ฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
'พฤษภา' สาวสวยผู้อ่อนหวาน ทายาทผู้พี่ของตระกูลมาเฟียคูเปอร์สไตน์เดินทางมาเมืองไทยเพื่อดูแลญาติผู้ใหญ่ของมารดาที่ล้มป่วย หล่อนไม่รู้เลยสักนิดว่าได้เดินเข้าสู่อุ้งมืออันหยาบกร้านของ 'เสือ' หรือ 'พยัคฆ์' วีรกาญจน์ ทายาทนายเหมืองที่เพิ่งฆ่าตัวตายไปเพราะภรรยาแอบเล่นชู้กับสามีของเศรษฐีนีผู้เป็นญาติของหล่อน พยัคฆ์ฉุดกระชากลากถูพฤษภาเข้าไปในป่าลึกด้วยความแค้น เขาคิดจะใช้หล่อนเรียกร้องความยุติธรรมให้ครอบครัว
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: เสือ ป่า พี่น้อง เซ็กซี่ ละมุน เถื่อน เชลย คุณหนู มาเฟีย บู๊ ครอบครัว
ตอน: บทที่ 20 -100%
อาหารเช้าของครอบครัวคูเปอร์สไตน์ในเช้าวันนั้น เป็นไปอย่างเรียบง่ายที่ห้องพักญาติผู้ป่วย ทุกคนมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นที่ได้รู้ว่า อาการติดเชื้อในกระแสเลือดของพฤษภาดีขึ้น แม้หล่อนจะยังลุกขึ้นมาโต้ตอบไม่ได้ก็ตาม
ด้วยความที่เป็นห้องพักพิเศษ ภายในห้องรับรองแขกนั้นกว้างขวางพอใช้ มีเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างพรั่งพร้อม เมษามองไปรอบๆ ด้วยความพึงพอใจ หล่อนตกลงใจทันทีว่าจะค้างที่โรงพยาบาลในคืนนี้ ธรรศและเด็กหญิงขนมหวานมาเป็นแขกร่วมรับประทานอาหารเช้าด้วย นัยว่าไมลส์มีธุระจะปรึกษากับมือขวาที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการด่วน
“ขอบใจมากนะธรรศที่ช่วยเป็นธุระให้เรื่องลูกสาวสองคนของฉัน”
“ครับ”
“คุณธรรศคงคิดถึงยายหนูแย่” แมกโนเลียเอ่ย ยิ้มตาหยีให้ลูกสาวของบอดี้การ์ดหนุ่ม
“ครับ ซนมากไหมครับ พอสนิทมากๆ ยายหนูมักจะเหลิง” ธรรศหันไปมองลูกสาว ดวงตาคมเปี่ยมไปด้วยความรักแม้จะกำลังบ่นนิดๆ
“ไม่ซนหรอกค่ะ ชวนคุยทั้งวันพอให้พี่หายกังวล ถ้าไม่ได้หนูขนมหวานพี่คงแย่”
“ขอบคุณครับ” ธรรศก้มหน้าจิบกาแฟเงียบๆ
ระหว่างนั้น ไมลส์มองหน้าภรรยาและบอดี้การ์ดหนุ่มสลับกันไปมาดวงตาสีเขียวชักจะขุ่นข้น
“ผมนึกแล้วว่าคุณคงถูกใจบอดี้การ์ดที่ผมหาให้” เสียงห้าวซัดตรงๆ ใบหน้าหล่อเหลาชักจะตึงขึ้นมาบ้าง
“ค่ะ คุณธรรศเป็นคนมีฝีมือแล้วยังใจเย็นด้วยนี่คะ ไม่อย่างนั้นคงเอายายเอพริลไม่อยู่”
“แม่ขา ลูกไม่ใช่คนเหลวไหลสักหน่อยนะคะ” ผู้ที่ถูกพาดพิงถึงเอ่ยเสียงอ่อน ใบหน้ารูปหัวใจชักจะงอง้ำ
“จริงหรือคะคุณธรรศ” แมกโนเลียหันไปถามคนที่เอาแต่จิบกาแฟท่าเดียว เขาพยักหน้าช้าๆ โดยไม่ได้พูดอะไร เมษานึกเคืองขึ้นมาอีก
