กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า: พิมมาศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะเสียงกระซิบจากชายในฝัน
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง

Love go on, until the end of the world…

เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง


***************************

นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!


***************************

นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ

***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***

1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ

2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น

3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks

4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee

หนังสือพร้อมส่ง

คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า

สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)

หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"

***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***

Tags: สายเปย์ รุกจีบ น่ารัก ดราม่า แก้แค้น ลอนดอน ฟลอเรนซ์

ตอน: บทที่ 7 -70%

ในยามสายของวันรุ่งขึ้น เอรินก็ได้รับชุดจากชานนท์ซึ่งฝากพนักงานนำมาให้ถึงที่ห้องพักของหล่อนตามที่เขาบอกไว้ นอกจากนี้ซีอีโอหนุ่มใหญ่ยังฝากผ่านพนักงานมาย้ำกับเอรินอีกด้วยว่า เจอกันเวลาทุ่มตรง เพราะเขาจะจัดงานวันเกิดอย่างเป็นส่วนตัวที่ห้องสูทชั้นบนสุดของโรงแรม ซึ่งเป็นห้องพักของเขากับสิมิลันเอง และอาจทำอาหารง่ายๆ ทานกันกับสั่งจากห้องอาหารของโรงแรมขึ้นมาสักสี่ห้าอย่าง

แต่ทว่าพอจวนถึงวลานัด อยู่ดีๆ ชานนท์ก็โทร.มาเร่งให้เอรินรีบขึ้นไปหาก่อนร่วมชั่วโมง! หล่อนไม่รู้ว่าทำไมแต่ก็ถึงกับตาลีตาเหลือกรีบอาบน้ำแต่งตัวมาตามที่เขาบอก

เอรินอยู่ในชุดเดรสสั้นสีเบจที่ชานนท์เพิ่งนำมาให้ เดินเฉิดฉายตรงมายังห้องสูทชั้นบนสุดของโรงแรม

แวบหนึ่งในห้วงความคิดนั้น หล่อนอยากสวยสมกับที่เขาให้ความเอ็นดู และอยากให้เขามองหล่อนในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ใช่เป็นแค่เด็กกะโปโลอีกต่อไป...

ทันทีที่เดินมาถึงหน้าห้องสูท เอรินก็รู้สึกประหม่าก้มสำรวจเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองด้วยความตื่นเต้นอยู่ครู่หนึ่งจึงกดกริ่งหน้าประตู รอไม่นาน เจ้าของห้องก็เปิดประตูออกมาราวกับกำลังรอหล่อนอยู่แล้ว

ชานนท์อยู่ในชุดลำลองสีขาวดูสบายๆ กว่าที่เคยเห็น สาวน้อยหน้าห้องถึงกับใจลอยแค่ได้เห็นรอยยิ้มและน้ำเสียงยินดีจากเขา

“มาเร็วดีนี่”

“ค่ะ ก็พอคุณโทร.มาฉันก็รีบแต่งตัวเลย” เอรินบอกเขินๆ

“อ้อ ในเมื่อคุณเป็นเจ้ามือเลี้ยงวันเกิดทั้งที ฉันเลยเอาชาร์ดอนเนย์ปีเก้าศูนย์มาด้วยค่ะ แทบหมดกระเป๋าเลยนะคุณ”

“หืม อัฐยายซื้อขนมยายเหรอ” ชานนท์แซวหน้ายิ้มกริ่ม ทำเอาเอรินยิ่งอายม้วน รู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยที่เขาหัวเราะออกมาราวรู้ทัน

“ก็คุณให้ฉันยืมเองนี่นา เอาไว้ฉันจะฝากยายวีคืนให้นะคะ” หล่อนอ้อมแอ้มบอกเขาไปเช่นนั้น แล้วยิ้มตาเป็นประกายจับจ้องชานนท์ที่ยืนกอดอกพิงประตูห้องอย่างเคอะเขิน ชานนท์เลยรับขวดไวน์ในมือเอรินมาถือไว้ หากแววตาของเขาที่มองมานั้นดูคล้ายสงสาร เห็นใจ หรือมีความกังวลซ่อนอยู่ แต่ก็แค่วูบเดียวเท่านั้นก่อนจะกลบเกลื่อนด้วยการเสมองเข้าไปในห้องตัวเองพลางเอ่ยเชื้อเชิญ

“เข้ามาสิ อาหารใกล้เสร็จพอดี”

เอรินพยักหน้ารับ แต่ยังเมียงๆ มองๆ เข้าไปในห้องอยู่นั่นเอง

“แล้ว เอ่อ มีใครมาบ้างเหรอคะ แบบว่า...”

