ร้อยเล่ห์...นายเหมันต์
เขียนนิยายรักแนวหวานมาหลายเรื่อง อยากลองแนวอิโรติกดูบ้าง มาดูกันว่าจะได้แค่ไหน
Tags: สิรินดา, รักเล่ห์, นิยายรัก
ตอน: 2: พี่ครับผมขอเบอร์พี่ได้ไหมครับ
วิธีการคัดเลือกผลงานประกวดในโครงการ UStar#3 เพื่อเข้ารอบต่อไป ทีมที่ผลงานที่ได้รับเลือกจะได้เงินรางวัลก้อนแรก 5 หมื่นบาทเพื่อพัฒนาผลงานและเข้าค่ายอบรมเพื่อปรับปรุงผลงานอีกสองเดือนก่อนตัดสินรอบสุดท้าย มีทีมโคชที่คอยดูแลให้คำแนะนำปรึกษา ฉันเพิ่งรู้ว่าที่ปีนี่คึกคักเพราะมีผู้สนับสนุนทุนมากขึ้น ทีมที่ได้รางวัลที่หนึ่งในรอบสุดท้ายจะได้เงินถึงหนึ่งล้านบาท ซึ่งไม่น้อยเลย
"ถ้ายังไงต้องขอเวลาคุณลินเพิ่มนะครับ เดี๋ยวจะมีน้องๆ นัดเวลาไป"
"ขอเพิ่ม?"
"ครับ คุณพจน์แจ้งว่าให้คุณลินเป็นโคชให้น้องๆ ในค่ายเดือนหน้าให้ด้วยเลย ไม่ต้องห่วงครับ เรามีค่าเสียเวลาให้คุณลินทุกครั้ง คุณพจน์บอกว่าเวลาแกไม่ค่อยมีให้คุณลินจัดการได้เองหมดเลยครับ"
เมื่อเจ้านายสั่ง ฉันจะทำอะไรได้ และนั่นทำให้ฉันต้องรับเป็นโคชและที่ปรึกษาให้ทีมต่างๆ ที่เข้าแข่งขันด้วย เพื่อให้กระบวนการการทำโครงการเป็นไปอย่างที่ผู้จัดหวังไว้ฉันโทรไปปรึกษาเพื่อนๆ ที่จบมารุ่นเดียวกันซึ่งคิดว่าพอมีความรู้ หรือทำธุรกิจที่ใกล้เคียงกับผลงาน ในที่สุดความมั่นใจที่จะสอนน้องๆ ในค่ายค่อยกลับมา
......
ฉันจอดรถ กดปุ่มเลื่อนกระจกด้านซ้ายลง จังหวะเดียวกับที่เด็กหนุ่มสองคนที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางหยุด และก้มลงมาหา โชคดีที่ยังเป็นบริเวณด้านหน้าโรงแรม การจอดของฉันจึงไม่รบกวนรถคันหลังที่อาจมีขับตามมา
"จะไปทางไหนกัน พี่จะออกไปทางพหลโยธิน ไปด้วยกันไหม" ฉันทักทายเด็กหนุ่ม เพราะจำได้ว่าเขาสองคนคือหนึ่งในผู้แข่งขันคราวนี้ หลายทีมมาจากต่างจังหวัด บางทีมมาพร้อมรถของวิทยาลัย บางทีมมาด้วยรถส่วนตัว และบางทีมก็ต้องโดยสารรถประจำทางเพื่อไปขึ้นเครื่อง
"ไม่..." เด็กหนุ่มคนแรก หนึ่งในผู้แข่งขันที่มาจากวิทยาลัยในเขตจังหวัดติดกับกรุงเทพฯ เขามีร่างสูงผิวเข้ม ที่ดูจะเงียบๆ ตลอดการแข่งขัน
"ไปครับ" เสียงหนุ่มคนที่สองแทรกคนแรกมา เขาเป็นคนที่ถามฉันเรื่องของที่ตกไว้
"ถ้าไปก็ขึ้นมาเลย"
ดูท่าทางอีกคนจะอึกอัก "นายไปนะ ฉันจะรอรถแถวนี้"
"มาด้วยกันทั้งสองคนนั่นแหละ" ฉันสรุป
"นั่นสิ ไปด้วยกันเถอะเหนือ ฉันว่าจะปรึกษาพี่เค้าเรื่องงานของเราต่อด้วย นายเองก็อยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าเราจะทำยังไงกันต่อ"
ดูเหมือนประโยคสุดท้ายของเมศ ทำให้เพื่อนของเขาพยักหน้า และเปิดประตูด้านหลังรถ เอากระเป๋าไปวางและนั่งเป็นผู้โดยสาร ขณะที่อีกคนเปิดประตูมานั่งด้านหน้ากับฉัน
