กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า: พิมมาศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะเสียงกระซิบจากชายในฝัน
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: สายเปย์ รุกจีบ น่ารัก ดราม่า แก้แค้น ลอนดอน ฟลอเรนซ์
ตอน: บทที่ 29 -50% + โปรฯ วาเลนไทน์
บริเวณล็อบบี้ของรีสอร์ตเช้านี้ ต่างจากทุกวัน เพราะนอกจากนักท่องเที่ยวและแขกที่มาเข้าพักแล้ว ยังมีร่างบึกบึนของชานนท์ซึ่งเป็นหนึ่งในแขกที่พักรีสอร์ต เอาแต่เดินไปมางุ่นง่านผุดลุกผุดนั่งอยู่แถวนั้น
อาการไข้ของชายหนุ่มหายเป็นปลิดทิ้งแล้วถึงได้ลุกขึ้นมาแต่เช้า ทีแรกเขาไปเคาะประตูห้องเอริน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เปิดให้เสียทีเหมือนเจ้าหล่อนไม่ได้อยู่ในห้อง เขาเลยมาถามหาเอากับพนักงานรีสอร์ตที่แผนกต้อนรับถึงได้รู้ว่า เอรินนั่งรถบริการรับส่งของรีสอร์ตออกไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว
ชานนท์นั่งรอสาวน้อยอยู่ที่ล็อบบี้ต่ออีกสักพัก พอไม่เห็นวี่แววว่าเอรินจะกลับมาก็เริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี ย่างสามขุมเข้าไปถามพนักงานอีกรอบ
“พอจะรู้หรือเปล่าว่าเธอไปลงที่ไหน”
“ดิฉันไม่รู้จริงๆ ค่ะ ขอสอบถามคนขับรถก่อนนะคะ”
“ไม่ต้อง” ชานนท์เสียงกร้าว
“ผมขี้เกียจรอ พวกคุณนี่ใช้ไม่ได้จริงๆ รู้อยู่ว่าผมกับเธอมาด้วยกันถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมาผมจะเอาเรื่องให้หมด”
“ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ ก็ดิฉันไม่ทราบนี่คะว่าเธอไม่ได้บอกคุณ”
พนักงานต้อนรับสาวเริ่มเสียงสั่น แต่คำตอบนั้นทำให้ชายหนุ่มเพิ่งรู้ตัวว่าควรจะเก็บอารมณ์ให้มากกว่านี้ เลยจำต้องโบกปัดอย่างไม่ถือสาหาความอีกเพราะก็จริงอย่างที่หล่อนพูด
“เอาเป็นว่าผมขอเช่ามอเตอร์ไซค์คัน จะออกไปตามเธอเอง”
“ได้ค่ะ สักครู่นะคะ”
“อ้อ แล้วรถเอทีวีที่ผมฝากพวกคุณคืนผู้ชายฝรั่งคนหนึ่ง เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
พนักงานสาวพยักหน้าให้แทนคำตอบนั้น เพราะกำลังคุยโทรศัพท์จัดการเช่ารถให้เขา ระหว่างนั้นชานนท์รออย่างกระวนกระวายใจ มือหนาเสยผมที่ลงมาปรกหน้าปรกตาด้วยความหงุดหงิด สีหน้าบูดบึ้งจนใครต่อใครเข้าหน้าไม่ติด
แต่แล้วทันทีที่หันกลับไปมองด้านหน้ารีสอร์ตอีกครั้งคนสีหน้าบูดบึ้งต้องชะงัก มีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดหน้าบันไดล็อบบี้ และตามมาด้วยสาวน้อยที่เขากำลังตามหา!
