พิศวาสทาสทราย e-book
ความรัก ความแค้นที่รอกรชำระ ณ แดนทราย
งานวิวาห์ล่มสลายไร้เจ้าสาว
อาญาที่หมายจะลงทัณฑ์กลายเป็นการทรมานที่แสนหวาน
แม้อยากครอบครอง แต่ไม่อาจแตะต้อง!!

*หมายเหตุ*
งานเขียนเรื่องนี้เคยตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ภัทรโญธินในเครืออักษรศาสตร์ วางจำหน่ายในนามปากกา "ทิตภากร"
ปัจจุบันเนื้อหาได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อความเหมาะสม วางจำหน่ายในรูปแบบ e-book เท่านั้น!! ภายใต้ในนามปากกา "กันต์ระพี"
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 2

สถานที่พำนักส่วนพระองค์ของอะมีร์เชคลาจีส บินรอฮิม มูฮาลาฟ ตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้ร่มรื่น ตัวอาคารสีขาวสะอาดตาแลโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมทันสมัยไร้ยอดโดม ซึ่งมีความแตกต่างจากพระตำหนักอื่น ทุกคนจึงขนานนามว่า ‘ตึกเหลี่ยม’

ชั้นบนสุดของตัวอาคารเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ สถานที่ต้องห้ามที่ทุกคนไม่มีสิทธิ์ก้าวล่วง แต่เวลานี้ภายในห้องกว้างมีร่างหญิงสาวในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์นอนหลับใหลไม่ได้สติบนแท่นบรรทม

“มองยังไงก็น่าทะนุถนอมมากกว่าจะทำลาย...”

เวลานี้สายพระเนตรที่ทอดมองร่างไร้สติช่างอ่อนโยนนัก เมื่อความรู้สึกบางอย่างแทรกซอนเข้ามาสั่นคลอนหทัย ทว่า...แค่ชั่วครู่เท่านั้น เสียงประท้วงจากจิตใต้สำนึกก็แว่วในภวังค์ ปลุกโทสะและความชิงชังให้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

ไม่ได้...เราจะใจอ่อนไม่ได้เด็ดขาด ผู้หญิงคนนี้ต้องชดใช้ให้นาธาน!

พระหัตถ์ที่ยื่นออกไปลูบไล้เรือนผมสลวยพลันหยุดชะงัก ความเกรี้ยวกราดอาบไล้ในดวงพระเนตรคม ขณะพาวรองค์สูงใหญ่ดำเนินออกจากห้องที่ประทับส่วนพระองค์ เสียงลั่นดานพระทวารสะท้านก้องทั้งตำหนัก ราวกับต้องการเตือนตนไม่ให้อ่อนไหวกับรูปลักษณ์ที่น่าหลงใหลนั้น...




นัฐชากะพริบตาถี่ งุนงง หลังจากรู้สึกตัวในตอนสายๆ ของวันแล้วพบว่านอนอยู่บนเตียงภายในสถานที่แปลกตา ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรมากนัก นั่นอาจเป็นเพราะห้องกว้างแห่งนี้แลสะอาดตาน่าพักอาศัย ไม่น่ากลัวหรือวังเวงเหมือนบ้านร้าง

ที่นี่ที่ไหนกัน...!?

นัฐชากวาดสายตามองไปโดยรอบ อดแปลกใจไม่ได้ เมื่อเห็นข้าวของเครื่องใช้ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ ตลอดจนผ้าม่านที่ทิ้งชายห้อยระย้าลงมาตามเสาเตียงทั้งสี่ด้าน ล้วนมีตราสัญลักษณ์อะไรบ้าง

“แปลกจัง...” คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นทีเดียว

หากลมร้อนไม่พัดผ่านมาสัมผัสผิวกายให้หันมองระเบียงด้านนอก หล่อนคงจมอยู่กับความคิดนั้นอีกนาน ครั้นเห็นอาคารน้อยใหญ่มากมายมียอดโดมเหลืองอร่าม มองผ่านๆ คล้ายดอกเห็ด หล่อนก็เอะใจขึ้นมา
หรือว่าที่นี่ไม่ใช่เมืองไทย!

