มาลีเริงไฟ: รังสี(วิรัตต์ยา) ปลายปากกาสำนักพิมพ์
‘ญานีน’ ถึงกับช็อกเมื่อรู้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเธอ
เป็นฝีมือของ ‘อัคนี’ สามีสุดที่รัก ที่ร่วมมือกับ ‘วิรัลยา’ แฟนเก่าของเขา
เพียงเพราะทั้งคู่อยากกลับไปใช้ชีวิตด้วยกัน
โชคร้ายของพวกเขาที่เธอไม่ตาย
เพราะนับจากนี้จะไม่มีญานีนผู้อ่อนแอ โง่เง่า และขี้ขลาดอีกต่อไป!
เธอวางความรักที่มีต่ออัคนีลง แล้วหยิบความแค้นมาเป็นเข็มทิศนำทาง
ญานีนจะตามล่า และตามฆ่าพวกเขาด้วยมือของเธอเอง
โดยยอมรับความช่วยเหลือจาก ‘เจิมจันทร์’ ผู้เป็นยาย
...ยายซึ่งเป็นพวกเล่นของ!...
นาทีนี้ ญานีนไม่สนถูกผิด ไม่สนว่าใครจะเจ็บ ใครจะตาย
สนเพียงว่าแค้นของเธอต้องได้รับการชำระ
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็เอาด้วยไสยดำ!
*******************
ใครชอบนิยายรักโรแมนติก ดราม่านำ เน้นความรักและการแก้แค้น และ 'สลับหน้ากัน' ระหว่างนางเอกกับนางร้าย ย้ำ! สลับหน้าของจริงค่ะ 55555 จะมาในรูปแบบใด ติดตามได้ในเรื่องเลยนะคะ นางเอกนางร้ายเชือดเฉือนกัน #รับประกันความเผ็ด! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อมาลีเริงไฟ ราคา 340฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 380฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 400฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (มาลีเริงไฟ ราคีสีเพลิง เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (มาลีเริงไฟ เป็นเรื่องราวของหลานสาวคนเล็กสุดในบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
เป็นฝีมือของ ‘อัคนี’ สามีสุดที่รัก ที่ร่วมมือกับ ‘วิรัลยา’ แฟนเก่าของเขา
เพียงเพราะทั้งคู่อยากกลับไปใช้ชีวิตด้วยกัน
โชคร้ายของพวกเขาที่เธอไม่ตาย
เพราะนับจากนี้จะไม่มีญานีนผู้อ่อนแอ โง่เง่า และขี้ขลาดอีกต่อไป!
เธอวางความรักที่มีต่ออัคนีลง แล้วหยิบความแค้นมาเป็นเข็มทิศนำทาง
ญานีนจะตามล่า และตามฆ่าพวกเขาด้วยมือของเธอเอง
โดยยอมรับความช่วยเหลือจาก ‘เจิมจันทร์’ ผู้เป็นยาย
...ยายซึ่งเป็นพวกเล่นของ!...
นาทีนี้ ญานีนไม่สนถูกผิด ไม่สนว่าใครจะเจ็บ ใครจะตาย
สนเพียงว่าแค้นของเธอต้องได้รับการชำระ
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็เอาด้วยไสยดำ!
*******************
ใครชอบนิยายรักโรแมนติก ดราม่านำ เน้นความรักและการแก้แค้น และ 'สลับหน้ากัน' ระหว่างนางเอกกับนางร้าย ย้ำ! สลับหน้าของจริงค่ะ 55555 จะมาในรูปแบบใด ติดตามได้ในเรื่องเลยนะคะ นางเอกนางร้ายเชือดเฉือนกัน #รับประกันความเผ็ด! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อมาลีเริงไฟ ราคา 340฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 380฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 400฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (มาลีเริงไฟ ราคีสีเพลิง เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (มาลีเริงไฟ เป็นเรื่องราวของหลานสาวคนเล็กสุดในบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
Tags: ผี ดราม่า แก้แค้น แต่งงาน สลับตัว เล่นของ
ตอน: บทที่ 8 -100%
Merry Christmas นะคะนักอ่านทุกท่าน มาส่งของขวัญค่ะ^^ อ่านนิยายกันๆ วิรัลยามาแรงมาก ญานีนจะรับมือไหวมั้ยหนอ...