เอรินก้าวลงจากเบาะท้ายมอเตอร์ไซค์คันนั้น ยกมือไหว้ขอบคุณคนขับซึ่งเป็นหนุ่มลูกครึ่งตัวไม่สูงเท่าไรนัก ท่าทีของทั้งสองดูสนิทสนมกันพอสมควร เพราะรายนั้นมีหยอกล้อให้เอรินหัวเราะแล้วก็ยีผมหน้าม้าของหล่อนด้วยความเอ็นดู คนเห็นอย่างชานนท์ถึงกับกำหมัดแน่น
เขาไม่เคยเจอหรือเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นมาก่อน แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหน้าไหนก็ตาม ไม่มีสิทธิ์มาแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงของเขาแบบนั้น!
“คุณคะ รถได้...”
“ผมไม่เอาแล้ว” ชานนท์บอกพนักงานเสียงห้วน สายตาจ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่มลูกครึ่งคนนั้น ที่กำลังโบกมือให้เอรินเป็นการบอกลาก่อนจะขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไป เท่านั้นชานนท์ก็พุ่งเข้าไปหาเอรินทันที!
“ตื่นมาก็หายตัวไป ข้าวปลาไม่กิน กลับมาเอาป่านนี้สนุกมากสินะ”
ไม่พูดเปล่า ชานนท์ยังยืนขวาง เอรินกำลังเดินเข้ามาในล็อบบี้เลยชะงักเล็กน้อย
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร!” เขาถามขึ้นอีก
“เพื่อนไกด์ด้วยกันค่ะ” เอรินตอบสั้นๆ แค่นั้น สายตาว่างเปล่าเดินเลี่ยงหลบผ่านหน้าเขาไปดื้อๆ ร้อนถึงชานนท์ต้องสาวเท้ายาวๆ ตามภรรยาป้ายแดงของเขาไป จนถึงหน้าประตูวิลลาซึ่งเป็นที่พักของเขาและหล่อน
เอรินจะเอื้อมมือไปเปิดประตู แต่ชานนท์ไวกว่าผลักเปิดให้อย่างเอาใจ หล่อนจึงเดินนำเข้าไปก่อนอีกเช่นกัน โดยมีคนตัวโตตามหลังต้อยๆ เจ้าหล่อนจะรู้บ้างไหมว่าตอนนี้เขากำลังร้อนใจอย่างมาก! อยากจะคุยเรื่องเมื่อวานให้เข้าใจ เอรินก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินกลับห้องตัวเองท่าเดียว
จังหวะที่เอรินเปิดประตูเข้าห้องพัก ร่างสูงใหญ่เลยไม่รีรอก้าวตามเข้าไปติดๆ
“เอ๊ะคุณ! เข้ามาทำไม กลับไปห้องคุณเลย”
เอรินแหวใส่เขาทันที ท่าทางเอาเรื่อง
“ก็คุณกำลังปั่นหัวผม”
“ฉันเปล่า” หล่อนปฏิเสธหน้าตาเฉยแล้วเดินหนีไปที่ระเบียงห้องพัก ชานนท์ไม่ยอมแพ้ตามออกไป
“เอาแต่หนีเมื่อไหร่จะคุยกันรู้เรื่อง”
“ไม่ได้หนี ฉันไม่มีอะไรต้องคุยนี่คะ”
“มีสิ คุณเป็นเมียผมแล้ว ไม่มีสิทธิ์จะไปนั่งซ้อนท้ายทำก้อร่อก้อติกกับใครอีก”
“เผด็จการ คุณไม่มีสิทธิ์”
หล่อนว่าพลางถอยหนี แต่ดันซุ่มซ่ามสะดุดขาเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำ คนเผด็จการเลยสบโอกาสนั้นปรี่เข้ามาช้อนตัวหล่อนอุ้มกลับเข้าห้องเสีย
“ปล่อยนะคุณอเล็กซ์!”
