พิศวาสทาสทราย e-book
ความรัก ความแค้นที่รอกรชำระ ณ แดนทราย
งานวิวาห์ล่มสลายไร้เจ้าสาว
อาญาที่หมายจะลงทัณฑ์กลายเป็นการทรมานที่แสนหวาน
แม้อยากครอบครอง แต่ไม่อาจแตะต้อง!!

*หมายเหตุ*
งานเขียนเรื่องนี้เคยตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ภัทรโญธินในเครืออักษรศาสตร์ วางจำหน่ายในนามปากกา "ทิตภากร"
ปัจจุบันเนื้อหาได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อความเหมาะสม วางจำหน่ายในรูปแบบ e-book เท่านั้น!! ภายใต้ในนามปากกา "กันต์ระพี"
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 5

“ใครมายืนร้องไห้แถวนี้?” นัฐชาพึมพำ พลางชะเง้อชะแง้มองที่มาของเสียง ครั้นเห็นเงาวูบไหวหลังต้นไม้ใหญ่ หล่อนก็สาวเท้าเข้าไปใกล้

“ใคร...ฉันถามว่าใครอยู่ตรงนั้น!”

ทันทีที่นัฐชาส่งเสียงถามออกไป ภาพตรงหน้าก็พร่าเลือนไปพร้อมกับการรับรู้ถึงเสียงเรียกและแรงสั่นสะเทือนที่ทำให้หลุดจากห้วงแห่งความฝันนั้น

“รอบิเยาะห์...” นัฐชากะพริบถี่ เมื่อเห็นนางกำนัลสาวเขย่าตัวพร้อมทั้งเรียกชื่อหล่อนนั่งอยู่ข้างๆ หล่อนก็ขยับตัวเร็วลุกขึ้นนั่งกุมขมับ ปวดร้าวไปทั้งศีรษะ “ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ได้ แล้วเสียงเมื่อกี้...”

“เสียง...เสียงอะไรเหรอเพคะ?” รอบิเยาะห์ขมวดคิ้วมุ่น นึกฉงนขึ้นมาครามครัน “หม่อมฉันไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย”

“ก็เสียงร้องไห้ไง ใครก็ไม่รู้ร้องไห้อยู่หลังต้นไม้”

“ต้นไม้อะไรกันเพคะ ในห้องนี้มีต้นไม้ที่ไหนกัน แล้วนอกจากหม่อมฉันก็ไม่มีผู้ใด”

“นี่ฉันฝันไปหรือเนี่ย” นัฐชารำพึงรำพันกับตัวเอง

ครั้นเห็นนางกำนัลยื่นมือมาอังศีรษะแล้วหันไปหยิบยาลดไข้กับแก้วน้ำมายื่นให้ ท่าทางเป็นห่วงเป็นใย หล่อนก็ส่งยิ้มอย่างมีไมตรี

“ขอบใจนะรอบิเยาะห์”

“รีบเสวยเถอะเพคะ พระวรกายรุมๆ ยังมีไข้ต่ำ”

“อืม...” นัฐชาทำตามอย่างว่าง่ายแล้วส่งแก้วน้ำคืนให้นางกำนัลสาว “ต่อไป...เธอไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์หรอก แค่พูดธรรมดาแล้วเรียกฉันว่านัฐชาก็พอ”

“ไม่ได้หรอกเพคะ ชีคคาเป็นชายาของชีคนาธาน...”

“ไม่ใช่สักหน่อย!” นัฐชาท้วงทันควัน ครั้นเห็นรอบิเยาะห์มองมาราวกับจะถามว่าหล่อนสติเลอะเลือนไปแล้วหรือไง ก็พลันนึกขึ้นมาได้ว่าคงไม่มีใครเชื่อหล่อน “เอ่อ...คือฉันหมายถึงว่าเธอไม่ควรเรียกฉันว่าชีคคาอีก ไม่อย่างนั้นอาจจะเดือดร้อน ถ้าผู้ชายคนนั้นมาได้ยินเข้า”

“ผู้ชายคนนั้น...ชีคลาจีสเหรอเพคะ?”

