำทุกศุกร์เสาร์อาทิตย์ ชื่อของวงคือ BK SHARK หมายถึง Black shark หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า ฉลามดำ
กลุ่มเฮอริเคนรวมตัวกันมารวมตัวกัน ณ ที่นี้
“เฮ้ย... ฮาย ยินดีต้อนรับกลับบ้าน”
ยูริน้องชายเจ้าของผับ หนึ่งในกลุ่มเฮอริเคนกล่าวต้อนรับเพื่อนสนิท พลางตบบ่าแล้วพามานั่งร่วมวงกลุ่มเฮอริเคนที่โต๊ะ
“ดื่มกินกันให้เต็มที่เลย”
เจมส์ยิ้มแย้มแจ่มใสให้กับฮายาโตะ
เพื่อนทุกคนไม่มีใครคุยเรื่องทุกข์โศกเรื่องความหลังของฮายาโตะ
การกลับมาเข้ากลุ่มคราวนี้เหมือนมาชาร์ตแบตเตอรี่ใหม่ให้หัวใจของเขาคลายความโศกเศร้าร้าวราน
“ขอเพลงหน่อยสิคาร์ล อยากฟังเพลงที่นายร้อง ไม่ได้ยินมาตั้งนาน”
“คงเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะครับคุณฮาย วงผมคงจะแตกแยกย้ายกันไปในเร็ววันนี้”
“อ้าว... เกิดอะไรขึ้น”
“มือคีย์บอร์ดถูกดึงตัวไปอยู่วงอื่น เขามีอนาคตที่ดีกว่าอาจได้เดบิวต์เขาเลยทิ้งวงไป เขาไม่ได้ร้องเพลงเพื่อความสุขใจได้ค่าทิปเล็กน้อยอย่างพวกผม ต่อไปคงต้องปลดป้ายชื่อวงออก เสียดายนะ BK SHARK”
คาร์ลสะกดชื่อ แล้วมองป้ายชื่อวงดนตรีด้านหลังเหนือเวที
“น่าเสียดาย...”
ฮายาโตะรำพึงและคิดได้บางอย่างจึงออกปาก...
“แล้วถ้าฉันจะเล่นเป็นมือคีย์บอร์ดให้ ยังจะยุบวงไหม”
ทุกคนหันมามองฮายาโตะเป็นตาเดียว คาดไม่ถึงว่าจะได้ตัวเขามาเป็นมือคีย์บอร์ดแทนนักดนตรีที่ออกจากวงไป
..........หลายเดือนผ่านไปจวบจนกระทั่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ
ปลายมีนานั่งนึกจะต้องทำอะไรสักอย่างสองอย่าง
หัวข้อ: จะมาทำธุระที่ญี่ป่น น้องปลายอยากได้ของฝากอะไรจากเมืองไทย
ยูรวรรธน์ส่งอีเมล์มาถาม และบอกว่าจะมาอยู่ญี่ปุ่นสักสัปดาห์ก่อนจะกลับไปเดินเรื่องกับสถานฑูตญี่ปุ่นในไทย เพื่อจะเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นนี้
ปลายมีนาจึงตอบกลับแบบแสนสั้น ไม่ลงรายละเอียดตามปกตินิสัยไม่พูดมาก
หัวข้อ: อยากได้ของเล่น
..........สามวันให้หลัง
ยูรวรรธน์เดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่น
ปลายมีนามารอรับ แล้วพากันมาในคอฟฟี่ช็อปข้างสนามบินนาริตะ
“นี่... ของฝากจากเมืองไทย เฮลโลคิตตี้ สีชมพูน่ารักๆ เหมาะสำหรับน้องปลายของพี่”
ยูรวรรธน์หยิบออกมาโชว์ ตุ๊กตาหน้าแมวน้อยขนาดพออุ้มเล่น
“ขอบคุณค่ะ”
ปลายมีนารับมาตามมารยาท ผู้ใหญ่ให้ของก็ต้องรับ พร้อมกับขอบคุณไว้ก่อน แม้ทำสีหน้าเรียบเฉยไม่อยากจะเอ่ยว่า
‘มันของฝากจากเมืองไทยตรงไหน ที่ญี่ปุ่นนี่มีขายเยอะแยะ’
“ปลายอยากได้ของเล่นที่ถูกใจ”
“แสดงว่าอันนี้ไม่ถูกใจ งั้น... น้องปลายชอบแบบไหนพี่จะรีบหามาให้”
คนช่างเอาใจถาม อยากเอาใจคู่หมั้นสาวน้อยวัยรุ่นของตน
“ปืนเถื่อน... ค่ะ”
สาวน้อยวัยรุ่นตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังพอๆ กับแสดงสีหน้าว่าเอาจริงไม่แพ้คำพูดด้วย
“หะ! ...”