พูดให้คะแนนกันบ้างก็ดีนะนายแว่น ฉันช่วยนายไว้ตั้งหลายครั้งไม่ใช่เหรอ
“เมษาของพ่อต้องยอดเยี่ยมอยู่แล้วล่ะ จริงไหมลูก” ไมลส์โยกศีรษะสวยไปมาอย่างรักใคร่ ปรายตาคมมองไอ้หนุ่มที่ซ่อนสายตาเก่งนักหลังแว่นหนานั่น
ท่าทางมันซื่อๆ แต่ไม่น่าไว้วางใจเลยสักนิด ฮึ่ม อย่าเชียวนะนายธรรศ อย่าคิดมาตีท้ายครัวฉันเชียว
“คุณพ่อหลงลูกสาว” แมกโนเลียเย้า รินกาแฟดำเพิ่มให้เขาอย่างเอาใจ สามีรีบยกขึ้นจิบทำตาหวานเชื่อม ธรรศเสยกแก้วกาแฟของตนขึ้นจิบบ้าง หูได้ยินเสียงห้าวๆ ของนายว่า
“วันนี้เราจะย้ายเข้าไปอยู่บ้านวรกาญจน์กันทั้งครอบครัว ไปทวงสิทธิ์อันควรของคุณแม่”
คำพูดของไมลส์นั้นทำให้ธรรศขมวดคิ้วเล็กน้อย เขากำลังครุ่นคิดถึงนายสุชาติอยู่เหมือนกัน
“ลูกขอค้างที่โรงพยาบาลได้ไหมคะ”
“ทำไมล่ะลูก” ไมลส์สบตาลูกสาวคนเล็ก
“นอนไม่หลับค่ะ ขอเฝ้าพี่เมย์ดีกว่า”
“อะไร ออกจากป่ามานอนในเมืองสบายๆ ทำไมนอนไม่หลับลูกสาวแม่คนนี้ คุณธรรศล่ะคะนอนหลับไหม” แมกโนเลียเย้าอย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้ ทำเอาลูกสาวแทบสำลักชาร้อนหอมกรุ่น
“เอ่อ ผมหลับสบายดีครับ...แต่ถ้าไม่ได้ยายหนูกล่อม ก็คงนอนไม่หลับเหมือนกัน” เขาเอ่ยเสียงทุ้ม เหลือบมองใบหน้าเล็กๆ เห็นริ้วสีชมพูที่โหนกแก้มก็หันไปสบมองเจ้านายก่อนจะยกกาแฟขึ้นดื่มเงียบๆ
“แต่ผมคิดว่าคุณเมษาไม่ควรพักโรงพยาบาลหรอกครับ เสี่ยสุชาติมาที่โรงพยาบาลเมื่อเช้า ยังดีที่บอดี้การ์ดของเราแน่นหนา”
“หึ มันคงรู้เรื่องแล้วสินะ ถึงได้อยู่ไม่ติดบ้าน”
ไมลส์ยิ้มเหี้ยมเกรียม
“เขาอุตส่าห์มาเยี่ยมลูกเรา ถ้าอย่างนั้นผมจะส่งคนไปเยี่ยมเขาบ้างดีไหมที่รัก” ไมลส์ยักคิ้วให้ภรรยาเบาๆ “ธรรศช่วยจัดการให้หน่อยสิ อย่าให้กระทบทรัพย์สินมาก เงินทองของเมียฉันทั้งนั้น แค่ให้เสียชื่อเสียงพอ”
“คุณไมลส์!”
“อ้าว หรือไม่จริงครับ...ฝากด้วยนะธรรศ อีกอย่างอยากให้สืบเรื่องของไอ้หนุ่มพยัคฆ์นั่นที”
“ครับผม”
“พ่อซัดเขาเสียหมอบไปเลยนะคะ หวังว่านายเสือจะไม่ตายนะ”
“ถ้าให้ตายพ่อคงซ้ำไปแล้ว นั่นแค่สั่งสอน ใครบังอาจแตะต้องแก้ว ตาดวงใจของพ่อก็ต้องได้รับบทเรียน”
ไมลส์ คูเปอร์สไตน์ปิดบทสนทนามื้อเช้าไว้เพียงเท่านั้น
ธรรศแยกออกไปทำภารกิจให้ไมลส์ด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง แมกโนเลียอาสาดูแลน้องขนมหวานให้อีกตามเคย แต่เพราะไมลส์มีเรื่องต้องปรึกษากับภรรยามากโข เมษาจึงอุ้มหนูน้อยกลับไปส่องดูพฤษภาผ่านกระจกใสในห้องปลอดเชื้อ แล้วพาไปเดินเล่นรอบๆ สวนจนสายแดดร้อนก็พากลับมาฝากไว้กับน้อย
