ฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
'พฤษภา' สาวสวยผู้อ่อนหวาน ทายาทผู้พี่ของตระกูลมาเฟียคูเปอร์สไตน์เดินทางมาเมืองไทยเพื่อดูแลญาติผู้ใหญ่ของมารดาที่ล้มป่วย หล่อนไม่รู้เลยสักนิดว่าได้เดินเข้าสู่อุ้งมืออันหยาบกร้านของ 'เสือ' หรือ 'พยัคฆ์' วีรกาญจน์ ทายาทนายเหมืองที่เพิ่งฆ่าตัวตายไปเพราะภรรยาแอบเล่นชู้กับสามีของเศรษฐีนีผู้เป็นญาติของหล่อน พยัคฆ์ฉุดกระชากลากถูพฤษภาเข้าไปในป่าลึกด้วยความแค้น เขาคิดจะใช้หล่อนเรียกร้องความยุติธรรมให้ครอบครัว
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: เสือ ป่า พี่น้อง เซ็กซี่ ละมุน เถื่อน เชลย คุณหนู มาเฟีย บู๊ ครอบครัว
ตอน: บทที่ 23 -100%
สวนน้ำที่ธรรศพาลูกสาวและพนิดาไปนั้นค่อนข้างพลุกพล่าน เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์ เขาสวมกางเกงว่ายน้ำใส่สบายนั่งจิบเครื่อง ดื่มอยู่ข้างสระน้ำกว้าง มองหนูขนมหวานลอยตุ๊บป่องๆ อยู่ในน้ำตื้นๆ ใสสะอาด ขณะที่พนิดาคอยประคองร่างเล็กให้ลอยวนไปมารอบๆ กายหล่อน วันนี้หญิงสาวสวมชุดว่ายน้ำวันพีซสีฟ้าสด ขับผิวขาวใสให้ผุดผ่องชวนมอง หล่อนม้วนผมยาวไว้เหนือศีรษะเผยใบหน้าอ่อนหวานบ่มแดด
ธรรศอดไม่ได้พิศมองหล่อนอย่างพิจารณา อาจเป็นเพราะวันนี้เขามองไปก็ครุ่นคิดไปด้วย ซึ่งในยามปกติไม่ค่อยทำ แก้มเนียนใสของหญิงสาวจึงเป็นสีเรื่อ นัยน์ตามีประกายความหวัง ธรรศรู้สึกตัวจึงได้ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ ทอดถอนใจอยู่เงียบๆ พักใหญ่
“สาวๆ แดดร้อนแล้วหิวกันหรือยังครับ” เขาเดินไปที่ขอบสระ ค้อมตัวลงถาม ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดอบอุ่นทำให้พนิดาหน้าแดงซ่าน
“หนมหวานหิวหรือยังลูก” หล่อนช้อนร่างเล็กขึ้นอุ้ม
“หิวค่ะ กินแล้วมาเล่นอีกนะ” ลูกสาวออดอ้อน ธรรศยิ้มกว้าง
“ไม่ไปดูสัตว์แล้วหรือคะ”
“ไปค่ะ ไปดูยีราฟ หนมอยากไป”
“ถ้าอย่างนั้นไปอาบน้ำ แล้วไปทานข้าวกันก่อนนะคะ เดี๋ยวไปเที่ยวสวนสัตว์”
“แล้วไปซื้อของฝากป้าแม็กกี้กับพี่เอพริลคนสวยด้วยนะคะ”
คำว่า ‘พี่เอพริลคนสวย’ จากปากหนูขนมหวานสะดุดหูพนิดา
ใครกัน?
