กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า: พิมมาศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะเสียงกระซิบจากชายในฝัน
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: สายเปย์ รุกจีบ น่ารัก ดราม่า แก้แค้น ลอนดอน ฟลอเรนซ์
ตอน: บทที่ 16 -60%
เอรินเดินบ่นกระปอดกระแปดออกมาจากบ้านพิมพาหลังมื้อกลางวันเสร็จสิ้น ด้านหลังหญิงสาวนั้นมีกรณ์สาวเท้ายาวๆ ตามมาไม่ห่าง หน้ามุ่ยไม่แพ้กัน
ก่อนหน้านี้มีสายหนึ่งโทร.เข้ามาแจ้งชายหนุ่ม เรื่องเกี่ยวกับตึกที่เขาเช่าไว้สำหรับเป็นออฟฟิศทัวร์ทำร่วมกับเอรินที่กรุงเทพฯ ว่ามีปัญหาตกแต่งภายใน อาจส่งผลให้ต้องเลื่อนระยะเวลาเปิดทำการออกไปอีก เอรินรู้เท่านั้นก็หน้าตึงลุกออกมาจากโต๊ะอาหารดื้อๆ โดยอ้างว่าอิ่มแล้ว หารู้ไม่ว่ากรณ์รู้หรอกว่าเด็กดื้อของเขาออกอาการงอนเข้าให้อีกแล้ว เลยตามออกมาท่าทีหนักใจยิ่งกว่าตอนรู้เรื่องปัญหาตึกเสียอีก!
“เฮ้! จะไปไล่วัวไล่ควายที่ไหน เดินนำลิ่วขนาดนั้นเดี๋ยวก็ได้สะดุดหกล้มกันพอดี”
เสียงตะโกนไล่หลังตามมาของกรณ์ได้ผล เอรินชะงักฝีเท้าพลันหันกลับมาส่งค้อนวงใหญ่ให้อีกฝ่าย
“ที่ไหนมีวัวมีควาย เห็นมีแต่ผีทะเลใส่กางเกงตัวเดียวออกมาเดินท่อมๆ แถวนี้”
“อยู่ชายทะเลจะอะไรมากมาย ไม่กางเกงในตัวเดียวก็บุญแล้ว”
กรณ์ก้าวยาวๆ มาทันเลยหยิกแก้มเจ้าหล่อนอย่างมันเขี้ยวสั่งสอน ยังผลให้คนโดนหยิกบ่นกระปอดกระแปดอีกรอบ
“เจ็บนะยักษ์ หยิกอยู่ได้ตั้งแต่เล็กจนโต”
“ก็ใครใช้ให้ดื้อแล้วก็ดื้ออีกล่ะ จะหยิกยันแก่เลย แก้มดื้อยุ้ยดีน่ารัก” กรณ์แสร้งยักคิ้วหลิ่วตาให้
“หืม ใครจะไปอยู่ด้วยยันแก่ จะว่าเราขายไม่ออกรึไง” เอรินบ่นไม่จริงจังนัก ยังถูแก้มตัวเองไปมาแต่กรณ์จับมือหล่อนไว้
“ใครว่า เดี๋ยวเราซื้อเอง”
“บ้า ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อย” ถึงปากจะพูดไปแบบนั้น แต่เอรินถึงกับสะดุดเพราะเห็นสีหน้าจริงจังของอีกฝ่าย
กรณ์รู้ตัวเสเปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อน “ล้อเล่นน่า อีกไม่เกินสามเดือนถ้าออฟฟิศเสร็จเราจะได้เริ่มงานกันเลยนะ”
เอรินพยักหน้ายิ้มแป้นดีใจ แต่ก็แค่ครู่เดียวก่อนแปรเปลี่ยนเป็นพรูลมหายใจหนักหน่วงออกมา