“อ๊ะๆ” หนูน้อยเกาะตัวพี่สาวคนใหม่แน่น เมษาอมยิ้มกุมมือนุ่มน้อยๆ กระซิบปลอบโยน
“เดี๋ยวพี่เอพริลจะไปช่วยคุณพ่อน้องหนมหวานทำงานให้เสร็จไวๆ ดีไหมคะ จะได้รีบกลับมาเล่นด้วยกันไง”
“ไปจ้วย” หนูน้อยชักสมองใส เมษาทำหน้ายุ่งอมยิ้ม
“ไปจ้วยไม่ได้จ้ะ อยู่นี่นะ เดี๋ยวไปตามป๊ะป๋าสุดหล่อแว่นโตมาให้” เมษาเขี่ยจมูกเล็กๆ หลอกล้อก่อนจะปลีกตัวออกไป
**************
บ่ายคล้อยมากแล้วที่ชายป่าดงสางเสือ ใกล้แนวรอยต่อขุนตาด คนกลุ่มใหญ่กำลังสาวเท้าออกจากป่ากันอย่างเร่งรีบ ทุกคนมีสีหน้าบึ้งตึง ต่างไม่พูดไม่จา ยกเว้นชายหนุ่มวัยอ่อนกว่าคนอื่นๆ ที่อยู่ท้ายขบวน
“กูปวดหนักว่ะ ไม่ไหวแล้วจริงๆ อั้นมาหลายชั่วโมงละ”
“อีกเดี๋ยวเขาคงพักกันแล้ว”
“พักห่าอะไรวะ จ้ำเอาๆ ตั้งแต่เช้า กูไม่ไหวแล้ว มึงไปก่อนเถอะ เดี๋ยวกูวิ่งตามไป”
“เออ มึงรีบๆ มานะ” สหายสั่งความแล้วก็รีบรุดตามคนอื่นๆ ไป
ไอ้หนุ่มนั่นเหลียวซ้ายแลขวามองหาพุ่มไม้เหมาะๆ มันเห็นไม้พุ่มใหญ่ใกล้โขดหินลับตาคนจึงมุดเข้าไป อาการปวดหนักรุนแรงจนมันแทบปลดกางเกงไม่ทัน มันผ่อนลมหายใจยาวเหยียด สั่นไปทั้งตัวขณะกำลังปลดทุกข์
“ไม่รู้แม่งรีบไปตายห่าที่ไหน มาก็เสียเที่ยวเปล่า คนก็พากลับไปไม่ได้ รู้อย่างนี้กูอยู่ในเมืองสบายๆ รอฉกกระเป๋าคนที่ตลาดกินดีกว่า ลำบากเปล่าแท้ๆ” มันพร่ำก่นด่าระหว่างปลดทุกข์ระลอกใหญ่ ท้องไส้มันยังร้องโครกครากเพราะกินอาหารสกปรกปนเปื้อนมาหลายมื้อหลายวัน มันหน่ายใจจนคิดกับเพื่อนว่า กลับออกจากป่าได้เมื่อไหร่พวกมันจะปลีกตัวออกจากชุมเสือขาวทันที มันระบายลมหายใจยาวเมื่อปลดทุกข์ออกไปได้เกือบครึ่งท้อง เรี่ยวแรงแทบหายไปหมด แต่ทันใดนั้นเอง หูมันก็แว่วได้ยินเสียงหนึ่ง
ฮึ่มม!
เสียงครางต่ำๆ ราวเสียงทอดถอนใจดังมากด้านหลัง ใกล้เสียจนขนคอของไอ้เสือหนุ่มลุกเกรียว ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยความประหวั่นพรั่นพรึงสุดขั้วหัวใจ
มันค่อยๆ เอี้ยวตัวไปมอง ใจภาวนาให้หูมันเฝื่อน ตามันฝาด
พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วยเถิด
โฮกกก!
“อย่า!”
เสียงคำรามกึกก้องดังขึ้นก่อนที่ไอ้เสือหนุ่มจะกรีดร้องออกมาไม่แทบไม่เป็นภาษา ขี้เยี่ยวของมันแตกทะลัก เข่าอ่อนลงกับพื้นหมดทางหนี เสือร้ายกระโจนใส่ อุ้งตีนใหญ่ตะปบลงที่บ่า ฉีกคอกระชากแล้วฝังเขี้ยวคมลงที่ลำคอก่อนกัดกร้วม เสียงกระดูกแตกหักดังกร๊อบ! เลือดสดๆ สาดใส่ขนยาวฟูสีเหลืองลายดำของมัน ไอ้แหว่งวางร่างอ่อนปวกเปียกของเหยื่อลงที่พื้น ก่อนจะฝังเขี้ยวคมลงที่กระดูกไหปลาร้าอีกครั้ง
กร๊อบ!