“กระเป๋าพ่อฉีกแน่งานนี้” ธรรศหัวเราะหึๆ เมื่อลูกสาวทำหน้ายุ่งไม่เข้าใจ เขาดึงมือบางของพนิดาขึ้นจากสระ
“ส่งยายหนูมาเถอะค่ะ เดี๋ยวดาพาไปอาบน้ำเอง สาวๆ ในห้องน้ำหญิงเยอะแยะ ขืนพี่ธรรศเข้าไปคงไม่ได้ออกมาแน่” พนิดาเอ่ยเย้ายิ้มๆ ธรรศเกิดความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยจากสายตาหวานเย้ายวนคู่นั้น แทนที่จะหวามไหวไปกับหล่อน
ติ๊ด ติ๊ดๆ
เสียงข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือของเขาดังเกือบตลอดเวลา ธรรศรู้สึกเกรงใจพนิดาแต่เขาก็ปิดเสียงโทรศัพท์ไม่ได้เพราะยังมีภารกิจอีกมากที่เขายังต้องสานต่อให้เสร็จ
พนิดาเหลือบมองชายหนุ่มพิมพ์ข้อความลงไปในโทรศัพท์มือถือ อีกมือหนึ่งของเขาก็ตักข้าวให้ลูก หล่อนอดรู้สึกรำคาญใจไม่ได้ ชีวิตเขาดูยุ่งเหยิงเสียจนหล่อนอยากจะอาสาเข้ามาจัดการให้เรียบร้อย หล่อนเลยแย่งช้อนไปป้อนข้าวให้เด็กหญิงแทนพลางถาม
“งานยุ่งมากเหรอคะพี่ธรรศ”
“ครับ”
“ไม่ดีเลยนะคะงานแบบนี้ กินเวลาในชีวิตไปหมดเลย แบบนี้ยายหนูลำบากแย่ คุณพ่อทำงานไม่เป็นเวลา”
“ครับ แต่ยายหนูลูกพ่อเป็นเด็กเก่งจริงไหมลูก” เขาหันไปพยัก พเยิดกับลูกสาว
“แต่สุขภาพของพี่ธรรศจะแย่ด้วยนะคะ” หล่อนตักผัดผักใส่จานข้าวของเขาไปพลางพูดไปพลาง แม้น้ำเสียงจะอ่อนหวานแต่ธรรศก็ยังอดระคายหูไม่ได้ เขาคงเป็นโสดมานานเกินไปกระมัง เวลามีใครอาสาเข้ามาจัดการชีวิตถึงได้รู้สึกราวกับรำคาญไปหมด
“ครับ” เขารับคำง่ายๆ
“กลับเข้ารับราชการอีกดีไหมคะ งานมั่นคง ปลอดภัยกว่าเยอะเลย”
ธรรศไม่ตอบคำแนะนำนั้น ทำให้หล่อนรู้ว่าได้ข้ามเส้นไปแล้วเล็ก น้อย พนิดาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมฟังหล่อนหรือญาติๆ คนอื่น ยังทำตัวเป็นพ่อหม้ายเนื้อหอมลอยไปลอยมาอยู่ได้หลายปีทั้งๆ ที่หล่อนรอเขาอยู่ตลอดเวลา...หรือเขารอใครอยู่
“น้องหนมหวานทานไอติมไหมคะลูก”
หล่อนหันไปคุยกับลูกสาวตัวน้อยของเขาแทน เพราะดูเหมือนเด็ก หญิงจะเอาใจง่ายกว่าคุณพ่อมากโข ปล่อยเขาไปก่อนเถอะ เที่ยวนี้หล่อนมีวันหยุดติดกันตั้งสี่วัน เขาไม่ใจอ่อนก็ให้มันรู้ไปสิ
**************
เป็นเวลาบ่ายคล้อยมากแล้วกว่าที่ธรรศจะพาลูกสาวและน้าสาวของแกกลับมาถึงบ้าน
ธรรศเรียกให้สาวใช้มารับร่างเล็กที่หลับใหลอยู่บนบ่าของเขาไปนอนพัก ขณะช่วยพนิดาขนของลงจากรถ หล่อนขนซื้อของสดของแห้งหลายรายการราวกับจะทำอาหารเลี้ยงคนทั้งสัปดาห์ ธรรศมาเข้าใจสาเหตุเมื่อหล่อนวางถุงข้าวของถุงสุดท้ายลงที่โต๊ะทำอาหารในครัว แล้วหันมายิ้มหวานให้เขา
“คงพอทำกับข้าวได้สี่ห้าวันนะคะ เผื่อพี่ธรรศไปทำงานไม่เป็นเวล่ำเวลา ดาจะได้ทำกับข้าวให้ทานได้ทัน”