“ดีเหมือนกัน จบมาตั้งนานไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนคนอื่นสักที ได้แต่วิ่งเสิร์ฟอาหารให้แขก จะไปทำงานที่อื่นก็ห่วงพ่อกับแม่ ฉันอยากทำงานอิสระและก็ดูแลโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ประจวบฯ นี้ไปด้วย สอบบัตรมัคคุเทศก์ก็ได้มาแล้วทั้งสีส้มสีเหลือง แต่กว่าจะได้ใช้อีกตั้งนานแน่ะ หรือฉันจะรับจ็อบเป็นไกด์ท้องถิ่นให้นักท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริปดี”
“ก็น่าจะดีนะ มีอะไรทำจะได้ไม่ว่าง ระหว่างนี้ก็จัดโปรแกรมทัวร์ไปพลางๆ ก่อนแล้วกัน ฉันยกทะเลฝั่งอ่าวไทยตอนล่างให้ไปศึกษาดูเลย แล้วคิดโปรแกรมมาเสนอฉันด้วย โอเคไหม”
“ดีเลย ตอนนี้วาฬแถบชุมพรดึงดูดนักท่องเที่ยวดีด้วย ฉันอาจใส่ไปในแผนของเรา ขอบใจนะยักษ์ที่ไว้ใจ วันสองวันนี้ว่าจะเอาโบรชัวร์บ้านสวนไปฝากบริษัททัวร์คุณโอมที่หัวหินด้วย แล้วฉันจะไปหาข้อมูลที่สมุยอีกที หาเรื่องไปเที่ยวด้วย แม่จะได้ไม่บ่นว่าเอาแต่เที่ยวเล่นอีก”
“ตามนั้น” กรณ์ไม่เคยค้านไอเดียของเจ้าหล่อนอยู่แล้ว
“งั้นฉันกลับบ้านก่อนนะ มีนัดคุยงานกับมัณฑนากรเย็นนี้ ต้องตีรถเข้ากรุงเทพฯ คืนนี้คงไปนอนคอนโดฯ เหมือนเดิม”
กรณ์แกล้งดึงแก้มยุ้ยน่ารักนั้นอีกตามเคย แล้วโบกไม้โบกมือเดินแยกกลับบ้านไป
เอรินได้แต่ถูแก้มบริเวณที่ถูกหยิก ส่งสายตาขุ่นตามหลังเพื่อนรักไปเงียบๆ หล่อนรู้ทันอีกฝ่ายหรอกว่าที่กระตือรือร้นรีบเข้ากรุงเทพฯ ไม่ใช่เพราะเรื่องงานอย่างเดียว จะแอบไปเหล่หญิงน่ะสิ! เอรินเลยส่ายหัวก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้เดินย้อนไปยังอีกทางหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ทางกลับบ้านของหล่อน...
****************
บ้านสีขาวสไตล์ยุโรปโบราณสองชั้นหลังใหญ่ราวกับวัง ตั้งอยู่บนเนินเขาริมหาดไม่ไกลที่จะเดินไปถึง เอรินเดินเลาะเลียบหาดทรายขาวนวลไปเรื่อยๆ จนใกล้ถึงบริเวณรกร้างหน้าประตูบ้านหลังนั้น แต่เป็นฝั่งที่ทะลุออกหาดซึ่งมีนักท่องเที่ยวอยู่บางตา
ร่างเพรียวบางหยุดยืนอยู่หน้าประตูรั้วสีขาวสนิมเขรอะ ลูบคลำป้ายชื่อบนนั้นด้วยความเคยชิน แม้เต็มไปด้วยฝุ่นละอองจากหาดทรายที่พัดมาเกาะจนหนา และมีเถาวัลย์ที่พันเกี่ยวรั้วลามมาจนถึงป้ายชื่อนั้น เช่นเดียวกับตัวบ้านที่ถูกพรางด้วยไม้เถาเหล่านั้นจนทึบแทบจะมองไม่เห็นจากด้านนอก