ร่างบอบบางดิ้นขัดขืนแต่ไม่อาจสู้แรงชายหนุ่มได้ เขาวางหล่อนลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุดแล้วจัดหมอนให้นั่งพิงก่อนจะจับที่ข้อเท้าหญิงสาวสำรวจดูด้วยความเป็นห่วง เอรินอายจะชักเท้ากลับแต่ไม่ทันเมื่อฝ่ามือหนายกเท้าข้างที่เป็นแผลถลอกขึ้นมาวางบนตักของเขา
“ทำอะไร ปล่อยนะคะ น่าเกลียด”
“ทำไมล่ะ เท้าเมียน่าเกลียดตรงไหน ผิวนิ่มๆ ถลอกแล้วเห็นไหม”
“แผลถลอกเท่าปลายก้อย ฉันไม่เจ็บเท่าใจที่โดนทำร้ายด้วยคำพูดหรอกค่ะ”
“โธ่เอริน...ผมขอโทษ...รับรองว่าจะไม่ทำให้คุณเสียใจอีก” ชานนท์เอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยนแล้วดึงกระดาษทิชชูใกล้มือมาเช็ดให้
“ทำแผลก่อนเถอะ จะได้ไม่เป็นบาดทะยัก”
“ไม่มีเลือดออกสักหน่อย คุณไม่ต้องมาทำดีเลย นี่คงเป็นแผนแกล้งให้ฉันตายใจอีกแล้วสินะคะ”
ชายหนุ่มส่ายหน้า มือยังคลึงบริเวณข้อเท้าให้ ก่อนจะพูดหยอกเย้าหมายให้บรรยากาศดีขึ้น
“ผมเริ่มจะสงสัยแล้วสิว่าคุณจะเป็นพวกชอบซาดิสม์”
“ฮะ! จะบ้าหรือคุณ คิดได้ไงเนี่ย” เอรินชักเท้ากลับทันที แถมดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นคลุมซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเป็นดักแด้เหมือนเคย
“ก็จริงไหมล่ะ คุยกันก่อนสิอย่าหนีหน้าผม” เขาว่าเพราะเอรินเล่นนอนตะแคงข้างให้เฉย คนถูกเมินเลยได้แต่ถอนใจ แกล้งล้มตัวลงนอนข้างๆ มองหล่อนจากด้านหลัง หารู้ไม่ว่ายิ่งทำให้คนที่ระแวงเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วถึงกับสะดุ้งที่ที่นอนยุบยวบ หันกลับมามองทันควันตาโต เมื่อเห็นร่างกำยำและใบหน้าคมเข้มขึ้นไรหนวดประปรายของชายหนุ่มอยู่ในระยะประชิด!
ชานนท์ได้ทีโอบกระชับเอวคอดกิ่วที่ยังเร้นกายใต้ผ้าห่มไม่ให้ขยับไปไหนได้อีก
“บอกผมมาซิ เมื่อเช้าคุณหายไปไหนมา”
“ฉันไปเดินเล่นชายหาดแถวนี้มา แล้วบังเอิญเจอเพื่อนไกด์ด้วยกันเลยขอให้เขามาส่ง แค่นั้น ปล่อยได้รึยังคะ” หล่อนเน้นคำว่าแค่นั้นและหวังว่าพอตอบคำถามเขาหมดแล้วจะยอมปล่อย แต่เปล่าเลย เขากลับยิ่งกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น
“คุณอยากไปทำไมไม่บอกผม หืม รู้ไหมทำผมเป็นห่วงจนแทบบ้า นึกว่าคุณหนีผมไปแล้ว”
“ฉันจะไปไหน ทำอะไรมันก็เรื่องของฉันค่ะ คุณจะตามไปกวนโมโหฉันทุกทีเลยหรือไง ฉันอยากอยู่สงบๆ ของฉันบ้าง”
“แต่เราเป็นสามีภรรยากันแล้วนะเอริน”
“เป็นแค่ทางกฎหมายค่ะ” หล่อนแย้ง
“คุณเล่นข้ามขั้นตอน ยอมจดทะเบียนกับฉันก็แค่เพื่อรักษาเกียรติให้ฉัน คุณไม่แม้แต่จะพยายามแก้ความเข้าใจผิดลุงกองด้วยซ้ำ แต่กลับยอมปล่อยให้เรื่องมันเลยเถิดมาขนาดนี้”
“ก็ผมตั้งใจ บอกแล้วไงว่าผมรักคุณจริงๆ”
“แต่เมื่อวานคุณแค่บอกชอบฉัน”
“แล้วตอนที่ผมบอกรักคุณ คุณเชื่อผมบ้างหรือเปล่า ผมสิควรน้อยใจที่คุณไม่เคยสนใจคำว่ารักของผมเลย”
กลายเป็นเขาที่ตัดพ้อขึ้นมา ยอมปล่อยสาวในอ้อมแขนเป็นอิสระ
“คุณเอาแต่ระแวงผม จนตอนนี้คุณก็ยังไม่ไว้ใจผมทั้งที่ทุกครั้งเวลาที่คุณตกอยู่ในอันตราย ผมไม่เคยคิดลังเลที่จะเสี่ยงชีวิตไปช่วยคุณเลยสักครั้ง บางทีผมก็แอบคิดนะว่าคุณคงไม่ได้รักผมแล้ว...”