“ลำบากเปล่าๆ” ใจนึกจินตนาการการมีผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่สาวใช้มาอยู่ที่บ้านด้วยเป็นเวลาเกือบสัปดาห์ไม่ออก
“ไม่เป็นไรคะ ช่วงนี้ดาจะดูยายหนูให้ด้วย พี่ธรรศไปทำงานได้ตามสบายนะคะ ถ้าเป็นไปได้ดาอยากมาทุกสุดสัปดาห์เลยด้วยซ้ำ” หล่อนขยับกายเข้ามาใกล้เขาในครัวเล็กๆ ที่แคบลงไปถนัดตา
ธรรศยืนนิ่ง หากเขาถอยหนีมันคงน่าเกลียด หล่อนอาจจะอยากให้เขาเดินหน้าแต่ความรู้สึกของเขาไม่ได้บอกให้เขาทำอย่างนั้น
“ดาไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
“ครับ” เขาผ่อนลมหายใจช้าๆ เมื่อเดินออกมานอกครัว กระเป๋าเดินทางของหล่อนยังวางไว้ที่มุมหนึ่งในห้องรับแขก สาวใช้คงไม่รู้ว่าแขกสาวสวยคนนี้จะค้างห้องไหนกันแน่ ธรรศเลยหิ้วกระเป๋าเดินทางพวกนั้นไปไว้ที่ห้องพักแขกอย่างไม่ลังเล
**************
อีกฟากหนึ่งของประตูรั้วสูง
ครัวใหญ่ของบ้านวรกาญจน์กำลังโกลาหล เพราะคุณนายคูเปอร์สไตน์กำลังวุ่นกับการเตรียมอาหารเม็กซิกันเป็นมื้อเย็นมื้อใหญ่สำหรับแขกที่เชิญไว้ ไม่ว่าจะเป็นร้อยตำรวจเอกธวิชญ์ และทนายอาวุโสประจำบ้านวรกาญจน์ ลูกสาวคนเล็กเขย่งปลายเท้าพลิ้วไปมาระหว่างถาดอาหารถาดนั้นถาดนี้ ลองชิมไปทั่วจนคนเป็นแม่ต้องหางานให้ทำ
“เอพริล ไปตามคุณธรรศกับญาติของเธอมาทานมื้อเย็นกับเราไปลูก เร็วๆ เข้านะ เดี๋ยวคุณพ่อก็กลับมาแล้ว”
“ค่ะแม่”
เมษายอมละจากหน้าที่ชิมอาหารในครัว เพื่อไปตามบอดี้การ์ดหนุ่มตามคำสั่งของมารดา วันนี้ร่างสูงโปร่งบอบบางอยู่ในชุดเดรสบางเบาสั้นระหัวเข่าสีน้ำเงินประดับลวดลายดอกไม้กระจุ๋มกระจิ๋มน่าเอ็นดูซึ่งมารดาบังคับให้หยิบมาสวมใส่ แต่เจ้าตัวยังไม่วายคว้าเสื้อคลุมสีน้ำเงินตัวสั้นมาสวมทับไหล่บางให้ตนเองดูหวานน้อยลงอีกหน่อยจนได้ ส่วนผมยาวๆ ของหล่อนถูกรวบเป็นหางม้าเหมือนเช่นทุกครั้ง
มารดาหันมาเห็นก็อดไม่ได้พูดไล่หลังตามไปว่า
“ปล่อยผมสิลูก ผมหนูสวยออก”
“ร้อนค่ะแม่” ลูกสาวให้เหตุผลที่คนฟังจนใจจะโต้ตอบ
ในเวลาถัดมาเมษาก็เดินมาถึงหน้ารั้วไม้เตี้ยๆ เห็นสาวใช้กำลังทำอะไรอยู่ที่ระเบียงก็เรียกให้มาเปิดประตูให้
“เจ้าของบ้านอยู่ไหมจ๊ะ”
“ค่ะ เชิญค่ะ” สาวใช้บ้านธรรศเคยเห็นเมษาแล้ว กุลีกุจอมาต้อนรับ
“คุณธรรศอยู่ในบ้านค่ะ เดี๋ยวดิฉันไปเรียกให้นะคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ” เมษาเกรงใจ
“แค่จะมาชวนคุณธรรศกับหนูขนมหวาน แล้วก็...เอ่อ...น้าสาวของหนูขนมหวานไปทานข้าวเย็นด้วยกันที่บ้าน ไปทำงานต่อเถอะจ้ะ” บอกแล้วเมษาก็เดินเข้าไปในตัวบ้าน