‘ของโหดๆ น่าหวาดเสียวอย่างนั้นน่ะนะของเล่นของเธอ?’
ยูรวรรธ์ให้นึกวิตกกังวลขึ้นมาทันที ไม่ค่อยอยากให้คู่หมั้นเล่นของอันตรายอย่างนั้นเลย
..........ยูรวรรธน์ จัดเป็นผู้ชายในฝัน เพอร์เฟ็กในสเป็คสำหรับสาวๆ ทั้งรูปหล่อทั้งร่ำรวย
อายุอานามมากกว่าปลายมีนาหกปี ปีนี้อายุยี่สิบสามแล้ว รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตาคมหวาน ขนตางอนยาว คิ้วบางโค้ง จมูกใหญ่โด่งได้รูป ริมฝีปากเกือบกว้างแต่บางเรียบ เวลาเม้มปากจะดูเป็นเส้นตรง
ตามตำรานรลักษณ์ศาสตร์ ทำนายว่าเป็นคนเกรงใจสาว เอาใจเก่ง ทำตัวอยู่ในกรอบระเบียบกฎเกณฑ์
ซึ่งปลายมีนาเห็นด้วยกับคำทำนายนั้นว่าที่คู่หมั้นที่พ่อของเธอเออออเห็นชอบเอาใจช่วยลุ้นล้ำหน้ากว่าหนุ่มใด
ก่อนหน้านั้นเธอเคยนึกว่าตัวเองอนาคตอาจจะต้องขึ้นคาน เพราะไม่มีใจนึกชอบผู้ชายคนไหนเอาซะเลย
“ขอเบอร์หน่อยสิ”
ตามฟอร์มหนุ่มๆ มักชอบมาขอ... เพื่อต่อไปจะได้โทรจีบ
“ได้... เอาเบอร์รองเท้าไป แถมแจกฟรี นี่... ด้วยเอาไหม?”
ปลายมีนาพูด ประกอบกับยกรองเท้าวางบนเก้าอี้นั่ง ซึ่งแน่นอนเท้าก็ต้องตามมาด้วย ชี้มือที่รองเท้าแล้วมองกราดด้วยดวงตาดุ (ดูเหมือนคุณยายอะไรนาดๆ จากเรื่อง ทายาทอสุรกาย) เลยไม่มีหนุ่มใดย่างกรายเสนอหน้ามาขอเบอร์กันอีก
แต่ยูรวรรธน์ต่างจากผู้ชายคนอื่น เขารู้จักเข้าตามตรอกออกตามประตู ตามคำพังเพยไทยโบราณว่า
‘อยากได้ลูกเสือ ก็ต้องเข้าถ้ำเสือ’
จะยากอะไรในเมื่อคุณประดิพัทธ์พ่อของยูรวรรธน์กับคุณคล้ายพิพัฒน์พ่อของปลายมีนาเป็นเพื่อนเรียนสมัยมัธยมปลายมาด้วยกัน
“ไปเดทกันนะปลาย พี่มีสถานที่โรแมนติกอยู่หลายแห่ง อยากชวนปลายไป พี่ชอบชายหาดทรายขาว นอนดูดาวด้วยกัน”
“ไปเกาะเสม็ด เสร็จทุกราย นั่นปลายไม่ไปนะคะ”
ทำหน้าวางฟอร์มขรึมเคร่งอย่างรู้เท่าทันมารยาชาย
“แหม... พี่ไม่เคยคิดไม่ดีไม่งามกับปลายอย่างนั้น แล้วปลายชอบไปที่ไหน”
“สถานที่โรแมนติกสำหรับปลาย... ค่ายฝึกมวยไทยค่ะ อาจได้นอนนับดาวกันด้วยนะคะ หึ หึ...”