“นั่นแหละๆ เขานั่นแหละตัวดีเลย”

“มีรับสั่งอย่างนี้ไม่งามเลยนะเพคะ ถ้าไม่อยากขานพระนามชีคลาจีสตรงๆ ก็ควรเรียกพระองค์ว่าฝ่าบาท”

“เอาเถอะๆ ฉันจะจำไว้ แต่ตอนนี้เราอยู่กันแค่สองคนเองนี่นา แล้วเธอก็ได้ยินที่เขาพูดแล้วไม่ใช่เหรอ นี่ถ้าเธอต้องถูกทำโทษเพราะฉันละก็ ฉันคงไม่สบายใจแน่ๆ” นัฐชาหลุบสายตาลงต่ำ พลางลอบยิ้ม อย่างน้อย...หล่อนก็แก้ต่างหาทางเอาตัวรอดจนได้

“ก็ได้ค่ะ”

“ดีแล้ว เพราะฉันเองก็ไม่ค่อยถนัดเรื่องคำราชาศัพท์” นัฐชาพูดไปพลางก็ชำเลืองมอง ครั้นนางกำนัลสาวมีสีหน้าฉงน หล่อนก็กวักมือไหวๆ ให้เข้ามาใกล้ คิดจะหลอกถามข้อมูล ก็แสร้งทำทีกระซิบกระซาบออกไปด้วยคำโป้ปด “นี่ฉันเห็นว่าเธอดีกับฉันหรอกนะ เอาเป็นว่า...ฉันจะบอกความลับให้อย่าง พอดีว่าก่อนเดินทางมาที่นี่ ฉันประสบอุบัติเหตุก็เลยหลงๆ ลืมๆ อะไรไปหลายอย่างน่ะ”

“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง มิน่าล่ะ เธอถึงดูแปลกๆ ไป ไม่เหมือนตอนที่อยู่ที่นี่”

“เธอรู้อย่างนี้แล้ว จะช่วยฉันทบทวนความจำหน่อยได้ไหม”

“ได้สิ เอาเป็นว่า...ฉันจะเล่าเรื่องที่นี่ให้ฟังคร่าวๆ ก็แล้วกัน” รอบิเยาะห์ขันอาสา

ไม่นานนัก...ข้อมูลต่างๆ ก็หลุดจากปากนางกำนัลสาว นั่นทำให้นัฐชาทราบว่าชาวคาร์ลซัสพูดได้หลายภาษา ไม่ว่าจะเป็นภาษาคาร์ลที่เป็นภาษาท้องถิ่น หรือภาษาอังกฤษที่ใช้สื่อสารในการค้าขาย

ส่วนข้าราชบริพารในวังต้องฝึกฝนภาษาไทยเพิ่มเติม เนื่องจากชีครอฮิมทรงอภิเษกสมรสกับหญิงสาวชาวไทย พระองค์ไม่ประสงค์ให้ผู้ใดปิดบังข้อความกับพระชายาอันเป็นที่รัก จึงโปรดให้จ้างอาจารย์มาสอนภาษาไทยเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการสนทนา นั่นทำให้ชีคลาจีสกับชีคนาธานสามารถพูด อ่าน เขียนภาษาไทยได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นภาษาบ้านเกิดของพระมารดา

แม้นัฐชาจะนั่งฟังเรื่องต่างๆ อย่างเงียบๆ แต่ก็รับรู้ได้ว่ารอบิเยาะห์ชื่นชอบชีคลาจีสไม่น้อย บ่อยครั้งที่นางกำนัลผู้นี้มักจะเอ่ยปากชม ราวกับเห็นเขาเป็นเทพบุตร ทั้งที่นัฐชาแอบเบ้ปากอย่างนึกหมั่นไส้อยู่ในใจ

“วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน แล้ววันหลังจะเล่าให้ฟังอีก” รอบิเยาะห์เอ่ยขึ้นในที่สุด

นัฐชาเองก็ไม่คิดจะท้วงติงอะไร เพราะเวลานี้ยาที่ทานเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์ ตาหล่อนจะปิดเสียให้ได้ ถึงแม้จะมีคำถามมากมายผุดขึ้นในใจ ใคร่รู้ว่าชีคคาตัวจริงหายไปไหน...ไปหลบซ่อนอยู่ที่ใด หรือจะเป็นจริงอย่างที่ทุกคนโจษขาน!



