พิศวาสทาสทราย e-book
ความรัก ความแค้นที่รอกรชำระ ณ แดนทราย
งานวิวาห์ล่มสลายไร้เจ้าสาว
อาญาที่หมายจะลงทัณฑ์กลายเป็นการทรมานที่แสนหวาน
แม้อยากครอบครอง แต่ไม่อาจแตะต้อง!!

*หมายเหตุ*
งานเขียนเรื่องนี้เคยตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ภัทรโญธินในเครืออักษรศาสตร์ วางจำหน่ายในนามปากกา "ทิตภากร"
ปัจจุบันเนื้อหาได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อความเหมาะสม วางจำหน่ายในรูปแบบ e-book เท่านั้น!! ภายใต้ในนามปากกา "กันต์ระพี"
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 3

“คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ!”

“ผมปล่อยแน่ แต่นั่นต้องหลังจากที่จัดการกับเสื้อผ้าคุณก่อน”

“นี่อย่านะ! หยุด...หยุดสิ! หยุดเดี๋ยวนี้!”

นัฐชาตกใจแทบสิ้นสติ ไม่คิดว่าเขาจะลงมือฉีกทึ้งเสื้อผ้าหล่อนหน้าตาเฉย สองมือก็ผลักไสและปัดป้องเป็นพัลวัน สู้ยิบตา แต่แรงหญิงหรือจะสู้พละกำลังชาย ไม่นานนัก...ชุดเจ้าสาวที่สวมใส่ก็ขาดวิ่น กระจัดกระจายเกลื่อนพื้น

สงครามเล็กๆ ยุติลงท่ามกลางเสียงสะอื้นไห้ คนพ่ายแพ้อย่างนัฐชานอนคุดคู้ตัวงอเป็นกุ้ง ทั้งโกรธ ทั้งอาย แต่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากพยายามปกปิดเนื้อตัวที่เวลานี้มีเพียงชุดชั้นในลูกไม้ติดกายเท่านั้น

“ใส่ซะ...!!”

คนได้รับชัยชนะคำรามกร้าว พลางยื่นเสื้อผ้าให้อีกครั้ง ไม่มีคำขอลุแก่โทษใดหลุดจากปากเขา ราวกับว่าไม่ได้กระทำความผิด แต่มีสิทธิ์จะควบคุมและบงการผู้อยู่ใต้อาณัติอย่างหล่อน!

“คนเลว...”

คำต่อว่าต่อขานเจือสะอื้นไห้นั้นบาดลึกเข้าไปในจิตใจคนฟัง นัยน์ตาดุดันพลันอ่อนแสงลง เมื่อเห็นแผ่นหลังเปลือยเปล่าสะท้านไหว เขาก็ลอบถอนหายใจออกมา รู้สึกผิดและนึกตำหนิตัวเอง ไม่รู้ว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่
วูบหนึ่งที่ความสงสารเห็นใจเข้ามาสั่นคลอนจิตใจ เขาก็เผลอไผลยื่นมือออกไปโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่ทันได้รั้งตัวคนสะอื้นไห้เข้ามากอดปลอบประโลมก็ต้องชะงัก เมื่อถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมาผุดขึ้นในความคิด

.ชีคนาธานทรงประสบอุบัติเหตุกลายเป็นเจ้าชายนิทราอย่างนี้ ชีคคาคงรับไม่ได้ ไม่อยากดูแลเลยหนีไปก็เป็นได้พระเจ้าค่ะ

...ชีคคามักจะเสด็จออกจากวังโดยไม่มีผู้ติดตามอยู่บ่อยครั้งพระเจ้าค่ะ ใครๆ ก็พูดกันว่าชีคคาลอบออกไปหาชายอื่น

ชายหนุ่มคิดมาถึงตรงนี้ก็สบถออกมาในภาษาท้องถิ่น นัยน์ตาคมที่อ่อนแสงลงเมื่อครู่ฉายแววดุดันอีกครั้ง ขณะกระชากเรียวแขนหญิงสาว

“ไม่ได้ยินที่ผมสั่งหรือไง...ใส่เสื้อผ้าซะ!”