ภายในห้องรับแขกนั้นเงียบสนิท ว่างเปล่า เมษายืนหันซ้ายแลขวา ถือวิสาสะเดินเข้าไปในครัว เห็นข้าวของมากมายแต่ไม่มีใคร เหลียวมองหาสาวใช้ก็ไม่เห็นเสียแล้ว หล่อนจึงตัดสินใจเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน
“พี่ธรรศ พี่ธรรศคะ”
เสียงหวานของใครบางคน ร้องเรียกหาคนที่หล่อนกำลังมองหาอยู่เช่นกัน
เมษาขึ้นบันไดมาจนถึงขั้นสุดท้ายก็ชะงักเล็กน้อย หล่อนไม่เห็นเจ้าของเสียงนั้นหรอก ลักษณะน่าจะดังทะลุผ่านประตูห้องใดห้องหนึ่งในสองห้องที่อยู่ตรงหน้าหล่อน
เมษายืนนิ่งลังเลอยู่ครู่ก็รู้สึกได้ว่าตัวเองชักเสียมารยาท เลยจะหันหลังกลับ พลันประตูห้องหนึ่งก็เปิดออก ตามมาด้วยร่างสูงของธรรศเดินออกมาจากห้องนั้นตรงไปยังห้องข้างๆ โดยไม่ทันสังเกตเห็นเมษาที่ยืนแอบอยู่ในมุมสลัวข้างบันได
“คุณดา” เขาเรียก
ไม่นานประตูห้องตรงหน้าชายหนุ่มก็เปิดออก พร้อมร่างขาวผ่องสมสัดส่วนของหญิงสาวผมยาวคนหนึ่งก้าวออกมาประจันหน้ากับเขา หล่อนสวมผ้าขนหนูผืนเดียวรัดรึงทรวงอกอิ่ม
เมษายืนตัวแข็งทื่อ พอๆ กับคนที่ยืนอยู่นอกห้องนั้น!
“กระเป๋าของดาล่ะคะ” หญิงสาวคนนั้นถามธรรศเสียงหวาน
“ดาไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน อย่าบอกนะว่าพี่ธรรศเอากระเป๋าดาไปไว้ห้องตัวเอง จะให้ดาไปค้างห้องโน้นด้วยเหรอคะ” ดวงตาหวานทอดมองเขา มือนิ่มวางลงบนอกกว้าง
“อ้าว คุณดาไม่เห็นเหรอครับ พี่เอาไปแอบไว้ข้างเตียงให้แล้ว”
“ไหนคะ เข้ามาหาให้ดาหน่อยสิคะ”
“คุณดา...” ธรรศอุทานออกมาอย่างจนใจ ส่วนร่างสูงโปร่งบอบบางที่ยืนแหงนหน้ามองอยู่ที่ราวบันไดรู้สึกชาไปหมดทั้งตัว อะไรก็ไม่เท่าอายตัวเองที่มาผิดที่ผิดเวลาแบบนี้
น้าสาวงั้นหรือ นี่หรือญาติห่างๆ ญาติสนิทแนบแน่นไปทั้งเนื้อทั้ง ตัวน่ะสิไม่ว่า ตาแว่นบ้าจอมหลอกลวงเอ๊ย!
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ธรรศอดไม่ได้พิศมองหล่อนอย่างพิจารณา อาจเป็นเพราะวันนี้เขามองไปก็ครุ่นคิดไปด้วย ซึ่งในยามปกติไม่ค่อยทำ แก้มเนียนใสของหญิงสาวจึงเป็นสีเรื่อ นัยน์ตามีประกายความหวัง ธรรศรู้สึกตัวจึงได้ยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ ทอดถอนใจอยู่เงียบๆ พักใหญ่
“สาวๆ แดดร้อนแล้วหิวกันหรือยังครับ” เขาเดินไปที่ขอบสระ ค้อมตัวลงถาม ดวงตาภายใต้แว่นกันแดดอบอุ่นทำให้พนิดาหน้าแดงซ่าน
“หนมหวานหิวหรือยังลูก” หล่อนช้อนร่างเล็กขึ้นอุ้ม
“หิวค่ะ กินแล้วมาเล่นอีกนะ” ลูกสาวออดอ้อน ธรรศยิ้มกว้าง
“ไม่ไปดูสัตว์แล้วหรือคะ”
“ไปค่ะ ไปดูยีราฟ หนมอยากไป”
“ถ้าอย่างนั้นไปอาบน้ำ แล้วไปทานข้าวกันก่อนนะคะ เดี๋ยวไปเที่ยวสวนสัตว์”
“แล้วไปซื้อของฝากป้าแม็กกี้กับพี่เอพริลคนสวยด้วยนะคะ”
คำว่า ‘พี่เอพริลคนสวย’ จากปากหนูขนมหวานสะดุดหูพนิดา
ใครกัน?
