พิศวาสทาสทราย e-book
ความรัก ความแค้นที่รอกรชำระ ณ แดนทราย
งานวิวาห์ล่มสลายไร้เจ้าสาว
อาญาที่หมายจะลงทัณฑ์กลายเป็นการทรมานที่แสนหวาน
แม้อยากครอบครอง แต่ไม่อาจแตะต้อง!!

*หมายเหตุ*
งานเขียนเรื่องนี้เคยตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ภัทรโญธินในเครืออักษรศาสตร์ วางจำหน่ายในนามปากกา "ทิตภากร"
ปัจจุบันเนื้อหาได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อความเหมาะสม วางจำหน่ายในรูปแบบ e-book เท่านั้น!! ภายใต้ในนามปากกา "กันต์ระพี"
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 6

“ฉันไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะรอบิเยาะห์” นัฐชาฝืนยิ้ม ครั้นตวัดสายตามองคนที่สาดน้ำใส่ตนแล้วเห็นยังยืนนิ่ง ไม่สะทกสะท้าน หล่อนก็แผดเสียงออกมาอย่างกรุ่นโกรธ “คุณทำอย่างนี้ทำไม หรือเห็นเป็นเรื่องสนุก!”

“คิดว่าผมล้อเล่นอยู่หรือไง ถ้ายังพูดจาไม่เจียมตนว่าอยู่ในฐานะอะไร จะถูกลงโทษหนักกว่านี้!”

รอบิเยาะห์ได้ยินคำเตือนของผู้สูงศักดิ์ก็อดหวั่นใจไม่ได้ กลัวจะโดนหางเลขไปด้วย ก็รีบหันไปเขย่าแขนนัฐชาเชิงเตือนสติ

“เรียกฝ่าบาทสิ ไม่เห็นเหรอว่าทรงกริ้วแล้ว”

“ก็ได้ๆ” นัฐชาพูดออกไปอย่างตัดความรำคาญ พลางเชิดหน้าขึ้นแล้วปรายตามองคนวางท่าเย่อหยิ่ง “ฝ่าบาทไม่เคยสดับเหรอเพคะว่าคนไม่รู้ย่อมไม่ผิด...”

“บังอาจ! กล้าดียังไงมาต่อปากต่อคำ”

“ก็หม่อมฉันไม่ได้เป็นคนผิดนี่เพคะ ฝ่าบาทต่างหากที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ทรงสาดน้ำใส่หม่อมฉัน...”

“อวดดี! ทั้งที่เป็นการลงโทษยังจะพูดจาสามหาว ถ้ายังไม่สำนึกก็มานี่!” นัยน์เนตรดำขลับฉายฉานโทสะ ขณะกระชากท่อนแขนหญิงสาวแล้วลากตัวออกจากห้องอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“ฝ่าบาทจะพาหม่อมฉันไปไหน ปล่อยนะเพคะ...ปล่อยสิ!” นัฐชาประท้วง แต่ไร้ผล

เวลานี้สองเท้าเปลือยเปล่าของหล่อนเจ็บระบมไปหมด นอกจากก้าวตามร่างสูงไม่ทัน บ่อยครั้งที่สะดุดปลายเท้าตัวเอง ล้มลุกคลุกคลานถูไถกับพื้นถนน เศษหินทิ่มตำเรียวขาสวยทิ้งรอยครูดเป็นทางยาว

“โดดลงไป...เดี๋ยวนี้!” รับสั่งกร้าวดังก้อง เมื่อลากตัวหญิงสาวมายืนอยู่หน้าบึงบัวใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างตำหนักเหลี่ยมกับพระตำหนักใหญ่

“ไม่...ยังไงหม่อมฉันก็ไม่กระโดดลงไปหรอก!” นัฐชาปฏิเสธเสียงแข็ง พลางกระชากท่อนแขนกลับอย่างแรง เวลานี้ต่อให้ถูกเฆี่ยนตีปางตาย หล่อนก็ไม่ขอเฉียดกายเข้าใกล้บ่อบัวเป็นอันขาด เพราะยังฝังใจกับความซุกซนสมัยยังเยาว์วัยที่เกือบจะสังเวยชีวิตกับสายน้ำ

“แต่ผมสั่ง...คุณต้องทำ!”

“ไม่เพคะ!”

“ถ้ายังดื้อด้าน ผมจะจับคุณโยนลงไปเดี๋ยวนี้!”

“อย่านะเพคะ ได้โปรดเถอะ...อย่าบังคับหม่อมฉันเลย” นัฐชาวิงวอนเสียงสั่น สะอื้นไห้ ทั้งที่ตั้งใจว่าจะไม่แสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น แต่ไม่อาจเก็บซ่อนความรู้สึกหวาดกลัวนั้นไว้ได้

“อย่ามาวอนขอทั้งที่ยังไม่สำนึก!” ฝ่าพระหัตถ์ตะปบท่อนแขนเรียว ทำท่าจะเหวี่ยงตัวหญิงสาวลงไปในบึงบัวใหญ่อย่างที่มีรับสั่งเมื่อครู่ ทว่า…คนหวาดกลัวใช้ฟันคมๆ งับลงบนข้อพระกรเสียก่อน

“โอ๊ยยย...ย! ให้ตายสิ!” เสียงสบถเกรี้ยวกราดเล็ดลอดจากริมพระโอษฐ์ ขณะพระหัตถ์แข็งราวคีมเหล็กนั้นคลายออกจากท่อนแขนหญิงสาวโดยอัตโนมัติ

