เพื่อนรักปรารถนา LGBTQ
“เธอเคยพูดจะไม่เก็บความสาวไว้ให้เขาคนนั้น ถ้าเธอจะเสียมันไปขอให้ฉันได้ไหม ฉันคือเพื่อนที่เธอวางใจได้ไปตลอดกาล จะไม่ทำให้เธอเสียใจเหมือนเขาคนนั้น”
เขาเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ส่วนเธอมีเพื่อนหญิงที่ถูกใจหลงรัก ลังเลเรื่องรักกับเพศไหน?
โดยนามปากกา... ไตรติมา
Bisexual Gay
นิยายไบเซ็กชวลเกย์ รักสามเส้า [หญิงxชาย & ชายxชาย]
หาอ่านเพิ่มเติมได้ >>
https://my.dek-d.com/aunnan/writer/view.php?id=1756847
https://www.readawrite.com/a/sZ2v24-เพื่อนรักปรารถนา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=oranamarinlove&group=8
http://www.tunwalai.com/story/228816/เพื่อนรักปรารถนา_lgbtq
ฝากกดไลค์เพจนิยายไตรติมา-ติดตามอัพเดท >>
https://www.facebook.com/oranamarinlove
=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=
* หมายเหตุ *
นิยายรักในแนว LGBTQ คืออะไร?
LGBT หมายถึง กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ * ในภาษาอังกฤษย่อว่า LGBT (หรือ GLBT) ซึ่งเป็นตัวอักษรตัวแรกของคำว่า lesbian (เลสเบี้ยน) , gay (เกย์) , bisexual (ไบเซ็กชวล) , และ transgender/transsexual (คนข้ามเพศ) มีการใช้คำว่า LGBT มาตั้งแต่ยุค 90 ซึ่งดัดแปลงมาจาก “LGB” ที่ใช้ในการแทนวลี "สังคมเกย์" (Gay community) ที่ในหลาย ๆ กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ไม่รู้สึกว่าอธิบายกลุ่มคนพวกนี้ได้อย่างถูกต้องตามที่กล่าว ในการใช้สมัยใหม่ LGBT มีความหมายถึงความหลากหลายของเพศวิถี (Sexuality) และลักษณะการแสดงเพศทางสังคม และในบางครั้งอาจหมายถึงกลุ่มคนที่ไม่ใช่กลุ่มรักต่างเพศ แทนการระบุว่าเป็นเลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล หรือ คนข้ามเพศ
ที่มา:
https://th.wikipedia.org/wiki/กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ
Q = Queer หมายถึงบุคคลผู้ที่สามารถชอบเพศอะไรก็ได้ในบรรดา LGBTQ หรือจะชอบเพศชายหญิงทั่วไปก็ได้ สามารถเกิดความรักได้กับทุกเพศ
Tags: ไตรติมา, โรมานซ์, รักสามเส้า, LGBT, LGBTQ, หนุ่มหล่อ, หนุ่มหน้าสวย, เพื่อน, แอบรักเพื่อน, เกาะ, ไบเซ็กชวลเกย์,

ตอน: Chapter 16 รักอดไม่ได้


..........คาคบงอนไม่เลิกยันตื่นนอนตอนเช้ามืด ซึ่งเขาตื่นเร็วกว่าทุกวันถึงครึ่งค่อนชั่วโมง

แต่งตัวอย่างหล่อประดับประดาด้วยต่างหูสร้อยคอสร้อยข้อมือแหวนเต็มอัตราเช่นเคย ที่เหลือเกินกว่าสิ่งใดคือใส่สร้อยข้อเท้าเหมือนที่ชยาชอบใส่ด้วย รักสวยรักงามมากมายเป็นชายงามกระไรปานนั้น

เขาไปทำงานเช้ากว่าทุกวันไม่รู้จะรีบไปทำอะไรนักหนา

ขณะชยายังงัวเงียอยู่หลังเพิ่งตื่นนอน ล้างหน้าแปรงฟันไม่ทันเขา ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัว

ก่อนไปทำงานคาคบยังสั่งลาอย่างเย็นชาและนั่นเลวร้ายมากสำหรับชยา

“เธอไม่ต้องขับไปส่งฉันนะวันนี้ ฉันจะเอารถไปใช้คนเดียว เธออยู่บ้านนี่แหละ ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท คนอื่นมาเคาะก็ห้ามเปิดประตู ห้ามขานตอบ ทำเงียบๆ เหมือนไม่มีคนอยู่ หรืออยากจะเปิดประตูต้อนรับใครก็ตามใจ ห้องเช่าแถวนี้มีแต่ผู้ชาย อยากให้เขาเข้ามาฆ่าข่มขืนเธอก็ตามใจ ไว้ฉันจะรีบกลับมาเก็บศพเธอ ไปล่ะ”

“ไอ้บ้าพี่คบนี่ ไสหัวไปเลย”

ชยาด่าว่าสวนกลับทันที เกิดงอนอย่างเหลืออดขึ้นมาบ้างเหมือนกัน

นึกในใจ...

‘แค่ไม่ยอมให้นอนกอดมันจะอะไรหนักหนา มาโกรธเคืองกันกลั่นแกล้งเล่นแบบนี้เลยเหรอ อ้อ... เกือบลืมไป เราใช้เท้าถีบเขาด้วยนี่หว่า สงสัยเราคงทำรุนแรงเกินไป เขาถึงได้โมโห’

คิดได้แล้วเลยปลงใจละห้อยละเหี่ย ขณะเดียวกันเริ่มท้องร้องว่าหิว...

ลาบน้ำตกส้มตำไทยใส่ถั่วลิสงมันๆ น่าขบเคี้ยว นึกภาพให้ชวนน้ำลายสอ

แม้แต่ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาวราดซอสพริกเมนูธรรมดายังน่ากิน

ขนมหวานกับกาแฟเย็นใส่นมสดราดวิปปิ้งครีมหวานมันรสชาติคุ้นลิ้นกลิ่นติดจมูกยั่วยวนชวนชิม

แค่คิดก็หิวเหลือเกินถึงเวลาอาหารมื้อเช้าแล้วด้วย แต่ของกินแสนอร่อยที่โปรดปรานอยู่ที่ร้านในตลาดกลางเกาะไกลห้องเช่าชาวเล

เสียงลมในกระเพาะลั่นโครกครากอยากกินมาก แต่ว่าจะไปที่นั่นได้อย่างไรในเมื่อไม่มีรถส่วนตัวสักคัน ไม่ค่อยมีใครเดินบนถนนสายเปลี่ยวคนเดียว

น่ากลัว...

ไหนจะสุนัขไม่รับประกันว่าบ้าหรือไม่ในสองข้างถนน

บางทีมีตัวตะกวดตัวใหญ่อย่างกับลูกน้องจระเข้เดินข้ามถนนอีก

แค่คิดภาพให้เกิดความหวาดหวั่นยอมรับว่ามันน่ากลัวจริงด้วย

หันมองหาของกินที่เคยซื้อกักตุนเก็บไว้กินภายในห้อง รสชาติช่างไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย

หลากหลายรสกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับปลากระป๋อง ...น่าเบื่อ

มีหม้อหุงข้าวแต่ขี้เกียจหุงกินเอง

ขนมปังโฮลวีตเหลือไม่กี่แผ่นไม่พอกินยาไส้ จะทาหน้าขนมปังกับอะไรดีมีทั้งแยมผลไม้ เนยเหลือง มายองเนสรสเปรี้ยวซ่า หรือครีมช็อกโกแลต

เลือกมาทาหน้าขนมปังสักอย่างพอปะทังความหิว

มีซีเรียลธัญพืชป่นผงบรรจุซองละลายกับน้ำร้อน

ตามด้วยกาแฟร้อนใส่นมข้นหวาน

ตบท้ายด้วยขนมปังไส้เผือกห่อเล็กสำหรับเด็กกิน

ที่ทานเข้าไปยังไม่ถึงครึ่งกระเพาะมันจะไปอิ่มอะไร?

ชยายกพัดลมมาเปิดตั้งเอนหลังพิงหมอนอิงนั่งติดฝาไม้ของห้องเช่า เงียบมากจนนึกอยากฟังเพลงจึงเปิดฟังเพลงจากมือถือ ฟังไปเรื่อยล้วนเพลงเหงาๆ

รู้สึกเซ็งในดวงจิตปล่อยใจคิดไปเรื่อยเปื่อยที่สุดแล้วเลยเผลอหลับไป...