พูดจบชานนท์ก็จะลุกจากเตียง แต่มือนุ่มนิ่มของเอรินจับแขนเขาไว้
ตอนนั้นเองเขาเลยหันมาเห็นว่า สาวน้อยข้างกายคลายผ้าห่มออกแล้ว ตาโตๆ ของเจ้าหล่อนนั้นสบมองเขาอยู่
“คุณนอนพักเถอะ ผมไม่กวนคุณแล้ว” เขาจะแกะมือหล่อนออก
“ฉัน...เอ่อ...อยากให้คุณทำแผลให้”
ปากบอกเขาไปแบบนั้น แต่ดวงหน้านวลร้อนผ่าว มองเขาแววตาละห้อย ชานนท์กำลังแกะมือหญิงสาวออกเลยชะงัก
“ผมจะทำแผลให้คุณ แต่คุณต้องบอกมาก่อนว่าเข้าใจที่ผมพูดมาทั้งหมดเมื่อกี้ไหม”
ชานนท์ไม่ยอมปล่อยผ่านอีก เอรินแค่พยักหน้าแก้มแดง
ชายหนุ่มอดเอ็นดูไม่ได้ ลูบศีรษะภรรยาตัวน้อยแสนดื้อของเขาแผ่วเบา พลางเอ่ยต่ออีกว่า “คราวนี้ก็รู้แล้วนะว่าที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะรักและจริงใจกับคุณจริงๆ แล้วคุณล่ะเอริน บอกให้ผมชื่นใจหน่อยไม่ได้เหรอว่ารักผม ไม่งั้นผมจะนั่งมองหน้าคุณอยู่แบบนี้จนเย็นเลย”
“ฉันก็บอกคุณไปเมื่อวานแล้วนี่คะ” เอรินอิดออดเขินอาย
“ก็ผมอยากฟังอีก เวลาเมียบอกรักแล้วชื่นใจ”
“ค่ะ ฉันก็รักคุณ แต่ถ้าคุณทำฉันเสียใจอีก ฉันโกรธจริงๆ ด้วย”
คาดโทษเขาแล้วเอรินกลับสะดุ้งเสียเอง ชานนท์เล่นยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มหล่อนดังฟอด สวมกอดร่างบอบบางไว้ในอ้อมแขนพลัน
“ว่าง่ายแบบนี้สิค่อยน่ารักหน่อย”
“ไหนคุณบอกว่าจะทำแผลให้ฉันไง โกหกกันนี่” เอรินต่อว่าทีเล่นทีจริงเรียกรอยยิ้มขันจากคนกอด
“ผมไม่ได้โกหกคุณเสียหน่อย แค่บอกไม่หมดต่างหาก”
“คนเจ้าเล่ห์ ปล่อยเลย ฉันทำแผลเองก็ได้”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวผมทำให้ แต่ตอนนี้มีอะไรให้ทำสนุกกว่าทำแผลอีก”
ไม่แค่พูด แววตาชายหนุ่มพราวระยับจนเอรินหน้าเห่อร้อนยิ่งกว่าเดิม เอียงอายหลบสายตาเขา ชานนท์จึงเชยคางหญิงสาวขึ้นสบตา จูบเบาๆ ที่ปลายจมูกรั้น
“ถึงผมจะเจ้าเล่ห์ แต่สิ่งเดียวที่ผมไม่เคยโกหกคุณคือ ผมรักคุณ”
ริมฝีปากอุ่นร้อนของชายหนุ่มจูบแผ่วเบาที่แก้มนวลและไล้ระเรื่อยขึ้นไปบนหน้าผาก มือเรียวบางสั่นระริกกำแน่นด้วยความอุ่นซ่าน ชานนท์มองแววตาสับสนของสาวน้อยตรงหน้าอย่างรักใคร่พร้อมกระซิบเบาๆ กอดกระชับร่างบอบบางแนบแน่น
“เป็นของผมนะ”
“แต่ฉัน...”