*************
สองเดือนผ่านไป...
“คุณยิหวาคะ ผู้จัดทั้งสามคนมาถึงแล้วค่ะ”
ณัฐยาเข้ามารายงานพร้อมแฟ้มเอกสารในมือ ซึ่งเป็นประวัติการทำงานของผู้จัดทั้งสามคนนั้น
วิรัลยาพยักหน้ารับทราบ เช็กความพร้อมของตนเองเรียบร้อยแล้วจึงเดินนำณัฐยาออกจากห้องทำงาน หล่อนนัดผู้จัดมาคุยรายละเอียดงาน โดยหล่อนเลือกที่จะลงไปคุยด้วยตนเองเพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน ซึ่งญานีนคนก่อนไม่เคยทำ ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของณัฐยา
ระหว่างนั้น หญิงสาวยังอุตส่าห์เปิดโทรศัพท์มือถือเพื่อเช็กอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กตัวเอง เนื่องจากเพิ่งลงภาพถ่ายตัวเองกับอัคนีตอนไปดินเนอร์ที่โรงแรมหรูมา หล่อนลงทุนสร้างล็อกอินในสื่อโซเชียลใหม่ทั้งหมด และประกาศว่าอันเก่าโดนแฮก เท่านี้หล่อนก็สามารถเป็นตัวเองได้แล้วภาย ใต้รูปภาพโปรไฟล์ที่เป็นใบหน้าญานีน
หญิงสาวไล่อ่านความเห็นในอินสตาแกรม ซึ่งก็ล้วนชื่นชมในความเหมาะสมระหว่างหล่อนกับอัคนี แต่แล้วก็สะดุดกับความเห็นหนึ่งเข้า
‘ของปลอม’
หล่อนชะงักตามประสาคนมีชนักติดหลัง แต่สักพักก็คิดเข้าข้างตัวเองว่า คนแสดงความเห็นคงหมายถึงเรื่องที่หล่อนต้องทำศัลยกรรมใบหน้าบางส่วนเนื่องจากอุบัติเหตุ หล่อนเลยไม่สนใจความเห็นนั้นอีก และเลื่อนอ่านความเห็นอื่นต่อไปด้วยด้วยความปลาบปลื้ม เพราะล้วนแล้วแต่เป็นคำชมถูกใจหล่อนที่สุด!
“สวัสดีค่ะ” เมื่อถึงห้องประชุม หญิงสาวก็ยกมือไหว้ผู้จัดทั้งสามคนด้วยท่าทีนอบน้อมถ่อมตน
“ขอบคุณมากนะคะ ที่กรุณาให้เกียรติช่องเล็กๆ อย่างวายอีเอส”
“ต้องขอบคุณคุณยิหวามากกว่าที่เลือกพวกเรามาคุยด้วย” หนึ่งในสามซึ่งเป็นชายวัยกลางคนร่างท้วม ผิวขาวจัด ตาชั้นเดียวเอ่ยยิ้มๆ ท่าทางของเขากระชดกระช้อยตอนที่พูด
“ยิหวาติดตามผลงานทั้งสามท่านมานาน และคิดว่าสไตล์เราน่าจะไปกันได้น่ะค่ะ” วิรัลยายิ้มอีก
แล้วกระบวนการคุยงานกันก็เริ่มต้นขึ้น ซึ่งก็เป็นไปอย่างสบายๆ ไม่เป็นทางการ แถมตอนเที่ยง วิรัลยาก็สั่งอาหารมาเลี้ยงผู้จัดทั้งสามคน บรรยากาศจึงเป็นกันเองมากขึ้น โดยมีอัคนีลงมาร่วมวงด้วย แต่ชายหนุ่มอยู่คุยได้ครู่เดียวก็ต้องขอตัวไปทำงาน ปล่อยให้หล่อนได้โชว์ฝีมืออย่างเต็มที่
ตกบ่ายแก่ๆ การคุยงานก็สิ้นสุดลง
