ฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
'พฤษภา' สาวสวยผู้อ่อนหวาน ทายาทผู้พี่ของตระกูลมาเฟียคูเปอร์สไตน์เดินทางมาเมืองไทยเพื่อดูแลญาติผู้ใหญ่ของมารดาที่ล้มป่วย หล่อนไม่รู้เลยสักนิดว่าได้เดินเข้าสู่อุ้งมืออันหยาบกร้านของ 'เสือ' หรือ 'พยัคฆ์' วีรกาญจน์ ทายาทนายเหมืองที่เพิ่งฆ่าตัวตายไปเพราะภรรยาแอบเล่นชู้กับสามีของเศรษฐีนีผู้เป็นญาติของหล่อน พยัคฆ์ฉุดกระชากลากถูพฤษภาเข้าไปในป่าลึกด้วยความแค้น เขาคิดจะใช้หล่อนเรียกร้องความยุติธรรมให้ครอบครัว
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: เสือ ป่า พี่น้อง เซ็กซี่ ละมุน เถื่อน เชลย คุณหนู มาเฟีย บู๊ ครอบครัว
ตอน: บทที่4 -100%
โชคยังดีที่รถไม่ติดอย่างที่คิด ทั้งสองจึงใช้เวลาเดินทางไม่นานนักก็เห็นป้ายบอกทางไปเหมืองพลอยร้างแห่งนั้น
ไม่ผิดแล้ว มันคือเหมืองวีรกาญจน์ที่เคยรุ่งเรืองสุดๆ บัดนี้กลับรกร้างว่างเปล่า ธรรศขับรถผ่านป้ายชื่อเหมืองบนแผ่นเหล็กขนาดใหญ่และรั้วพังๆ ที่ถูกดึงเปิดไว้พอให้รถวิ่งเข้าไปได้ ตามถนนโรยกรวดที่ทอดยาวคดโค้งไปตามความลาดชันของเขาลูกเล็กๆ นั่น ไม่นานเขาก็ขับขึ้นมาอยู่บนยอดเขา
ธรรศจอดรถเปิดลิ้นชักหยิบวัตถุสีดำมะเมื่อมมายัดใส่ขอบกางเกง เมษาเหลือบมาเห็นก็ทำตาโต
ตาแว่นไม่เบา พกปืนเสียด้วย! ดี ปืนสองกระบอกก็ยังดีกว่าปืนกระบอกเดียว หล่อนนึก อุ่นใจที่มีของขวัญของบิดานอนนิ่งอยู่ในเป้สะพายหลัง ไม่ว่าหล่อนจะอยู่ที่ไหน บิดาก็บันดาลเครื่องป้องกันตัวให้หล่อนได้เสมอ ปืนกระบอกนี้เพิ่งมาถึงมือหล่อนเมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดีที่สุดเท่าที่เงินของบิดาจะบันดาลให้ได้ หล่อนยัดมันไว้ที่ขอบกางเกงแบบเดียวกับที่เขาทำ
“นี่! ไปเอาปืนมาจากไหน” ธรรศเห็นพอดี เขาชะงักขาที่กำลังจะก้าวลงจากรถ หันมาเล่นงานหล่อนก่อน
“แล้วคุณล่ะเอามาจากไหน”
“ผู้ใหญ่ถาม ห้ามยอกย้อน ไม่รู้หรือไง” ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดวาววาม
“เฮ้อ ไปกันหรือยัง อืดอาดแบบนี้เมื่อไหร่จะตามพี่สาวฉันทันเสียที” เมษาเปลี่ยนเรื่องทำสีหน้าเหนื่อยหน่าย เปิดประตูออกไปก่อน ธรรศเหวี่ยงประตูปิดปังอย่างหัวเสีย รู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมาตงิด
นายมาเฟียขาโหดเลี้ยงลูกแบบไหนกันนี่ ถ้าเป็นลูกเราจะฟาดให้หนักเลยเชียว
จากจุดที่ทั้งสองยืนมองลงไปเบื้องล่าง เห็นเหมืองวีรกาญจน์ได้อย่างชัดเจน หรือจะเรียกว่าอดีตเหมืองอันรุ่งเรืองก็ให้สะท้อนใจนัก ขุนเขาเบื้องหน้าคือแหล่งขุดหาอัญมณีล้ำค่าทั้งนั้น เครื่องไม้เครื่องมือยังระเกะ ระกะ ราวกับถูกทิ้งกลางคัน
“นี่หรือที่ดินที่ว่าลุงเขยของแม่โกงเขามา”
“ใช่ คนที่มาอาละวาดบอกว่าอย่างนั้น เขาเป็นทายาทคนเดียวของเจ้าของเหมือง”
“กว้างใหญ่ไพศาลมาก หากเป็นอย่างนั้นจริงมันก็น่าโมโห ว่าแต่นายสุชาติคนนี้เป็นคนยังไงกันแน่” คำถามตรงๆ ของเมษาทำให้ธรรศได้รู้ว่า แมกโนเลียกับสามีเลือดร้อนของหล่อนคงปิดบังเรื่องราวร้ายๆ ที่นายสุชาติเคยพยายามทำกับแมกโนเลียไว้ นี่กระมังสาเหตุที่ครอบครัวนี้ไม่เคยกลับมาเมืองไทยเลย
“เรื่องนี้คุณคงต้องเรียนรู้เอาเอง”
“พูดแบบนี้คงเลวไม่มีดีใช่ไหมคะ” ดวงตาคมวับเป็นประกายทันคน “แล้วพี่สาวฉันมาเกี่ยวอะไรด้วย” หล่อนถามต่อ
“ตัวประกันไงล่ะ เพื่อต่อรองให้เสี่ยสุชาติยอมคืนโฉนดให้ อาจจะยืมมือพ่อของคุณมาบีบบังคับเสี่ยสุชาติอีกทีหนึ่ง คุณไม่รู้หรือว่าเสี่ยสุชาติเคยมีเรื่องกับพ่อคุณมาก่อน”
“งั้นหรือคะ ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่ใช่คนดีแน่ ไม่อย่างนั้นพ่อคงไม่เล่นงานเอา” เมษาเข้าข้างบิดาทันที ธรรศทอดถอนใจ
“คุณก็ต้องไปถามคุณแม่ของคุณเองอีกนั่นละ”
“ค่ะ อืม แล้วเขาโกงมายังไงนะ”
“ว่ากันว่า ภรรยาเจ้าของเหมืองมีความสัมพันธ์ลับๆ กับเสี่ยสุชาติ แล้วก็เลยเริ่มยักยอก ถ่ายเทมาให้ทางนี้ พอเจ้าของเหมืองรู้ความจริงเข้าถึงกับยิงตัวตาย”
“ขนาดนั้นเลยหรือ แสดงว่าลุงเขยของแม่ฉันคงเลวจริงๆ ไม่ต้องสงสัยแล้ว หวังว่าช่วงที่พี่เมย์มาอยู่คงไม่โดนอะไรนะ” หล่อนหันขวับมาจ้องหน้าเขารอคำตอบ ธรรศแยกยิ้มเอ่ยช้าๆ
“น้องเมย์มาได้แค่สองวันก็หายตัวไป ผมได้พบเธอสองหน” มีแววชื่นชมและเอื้ออาทรห่วงใยในน้ำเสียงของธรรศ
อันที่จริงก็ไม่แปลกหรอก ใครบ้างไม่รักพฤษภา พี่สาวของหล่อนแสนอ่อนโยนปานนั้น
แต่นายนี่จะมารักแม่เสียดายลูกไม่ได้เด็ดขาด!