มันลากลู่ร่างไร้วิญญาณกลับไปที่ซอกถ้ำที่หลบซ่อนตัว ห่างออกไปราวสิบกว่าเมตร มันฉีกทึ้งกัดกินเลือดเนื้อสดๆ อย่างหิวโหย
**************
ไกลออกไปราวสิบกิโลเมตร การหายตัวไปของไอ้สอนเสือหนุ่มหน้าใหม่ ล่วงรู้ไปถึงหูของเสือขาวและลูกน้องรวมทั้งหมดห้านาย เพื่อนหนุ่มของมันกระวนกระวายใจจนต้องเล่าว่าไอ้สอนขอแยกตัวไปปลดทุกข์และหายไปตั้งแต่บ่าย ป่านนี้ยังตามมาไม่ทัน มันขอให้พวกเสือขาวช่วยออกตามหาแต่กลับไม่มีใครสนใจ มันจึงต้องจำใจออกไปตามหาเพื่อนตามลำพัง จนใกล้มืดค่ำมันก็วิ่งหน้าตาตื่น เหงื่อกาฬแตกซ่านกลับมาที่ค่าย
“เสือขาวๆ ช่วยด้วยๆ เสือมันคาบไอ้สอนไปแดกแล้ว”
“เสือที่ไหนของมึง” เสือขาวผุดลุกขึ้น ดวงตาวาววับ
“ฉันไปตามไอ้สอน แต่พอไปถึงตรงที่มันขอแยกไปปลดทุกข์ก็เห็นแต่กองเลือด กองเนื้อ ขี้เยี่ยวมันเรี่ยราด ไอ้สอนถูกเสือคาบไปกินแล้วใช่ไหม โธ่...ไอ้สอนเพื่อนข้า” มันคร่ำครวญทั้งเสียใจทั้งหวาดหวั่น
“ต้องเป็นไอ้แหว่งแน่” เสือขาวเค้นเสียงต่ำ ลูบเคราที่ปลายคางครุ่นคิด
“เสือขาว กลับไปดูมันหน่อยเถอะ มันอาจจะรอดก็ได้นะ”
“มึงบ้าไปแล้วหรือไง ไอ้แหว่งไม่เคยปรานีเหยื่อของมัน มันเป็นเสือกินคน จำใส่กะโหลกเอาไว้ด้วย!” เสือธงตะคอกใส่ไอ้หนุ่มจนมันผงะหงายหน้าซีดเซียว ผิดกับเสือขาวที่มีสีหน้าครุ่นคิด ยังผลให้ไอ้เสือธงเกิดประกายความหวังขึ้นมา
บางทีการเข้าป่าครั้งนี้อาจไม่สูญเปล่า!
“ไอ้ธง มึงว่าค่าหัวไอ้แหว่งเสือกินคนจะสักเท่าไรวะ” เสือขาวถามขึ้นตรงใจมัน!
“สองแสนได้พี่ถ้าจับตายนะ แต่ถ้าจับเป็นละก็ บอกได้คำเดียวว่ารวยไม่รู้เรื่อง”
“จริงเหรอวะ”
“จริงสิพี่ เสือกินคนพวกมหาเศรษฐีมันชอบเลี้ยงนักล่ะ”
“งั้นก็ดี กูจะล่าไอ้แหว่งไปฝากน้องเขยขายตลาดมืดแก้มือเสียหน่อยเป็นไงวะ”
“เอาสิพี่” เสือย้อยสมทบ ตาเป็นมันเพราะเงินมันขาดมือมานานเกือบเดือนแล้ว
“ธง เอ็งไปเตรียมยาสลบไว้มากๆ หน่อย ไอ้ย้อยกับพวกที่เหลือทำกรงใหญ่ๆ แข็งแรงๆ ให้กูที คืนนี้กูจะล่าเสือแหว่ง”
“มะ...ไม่ ไม่เอานะพี่ ฉันไม่เอาด้วย ฉันขอถอนตัว ฉันจะกลับบ้าน” สหายเสือสอนตัวสั่นเทา ผงะหนี
“จับไอ้คนไร้ประโยชน์มัดไว้ ในเมื่อมันเป็นเสือแต่เสือกไม่อยากล่า มันก็ต้องกลายเป็นเหยื่อล่อเสือให้กูแทน ฮ่าๆๆๆ”
“ยะ อย่า ปล่อยกูๆ ไอ้พวกสัตว์นรก ปล่อยกู อย่า กูยังไม่อยากตาย ปล่อยกู”
เสียงร้องโหยหวนของมันเร้าสางเสือให้ตื่นขึ้นพร้อมล่า หรือไม่ก็ถูกล่าตามกฎของป่า ไร้ความปรานีตามวิถีของไอ้แหว่งและโหดเหี้ยมกลับกลอกเยี่ยงสันดานมนุษย์ สองสิ่งผสมผสานเป็นส่วนประกอบอันน่าสยดสยองยิ่งนัก!