“ก๊อก ก๊อก...”

เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้ชยาต้องสะดุ้งตื่น

ตกใจกลัวไม่รู้ใครมาเคาะประตู จำคำสั่งคาคบได้ให้ทำเงียบที่สุดไม่ขานรับไม่ตอบกลับ ห้ามตัวเองไว้ไม่ให้ส่งเสียงออกไป

คนเคาะประตูเลยต้องกล่าวแสดงตัวร่ายยาวเมนูอาหารโปรดของผู้ที่แอบเงียบอยู่ภายในห้อง

“นี่ฉันเองพี่คาคบของเธอไง เป็นห่วง... เลยซื้อส้มตำหมูน้ำตกข้าวหมกไก่มาฝากกับขนมด้วย เธอยังไม่ได้กินข้าวกลางวันใช่ไหม เปิดประตูหน่อยสิชยา”

ถอนหายใจโล่งอกที่ไม่ใช่ฆาตกรฆ่าข่มขืน แต่ความงอนดันพุ่งผุดขึ้นมาพร้อมกับท้องร้องหิวมื้อกลางวัน

ชยาปั้นหน้ายากคล้ายแม่นางยักษ์เปิดและผลักประตูออก ต่อว่าทันทีพร้อมพลั่งพรูถ้อยคำประชดด้วยความน้อยใจผสมกับโมโหหิว ไม่ได้กินของที่อยากกินเมื่อมื้อเช้าผ่านมา

“ไม่ปล่อยให้อดตายไปเลยล่ะค่อยมาเก็บศพ รู้ไหมไม่ได้กินข้าวมื้อเช้าเลยสักคำ ของที่ชอบกินนะไม่ได้กินเลยหิวจะตายอยู่แล้ว นี่ถ้าไม่มาแลดูกันมีหวังได้อดตายไปแล้ว”

ปากเบะมุ่ยหน้าดวงตาแดงคลอฉ่ำน้ำตาของชยาทำให้คาคบรู้สึกผิดที่ตัวเขาทิ้งให้เธออดอาหาร

โดยลืมนึกไปว่าเธอต้องทานอาหารเช้าในตลาด เพิ่งมานึกได้ตอนกลางวันถึงได้รีบไปซื้อข้าวที่ตลาดกลางเกาะนำมาส่งให้เธอทาน คาคบรู้สึกสำนึกผิดถึงได้ทำเสียงเบาพินอบพิเทากล่าวกับเธอ

“ขอโทษ ฉันลืมไปเรื่องที่เธอต้องกินข้าว”

“หะ! ลืม? เรื่องกินมันเรื่องใหญ่ขนาดล้มช้างตายได้ทั้งตัวเลยนะจะบอกให้”

ว่าแล้วชยาคว้าข้าวของกินในมือคาคบลงมานั่งแกะบนโต๊ะญี่ปุ่น ใส่จานกินคนเดียว ทำไม่สนใจคนถือของกินมาให้อีก คาดว่าเขาคงกินข้าวปลาอาหารมาแล้ว

เคี้ยวๆ กลืนไปหลายคำอยู่เพิ่งสังเกตเห็นคนข้างกายนั่งนิ่งเงียบตั้งตามองแต่ตัวเธอ สายตาปรอยเหมือนสำนึกผิดเต็มประตู และกระพริบตาปริบๆ อยู่ตลอดๆ ทำหน้าตาท่าทางน่าสงสาร

แต่ชยาไม่อยู่ในอารมณ์สงสาร เพราะเคืองอยู่ไม่รู้คลาย

“โกรธพี่คบทำให้ฉันอดข้าวเช้า ไม่ให้อภัยหรอก แล้วพี่คบกินข้าวมาหรือยังล่ะ”

ถึงแม้จะโกรธแต่อดจะห่วงเพื่อนเพศชายไม่ได้จึงถามถึงนิดหน่อยพอเป็นพิธี

“ยังไม่ได้กินข้าวกลางวันเลย ฉันเป็นห่วงเธอมากกว่าตัวฉันเองเลยรีบมาหา”