แถมยิ้มริมมุมปากให้ด้วย ทั้งดูเจ้าเล่ห์ปนโหดร้ายยังไงชอบกล
“เอ่อ... ครับ แล้วแต่ปลาย”
..........ช่างเป็นนัดเดทที่ตื่นเต้นอะไรเช่นนี้
“พี่ยูรเป็นสุภาพบุรุษ ใจดี ปลายอยากให้นัดเดทของเราสนุกตื่นเต้น ช่วยเป็นพี่เลี้ยงคอยล่อเป้าให้ปลายได้ไหมคะ”
พูดเหมือนแกล้งท้าทายอยู่ในทีทำนองอยากลองดี ว่าที่คู่หมั้นนั้นมีดีแค่ไหน
“อ๋อ... ได้ครับ”
ยูรวรรธน์รับคำ ตามใจสาวน้อยทุกอย่าง ท่าทางไม่หวั่นกลัวสิ่งใด
เขาพาเธอมายังค่ายมวยไทยที่เขามาใช้บริการเป็นประจำ
ปลายมีนายังไม่ได้รู้จักเขาอย่างจริงจังลึกซึ้ง จึงอดคิดสงสัยไม่ได้ว่าฝีมือมวยไทยของเขาอยู่ระดับไหน
“เตะหนักดีครับใช้ได้ ทีนี้ต่อยบ้าง”
ยูรวรรธน์คอยแนะนำตลอด
ปลายมีนาเตะตรงที่ล่อเป้า แล้วต่อยไปสองสามหมัด
“ต่อยเบาไปครับ หนักอีก...”
ถึงคราวเตะอีก ปลายมีนารู้สึกผิดสังเกต...
ดูเหมือนเขาจะไม่มีสมาธิในการล่อเป้า
เธอเหวี่ยงเตะพลาดเป้าไปหลายที เพราะอะไร?... กางเกงมวยที่เธอสวมเหนือหัวเข่าหน่อยเรียบร้อยดี ไม่ได้ใส่ขาสั้นจู๋ แต่นึกเฉลียวใจขึ้นมาได้ว่ากางเกงมวยนั้นมันมีขาบานกว้างมาก เพราะเป็นการฝึกซ้อม เธอจึงไม่ได้ใส่กระจับไว้ข้างใน หากแต่สวมใส่อันเดอร์แวร์จีสตริง ยกขาเตะทีไรได้เห็นเงาลึกรำไร โคนขาอ่อนขาววอบๆ แวมๆ แถมอาจเห็นไกลไปถึงแก้มก้นแล้วก็ไม่รู้
ไม่ได้กาลละ!
