ราคีสีเพลิง:รังสี ดุจดาริน รางนาก(ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ดีเลิศ’ และ ‘บัวบุษบา’ แต่งงานกันท่ามกลางความขัดแย้งของสองตระกูล
ท่ามกลางความเกลียดชังของยาย ‘เจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์’
ผู้ไม่มีวันยอมรับหลานสะใภ้นอกคอกอย่างหล่อน!
หลายปีที่ชายหนุ่มประคับประคองครอบครัวอย่างดีเลิศสมชื่อ
บัวบุษบากลับฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมเมื่อหลายสิบปีก่อนแทบทุกคืน
ไหนยังตะกรุดประหลาดที่ทิ้งไปกี่ครั้งก็กลับมาอยู่ที่เดิมได้เสมอ
และความรู้สึกเสียวสันหลังราวกับมีใครจับจ้องมองหล่อนอยู่ตลอดเวลา
ทำให้บัวบุษบารู้สึกกลัว ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’ อันแสนลึกลับ
มากพอๆ กับที่หล่อนกลัว ‘ความจริง’ ที่ซ่อนอยู่ใน ‘ความฝัน’ ของตนเอง!
*******************
ใครชอบแนวนิยายรักโรแมนติก ดราม่า สยองขวัญ มีการเล่นคุณไสยมนตร์ดำ อิจฉาริษยา ปมกลับชาติมาเกิด และเหล่าบริวารผีรับใช้ จัดไป! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อราคีสีเพลิง ราคา 218฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 258฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 278฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
*******************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (ราคีสีเพลิง เป็นเรื่องราวของหลานชายคนโต หนุ่มเนื้อหอมประจำบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
ท่ามกลางความเกลียดชังของยาย ‘เจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์’
ผู้ไม่มีวันยอมรับหลานสะใภ้นอกคอกอย่างหล่อน!
หลายปีที่ชายหนุ่มประคับประคองครอบครัวอย่างดีเลิศสมชื่อ
บัวบุษบากลับฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมเมื่อหลายสิบปีก่อนแทบทุกคืน
ไหนยังตะกรุดประหลาดที่ทิ้งไปกี่ครั้งก็กลับมาอยู่ที่เดิมได้เสมอ
และความรู้สึกเสียวสันหลังราวกับมีใครจับจ้องมองหล่อนอยู่ตลอดเวลา
ทำให้บัวบุษบารู้สึกกลัว ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’ อันแสนลึกลับ
มากพอๆ กับที่หล่อนกลัว ‘ความจริง’ ที่ซ่อนอยู่ใน ‘ความฝัน’ ของตนเอง!
*******************
ใครชอบแนวนิยายรักโรแมนติก ดราม่า สยองขวัญ มีการเล่นคุณไสยมนตร์ดำ อิจฉาริษยา ปมกลับชาติมาเกิด และเหล่าบริวารผีรับใช้ จัดไป! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อราคีสีเพลิง ราคา 218฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 258฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 278฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
*******************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (ราคีสีเพลิง เป็นเรื่องราวของหลานชายคนโต หนุ่มเนื้อหอมประจำบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
Tags: ผี ดราม่า ริษยา โรมานซ์ กลับชาติมาเกิด คุณไสย
ตอน: บทที่ 12 ความหลังครั้งอดีตชาติ -100%
นางล้มป่วย กินไม่ได้นอนไม่หลับ ซูบผอมจนอุบลเป็นห่วงและเทียวแวะมาหามาให้กำลังใจบ่อยครั้ง
กระทั่งอุบลเพิ่งรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนเศษ เจิมจันทร์ก็มาหาที่บ้านของนที ซึ่งไม่ไกลจากซอยขุนนางนัก
บ้านของนทีเป็นสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลสีนวล สามชั้น จั่วหลังคาสไตล์ยุโรป มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นบ้านผู้ดีมีเงิน เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านก็หรูหราและนำเข้าจากต่างประเทศ เจิมจันทร์มองแล้วก็เชิดหน้า ในใจ ยิ่งริษยาอุบลมากขึ้นกว่าเก่า
เพราะมัวแต่ช้ำใจเรื่องเดชสิทธิ์จนไม่ได้มาร่วมงานแต่งงาน หล่อนจึงไม่รู้เลยว่านทีเป็นลูกหลานผู้ดีมีเงินขนาดนี้ บ้านมิ่งมงคลนั้น แม้จะมีบรรพบุรุษเป็นขุนนาง แต่ทุกวันนี้บิดาของอุบลที่ชื่อแสง เป็นแค่เจ้าของสวนผลไม้กระจอกๆ หล่อนยินยอมคบหาสนิทสนมกับลูกสาวของมันก็นับว่าบุญเท่าไรแล้ว
บัวบุษบานั้นยังคงติดตามภาพความทรงจำในความฝันของตน บัวบุษบามองออกว่า เจิมจันทร์ไม่พอใจชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบของอุบล ก็สายตาแสดงออกชัดขนาดนั้นว่า ‘ริษยา’ ยามอยู่เพียงลำพัง...