**************
โหลด eBook ฉบับเต็มได้ที่เว็บ mebmarket
หรือสั่งซื้อได้ 4 ช่องทาง
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์
3.inbox สั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงที่เพจ ‘ปลายปากกาสำนักพิมพ์’ (ส่งฟรีแบบลงทะเบียนเมื่อสั่งซื้อร่วมสั่งจองเรื่องใหม่ของสนพ.)
4.shopee ร้าน plaipakkabooks_officialshop (ซื้อเรื่องใดก็ได้ ส่งฟรีแบบลงทะเบียนทุกเล่ม)
ราคา 345฿ (จากปก 382฿)
จำนวน 448 หน้า พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ด้วยความที่เป็นห้องพักพิเศษ ภายในห้องรับรองแขกนั้นกว้างขวางพอใช้ มีเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างพรั่งพร้อม เมษามองไปรอบๆ ด้วยความพึงพอใจ หล่อนตกลงใจทันทีว่าจะค้างที่โรงพยาบาลในคืนนี้ ธรรศและเด็กหญิงขนมหวานมาเป็นแขกร่วมรับประทานอาหารเช้าด้วย นัยว่าไมลส์มีธุระจะปรึกษากับมือขวาที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการด่วน
“ขอบใจมากนะธรรศที่ช่วยเป็นธุระให้เรื่องลูกสาวสองคนของฉัน”
“ครับ”
“คุณธรรศคงคิดถึงยายหนูแย่” แมกโนเลียเอ่ย ยิ้มตาหยีให้ลูกสาวของบอดี้การ์ดหนุ่ม
“ครับ ซนมากไหมครับ พอสนิทมากๆ ยายหนูมักจะเหลิง” ธรรศหันไปมองลูกสาว ดวงตาคมเปี่ยมไปด้วยความรักแม้จะกำลังบ่นนิดๆ
“ไม่ซนหรอกค่ะ ชวนคุยทั้งวันพอให้พี่หายกังวล ถ้าไม่ได้หนูขนมหวานพี่คงแย่”
“ขอบคุณครับ” ธรรศก้มหน้าจิบกาแฟเงียบๆ
ระหว่างนั้น ไมลส์มองหน้าภรรยาและบอดี้การ์ดหนุ่มสลับกันไปมาดวงตาสีเขียวชักจะขุ่นข้น
“ผมนึกแล้วว่าคุณคงถูกใจบอดี้การ์ดที่ผมหาให้” เสียงห้าวซัดตรงๆ ใบหน้าหล่อเหลาชักจะตึงขึ้นมาบ้าง
“ค่ะ คุณธรรศเป็นคนมีฝีมือแล้วยังใจเย็นด้วยนี่คะ ไม่อย่างนั้นคงเอายายเอพริลไม่อยู่”
“แม่ขา ลูกไม่ใช่คนเหลวไหลสักหน่อยนะคะ” ผู้ที่ถูกพาดพิงถึงเอ่ยเสียงอ่อน ใบหน้ารูปหัวใจชักจะงอง้ำ
“จริงหรือคะคุณธรรศ” แมกโนเลียหันไปถามคนที่เอาแต่จิบกาแฟท่าเดียว เขาพยักหน้าช้าๆ โดยไม่ได้พูดอะไร เมษานึกเคืองขึ้นมาอีก
พูดให้คะแนนกันบ้างก็ดีนะนายแว่น ฉันช่วยนายไว้ตั้งหลายครั้งไม่ใช่เหรอ
“เมษาของพ่อต้องยอดเยี่ยมอยู่แล้วล่ะ จริงไหมลูก” ไมลส์โยกศีรษะสวยไปมาอย่างรักใคร่ ปรายตาคมมองไอ้หนุ่มที่ซ่อนสายตาเก่งนักหลังแว่นหนานั่น
ท่าทางมันซื่อๆ แต่ไม่น่าไว้วางใจเลยสักนิด ฮึ่ม อย่าเชียวนะนายธรรศ อย่าคิดมาตีท้ายครัวฉันเชียว
