ฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
'พฤษภา' สาวสวยผู้อ่อนหวาน ทายาทผู้พี่ของตระกูลมาเฟียคูเปอร์สไตน์เดินทางมาเมืองไทยเพื่อดูแลญาติผู้ใหญ่ของมารดาที่ล้มป่วย หล่อนไม่รู้เลยสักนิดว่าได้เดินเข้าสู่อุ้งมืออันหยาบกร้านของ 'เสือ' หรือ 'พยัคฆ์' วีรกาญจน์ ทายาทนายเหมืองที่เพิ่งฆ่าตัวตายไปเพราะภรรยาแอบเล่นชู้กับสามีของเศรษฐีนีผู้เป็นญาติของหล่อน พยัคฆ์ฉุดกระชากลากถูพฤษภาเข้าไปในป่าลึกด้วยความแค้น เขาคิดจะใช้หล่อนเรียกร้องความยุติธรรมให้ครอบครัว
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: เสือ ป่า พี่น้อง เซ็กซี่ ละมุน เถื่อน เชลย คุณหนู มาเฟีย บู๊ ครอบครัว
ตอน: บทที่16 -70%
กลิ่นหอมของเนื้อย่างก่อกวนสติของหล่อนมากขึ้นเรื่อยๆ พฤษภานึกโกรธตัวเองที่โกรธเขาจนไม่ได้หาอะไรกินรองท้อง พอเขาเอาของกินมาล่อเข้าหน่อยท้องของหล่อนก็ประท้วงแทบฝืนใจไม่ให้หันกลับไปหาเขาไม่ไหว
พยัคฆ์วางห่อเนื้อย่างไว้ที่ข้างทางเข้าแคบๆ ก่อนจะมุดเข้าไปในกระโจม คุกเข่าลงบนพื้นไม้หยาบๆ ที่หล่อนอุตส่าห์ปีนเสี่ยงตายไปเด็ดใบไม้มาปูรองจนนุ่มน่านอน
รู้อย่างนี้เข้ามาแย่งนอนตั้งนานแล้ว ใจคนคลาน ‘เข้าหา’ สาวเป็นครั้งแรกในชีวิตเต้นระรัว เขาหารู้ไม่ว่าคนที่นอนตัวแข็งอยู่ห่างไปราวศอกหนึ่งนั้นก็กำลังกลั้นลมหายใจจนแทบแย่
“หิวไหม”
เสียงที่จงใจจะให้นุ่มทุ้มเสนาะหูดูเหมือนปลายเสียงจะสั่นพร่านิดๆ พยัคฆ์รู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนเจ้าจำปาดง เสือรุ่นสาวที่คิดจะคำรามแต่กลับกลายเป็นครางหงิงๆ
ร่างบางสะดุ้งเกร็งตัวออกห่าง ไม่กล้าหันมามองเขา จิตใจหวามวับ หูได้ยินเสียงเขาพูดต่อว่า
“หิวก็ลุกมากินอะไรก่อนสิ นี่ก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน” เขาวางมือบนอกตัวเองแทนที่จะวางลงบนโค้งกลมกลึงของสะโพกผาย แต่เอนกายลงทอดซ้อนอยู่เบื้องหลัง
พฤษภาขยับออกห่างพอที่จะยันกายกึ่งนั่งกึ่งนอนมามองหน้าเขา ดวงตาสีอำพันคู่นั้นทำให้พยัคฆ์นึกถึงดวงตาของแม่เหลือง ผมสีคาราเมลยาวรุ่ยร่ายยุ่งเหยิงรวบไว้ด้านหนึ่งลวกๆ แต่มันทำให้หล่อนดูน่าหลงใหลอย่างประหลาด พยัคฆ์ทอดสายตามองหล่อนนิ่ง
“ขอโทษที่ทำให้รอ ฉันไปดักหมูป่ามาทั้งวัน นั่งเฝ้ามันที่โป่งบนเขาสูงโน่น ขยับก็ไม่ได้ จมูกมันไวชะมัด จะไม่ลองชิมหน่อยเหรอ” น้ำเสียงนุ่มๆ แบบนั้นเป็นบุคลิกใหม่ของพยัคฆ์ที่ชักจะมีมาให้หล่อนเห็นบ่อยขึ้น ทุกที ตาดุๆ บางครั้งหวานเชื่อม ลองเขาได้มองแล้วเป็นจับจ้องไม่มีลดละจน กว่าหล่อนจะละลายไปนั่นกระมัง
