ร้อยเล่ห์...นายเหมันต์
เขียนนิยายรักแนวหวานมาหลายเรื่อง อยากลองแนวอิโรติกดูบ้าง มาดูกันว่าจะได้แค่ไหน
Tags: สิรินดา, รักเล่ห์, นิยายรัก
ตอน: 3: ระวังตัวด้วยนะ
เสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้นสองครั้งและเงียบไป ขณะที่ฉันกำลังจะตักไข่เจียวใส่จาน จากนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ฉันวางจาน ปิดแก๊ส เดินไปรับโทรศัพท์มือถือ
"สวัสดีค่ะ"
"คุณนลินครับผมเป็นช่างที่เรียกมา มาถึงแล้ว จะให้ขึ้นไปเลยไหมครับ"
"โอเคค่ะ ส่งขึ้นมาเลย"
ฉันเพิ่งซื้อระบบปลูกต้นไม้สำหรับคอนโดมาจากบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่งที่เพื่อนที่อยู่คอนโดเหมือนกันแนะนำ ราคาของตู้ไม่แพงอย่างที่คิด และการปลูกก็ไม่ยุ่งยาก ทางร้านส่งมาให้ทั้งชั้นปลูก ดิน และเมล็ดพันธุ์ แต่ของที่ฉันซื้อมากลับไม่สามารถรดน้ำอัตโนมัติได้ ไม่รู้ว่าติดตั้งผิด หรือว่าระบบมีปัญหา จึงต้องเรียกช่างมาดูแลให้
อีกสามนาทีเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น ฉันมองลอดตาแมว ช่างในชุดเครื่องแบบยืนอยู่หน้าห้อง
"สวัสดีครับ ...อ๊ะ"
คนที่ยืนอยู่หน้าห้องชะงัก ฉันเองก็ชะงักเช่นเดียวกัน
"สวัสดีครับ ผมมาจากบริษัทโกเอเวอร์กรีน ขอตรวจสอบระบบตามที่แจ้งในเอกสารนะครับ" คนที่ยืนหน้าห้อง ยื่นเอกสารของบริษัทให้ฉัน เพื่อยืนยันว่าเป็นพนักงานตัวจริง"
"เข้ามาเลย" ฉันอ่านเอกสารคร่าวๆ แล้วเปิดประตูกว้าง เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเดินผ่านประตู พร้อมกล่องเครื่องมือขนาดย่อม
"่สวนอยู่ระเบียงห้อง เดินออกไปทางโน้นเลยค่ะ" ฉันชี้มือไปยังบริเวณระเบียง ซึ่งอยู่ถัดจากบริเวณที่จัดไว้เป็นครัวเข้าไปด้านใน และ...มันต้องเดินผ่านเตียงนอน ซึ่งยังไม่ได้จัดของฉัน
คนที่เดินนำหน้าไปดูเหมือนไม่สนใจอะไรในห้อง หรือเตียงที่ยุ่งเหยิงนั้น เขาตรงไปที่ประตูกระจก เปิดออกไปที่ระเบียง วางกล่องเครื่องมือ และเดินไปดึงปลั๊กไฟของตู้ออก
"ระบบรดน้ำอัตโนมัติมันไม่ทำงาน ฉันกลัวว่าจะมีไฟช็อตตรงไหน ก็เลยต้องรีบเรียกพวกคุณมาดูก่อน" ฉันอธิบายเพิ่ม ระหว่างที่หนุ่มในชุดเครื่องแบบของบริษัทเปิดกล่องเครื่องมือ หยิบอะไรสักอย่างออกมา เขาไม่ตอบอะไร ทำงานของตัวเองเงียบๆ ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันพูด
เขาไม่มีปากจริงๆ ด้วย ฉันคิดในใจ เดินกลับเข้าไปในห้อง เปิดตู้เย็น หยิบน้ำเย็นขวดหนึ่งไปวางไว้ที่โต๊ะริมระเบียงใกล้ตู้ที่เอาไว้ปลูกต้นไม้
"คุณเปิดกล่องนี่บ้างหรือเปล่าตอนที่ซื้อมา" เสียงนิ่งๆ ของคนที่วุ่นอยู่กับกล่องอุปกรณ์ควบคุมการรดน้ำอัตโนมัติถามขึ้น
"ไม่ค่ะ มันมายังไง ก็อยู่อย่างนั้นเลย"
"แสดงว่าพวกที่ติดตั้งลืมเปิดนี่"
"อะไรนะ!"