“คุณพ่อหลงลูกสาว” แมกโนเลียเย้า รินกาแฟดำเพิ่มให้เขาอย่างเอาใจ สามีรีบยกขึ้นจิบทำตาหวานเชื่อม ธรรศเสยกแก้วกาแฟของตนขึ้นจิบบ้าง หูได้ยินเสียงห้าวๆ ของนายว่า
“วันนี้เราจะย้ายเข้าไปอยู่บ้านวรกาญจน์กันทั้งครอบครัว ไปทวงสิทธิ์อันควรของคุณแม่”
คำพูดของไมลส์นั้นทำให้ธรรศขมวดคิ้วเล็กน้อย เขากำลังครุ่นคิดถึงนายสุชาติอยู่เหมือนกัน
“ลูกขอค้างที่โรงพยาบาลได้ไหมคะ”
“ทำไมล่ะลูก” ไมลส์สบตาลูกสาวคนเล็ก
“นอนไม่หลับค่ะ ขอเฝ้าพี่เมย์ดีกว่า”
“อะไร ออกจากป่ามานอนในเมืองสบายๆ ทำไมนอนไม่หลับลูกสาวแม่คนนี้ คุณธรรศล่ะคะนอนหลับไหม” แมกโนเลียเย้าอย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้ ทำเอาลูกสาวแทบสำลักชาร้อนหอมกรุ่น
“เอ่อ ผมหลับสบายดีครับ...แต่ถ้าไม่ได้ยายหนูกล่อม ก็คงนอนไม่หลับเหมือนกัน” เขาเอ่ยเสียงทุ้ม เหลือบมองใบหน้าเล็กๆ เห็นริ้วสีชมพูที่โหนกแก้มก็หันไปสบมองเจ้านายก่อนจะยกกาแฟขึ้นดื่มเงียบๆ
“แต่ผมคิดว่าคุณเมษาไม่ควรพักโรงพยาบาลหรอกครับ เสี่ยสุชาติมาที่โรงพยาบาลเมื่อเช้า ยังดีที่บอดี้การ์ดของเราแน่นหนา”
“หึ มันคงรู้เรื่องแล้วสินะ ถึงได้อยู่ไม่ติดบ้าน”
ไมลส์ยิ้มเหี้ยมเกรียม
“เขาอุตส่าห์มาเยี่ยมลูกเรา ถ้าอย่างนั้นผมจะส่งคนไปเยี่ยมเขาบ้างดีไหมที่รัก” ไมลส์ยักคิ้วให้ภรรยาเบาๆ “ธรรศช่วยจัดการให้หน่อยสิ อย่าให้กระทบทรัพย์สินมาก เงินทองของเมียฉันทั้งนั้น แค่ให้เสียชื่อเสียงพอ”
“คุณไมลส์!”
“อ้าว หรือไม่จริงครับ...ฝากด้วยนะธรรศ อีกอย่างอยากให้สืบเรื่องของไอ้หนุ่มพยัคฆ์นั่นที”
“ครับผม”
“พ่อซัดเขาเสียหมอบไปเลยนะคะ หวังว่านายเสือจะไม่ตายนะ”
“ถ้าให้ตายพ่อคงซ้ำไปแล้ว นั่นแค่สั่งสอน ใครบังอาจแตะต้องแก้ว ตาดวงใจของพ่อก็ต้องได้รับบทเรียน”
ไมลส์ คูเปอร์สไตน์ปิดบทสนทนามื้อเช้าไว้เพียงเท่านั้น
ธรรศแยกออกไปทำภารกิจให้ไมลส์ด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง แมกโนเลียอาสาดูแลน้องขนมหวานให้อีกตามเคย แต่เพราะไมลส์มีเรื่องต้องปรึกษากับภรรยามากโข เมษาจึงอุ้มหนูน้อยกลับไปส่องดูพฤษภาผ่านกระจกใสในห้องปลอดเชื้อ แล้วพาไปเดินเล่นรอบๆ สวนจนสายแดดร้อนก็พากลับมาฝากไว้กับน้อย
“อ๊ะๆ” หนูน้อยเกาะตัวพี่สาวคนใหม่แน่น เมษาอมยิ้มกุมมือนุ่มน้อยๆ กระซิบปลอบโยน
“เดี๋ยวพี่เอพริลจะไปช่วยคุณพ่อน้องหนมหวานทำงานให้เสร็จไวๆ ดีไหมคะ จะได้รีบกลับมาเล่นด้วยกันไง”