“กระเป๋าพ่อฉีกแน่งานนี้” ธรรศหัวเราะหึๆ เมื่อลูกสาวทำหน้ายุ่งไม่เข้าใจ เขาดึงมือบางของพนิดาขึ้นจากสระ
“ส่งยายหนูมาเถอะค่ะ เดี๋ยวดาพาไปอาบน้ำเอง สาวๆ ในห้องน้ำหญิงเยอะแยะ ขืนพี่ธรรศเข้าไปคงไม่ได้ออกมาแน่” พนิดาเอ่ยเย้ายิ้มๆ ธรรศเกิดความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยจากสายตาหวานเย้ายวนคู่นั้น แทนที่จะหวามไหวไปกับหล่อน
ติ๊ด ติ๊ดๆ
เสียงข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือของเขาดังเกือบตลอดเวลา ธรรศรู้สึกเกรงใจพนิดาแต่เขาก็ปิดเสียงโทรศัพท์ไม่ได้เพราะยังมีภารกิจอีกมากที่เขายังต้องสานต่อให้เสร็จ
พนิดาเหลือบมองชายหนุ่มพิมพ์ข้อความลงไปในโทรศัพท์มือถือ อีกมือหนึ่งของเขาก็ตักข้าวให้ลูก หล่อนอดรู้สึกรำคาญใจไม่ได้ ชีวิตเขาดูยุ่งเหยิงเสียจนหล่อนอยากจะอาสาเข้ามาจัดการให้เรียบร้อย หล่อนเลยแย่งช้อนไปป้อนข้าวให้เด็กหญิงแทนพลางถาม
“งานยุ่งมากเหรอคะพี่ธรรศ”
“ครับ”
“ไม่ดีเลยนะคะงานแบบนี้ กินเวลาในชีวิตไปหมดเลย แบบนี้ยายหนูลำบากแย่ คุณพ่อทำงานไม่เป็นเวลา”
“ครับ แต่ยายหนูลูกพ่อเป็นเด็กเก่งจริงไหมลูก” เขาหันไปพยัก พเยิดกับลูกสาว
“แต่สุขภาพของพี่ธรรศจะแย่ด้วยนะคะ” หล่อนตักผัดผักใส่จานข้าวของเขาไปพลางพูดไปพลาง แม้น้ำเสียงจะอ่อนหวานแต่ธรรศก็ยังอดระคายหูไม่ได้ เขาคงเป็นโสดมานานเกินไปกระมัง เวลามีใครอาสาเข้ามาจัดการชีวิตถึงได้รู้สึกราวกับรำคาญไปหมด
“ครับ” เขารับคำง่ายๆ
“กลับเข้ารับราชการอีกดีไหมคะ งานมั่นคง ปลอดภัยกว่าเยอะเลย”
ธรรศไม่ตอบคำแนะนำนั้น ทำให้หล่อนรู้ว่าได้ข้ามเส้นไปแล้วเล็ก น้อย พนิดาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมฟังหล่อนหรือญาติๆ คนอื่น ยังทำตัวเป็นพ่อหม้ายเนื้อหอมลอยไปลอยมาอยู่ได้หลายปีทั้งๆ ที่หล่อนรอเขาอยู่ตลอดเวลา...หรือเขารอใครอยู่
“น้องหนมหวานทานไอติมไหมคะลูก”
หล่อนหันไปคุยกับลูกสาวตัวน้อยของเขาแทน เพราะดูเหมือนเด็ก หญิงจะเอาใจง่ายกว่าคุณพ่อมากโข ปล่อยเขาไปก่อนเถอะ เที่ยวนี้หล่อนมีวันหยุดติดกันตั้งสี่วัน เขาไม่ใจอ่อนก็ให้มันรู้ไปสิ
**************
เป็นเวลาบ่ายคล้อยมากแล้วกว่าที่ธรรศจะพาลูกสาวและน้าสาวของแกกลับมาถึงบ้าน
ธรรศเรียกให้สาวใช้มารับร่างเล็กที่หลับใหลอยู่บนบ่าของเขาไปนอนพัก ขณะช่วยพนิดาขนของลงจากรถ หล่อนขนซื้อของสดของแห้งหลายรายการราวกับจะทำอาหารเลี้ยงคนทั้งสัปดาห์ ธรรศมาเข้าใจสาเหตุเมื่อหล่อนวางถุงข้าวของถุงสุดท้ายลงที่โต๊ะทำอาหารในครัว แล้วหันมายิ้มหวานให้เขา