“พี่ยูร... คิดลึกอะไรกับปลายรึเปล่านี่”
ปลายมีนาถามตวาด
“เปล่าคิดลึกนะครับ”
ปากตอบไปพลาง ขณะทำหน้าที่ล่อเป้าไปพลาง ทั้งสอดส่ายสายตาแอบมองลับๆ ล่อๆ
ฮายาโตะพายูกิมาตรวจการตั้งครรภ์และได้พบแพทย์
“จากผลการตรวจเธอเครียดมากเกินไป ประจำเดือนเลยไม่มาตามกำหนด ไม่ได้ตั้งครรภ์ครับ หมอจะให้ยาบำรุงกับยาคลายเครียดไปรับประทานนะครับ”
แพทย์ให้การยืนยันเรื่องที่ยูกิไม่ได้ตั้งครรภ์ จากนั้นจึงก้มหน้าก้มตาเขียนใบสั่งยาให้ไปรับยาที่แผนกจ่ายยา
หลังจากนั้นฮายาโตะจึงพายูกิกลับออกมาจากคลินิก
ระหว่างนั้นได้เจอคนที่ไม่คาดฝันว่าจะได้เจอ... เลื่อมลาวัณย์ เธอมาตรวจครรภ์
คนที่เคียงข้างประคองเธอมาคือมารดาของเธอเอง
“เป็นไงบ้างคุณฮาย ไม่เจอกันนานเลยสบายดีไหม”
คุณเรนะเอ่ยทักทายเด็กหนุ่มคนคุ้นหน้าซึ่งเป็นเพื่อนชายของบุตรสาว เพราะฮายาโตะชอบไปเที่ยวเยี่ยมเยียนที่บ้านบ่อย และเคยคบหาอยู่กับบุตรสาวของตน
“สบายดีครับ แล้วเลื่อมมาทำไมที่นี่”
“มาตรวจครรภ์ค่ะ ห้าเดือนแล้วเร็วจังนะคะเวลาที่เราจากกัน”
เลื่อมลาวัณย์พูดเพียงไม่กี่คำ ทำดวงตาฉ่ำคลอไปด้วยน้ำตา
คนมองดู... รับรู้รับฟังอย่างเขาพลอยใจตื้นเหมือนจะสะอื้นร่ำไห้ตามไปด้วย เอ่อท้นด้วยน้ำตาเริ่มออจะล้นออกมานอกดวงตา ฮายาโตะพยายามสะกดกลั้น ฝืนยิ้มให้ทั้งน้ำตาคลอเช่นนั้น
“เธอกำลังจะมีเด็กมีคนสำคัญที่สุดในชีวิตแล้วอย่างนี้ครอบครัวคงเป็นสุขสมบูรณ์ ไม่เป็นคนหัวใจว่างเปล่ามันก็ดีนะ จะได้ไม่รู้สึกเหงา”
มาถึงตอนนี้ฮายาโตะรู้ตัวเองแล้วว่าสุดจะเหงา แม้จะมีใครมากมายหลายคนก็ไม่อาจมีคนไหนแทนที่คนเคยรักกันคนนี้ได้เลย
“คนสำคัญไม่เหมือนกันกับคนรักหรอกนะคะ เราอาจมีคนสำคัญเช่นลูกหรือพ่อแม่ แต่คนรักที่อยู่ใกล้ให้ความรู้สึกดีๆ ทำให้มีความสุขเราอาจไม่มีก็ได้ ฉันสวดมนต์ให้คุณฮายทุกคืนก่อนนอนขอพรพระให้มีใครเข้าไปอยู่ในหัวใจคุณฮาย เป็นคนที่คุณฮายรักที่สุดในหัวใจและเขารักคุณฮายเท่าชีวิตอย่างที่ฉันรัก ขอให้เขาได้อยู่กับคุณฮายตลอดไป ฉันอยากฝันไปพร้อมคนนั้นคนที่ฉันได้แค่ฝันอยากเป็น แต่ไม่อาจเป็นจริงได้ ฉันยังรักคุณฮายอยู่ในความฝัน นึกถึงตอนเราเคยอยู่ร่วมกัน ตอนนั้นฉันร้องเพลง ส่วนคุณฮายเล่นคีย์บอร์ด เหมือนเราสองคนเป็นเทวดากับนางฟ้ามีแต่ความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลย คุณฮายยังจำเรื่องของเราสองคนได้ไหม”
เลื่อมลาวัณย์ปล่อยน้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาพร้อมๆ คำพูดรำพึงถึงความหลังหวานชื่นอันไม่อาจหวนคืนมาอีกแล้ว
ฮายาโตะก็เช่นกันเขาพยักหน้าจำได้ทุกอย่าง แต่กลั้นน้ำตาไม่อยู่จริงๆ ต้องใช้มือปิดหน้าตาตัวเอง จำต้องเดินหนี... ไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ขณะก้อนสะอื้นบีบคั้นจนตีบตันลำคอ
จำต้องวิ่งหนีหน้าทุกคนไปสงบสติอารมณ์ด้านหลังตึกของคลินิก ซึ่งเป็นชายคลองมีเหล็กกั้น น้ำตาทะลักมากมายไหลเป็นสาย... ยากจะหยุดร้องไห้ได้ด้วยตัวเองเสียแล้ว
‘ใครก็ได้ช่วยฉันให้หยุดร้องไห้เสียที’
“นายช่วยเล่าเรื่องตลกหน่อยสิ ฉัน... ฉันอยากหัวเราะ...”
ฮายาโตะโทรขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทรู้ใจคือยูริ เพื่อนผู้มีอารมณ์ขันที่สุดในกลุ่มเฮอริเคน แต่น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นอย่างนั้น เพื่อนเลยจับได้
“นายกำลังร้องไห้อยู่ล่ะสิฮาย”
“ฉันเจอเลื่อม...”
“นึกแล้ว... เรื่องที่ทำให้นายเสียน้ำตา ฟังนะ... ไอศกรีมมาแล้ว...”
แล้วยูริจึงร้องเพลงตลกให้ฟัง เป็นเพลงเด็กอยากกินไอศกรีม และเพลงตลกอื่นๆ อีกสักพัก... ก่อนจะชักชวน
“มาหาเพื่อนสิ กลุ่มเฮอริเคนของเราไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากันมานานแค่ไหนแล้วนายรู้ไหม”
“อืม... ตกลง วันนี้ฉันจะไปรวมกลุ่มกับพวกเรา”
น้ำตาเริ่มแห้งไปแล้ว ฮายาโตะกลับมาที่รถ
ยูกินั่งรออยู่ในรถนานแล้ว
“ผู้หญิงคนนั้นสวย เขาเป็นคนรักเก่าของคุณฮายใช่ไหม”
ยูกิเอ่ยถาม เมื่อรถเคลื่อนตัวออกไปได้พักหนึ่ง
“ใช่... เคยเป็น”
ฮายาโตะตอบเพียงสั้นๆ
“ฉันเครียดเพราะฉันคิดมาก บางทีฉันอาจไม่ใช่คนที่คุณฮายรักและเลือก ยิ่งคิดยิ่งเศร้า”
“ผมไม่มีคำตอบกับเรื่องนี้”
ฮายาโตะพูดไม่กี่คำจากนั้นจึงมีแต่ความเงียบ... จนกระทั่งส่งยูกิเข้าบ้านไป
..........บาคาดาส ผับใหญ่ใกล้ย่านรปปงงิ มีวงดนตรีเล่นประจำทุกศุกร์เสาร์อาทิตย์ ชื่อของวงคือ BK SHARK หมายถึง Black shark หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า ฉลามดำ
กลุ่มเฮอริเคนรวมตัวกันมารวมตัวกัน ณ ที่นี้
“เฮ้ย... ฮาย ยินดีต้อนรับกลับบ้าน”
ยูริน้องชายเจ้าของผับ หนึ่งในกลุ่มเฮอริเคนกล่าวต้อนรับเพื่อนสนิท พลางตบบ่าแล้วพามานั่งร่วมวงกลุ่มเฮอริเคนที่โต๊ะ
“ดื่มกินกันให้เต็มที่เลย”
เจมส์ยิ้มแย้มแจ่มใสให้กับฮายาโตะ
เพื่อนทุกคนไม่มีใครคุยเรื่องทุกข์โศกเรื่องความหลังของฮายาโตะ
การกลับมาเข้ากลุ่มคราวนี้เหมือนมาชาร์ตแบตเตอรี่ใหม่ให้หัวใจของเขาคลายความโศกเศร้าร้าวราน
“ขอเพลงหน่อยสิคาร์ล อยากฟังเพลงที่นายร้อง ไม่ได้ยินมาตั้งนาน”
“คงเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะครับคุณฮาย วงผมคงจะแตกแยกย้ายกันไปในเร็ววันนี้”
“อ้าว... เกิดอะไรขึ้น”
“มือคีย์บอร์ดถูกดึงตัวไปอยู่วงอื่น เขามีอนาคตที่ดีกว่าอาจได้เดบิวต์เขาเลยทิ้งวงไป เขาไม่ได้ร้องเพลงเพื่อความสุขใจได้ค่าทิปเล็กน้อยอย่างพวกผม ต่อไปคงต้องปลดป้ายชื่อวงออก เสียดายนะ BK SHARK”
คาร์ลสะกดชื่อ แล้วมองป้ายชื่อวงดนตรีด้านหลังเหนือเวที
“น่าเสียดาย...”