“บ้านอคิราห์...” เอรินอ่านชื่อบนป้ายนั้นและรู้สึกว่ามันเพราะจับใจทุกครั้ง
ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะถูกทุบทิ้งแล้ว ใครกันจะมาทำโรงแรมที่นี่ อย่าให้รู้เชียวแม่จะจ้างคนมาประท้วง
เอรินฮึดฮัดจะเอื้อมมือเข้าไปเปิดประตู แต่แล้วทันใดนั้นกลับต้องชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงแว่วแผ่วเบาเข้ามาในความทรงจำ พร้อมกับมีภาพบางอย่างปรากฏขึ้นลางๆ ซ้อนทับภาพบ้านสีขาวตรงหน้า
‘ยายตัวเล็ก...ขาสั้นตามพี่ไม่ทันแล้ว’
‘รอด้วย ขาเค้าไม่สั้นสักหน่อย ฮือ...ฮือ’
เอรินถึงกับกุมขมับแน่น ขณะที่ภาพเลือนรางและเสียงพูดคุยหยอกล้อของเด็กหญิงตัวน้อยร่างกลมปุ๊กวัยราวห้าขวบ และเด็กผู้ชายตัวโตกว่ากันเกือบเท่า ค่อยๆ ดังห่างออกไป
‘ขาสั้นก็น่ารักน่า...อย่าร้องเลยยายตัวเล็ก มาๆ เร็วเข้า เดินช้า ยายขาสั้นเอ๊ย’
‘พี่ชายใจร้าย ตัวเล็กเป็นเด็กดีแล้ว...ไม่ร้องไห้แล้วก็ได้ มาให้ขี่คอซะดีๆ’
เสียงนั้นยังคงดังต่อเนื่องราวภาพจำ เอรินรู้สึกวิงเวียนเหมือนมีเสียงวิ้งๆ ในสมอง ใจหายเหมือนมีอะไรมากระชาก มือเรียวบางทาบลงบนอก ผ่อนลมหายใจเข้าออกตั้งสติ แต่อาการวิงเวียนยังไม่หายไป กลับยังคงชัดเจน
‘ยายตัวเล็ก... ยายขาสั้น...ของพี่’
อยู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เอรินยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งอย่างงงงัน เสียงแว่วนั้นคือใคร
หล่อนเหลือบมองตัวบ้านสีขาวตรงหน้าได้ชั่วครู่ก็วิ่งผลุนผลันออก มาในที่สุดเพราะรู้ตัวว่าเริ่มคุมตัวเองไม่อยู่ ทว่าชนเข้ากับร่างบึกบึนของกรณ์โดยไม่ทันระวัง รายนั้นเองก็ดูเหมือนจะตั้งรับไม่ทันพอกัน เบิกตาโตตกใจเมื่อเห็นเอรินหมดเรี่ยวแรงทรุดฮวบลงไปนั่งบนผืนทราย
“ดื้อ! เกิดอะไรขึ้น”
กรณ์ใจหล่นวูบเพราะเอรินหน้าซีดเผือด คว้ามากอดไว้ในอ้อมแขน
“ยะ...ยักษ์” เอรินกำลังขวัญเสียผวากอดรอบเอวเพื่อนไว้เช่นกัน “ฉันกลัว เข้าใกล้บ้านหลังนั้นทีไร เป็นอะไรไม่รู้”
“ไม่ต้องกลัวไม่มีอะไรแล้ว กลับเถอะคนดี”
กรณ์ลูบหลังลูบไหล่สาวในอ้อมแขนปลอบประโลม จากนั้นก็ค่อยๆ พยุงร่างบอบบางออกมาให้ห่างจากบริเวณบ้านสีขาวหลังนั้นจนพากลับมาถึงบ้านสวน เล่นเอาทุกคนแตกตื่นกันไปหมด
“ตายแล้วยายเอริน ไปทำอะไรมา”