"พวกเขาลืมเปิดสวิตช์ระบบ"
"ให้ตายเถอะ ฉันซื้อมันมาตั้งหลายหมื่นนะเนี่ย"
คนที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น ปิดกล่องระบบ เสียบสวิตช์กลับ "ขอมือถือของคุณหน่อย"
ฉันเลิกคิ้ว
"ผมจะลองระบบรดน้ำให้คุณใหม่"
ฉันพยักหน้า เดินกลับเข้าห้อง เพื่อไปหยิบมือถือ ตู้ปลูกผักรุ่นนี้มีแอบอยู่กับมือถือ ให้เราสั่งรดน้ำได้ หรือจะตั้งเวลาก็ได้
เพียงสิบห้านาที ทุกอย่างก็เรียบร้อย เขาปิดกล่องเครื่องมือ ฉันส่งผ้าเช็ดมือให้
"ขอบคุณครับ ระบบนี้มีความอ่อนไหวเรื่องการตั้งเวลา ถ้าคุณตั้งแล้ว อย่าลืมกดยอมรับ และปิดแอบก่อน ไม่อย่างนั้นเครื่องจะรวน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เช็ดมือเสร็จก็ส่งผ้าคืนให้ แต่ฉันไม่รับ
"จะไม่ทักทายกันหน่อยหรือน้อง"
คนตรงข้ามเลิกคิ้ว แววตามีความตกใจเล็กน้อยพอให้จับได้
"ผม...เอ่อ ไม่คิดว่าคุณจะจำผมได้"
เด็กหนุ่มตัวสูง พูดน้อย เป็นเพื่อนกับปรเมศ ทำไมฉันจะจำเขาไม่ได้ เขาไม่ได้ดูปกติแบบเด็กหนุ่มทั่วไป ออกจะน่ากลัว หรือน่าเกรงใจเสียด้วยซ้ำ แววตาเข้มๆ นั่นเดายากนักว่าเจ้าของมันคิดอะไรอยู่
"ดื่มน้ำก่อนสิ นั่งคุยกันก่อน ถ้าไม่รีบไปไหน"
อีกฝ่ายทำสีหน้าลำบากใจ แต่ก็นั่งลงแต่โดยดี
"ทำงานพิเศษเหรอ" ฉันถาม วันนี้มันวันเรียน ทำไม่ไปเรียน"
คนตรงข้ามเพิ่งจะดื่มน้ำเสร็จ เขาเลือกที่จะเงียบ
"เดือนหน้าพวกเธอจะต้องมาเข้าค่ายแข่งอีก อย่างนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปเรียน" ฉันทำเสียงหงุดหงิด
"เมศบอกคุณสินะ ให้เดา เขาโทรมาคุยกับคุณทุกวันเลยใช่ไหม"
ประโยคนิ่งๆ นั่นทำให้ฉันอึ้ง จริงๆ ด้วย หลังจากฉันส่งปรเมศ กับเพื่อนของเขาที่ข้างทาง เด็กหนุ่มคนนั้นก็โทรมาคุยกับฉันเกือบทุกวัน ด้วยเรื่องหลายเรื่อง ส่วนใหญ่จะเริ่มด้วยการปรึกษาเรื่องโครงงาน และลามปามไปเรื่องราวอื่นๆ
"ระวังตัวด้วยนะ"
"อะไรนะ หมายความว่ายังไง"
คนที่นั่งตรงข้ามฉันยักไหล่ "แล้วแค่คิดครับ ผมไปล่ะ รบกวนเซ็นชื่อในเอกสารให้ด้วย ผมจะได้เอาไปเบิกเงินได้"
ฉันรับเอกสารมาเซ็นชื่อหวัดๆ แล้วส่งให้
"ผมมีเรียนตอนเย็น ไม่ได้โดดเรียน" เขาตอบ ก่อนจะก้าวยาวๆ ตรงไปที่ประตู และหันมา
"สวัสดีครับ ดีใจที่ได้เจอคุณ" จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป
"สวัสดีค่ะ"
"คุณนลินครับผมเป็นช่างที่เรียกมา มาถึงแล้ว จะให้ขึ้นไปเลยไหมครับ"
"โอเคค่ะ ส่งขึ้นมาเลย"
ฉันเพิ่งซื้อระบบปลูกต้นไม้สำหรับคอนโดมาจากบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่งที่เพื่อนที่อยู่คอนโดเหมือนกันแนะนำ ราคาของตู้ไม่แพงอย่างที่คิด และการปลูกก็ไม่ยุ่งยาก ทางร้านส่งมาให้ทั้งชั้นปลูก ดิน และเมล็ดพันธุ์ แต่ของที่ฉันซื้อมากลับไม่สามารถรดน้ำอัตโนมัติได้ ไม่รู้ว่าติดตั้งผิด หรือว่าระบบมีปัญหา จึงต้องเรียกช่างมาดูแลให้
อีกสามนาทีเสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น ฉันมองลอดตาแมว ช่างในชุดเครื่องแบบยืนอยู่หน้าห้อง
"สวัสดีครับ ...อ๊ะ"
คนที่ยืนอยู่หน้าห้องชะงัก ฉันเองก็ชะงักเช่นเดียวกัน
"สวัสดีครับ ผมมาจากบริษัทโกเอเวอร์กรีน ขอตรวจสอบระบบตามที่แจ้งในเอกสารนะครับ" คนที่ยืนหน้าห้อง ยื่นเอกสารของบริษัทให้ฉัน เพื่อยืนยันว่าเป็นพนักงานตัวจริง"
"เข้ามาเลย" ฉันอ่านเอกสารคร่าวๆ แล้วเปิดประตูกว้าง เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเดินผ่านประตู พร้อมกล่องเครื่องมือขนาดย่อม
"่สวนอยู่ระเบียงห้อง เดินออกไปทางโน้นเลยค่ะ" ฉันชี้มือไปยังบริเวณระเบียง ซึ่งอยู่ถัดจากบริเวณที่จัดไว้เป็นครัวเข้าไปด้านใน และ...มันต้องเดินผ่านเตียงนอน ซึ่งยังไม่ได้จัดของฉัน
คนที่เดินนำหน้าไปดูเหมือนไม่สนใจอะไรในห้อง หรือเตียงที่ยุ่งเหยิงนั้น เขาตรงไปที่ประตูกระจก เปิดออกไปที่ระเบียง วางกล่องเครื่องมือ และเดินไปดึงปลั๊กไฟของตู้ออก
"ระบบรดน้ำอัตโนมัติมันไม่ทำงาน ฉันกลัวว่าจะมีไฟช็อตตรงไหน ก็เลยต้องรีบเรียกพวกคุณมาดูก่อน" ฉันอธิบายเพิ่ม ระหว่างที่หนุ่มในชุดเครื่องแบบของบริษัทเปิดกล่องเครื่องมือ หยิบอะไรสักอย่างออกมา เขาไม่ตอบอะไร ทำงานของตัวเองเงียบๆ ราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันพูด
เขาไม่มีปากจริงๆ ด้วย ฉันคิดในใจ เดินกลับเข้าไปในห้อง เปิดตู้เย็น หยิบน้ำเย็นขวดหนึ่งไปวางไว้ที่โต๊ะริมระเบียงใกล้ตู้ที่เอาไว้ปลูกต้นไม้
"คุณเปิดกล่องนี่บ้างหรือเปล่าตอนที่ซื้อมา" เสียงนิ่งๆ ของคนที่วุ่นอยู่กับกล่องอุปกรณ์ควบคุมการรดน้ำอัตโนมัติถามขึ้น
"ไม่ค่ะ มันมายังไง ก็อยู่อย่างนั้นเลย"
"แสดงว่าพวกที่ติดตั้งลืมเปิดนี่"
"อะไรนะ!"