“อย่าปฏิเสธผมอีกเลย ผมรักคุณจริงๆ เป็นของผม เป็นภรรยาผมนะเอริน”
เอรินชะงักเล็กน้อยกับคำขอตรงๆ ของเขา สบดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นที่มองมาแววตาเว้าวอน ลึกล้ำ หญิงสาวผู้ไม่เคยรักใครมาก่อนถึงกับปล่อยใจเคลิบเคลิ้มไปกับความรักที่รอคอยมายาวนานอย่างยากที่จะหักห้ามใจ...
*******************
สุขสันต์วันวาเลนไทน์จ้ารีดเดอร์ แน่ะๆ รอเค้าสวีตกันอะจิ 5555 ใครสนใจสั่งซื้อตอนนี้สนพ.ส่งฟรีแบบลงทะเบียนทุกเล่มนะคะ พิเศษให้ในวันวาเลนไทน์จ้า ถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้นนะ จุ๊บๆ
**ช่องทางสั่งซื้อ**
- inbox สั่งซื้อที่เพจ ปลายปากกาสำนักพิมพ์
- line: plaipakkabooks (อย่าลืมกดแอดนะจ๊ะ)
- เมล์ plaipakkabooks@gmail.com
******************
วิธีสั่งซื้อ : แจ้งเรื่องที่ต้องการ+จำนวนเล่ม+ชื่อผู้สั่งซื้อ จากนั้นสนพ.จะสรุปราคาและแจ้งเลขบัญชีสำหรับโอนเงินให้ทราบเป็นลำดับถัดไป ก่อนจัดส่งหนังสือ
ราคากระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า 385฿ (จากราคาปก 445฿)
ส่งฟรีลงทะเบียน
(ถ้าจัดส่ง EMS 70฿ รวมเป็น 455฿)
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
อาการไข้ของชายหนุ่มหายเป็นปลิดทิ้งแล้วถึงได้ลุกขึ้นมาแต่เช้า ทีแรกเขาไปเคาะประตูห้องเอริน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เปิดให้เสียทีเหมือนเจ้าหล่อนไม่ได้อยู่ในห้อง เขาเลยมาถามหาเอากับพนักงานรีสอร์ตที่แผนกต้อนรับถึงได้รู้ว่า เอรินนั่งรถบริการรับส่งของรีสอร์ตออกไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว
ชานนท์นั่งรอสาวน้อยอยู่ที่ล็อบบี้ต่ออีกสักพัก พอไม่เห็นวี่แววว่าเอรินจะกลับมาก็เริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี ย่างสามขุมเข้าไปถามพนักงานอีกรอบ
“พอจะรู้หรือเปล่าว่าเธอไปลงที่ไหน”
“ดิฉันไม่รู้จริงๆ ค่ะ ขอสอบถามคนขับรถก่อนนะคะ”
“ไม่ต้อง” ชานนท์เสียงกร้าว
“ผมขี้เกียจรอ พวกคุณนี่ใช้ไม่ได้จริงๆ รู้อยู่ว่าผมกับเธอมาด้วยกันถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมาผมจะเอาเรื่องให้หมด”
“ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ ก็ดิฉันไม่ทราบนี่คะว่าเธอไม่ได้บอกคุณ”
พนักงานต้อนรับสาวเริ่มเสียงสั่น แต่คำตอบนั้นทำให้ชายหนุ่มเพิ่งรู้ตัวว่าควรจะเก็บอารมณ์ให้มากกว่านี้ เลยจำต้องโบกปัดอย่างไม่ถือสาหาความอีกเพราะก็จริงอย่างที่หล่อนพูด