อารามตกใจ นัฐชารีบถลาไปที่ประตู ไม่ทันระวัง มือข้างหนึ่งบังเอิญไปปัดกรอบรูปที่ตั้งบนโต๊ะใกล้ๆ โชคดีที่คว้าไว้ทัน ไม่เสียหาย แต่ภาพถ่ายในกรอบรูปนั้นก็ทำให้หัวคิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นอีกครั้ง

“ทำไมผู้ชายคนนี้หน้าคุ้นจัง...”

นัฐชามองภาพบุรุษหนึ่งในสองที่สวมเครื่องแบบทหาร คลับคล้ายคลับคลา แต่จำไม่ได้ว่าเคยเห็นหน้าที่ไหนมาก่อน ขณะครุ่นคิดอยู่นั้นเอง จู่ๆ ประตูห้องก็เปิดผาง พาร่างสูงของใครบางคนก้าวเข้ามา

“นั่นคุณทำอะไร!”

นัฐชาสะดุ้งสุดตัว สายตาตื่นๆ มองเจ้าของคำถามสลับกับภาพถ่ายในกรอบรูป

“เอ่อ คือฉัน...”

“ผมถามไม่ได้ยินหรือไง!” เสียงกร้าวตะเบ็งขึ้นเกือบจะเป็นตะคอก

อารามตกใจ นัฐชาเผลอปล่อยกรอบรูปในมือร่วงหล่นพื้น พลันนึกขึ้นมาได้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร สองเท้าก็ถอยกรูดโดยอัตโนมัติ

“คุณทำลายงานแต่งงานฉันด้วยวิธีโสมมยังไม่พออีกหรือไง ทำไมต้องจับฉันมาด้วย!” นัฐชาพูดไปพลางก็หันรีหันขวางหาทางหนี ใจคอไม่ดี เมื่อเห็นเขาย่างสามขุมเข้าหา หล่อนก็ขู่ฟ่อทีเดียว “อย่าเข้ามานะ! บอกว่าอย่าเข้ามาไง ไม่อย่างนั้น...ฉันร้องจริงๆ ด้วย”

“ก็เอาสิ...อยากร้องแรกแหกกระเชอให้ดังแค่ไหนก็เชิญ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ใครหน้าไหนจะกล้าขึ้นมาช่วยคุณ!” คนท้าทายแสยะยิ้ม พลางคว้าจับข้อมือเรียวเล็กแล้วออกแรงกระชากเพียงน้อยนิด ร่างบอบบางก็เซซวนเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนอย่างง่ายดาย

“นี่ปล่อยฉันนะ!”

“อย่ามาสั่งผม!” น้ำเสียงนั้นเกรี้ยวกราดพอๆ กับนัยน์ตาที่ฉายแววกระด้าง

“คุณก็ปล่อยฉันสิ จะมากอดรัดฉันทำไม ไม่รู้หรือไง การกักขังหน่วงเหนี่ยวมันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย”

“กฎหมายเมืองไทยก็เอาไว้ใช้ที่ไทย ที่นี่...คาร์ลซัส คุณต้องทำตามคำสั่งผม!”

“ไม่! มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง”

“ผิดถูกผมเป็นคนตัดสินใจ ห้ามโต้แย้ง!”

“นี่คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาบงการชีวิตฉัน ถ้าฉันหนีไปได้ละก็ ได้เห็นดีกันแน่!”