ผู้หญิงที่ไหนจะไม่เขินบ้าง
พฤษภานึก พลางเสมองออกไปนอกประตูกระโจม ตัดสินใจว่า ถ้าหากหล่อนขืนเล่นแง่ต่อไปนอกจากจะอดข้าวแล้วมันยังฟังดูเหมือนเมียสาวๆ ที่งอนผัวหนุ่มยามที่เขากลับบ้านผิดเวลาอย่างนั้นล่ะ
ดูเหมือนเขาจะรู้เพราะท่าทีอ่อนข้อง้องอนนั่นมันเหมือนคนรักแสดงต่อกันไม่มีผิด
“ชิมดูก็ได้ค่ะ” หล่อนเอ่ยปากเป็นครั้งแรก ช้อนตามองสบดวงตาของคนนอนเท้าแขนมองหล่อนนิ่งๆ สำหรับเขาเสียงนั้นแผ่วราวขนนกบนร่างแกร่งเปลือยเปล่า
‘คุณพระ!’ พยัคฆ์คำรามลึกในลำคอ
ชักจะมากไปแล้วหนอใจ ไม่ว่าหล่อนจะทำจะพูดอะไรมันก็ละลายหัวใจแข็งแกร่งของเขาให้เหลวเป็นวุ้นไปได้ทุกทีสิน่า!
พยัคฆ์อมยิ้มในหน้า ยกมือเสยผมยาวปรกหน้าคม ขยับกายลุกออกจากกระโจมไปที่ระเบียงเล็กๆ รับลมยามดึกเย็นสบาย เขานั่งลงที่ฟากหนึ่งของระเบียง รอให้หล่อนนั่งเรียบร้อยแล้วจึงค่อยๆ แกะเนื้อย่างห่อใบตองออก กลิ่นเนื้อย่างร้อนๆ หอมกรุ่นโชยมายั่วน้ำลาย เขาวางใบตองซีกหนึ่งลงใกล้หัวเข่าหล่อน ก่อนจะคีบเนื้อหมูป่าย่างวางลงไปจนพูน พร้อมวางกระบอกน้ำดื่มไว้ข้างๆ พฤษภารอจนเขาจัดจานมื้อดึกของตนเองเรียบร้อยจึงได้หยิบเนื้อย่างร้อนๆ ชิ้นหนึ่งขึ้นใส่ปาก เคี้ยวช้าๆ รสชาติสดใหม่ ฉ่ำนุ่มลิ้นหอมควันไฟหน่อยๆ ทำให้หล่อนหวนนึกถึงกลิ่นเนื้อกวางรมควันของบิดา ตอนที่พาหล่อนกับน้องสาวไปล่าสัตว์ตั้งแคมป์ในป่า พฤษภาหยิบเนื้อย่างชิ้นที่สองใส่ปาก ยิ่งเคี้ยวยิ่งคิดถึงบิดามากขึ้นทุกที
“อร่อยไหม”
นักล่าหน้าดุยื่นหน้าเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“อร่อยค่ะ” หล่อนตอบเสียงเบาหางเสียงอู้อี้ราวคนเป็นหวัด
พยัคฆ์พยายามจะมองสีหน้าหล่อน แต่สาวเจ้าก้มหน้าเสียจนคางแทบชิดอก
“ขอน้ำหน่อยครับ” คนอยากเห็นหน้าออกอุบาย หล่อนเงยหน้าขึ้นหยิบกระบอกน้ำยื่นให้เขา ดวงหน้าเล็กๆ มีหยดน้ำใสเกาะที่พวงแก้ม ขนตางอนเช้งเปียกชื้น ดวงตาสีเดียวกันกับแม่เหลืองอำพัน คลอไปด้วยหยาดน้ำใสปานหยาดเพชร มือแกร่งรวบข้อมือบางที่ยื่นกระบอกน้ำให้อย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ
“ร้องไห้ทำไม”
“เปล่าค่ะ”
“โกหก” เขาดุ “ยังโกรธเรื่องเมื่อเช้าอยู่อีกหรือ ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกหรอกนะ ที่พูดไปเพราะอยากจะบอกว่าถ้าหากอยากได้พลอยสวยๆ ไปฝากแม่กับน้องสาวผมจะหาให้ แต่ต้องรอให้ออกจากป่าไปก่อน”