“เอาเป็นว่าผมขอเช่ามอเตอร์ไซค์คัน จะออกไปตามเธอเอง”
“ได้ค่ะ สักครู่นะคะ”
“อ้อ แล้วรถเอทีวีที่ผมฝากพวกคุณคืนผู้ชายฝรั่งคนหนึ่ง เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
พนักงานสาวพยักหน้าให้แทนคำตอบนั้น เพราะกำลังคุยโทรศัพท์จัดการเช่ารถให้เขา ระหว่างนั้นชานนท์รออย่างกระวนกระวายใจ มือหนาเสยผมที่ลงมาปรกหน้าปรกตาด้วยความหงุดหงิด สีหน้าบูดบึ้งจนใครต่อใครเข้าหน้าไม่ติด
แต่แล้วทันทีที่หันกลับไปมองด้านหน้ารีสอร์ตอีกครั้งคนสีหน้าบูดบึ้งต้องชะงัก มีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดหน้าบันไดล็อบบี้ และตามมาด้วยสาวน้อยที่เขากำลังตามหา!
เอรินก้าวลงจากเบาะท้ายมอเตอร์ไซค์คันนั้น ยกมือไหว้ขอบคุณคนขับซึ่งเป็นหนุ่มลูกครึ่งตัวไม่สูงเท่าไรนัก ท่าทีของทั้งสองดูสนิทสนมกันพอสมควร เพราะรายนั้นมีหยอกล้อให้เอรินหัวเราะแล้วก็ยีผมหน้าม้าของหล่อนด้วยความเอ็นดู คนเห็นอย่างชานนท์ถึงกับกำหมัดแน่น
เขาไม่เคยเจอหรือเห็นหน้าผู้ชายคนนั้นมาก่อน แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหน้าไหนก็ตาม ไม่มีสิทธิ์มาแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงของเขาแบบนั้น!
“คุณคะ รถได้...”
“ผมไม่เอาแล้ว” ชานนท์บอกพนักงานเสียงห้วน สายตาจ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่มลูกครึ่งคนนั้น ที่กำลังโบกมือให้เอรินเป็นการบอกลาก่อนจะขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไป เท่านั้นชานนท์ก็พุ่งเข้าไปหาเอรินทันที!
“ตื่นมาก็หายตัวไป ข้าวปลาไม่กิน กลับมาเอาป่านนี้สนุกมากสินะ”
ไม่พูดเปล่า ชานนท์ยังยืนขวาง เอรินกำลังเดินเข้ามาในล็อบบี้เลยชะงักเล็กน้อย
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร!” เขาถามขึ้นอีก
“เพื่อนไกด์ด้วยกันค่ะ” เอรินตอบสั้นๆ แค่นั้น สายตาว่างเปล่าเดินเลี่ยงหลบผ่านหน้าเขาไปดื้อๆ ร้อนถึงชานนท์ต้องสาวเท้ายาวๆ ตามภรรยาป้ายแดงของเขาไป จนถึงหน้าประตูวิลลาซึ่งเป็นที่พักของเขาและหล่อน
เอรินจะเอื้อมมือไปเปิดประตู แต่ชานนท์ไวกว่าผลักเปิดให้อย่างเอาใจ หล่อนจึงเดินนำเข้าไปก่อนอีกเช่นกัน โดยมีคนตัวโตตามหลังต้อยๆ เจ้าหล่อนจะรู้บ้างไหมว่าตอนนี้เขากำลังร้อนใจอย่างมาก! อยากจะคุยเรื่องเมื่อวานให้เข้าใจ เอรินก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินกลับห้องตัวเองท่าเดียว