ฮายาโตะรำพึงและคิดได้บางอย่างจึงออกปาก...
“แล้วถ้าฉันจะเล่นเป็นมือคีย์บอร์ดให้ ยังจะยุบวงไหม”
ทุกคนหันมามองฮายาโตะเป็นตาเดียว คาดไม่ถึงว่าจะได้ตัวเขามาเป็นมือคีย์บอร์ดแทนนักดนตรีที่ออกจากวงไป
..........หลายเดือนผ่านไปจวบจนกระทั่งเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ
ปลายมีนานั่งนึกจะต้องทำอะไรสักอย่างสองอย่าง
หัวข้อ: จะมาทำธุระที่ญี่ป่น น้องปลายอยากได้ของฝากอะไรจากเมืองไทย
ยูรวรรธน์ส่งอีเมล์มาถาม และบอกว่าจะมาอยู่ญี่ปุ่นสักสัปดาห์ก่อนจะกลับไปเดินเรื่องกับสถานฑูตญี่ปุ่นในไทย เพื่อจะเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นนี้
ปลายมีนาจึงตอบกลับแบบแสนสั้น ไม่ลงรายละเอียดตามปกตินิสัยไม่พูดมาก
หัวข้อ: อยากได้ของเล่น
..........สามวันให้หลัง
ยูรวรรธน์เดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่น
ปลายมีนามารอรับ แล้วพากันมาในคอฟฟี่ช็อปข้างสนามบินนาริตะ
“นี่... ของฝากจากเมืองไทย เฮลโลคิตตี้ สีชมพูน่ารักๆ เหมาะสำหรับน้องปลายของพี่”
ยูรวรรธน์หยิบออกมาโชว์ ตุ๊กตาหน้าแมวน้อยขนาดพออุ้มเล่น
“ขอบคุณค่ะ”
ปลายมีนารับมาตามมารยาท ผู้ใหญ่ให้ของก็ต้องรับ พร้อมกับขอบคุณไว้ก่อน แม้ทำสีหน้าเรียบเฉยไม่อยากจะเอ่ยว่า
‘มันของฝากจากเมืองไทยตรงไหน ที่ญี่ปุ่นนี่มีขายเยอะแยะ’
“ปลายอยากได้ของเล่นที่ถูกใจ”
“แสดงว่าอันนี้ไม่ถูกใจ งั้น... น้องปลายชอบแบบไหนพี่จะรีบหามาให้”
คนช่างเอาใจถาม อยากเอาใจคู่หมั้นสาวน้อยวัยรุ่นของตน
“ปืนเถื่อน... ค่ะ”
สาวน้อยวัยรุ่นตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังพอๆ กับแสดงสีหน้าว่าเอาจริงไม่แพ้คำพูดด้วย
“หะ! ...”