“แล้วเราจะออกจากป่ากันเมื่อไหร่คะ” หล่อนถามรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใส่ใจพลอยบ้าๆ ที่เขาคิดจะหามากำนัลแม้แต่น้อย
หล่อนก็แค่อยากหนีออกจากป่า หนีไปจากเขาให้ไวที่สุดล่ะสินะ “ว่ายังไงคะ เมื่อไหร่คุณจะพาฉันกลับบ้านเสียที ปล่อยฉันไปเถอะ จับฉันมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร” ดวงตาสีอำพันคาดคั้น น้ำตาคลอ
พยัคฆ์หลบตาหล่อนเป็นครั้งแรก เพราะไม่อาจหาคำตอบมาให้หล่อนได้ เขามาไกลเกินกว่าที่จะหันกลับไปเสียแล้ว พฤษภาเลยหน้าเสีย ใจได้แต่นึกว่าเขาคงหลอกให้คนโง่อย่างหล่อนดีใจเล่น หล่อนสะบัดข้อมือบางให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา
เกลียดจนไม่อยากเห็นหน้าคนใจร้ายอีกแม้แต่เสี้ยวนาทีเดียว!
พยัคฆ์คว้าเอวบางไว้ได้ทัน พร้อมดึงให้หล่อนทรุดลงนั่งที่เดิมก่อนจะเอ่ยกำชับเสียงเข้ม
“กินให้อิ่มก่อน”
“ฉันอิ่มแล้ว”
“กินให้หมดเดี๋ยวนี้” เสียงกร้าวนั่นมันบาดเนื้อหัวใจสิ้นดี ทำไมเขาต้องมาทำดีกับหล่อนด้วยถ้าหากไม่อยากปล่อยให้พ้นจากความยากลำบากนี้แล้วกลับไปหาครอบครัวที่หล่อนรัก พฤษภาฝืนหยิบชิ้นเนื้อเข้าปาก น้ำตาคลอพานทำให้ลำคอตับตันไปหมด
แบบนี้นี่เองที่เขาเรียกกินข้าวเคล้าน้ำตา
พยัคฆ์มองอาการสะอื้นจนสั่นไปทั้งตัวของอีกฝ่ายอย่างจนปัญญา เขาเคยปลอบใครที่ไหนกันเล่า โดยเฉพาะผู้หญิง สิ่งมีชีวิตที่อารมณ์แปรปรวนกวนหัวใจมากที่สุดในโลก!
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
พยัคฆ์วางห่อเนื้อย่างไว้ที่ข้างทางเข้าแคบๆ ก่อนจะมุดเข้าไปในกระโจม คุกเข่าลงบนพื้นไม้หยาบๆ ที่หล่อนอุตส่าห์ปีนเสี่ยงตายไปเด็ดใบไม้มาปูรองจนนุ่มน่านอน
รู้อย่างนี้เข้ามาแย่งนอนตั้งนานแล้ว ใจคนคลาน ‘เข้าหา’ สาวเป็นครั้งแรกในชีวิตเต้นระรัว เขาหารู้ไม่ว่าคนที่นอนตัวแข็งอยู่ห่างไปราวศอกหนึ่งนั้นก็กำลังกลั้นลมหายใจจนแทบแย่
“หิวไหม”
เสียงที่จงใจจะให้นุ่มทุ้มเสนาะหูดูเหมือนปลายเสียงจะสั่นพร่านิดๆ พยัคฆ์รู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนเจ้าจำปาดง เสือรุ่นสาวที่คิดจะคำรามแต่กลับกลายเป็นครางหงิงๆ
ร่างบางสะดุ้งเกร็งตัวออกห่าง ไม่กล้าหันมามองเขา จิตใจหวามวับ หูได้ยินเสียงเขาพูดต่อว่า
