กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า: พิมมาศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะเสียงกระซิบจากชายในฝัน
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: สายเปย์ รุกจีบ น่ารัก ดราม่า แก้แค้น ลอนดอน ฟลอเรนซ์
ตอน: บทที่ 12 -40%
ในที่สุด ช่วงเวลาค่ำคืนของเมืองฟลอเรนซ์ก็มาถึง
ชานนท์และเอรินตะลอนเที่ยวกันจนหมดเรี่ยวแรง เป็นชานนท์ที่ต้องดุแกมบังคับ สาวน้อยถึงได้ยอมกลับโรงแรม พอถึงห้องพักทั้งเขาและหล่อนก็ต่างคนต่างอยู่
ทว่าดึกดื่นค่อนคืนเข้าไปแล้ว ชานนท์ยังวุ่นอยู่แต่กับโทรศัพท์มือถือตัวเอง ขณะที่เอรินอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้วเตรียมเข้านอน ภายใต้ความเงียบงันที่แผ่ปกคลุมไปทั่วห้องฮันนีมูนสวีตนั้น จึงมีแต่ความอึดอัดและความสับสนว้าวุ่นใจของสองหนุ่มสาว ก่อเกิดสายใยบางๆ ขึ้นโดยไม่รู้ตัว...
ชานนท์รู้สึกประหลาดๆ กับอีกฝ่ายมาตั้งแต่ตอนเที่ยวในเมืองแล้วจึงพยายามรักษาระยะห่าง ไม่พูดไม่จากับหล่อน แต่เขาก็ฝืนทนง่วงต่อไปไม่ไหว จำต้องลุกจากเก้าอี้ริมหน้าต่างมาหยิบผ้าเช็ดตัวที่ปลายเตียงกับชุดนอนในกระเป๋าเดินทางออกมาเตรียม
เอรินมองตามพฤติกรรมชายหนุ่มทุกฝีก้าวแล้วลอบถอนใจออกมาก้มมองสภาพกะโปโลของตัวเองด้วยความพึงใจ
ร่างบอบบางเวลานี้อยู่ในชุดเสื้อยืดแขนยาวตัวโคร่งกับกางเกงขาสามส่วนเหมือนกางเกงเลเยินๆ ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงมัดรวบจุกเหนือศีรษะ ดูยัง ไงก็ไม่น่าจะกระตุ้นให้เขาคิดมิดีมิร้ายได้แน่
แต่ใจหล่อนเองนี่สิที่กำลังเต้นตึกตักเพราะเรือนร่างเต็มไปด้วยมัดกล้ามของชายหนุ่มร่วมห้อง ชานนท์กำลังถอดเสื้อเตรียมเข้าห้องน้ำ หล่อนเลยอาศัยจังหวะนั้นค่อยๆ ลากหมอนกับผ้าห่มลงมาข้างเตียง
“จะทำอะไร!”
จู่ๆ ชานนท์ก็โพล่งขึ้นมา เล่นเอาสาวน้อยถึงกับสะดุ้ง!
“คะ? ฉะ...ฉันก็จะนอนไง” เอรินตอบแล้วรีบดึงผ้าห่มมากอดแน่น
“คุณเป็นคนจ่ายเงินควรได้นอนบนเตียงค่ะ ฉันแค่คนอาศัยจะลงไปนอน เอ่อ นอนที่โซฟาแล้วกัน”
“ได้ไง ใครบอกว่าคุณต้องทำแบบนั้น”
“แล้วคุณจะให้ฉันนอนที่ไหนล่ะคะ เตียงก็มีเตียงเดียว”
“ก็นอนด้วยกันบนเตียงนี่แหละ อย่าคิดว่าผมจะไปนอนโซฟา”
“ฉันก็ไม่ได้หมายความแบบนั้นเสียหน่อยค่ะ” หล่อนบ่นอุบอิบนึกกระดากเกินจะเอ่ย
“คิดลามกอยู่สินะ” ซีอีโอหนุ่มกระตุกยิ้มร้าย คนได้ยินอย่างเอรินถึงกับตาโตเรียกเสียงหัวเราะจากเขา
“อย่าเรื่องมากน่ะคุณ แค่แบ่งที่นอนกันคนละด้านก็จบ”
“ฉันไม่ได้เรื่องมากนะคะ”
หล่อนแหวกลับ แต่อีกฝ่ายไม่ฟังเสียงเดินหายเข้าห้องน้ำไปดื้อๆ ครู่ใหญ่ทีเดียวชานนท์จึงออกมา หากทว่าเอรินยังคงนั่งรีๆ รอๆ อยู่บนเตียงไม่กล้าถือวิสาสะนอนก่อน พอหันไปเห็นคนเพิ่งออกมาจากห้องน้ำถึงกับรีบหันหน้าหนีแทบไม่ทัน
“คุ๊ณ!..แต่งตัวให้เรียบร้อยสิคะ น่าเกลียด”
หญิงสาวต่อว่าหน้าแดงแจ๋เพราะชานนท์เล่นออกมาในสภาพเปลือยท่อนบน เผยให้เห็นมัดกล้ามแน่นหนันของชายหนุ่ม!