“คนของเสี่ยสามคนออกตามหาน้องเมย์ไปที่เขาตาดหลายวันมาแล้วที่เห็นไกลๆ นั่น แต่พวกนั้นก็หายสาบสูญไปด้วย”
“แสดงว่านายคนนั้นฝีมือไม่เลว”
“อาจจะใช่ แล้วยังมีข่าวว่าเขาเป็นเสือในซ่องโจรเสือใหญ่”
“อะไรคะ” หล่อนงงกับคำว่าซ่องโจร แม้ว่ามารดาจะสอนภาษาไทยทั้งอ่านเขียนอย่างเข้มงวด แต่หล่อนก็ไม่ได้ขยันอย่างพี่สาว จึงสับสนกับภาษาไทยในบางคำ
คำว่า ‘ซ่อง’ นี่มันหมายความว่าสถานค้าบริการทางเพศไม่ใช่หรือ
“หมายถึงรังโจร ที่ซ่องสุมของมือปืน” ธรรศอธิบายง่ายๆ สีหน้าเคร่งขรึม ภายใต้แว่นกันแดดหล่อนมองไม่เห็นแววตาเขา แถมมันยังทำให้หน้าเขาขรึมๆ เครากับหนวดจางๆ นั่นด้วย
“ถ้าอย่างนั้นพี่เมย์ก็ตกอยู่ในอันตรายอย่างมากสิคะ” น้ำเสียงหล่อนร้อนรน ใบหน้าซีดเผือด ไร้แววถือดี
“ขุนเขาเมืองกาญจน์กว้างใหญ่นัก เขาจะพาน้องเมย์ไปทางไหน เราก็ไม่รู้ได้ ที่สำคัญเสี่ยสุชาติมีอะไรปิดบังเราบางอย่าง มีแต่พ่อของคุณที่จะง้างปากเสี่ยได้”
“แต่ฉันบอกพ่อไม่ได้ พ่อกำลังมีเรื่องสำคัญมากที่ฟลอริดา ถ้าเราบอก พ่อก็ต้องทิ้งทุกอย่างมา และโดยนิสัยของพ่อคงไม่อยู่เฉยรอต่อรองกับไอ้โจรนั่น ฉันกลัวว่าพี่เมย์จะเป็นอันตราย”
“นั่นสิ ตอนนี้เราก็ได้แต่สื่อสารกับไอ้โจรนั่นผ่านเสี่ยสุชาติ มีความจริงให้เชื่อได้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่รู้ บางทีอาจเป็นการเข้าใจผิดกันก็ได้ ผมคิดว่าเราต้องหาทางติดต่อมันโดยตรง”
“ทำยังไงคะ”
เมษาเอียงคอรอคำตอบ ดวงตาสีแปลกสะท้อนแสงแดดเป็นประกายชวนมอง
“คุณรู้จักสำนวนไทย อยากได้ลูกเสือต้องเข้าถ้ำเสือไหม” เขาพูดก่อนจะหันมาคลี่ยิ้มกว้างใส่ตาสวยๆ คู่นั้น เมษาเลยขมวดคิ้วมุ่น ทำปากขมุบขมิบครุ่นคิดตาม ก่อนจะเปิดยิ้มกว้างจนสว่างไสวไปทั้งใบหน้า ร้องออกมาว่า
“อ้อ! เข้าใจแล้ว! แล้วเราจะไปถ้ำเสือกันเมื่อไหร่คะ”
“เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ไม่ผิดแล้ว มันคือเหมืองวีรกาญจน์ที่เคยรุ่งเรืองสุดๆ บัดนี้กลับรกร้างว่างเปล่า ธรรศขับรถผ่านป้ายชื่อเหมืองบนแผ่นเหล็กขนาดใหญ่และรั้วพังๆ ที่ถูกดึงเปิดไว้พอให้รถวิ่งเข้าไปได้ ตามถนนโรยกรวดที่ทอดยาวคดโค้งไปตามความลาดชันของเขาลูกเล็กๆ นั่น ไม่นานเขาก็ขับขึ้นมาอยู่บนยอดเขา
ธรรศจอดรถเปิดลิ้นชักหยิบวัตถุสีดำมะเมื่อมมายัดใส่ขอบกางเกง เมษาเหลือบมาเห็นก็ทำตาโต
ตาแว่นไม่เบา พกปืนเสียด้วย! ดี ปืนสองกระบอกก็ยังดีกว่าปืนกระบอกเดียว หล่อนนึก อุ่นใจที่มีของขวัญของบิดานอนนิ่งอยู่ในเป้สะพายหลัง ไม่ว่าหล่อนจะอยู่ที่ไหน บิดาก็บันดาลเครื่องป้องกันตัวให้หล่อนได้เสมอ ปืนกระบอกนี้เพิ่งมาถึงมือหล่อนเมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดีที่สุดเท่าที่เงินของบิดาจะบันดาลให้ได้ หล่อนยัดมันไว้ที่ขอบกางเกงแบบเดียวกับที่เขาทำ