‘เจิม’ อุบลเดินออกมาจากโค้งประตูเข้าสู่ห้องรับรองแขก และเจิมจันทร์ก็แย้มยิ้มเสแสร้งได้ทันที
‘ขอโทษนะที่ออกมาช้า นี่เจิมดีขึ้นแล้วใช่ไหม ยังไม่สบายใจอยู่หรือเปล่า’
หญิงสาวจับมือเพื่อนรักด้วยความห่วงใย ในขณะที่เจิมจันทร์สะดุดตากับเดรสกระโปรงใหญ่เกินตัวที่อุบลสวม เป็นเดรสสีฟ้าปักลายหมีที่อกซ้าย
‘ทำไมใส่ชุดเหมือนชุดคลุมท้องเลย’
อุบลแย้มยิ้มเขินอาย
‘ฉันกำลังจะมีน้องน่ะ เพิ่งรู้เมื่อวานนี้เอง พี่นทีเลยเห่อ หอบซื้อชุดพวกนี้มาเยอะแยะแล้วก็บังคับให้ฉันใส่ด้วย ทั้งที่ท้องยังไม่ป่องเสียหน่อย’
เจิมจันทร์หน้าชา ความริษยาแทรกซึมทุกอณูของจิตวิญญาณ
หล่อนจะปล่อยให้ใครก็ตามมีความสุขกว่าหล่อนไม่ได้! โดยเฉพาะอุบล ยิ่งคนสนิทใกล้ชิด ก็ยิ่งต้องต่ำชั้นกว่าหล่อนเสมอ!
หล่อนต้องเป็นที่หนึ่ง
เจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์เท่านั้นที่ต้องเป็นหนึ่ง!!
หญิงสาวแสร้งทำยินดี และแจ้งข่าวว่าจะออกท่องเที่ยวหลายเดือนเพื่อทำใจเรื่องเดชสิทธิ์ ซึ่งอุบลนั้นห่วงนักกลัวจะเกิดอันตรายแต่ห้ามเท่าไรเจิมจันทร์ก็ไม่ฟัง บัวบุษบาเห็นเจิมจันทร์ในวัยสาวเดินออกจากบ้านของนที และเธอพบว่าตัวเองเลื่อนกายตามเจิมจันทร์ไปอย่างไร้จุดหมาย ก่อนเกิดแสงเจิดจ้า เมื่อบัวบุษบายกมือบังแสงหยีตา ภาพก็ตัดมาที่ห้องเล็กๆ
อวลกลิ่นสาบสางของภูตผี!
เจิมจันทร์ถือขันไหว้ครู นั่งอยู่ตรงหน้าชายสูงอายุผู้หนึ่งที่ดูน่ากลัวราวพ่อมดหมอผี ภายในห้องมีสิ่งของอัปรีย์เต็มไปหมด บนโต๊ะหมู่บูชามีกระถางธูปขนาดใหญ่ซึ่งมีก้านธูปที่ถูกจุดแล้วอัดแน่น รายล้อมด้วยรูปปั้นหลายตัว มีทั้งคนในชุดโจงกระเบนไม่ใส่เสื้อหน้าตาน่ากลัว นางรำ สัตว์ดุร้ายอย่างควาย เสือ กระทิง นกยักษ์ สุนัขตัวใหญ่ ด้านหนึ่งมีด้ายสายสิญจน์สีขาววางบนพาน เทียนแท่ง และก้อนขี้ผึ้งที่ใช้แล้ว ใกล้ๆ กันเป็นขันสีเหลืองทองเก่าคร่ำคร่า นอกจากนี้ มุมหนึ่งของโต๊ะยังมีผอบวางเรียงกันอยู่หลายใบอีกด้วย
บัวบุษบายืนงงด้วยสติสัมปชัญญะไม่ครบครันดั่งตอนลืมตาตื่น แต่เธอก็ตกใจที่เห็นเจิมจันทร์ได้รับสืบทอดอวิชามากมาย ขณะร่ำเรียนคุณไสย หล่อนได้ทดลองเสกตะปูเข้าท้องชาวบ้านแถวนั้นจนตาย แต่นั่นยังไม่สาแก่ใจเจิมจันทร์ หากหล่อนได้เห็นผัวเมียรักกัน หล่อนจะลองวิชาด้วยการทำคุณไสยนำหุ่นปั้นจากดินเจ็ดป่าช้ามามัดหันหน้าออกจากกัน โดยที่ในหุ่นบรรจุเส้นผมของหนุ่มสาวคู่นั้น ซึ่งพวกผีพรายไปเอามาให้
เจิมจันทร์ใช้ไสยศาสตร์ทำคู่รักร้างรากันไปเสียหลายคู่ด้วยความสาแก่ใจ มีคู่หนึ่งถึงกับฆ่ากันตายเพราะเกลียดขี้หน้ากันจนทนอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้!