‘ของโหดๆ น่าหวาดเสียวอย่างนั้นน่ะนะของเล่นของเธอ?’
ยูรวรรธ์ให้นึกวิตกกังวลขึ้นมาทันที ไม่ค่อยอยากให้คู่หมั้นเล่นของอันตรายอย่างนั้นเลย
..........ยูรวรรธน์ จัดเป็นผู้ชายในฝัน เพอร์เฟ็กในสเป็คสำหรับสาวๆ ทั้งรูปหล่อทั้งร่ำรวย
อายุอานามมากกว่าปลายมีนาหกปี ปีนี้อายุยี่สิบสามแล้ว รูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตาคมหวาน ขนตางอนยาว คิ้วบางโค้ง จมูกใหญ่โด่งได้รูป ริมฝีปากเกือบกว้างแต่บางเรียบ เวลาเม้มปากจะดูเป็นเส้นตรง
ตามตำรานรลักษณ์ศาสตร์ ทำนายว่าเป็นคนเกรงใจสาว เอาใจเก่ง ทำตัวอยู่ในกรอบระเบียบกฎเกณฑ์
ซึ่งปลายมีนาเห็นด้วยกับคำทำนายนั้นว่าที่คู่หมั้นที่พ่อของเธอเออออเห็นชอบเอาใจช่วยลุ้นล้ำหน้ากว่าหนุ่มใด
ก่อนหน้านั้นเธอเคยนึกว่าตัวเองอนาคตอาจจะต้องขึ้นคาน เพราะไม่มีใจนึกชอบผู้ชายคนไหนเอาซะเลย
“ขอเบอร์หน่อยสิ”
ตามฟอร์มหนุ่มๆ มักชอบมาขอ... เพื่อต่อไปจะได้โทรจีบ
“ได้... เอาเบอร์รองเท้าไป แถมแจกฟรี นี่... ด้วยเอาไหม?”
ปลายมีนาพูด ประกอบกับยกรองเท้าวางบนเก้าอี้นั่ง ซึ่งแน่นอนเท้าก็ต้องตามมาด้วย ชี้มือที่รองเท้าแล้วมองกราดด้วยดวงตาดุ (ดูเหมือนคุณยายอะไรนาดๆ จากเรื่อง ทายาทอสุรกาย) เลยไม่มีหนุ่มใดย่างกรายเสนอหน้ามาขอเบอร์กันอีก
แต่ยูรวรรธน์ต่างจากผู้ชายคนอื่น เขารู้จักเข้าตามตรอกออกตามประตู ตามคำพังเพยไทยโบราณว่า
‘อยากได้ลูกเสือ ก็ต้องเข้าถ้ำเสือ’
จะยากอะไรในเมื่อคุณประดิพัทธ์พ่อของยูรวรรธน์กับคุณคล้ายพิพัฒน์พ่อของปลายมีนาเป็นเพื่อนเรียนสมัยมัธยมปลายมาด้วยกัน
“ไปเดทกันนะปลาย พี่มีสถานที่โรแมนติกอยู่หลายแห่ง อยากชวนปลายไป พี่ชอบชายหาดทรายขาว นอนดูดาวด้วยกัน”
“ไปเกาะเสม็ด เสร็จทุกราย นั่นปลายไม่ไปนะคะ”
ทำหน้าวางฟอร์มขรึมเคร่งอย่างรู้เท่าทันมารยาชาย
“แหม... พี่ไม่เคยคิดไม่ดีไม่งามกับปลายอย่างนั้น แล้วปลายชอบไปที่ไหน”
“สถานที่โรแมนติกสำหรับปลาย... ค่ายฝึกมวยไทยค่ะ อาจได้นอนนับดาวกันด้วยนะคะ หึ หึ...”