อติมาร้องเสียงหลง ขณะที่พัชระตรงเข้ามารับช่วงต่อจากกรณ์พาลูกสาวเข้าไปนอนพักในห้อง
“ผมไปเจอเอรินที่หาดฝั่งโน้นมาครับ” กรณ์พยายามลำดับไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้มารดาของเอรินฟัง “พอดีก่อนหน้านี้ผมคุยงานกับเอรินแล้วเห็นเอรินเดินแยกไปทางอื่นแทนที่จะกลับบ้าน ผมสังหรณ์ใจเลยตามไปดู”
“ลูกคนนี้นี่ ไม่ค่อยแข็งแรงมาแต่ไหนแต่ไรแล้วยังจะชอบไปไหนคนเดียวอีก...ขอบใจนะจ๊ะ ถ้ากรณ์ไม่ไปเจอมีหวังแย่”
“เอรินคงใจหายน่ะครับ ผมเพิ่งเล่าเรื่องที่บ้านร้างหลังนั้นจะโดนทุบให้ฟัง” คนเล่าถอนหายใจยาว
“รู้งี้ผมไม่น่าเล่าเลย เอรินดูรักบ้านหลังนั้นมาก แปลกนะครับ ไม่ได้รู้จักมักจี่กับเจ้าของบ้านสักหน่อย จะผูกพันอะไรนักหนา”
กรณ์บ่นไปตามเรื่อง อติมาได้ยินเช่นนั้นก็หน้าซีดเผือดนิ่งเงียบไป หากชายหนุ่มไม่ทันได้สังเกตเห็นหรอก เพราะมัวแต่นึกเป็นห่วงเอริน พัชระที่เพิ่งออกมาจากห้องนอนของลูกสาวทันได้ยินสิ่งที่กรณ์บ่นถึงบ้านหลังสีขาวนั่นพอดี ก็โพล่งออกมาอย่างหัวเสีย
“เหอะ ทุบๆ ไปเสียได้ก็ดี อยู่รกหูรกตามานานแล้ว”
“พ่อ! พูดอะไรแบบนั้น”
อติมาได้สติเอ่ยปรามทันที คนเป็นสามีเลยชะงักอย่างรู้ตัว ก่อนจะเดินหนีไปหน้าเคาน์เตอร์รับแขกดื้อๆ เสียอย่างนั้น กรณ์ที่ยังยืนอยู่ด้วยเลยได้แต่มองตามหลังไปอย่างงงๆ จับต้นชนปลายไม่ถูก...
**************
กระซิบรักฯ จำนวน 624 หน้า
ตอนนี้ยังอยู่ช่วงโปรโมชั่นสั่งซื้อออนไลน์อยู่นะคะ ในราคา 385 บาท (จากราคาปก 445 บาท) ส่งฟรีแบบลงทะเบียน
หมดเขต 18 ตุลาคม 2562
**สั่งซื้อได้โดย inbox เข้ามาที่เพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’ แจ้งว่าต้องการสั่งซื้อกระซิบรักนะคะ และแอดมินจะแจ้งเลขบัญชีสำหรับโอนเงินให้ทราบ และส่งหนังสือให้เป็นลำดับถัดไปค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ก่อนหน้านี้มีสายหนึ่งโทร.เข้ามาแจ้งชายหนุ่ม เรื่องเกี่ยวกับตึกที่เขาเช่าไว้สำหรับเป็นออฟฟิศทัวร์ทำร่วมกับเอรินที่กรุงเทพฯ ว่ามีปัญหาตกแต่งภายใน อาจส่งผลให้ต้องเลื่อนระยะเวลาเปิดทำการออกไปอีก เอรินรู้เท่านั้นก็หน้าตึงลุกออกมาจากโต๊ะอาหารดื้อๆ โดยอ้างว่าอิ่มแล้ว หารู้ไม่ว่ากรณ์รู้หรอกว่าเด็กดื้อของเขาออกอาการงอนเข้าให้อีกแล้ว เลยตามออกมาท่าทีหนักใจยิ่งกว่าตอนรู้เรื่องปัญหาตึกเสียอีก!