หล่อนร่ำเรียนจนเชี่ยวชาญจึงล่ำลาอาจารย์เดินทางไปนครสวรรค์ ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นอย่างนักท่องเที่ยวคนหนึ่งนานนับสัปดาห์
ตามดูถึงตรงนี้บัวบุษบาก็นึกถึงคำของมารดาที่ว่า ขณะเกิดเหตุฆาตกรรมอุบล เจิมจันทร์มีหลักฐานที่อยู่ที่นี่...
หญิงสาวติดตามต่ออย่างตั้งใจ อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป และแล้ว...บัวบุษบาก็เห็นเจิมจันทร์ในวัยสาวเดินเข้าห้องพักในยามบ่าย ก่อนเดินไปหยุดตรงกำแพง บริกรรมคาถาครู่หนึ่ง ร่างระหงงดงามก็จางหายไป
บัวบุษบาเบิกตาโต ก่อนเกิดลมพัดซานซ่า เธอถูกพัดกลับมาที่เรือนเสน่ห์จันทน์อีกครั้ง และเจิมจันทร์ก็อยู่ที่นี่ด้วย!
ทวดแสงในวัยสี่สิบปีเศษเดินผ่านหน้ารั้วบ้านจึงเห็นเจิมจันทร์เดินเข้าบ้านจากทางด้านหลัง แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจและเดินผ่านไป โดยไม่รู้เลยว่า หญิงผู้นั้นมีแผนการชั่วร้ายกับลูกสาวของตน!
ผีร้ายคอยเทียวรายงานว่า อุบลจะเดินผ่านโทรศัพท์บ้านตอนไหน เจิมจันทร์จึงกะเวลาโทร.ไปเรียกเพื่อนรักมาพบกันโดยไม่ลืมเน้นย้ำว่าไม่ให้บอกใคร เพราะหล่อนมีเซอร์ไพรส์ อุบลเชื่อใจและทำตาม ดีใจจนยิ้มหน้าบานเมื่อรู้ว่าเพื่อนรักกลับมา
เธอเดินออกมาจากบ้านโดยไม่มีใครเห็น เพราะผีพรายของเจิมจันทร์บังตา...
‘ไม่นะ’ บัวบุษบาเริ่มเดาสถานการณ์ต่อไปได้และพยายามห้าม แต่อุบลก็เดินผ่านเธอไปราวกับเธอไม่มีตัวตน
‘อย่าไปนะคะคุณยายอุบล อย่าไปที่สระบัวนั่น!’
หญิงสาวร้องเรียกพร่ำเตือนว่าจะเกิดอันตราย แต่นอกจากอุบลจะไม่รับรู้แล้ว ยังเดินสู่เหตุฆาตกรรมสยดสยอง ที่หนนี้บัวบุษบาเห็นหน้าฆาตกรอย่างชัดเจน!