เมื่อส่งแขกแล้ว วิรัลยาก็เข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ล้างไม้ล้างมือ เรียบร้อยหล่อนก็เข้าเช็กอินสตาแกรมกับเฟซบุ๊กอีกครั้งตามวิสัย
แต่แล้วก็เจอความเห็นว่า ‘ของปลอม’ เป็นรอบที่สอง! ปรากฏอยู่ในเฟซบุ๊กของหล่อน ทั้งบนไทม์ไลน์และกล่องข้อความ ด้วยบุคคลที่ใช้ชื่อเดียวกันว่า ‘Star dust’
วิรัลยาทนไม่ได้ลองกดเข้าไปดู แต่กลับไม่พบประวัติใดๆ ไม่มีแม้แต่ประวัติการโพสต์ข้อความ
แบบนี้แสดงว่าสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อจงใจหาเรื่องหล่อนชัดๆ
วิรัลยาไม่รอช้ารีบส่งข้อความกลับไปหา แต่ก็เป็นอย่างที่คิด เพราะฝ่ายนั้นบล็อกหล่อน
“ช่างเถอะ ก็แค่พวกขี้อิจฉา” หล่อนเลือกกดออกจากเฟซบุ๊ก ไม่ใส่ใจอีกตามเคย
หารู้ไม่ว่าหล่อนกำลังคิดผิด!
************
ยังคงมีข้อความแปลกๆ ส่งถึงหญิงสาวในวันต่อๆ มา เป็นข้อความในทำนองเดียวกันว่า ปลอม/ขอให้เวรกรรมตามทัน/ยินดีต้อนรับสู่นรก/นรก! และอื่นๆ อีกเกินจะทนอ่าน
ที่สำคัญ คราวนี้มาในโทรศัพท์มือถือของหล่อน และไม่ใช่แค่หล่อนที่โดน อัคนีก็โดนด้วย!
สองสามีภรรยาไม่นิ่งนอนใจ จัดการแจ้งความในวันนั้นทันที ซึ่งตำรวจก็ดำเนินการให้อย่างรวดเร็ว อาจเพราะไม่อยากเสี่ยงกับคนที่มีสื่ออยู่ในมืออย่างพวกเขา
ในส่วนของไอพีจากเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นพบว่าเป็นร้านเกม ซึ่งอยู่คนละที่ และแต่ละที่ก็ห่างไกลกัน อีกทั้งร้านเกมทั้งหมดไม่มีกล้องวงจรปิด ส่วนเบอร์โทรศัพท์พบว่าเป็นเบอร์ที่จดบัญชีในชื่อผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพียงชายพิการนอนแบ็บกับเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อันหมายความว่ามีคนขโมยสำเนาบัตรประชาชนของเขาไปใช้นั่นเอง และญาติๆ ของเขาก็ยืนยันว่าไม่มีใครทำพฤติกรรมดังกล่าวแน่นอน แค่เรื่องปากท้องที่ต้องหาเลี้ยงก็เหนื่อยหนักพอแล้ว
“ทางคุณมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่าครับ” นายตำรวจถามขึ้นหลังจากการติดตามหาคนร้ายคว้าน้ำเหลว
สองสามีภรรยาส่ายหน้าพร้อมกันด้วยความมั่นใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็คงเป็นพวกโรคจิต ต้องการก่อกวน”
ได้ยินนายตำรวจเอ่ยเช่นนั้น ทั้งอัคนีทั้ง ‘ญานีน’ ได้แต่มองหน้ากัน แต่คนละความรู้สึก โดยเฉพาะรายหลัง หล่อนเชื่อว่าคนส่งไม่มีทางเป็นแค่พวกโรคจิตอย่างที่นายตำรวจว่า แต่น่าจะมีการวางแผนอย่างดีมากต่างหาก