เขาชอบพูดให้เธอใจอ่อน ความโกรธค่อยลดลงไปบ้างถึงอย่างนั้นแต่ความงอนยังไม่หายหมดใจ

“อ้าว... พี่คบได้กินข้าวฟรีมีบัตรพนักงานรึไม่ใช่? รีบกลับไปกินข้าวกลางวันของตัวเองเถอะ ไม่ต้องมานั่งเฝ้ากันฉันไม่อดตายแล้ว”

“อื้ม... เดี๋ยวจะกลับเข้าบริษัทละ รอนะเย็นนี้จะกลับมาหา จะเอาของกินที่ชอบมาให้เยอะแยะเลย”

จมูกโด่งใหญ่บรรจงจรดปลายจมูกแตะเพียงแผ่วๆ บนผิวแก้มนวลนิ่มในใบหน้าน้อยน่ารัก เป็นการอำลาจากก่อนกลับเข้าที่ทำงานของตน

สาวเจ้าของใบหน้าน้อยน่ารักถึงกับตาโต จากที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาเคี้ยวๆ ไม่สนใจใคร ...รู้สึกถึงอะไรบางอย่างให้นึกสงสัย?

‘เอ๊ะ... เมื่อกี้อะไรนะอุ่นๆ ข้างแก้ม เขาเอาหน้าเข้ามาใกล้หอมแก้มเรา?’

ใช้หลังมือแตะแก้มข้างนั้นอย่างถนอม... ราวกับจะไม่ยอมให้จางรางเลือนลบรอยหาย

“วุ้ย... เขิน”

คาคบกลับไปที่ทำงานสักพักแล้ว

ชยายังเผลออดจะอมยิ้มไม่ได้ ยิ้มค้างไม่จางหาย อุ้งมือน้อยคอยแต่กุมแก้มข้างที่โดนหอมพร้อมความอิ่มเอมใจไปตลอดช่วงบ่าย

ใจจดจ่อรอคอยการกลับมาบ้านของเพื่อนชายที่ตัวเองมีใจคิดพิศวาสในตัวเขา



..........คาคบง้อคนงามที่แสนแง่งอนด้วยขนมนานาสารพัดรสชาติกลิ่นหอมหวนชวนกิน

อาทิเช่น

โดนัทที่ราดหน้าด้วยช็อกโกแลตกับสตอเบอร์รี่หวานอมเปรี้ยวและรสส้ม

อีกทั้งเค้กกาแฟโรยหน้าเมล็ดอัลมอนด์กลิ่นหอมหวานมัน

พายสับปะรดกับพายไก่เค็มๆ หวานๆ ล้วนอร่อยชวนน้ำลายสอ

ที่นำมาทั้งถุงห่อใหญ่เป็นขนมอบให้ขบเคี้ยวเก็บไว้กินได้นานคือคุกกี้รสนมผสมกาแฟ

และแน่นอนข้าวเย็นเป็นอาหารหลักต้องนำมาให้กินอย่างเต็มอิ่ม

ไก่ย่าง ต้มยำน้ำข้นรวมมิตรทะเล แกงส้มปลาช่อนผักกระเฉด และของกินสำหรับผู้ที่ต้องเพิ่มน้ำหนักเช่นเขาคือสเต็กเนื้อสันกับบิ๊กเบอร์เกอร์หมูแถมด้วยซี่โครงหมูอบ

“แล้วของกินพวกนี้ได้มายังไง ไปซื้อที่ไหนเหรอ”

สาวใบหน้าน้อยน่ารักทำดวงตากลมแป๋วแล้วเอ่ยถาม เผื่อวันหน้าจะได้ไปหาซื้อมากินเองบ้าง

“ใช้ความหล่อเข้าล่อ พ่อครัวเขาชอบคนหล่อ ฉันเลยไปพูดคุยกระเซ้าเย้าแหย่เขาเล่น เขาเลยยิ่งชอบใจใหญ่ ทั้งแจกทั้งแถมโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อเลย ของกินที่ห้องอาหารวันๆ นะเหลือเพียบ คนในครัวกินกันจนอ้วนไปตามๆ กันหมดแล้ว”