ไม่ทันที่เอรินจะได้เอ่ยอะไรต่อ ชานนท์ก็คว้ามือเอรินดึงให้เข้ามาในห้องด้วยกัน ก่อนจะยื่นหน้าหล่อเหลาเข้ามาใกล้จนริมฝีปากของเขาชิดริมใบหูของหล่อน ทำเอาเอรินถึงกับหน้าแดงก่ำเพราะสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนจากเขา แต่แล้วกลับหน้าซีดเผือดเสียเองเมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มเอ่ยต่อว่า

“ทำตามสัญญาของเธอที่บอกจะตอบแทนฉันนะ เขากำลังรอเธออยู่ในห้อง”

“คะ เขา...ใคร?” หล่อนทำหน้างง

“ก็นายโอมไง เธอชอบเขาไม่ใช่เหรอ ฉันเลยชวนมาด้วย มาถึงก่อนเธอตั้งนานแล้ว” บอกแล้วชานนท์ก็ดุนหลังเอรินเข้าไปในห้อง

“เอ๊ะ! เดี๋ยวๆ ไหนคุณบอกว่าจะไม่ให้ฉันยุ่งแล้วไง ตกลงนี่เป็นแผนคุณเหรอคะ ฉันคิดว่าคุณชวนฉันมาดินเนอร์วันเกิดจริงๆ เสียอีก” ประโยคท้ายเอรินต่อว่าเสียงแผ่ว หน้าเสียหนักกว่าเก่า เพราะชานนท์ไม่ฟังกันสักนิด ให้หล่อนเข้ามาในห้องได้เขาก็ปิดประตูทันที แล้วโอบไหล่หล่อนแกมบังคับให้เข้าไปด้านในด้วยกัน



**************



“คุณเอรินมาแล้วเหรอคะพี่นนท์”

สิมิลันที่อยู่ในห้องครัวเล็กๆ ของห้องสูท กำลังขะมักเขม้นกับการทำอาหารมื้อค่ำให้เจ้าของวันเกิด ส่งเสียงทักมาแต่ไกล

ชานนท์ผละจากเอรินไปช่วยสิมิลันต่อทันที เอรินเลยหยุดชะงักยืนเคว้งอยู่กลางห้อง มองตามชานนท์ไปตาละห้อย

ห้องสูทของชานนท์ค่อนข้างกว้างขวาง นอกจากบริเวณโต๊ะอาหารที่เอรินยืนอยู่ มีห้องครัวเล็กๆ ไว้สำหรับทำอาหารง่ายๆ ได้ และห้องนั่งเล่นซึ่งมีระเบียงนั่งสบาย ส่วนฝั่งซ้ายและขวาของห้องเป็นห้องนอนแยกออกไปอีกถึงสองห้องด้วยกัน และหนึ่งในนั้นคือห้องของชานนท์ซึ่งเอรินเคยมานอนพักฟื้นตอนป่วยแล้ว 

“อ้าว คุณ มาแล้วเหรอ” อธิปกเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ เห็นเอรินยืนเคว้งอยู่กลางห้องก็เอ่ยทัก

เอรินกำลังอยู่ในภวังค์ถึงกับสะดุ้ง หันขวับไปมองเขา

“คุณโอม...เอ่อ ค่ะ คุณก็มาด้วยเหรอคะ ฉันเพิ่งรู้จากคุณอเล็กซ์เมื่อกี้นี้เอง”

“อืม คุณนั่งก่อนสิ มิน เอิ่ม คุณมินนี่ทำอาหารใกล้เสร็จแล้วละ อาหารที่สั่งไว้ก็มาหมดแล้ว” อธิปกบอกแล้วดึงเก้าอี้ตัวหนึ่งให้เอรินนั่ง ซึ่งเป็นที่นั่งข้างเขา