“ใครกันที่ทำแบบนี้” วิรัลยาพึมพำขึ้นมา เมื่อออกจากสถานีตำรวจกลับมาขึ้นรถของอัคนีแล้วเรียบร้อย
“อย่ากังวลไปเลยจ้ะยิหวา อาจเป็นอย่างตำรวจว่าก็ได้” อัคนีปลอบภรรยาสาวพลางขับรถออกจากสถานีตำรวจเพื่อตรงกลับบ้าน
“เดี๋ยวพอทำอะไรเราไม่ได้ ก็คงเบื่อไปเอง”
“แต่ยิหวามีเซนส์ว่าไม่ใช่พวกโรคจิต”
“แล้วคิดว่าใครจ๊ะ”
“นึกออกก็บอกตำรวจไปแล้วสิคะ” หล่อนเผลอตวาดเขาเบาๆ
ครั้นเห็นเขาชะงักและมองหล่อนอย่างไม่แน่ใจ ก็รู้สึกตัวว่าชักแสดงความเป็นตัวเองมากไป จึงรีบเอนกายพิงไหล่กว้างของเขาและกอดแขนแข็งแรงนั้นเอาไว้
“ขอโทษนะคะ ยิหวาวิตกมากไปหน่อย เลยหงุดหงิดน่ะค่ะ”
อัคนีไม่ตอบอะไร เขาตบหลังมือภรรยาเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ
ตอนนั้นเองอัคนีคงไม่รู้ตัวหรอกว่า ทำให้ภรรยาตัวปลอมของเขา เกิดอาการเคืองขุ่นหนักกว่าเก่า ลอบส่งสายตามองเขาอย่างไม่พอใจ
ทำไมเขาไม่จุมพิตหน้าผากอย่างที่ชอบทำเวลาต้องการปลอบประโลมหล่อน จุมพิตที่ทำให้หล่อนอุ่นใจเสมอ
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ วิรัลยาเลยเพิ่งสังเกตว่าชายหนุ่มข้างกายเปลี่ยน ไป...ระยะหลังมานี้เขาแทบไม่แตะต้องหล่อนเลย ท่าทีห่างเหินยังไงชอบกล
หรือว่าเขารู้ความจริงแล้ว?
ไม่หรอก วิรัลยาส่ายหน้าค้านกับความคิดในหัวตัวเอง
ไม่มีวันที่ใครหน้าไหนจะรู้ความลับนี้ได้ อัคนีอาจจะแค่เหนื่อยก็เลยดูเครียดๆ
ปลอบใจตัวเองเช่นนั้น วิรัลยาก็หวนกลับไปนึกถึงข้อความแปลกๆ อีกครั้ง สังหรณ์บางอย่างแล่นวูบวาบอยู่ในความคิดหล่อน
************
วิรัลยาตัดสินใจกลับมาบ้านตัวเองในเช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ สังหรณ์บางอย่างที่แล่นวูบวาบอยู่ในความคิดของหล่อนนั้น ทำให้ฉุกใจคิดขึ้นมาว่า ควรมาดูหน้าเจ้าหญิงนิทราเสียหน่อย
วิรัลยาไม่ลืมสวมแว่นตากันแดดสีดำขนาดใหญ่กับสวมหน้ากากอนามัยบดบังใบหน้าก่อนเข้าบ้าน ถึงแม้คนในบ้านจะไม่รู้ว่าเจ้าหญิงนิทราที่อยู่บนเตียงนั้นคือญานีน แต่พยาบาลก็เห็นว่าคนบนเตียงมีหน้าตาอย่างไร
“ดิฉันให้คุณเข้าไปไม่ได้จริงๆ ค่ะคุณญานีน”
ทันทีที่วิรัลยามาถึงหน้าห้อง พยาบาลสาวก็ออกมาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน
วิรัลยาแนะนำตัวแล้วว่าเป็นญานีน และจะขอเข้าไปเยี่ยมคนในห้อง แต่ดูท่าทางพูดยังไงพยาบาลก็คงไม่ยอมให้หล่อนเข้าเยี่ยมแน่ๆ วิรัลยา เลยต่อสายหาวารุณ เนื่องจากบิดามารดาไม่อยู่บ้าน ออกไปทำธุระตั้งแต่ไก่โห่แล้ว