“อะไรกันคุณ น่าเกลียดตรงไหน” ชายหนุ่มยังไม่รู้ตัว
“ปกติเวลานอนผมก็ใส่ของผมแบบนี้”
“ก็นั่นคุณนอนคนเดียว ฉะ...ฉันเป็นผู้หญิงนะ คุณจะใส่แต่กางเกงนอนไม่ได้”
“งั้นสบายใจได้เลย ผมไม่ได้อยากกินผู้หญิงผอมเป็นกุ้งแห้งแบบคุณหรอกน่า ผมจะนอนฝั่งนี้ของผม”
เขาบอกและนั่งลงบนเตียงอีกฝั่งหนึ่งเป็นการยืนยันหนักแน่น
“คุณเลิกต่อรองแล้วก็นอนได้แล้ว ผมบอกให้นอนตั้งนานแล้วก็ยังนั่งรออยู่ได้”
ก็ใครมันจะไปกล้า...เอรินได้แต่ค่อนขอดเขาในใจ แล้วจำยอมล้มตัวลงนอนบนเตียงคนละฝั่งกับเขา แต่นอนเสียชิดขอบเตียงจนแทบจะตกแหล่มิตกแหล่อยู่แล้ว ชานนท์เห็นก็ส่ายหน้า จัดการดึงตัวคนนอนตัวลีบให้หันมา
“มานี่!”
“ยะ...อย่านะคุณจะทำอะไร! ฉันร้องจริงๆ ด้วยนะ”
หล่อนโวยวายเสียงดังลั่นตกใจที่ถูกจู่โจม แต่กลายเป็นว่าถูกเขาดึงเข้ามาเกือบกลางเตียง ส่วนตัวเขาล้มลงนอนหนุนแขนมองเพดานพลางบ่น
“อยากร้องก็ร้องไป ทั้งชั้นมีห้องเราห้องเดียวใครจะไปได้ยิน...อีกอย่าง ไม่มีใครคิดหรอกว่าผมกับคุณเป็นอะไรกัน เพราะมันไม่เมกเซนส์เอาเสียเลย ระดับผมเนี่ยนะ แค่คิดก็ผิดแล้ว”
หน็อย! เอรินเม้มปากแน่น
“งั้นฉันไปนอนระเบียงก็ได้ คุณจะได้มั่นใจว่าคนระดับฉันไม่มีทางมานอนอ่อยคนระดับคุณแน่!” หล่อนฉุนจัด ตั้งท่าจะลุกขึ้นพร้อมผ้าห่มติดมือเอาไปด้วย
แต่แค่ขยับตัวก็กลับถูกชานนท์นอนทับผ้าห่มเอาไว้ แถมยังอมยิ้มขำ “ดูละครมากไปหรือเปล่าคุณ ชายหญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องนอนใช่ว่าต้องมีเรื่องแบบนั้นทุกครั้งไปหรอกนะ”
“ก็คุณพูดค่อนแคะฉันอยู่ได้ หลายครั้งแล้วด้วย ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ!”