“คงพอทำกับข้าวได้สี่ห้าวันนะคะ เผื่อพี่ธรรศไปทำงานไม่เป็นเวล่ำเวลา ดาจะได้ทำกับข้าวให้ทานได้ทัน”
“ลำบากเปล่าๆ” ใจนึกจินตนาการการมีผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่สาวใช้มาอยู่ที่บ้านด้วยเป็นเวลาเกือบสัปดาห์ไม่ออก
“ไม่เป็นไรคะ ช่วงนี้ดาจะดูยายหนูให้ด้วย พี่ธรรศไปทำงานได้ตามสบายนะคะ ถ้าเป็นไปได้ดาอยากมาทุกสุดสัปดาห์เลยด้วยซ้ำ” หล่อนขยับกายเข้ามาใกล้เขาในครัวเล็กๆ ที่แคบลงไปถนัดตา
ธรรศยืนนิ่ง หากเขาถอยหนีมันคงน่าเกลียด หล่อนอาจจะอยากให้เขาเดินหน้าแต่ความรู้สึกของเขาไม่ได้บอกให้เขาทำอย่างนั้น
“ดาไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
“ครับ” เขาผ่อนลมหายใจช้าๆ เมื่อเดินออกมานอกครัว กระเป๋าเดินทางของหล่อนยังวางไว้ที่มุมหนึ่งในห้องรับแขก สาวใช้คงไม่รู้ว่าแขกสาวสวยคนนี้จะค้างห้องไหนกันแน่ ธรรศเลยหิ้วกระเป๋าเดินทางพวกนั้นไปไว้ที่ห้องพักแขกอย่างไม่ลังเล
**************
อีกฟากหนึ่งของประตูรั้วสูง
ครัวใหญ่ของบ้านวรกาญจน์กำลังโกลาหล เพราะคุณนายคูเปอร์สไตน์กำลังวุ่นกับการเตรียมอาหารเม็กซิกันเป็นมื้อเย็นมื้อใหญ่สำหรับแขกที่เชิญไว้ ไม่ว่าจะเป็นร้อยตำรวจเอกธวิชญ์ และทนายอาวุโสประจำบ้านวรกาญจน์ ลูกสาวคนเล็กเขย่งปลายเท้าพลิ้วไปมาระหว่างถาดอาหารถาดนั้นถาดนี้ ลองชิมไปทั่วจนคนเป็นแม่ต้องหางานให้ทำ
“เอพริล ไปตามคุณธรรศกับญาติของเธอมาทานมื้อเย็นกับเราไปลูก เร็วๆ เข้านะ เดี๋ยวคุณพ่อก็กลับมาแล้ว”
“ค่ะแม่”
เมษายอมละจากหน้าที่ชิมอาหารในครัว เพื่อไปตามบอดี้การ์ดหนุ่มตามคำสั่งของมารดา วันนี้ร่างสูงโปร่งบอบบางอยู่ในชุดเดรสบางเบาสั้นระหัวเข่าสีน้ำเงินประดับลวดลายดอกไม้กระจุ๋มกระจิ๋มน่าเอ็นดูซึ่งมารดาบังคับให้หยิบมาสวมใส่ แต่เจ้าตัวยังไม่วายคว้าเสื้อคลุมสีน้ำเงินตัวสั้นมาสวมทับไหล่บางให้ตนเองดูหวานน้อยลงอีกหน่อยจนได้ ส่วนผมยาวๆ ของหล่อนถูกรวบเป็นหางม้าเหมือนเช่นทุกครั้ง
มารดาหันมาเห็นก็อดไม่ได้พูดไล่หลังตามไปว่า
“ปล่อยผมสิลูก ผมหนูสวยออก”
“ร้อนค่ะแม่” ลูกสาวให้เหตุผลที่คนฟังจนใจจะโต้ตอบ
ในเวลาถัดมาเมษาก็เดินมาถึงหน้ารั้วไม้เตี้ยๆ เห็นสาวใช้กำลังทำอะไรอยู่ที่ระเบียงก็เรียกให้มาเปิดประตูให้
“เจ้าของบ้านอยู่ไหมจ๊ะ”