พยาบาลคุยกับคนในสายอยู่ครู่ก็ส่งโทรศัพท์มือถือคืนวิรัลยา ทั้งหน้าซีดเป็นไก่ต้ม
“ชะ...เชิญค่ะ” พยาบาลสาวจำต้องยอมถอย
แต่แทนที่จะถอยออกไปให้พ้นประตูห้อง เจ้าหล่อนกลับก้าวขาต่อไม่ออก ยังยืนขวางหน้าประตูอยู่นั่นเอง ลักษณะเหมือนไม่อยากให้เข้า
“เอ๊ะ หลบสิยะ” วิรัลยาเหลืออดดันพยาบาลสาวให้หลบไป
หากทว่าจังหวะนั้นเองที่แตะตัวพยาบาลสาว วิรัลยากลับชะงัก
หล่อนสัมผัสได้ถึงอาการสั่นเทาของอีกฝ่าย มิหนำซ้ำเห็นชัดว่ากำลังเหงื่อแตกพลั่ก แววตาที่มองหล่อนมีแต่ความหวาดหวั่นและกลัวอะไรบางอย่าง
“มีอะไรหรือเปล่า...”
ด้วยความที่รู้สึกสังหรณ์ใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถามโดยไม่รอคำตอบ หล่อนก็ตัดสินใจเปิดประตูพุ่งเข้าไปในห้องทันทีด้วยใจที่เต้นรัวแรง
*************
สองเดือนผ่านไป...
“คุณยิหวาคะ ผู้จัดทั้งสามคนมาถึงแล้วค่ะ”
ณัฐยาเข้ามารายงานพร้อมแฟ้มเอกสารในมือ ซึ่งเป็นประวัติการทำงานของผู้จัดทั้งสามคนนั้น
วิรัลยาพยักหน้ารับทราบ เช็กความพร้อมของตนเองเรียบร้อยแล้วจึงเดินนำณัฐยาออกจากห้องทำงาน หล่อนนัดผู้จัดมาคุยรายละเอียดงาน โดยหล่อนเลือกที่จะลงไปคุยด้วยตนเองเพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน ซึ่งญานีนคนก่อนไม่เคยทำ ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของณัฐยา
ระหว่างนั้น หญิงสาวยังอุตส่าห์เปิดโทรศัพท์มือถือเพื่อเช็กอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กตัวเอง เนื่องจากเพิ่งลงภาพถ่ายตัวเองกับอัคนีตอนไปดินเนอร์ที่โรงแรมหรูมา หล่อนลงทุนสร้างล็อกอินในสื่อโซเชียลใหม่ทั้งหมด และประกาศว่าอันเก่าโดนแฮก เท่านี้หล่อนก็สามารถเป็นตัวเองได้แล้วภาย ใต้รูปภาพโปรไฟล์ที่เป็นใบหน้าญานีน
หญิงสาวไล่อ่านความเห็นในอินสตาแกรม ซึ่งก็ล้วนชื่นชมในความเหมาะสมระหว่างหล่อนกับอัคนี แต่แล้วก็สะดุดกับความเห็นหนึ่งเข้า
‘ของปลอม’
หล่อนชะงักตามประสาคนมีชนักติดหลัง แต่สักพักก็คิดเข้าข้างตัวเองว่า คนแสดงความเห็นคงหมายถึงเรื่องที่หล่อนต้องทำศัลยกรรมใบหน้าบางส่วนเนื่องจากอุบัติเหตุ หล่อนเลยไม่สนใจความเห็นนั้นอีก และเลื่อนอ่านความเห็นอื่นต่อไปด้วยด้วยความปลาบปลื้ม เพราะล้วนแล้วแต่เป็นคำชมถูกใจหล่อนที่สุด!