เสียงหัวเราะของเจิมจันทร์ดังก้องท่ามกลางเสียงฟ้าคำรามและสายฟ้าแลบแปลบปลาบ ทารกน้อยถูกชูขึ้นฟ้าราวกับจะประกาศศักดาแห่งชัยชนะ ก่อนที่หญิงสาวจะลุกขึ้นประคองกมุทไว้แนบอก หล่อนมองดวงตาที่เบิกโพลงของศพแล้วเหยียดยิ้มเย้ยหยัน
ก่อนใช้เท้าผลักศพของอุบลให้จมลงสู่สายนที แล้วร่างนั้นก็เลือนหายไปพร้อมศพทารกในอ้อมแขน ปล่อยให้เรือแจวลอยเคว้งคว้างกลางสระบัว ในขณะที่บัวบุษบายกมือปิดปาก น้ำตาไหลพรากอาบแก้มด้วยความสงสารอุบล พี่สาวของคุณยายของเธอ
แต่แล้วศพของอุบลก็โผล่พ้นขึ้นมาจากน้ำกะทันหัน
บัวบุษบายิ่งตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อใบหน้าของอุบลนั้นกลับกลายเป็นใบหน้าของเธอเอง!!!
****************
อะแฮ่มๆ ซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์ (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ) ปิดจองเป็นที่เรียบร้อย
สำหรับนักอ่านที่สั่งจองไว้ โรงพิมพ์จะมาส่งหนังสือให้สนพ.วันพรุ่งนี้แล้วจ้า เร็วมาก! ฉะนั้นทีมงานจะดำเนินการจัดส่งให้ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไปนะคะ รอรับกันด้วยน้าาาา
ปล.วางจำหน่ายที่ ‘ศูนย์หนังสือจุฬาฯ’ และร้านออนไลน์เมื่อไหร่ ทีมงานจะมาแจ้งทันที ส่วน eBook มีที่เว็บ mebmarket นะคะ^^ วางแล้วจะมาแจ้งเช่นกันเน้อ
กระทั่งอุบลเพิ่งรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนเศษ เจิมจันทร์ก็มาหาที่บ้านของนที ซึ่งไม่ไกลจากซอยขุนนางนัก
บ้านของนทีเป็นสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลสีนวล สามชั้น จั่วหลังคาสไตล์ยุโรป มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นบ้านผู้ดีมีเงิน เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านก็หรูหราและนำเข้าจากต่างประเทศ เจิมจันทร์มองแล้วก็เชิดหน้า ในใจ ยิ่งริษยาอุบลมากขึ้นกว่าเก่า
เพราะมัวแต่ช้ำใจเรื่องเดชสิทธิ์จนไม่ได้มาร่วมงานแต่งงาน หล่อนจึงไม่รู้เลยว่านทีเป็นลูกหลานผู้ดีมีเงินขนาดนี้ บ้านมิ่งมงคลนั้น แม้จะมีบรรพบุรุษเป็นขุนนาง แต่ทุกวันนี้บิดาของอุบลที่ชื่อแสง เป็นแค่เจ้าของสวนผลไม้กระจอกๆ หล่อนยินยอมคบหาสนิทสนมกับลูกสาวของมันก็นับว่าบุญเท่าไรแล้ว
บัวบุษบานั้นยังคงติดตามภาพความทรงจำในความฝันของตน บัวบุษบามองออกว่า เจิมจันทร์ไม่พอใจชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบของอุบล ก็สายตาแสดงออกชัดขนาดนั้นว่า ‘ริษยา’ ยามอยู่เพียงลำพัง...
‘เจิม’ อุบลเดินออกมาจากโค้งประตูเข้าสู่ห้องรับรองแขก และเจิมจันทร์ก็แย้มยิ้มเสแสร้งได้ทันที
‘ขอโทษนะที่ออกมาช้า นี่เจิมดีขึ้นแล้วใช่ไหม ยังไม่สบายใจอยู่หรือเปล่า’
หญิงสาวจับมือเพื่อนรักด้วยความห่วงใย ในขณะที่เจิมจันทร์สะดุดตากับเดรสกระโปรงใหญ่เกินตัวที่อุบลสวม เป็นเดรสสีฟ้าปักลายหมีที่อกซ้าย
‘ทำไมใส่ชุดเหมือนชุดคลุมท้องเลย’
อุบลแย้มยิ้มเขินอาย
‘ฉันกำลังจะมีน้องน่ะ เพิ่งรู้เมื่อวานนี้เอง พี่นทีเลยเห่อ หอบซื้อชุดพวกนี้มาเยอะแยะแล้วก็บังคับให้ฉันใส่ด้วย ทั้งที่ท้องยังไม่ป่องเสียหน่อย’
เจิมจันทร์หน้าชา ความริษยาแทรกซึมทุกอณูของจิตวิญญาณ
หล่อนจะปล่อยให้ใครก็ตามมีความสุขกว่าหล่อนไม่ได้! โดยเฉพาะอุบล ยิ่งคนสนิทใกล้ชิด ก็ยิ่งต้องต่ำชั้นกว่าหล่อนเสมอ!