“ขอบคุณค่ะ” เอรินยิ้มแห้งๆ ขอบคุณเขา

บนโต๊ะอาหารถูกจัดวางอย่างสวยงามพร้อมสำหรับดินเนอร์มื้อค่ำแล้ว ไม่ว่าจะเป็นต้มยำกุ้ง สลัดผักออร์แกนิคที่ราดน้ำสลัดจนฉ่ำเยิ้มโรยหน้าด้วยไข่ คาโบนาร่า และไก่ฉีกคำโต คาลามารีวงใหญ่ในจานเปล สเต็กซี่โครงหมูอบพริกไทยดำ และไวน์ขวดใหญ่ในตะกร้าผูกโบว์สีแดงงดงาม ซึ่งตอนนี้มีขวดไวน์ของหล่อนวางอยู่เคียงข้าง

แต่ถึงแม้อาหารบนโต๊ะจะละลานตาน่ารับประทานสักเพียงใด เอรินกลับรู้สึกฝืดคอพิกลเมื่อต้องนั่งอยู่กับอธิปกสองคนบนโต๊ะ หนำซ้ำยังมีสิมิลันที่อยู่ในห้องครัวกับชานนท์อีก

เอรินยอมรับเลยว่าตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นจนถึงตอนนี้ หล่อนไม่รู้แล้วว่าตกลงอธิปกกับสิมิลันมีความสัมพันธ์กันแบบไหนกันแน่ รวมถึงชานนท์ด้วย เพราะเขาเล่นไม่บอกหล่อนสักอย่าง แม้แต่อธิปกกับสิมิลันหายไปไหนในคืนงานแต่งของวินซ์ เขาก็ไม่ยอมบอก 

สิ่งเดียวที่เอรินรู้และเห็นมากับตัวเองก็คือ อธิปกย้ายมาพักอยู่ที่โรง แรมพาร์ค พลาซ่าแล้ว หลังจากที่กลับมาพร้อมกับสิมิลันวันนั้น!

“อาหารจานสุดท้ายมาแล้วค่ะ”

สิมิลันส่งเสียงใสๆ มาก่อนตัวอีกเช่นเคย พร้อมลิงกิวนี่ผัดเปรี้ยว หวานปูหอมกรุ่นที่เพิ่งทำเสร็จสดๆ ร้อนๆ จะเสิร์ฟลงโต๊ะ อธิปกเห็นก็ลุกขึ้นกุลีกุจอช่วยขยับของบนโต๊ะให้มีที่ว่างพอสำหรับวางอาหารจานสุดท้ายนั้นลงโต๊ะ ตอนนั้นเองเอรินต้องเรียกสติตัวเอง ฝืนยิ้มออกมา

“อื้อฮือ อาหารน่ากินจัง คุณมินทำอาหารเก่งจังค่ะ”

“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะคุณเอริน แค่ชอบทำน่ะค่ะ” สิมิลันบอกยิ้มๆ แต่หลบตาอธิปกที่ยังคงจ้องมองมาไม่วางตา

ระหว่างนั้นชานนท์ที่เดินตามหลังมา เห็นสายตาของอธิปกก็รีบเข้ามาขยับเก้าอี้ให้สิมิลันนั่งฝั่งตรงข้ามเอริน ส่วนตัวเขาจะได้นั่งฝั่งตรงข้ามอธิปก แต่แทนที่ชานนท์จะเอ่ยอะไรออกมาบ้าง กลับเอาแต่ยืนจ้องหน้าเพื่อนรุ่นน้องอยู่นั่นเองจนสิมิลันมีสีหน้ากระอักกระอ่วนอย่างเห็นได้ชัด

เช่นเดียวกับเอรินที่ลอบสังเกตทั้งสามแล้วก็ถึงกับพรูลมหายใจออก มาอย่างอึดอัด หล่อนเห็นชานนท์ยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย คล้ายยิ้มเยาะ ไม่วายดวงตากร้าวของเขาฉายแววสมใจขณะจ้องตอบอธิปก หล่อนเห็นท่าไม่ดีจึงเอ่ยทำลายความเงียบอีกครั้ง

“เอ่อ ขอบคุณนะคะที่ชวนฉันมาดินเนอร์ด้วย ท่าทางวันนี้ฉันจะสวยกว่าเพื่อนเลยนะคะ” พูดจบเอรินก็หัวเราะแก้เก้อเพราะดูท่าว่าทั้งสามจะไม่สนใจ ราวกับหล่อนเป็นเพียงอากาศธาตุที่รอวันปลิวหายไปเพียงเสี้ยววินาที

“ถ้าหิวกันแล้วก็ทานได้เลยนะคะ เดี๋ยวมินขอตัวไปดูอาร์มในห้องก่อน แกไม่สบายกินยาไปไม่รู้ป่านนี้ตื่นหรือยัง” บอกแล้วสิมิลันก็ทำท่าจะลุกออกจากโต๊ะไป ชานนท์จึงขยับตัวโอบไหล่สิมิลันไว้ สบโอกาสที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัวโน้มตัวลงมาจูบแก้มนวลใสแผ่วเบา ทำเอาคนโดนจูบสะดุ้งโหยง พอๆ กับอธิปกและเอรินที่ถึงกับมองอึ้งอย่างนึกไม่ถึง!