“เฮ้! จะไปไล่วัวไล่ควายที่ไหน เดินนำลิ่วขนาดนั้นเดี๋ยวก็ได้สะดุดหกล้มกันพอดี”
เสียงตะโกนไล่หลังตามมาของกรณ์ได้ผล เอรินชะงักฝีเท้าพลันหันกลับมาส่งค้อนวงใหญ่ให้อีกฝ่าย
“ที่ไหนมีวัวมีควาย เห็นมีแต่ผีทะเลใส่กางเกงตัวเดียวออกมาเดินท่อมๆ แถวนี้”
“อยู่ชายทะเลจะอะไรมากมาย ไม่กางเกงในตัวเดียวก็บุญแล้ว”
กรณ์ก้าวยาวๆ มาทันเลยหยิกแก้มเจ้าหล่อนอย่างมันเขี้ยวสั่งสอน ยังผลให้คนโดนหยิกบ่นกระปอดกระแปดอีกรอบ
“เจ็บนะยักษ์ หยิกอยู่ได้ตั้งแต่เล็กจนโต”
“ก็ใครใช้ให้ดื้อแล้วก็ดื้ออีกล่ะ จะหยิกยันแก่เลย แก้มดื้อยุ้ยดีน่ารัก” กรณ์แสร้งยักคิ้วหลิ่วตาให้
“หืม ใครจะไปอยู่ด้วยยันแก่ จะว่าเราขายไม่ออกรึไง” เอรินบ่นไม่จริงจังนัก ยังถูแก้มตัวเองไปมาแต่กรณ์จับมือหล่อนไว้
“ใครว่า เดี๋ยวเราซื้อเอง”
“บ้า ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อย” ถึงปากจะพูดไปแบบนั้น แต่เอรินถึงกับสะดุดเพราะเห็นสีหน้าจริงจังของอีกฝ่าย
กรณ์รู้ตัวเสเปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อน “ล้อเล่นน่า อีกไม่เกินสามเดือนถ้าออฟฟิศเสร็จเราจะได้เริ่มงานกันเลยนะ”
เอรินพยักหน้ายิ้มแป้นดีใจ แต่ก็แค่ครู่เดียวก่อนแปรเปลี่ยนเป็นพรูลมหายใจหนักหน่วงออกมา
“ดีเหมือนกัน จบมาตั้งนานไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเหมือนคนอื่นสักที ได้แต่วิ่งเสิร์ฟอาหารให้แขก จะไปทำงานที่อื่นก็ห่วงพ่อกับแม่ ฉันอยากทำงานอิสระและก็ดูแลโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ประจวบฯ นี้ไปด้วย สอบบัตรมัคคุเทศก์ก็ได้มาแล้วทั้งสีส้มสีเหลือง แต่กว่าจะได้ใช้อีกตั้งนานแน่ะ หรือฉันจะรับจ็อบเป็นไกด์ท้องถิ่นให้นักท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริปดี”
“ก็น่าจะดีนะ มีอะไรทำจะได้ไม่ว่าง ระหว่างนี้ก็จัดโปรแกรมทัวร์ไปพลางๆ ก่อนแล้วกัน ฉันยกทะเลฝั่งอ่าวไทยตอนล่างให้ไปศึกษาดูเลย แล้วคิดโปรแกรมมาเสนอฉันด้วย โอเคไหม”
“ดีเลย ตอนนี้วาฬแถบชุมพรดึงดูดนักท่องเที่ยวดีด้วย ฉันอาจใส่ไปในแผนของเรา ขอบใจนะยักษ์ที่ไว้ใจ วันสองวันนี้ว่าจะเอาโบรชัวร์บ้านสวนไปฝากบริษัททัวร์คุณโอมที่หัวหินด้วย แล้วฉันจะไปหาข้อมูลที่สมุยอีกที หาเรื่องไปเที่ยวด้วย แม่จะได้ไม่บ่นว่าเอาแต่เที่ยวเล่นอีก”
“ตามนั้น” กรณ์ไม่เคยค้านไอเดียของเจ้าหล่อนอยู่แล้ว
“งั้นฉันกลับบ้านก่อนนะ มีนัดคุยงานกับมัณฑนากรเย็นนี้ ต้องตีรถเข้ากรุงเทพฯ คืนนี้คงไปนอนคอนโดฯ เหมือนเดิม”
กรณ์แกล้งดึงแก้มยุ้ยน่ารักนั้นอีกตามเคย แล้วโบกไม้โบกมือเดินแยกกลับบ้านไป
เอรินได้แต่ถูแก้มบริเวณที่ถูกหยิก ส่งสายตาขุ่นตามหลังเพื่อนรักไปเงียบๆ หล่อนรู้ทันอีกฝ่ายหรอกว่าที่กระตือรือร้นรีบเข้ากรุงเทพฯ ไม่ใช่เพราะเรื่องงานอย่างเดียว จะแอบไปเหล่หญิงน่ะสิ! เอรินเลยส่ายหัวก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้เดินย้อนไปยังอีกทางหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ทางกลับบ้านของหล่อน...