“ก็เอาสิ...” คนท้าทายไหวไหล่ ความมั่นอกมั่นใจสะท้อนในดวงตาคม เสมือนหนึ่งจะบอกว่าต่อให้หล่อนมีปีกก็หนีไม่พ้น! “ผมก็อยากรู้เหมือนกัน คุณจะทำอะไรได้”

นัฐชากัดฟันกรอดทีเดียว นึกหมั่นไส้ในท่าทีดังกล่าว แต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้ ไม่แน่ใจว่าชายผู้นี้เป็นพวกนอกรีตที่ชอบทำตัวเย้ยกฎหมาย หรือเป็นอาชญากรข้ามชาติกันแน่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หล่อนต้องหาทางเอาตัวรอดให้ได้

“นี่คุณเป็นผู้ชายประสาอะไร ไม่ละอายใจที่รังแกผู้หญิงบ้างเลยหรือไง”

“ผมว่าคนที่ควรละอายใจน่าจะเป็นคุณมากกว่า...ไม่ใช่ผม!”

“ฉันเนี่ยนะ?” คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น พยายามนึกทบทวน ไม่รู้ว่าตัวเองทำเรื่องแย่ๆ อย่างที่เขาตำหนิตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ไหนกัน...

“อย่ามาตีหน้าซื่อหน่อยเลย คุณทำเรื่องเลวร้ายอะไรไว้ย่อมรู้แก่ใจดี”

“ฉันจะรู้ได้ยังไง ในเมื่อตอนนี้ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพูดเสียด้วยซ้ำ”

“ถ้าอย่างนั้นก็มานี่!” ชายหนุ่มกระชากแขนเรียว ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะขัดขืนฝืนตัว หรือส่งเสียงประท้วง ทันทีที่เดินมาหยุดหน้าเตียงกว้าง เขาก็เหวี่ยงร่างบางอย่างไม่แยแส

“คนบ้า! คุณกล้าดียังไงมาทำกับฉันอย่างนี้” นัฐชาผุดลุกขึ้นนั่งหน้ามุ่ย สายตาจิกกัดตวัดมองอย่างไม่เป็นมิตร เกลียดนักคนหยาบคาย ทว่า...

“หุบปาก...!!” เสียงดุดันคำรามกร้าว ขณะหยิบแพรพรรณที่จัดเตรียมไว้บนโต๊ะข้างเตียงมายื่นให้ตรงหน้า
“เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ ผมไม่มีเวลามาเล่นเกมยี่สิบคำถาม”

“ไม่...ฉันจะกลับ คุณต้องพาฉันกลับเมืองไทยเดี๋ยวนี้!” นัฐชาปัดเสื้อผ้าในมือชายหนุ่ม นัยน์ตาวาวโรจน์จ้องเขม็ง บ่งบอกว่าไม่เกรงกลัวและพร้อมจะต่อกรกับเขา

“คุณไม่มีสิทธิ์ต่อรอง ผมสั่งให้เปลี่ยน คุณก็ต้องทำตามนั้น”

“ไม่...ไม่ได้ยินหรือไง!”

“นี่จะไม่ยอมเปลี่ยนดีๆ ใช่ไหม”

คราวนี้นัฐชาไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ นอกจากตวัดสายตามองเจ้าของคำถามที่ยืนจังก้า พลางปัดเสื้อผ้าที่เขายื่นให้อีกครั้งแทนคำตอบ โดยหารู้ไม่ว่ากำลังยั่วยุโทสะอีกฝ่ายให้กรุ่นโกรธเป็นทวีคูณ

“ได้...แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน!” เสียงที่เค้นลอดไรฟันไม่มีความเป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย ไม่ต่างจากท่าทางที่ย่างสามขุมเข้าหา

นัฐชาเห็นท่าไม่ดี ก็ถดตัวหนีแล้วทำท่าจะกระโจนไปอีกฟากหนึ่งของเตียง แต่ถูกเขาจู่โจมด้วยการโถมเข้าหาทั้งตัวเสียก่อน ซ้ำยังใช้ร่างกายใหญ่โตทาบทับพันธนาการหล่อนไว้

"คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ!”

“ผมปล่อยแน่ แต่นั่นต้องหลังจากที่จัดการกับเสื้อผ้าคุณก่อน”



กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 เม.ย. 2562, 10:28:06 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 เม.ย. 2562, 10:28:06 น.

จำนวนการเข้าชม : 634





<< ตอนที่ 1   ตอนที่ 3 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account