นัฐชาผินหน้ามอง พลางกัดริมฝีปากตัวเองจนเจ็บ นึกชิงชังชายผู้นี้นัก เขาทำตัวราวกับเป็นเจ้าชีวิต ทั้งกักขฬะ หยาบคายและดุร้าย ชีวิตหล่อนต้องพังภินท์เพราะน้ำมือเขา ซ้ำร้ายเรือนกายก็มีอันต้องเขียวช้ำ มัวหมอง เพราะการกระทำจาบจ้วงของเขา

“ฉันเกลียดคุณ คนสารเลว!”

นัฐชาระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างเหลืออด คับแค้นใจนัก ก็โถมตัวเข้าทุบตีเขาไม่ยั้ง ทว่า...คนถูกประทุษร้ายไม่สะทกสะท้าน ซ้ำยังรวบจับข้อมือเรียวแล้วออกแรงบิดอย่างรู้หลัก เพียงเท่านั้น...นัฐชาก็น้ำตาร่วงแหมะ

“โอ๊ยย...ฉันเจ็บนะ!”

“ทีหลังก็อย่าคิดร้ายอีก” ชายหนุ่มคลายมือออกแล้วผลักคนทำหน้าเหยเกออกห่างตัว ถึงกระนั้นก็ไม่วายกำชับเสียงแข็ง “ถ้าไม่อยากเจ็บตัวมากกว่านี้ ก็รีบจัดการตัวเองซะ!”

นัฐชาชำเลืองมองคนข่มขู่ พลางคลำข้อมือตัวเองป้อยๆ รู้ตัวว่าสู้เขาไม่ได้ หล่อนก็ขมุบขมิบปากบริภาษในใจ แล้วฉวยเสื้อผ้าเดินกระฟัดกระเฟียดหายไปในมุมหนึ่ง...



นัฐชาใช้เวลาสวมใส่เสื้อผ้าไม่นานนัก แต่ที่ไม่ก้าวออกมาทันที เพราะยังจัดการกับกระดุมเสื้อด้านหลังไม่เรียบร้อย นั่นทำให้คนนั่งรอนานสองนานออกอาการหงุดหงิดจนต้องกระชากเสียงถามขึ้น

“แค่ใส่เสื้อผ้าไม่กี่ตัว ทำไมช้านัก!”

“คุณจะเร่งอะไรนักหนา ไม่เห็นหรือไง ฉันติดกระดุมไม่ถึง” นัฐชาบ่นงึมงำ

ฝ่ายคนออกปากเร่งเห็นหล่อนก้าวออกมาจากมุมหนึ่งด้วยท่าทางเก้กัง นึกรำคาญ ก็เดินไปจัดแจงติดกระดุมเสื้อด้านหลังให้ เสร็จสรรพก็คว้าข้อมือเรียวให้ก้าวตาม

“ไป...ไปกันได้แล้ว”

“จะพาฉันไปไหน ฉันไม่ไปกับคุณหรอก” นัฐชาขัดขืนฝืนตัว นึกหวาดระแวง ก็พยายามปลดมือแข็งๆ ที่จับข้อมือหล่อนไว้ “ปล่อยสิ! คุณไม่มีสิทธิ์มาทำกับฉันอย่างนี้”

“อย่ามากล่าวอ้างสิทธิ์ ที่นี่...ผมเป็นเจ้าชีวิต! จะสั่งเป็นสั่งตายมันผู้ใดก็ได้” เสียงนั้นเกรี้ยวกราด พอๆ กับน้ำหนักมือที่เขาบีบข้อมือเรียวเล็ก “จำเอาไว้...ตราบใดที่คุณยืนอยู่บนแผ่นดินคารล์ซัส แม้แต่ลมหายใจคุณก็เป็นของผม!”

“คุณต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่พูดอย่างนี้ออกมา ทั้งที่ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในการใช้ชีวิตอย่างอิสระ”

“แต่ไม่ใช่คุณ!”