ชยาเข้าใจด้วยเห็นเป็นภาพเสมือนว่าชุมชนคนเกย์ในบริษัทนั้นต่างหลงใหลในรูปกายหล่อเหลาของเขา ปานประหนึ่งยกให้เขาเป็นเจ้าชายในฝันไปแล้ว

“อานุภาพความหล่อของพี่คาคบช่างร้ายแรง ได้ของกินมาล้นเหลือ ถ้ากินได้หมดนี่สงสัยฉันคงจะอ้วนตัวกลมแน่เลย”

ใบหน้าคาคบระบายยิ้มดวงตาอ่อนโยน บอกกับเธอด้วยเสียงทุ้มนุ่มนวล

“กินเถอะถ้าชอบกิน ฉันจะสบายใจถ้าได้เห็นเธอกินอิ่มยิ้มได้มีความสุข ฟังนะฉันจะร้องเพลงให้ฟัง สร้างบรรยากาศในการกินอาหารในห้องเช่าเล็กๆ ที่มีเพียงเราสองคน”

พูดให้ซึ้งเท่านั้นไม่พอยังไปหยิบกีตาร์มาลงนั่งบรรเลงเพลงชื่นชมสาวสวย

“ถ้าเธออ้วนขึ้นมาอีกหน่อยเธอจะดูเซ็กซี่มากนะชยา ฉันขอยกเพลงให้เธอล่ะ Sexy girl”

กีตาร์ของเขาดีดเพลงนั้นคลอไป... กับเสียงร้องแหบเซ็กซี่ของเพื่อนเพศชายชวนให้ชักนึกหลงรักเสียงนายผู้ชายเสียงไพเราะเสนาะโสต

ในขณะหน้าที่แกะห่อถุงของกินเป็นของชยา ง่วนอยู่กับการหยิบจับจัดของกินใส่จานชาม

ส่วนโสตประสาทเธอคอยฟังเพลงบรรเลงกล่อม

‘เขาน่ารักอ้ะ ชอบทำให้คลั่งไคล้ตลอดๆ ใครจะอดหลงรักไหว’

ใจคิดอย่างหนึ่งแต่ปากพูดไปอีกอย่างหนึ่ง เข้าทำนองปากไม่ตรงกับใจ แบบว่ารักบิดเบี้ยวเปรี้ยวใจ

“น่าเกลียดจริงเชียว พี่คบนี่ชอบทำโรแมนติค เขินอ้ะ...”

ชยากล่าวตำหนิอย่างน่ารัก... แถมทำอมยิ้มหลังจากชิมขนมเข้าไปเต็มปากเต็มคำจนแก้มตุ่ย ยังไม่ทันกลืนลงคอ

“แต่เธอน่ารักนะ ถ้าเธอจะอ้วนก็อ้วนไป ยังไงฉันก็รักนะยัยตุ้ยนุ้ย”

คาคบชื่นชมเอ็นดูคนงกของกินไม่ว่างปาก

คนฟังนั่งยิ้มปลื้มปริ่มใจ อยากบอกเหมือนกันความในใจที่ยังไม่เคยกล้าเอ่ยบอกเขาไป

‘ฉันก็รักพี่คบ แต่ทำไมปากมันไม่กล้าพูดออกไป น่าตบปากตัวเองจริง’



..........ภายนอกห้องบรรยากาศดีท้องฟ้ายามราตรีมีดาวและดวงจันทร์กระจ่างข้างแรมต้นยังเกือบเต็มดวงอยู่ มีหมู่เมฆสีขาวบางจางลอยริ้วประดับฟ้า

หลังอิ่มอาหารพร้อมกันแล้วคาคบชวนชยาไปฟังเพลงนอกห้องเช่า เอาเสื่อไปปูและกีตาร์ไปนั่งเล่นบนลานกว้างถัดหน้าห้องเช่าไปเล็กน้อย สามารถมองเห็นท้องทะเลอยู่ไกลๆ สลัวในยามค่ำคืน

คาคบร้องเพลงให้ชยาฟัง บทเพลงท่วงทำนองช้าเนิบนาบเอื้อนนานเหมือนบทเพลงที่จะเป็นนิรันดร์กาลอันจะประทับจดจำไม่รู้จบในหัวใจไปตลอดกาล