“สวัสดีค่ะ” เมื่อถึงห้องประชุม หญิงสาวก็ยกมือไหว้ผู้จัดทั้งสามคนด้วยท่าทีนอบน้อมถ่อมตน
“ขอบคุณมากนะคะ ที่กรุณาให้เกียรติช่องเล็กๆ อย่างวายอีเอส”
“ต้องขอบคุณคุณยิหวามากกว่าที่เลือกพวกเรามาคุยด้วย” หนึ่งในสามซึ่งเป็นชายวัยกลางคนร่างท้วม ผิวขาวจัด ตาชั้นเดียวเอ่ยยิ้มๆ ท่าทางของเขากระชดกระช้อยตอนที่พูด
“ยิหวาติดตามผลงานทั้งสามท่านมานาน และคิดว่าสไตล์เราน่าจะไปกันได้น่ะค่ะ” วิรัลยายิ้มอีก
แล้วกระบวนการคุยงานกันก็เริ่มต้นขึ้น ซึ่งก็เป็นไปอย่างสบายๆ ไม่เป็นทางการ แถมตอนเที่ยง วิรัลยาก็สั่งอาหารมาเลี้ยงผู้จัดทั้งสามคน บรรยากาศจึงเป็นกันเองมากขึ้น โดยมีอัคนีลงมาร่วมวงด้วย แต่ชายหนุ่มอยู่คุยได้ครู่เดียวก็ต้องขอตัวไปทำงาน ปล่อยให้หล่อนได้โชว์ฝีมืออย่างเต็มที่
ตกบ่ายแก่ๆ การคุยงานก็สิ้นสุดลง
เมื่อส่งแขกแล้ว วิรัลยาก็เข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ล้างไม้ล้างมือ เรียบร้อยหล่อนก็เข้าเช็กอินสตาแกรมกับเฟซบุ๊กอีกครั้งตามวิสัย
แต่แล้วก็เจอความเห็นว่า ‘ของปลอม’ เป็นรอบที่สอง! ปรากฏอยู่ในเฟซบุ๊กของหล่อน ทั้งบนไทม์ไลน์และกล่องข้อความ ด้วยบุคคลที่ใช้ชื่อเดียวกันว่า ‘Star dust’
วิรัลยาทนไม่ได้ลองกดเข้าไปดู แต่กลับไม่พบประวัติใดๆ ไม่มีแม้แต่ประวัติการโพสต์ข้อความ
แบบนี้แสดงว่าสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อจงใจหาเรื่องหล่อนชัดๆ
วิรัลยาไม่รอช้ารีบส่งข้อความกลับไปหา แต่ก็เป็นอย่างที่คิด เพราะฝ่ายนั้นบล็อกหล่อน
“ช่างเถอะ ก็แค่พวกขี้อิจฉา” หล่อนเลือกกดออกจากเฟซบุ๊ก ไม่ใส่ใจอีกตามเคย
หารู้ไม่ว่าหล่อนกำลังคิดผิด!
************
ยังคงมีข้อความแปลกๆ ส่งถึงหญิงสาวในวันต่อๆ มา เป็นข้อความในทำนองเดียวกันว่า ปลอม/ขอให้เวรกรรมตามทัน/ยินดีต้อนรับสู่นรก/นรก! และอื่นๆ อีกเกินจะทนอ่าน
ที่สำคัญ คราวนี้มาในโทรศัพท์มือถือของหล่อน และไม่ใช่แค่หล่อนที่โดน อัคนีก็โดนด้วย!