“หิวก็ลุกมากินอะไรก่อนสิ นี่ก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน” เขาวางมือบนอกตัวเองแทนที่จะวางลงบนโค้งกลมกลึงของสะโพกผาย แต่เอนกายลงทอดซ้อนอยู่เบื้องหลัง
พฤษภาขยับออกห่างพอที่จะยันกายกึ่งนั่งกึ่งนอนมามองหน้าเขา ดวงตาสีอำพันคู่นั้นทำให้พยัคฆ์นึกถึงดวงตาของแม่เหลือง ผมสีคาราเมลยาวรุ่ยร่ายยุ่งเหยิงรวบไว้ด้านหนึ่งลวกๆ แต่มันทำให้หล่อนดูน่าหลงใหลอย่างประหลาด พยัคฆ์ทอดสายตามองหล่อนนิ่ง
“ขอโทษที่ทำให้รอ ฉันไปดักหมูป่ามาทั้งวัน นั่งเฝ้ามันที่โป่งบนเขาสูงโน่น ขยับก็ไม่ได้ จมูกมันไวชะมัด จะไม่ลองชิมหน่อยเหรอ” น้ำเสียงนุ่มๆ แบบนั้นเป็นบุคลิกใหม่ของพยัคฆ์ที่ชักจะมีมาให้หล่อนเห็นบ่อยขึ้น ทุกที ตาดุๆ บางครั้งหวานเชื่อม ลองเขาได้มองแล้วเป็นจับจ้องไม่มีลดละจน กว่าหล่อนจะละลายไปนั่นกระมัง
ผู้หญิงที่ไหนจะไม่เขินบ้าง
พฤษภานึก พลางเสมองออกไปนอกประตูกระโจม ตัดสินใจว่า ถ้าหากหล่อนขืนเล่นแง่ต่อไปนอกจากจะอดข้าวแล้วมันยังฟังดูเหมือนเมียสาวๆ ที่งอนผัวหนุ่มยามที่เขากลับบ้านผิดเวลาอย่างนั้นล่ะ
ดูเหมือนเขาจะรู้เพราะท่าทีอ่อนข้อง้องอนนั่นมันเหมือนคนรักแสดงต่อกันไม่มีผิด
“ชิมดูก็ได้ค่ะ” หล่อนเอ่ยปากเป็นครั้งแรก ช้อนตามองสบดวงตาของคนนอนเท้าแขนมองหล่อนนิ่งๆ สำหรับเขาเสียงนั้นแผ่วราวขนนกบนร่างแกร่งเปลือยเปล่า
‘คุณพระ!’ พยัคฆ์คำรามลึกในลำคอ
ชักจะมากไปแล้วหนอใจ ไม่ว่าหล่อนจะทำจะพูดอะไรมันก็ละลายหัวใจแข็งแกร่งของเขาให้เหลวเป็นวุ้นไปได้ทุกทีสิน่า!
พยัคฆ์อมยิ้มในหน้า ยกมือเสยผมยาวปรกหน้าคม ขยับกายลุกออกจากกระโจมไปที่ระเบียงเล็กๆ รับลมยามดึกเย็นสบาย เขานั่งลงที่ฟากหนึ่งของระเบียง รอให้หล่อนนั่งเรียบร้อยแล้วจึงค่อยๆ แกะเนื้อย่างห่อใบตองออก กลิ่นเนื้อย่างร้อนๆ หอมกรุ่นโชยมายั่วน้ำลาย เขาวางใบตองซีกหนึ่งลงใกล้หัวเข่าหล่อน ก่อนจะคีบเนื้อหมูป่าย่างวางลงไปจนพูน พร้อมวางกระบอกน้ำดื่มไว้ข้างๆ พฤษภารอจนเขาจัดจานมื้อดึกของตนเองเรียบร้อยจึงได้หยิบเนื้อย่างร้อนๆ ชิ้นหนึ่งขึ้นใส่ปาก เคี้ยวช้าๆ รสชาติสดใหม่ ฉ่ำนุ่มลิ้นหอมควันไฟหน่อยๆ ทำให้หล่อนหวนนึกถึงกลิ่นเนื้อกวางรมควันของบิดา ตอนที่พาหล่อนกับน้องสาวไปล่าสัตว์ตั้งแคมป์ในป่า พฤษภาหยิบเนื้อย่างชิ้นที่สองใส่ปาก ยิ่งเคี้ยวยิ่งคิดถึงบิดามากขึ้นทุกที
“อร่อยไหม”
นักล่าหน้าดุยื่นหน้าเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“อร่อยค่ะ” หล่อนตอบเสียงเบาหางเสียงอู้อี้ราวคนเป็นหวัด