“โอเคๆ ผมจะไม่พูดอีก”
“แต่ฉันไม่เชื่อ” เอรินสวน
“ขนาดที่ระเบียงวันนี้คุณยัง...” หล่อนเกือบหลุดปากพูดเรื่องที่เขาเอาแต่ว่าๆๆ แล้วก็จูบหล่อนที่ระเบียง จากที่กำลังต่อว่าเขาอยู่ดีๆ เลยแก้มแดงให้เขาเห็น
“มะ ไม่รู้ล่ะ คืนนี้ฉันจะไปนอนที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บนเตียงนี้กับคุณ”
“แต่ถ้าคุณออกไปนอนข้างนอกรับรองว่า พรุ่งนี้แทนที่จะได้เที่ยว อาจจะต้องเปลี่ยนโปรแกรมทัวร์เป็นไปนอนโรงพยาบาลแทนเพราะป่วย”
ชายหนุ่มเตือนแกมดักคอเพราะสาวน้อยลงจากเตียงไปได้แล้ว แต่ยังยืนละล้าละลังอยู่ข้างเตียง ชานนท์เลยตบที่นอนข้างเขาเบาๆ พลางเอ่ยอีกว่า
“มานอนเถอะ รับรองว่าผมจะไม่แตะต้องคุณแม้แต่ปลายเล็บ...ผมให้สัญญา”
“แน่นะ”
“อืม...แต่คุณเองก็ต้องเข้าใจสัญชาตญาณของผู้ชายด้วย พวกเขาทำเรื่องแบบนี้ได้เสมอแม้จะให้คำสัญญาแล้วก็ตาม”
“อ้าวคุณ”
“ผมพูดจริง” คราวนี้ชานนท์ทำหน้าเข้มจริงจัง ไม่มีแววล้อเล่นอีก สาวน้อยกำลังจะยอมกลับมานอนบนเตียงกับเขาอยู่แล้วเลยตัวแข็งทื่อ
“ผมจำเป็นต้องพูดตรงๆ ให้คุณรู้ตัวเอาไว้ วันหน้าวันหลังจะได้ไม่เที่ยวไปไว้ใจใครต่อใครง่ายๆ อีก โดยเฉพาะผู้ชาย รู้ไหมการที่คุณตามผมมาไม่รู้เหนือรู้ใต้แบบนี้มันอันตรายมาก”
“รู้แล้วค่ะ รู้แล้ว...” เอรินลากเสียงยาว อยากบอกเขาเหมือนกันว่าตอนนี้หล่อนรู้ซึ้งเลยล่ะ!
“แต่คุณเองก็ควรรู้ไว้ด้วยเหมือนกันว่าฉันไม่ได้ง่าย”
“ผมก็ไม่ง่ายเหมือนกัน” เขายังคงพูดตรงๆ
“ผมกำลังสอนคุณในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่กว่า ฉะนั้นถ้าสาวน้อยอย่างคุณเข้าใจแล้วก็มานี่ ดึกแล้ว นอน แล้วก็ช่วยนอนกลางๆ เตียงหน่อยเดี๋ยวก็ตกเตียงหรอก” ว่าแล้วชานนท์ก็ปิดไฟหัวเตียง พลันห้องทั้งห้องเหลือเพียงแสงไฟจากระเบียงห้อง จากนั้นเขาก็ล้มตัวลงนอนก่อนโดยเหลือที่ว่างเกินครึ่งเตียงให้อีกฝ่าย เป็นการบังคับกรายๆ
เอรินมองไปรอบๆ ห้องที่มืดสนิทแล้วกลืนน้ำลายฝืดเฝือ สุดท้ายก็ยอมล้มตัวลงนอนบนเตียงกับเขา
ถึงอย่างนั้นสาวน้อยยังคงระแวงไม่เลิก รีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนมิดคอ โผล่ให้เห็นเพียงใบหน้าขาวนวลกับดวงตาวิบวับในความมืดสลัวนั้น
“ขอโทษนะคะ บางทีฉันก็งี่เง่ากับคุณ”
“อืม...” ชานนท์เพียงครางรับในลำคอ เหลือบมองดักแด้ในผ้าห่มแล้วยิ้มออกมาได้หน่อย
“นอนเถอะ พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยว”
“ค่ะ ฝันดีนะคะ” หล่อนบอกเขาทั้งเขินอาย
ตลอดค่ำคืนนั้น เอรินซุกตัวในผ้าห่มก็จริง แต่ความเหน็บหนาวที่คืบคลานเข้ามาในความฝันดีนั้น ทำให้หล่อนขยับเข้าหาชานนท์โดยไม่รู้ตัว และกลายเป็นซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของเขาแทน ยังผลให้ชายหนุ่มหัวใจเต้นระรัวแทบทั้งคืนตราบกระทั่งรุ่งสาง
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ชานนท์และเอรินตะลอนเที่ยวกันจนหมดเรี่ยวแรง เป็นชานนท์ที่ต้องดุแกมบังคับ สาวน้อยถึงได้ยอมกลับโรงแรม พอถึงห้องพักทั้งเขาและหล่อนก็ต่างคนต่างอยู่
ทว่าดึกดื่นค่อนคืนเข้าไปแล้ว ชานนท์ยังวุ่นอยู่แต่กับโทรศัพท์มือถือตัวเอง ขณะที่เอรินอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนเรียบร้อยแล้วเตรียมเข้านอน ภายใต้ความเงียบงันที่แผ่ปกคลุมไปทั่วห้องฮันนีมูนสวีตนั้น จึงมีแต่ความอึดอัดและความสับสนว้าวุ่นใจของสองหนุ่มสาว ก่อเกิดสายใยบางๆ ขึ้นโดยไม่รู้ตัว...