“นี่! ไปเอาปืนมาจากไหน” ธรรศเห็นพอดี เขาชะงักขาที่กำลังจะก้าวลงจากรถ หันมาเล่นงานหล่อนก่อน
“แล้วคุณล่ะเอามาจากไหน”
“ผู้ใหญ่ถาม ห้ามยอกย้อน ไม่รู้หรือไง” ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดวาววาม
“เฮ้อ ไปกันหรือยัง อืดอาดแบบนี้เมื่อไหร่จะตามพี่สาวฉันทันเสียที” เมษาเปลี่ยนเรื่องทำสีหน้าเหนื่อยหน่าย เปิดประตูออกไปก่อน ธรรศเหวี่ยงประตูปิดปังอย่างหัวเสีย รู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมาตงิด
นายมาเฟียขาโหดเลี้ยงลูกแบบไหนกันนี่ ถ้าเป็นลูกเราจะฟาดให้หนักเลยเชียว
จากจุดที่ทั้งสองยืนมองลงไปเบื้องล่าง เห็นเหมืองวีรกาญจน์ได้อย่างชัดเจน หรือจะเรียกว่าอดีตเหมืองอันรุ่งเรืองก็ให้สะท้อนใจนัก ขุนเขาเบื้องหน้าคือแหล่งขุดหาอัญมณีล้ำค่าทั้งนั้น เครื่องไม้เครื่องมือยังระเกะ ระกะ ราวกับถูกทิ้งกลางคัน
“นี่หรือที่ดินที่ว่าลุงเขยของแม่โกงเขามา”
“ใช่ คนที่มาอาละวาดบอกว่าอย่างนั้น เขาเป็นทายาทคนเดียวของเจ้าของเหมือง”
“กว้างใหญ่ไพศาลมาก หากเป็นอย่างนั้นจริงมันก็น่าโมโห ว่าแต่นายสุชาติคนนี้เป็นคนยังไงกันแน่” คำถามตรงๆ ของเมษาทำให้ธรรศได้รู้ว่า แมกโนเลียกับสามีเลือดร้อนของหล่อนคงปิดบังเรื่องราวร้ายๆ ที่นายสุชาติเคยพยายามทำกับแมกโนเลียไว้ นี่กระมังสาเหตุที่ครอบครัวนี้ไม่เคยกลับมาเมืองไทยเลย
“เรื่องนี้คุณคงต้องเรียนรู้เอาเอง”
“พูดแบบนี้คงเลวไม่มีดีใช่ไหมคะ” ดวงตาคมวับเป็นประกายทันคน “แล้วพี่สาวฉันมาเกี่ยวอะไรด้วย” หล่อนถามต่อ
“ตัวประกันไงล่ะ เพื่อต่อรองให้เสี่ยสุชาติยอมคืนโฉนดให้ อาจจะยืมมือพ่อของคุณมาบีบบังคับเสี่ยสุชาติอีกทีหนึ่ง คุณไม่รู้หรือว่าเสี่ยสุชาติเคยมีเรื่องกับพ่อคุณมาก่อน”
“งั้นหรือคะ ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่ใช่คนดีแน่ ไม่อย่างนั้นพ่อคงไม่เล่นงานเอา” เมษาเข้าข้างบิดาทันที ธรรศทอดถอนใจ
“คุณก็ต้องไปถามคุณแม่ของคุณเองอีกนั่นละ”
“ค่ะ อืม แล้วเขาโกงมายังไงนะ”
“ว่ากันว่า ภรรยาเจ้าของเหมืองมีความสัมพันธ์ลับๆ กับเสี่ยสุชาติ แล้วก็เลยเริ่มยักยอก ถ่ายเทมาให้ทางนี้ พอเจ้าของเหมืองรู้ความจริงเข้าถึงกับยิงตัวตาย”
“ขนาดนั้นเลยหรือ แสดงว่าลุงเขยของแม่ฉันคงเลวจริงๆ ไม่ต้องสงสัยแล้ว หวังว่าช่วงที่พี่เมย์มาอยู่คงไม่โดนอะไรนะ” หล่อนหันขวับมาจ้องหน้าเขารอคำตอบ ธรรศแยกยิ้มเอ่ยช้าๆ
“น้องเมย์มาได้แค่สองวันก็หายตัวไป ผมได้พบเธอสองหน” มีแววชื่นชมและเอื้ออาทรห่วงใยในน้ำเสียงของธรรศ
อันที่จริงก็ไม่แปลกหรอก ใครบ้างไม่รักพฤษภา พี่สาวของหล่อนแสนอ่อนโยนปานนั้น
แต่นายนี่จะมารักแม่เสียดายลูกไม่ได้เด็ดขาด!