นัฐชาจ้องคนพูดสวนกลับเขม็ง อดหวั่นใจไม่ได้ เมื่อเห็นนัยน์ตาคมวาวที่เขาใช้ฟาดฟันหล่อนแฝงความชิงชังอย่างเห็นได้ชัด หากดวงตาคู่นั้นเปรียบดั่งอาวุธมีคม เนื้อตัวหล่อนคงเป็นแผลเหวอะหวะไปทั้งตัวเป็นแน่!

“ถามจริงๆ เถอะ คุณสนุกกับการขู่บังคับฉันมากนักหรือไง”

“มันไม่ใช่เรื่องสนุก แต่เป็นสิ่งที่คุณต้องชดใช้ต่างหาก”

“ชดใช้อะไรกัน ฉันไม่เข้าใจ ถ้าคิดจะจับฉันมากักขังหรือทรมานละก็ สู้ฆ่าให้ตายไปเลยซะยังจะดีกว่า”

“อย่าท้าทายผม!” น้ำเสียงฉุนเฉียวทีเดียว ไม่ต่างจากนัยน์ตาแข็งกระด้าง “โทษตายมันยังเบาเกินไปสำหรับผู้หญิงแพศยาอย่างคุณ มันต้องตาต่อตา ฟันต่อฟันถึงจะเหมาะสม ไป...ไปกันได้แล้ว!”

“ไม่! ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันจะกลับเมืองไทย ไม่ได้ยินหรือไง!”

“หุบปาก...!!” เป็นอีกครั้งที่เสียงกร้าวคำรามก้อง พลางกระชากลากตัวหญิงสาวออกจากห้อง ไม่สนใจว่าหล่อนจะขัดขืนฝืนตัว ไม่ให้ความร่วมมือ หรือส่งเสียงประท้วงว่ากล่าวเขายังไง

ทันทีที่ลงมาชั้นล่าง ชายหนุ่มก็จ้ำพรวดๆ ออกจากตึกเหลี่ยม ไม่สนใจว่าช่วงขายาวๆ ของเขาจะแตกต่างกับหล่อน ส่งผลให้ปลายเท้าของคนก้าวตามไม่ทันนั้นพันกัน สะดุดหกล้มหน้าคะมำ

“โอ๊ยย...ย!” นัฐชาทำหน้าเหยเก ครั้นรับรู้ถึงแรงกระชากเชิงเร่งเร้าก็ฝืนตัวต้านไว้ แต่ยิ่งต่อต้านขัดขืนมากเท่าไหร่ มือแข็งราวคีมเหล็กของเขาก็ยิ่งลงน้ำหนักบีบรัดข้อมือหล่อนมากขึ้นเท่านั้น “นี่...ฉันเจ็บนะ!”

“อย่ามาสำออย ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!” ชายหนุ่มออกคำสั่งกร้าว

แม้นัฐชาจะไม่ค่อยพอใจนัก แต่ความเจ็บแปลบที่มาเยือนจากแรงกระชาก ก็ทำให้หล่อนต้องลุกขึ้นเดินตามคนบีบบังคับ จำยอมรับความพ่ายแพ้โดษดุษณี

ระหว่างทางที่เดินผ่านบึงบัวใหญ่ นัฐชาเห็นผู้คนมากมายก็สบโอกาสเหมาะ รีบตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครสนใจเลยสักคน ทั้งที่ก็เห็นว่าชายกักขฬะผู้นี้กำลังฉุดกระชากลากตัวหล่อน ราวกับว่าไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะเข้ามาก้าวกาย

“แปลกจัง...” นัฐชาพึมพำเสียงเบา เมื่อเห็นแต่ละคนก้มหน้าก้มตาทำหูทวนลม ก็อดคิดไม่ได้ว่าคนที่นี่เป็นอะไรกันไปหมด หล่อนมัวแต่งุนงง ไม่ทันสังเกตว่าถูกลากตัวเข้ามาในตึกกลางเก่ากลางใหม่



กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 เม.ย. 2562, 20:41:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 เม.ย. 2562, 20:41:23 น.

จำนวนการเข้าชม : 595





<< ตอนที่ 2   ตอนที่ 4 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account