“พี่นนท์! ทำอะไรคะ” สิมิลันร้องถาม ลูบแก้มตัวเองด้วยความตกใจ

ชานนท์ยิ้มกริ่ม สองมือวางบนไหล่หญิงสาวคล้ายกดไว้กลายๆ ไม่ยอมให้หล่อนลุกหนีไปไหนอีก ขณะที่อธิปกทำได้แค่จับจ้องสิมิลันตาเขม็ง ราวกับจะสื่อไปให้ถึงก้นบึ้งหัวใจของเขา ร้อนถึงเอรินที่มองทั้งสามสลับกันไปมา แล้วเป็นฝ่ายทนไม่ได้ โพล่งขึ้นมาเสียเอง!

“นี่มันเรื่องอะไรกันคะ”

“นั่นสิ พี่เล่นอะไรอยู่!” อธิปกได้ทีเอ่ยขึ้นด้วยอีกคนน้ำเสียงขึงขัง

“ยินดีต้อนรับสู่ปาร์ตี้เล็กๆ ของฉันกับมิน”

“ปาร์ตี้ของคุณกับคุณมิน?” เอรินทวนคำเขาอย่างงงๆ

“ตกลงวันนี้เป็นวันเกิดคุณจริงหรือเปล่า”

“นั่นก็ใช่ แต่ว่าวันนี้ฉันมีเซอร์ไพรส์ หวังว่าน้องชายที่น่ารักของฉัน...และเธอ จะยินดีกับเรา”

“พูดอะไรของพี่คะ มินงงไปหมดแล้ว” สิมิลันเองก็ตามชานนท์ไม่ทันพอกัน และนั่นทำให้ชานนท์ต้องหันมาเอ่ยกับสิมิลัน สีหน้าแช่มชื่นว่า

“ฟังให้ดีๆ นะมิน วันนี้ที่พี่ชวนพวกเขาสองคนมางานเลี้ยงวันเกิดพี่...เพราะพี่จะขอมินแต่งงาน”

“แต่งงาน!”

เอรินกับอธิปกร้องเสียงหลงออกมาแทบจะพร้อมกัน ต่างจากสิมิลันที่ถึงกับนิ่งอึ้งไป มองชานนท์ค้างไม่ต่างจากคนตกอยู่ในอาการช็อก ถามเขากลับเสียงสั่น

“อะ...อะไรนะคะพี่นนท์”

“มินฟังไม่ผิดหรอก คือพี่...”

ออด!!!

ยังไม่ทันที่ชานนท์จะได้เอ่ยอะไรต่อ เสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังขึ้น ราวกับว่าช่วยเรียกสติทุกคนกลับคืน โดยเฉพาะสิมิลันที่หน้าซีดเผือดหันไปสบตากับอธิปกทันใด ในขณะที่ชานนท์หัวเสีย จำต้องผละไปดูที่ประตูห้อง โดยมีสายตาของเอรินมองตามไปตลอด หากทว่าในสมองขาวโพลนตั้งแต่ได้ยินคำว่า ‘แต่งงาน’ จากปากซีอีโอหนุ่มใหญ่แล้ว...

กระทั่งได้ยินเสียงเขาอีกครั้ง

“ราเชล!? คุณมาทำอะไรที่นี่”

ชานนท์หน้าถอดสีเมื่อเปิดประตูห้องแล้วหญิงสาวด้านนอกซึ่งเป็นคนกดกริ่งเมื่อครู่ ก็ถือวิสาสะย่างกรายเข้ามาทันที ทั้งที่เขายังไม่ทันจะเชิญ

การมาใหม่ของหญิงสาวผู้นั้นที่ชื่อ ราเชล เรียกความสนใจจากอีกสามคนในห้องพลัน 

“ที่แท้ก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาที่นี่เอง...แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะคะ อเล็กซ์” หญิงสาวสูงยาวเข่าดี หุ่นเซ็กซี่ขนาดนางแบบวิกตอเรียส์ซีเคร็ตยังอาย ตรงเข้ามาจุ๊บแก้มชานนท์ และกอดรัดเขาแสดงความสนิทสนมอย่างไม่สนใจสายตาใครทั้งสิ้น เอรินไม่เคยเจอเจ้าหล่อนมาก่อนถึงขั้นตกตะลึงระคนแปลกประหลาดใจกับพฤติกรรมนั้นไม่น้อย!