“คนของเสี่ยสามคนออกตามหาน้องเมย์ไปที่เขาตาดหลายวันมาแล้วที่เห็นไกลๆ นั่น แต่พวกนั้นก็หายสาบสูญไปด้วย”
“แสดงว่านายคนนั้นฝีมือไม่เลว”
“อาจจะใช่ แล้วยังมีข่าวว่าเขาเป็นเสือในซ่องโจรเสือใหญ่”
“อะไรคะ” หล่อนงงกับคำว่าซ่องโจร แม้ว่ามารดาจะสอนภาษาไทยทั้งอ่านเขียนอย่างเข้มงวด แต่หล่อนก็ไม่ได้ขยันอย่างพี่สาว จึงสับสนกับภาษาไทยในบางคำ
คำว่า ‘ซ่อง’ นี่มันหมายความว่าสถานค้าบริการทางเพศไม่ใช่หรือ
“หมายถึงรังโจร ที่ซ่องสุมของมือปืน” ธรรศอธิบายง่ายๆ สีหน้าเคร่งขรึม ภายใต้แว่นกันแดดหล่อนมองไม่เห็นแววตาเขา แถมมันยังทำให้หน้าเขาขรึมๆ เครากับหนวดจางๆ นั่นด้วย
“ถ้าอย่างนั้นพี่เมย์ก็ตกอยู่ในอันตรายอย่างมากสิคะ” น้ำเสียงหล่อนร้อนรน ใบหน้าซีดเผือด ไร้แววถือดี
“ขุนเขาเมืองกาญจน์กว้างใหญ่นัก เขาจะพาน้องเมย์ไปทางไหน เราก็ไม่รู้ได้ ที่สำคัญเสี่ยสุชาติมีอะไรปิดบังเราบางอย่าง มีแต่พ่อของคุณที่จะง้างปากเสี่ยได้”
“แต่ฉันบอกพ่อไม่ได้ พ่อกำลังมีเรื่องสำคัญมากที่ฟลอริดา ถ้าเราบอก พ่อก็ต้องทิ้งทุกอย่างมา และโดยนิสัยของพ่อคงไม่อยู่เฉยรอต่อรองกับไอ้โจรนั่น ฉันกลัวว่าพี่เมย์จะเป็นอันตราย”
“นั่นสิ ตอนนี้เราก็ได้แต่สื่อสารกับไอ้โจรนั่นผ่านเสี่ยสุชาติ มีความจริงให้เชื่อได้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่รู้ บางทีอาจเป็นการเข้าใจผิดกันก็ได้ ผมคิดว่าเราต้องหาทางติดต่อมันโดยตรง”
“ทำยังไงคะ”
เมษาเอียงคอรอคำตอบ ดวงตาสีแปลกสะท้อนแสงแดดเป็นประกายชวนมอง
“คุณรู้จักสำนวนไทย อยากได้ลูกเสือต้องเข้าถ้ำเสือไหม” เขาพูดก่อนจะหันมาคลี่ยิ้มกว้างใส่ตาสวยๆ คู่นั้น เมษาเลยขมวดคิ้วมุ่น ทำปากขมุบขมิบครุ่นคิดตาม ก่อนจะเปิดยิ้มกว้างจนสว่างไสวไปทั้งใบหน้า ร้องออกมาว่า
“อ้อ! เข้าใจแล้ว! แล้วเราจะไปถ้ำเสือกันเมื่อไหร่คะ”
“เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 เม.ย. 2562, 10:24:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 เม.ย. 2562, 10:24:35 น.
จำนวนการเข้าชม : 624
<< บทที่4 -50% | บทที่5 -40% >> |