“ไปจ้วย” หนูน้อยชักสมองใส เมษาทำหน้ายุ่งอมยิ้ม
“ไปจ้วยไม่ได้จ้ะ อยู่นี่นะ เดี๋ยวไปตามป๊ะป๋าสุดหล่อแว่นโตมาให้” เมษาเขี่ยจมูกเล็กๆ หลอกล้อก่อนจะปลีกตัวออกไป
**************
บ่ายคล้อยมากแล้วที่ชายป่าดงสางเสือ ใกล้แนวรอยต่อขุนตาด คนกลุ่มใหญ่กำลังสาวเท้าออกจากป่ากันอย่างเร่งรีบ ทุกคนมีสีหน้าบึ้งตึง ต่างไม่พูดไม่จา ยกเว้นชายหนุ่มวัยอ่อนกว่าคนอื่นๆ ที่อยู่ท้ายขบวน
“กูปวดหนักว่ะ ไม่ไหวแล้วจริงๆ อั้นมาหลายชั่วโมงละ”
“อีกเดี๋ยวเขาคงพักกันแล้ว”
“พักห่าอะไรวะ จ้ำเอาๆ ตั้งแต่เช้า กูไม่ไหวแล้ว มึงไปก่อนเถอะ เดี๋ยวกูวิ่งตามไป”
“เออ มึงรีบๆ มานะ” สหายสั่งความแล้วก็รีบรุดตามคนอื่นๆ ไป
ไอ้หนุ่มนั่นเหลียวซ้ายแลขวามองหาพุ่มไม้เหมาะๆ มันเห็นไม้พุ่มใหญ่ใกล้โขดหินลับตาคนจึงมุดเข้าไป อาการปวดหนักรุนแรงจนมันแทบปลดกางเกงไม่ทัน มันผ่อนลมหายใจยาวเหยียด สั่นไปทั้งตัวขณะกำลังปลดทุกข์
“ไม่รู้แม่งรีบไปตายห่าที่ไหน มาก็เสียเที่ยวเปล่า คนก็พากลับไปไม่ได้ รู้อย่างนี้กูอยู่ในเมืองสบายๆ รอฉกกระเป๋าคนที่ตลาดกินดีกว่า ลำบากเปล่าแท้ๆ” มันพร่ำก่นด่าระหว่างปลดทุกข์ระลอกใหญ่ ท้องไส้มันยังร้องโครกครากเพราะกินอาหารสกปรกปนเปื้อนมาหลายมื้อหลายวัน มันหน่ายใจจนคิดกับเพื่อนว่า กลับออกจากป่าได้เมื่อไหร่พวกมันจะปลีกตัวออกจากชุมเสือขาวทันที มันระบายลมหายใจยาวเมื่อปลดทุกข์ออกไปได้เกือบครึ่งท้อง เรี่ยวแรงแทบหายไปหมด แต่ทันใดนั้นเอง หูมันก็แว่วได้ยินเสียงหนึ่ง
ฮึ่มม!
เสียงครางต่ำๆ ราวเสียงทอดถอนใจดังมากด้านหลัง ใกล้เสียจนขนคอของไอ้เสือหนุ่มลุกเกรียว ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยความประหวั่นพรั่นพรึงสุดขั้วหัวใจ
มันค่อยๆ เอี้ยวตัวไปมอง ใจภาวนาให้หูมันเฝื่อน ตามันฝาด
พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วยเถิด
โฮกกก!
“อย่า!”
เสียงคำรามกึกก้องดังขึ้นก่อนที่ไอ้เสือหนุ่มจะกรีดร้องออกมาไม่แทบไม่เป็นภาษา ขี้เยี่ยวของมันแตกทะลัก เข่าอ่อนลงกับพื้นหมดทางหนี เสือร้ายกระโจนใส่ อุ้งตีนใหญ่ตะปบลงที่บ่า ฉีกคอกระชากแล้วฝังเขี้ยวคมลงที่ลำคอก่อนกัดกร้วม เสียงกระดูกแตกหักดังกร๊อบ! เลือดสดๆ สาดใส่ขนยาวฟูสีเหลืองลายดำของมัน ไอ้แหว่งวางร่างอ่อนปวกเปียกของเหยื่อลงที่พื้น ก่อนจะฝังเขี้ยวคมลงที่กระดูกไหปลาร้าอีกครั้ง
กร๊อบ!