นับเป็นเพลงรักที่ชยาฟังได้ไพเราะที่สุดเท่าที่เคยฟังมา เพราะว่ามาจากเสียงร้องของคนข้างกายผู้เป็นเพื่อนเพศชายที่ใจเธอรักใคร่หลงใหล เวลาอยู่ใกล้เขาเหมือนล่องลอยในสรวงสวรรค์ ใฝ่ฝันอยากอยู่ร่วมกันอย่างนี้ตราบนานเท่านาน ไม่ใช่เพียงฝันหวานแต่หวังอยากให้ฝันเป็นจริงเหลือเกิน

แสงจันทร์สาดส่องดังสปอตไลท์แม้แสงไม่แรงเท่า แต่ส่งเสริมให้ใบหน้าเรียวหล่อของชายหนุ่มดูงามจับตา ผิวสองสีขาวเหลืองผุดผ่องยามต้องแสงจันทร์สะท้อนดังสีทองทาบทาผิวพรรณนั้น

เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ไม่รู้เหตุผลทำไมชยาถึงรู้สึกว่าซอกคอกลมกลึงผ่องพรรณนั้นยั่วยวนชวนใจให้นึกว่าน่าซุกซบยิ่ง ปรารถนาใคร่ได้จุมพิตอย่างวิจิตรบรรจงลงตรงนั้น ได้ทำอย่างนั้นสักครั้งก็ยังดี หลงรักใคร่ไม่อาจกะวัดปริมาณความต้องการนั้นได้เลย

กลีบปากเหมือนกลีบกุหลาบงามแห่งเทพบุตรจุติลงมายังพื้นหล้าโลก เอ่ยเอื้อนกังวานขับขานเพลงหวานด้วยน้ำเสียงแหบห้าวทุ้มนุ่มนวลในโสตประสาท สรรพสำเนียงนั้นชวนให้หลับตาเคลิ้มฝันไปพร้อมกับท่วงทำนองเพลง

Young and beautiful

คือชื่อบทเพลงนี้ เนื้อร้องเริ่มต้นว่า...

I’ve seen the world

Done it all

Had my cake now

Diamond

Brilliant

And bel air now

Hot summer night mid-July

When you and I were forever wild

The crazy days

City light

The way you’d play with me like a child

Will you still love me?

When I’m no longer

Young

And

Beautiful

Will you still love me?

When I got nothing

But my aching soul

I know you will

I know you will

I know you will

Will you still love me?

When I’m no longer

Beautiful

เพลงจบลงพร้อมเสียงปรบมือของชยากับคำชื่นชมและรอยยิ้มอิ่มสุข

“เพลงเพราะจังพี่คาคบ แต่รู้สึกเสียงพี่คบทำไมเศร้าแปลกจัง”

แต่คำถามแปลกประหลาดในความรู้สึกนั้นเขาไม่อาจตอบได้

“นึกว่าจะถามใครร้องเพลงนี้ตอบเลยว่าจำไม่ได้ แต่เธอถามว่าทำไมเสียงฉันเศร้า ไม่รู้สิมันสังหรณ์ใจยังไงไม่รู้ ไม่อยากให้มีวันที่เราต้องจากกันเลยนะ ไม่อยากจะคิดเลย วันนั้นไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นวันเจ็บปวดแค่ไหน กลัวจนไม่กล้านึกถึงวันนั้น”

สะท้อนสะท้านในใจของชยาหวั่นเกรงเช่นกันไม่อยากให้วันนั้นมาถึงเลย แม้จะรู้ว่าวันที่ได้อยู่คู่เคียงกันจะไม่คงอยู่อย่างนี้ไปตลอดกาลได้

“อย่าพูดถึงมัน วันนั้นยังมาไม่ถึง ช่างมันเถอะอย่าเพิ่งไปคิดเลย ดูท้องฟ้าสิคืนนี้สวยสว่างมีดาวเต็มฟ้าเลย”