“ค่ะ เชิญค่ะ” สาวใช้บ้านธรรศเคยเห็นเมษาแล้ว กุลีกุจอมาต้อนรับ
“คุณธรรศอยู่ในบ้านค่ะ เดี๋ยวดิฉันไปเรียกให้นะคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ” เมษาเกรงใจ
“แค่จะมาชวนคุณธรรศกับหนูขนมหวาน แล้วก็...เอ่อ...น้าสาวของหนูขนมหวานไปทานข้าวเย็นด้วยกันที่บ้าน ไปทำงานต่อเถอะจ้ะ” บอกแล้วเมษาก็เดินเข้าไปในตัวบ้าน
ภายในห้องรับแขกนั้นเงียบสนิท ว่างเปล่า เมษายืนหันซ้ายแลขวา ถือวิสาสะเดินเข้าไปในครัว เห็นข้าวของมากมายแต่ไม่มีใคร เหลียวมองหาสาวใช้ก็ไม่เห็นเสียแล้ว หล่อนจึงตัดสินใจเดินขึ้นบันไดไปชั้นบน
“พี่ธรรศ พี่ธรรศคะ”
เสียงหวานของใครบางคน ร้องเรียกหาคนที่หล่อนกำลังมองหาอยู่เช่นกัน
เมษาขึ้นบันไดมาจนถึงขั้นสุดท้ายก็ชะงักเล็กน้อย หล่อนไม่เห็นเจ้าของเสียงนั้นหรอก ลักษณะน่าจะดังทะลุผ่านประตูห้องใดห้องหนึ่งในสองห้องที่อยู่ตรงหน้าหล่อน
เมษายืนนิ่งลังเลอยู่ครู่ก็รู้สึกได้ว่าตัวเองชักเสียมารยาท เลยจะหันหลังกลับ พลันประตูห้องหนึ่งก็เปิดออก ตามมาด้วยร่างสูงของธรรศเดินออกมาจากห้องนั้นตรงไปยังห้องข้างๆ โดยไม่ทันสังเกตเห็นเมษาที่ยืนแอบอยู่ในมุมสลัวข้างบันได
“คุณดา” เขาเรียก
ไม่นานประตูห้องตรงหน้าชายหนุ่มก็เปิดออก พร้อมร่างขาวผ่องสมสัดส่วนของหญิงสาวผมยาวคนหนึ่งก้าวออกมาประจันหน้ากับเขา หล่อนสวมผ้าขนหนูผืนเดียวรัดรึงทรวงอกอิ่ม
เมษายืนตัวแข็งทื่อ พอๆ กับคนที่ยืนอยู่นอกห้องนั้น!
“กระเป๋าของดาล่ะคะ” หญิงสาวคนนั้นถามธรรศเสียงหวาน
“ดาไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน อย่าบอกนะว่าพี่ธรรศเอากระเป๋าดาไปไว้ห้องตัวเอง จะให้ดาไปค้างห้องโน้นด้วยเหรอคะ” ดวงตาหวานทอดมองเขา มือนิ่มวางลงบนอกกว้าง
“อ้าว คุณดาไม่เห็นเหรอครับ พี่เอาไปแอบไว้ข้างเตียงให้แล้ว”
“ไหนคะ เข้ามาหาให้ดาหน่อยสิคะ”
“คุณดา...” ธรรศอุทานออกมาอย่างจนใจ ส่วนร่างสูงโปร่งบอบบางที่ยืนแหงนหน้ามองอยู่ที่ราวบันไดรู้สึกชาไปหมดทั้งตัว อะไรก็ไม่เท่าอายตัวเองที่มาผิดที่ผิดเวลาแบบนี้
น้าสาวงั้นหรือ นี่หรือญาติห่างๆ ญาติสนิทแนบแน่นไปทั้งเนื้อทั้ง ตัวน่ะสิไม่ว่า ตาแว่นบ้าจอมหลอกลวงเอ๊ย!
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.ย. 2562, 08:05:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.ย. 2562, 08:05:03 น.
จำนวนการเข้าชม : 655
<< บทที่ 23 -50% | บทที่ 24 -25% >> |