อรุโณทัยเลื่อนสลับจับขอบฟ้า ประตูห้องพักของนางกำนัลสาวก็เปิดผาง พาร่างสูงสง่ามาประทับยืนจังก้าหน้าเตียงนอนของนัฐชาที่ยังคงหลับตาพริ้ม ไม่รับรู้ถึงการมาเยือนของผู้สูงศักดิ์ จะมีก็แต่รอบิเยาะห์เท่านั้นที่สะดุ้งตื่นเพราะตกใจ

“ฝ่าบาท...!!”

“เหตุใดจึงปล่อยให้นางนอนตื่นสายเช่นนี้!” พระสุรเสียงกร้าวตวาดก้อง ขณะตวัดสายพระเนตรมองนางกำนัลที่กระวีกระวาดลงจากเตียงมานั่งก้มหน้างุด

“เอ่อ คือหม่อมฉัน...”

“ไปเอาน้ำมา!”

“น...น้ำเหรอเพคะ” รอบิเยาะห์ละล่ำละลัก ตัวสั่นงันงก

“ไม่ได้ยินที่สั่งหรือไง...ไปเอาน้ำมา!” คราวนี้มีรับสั่งเกือบจะเป็นตะคอกทีเดียว

รอบิเยาะห์ก็ยิ่งลนลาน ทำอะไรไม่ถูก คนโมโหโกรธาเห็นแล้วไม่ได้ดั่งใจ ก็เดินไปคว้าเหยือกน้ำบนโต๊ะตัวเล็กข้างเตียงแล้วสาดใส่ร่างหญิงสาวที่ยังนอนหลับตาพริ้ม

“อะไรเนี่ย!” นัฐชาสะดุ้งตื่น หน้าตาเลิกลั่ก งุนงงที่จู่ๆ ก็เปียกปอน

รอบิเยาะห์เองก็ชะงักค้าง ตกใจไม่แพ้กัน แต่ก็นึกสาแก่ใจอยู่ลึกๆ เพราะชิงชังกึ่งริษยาหญิงสาวชาวไทยที่จับพลัดจับผลูได้อภิเษกสมรสกับชีคนาธาน ทั้งที่หล่อนยอมพลีกายถวายตัวให้กษัตริย์หนุ่มมานาน แต่กลับไม่ได้รับตำแหน่งใดให้เชิดหน้าชูตา

รอบิเยาะห์คับแค้นใจในเรื่องนี้นัก นอกจากจะไม่ได้นั่งบัลลังก์เคียงข้างกษัตริย์หนุ่ม หล่อนยังต้องถวายงานตามที่มีรับสั่งเรียกหาในทุกค่ำคืน จนกระทั่งชีคนาธานทรงประสบอุบัติเหตุกลายเป็นเจ้าชายนิทรา หล่อนก็เปลี่ยนเป้าหมาย คิดจะจับชีคลาจีสให้อยู่หมัด ตามประสาคนมักใหญ่ใฝ่สูง

ถึงกระนั้นก็ไม่กล้าผลีผลามใช้จริตมารยายั่วยวนซึ่งหน้า เพราะชีคลาจีสหาได้ฝักใฝ่หรือมีจิตลุ่มหลงในกามรมณ์เฉกเช่นพระอนุชานาธาน หล่อนจำเป็นต้องหาโอกาสใกล้ชิดอย่างแยบยล โดยการวางตัวให้เหมาะสมและเสแสร้งแสดงตนเป็นคนดีมีน้ำใจ เพื่อให้ชีคลาจีสทรงเล็งเห็นและเรียกใช้อย่างไว้วางพระทัย

“เธอเป็นอะไรไหม รีบเช็ดหน้าเช็ดตาก่อนเถอะ” รอบิเยาะห์รีบฉวยผ้าแล้วถลาเข้าไปซับน้ำตามเนื้อตามตัวให้นัฐชา แสร้งทำทีเป็นห่วงใยหญิงที่ชังน้ำหน้า

“ฉันไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะรอบิเยาะห์” นัฐชาฝืนยิ้ม ครั้นตวัดสายตามองคนที่สาดน้ำใส่ตนแล้วเห็นยังยืนนิ่ง ไม่สะทกสะท้าน หล่อนก็แผดเสียงออกมาอย่างกรุ่นโกรธ “คุณทำอย่างนี้ทำไม หรือเห็นเป็นเรื่องสนุก!”



กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 เม.ย. 2562, 11:57:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 เม.ย. 2562, 11:57:22 น.

จำนวนการเข้าชม : 669





<< ตอนที่ 4   ตอนที่ 6 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account