หล่อนต้องเป็นที่หนึ่ง
เจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์เท่านั้นที่ต้องเป็นหนึ่ง!!
หญิงสาวแสร้งทำยินดี และแจ้งข่าวว่าจะออกท่องเที่ยวหลายเดือนเพื่อทำใจเรื่องเดชสิทธิ์ ซึ่งอุบลนั้นห่วงนักกลัวจะเกิดอันตรายแต่ห้ามเท่าไรเจิมจันทร์ก็ไม่ฟัง บัวบุษบาเห็นเจิมจันทร์ในวัยสาวเดินออกจากบ้านของนที และเธอพบว่าตัวเองเลื่อนกายตามเจิมจันทร์ไปอย่างไร้จุดหมาย ก่อนเกิดแสงเจิดจ้า เมื่อบัวบุษบายกมือบังแสงหยีตา ภาพก็ตัดมาที่ห้องเล็กๆ
อวลกลิ่นสาบสางของภูตผี!
เจิมจันทร์ถือขันไหว้ครู นั่งอยู่ตรงหน้าชายสูงอายุผู้หนึ่งที่ดูน่ากลัวราวพ่อมดหมอผี ภายในห้องมีสิ่งของอัปรีย์เต็มไปหมด บนโต๊ะหมู่บูชามีกระถางธูปขนาดใหญ่ซึ่งมีก้านธูปที่ถูกจุดแล้วอัดแน่น รายล้อมด้วยรูปปั้นหลายตัว มีทั้งคนในชุดโจงกระเบนไม่ใส่เสื้อหน้าตาน่ากลัว นางรำ สัตว์ดุร้ายอย่างควาย เสือ กระทิง นกยักษ์ สุนัขตัวใหญ่ ด้านหนึ่งมีด้ายสายสิญจน์สีขาววางบนพาน เทียนแท่ง และก้อนขี้ผึ้งที่ใช้แล้ว ใกล้ๆ กันเป็นขันสีเหลืองทองเก่าคร่ำคร่า นอกจากนี้ มุมหนึ่งของโต๊ะยังมีผอบวางเรียงกันอยู่หลายใบอีกด้วย
บัวบุษบายืนงงด้วยสติสัมปชัญญะไม่ครบครันดั่งตอนลืมตาตื่น แต่เธอก็ตกใจที่เห็นเจิมจันทร์ได้รับสืบทอดอวิชามากมาย ขณะร่ำเรียนคุณไสย หล่อนได้ทดลองเสกตะปูเข้าท้องชาวบ้านแถวนั้นจนตาย แต่นั่นยังไม่สาแก่ใจเจิมจันทร์ หากหล่อนได้เห็นผัวเมียรักกัน หล่อนจะลองวิชาด้วยการทำคุณไสยนำหุ่นปั้นจากดินเจ็ดป่าช้ามามัดหันหน้าออกจากกัน โดยที่ในหุ่นบรรจุเส้นผมของหนุ่มสาวคู่นั้น ซึ่งพวกผีพรายไปเอามาให้
เจิมจันทร์ใช้ไสยศาสตร์ทำคู่รักร้างรากันไปเสียหลายคู่ด้วยความสาแก่ใจ มีคู่หนึ่งถึงกับฆ่ากันตายเพราะเกลียดขี้หน้ากันจนทนอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้!
หล่อนร่ำเรียนจนเชี่ยวชาญจึงล่ำลาอาจารย์เดินทางไปนครสวรรค์ ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นอย่างนักท่องเที่ยวคนหนึ่งนานนับสัปดาห์
ตามดูถึงตรงนี้บัวบุษบาก็นึกถึงคำของมารดาที่ว่า ขณะเกิดเหตุฆาตกรรมอุบล เจิมจันทร์มีหลักฐานที่อยู่ที่นี่...