นัฐชาก็ออกวิ่งทันที ไม่คิดจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกต่อไป ทว่า...ความว่องไวของสตรีหรือจะสู้บุรุษ สองเท้าของหล่อนวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวเท่านั้น ก็ถูกคนที่วิ่งตามรวบตัวและตรึงไว้ให้อยู่กับที่

“คิดว่าจะหนีพ้นอย่างนั้นเหรอ...ไม่มีทาง!” เสียงสรวลกระหึ่มในลำพระศอ ขณะยกร่างหญิงสาวขึ้นพาดพระอังสา ทรงทำราวกับว่าหล่อนเป็นสิ่งของที่ไม่มีชีวิตจิตใจ

“ปล่อยหม่อมฉันนะเพคะ ปล่อยสิ!” นัฐชาดิ้นขลุกขลัก ทุบตีเป็นพัลวัน

แต่ร่างหนาหนั่นไม่สะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย ทันทีที่เดินกลับมายืนหน้าบึงบัวใหญ่ เขาก็โยนหล่อนลงน้ำอย่างไม่แยแส

“จำเอาไว้...เป็นแค่ข้าทาสอย่าบังอาจตื่นสาย ถ้ายังอิดออดอีกละก็ คุณจะถูกลงโทษจนกว่าจะตื่นเช้ากว่าผม!” สายพระเนตรที่ทอดมองแลเย็นชานัก ทั้งที่เวลานี้ร่างที่ทะลึ่งพรวดขึ้นมาเหนือน้ำสำลักจนไอโขลก

“ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย! ใครก็ได้ช่วยฉันที!”

“ไม่มีใครช่วยคุณได้หรอก คุณต้องสำนึกผิดอยู่ในน้ำนั่น จนกว่าผมจะอนุญาตให้ขึ้นมา!” เสียงกร้าวตะโกนก้อง ยืนมองอย่างไม่แยแส

“ได้โปรด...ช่วยฉันด้วย! ช่วยฉันที ฉันว่ายน้ำไม่เป็น! ช่วยด้วย...”

แม้นัฐชาจะส่งคำวิงวอนเฮือกสุดท้ายอย่างคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่ชีคลาจีสก็ยังประทับยืนนิ่ง ไม่เชื่อคำพูดนั้น จนกระทั่งร่างผลุบๆ โผล่ๆ ที่ตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดอยู่กลางบึงบัวจมหายไปต่อหน้าต่อตา

“มันไม่ตลกเลยนะ คิดว่าทำอย่างนี้แล้วผมจะยกโทษให้อย่างนั้นเหรอ คุณหลอกผมไม่ได้หรอก!” พระเนตรดำขลับกวาดมองผืนน้ำ ไม่อยากเป็นคนโง่ในสายตาหญิงสาว ครั้นรออยู่ครู่หนึ่ง หล่อนก็ไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำก็เอะใจขึ้นมา

“ไม่...ไม่นะ!!”

พระสุรเสียงแผดก้องเจือความตื่นตระหนก ร้อนพระทัยขึ้นมา ก็ไม่รอช้าที่จะกระโจนลงไปในบึงบัวใหญ่ ทรงดำผุดดำว่ายและควานหาร่างที่จมหายไปกับสายน้ำ จนกระทั่งได้ตัวหญิงสาวขึ้นมา ก็ทรงยื้อชีวิตด้วยการทำซีพีอาร์ ซ้ำๆ แต่ร่างเย็นชื้นก็ยังนอนแน่นิ่ง

“ฟื้นสินัฐชา ได้ยินไหม! ผมสั่งให้คุณหายใจ...หายใจเดี๋ยวนี้!” มีรับสั่งราวกับคนเสียสติ ความสิ้นหวังคืบคลานเข้ามาเกาะกินหทัย พระพักตร์หม่นหมองแลหมองมัว

ความรู้สึกลึกๆ นั้นไม่ต่างจากคนที่สูญเสียของรัก พระหทัยก็เหมือนจะขาดรอนเสียให้ได้ อัสสุชลคลอดวงพระเนตรไหลริน ในจังหวะนั้นเอง...ร่างที่นอนแน่นิ่งก็สำลักน้ำออกมา มีปฏิกิริยาตอบสนองการมีชีวิต ราวกับว่าไม่กล้าขัดพระบัญชาของพระองค์

“โอ้ว...พระเจ้า! คุณปลอดภัยแล้ว”

ชีคลาจีสทรงรั้งร่างนัฐชาเข้ามาแนบพระอุระ พลางประทานจุมพิตบนหน้าผากมนแล้วช้อนร่างเข้าสู่อ้อมพระพาหาพากลับพระตำหนักเหลี่ยม ปิติยินดีนัก ไม่ต่างจากคนทำของหายแล้วได้คืน โดยมิทรงทราบว่ามีสายตาคู่หนึ่งลอบมองด้วยความริษยา!




กันต์ระพี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 เม.ย. 2562, 21:20:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 เม.ย. 2562, 21:20:15 น.

จำนวนการเข้าชม : 629





<< ตอนที่ 5   ตอนที่ 7 >>
วนัน 21 เม.ย. 2562, 19:29:11 น.
แอบมองหรือ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account