แถมยิ้มริมมุมปากให้ด้วย ทั้งดูเจ้าเล่ห์ปนโหดร้ายยังไงชอบกล
“เอ่อ... ครับ แล้วแต่ปลาย”
..........ช่างเป็นนัดเดทที่ตื่นเต้นอะไรเช่นนี้
“พี่ยูรเป็นสุภาพบุรุษ ใจดี ปลายอยากให้นัดเดทของเราสนุกตื่นเต้น ช่วยเป็นพี่เลี้ยงคอยล่อเป้าให้ปลายได้ไหมคะ”
พูดเหมือนแกล้งท้าทายอยู่ในทีทำนองอยากลองดี ว่าที่คู่หมั้นนั้นมีดีแค่ไหน
“อ๋อ... ได้ครับ”
ยูรวรรธน์รับคำ ตามใจสาวน้อยทุกอย่าง ท่าทางไม่หวั่นกลัวสิ่งใด
เขาพาเธอมายังค่ายมวยไทยที่เขามาใช้บริการเป็นประจำ
ปลายมีนายังไม่ได้รู้จักเขาอย่างจริงจังลึกซึ้ง จึงอดคิดสงสัยไม่ได้ว่าฝีมือมวยไทยของเขาอยู่ระดับไหน
“เตะหนักดีครับใช้ได้ ทีนี้ต่อยบ้าง”
ยูรวรรธน์คอยแนะนำตลอด
ปลายมีนาเตะตรงที่ล่อเป้า แล้วต่อยไปสองสามหมัด
“ต่อยเบาไปครับ หนักอีก...”
ถึงคราวเตะอีก ปลายมีนารู้สึกผิดสังเกต...
ดูเหมือนเขาจะไม่มีสมาธิในการล่อเป้า
เธอเหวี่ยงเตะพลาดเป้าไปหลายที เพราะอะไร?... กางเกงมวยที่เธอสวมเหนือหัวเข่าหน่อยเรียบร้อยดี ไม่ได้ใส่ขาสั้นจู๋ แต่นึกเฉลียวใจขึ้นมาได้ว่ากางเกงมวยนั้นมันมีขาบานกว้างมาก เพราะเป็นการฝึกซ้อม เธอจึงไม่ได้ใส่กระจับไว้ข้างใน หากแต่สวมใส่อันเดอร์แวร์จีสตริง ยกขาเตะทีไรได้เห็นเงาลึกรำไร โคนขาอ่อนขาววอบๆ แวมๆ แถมอาจเห็นไกลไปถึงแก้มก้นแล้วก็ไม่รู้
ไม่ได้กาลละ!
“พี่ยูร... คิดลึกอะไรกับปลายรึเปล่านี่”
ปลายมีนาถามตวาด
“เปล่าคิดลึกนะครับ”
ปากตอบไปพลาง ขณะทำหน้าที่ล่อเป้าไปพลาง ทั้งสอดส่ายสายตาแอบมองลับๆ ล่อๆ
ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ธ.ค. 2561, 20:59:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ธ.ค. 2561, 21:17:52 น.
จำนวนการเข้าชม : 813
<< ตอน 7 ข่าวฉาว | ตอน 9 ปืนเถื่อน >> |
ไตรติมา 1 ธ.ค. 2561, 21:00:33 น.
โปรดกดไลค์เพจนิยายไตรติมา >>
https://www.facebook.com/oranamarinlove
ฝากไว้ให้ดาวน์โหลดอีบุ๊กกัน ผลงานซีรีย์ชุดเปลวไฟในกระแสลม
https://www.mebmarket.com/ebook-61157-อสูรซ่านสวาท
https://www.mebmarket.com/ebook-39000-พิศวาสซ้อนซ่อนชัง
โปรดกดไลค์เพจนิยายไตรติมา >>
https://www.facebook.com/oranamarinlove
ฝากไว้ให้ดาวน์โหลดอีบุ๊กกัน ผลงานซีรีย์ชุดเปลวไฟในกระแสลม
https://www.mebmarket.com/ebook-61157-อสูรซ่านสวาท
https://www.mebmarket.com/ebook-39000-พิศวาสซ้อนซ่อนชัง