พยัคฆ์พยายามจะมองสีหน้าหล่อน แต่สาวเจ้าก้มหน้าเสียจนคางแทบชิดอก
“ขอน้ำหน่อยครับ” คนอยากเห็นหน้าออกอุบาย หล่อนเงยหน้าขึ้นหยิบกระบอกน้ำยื่นให้เขา ดวงหน้าเล็กๆ มีหยดน้ำใสเกาะที่พวงแก้ม ขนตางอนเช้งเปียกชื้น ดวงตาสีเดียวกันกับแม่เหลืองอำพัน คลอไปด้วยหยาดน้ำใสปานหยาดเพชร มือแกร่งรวบข้อมือบางที่ยื่นกระบอกน้ำให้อย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ
“ร้องไห้ทำไม”
“เปล่าค่ะ”
“โกหก” เขาดุ “ยังโกรธเรื่องเมื่อเช้าอยู่อีกหรือ ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกหรอกนะ ที่พูดไปเพราะอยากจะบอกว่าถ้าหากอยากได้พลอยสวยๆ ไปฝากแม่กับน้องสาวผมจะหาให้ แต่ต้องรอให้ออกจากป่าไปก่อน”
“แล้วเราจะออกจากป่ากันเมื่อไหร่คะ” หล่อนถามรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใส่ใจพลอยบ้าๆ ที่เขาคิดจะหามากำนัลแม้แต่น้อย
หล่อนก็แค่อยากหนีออกจากป่า หนีไปจากเขาให้ไวที่สุดล่ะสินะ “ว่ายังไงคะ เมื่อไหร่คุณจะพาฉันกลับบ้านเสียที ปล่อยฉันไปเถอะ จับฉันมาก็ไม่มีประโยชน์อะไร” ดวงตาสีอำพันคาดคั้น น้ำตาคลอ
พยัคฆ์หลบตาหล่อนเป็นครั้งแรก เพราะไม่อาจหาคำตอบมาให้หล่อนได้ เขามาไกลเกินกว่าที่จะหันกลับไปเสียแล้ว พฤษภาเลยหน้าเสีย ใจได้แต่นึกว่าเขาคงหลอกให้คนโง่อย่างหล่อนดีใจเล่น หล่อนสะบัดข้อมือบางให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา
เกลียดจนไม่อยากเห็นหน้าคนใจร้ายอีกแม้แต่เสี้ยวนาทีเดียว!
พยัคฆ์คว้าเอวบางไว้ได้ทัน พร้อมดึงให้หล่อนทรุดลงนั่งที่เดิมก่อนจะเอ่ยกำชับเสียงเข้ม
“กินให้อิ่มก่อน”
“ฉันอิ่มแล้ว”
“กินให้หมดเดี๋ยวนี้” เสียงกร้าวนั่นมันบาดเนื้อหัวใจสิ้นดี ทำไมเขาต้องมาทำดีกับหล่อนด้วยถ้าหากไม่อยากปล่อยให้พ้นจากความยากลำบากนี้แล้วกลับไปหาครอบครัวที่หล่อนรัก พฤษภาฝืนหยิบชิ้นเนื้อเข้าปาก น้ำตาคลอพานทำให้ลำคอตับตันไปหมด
แบบนี้นี่เองที่เขาเรียกกินข้าวเคล้าน้ำตา
พยัคฆ์มองอาการสะอื้นจนสั่นไปทั้งตัวของอีกฝ่ายอย่างจนปัญญา เขาเคยปลอบใครที่ไหนกันเล่า โดยเฉพาะผู้หญิง สิ่งมีชีวิตที่อารมณ์แปรปรวนกวนหัวใจมากที่สุดในโลก!
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 มิ.ย. 2562, 10:35:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 มิ.ย. 2562, 10:35:31 น.
จำนวนการเข้าชม : 690
<< บทที่16 -40% | บทที่16 -100% >> |