"บ้านอยู่ไหนกัน จะให้พี่ไปส่งที่ไหน"
เมศเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี ตัวสูง ไหล่กว้าง ด้วยบุคลิกและแววตาฉันคิดว่าเขาน่าจะประกวด The Face Men Thailand มากกว่ามาประกวดโครงการเทคโนโลยีแบบนี้ ยิ่งตอนนี้เขานั่งอยู่ข้างๆ บนรถคันเล็กของฉัน มันยิ่งทำให้รู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้ช่างดูดีในทุกมุมจริงๆ
"พี่ผ่านทางไหนบ้างครับ เดี๋ยวผมกับเพื่อจะได้หาทางลงระหว่างทาง ถ้าไม่ตรงกัน ผมลงหน้าปากซอยที่มีป้ายรถเมล์ก็ได้" เขาหันมาถามฉันด้วยแววตายิ้มๆ
ฉันบอกเส้นทางที่ผ่าน สรุปว่า ไม่ถึงกับตรงกันเสียทีเดียว เขาจึงสรุปว่าจะขอลงครึ่งทาง
"บ้านพี่อยู่แถวนั้นหรือครับ ผมก็มีบ้านญาติอยู่แถวนั้น"
"อ้าวเหรอ หมู่บ้านอะไรล่ะ"
"จำไม่ได้แล้วครับ แล้วของพี่ล่ะ"
"พี่อยู่คอนโด" ฉันตอบ
"นั่นสิครับ คอนโดสะดวกสบายกว่า เหมาะกับคนโสด working women อย่างพี่"
ฉันหันไป เขารู้ได้อย่างไรว่าฉันยังโสด แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร
"เพื่อนของเมศเงียบจัง" ฉันเหลือบหางตาไปมองทางคนที่นั่งเงียบอยู่ด้านหลัง พบว่าเขากำลังก้มหน้าก้มตาอยู่กับมือถือตัวเอง
"มันไม่มีปากครับ" เมศตอบกลั้วเสียงหัวเราะ "พูดวันละสามคำเท่านั้น"
ฉันยิ้ม คิดในใจว่า มิน่าเล่าถึงอยู่ด้วยกันได้ คนที่นั่งข้างหน้าคู่กับฉันหาเรื่องพูดคุยได้ตลอดเวลา
ใกล้ถึงจุดหมายที่เด็กหนุ่มทั้งสองบอกว่าต้องการให้ไปส่งก็มีสายโทรเข้ามือถือของคนที่นั่งข้างฉัน เขาเหมือนจะกดสายทิ้งไปรอบหนึ่ง แต่อีกพักเดียวก็มีสายเข้ามาอีกรอบ
"ไม่รับเหรอเผื่อใครมีธุระสำคัญ"
"ครับ รับก็ได้" คนพูดรับสายโดยไม่เต็มใจนัก แล้วก็ตอบปลายสายด้วยเสียงค่อนข้างเบาว่าอยู่ระหว่างเดินทาง
ในที่สุดก็ถึงที่หมาย สองหนุ่มลงจากรถไป แต่ก่อนจะลง เมศหันมาถามฉันด้วยแววตาระยิบ
"พี่ครับ ถ้าผมจะขอเบอร์พี่ เผื่อว่ามีอะไรสงสัยเกี่ยวกับการประกวดจะได้ไหมครับ พี่เป็นโคช บางทีอาจให้คำแนะนำผมได้ ปีนี้เป็นปีแรกที่วิทยาลัยของผมส่งเข้าประกวด อาจารย์ที่ปรึกษาช่วยอะไรไม่ได้มาก ผมยังมีอีกหลายเรื่องเลยที่ต้องการคำปรึกษา"
"ก็ได้" ฉันตอบ แล้วบอกเบอร์มือถือของตัวเองไป
เด็กหนุ่มรีบเม็มเบอร์ แล้วลงจากรถ "ขอบคุณครับ แล้วเจอกันอีกนะครับ"
ฉันยิ้ม หัวใจกระตุกเล็กน้อยกับรอยยิ้มเท่ห์ๆ ที่มุมปากนั้น...บอกได้เลยว่าหัวใจละลายไปกับสายตา และรอยยิ้มนั้นไปอีกหลายวันเลย
"ถ้ายังไงต้องขอเวลาคุณลินเพิ่มนะครับ เดี๋ยวจะมีน้องๆ นัดเวลาไป"
"ขอเพิ่ม?"