ชานนท์รู้สึกประหลาดๆ กับอีกฝ่ายมาตั้งแต่ตอนเที่ยวในเมืองแล้วจึงพยายามรักษาระยะห่าง ไม่พูดไม่จากับหล่อน แต่เขาก็ฝืนทนง่วงต่อไปไม่ไหว จำต้องลุกจากเก้าอี้ริมหน้าต่างมาหยิบผ้าเช็ดตัวที่ปลายเตียงกับชุดนอนในกระเป๋าเดินทางออกมาเตรียม
เอรินมองตามพฤติกรรมชายหนุ่มทุกฝีก้าวแล้วลอบถอนใจออกมาก้มมองสภาพกะโปโลของตัวเองด้วยความพึงใจ
ร่างบอบบางเวลานี้อยู่ในชุดเสื้อยืดแขนยาวตัวโคร่งกับกางเกงขาสามส่วนเหมือนกางเกงเลเยินๆ ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงมัดรวบจุกเหนือศีรษะ ดูยัง ไงก็ไม่น่าจะกระตุ้นให้เขาคิดมิดีมิร้ายได้แน่
แต่ใจหล่อนเองนี่สิที่กำลังเต้นตึกตักเพราะเรือนร่างเต็มไปด้วยมัดกล้ามของชายหนุ่มร่วมห้อง ชานนท์กำลังถอดเสื้อเตรียมเข้าห้องน้ำ หล่อนเลยอาศัยจังหวะนั้นค่อยๆ ลากหมอนกับผ้าห่มลงมาข้างเตียง
“จะทำอะไร!”
จู่ๆ ชานนท์ก็โพล่งขึ้นมา เล่นเอาสาวน้อยถึงกับสะดุ้ง!
“คะ? ฉะ...ฉันก็จะนอนไง” เอรินตอบแล้วรีบดึงผ้าห่มมากอดแน่น
“คุณเป็นคนจ่ายเงินควรได้นอนบนเตียงค่ะ ฉันแค่คนอาศัยจะลงไปนอน เอ่อ นอนที่โซฟาแล้วกัน”
“ได้ไง ใครบอกว่าคุณต้องทำแบบนั้น”
“แล้วคุณจะให้ฉันนอนที่ไหนล่ะคะ เตียงก็มีเตียงเดียว”
“ก็นอนด้วยกันบนเตียงนี่แหละ อย่าคิดว่าผมจะไปนอนโซฟา”
“ฉันก็ไม่ได้หมายความแบบนั้นเสียหน่อยค่ะ” หล่อนบ่นอุบอิบนึกกระดากเกินจะเอ่ย
“คิดลามกอยู่สินะ” ซีอีโอหนุ่มกระตุกยิ้มร้าย คนได้ยินอย่างเอรินถึงกับตาโตเรียกเสียงหัวเราะจากเขา
“อย่าเรื่องมากน่ะคุณ แค่แบ่งที่นอนกันคนละด้านก็จบ”
“ฉันไม่ได้เรื่องมากนะคะ”
หล่อนแหวกลับ แต่อีกฝ่ายไม่ฟังเสียงเดินหายเข้าห้องน้ำไปดื้อๆ ครู่ใหญ่ทีเดียวชานนท์จึงออกมา หากทว่าเอรินยังคงนั่งรีๆ รอๆ อยู่บนเตียงไม่กล้าถือวิสาสะนอนก่อน พอหันไปเห็นคนเพิ่งออกมาจากห้องน้ำถึงกับรีบหันหน้าหนีแทบไม่ทัน
“คุ๊ณ!..แต่งตัวให้เรียบร้อยสิคะ น่าเกลียด”
หญิงสาวต่อว่าหน้าแดงแจ๋เพราะชานนท์เล่นออกมาในสภาพเปลือยท่อนบน เผยให้เห็นมัดกล้ามแน่นหนันของชายหนุ่ม!