****************
บ้านสีขาวสไตล์ยุโรปโบราณสองชั้นหลังใหญ่ราวกับวัง ตั้งอยู่บนเนินเขาริมหาดไม่ไกลที่จะเดินไปถึง เอรินเดินเลาะเลียบหาดทรายขาวนวลไปเรื่อยๆ จนใกล้ถึงบริเวณรกร้างหน้าประตูบ้านหลังนั้น แต่เป็นฝั่งที่ทะลุออกหาดซึ่งมีนักท่องเที่ยวอยู่บางตา
ร่างเพรียวบางหยุดยืนอยู่หน้าประตูรั้วสีขาวสนิมเขรอะ ลูบคลำป้ายชื่อบนนั้นด้วยความเคยชิน แม้เต็มไปด้วยฝุ่นละอองจากหาดทรายที่พัดมาเกาะจนหนา และมีเถาวัลย์ที่พันเกี่ยวรั้วลามมาจนถึงป้ายชื่อนั้น เช่นเดียวกับตัวบ้านที่ถูกพรางด้วยไม้เถาเหล่านั้นจนทึบแทบจะมองไม่เห็นจากด้านนอก
“บ้านอคิราห์...” เอรินอ่านชื่อบนป้ายนั้นและรู้สึกว่ามันเพราะจับใจทุกครั้ง
ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะถูกทุบทิ้งแล้ว ใครกันจะมาทำโรงแรมที่นี่ อย่าให้รู้เชียวแม่จะจ้างคนมาประท้วง
เอรินฮึดฮัดจะเอื้อมมือเข้าไปเปิดประตู แต่แล้วทันใดนั้นกลับต้องชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงแว่วแผ่วเบาเข้ามาในความทรงจำ พร้อมกับมีภาพบางอย่างปรากฏขึ้นลางๆ ซ้อนทับภาพบ้านสีขาวตรงหน้า
‘ยายตัวเล็ก...ขาสั้นตามพี่ไม่ทันแล้ว’
‘รอด้วย ขาเค้าไม่สั้นสักหน่อย ฮือ...ฮือ’
เอรินถึงกับกุมขมับแน่น ขณะที่ภาพเลือนรางและเสียงพูดคุยหยอกล้อของเด็กหญิงตัวน้อยร่างกลมปุ๊กวัยราวห้าขวบ และเด็กผู้ชายตัวโตกว่ากันเกือบเท่า ค่อยๆ ดังห่างออกไป
‘ขาสั้นก็น่ารักน่า...อย่าร้องเลยยายตัวเล็ก มาๆ เร็วเข้า เดินช้า ยายขาสั้นเอ๊ย’
‘พี่ชายใจร้าย ตัวเล็กเป็นเด็กดีแล้ว...ไม่ร้องไห้แล้วก็ได้ มาให้ขี่คอซะดีๆ’
เสียงนั้นยังคงดังต่อเนื่องราวภาพจำ เอรินรู้สึกวิงเวียนเหมือนมีเสียงวิ้งๆ ในสมอง ใจหายเหมือนมีอะไรมากระชาก มือเรียวบางทาบลงบนอก ผ่อนลมหายใจเข้าออกตั้งสติ แต่อาการวิงเวียนยังไม่หายไป กลับยังคงชัดเจน
‘ยายตัวเล็ก... ยายขาสั้น...ของพี่’
อยู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เอรินยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งอย่างงงงัน เสียงแว่วนั้นคือใคร
หล่อนเหลือบมองตัวบ้านสีขาวตรงหน้าได้ชั่วครู่ก็วิ่งผลุนผลันออก มาในที่สุดเพราะรู้ตัวว่าเริ่มคุมตัวเองไม่อยู่ ทว่าชนเข้ากับร่างบึกบึนของกรณ์โดยไม่ทันระวัง รายนั้นเองก็ดูเหมือนจะตั้งรับไม่ทันพอกัน เบิกตาโตตกใจเมื่อเห็นเอรินหมดเรี่ยวแรงทรุดฮวบลงไปนั่งบนผืนทราย
“ดื้อ! เกิดอะไรขึ้น”
กรณ์ใจหล่นวูบเพราะเอรินหน้าซีดเผือด คว้ามากอดไว้ในอ้อมแขน