"พวกเขาลืมเปิดสวิตช์ระบบ"
"ให้ตายเถอะ ฉันซื้อมันมาตั้งหลายหมื่นนะเนี่ย"
คนที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น ปิดกล่องระบบ เสียบสวิตช์กลับ "ขอมือถือของคุณหน่อย"
ฉันเลิกคิ้ว
"ผมจะลองระบบรดน้ำให้คุณใหม่"
ฉันพยักหน้า เดินกลับเข้าห้อง เพื่อไปหยิบมือถือ ตู้ปลูกผักรุ่นนี้มีแอบอยู่กับมือถือ ให้เราสั่งรดน้ำได้ หรือจะตั้งเวลาก็ได้
เพียงสิบห้านาที ทุกอย่างก็เรียบร้อย เขาปิดกล่องเครื่องมือ ฉันส่งผ้าเช็ดมือให้
"ขอบคุณครับ ระบบนี้มีความอ่อนไหวเรื่องการตั้งเวลา ถ้าคุณตั้งแล้ว อย่าลืมกดยอมรับ และปิดแอบก่อน ไม่อย่างนั้นเครื่องจะรวน" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เช็ดมือเสร็จก็ส่งผ้าคืนให้ แต่ฉันไม่รับ
"จะไม่ทักทายกันหน่อยหรือน้อง"
คนตรงข้ามเลิกคิ้ว แววตามีความตกใจเล็กน้อยพอให้จับได้
"ผม...เอ่อ ไม่คิดว่าคุณจะจำผมได้"
เด็กหนุ่มตัวสูง พูดน้อย เป็นเพื่อนกับปรเมศ ทำไมฉันจะจำเขาไม่ได้ เขาไม่ได้ดูปกติแบบเด็กหนุ่มทั่วไป ออกจะน่ากลัว หรือน่าเกรงใจเสียด้วยซ้ำ แววตาเข้มๆ นั่นเดายากนักว่าเจ้าของมันคิดอะไรอยู่
"ดื่มน้ำก่อนสิ นั่งคุยกันก่อน ถ้าไม่รีบไปไหน"
อีกฝ่ายทำสีหน้าลำบากใจ แต่ก็นั่งลงแต่โดยดี
"ทำงานพิเศษเหรอ" ฉันถาม วันนี้มันวันเรียน ทำไม่ไปเรียน"
คนตรงข้ามเพิ่งจะดื่มน้ำเสร็จ เขาเลือกที่จะเงียบ
"เดือนหน้าพวกเธอจะต้องมาเข้าค่ายแข่งอีก อย่างนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปเรียน" ฉันทำเสียงหงุดหงิด
"เมศบอกคุณสินะ ให้เดา เขาโทรมาคุยกับคุณทุกวันเลยใช่ไหม"
ประโยคนิ่งๆ นั่นทำให้ฉันอึ้ง จริงๆ ด้วย หลังจากฉันส่งปรเมศ กับเพื่อนของเขาที่ข้างทาง เด็กหนุ่มคนนั้นก็โทรมาคุยกับฉันเกือบทุกวัน ด้วยเรื่องหลายเรื่อง ส่วนใหญ่จะเริ่มด้วยการปรึกษาเรื่องโครงงาน และลามปามไปเรื่องราวอื่นๆ
"ระวังตัวด้วยนะ"
"อะไรนะ หมายความว่ายังไง"
คนที่นั่งตรงข้ามฉันยักไหล่ "แล้วแค่คิดครับ ผมไปล่ะ รบกวนเซ็นชื่อในเอกสารให้ด้วย ผมจะได้เอาไปเบิกเงินได้"
ฉันรับเอกสารมาเซ็นชื่อหวัดๆ แล้วส่งให้
"ผมมีเรียนตอนเย็น ไม่ได้โดดเรียน" เขาตอบ ก่อนจะก้าวยาวๆ ตรงไปที่ประตู และหันมา
"สวัสดีครับ ดีใจที่ได้เจอคุณ" จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป
สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ส.ค. 2562, 21:16:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ส.ค. 2562, 21:22:26 น.
จำนวนการเข้าชม : 915
<< 2: พี่ครับผมขอเบอร์พี่ได้ไหมครับ | 4: ผมอยากทำอย่างนี้ทั้งคืนเลยรู้ไหม >> |