"ครับ คุณพจน์แจ้งว่าให้คุณลินเป็นโคชให้น้องๆ ในค่ายเดือนหน้าให้ด้วยเลย ไม่ต้องห่วงครับ เรามีค่าเสียเวลาให้คุณลินทุกครั้ง คุณพจน์บอกว่าเวลาแกไม่ค่อยมีให้คุณลินจัดการได้เองหมดเลยครับ"
เมื่อเจ้านายสั่ง ฉันจะทำอะไรได้ และนั่นทำให้ฉันต้องรับเป็นโคชและที่ปรึกษาให้ทีมต่างๆ ที่เข้าแข่งขันด้วย เพื่อให้กระบวนการการทำโครงการเป็นไปอย่างที่ผู้จัดหวังไว้ฉันโทรไปปรึกษาเพื่อนๆ ที่จบมารุ่นเดียวกันซึ่งคิดว่าพอมีความรู้ หรือทำธุรกิจที่ใกล้เคียงกับผลงาน ในที่สุดความมั่นใจที่จะสอนน้องๆ ในค่ายค่อยกลับมา
......
ฉันจอดรถ กดปุ่มเลื่อนกระจกด้านซ้ายลง จังหวะเดียวกับที่เด็กหนุ่มสองคนที่กำลังลากกระเป๋าเดินทางหยุด และก้มลงมาหา โชคดีที่ยังเป็นบริเวณด้านหน้าโรงแรม การจอดของฉันจึงไม่รบกวนรถคันหลังที่อาจมีขับตามมา
"จะไปทางไหนกัน พี่จะออกไปทางพหลโยธิน ไปด้วยกันไหม" ฉันทักทายเด็กหนุ่ม เพราะจำได้ว่าเขาสองคนคือหนึ่งในผู้แข่งขันคราวนี้ หลายทีมมาจากต่างจังหวัด บางทีมมาพร้อมรถของวิทยาลัย บางทีมมาด้วยรถส่วนตัว และบางทีมก็ต้องโดยสารรถประจำทางเพื่อไปขึ้นเครื่อง
"ไม่..." เด็กหนุ่มคนแรก หนึ่งในผู้แข่งขันที่มาจากวิทยาลัยในเขตจังหวัดติดกับกรุงเทพฯ เขามีร่างสูงผิวเข้ม ที่ดูจะเงียบๆ ตลอดการแข่งขัน
"ไปครับ" เสียงหนุ่มคนที่สองแทรกคนแรกมา เขาเป็นคนที่ถามฉันเรื่องของที่ตกไว้
"ถ้าไปก็ขึ้นมาเลย"
ดูท่าทางอีกคนจะอึกอัก "นายไปนะ ฉันจะรอรถแถวนี้"
"มาด้วยกันทั้งสองคนนั่นแหละ" ฉันสรุป
"นั่นสิ ไปด้วยกันเถอะเหนือ ฉันว่าจะปรึกษาพี่เค้าเรื่องงานของเราต่อด้วย นายเองก็อยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าเราจะทำยังไงกันต่อ"
ดูเหมือนประโยคสุดท้ายของเมศ ทำให้เพื่อนของเขาพยักหน้า และเปิดประตูด้านหลังรถ เอากระเป๋าไปวางและนั่งเป็นผู้โดยสาร ขณะที่อีกคนเปิดประตูมานั่งด้านหน้ากับฉัน
"บ้านอยู่ไหนกัน จะให้พี่ไปส่งที่ไหน"
เมศเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี ตัวสูง ไหล่กว้าง ด้วยบุคลิกและแววตาฉันคิดว่าเขาน่าจะประกวด The Face Men Thailand มากกว่ามาประกวดโครงการเทคโนโลยีแบบนี้ ยิ่งตอนนี้เขานั่งอยู่ข้างๆ บนรถคันเล็กของฉัน มันยิ่งทำให้รู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้ช่างดูดีในทุกมุมจริงๆ