“ยะ...ยักษ์” เอรินกำลังขวัญเสียผวากอดรอบเอวเพื่อนไว้เช่นกัน “ฉันกลัว เข้าใกล้บ้านหลังนั้นทีไร เป็นอะไรไม่รู้”
“ไม่ต้องกลัวไม่มีอะไรแล้ว กลับเถอะคนดี”
กรณ์ลูบหลังลูบไหล่สาวในอ้อมแขนปลอบประโลม จากนั้นก็ค่อยๆ พยุงร่างบอบบางออกมาให้ห่างจากบริเวณบ้านสีขาวหลังนั้นจนพากลับมาถึงบ้านสวน เล่นเอาทุกคนแตกตื่นกันไปหมด
“ตายแล้วยายเอริน ไปทำอะไรมา”
อติมาร้องเสียงหลง ขณะที่พัชระตรงเข้ามารับช่วงต่อจากกรณ์พาลูกสาวเข้าไปนอนพักในห้อง
“ผมไปเจอเอรินที่หาดฝั่งโน้นมาครับ” กรณ์พยายามลำดับไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้มารดาของเอรินฟัง “พอดีก่อนหน้านี้ผมคุยงานกับเอรินแล้วเห็นเอรินเดินแยกไปทางอื่นแทนที่จะกลับบ้าน ผมสังหรณ์ใจเลยตามไปดู”
“ลูกคนนี้นี่ ไม่ค่อยแข็งแรงมาแต่ไหนแต่ไรแล้วยังจะชอบไปไหนคนเดียวอีก...ขอบใจนะจ๊ะ ถ้ากรณ์ไม่ไปเจอมีหวังแย่”
“เอรินคงใจหายน่ะครับ ผมเพิ่งเล่าเรื่องที่บ้านร้างหลังนั้นจะโดนทุบให้ฟัง” คนเล่าถอนหายใจยาว
“รู้งี้ผมไม่น่าเล่าเลย เอรินดูรักบ้านหลังนั้นมาก แปลกนะครับ ไม่ได้รู้จักมักจี่กับเจ้าของบ้านสักหน่อย จะผูกพันอะไรนักหนา”
กรณ์บ่นไปตามเรื่อง อติมาได้ยินเช่นนั้นก็หน้าซีดเผือดนิ่งเงียบไป หากชายหนุ่มไม่ทันได้สังเกตเห็นหรอก เพราะมัวแต่นึกเป็นห่วงเอริน พัชระที่เพิ่งออกมาจากห้องนอนของลูกสาวทันได้ยินสิ่งที่กรณ์บ่นถึงบ้านหลังสีขาวนั่นพอดี ก็โพล่งออกมาอย่างหัวเสีย
“เหอะ ทุบๆ ไปเสียได้ก็ดี อยู่รกหูรกตามานานแล้ว”
“พ่อ! พูดอะไรแบบนั้น”
อติมาได้สติเอ่ยปรามทันที คนเป็นสามีเลยชะงักอย่างรู้ตัว ก่อนจะเดินหนีไปหน้าเคาน์เตอร์รับแขกดื้อๆ เสียอย่างนั้น กรณ์ที่ยังยืนอยู่ด้วยเลยได้แต่มองตามหลังไปอย่างงงๆ จับต้นชนปลายไม่ถูก...
**************
กระซิบรักฯ จำนวน 624 หน้า
ตอนนี้ยังอยู่ช่วงโปรโมชั่นสั่งซื้อออนไลน์อยู่นะคะ ในราคา 385 บาท (จากราคาปก 445 บาท) ส่งฟรีแบบลงทะเบียน
หมดเขต 18 ตุลาคม 2562
**สั่งซื้อได้โดย inbox เข้ามาที่เพจ ‘ปลายปากกา สำนักพิมพ์’ แจ้งว่าต้องการสั่งซื้อกระซิบรักนะคะ และแอดมินจะแจ้งเลขบัญชีสำหรับโอนเงินให้ทราบ และส่งหนังสือให้เป็นลำดับถัดไปค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ต.ค. 2562, 09:14:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ต.ค. 2562, 09:14:45 น.
จำนวนการเข้าชม : 495
<< บทที่ 16 -30% | บทที่ 16 -100% >> |