หญิงสาวติดตามต่ออย่างตั้งใจ อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป และแล้ว...บัวบุษบาก็เห็นเจิมจันทร์ในวัยสาวเดินเข้าห้องพักในยามบ่าย ก่อนเดินไปหยุดตรงกำแพง บริกรรมคาถาครู่หนึ่ง ร่างระหงงดงามก็จางหายไป
บัวบุษบาเบิกตาโต ก่อนเกิดลมพัดซานซ่า เธอถูกพัดกลับมาที่เรือนเสน่ห์จันทน์อีกครั้ง และเจิมจันทร์ก็อยู่ที่นี่ด้วย!
ทวดแสงในวัยสี่สิบปีเศษเดินผ่านหน้ารั้วบ้านจึงเห็นเจิมจันทร์เดินเข้าบ้านจากทางด้านหลัง แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจและเดินผ่านไป โดยไม่รู้เลยว่า หญิงผู้นั้นมีแผนการชั่วร้ายกับลูกสาวของตน!
ผีร้ายคอยเทียวรายงานว่า อุบลจะเดินผ่านโทรศัพท์บ้านตอนไหน เจิมจันทร์จึงกะเวลาโทร.ไปเรียกเพื่อนรักมาพบกันโดยไม่ลืมเน้นย้ำว่าไม่ให้บอกใคร เพราะหล่อนมีเซอร์ไพรส์ อุบลเชื่อใจและทำตาม ดีใจจนยิ้มหน้าบานเมื่อรู้ว่าเพื่อนรักกลับมา
เธอเดินออกมาจากบ้านโดยไม่มีใครเห็น เพราะผีพรายของเจิมจันทร์บังตา...
‘ไม่นะ’ บัวบุษบาเริ่มเดาสถานการณ์ต่อไปได้และพยายามห้าม แต่อุบลก็เดินผ่านเธอไปราวกับเธอไม่มีตัวตน
‘อย่าไปนะคะคุณยายอุบล อย่าไปที่สระบัวนั่น!’
หญิงสาวร้องเรียกพร่ำเตือนว่าจะเกิดอันตราย แต่นอกจากอุบลจะไม่รับรู้แล้ว ยังเดินสู่เหตุฆาตกรรมสยดสยอง ที่หนนี้บัวบุษบาเห็นหน้าฆาตกรอย่างชัดเจน!
เสียงหัวเราะของเจิมจันทร์ดังก้องท่ามกลางเสียงฟ้าคำรามและสายฟ้าแลบแปลบปลาบ ทารกน้อยถูกชูขึ้นฟ้าราวกับจะประกาศศักดาแห่งชัยชนะ ก่อนที่หญิงสาวจะลุกขึ้นประคองกมุทไว้แนบอก หล่อนมองดวงตาที่เบิกโพลงของศพแล้วเหยียดยิ้มเย้ยหยัน
ก่อนใช้เท้าผลักศพของอุบลให้จมลงสู่สายนที แล้วร่างนั้นก็เลือนหายไปพร้อมศพทารกในอ้อมแขน ปล่อยให้เรือแจวลอยเคว้งคว้างกลางสระบัว ในขณะที่บัวบุษบายกมือปิดปาก น้ำตาไหลพรากอาบแก้มด้วยความสงสารอุบล พี่สาวของคุณยายของเธอ
แต่แล้วศพของอุบลก็โผล่พ้นขึ้นมาจากน้ำกะทันหัน
บัวบุษบายิ่งตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อใบหน้าของอุบลนั้นกลับกลายเป็นใบหน้าของเธอเอง!!!
****************
อะแฮ่มๆ ซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์ (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ) ปิดจองเป็นที่เรียบร้อย
สำหรับนักอ่านที่สั่งจองไว้ โรงพิมพ์จะมาส่งหนังสือให้สนพ.วันพรุ่งนี้แล้วจ้า เร็วมาก! ฉะนั้นทีมงานจะดำเนินการจัดส่งให้ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไปนะคะ รอรับกันด้วยน้าาาา
ปล.วางจำหน่ายที่ ‘ศูนย์หนังสือจุฬาฯ’ และร้านออนไลน์เมื่อไหร่ ทีมงานจะมาแจ้งทันที ส่วน eBook มีที่เว็บ mebmarket นะคะ^^ วางแล้วจะมาแจ้งเช่นกันเน้อ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ก.พ. 2562, 09:01:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ก.พ. 2562, 09:01:04 น.
จำนวนการเข้าชม : 641
<< บทที่ 12 ความหลังครั้งอดีตชาติ -50% | บทที่ 13 โกรธแล้วได้อะไร -30% + eBook >> |