ชยายกนิ้วชี้ชมจันทร์บนฟ้าเบื้องบน

แน่นอนว่าคาคบต้องเงยหน้าขึ้นมองบนฟ้าตามมือเธอ

ต่างหูเป็นสร้อยยาวระย้าของคาคบแกว่งไกวสะท้อนแสงจันทร์วิบวับสวยงามมองเพลินตาเพลินใจ เพราะคิดว่าเขาเป็นพริตตี้บอยของเธอพาให้เลื่อนสายตาลงมามองซอกคอกลมกลึงนั้นแล้ว ...รู้สึก

“อยากจูบพี่คบ ขอจูบได้ไหม”

คาคบนึกว่าตัวเองหูฝาด ภายในหัวใจกระตุกตื่นเต้น ดวงตาเบิกโตหันกลับมามองจ้องหน้าชยาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

ฉับพลันนั้นเธอไม่รอคำอนุญาตจากปากเขา เดาใจได้ว่าเขาต้องไม่หวงห้าม สำหรับเธอแล้วเขาจะยอมเพื่อความสุขของเธอทุกอย่าง

เธอบรรจงจุมพิตลงตรงซอกคอต่อกับใบหูที่ประดับต่างหูสร้อยระย้า สมดังใจต้องการสัมผัสเนื้อกายเพื่อนชายเบาๆ แต่เนิ่นนาน เมื่อได้สูดดมหอมกลิ่นเนื้อกายเพื่อนชายช่างหอมชวนมอมเมา จนเผลอเคล้าคลึงเรียวปากอยู่บนบริเวณนั้นไม่อาจถอนถอยจากง่ายดาย

สำหรับคาคบแล้วเขาได้รับสัมผัสจากเรียวปากอุ่นร้อนของเพื่อนสาวกับไรผมนุ่มประระไล้ปลายคางตลอดถึงข้างใบหู พาให้ขนลุกซู่... ซาบซ่านสยิววาบหวิวกายใจไปทั่วทั้งร่างกายของชายหนุ่ม มันรุ่มร้อนขึ้นมาราวกับโดนไฟร้อนแรงเผาลน มันเป็นไฟพิศวาสคุโชนที่จะไม่มีวันมอดไหม้ได้หมดเชื้อไฟแน่ เพราะ...

“ฉันรักเธอเหลือเกิน ...ชยา”

นี่คือคำสารภาพจากปากของคาคบเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่อาจจะนับประมาณได้

สองอ้อมแขนของเขาโอบประคองรอบกายสาวตัวน้อยน่ารักอย่างรักใคร่ทะนุถนอมเหลือเกินจะกล่าวพร่ำคำพรรณนา

แต่ไม่นาน...

บรรยากาศหวานโรแมนติคได้ถูกขัดจังหวะให้กลับกลาย...

“เฮ้ยดูนั่น... ทอมไซ้ซอกคอผู้ชาย ผู้ชายก็กอดใหญ่เลยว่ะ”

เสียงเพื่อนบ้านข้างห้องเป็นชายหนุ่มสองคนออกมาเห็นจนได้ ชี้ชวนให้ดูกัน

ซึ่งพวกเขาได้แง้มประตูดูกันมาตั้งแต่เริ่มได้ยินเสียงกีตาร์บรรเลงเพลงไพเราะเพลงนี้อยู่แล้ว

‘ตายจริง! นั่งอยู่กลางแจ้งใต้แสงจันทร์มันจะไม่เห็นกระจ่างอย่างไรได้’

ชยาเพิ่งนึกได้ก็อายเสียแล้วไม่กล้าเปิดปากสักคำ ความลุ่มหลงในใจพาให้ตัวเธอต้องมาทำเรื่องน่าอับอายขายหน้าในครานี้

“ไม่มีอะไรกันครับ แค่เพื่อนล้อเล่นกันสนุกๆ เท่านั้น”

คาคบอธิบายยิ้มๆ กับเพื่อนบ้านคนข้างห้องเช่า

อายเช่นกันและเก็บอาการไม่ไหวไม่กล้าสู้หน้าเพื่อนบ้าน เลยรีบเก็บเสื่อกับกีตาร์ แล้วรีบเดินจ้ำอ้าวพาเพื่อนสาวเข้าห้องด้วยกันแทบไม่ทัน




ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 มี.ค. 2562, 15:56:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 มี.ค. 2562, 15:56:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 724





<< Chapter 15 คึกคักรักเธอ   Chapter 17 Fucking friend >>