“อะไรกันคุณ น่าเกลียดตรงไหน” ชายหนุ่มยังไม่รู้ตัว
“ปกติเวลานอนผมก็ใส่ของผมแบบนี้”
“ก็นั่นคุณนอนคนเดียว ฉะ...ฉันเป็นผู้หญิงนะ คุณจะใส่แต่กางเกงนอนไม่ได้”
“งั้นสบายใจได้เลย ผมไม่ได้อยากกินผู้หญิงผอมเป็นกุ้งแห้งแบบคุณหรอกน่า ผมจะนอนฝั่งนี้ของผม”
เขาบอกและนั่งลงบนเตียงอีกฝั่งหนึ่งเป็นการยืนยันหนักแน่น
“คุณเลิกต่อรองแล้วก็นอนได้แล้ว ผมบอกให้นอนตั้งนานแล้วก็ยังนั่งรออยู่ได้”
ก็ใครมันจะไปกล้า...เอรินได้แต่ค่อนขอดเขาในใจ แล้วจำยอมล้มตัวลงนอนบนเตียงคนละฝั่งกับเขา แต่นอนเสียชิดขอบเตียงจนแทบจะตกแหล่มิตกแหล่อยู่แล้ว ชานนท์เห็นก็ส่ายหน้า จัดการดึงตัวคนนอนตัวลีบให้หันมา
“มานี่!”
“ยะ...อย่านะคุณจะทำอะไร! ฉันร้องจริงๆ ด้วยนะ”
หล่อนโวยวายเสียงดังลั่นตกใจที่ถูกจู่โจม แต่กลายเป็นว่าถูกเขาดึงเข้ามาเกือบกลางเตียง ส่วนตัวเขาล้มลงนอนหนุนแขนมองเพดานพลางบ่น
“อยากร้องก็ร้องไป ทั้งชั้นมีห้องเราห้องเดียวใครจะไปได้ยิน...อีกอย่าง ไม่มีใครคิดหรอกว่าผมกับคุณเป็นอะไรกัน เพราะมันไม่เมกเซนส์เอาเสียเลย ระดับผมเนี่ยนะ แค่คิดก็ผิดแล้ว”
หน็อย! เอรินเม้มปากแน่น
“งั้นฉันไปนอนระเบียงก็ได้ คุณจะได้มั่นใจว่าคนระดับฉันไม่มีทางมานอนอ่อยคนระดับคุณแน่!” หล่อนฉุนจัด ตั้งท่าจะลุกขึ้นพร้อมผ้าห่มติดมือเอาไปด้วย
แต่แค่ขยับตัวก็กลับถูกชานนท์นอนทับผ้าห่มเอาไว้ แถมยังอมยิ้มขำ “ดูละครมากไปหรือเปล่าคุณ ชายหญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องนอนใช่ว่าต้องมีเรื่องแบบนั้นทุกครั้งไปหรอกนะ”
“ก็คุณพูดค่อนแคะฉันอยู่ได้ หลายครั้งแล้วด้วย ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ!”