สองสามีภรรยาไม่นิ่งนอนใจ จัดการแจ้งความในวันนั้นทันที ซึ่งตำรวจก็ดำเนินการให้อย่างรวดเร็ว อาจเพราะไม่อยากเสี่ยงกับคนที่มีสื่ออยู่ในมืออย่างพวกเขา
ในส่วนของไอพีจากเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นพบว่าเป็นร้านเกม ซึ่งอยู่คนละที่ และแต่ละที่ก็ห่างไกลกัน อีกทั้งร้านเกมทั้งหมดไม่มีกล้องวงจรปิด ส่วนเบอร์โทรศัพท์พบว่าเป็นเบอร์ที่จดบัญชีในชื่อผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพียงชายพิการนอนแบ็บกับเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อันหมายความว่ามีคนขโมยสำเนาบัตรประชาชนของเขาไปใช้นั่นเอง และญาติๆ ของเขาก็ยืนยันว่าไม่มีใครทำพฤติกรรมดังกล่าวแน่นอน แค่เรื่องปากท้องที่ต้องหาเลี้ยงก็เหนื่อยหนักพอแล้ว
“ทางคุณมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่าครับ” นายตำรวจถามขึ้นหลังจากการติดตามหาคนร้ายคว้าน้ำเหลว
สองสามีภรรยาส่ายหน้าพร้อมกันด้วยความมั่นใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็คงเป็นพวกโรคจิต ต้องการก่อกวน”
ได้ยินนายตำรวจเอ่ยเช่นนั้น ทั้งอัคนีทั้ง ‘ญานีน’ ได้แต่มองหน้ากัน แต่คนละความรู้สึก โดยเฉพาะรายหลัง หล่อนเชื่อว่าคนส่งไม่มีทางเป็นแค่พวกโรคจิตอย่างที่นายตำรวจว่า แต่น่าจะมีการวางแผนอย่างดีมากต่างหาก
“ใครกันที่ทำแบบนี้” วิรัลยาพึมพำขึ้นมา เมื่อออกจากสถานีตำรวจกลับมาขึ้นรถของอัคนีแล้วเรียบร้อย
“อย่ากังวลไปเลยจ้ะยิหวา อาจเป็นอย่างตำรวจว่าก็ได้” อัคนีปลอบภรรยาสาวพลางขับรถออกจากสถานีตำรวจเพื่อตรงกลับบ้าน
“เดี๋ยวพอทำอะไรเราไม่ได้ ก็คงเบื่อไปเอง”
“แต่ยิหวามีเซนส์ว่าไม่ใช่พวกโรคจิต”
“แล้วคิดว่าใครจ๊ะ”
“นึกออกก็บอกตำรวจไปแล้วสิคะ” หล่อนเผลอตวาดเขาเบาๆ
ครั้นเห็นเขาชะงักและมองหล่อนอย่างไม่แน่ใจ ก็รู้สึกตัวว่าชักแสดงความเป็นตัวเองมากไป จึงรีบเอนกายพิงไหล่กว้างของเขาและกอดแขนแข็งแรงนั้นเอาไว้
“ขอโทษนะคะ ยิหวาวิตกมากไปหน่อย เลยหงุดหงิดน่ะค่ะ”
อัคนีไม่ตอบอะไร เขาตบหลังมือภรรยาเบาๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ
ตอนนั้นเองอัคนีคงไม่รู้ตัวหรอกว่า ทำให้ภรรยาตัวปลอมของเขา เกิดอาการเคืองขุ่นหนักกว่าเก่า ลอบส่งสายตามองเขาอย่างไม่พอใจ
ทำไมเขาไม่จุมพิตหน้าผากอย่างที่ชอบทำเวลาต้องการปลอบประโลมหล่อน จุมพิตที่ทำให้หล่อนอุ่นใจเสมอ
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ วิรัลยาเลยเพิ่งสังเกตว่าชายหนุ่มข้างกายเปลี่ยน ไป...ระยะหลังมานี้เขาแทบไม่แตะต้องหล่อนเลย ท่าทีห่างเหินยังไงชอบกล
หรือว่าเขารู้ความจริงแล้ว?