“ปล่อย ราเชล” ชานนท์แกะมือหญิงสาวออกอย่างรำคาญๆ

“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่ห้อง”

“ฉันถามพนักงานข้างล่างน่ะค่ะ พอดีคุณพ่อฉันอยากพบคุณเรื่องหุ้นโรงแรมที่ฟลอเรนซ์” ราเชลตอบชานนท์ก็จริงแต่กลับปรายตามองไปทางสิมิลัน ยกยิ้มเย้ยหยันในที

“สบายดีนะ มินนี่”

“ค่ะ” สิมิลันยิ้มจางๆ หล่อนกำลังพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติเพราะยังช็อกไม่หายกับเรื่องที่ชานนท์เพิ่งบอก

“ทานข้าวด้วยกันไหมคะ วันนี้ฉันทำอาหารไทยฉลองวันเกิดพี่นนท์ด้วย”

ได้ยินสิมิลันเอ่ยเชิญชวนสาวมาใหม่ เจ้าของวันเกิดอย่างชานนท์เลยกลอกตามองบนอย่างเซ็งๆ อธิปกก็ไม่ต่างกัน ขณะที่สาวถูกเชิญไม่ได้สนใจอาการของสองหนุ่มสักนิด เหลือบมองอาหารบนโต๊ะก่อนเอ่ยว่า

“ไม่ดีกว่าจ้ะมินนี่ ถึงฉันจะมีแม่เป็นคนไทยแต่ฉันไม่ชอบอาหารไทย โดยเฉพาะผู้หญิงไทยบางคนที่ชอบทำตัวอ่อนปวกเปียก ต่อหน้าแสนดีลับหลังแอบกินของคนอื่น ฉันยิ่งเกลียด”

“ไม่เอาน่าราเชล” อธิปกนิ่งฟังอยู่นานเกิดความระอาเอ่ยห้าม

“นายนั่นแหละตัวดี เงียบไปเลย!” ราเชลหันขวับมาแหวใส่อธิปกเสียอย่างนั้น แล้วเชิดหน้าปรายตามองชานนท์กับสิมิลันอีกครั้ง มีร่องรอยของความอิจฉาปรากฏในแววตาคู่นั้นแวบหนึ่ง ก่อนหยุดสายตาที่สาวไทยอีกคนซึ่งก็คือเอริน แต่ราเชลไม่รู้จักและก็ไม่คิดจะรู้จักด้วย เลยมองเลยผ่านไปราวอากาศธาตุ

“เอาเถอะ วันนี้ฉันมาหาอเล็กซ์เรื่องงาน ไม่อยากต้องมาหงุดหงิดกับเรื่องฉาวโฉ่ของคนอื่นเหมือนกัน”

“พูดให้มันดีๆ นะราเชล! ให้เกียรติกันบ้าง” อธิปกต่อว่า

“แล้วฉันไม่ให้เกียรติตรงไหน!” ราเชลย้อน

“เหอะ ปกป้องยายนี่กันเข้าไปเถอะ อยากรู้จริงว่ามันมีดีอะไร นายถึงขนาดหย่ากับเพื่อนฉันเพื่อกลับมาหา...”

“พอได้แล้วราเชล!” คราวนี้เป็นชานนท์ที่ทนไม่ได้ตวาดออกมาเสียงเข้ม แต่แทนทีที่ราเชลจะหยุด กลับทำท่าจะเข้าไปหาเรื่องสิมิลันถึงตัว เดือดร้อนชานนท์ต้องลากเจ้าหล่อนออกไปจากห้องโดยด่วน!



หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ



ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ส.ค. 2562, 09:39:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ส.ค. 2562, 09:39:36 น.

จำนวนการเข้าชม : 474





<< บทที่ 7 -30%   บทที่ 7 -100% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account