“โอเคๆ ผมจะไม่พูดอีก”
“แต่ฉันไม่เชื่อ” เอรินสวน
“ขนาดที่ระเบียงวันนี้คุณยัง...” หล่อนเกือบหลุดปากพูดเรื่องที่เขาเอาแต่ว่าๆๆ แล้วก็จูบหล่อนที่ระเบียง จากที่กำลังต่อว่าเขาอยู่ดีๆ เลยแก้มแดงให้เขาเห็น
“มะ ไม่รู้ล่ะ คืนนี้ฉันจะไปนอนที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บนเตียงนี้กับคุณ”
“แต่ถ้าคุณออกไปนอนข้างนอกรับรองว่า พรุ่งนี้แทนที่จะได้เที่ยว อาจจะต้องเปลี่ยนโปรแกรมทัวร์เป็นไปนอนโรงพยาบาลแทนเพราะป่วย”
ชายหนุ่มเตือนแกมดักคอเพราะสาวน้อยลงจากเตียงไปได้แล้ว แต่ยังยืนละล้าละลังอยู่ข้างเตียง ชานนท์เลยตบที่นอนข้างเขาเบาๆ พลางเอ่ยอีกว่า
“มานอนเถอะ รับรองว่าผมจะไม่แตะต้องคุณแม้แต่ปลายเล็บ...ผมให้สัญญา”
“แน่นะ”
“อืม...แต่คุณเองก็ต้องเข้าใจสัญชาตญาณของผู้ชายด้วย พวกเขาทำเรื่องแบบนี้ได้เสมอแม้จะให้คำสัญญาแล้วก็ตาม”
“อ้าวคุณ”
“ผมพูดจริง” คราวนี้ชานนท์ทำหน้าเข้มจริงจัง ไม่มีแววล้อเล่นอีก สาวน้อยกำลังจะยอมกลับมานอนบนเตียงกับเขาอยู่แล้วเลยตัวแข็งทื่อ
“ผมจำเป็นต้องพูดตรงๆ ให้คุณรู้ตัวเอาไว้ วันหน้าวันหลังจะได้ไม่เที่ยวไปไว้ใจใครต่อใครง่ายๆ อีก โดยเฉพาะผู้ชาย รู้ไหมการที่คุณตามผมมาไม่รู้เหนือรู้ใต้แบบนี้มันอันตรายมาก”
“รู้แล้วค่ะ รู้แล้ว...” เอรินลากเสียงยาว อยากบอกเขาเหมือนกันว่าตอนนี้หล่อนรู้ซึ้งเลยล่ะ!
“แต่คุณเองก็ควรรู้ไว้ด้วยเหมือนกันว่าฉันไม่ได้ง่าย”
“ผมก็ไม่ง่ายเหมือนกัน” เขายังคงพูดตรงๆ
“ผมกำลังสอนคุณในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่กว่า ฉะนั้นถ้าสาวน้อยอย่างคุณเข้าใจแล้วก็มานี่ ดึกแล้ว นอน แล้วก็ช่วยนอนกลางๆ เตียงหน่อยเดี๋ยวก็ตกเตียงหรอก” ว่าแล้วชานนท์ก็ปิดไฟหัวเตียง พลันห้องทั้งห้องเหลือเพียงแสงไฟจากระเบียงห้อง จากนั้นเขาก็ล้มตัวลงนอนก่อนโดยเหลือที่ว่างเกินครึ่งเตียงให้อีกฝ่าย เป็นการบังคับกรายๆ
เอรินมองไปรอบๆ ห้องที่มืดสนิทแล้วกลืนน้ำลายฝืดเฝือ สุดท้ายก็ยอมล้มตัวลงนอนบนเตียงกับเขา
ถึงอย่างนั้นสาวน้อยยังคงระแวงไม่เลิก รีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนมิดคอ โผล่ให้เห็นเพียงใบหน้าขาวนวลกับดวงตาวิบวับในความมืดสลัวนั้น
“ขอโทษนะคะ บางทีฉันก็งี่เง่ากับคุณ”
“อืม...” ชานนท์เพียงครางรับในลำคอ เหลือบมองดักแด้ในผ้าห่มแล้วยิ้มออกมาได้หน่อย
“นอนเถอะ พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยว”
“ค่ะ ฝันดีนะคะ” หล่อนบอกเขาทั้งเขินอาย
ตลอดค่ำคืนนั้น เอรินซุกตัวในผ้าห่มก็จริง แต่ความเหน็บหนาวที่คืบคลานเข้ามาในความฝันดีนั้น ทำให้หล่อนขยับเข้าหาชานนท์โดยไม่รู้ตัว และกลายเป็นซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของเขาแทน ยังผลให้ชายหนุ่มหัวใจเต้นระรัวแทบทั้งคืนตราบกระทั่งรุ่งสาง
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ก.ย. 2562, 22:37:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.ย. 2562, 22:37:10 น.
จำนวนการเข้าชม : 563
<< บทที่ 11 -100% + เล่มตัวอย่าง | บทที่ 12 -70% >> |