ไม่หรอก วิรัลยาส่ายหน้าค้านกับความคิดในหัวตัวเอง
ไม่มีวันที่ใครหน้าไหนจะรู้ความลับนี้ได้ อัคนีอาจจะแค่เหนื่อยก็เลยดูเครียดๆ
ปลอบใจตัวเองเช่นนั้น วิรัลยาก็หวนกลับไปนึกถึงข้อความแปลกๆ อีกครั้ง สังหรณ์บางอย่างแล่นวูบวาบอยู่ในความคิดหล่อน
************
วิรัลยาตัดสินใจกลับมาบ้านตัวเองในเช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ สังหรณ์บางอย่างที่แล่นวูบวาบอยู่ในความคิดของหล่อนนั้น ทำให้ฉุกใจคิดขึ้นมาว่า ควรมาดูหน้าเจ้าหญิงนิทราเสียหน่อย
วิรัลยาไม่ลืมสวมแว่นตากันแดดสีดำขนาดใหญ่กับสวมหน้ากากอนามัยบดบังใบหน้าก่อนเข้าบ้าน ถึงแม้คนในบ้านจะไม่รู้ว่าเจ้าหญิงนิทราที่อยู่บนเตียงนั้นคือญานีน แต่พยาบาลก็เห็นว่าคนบนเตียงมีหน้าตาอย่างไร
“ดิฉันให้คุณเข้าไปไม่ได้จริงๆ ค่ะคุณญานีน”
ทันทีที่วิรัลยามาถึงหน้าห้อง พยาบาลสาวก็ออกมาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน
วิรัลยาแนะนำตัวแล้วว่าเป็นญานีน และจะขอเข้าไปเยี่ยมคนในห้อง แต่ดูท่าทางพูดยังไงพยาบาลก็คงไม่ยอมให้หล่อนเข้าเยี่ยมแน่ๆ วิรัลยา เลยต่อสายหาวารุณ เนื่องจากบิดามารดาไม่อยู่บ้าน ออกไปทำธุระตั้งแต่ไก่โห่แล้ว
พยาบาลคุยกับคนในสายอยู่ครู่ก็ส่งโทรศัพท์มือถือคืนวิรัลยา ทั้งหน้าซีดเป็นไก่ต้ม
“ชะ...เชิญค่ะ” พยาบาลสาวจำต้องยอมถอย
แต่แทนที่จะถอยออกไปให้พ้นประตูห้อง เจ้าหล่อนกลับก้าวขาต่อไม่ออก ยังยืนขวางหน้าประตูอยู่นั่นเอง ลักษณะเหมือนไม่อยากให้เข้า
“เอ๊ะ หลบสิยะ” วิรัลยาเหลืออดดันพยาบาลสาวให้หลบไป
หากทว่าจังหวะนั้นเองที่แตะตัวพยาบาลสาว วิรัลยากลับชะงัก
หล่อนสัมผัสได้ถึงอาการสั่นเทาของอีกฝ่าย มิหนำซ้ำเห็นชัดว่ากำลังเหงื่อแตกพลั่ก แววตาที่มองหล่อนมีแต่ความหวาดหวั่นและกลัวอะไรบางอย่าง
“มีอะไรหรือเปล่า...”
ด้วยความที่รู้สึกสังหรณ์ใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถามโดยไม่รอคำตอบ หล่อนก็ตัดสินใจเปิดประตูพุ่งเข้าไปในห้องทันทีด้วยใจที่เต้นรัวแรง
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ธ.ค. 2561, 08:54:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ธ.ค. 2561, 08:54:30 น.
จำนวนการเข้าชม : 668
<< บทที่ 8 -60% | บทที่ 9 -50% >> |
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ 27 ธ.ค. 2561, 08:55:11 น.
ตอนนี้ที่ Shopee มีโปรฯ รับปีใหม่อยู่นะคะ นักอ่านท่านใดเล็งนิยายของปลายปากกาไว้ โอกาสดีแล้วน้าาาา ไปสอยกัน! ชื่อร้าน plaipakkabooks_officialshop นะคะ
ตอนนี้ที่ Shopee มีโปรฯ รับปีใหม่อยู่นะคะ นักอ่านท่านใดเล็งนิยายของปลายปากกาไว้ โอกาสดีแล้วน้าาาา ไปสอยกัน! ชื่อร้าน plaipakkabooks_officialshop นะคะ