"พี่ผ่านทางไหนบ้างครับ เดี๋ยวผมกับเพื่อจะได้หาทางลงระหว่างทาง ถ้าไม่ตรงกัน ผมลงหน้าปากซอยที่มีป้ายรถเมล์ก็ได้" เขาหันมาถามฉันด้วยแววตายิ้มๆ
ฉันบอกเส้นทางที่ผ่าน สรุปว่า ไม่ถึงกับตรงกันเสียทีเดียว เขาจึงสรุปว่าจะขอลงครึ่งทาง
"บ้านพี่อยู่แถวนั้นหรือครับ ผมก็มีบ้านญาติอยู่แถวนั้น"
"อ้าวเหรอ หมู่บ้านอะไรล่ะ"
"จำไม่ได้แล้วครับ แล้วของพี่ล่ะ"
"พี่อยู่คอนโด" ฉันตอบ
"นั่นสิครับ คอนโดสะดวกสบายกว่า เหมาะกับคนโสด working women อย่างพี่"
ฉันหันไป เขารู้ได้อย่างไรว่าฉันยังโสด แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร
"เพื่อนของเมศเงียบจัง" ฉันเหลือบหางตาไปมองทางคนที่นั่งเงียบอยู่ด้านหลัง พบว่าเขากำลังก้มหน้าก้มตาอยู่กับมือถือตัวเอง
"มันไม่มีปากครับ" เมศตอบกลั้วเสียงหัวเราะ "พูดวันละสามคำเท่านั้น"
ฉันยิ้ม คิดในใจว่า มิน่าเล่าถึงอยู่ด้วยกันได้ คนที่นั่งข้างหน้าคู่กับฉันหาเรื่องพูดคุยได้ตลอดเวลา
ใกล้ถึงจุดหมายที่เด็กหนุ่มทั้งสองบอกว่าต้องการให้ไปส่งก็มีสายโทรเข้ามือถือของคนที่นั่งข้างฉัน เขาเหมือนจะกดสายทิ้งไปรอบหนึ่ง แต่อีกพักเดียวก็มีสายเข้ามาอีกรอบ
"ไม่รับเหรอเผื่อใครมีธุระสำคัญ"
"ครับ รับก็ได้" คนพูดรับสายโดยไม่เต็มใจนัก แล้วก็ตอบปลายสายด้วยเสียงค่อนข้างเบาว่าอยู่ระหว่างเดินทาง
ในที่สุดก็ถึงที่หมาย สองหนุ่มลงจากรถไป แต่ก่อนจะลง เมศหันมาถามฉันด้วยแววตาระยิบ
"พี่ครับ ถ้าผมจะขอเบอร์พี่ เผื่อว่ามีอะไรสงสัยเกี่ยวกับการประกวดจะได้ไหมครับ พี่เป็นโคช บางทีอาจให้คำแนะนำผมได้ ปีนี้เป็นปีแรกที่วิทยาลัยของผมส่งเข้าประกวด อาจารย์ที่ปรึกษาช่วยอะไรไม่ได้มาก ผมยังมีอีกหลายเรื่องเลยที่ต้องการคำปรึกษา"
"ก็ได้" ฉันตอบ แล้วบอกเบอร์มือถือของตัวเองไป
เด็กหนุ่มรีบเม็มเบอร์ แล้วลงจากรถ "ขอบคุณครับ แล้วเจอกันอีกนะครับ"
ฉันยิ้ม หัวใจกระตุกเล็กน้อยกับรอยยิ้มเท่ห์ๆ ที่มุมปากนั้น...บอกได้เลยว่าหัวใจละลายไปกับสายตา และรอยยิ้มนั้นไปอีกหลายวันเลย
สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ส.ค. 2562, 21:15:27 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ส.ค. 2562, 21:22:13 น.
จำนวนการเข้าชม : 975
<< 1: จุดเริ่มต้นในวันธรรมดา | 3: ระวังตัวด้วยนะ >> |