มันลากลู่ร่างไร้วิญญาณกลับไปที่ซอกถ้ำที่หลบซ่อนตัว ห่างออกไปราวสิบกว่าเมตร มันฉีกทึ้งกัดกินเลือดเนื้อสดๆ อย่างหิวโหย
**************
ไกลออกไปราวสิบกิโลเมตร การหายตัวไปของไอ้สอนเสือหนุ่มหน้าใหม่ ล่วงรู้ไปถึงหูของเสือขาวและลูกน้องรวมทั้งหมดห้านาย เพื่อนหนุ่มของมันกระวนกระวายใจจนต้องเล่าว่าไอ้สอนขอแยกตัวไปปลดทุกข์และหายไปตั้งแต่บ่าย ป่านนี้ยังตามมาไม่ทัน มันขอให้พวกเสือขาวช่วยออกตามหาแต่กลับไม่มีใครสนใจ มันจึงต้องจำใจออกไปตามหาเพื่อนตามลำพัง จนใกล้มืดค่ำมันก็วิ่งหน้าตาตื่น เหงื่อกาฬแตกซ่านกลับมาที่ค่าย
“เสือขาวๆ ช่วยด้วยๆ เสือมันคาบไอ้สอนไปแดกแล้ว”
“เสือที่ไหนของมึง” เสือขาวผุดลุกขึ้น ดวงตาวาววับ
“ฉันไปตามไอ้สอน แต่พอไปถึงตรงที่มันขอแยกไปปลดทุกข์ก็เห็นแต่กองเลือด กองเนื้อ ขี้เยี่ยวมันเรี่ยราด ไอ้สอนถูกเสือคาบไปกินแล้วใช่ไหม โธ่...ไอ้สอนเพื่อนข้า” มันคร่ำครวญทั้งเสียใจทั้งหวาดหวั่น
“ต้องเป็นไอ้แหว่งแน่” เสือขาวเค้นเสียงต่ำ ลูบเคราที่ปลายคางครุ่นคิด
“เสือขาว กลับไปดูมันหน่อยเถอะ มันอาจจะรอดก็ได้นะ”
“มึงบ้าไปแล้วหรือไง ไอ้แหว่งไม่เคยปรานีเหยื่อของมัน มันเป็นเสือกินคน จำใส่กะโหลกเอาไว้ด้วย!” เสือธงตะคอกใส่ไอ้หนุ่มจนมันผงะหงายหน้าซีดเซียว ผิดกับเสือขาวที่มีสีหน้าครุ่นคิด ยังผลให้ไอ้เสือธงเกิดประกายความหวังขึ้นมา
บางทีการเข้าป่าครั้งนี้อาจไม่สูญเปล่า!
“ไอ้ธง มึงว่าค่าหัวไอ้แหว่งเสือกินคนจะสักเท่าไรวะ” เสือขาวถามขึ้นตรงใจมัน!
“สองแสนได้พี่ถ้าจับตายนะ แต่ถ้าจับเป็นละก็ บอกได้คำเดียวว่ารวยไม่รู้เรื่อง”
“จริงเหรอวะ”
“จริงสิพี่ เสือกินคนพวกมหาเศรษฐีมันชอบเลี้ยงนักล่ะ”
“งั้นก็ดี กูจะล่าไอ้แหว่งไปฝากน้องเขยขายตลาดมืดแก้มือเสียหน่อยเป็นไงวะ”
“เอาสิพี่” เสือย้อยสมทบ ตาเป็นมันเพราะเงินมันขาดมือมานานเกือบเดือนแล้ว
“ธง เอ็งไปเตรียมยาสลบไว้มากๆ หน่อย ไอ้ย้อยกับพวกที่เหลือทำกรงใหญ่ๆ แข็งแรงๆ ให้กูที คืนนี้กูจะล่าเสือแหว่ง”
“มะ...ไม่ ไม่เอานะพี่ ฉันไม่เอาด้วย ฉันขอถอนตัว ฉันจะกลับบ้าน” สหายเสือสอนตัวสั่นเทา ผงะหนี
“จับไอ้คนไร้ประโยชน์มัดไว้ ในเมื่อมันเป็นเสือแต่เสือกไม่อยากล่า มันก็ต้องกลายเป็นเหยื่อล่อเสือให้กูแทน ฮ่าๆๆๆ”
“ยะ อย่า ปล่อยกูๆ ไอ้พวกสัตว์นรก ปล่อยกู อย่า กูยังไม่อยากตาย ปล่อยกู”
เสียงร้องโหยหวนของมันเร้าสางเสือให้ตื่นขึ้นพร้อมล่า หรือไม่ก็ถูกล่าตามกฎของป่า ไร้ความปรานีตามวิถีของไอ้แหว่งและโหดเหี้ยมกลับกลอกเยี่ยงสันดานมนุษย์ สองสิ่งผสมผสานเป็นส่วนประกอบอันน่าสยดสยองยิ่งนัก!
**************
โหลด eBook ฉบับเต็มได้ที่เว็บ mebmarket
หรือสั่งซื้อได้ 4 ช่องทาง
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์
3.inbox สั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงที่เพจ ‘ปลายปากกาสำนักพิมพ์’ (ส่งฟรีแบบลงทะเบียนเมื่อสั่งซื้อร่วมสั่งจองเรื่องใหม่ของสนพ.)
4.shopee ร้าน plaipakkabooks_officialshop (ซื้อเรื่องใดก็ได้ ส่งฟรีแบบลงทะเบียนทุกเล่ม)
ราคา 345฿ (จากปก 382฿)
จำนวน 448 หน้า พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ส.ค. 2562, 09:20:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ส.ค. 2562, 09:22:11 น.
จำนวนการเข้าชม : 575
<< บทที่ 20 -40% | บทที่ 21 -40% >> |