จังหวะที่เอรินเปิดประตูเข้าห้องพัก ร่างสูงใหญ่เลยไม่รีรอก้าวตามเข้าไปติดๆ
“เอ๊ะคุณ! เข้ามาทำไม กลับไปห้องคุณเลย”
เอรินแหวใส่เขาทันที ท่าทางเอาเรื่อง
“ก็คุณกำลังปั่นหัวผม”
“ฉันเปล่า” หล่อนปฏิเสธหน้าตาเฉยแล้วเดินหนีไปที่ระเบียงห้องพัก ชานนท์ไม่ยอมแพ้ตามออกไป
“เอาแต่หนีเมื่อไหร่จะคุยกันรู้เรื่อง”
“ไม่ได้หนี ฉันไม่มีอะไรต้องคุยนี่คะ”
“มีสิ คุณเป็นเมียผมแล้ว ไม่มีสิทธิ์จะไปนั่งซ้อนท้ายทำก้อร่อก้อติกกับใครอีก”
“เผด็จการ คุณไม่มีสิทธิ์”
หล่อนว่าพลางถอยหนี แต่ดันซุ่มซ่ามสะดุดขาเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำ คนเผด็จการเลยสบโอกาสนั้นปรี่เข้ามาช้อนตัวหล่อนอุ้มกลับเข้าห้องเสีย
“ปล่อยนะคุณอเล็กซ์!”
ร่างบอบบางดิ้นขัดขืนแต่ไม่อาจสู้แรงชายหนุ่มได้ เขาวางหล่อนลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุดแล้วจัดหมอนให้นั่งพิงก่อนจะจับที่ข้อเท้าหญิงสาวสำรวจดูด้วยความเป็นห่วง เอรินอายจะชักเท้ากลับแต่ไม่ทันเมื่อฝ่ามือหนายกเท้าข้างที่เป็นแผลถลอกขึ้นมาวางบนตักของเขา
“ทำอะไร ปล่อยนะคะ น่าเกลียด”
“ทำไมล่ะ เท้าเมียน่าเกลียดตรงไหน ผิวนิ่มๆ ถลอกแล้วเห็นไหม”
“แผลถลอกเท่าปลายก้อย ฉันไม่เจ็บเท่าใจที่โดนทำร้ายด้วยคำพูดหรอกค่ะ”
“โธ่เอริน...ผมขอโทษ...รับรองว่าจะไม่ทำให้คุณเสียใจอีก” ชานนท์เอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยนแล้วดึงกระดาษทิชชูใกล้มือมาเช็ดให้
“ทำแผลก่อนเถอะ จะได้ไม่เป็นบาดทะยัก”
“ไม่มีเลือดออกสักหน่อย คุณไม่ต้องมาทำดีเลย นี่คงเป็นแผนแกล้งให้ฉันตายใจอีกแล้วสินะคะ”
ชายหนุ่มส่ายหน้า มือยังคลึงบริเวณข้อเท้าให้ ก่อนจะพูดหยอกเย้าหมายให้บรรยากาศดีขึ้น
“ผมเริ่มจะสงสัยแล้วสิว่าคุณจะเป็นพวกชอบซาดิสม์”
“ฮะ! จะบ้าหรือคุณ คิดได้ไงเนี่ย” เอรินชักเท้ากลับทันที แถมดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นคลุมซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเป็นดักแด้เหมือนเคย
“ก็จริงไหมล่ะ คุยกันก่อนสิอย่าหนีหน้าผม” เขาว่าเพราะเอรินเล่นนอนตะแคงข้างให้เฉย คนถูกเมินเลยได้แต่ถอนใจ แกล้งล้มตัวลงนอนข้างๆ มองหล่อนจากด้านหลัง หารู้ไม่ว่ายิ่งทำให้คนที่ระแวงเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วถึงกับสะดุ้งที่ที่นอนยุบยวบ หันกลับมามองทันควันตาโต เมื่อเห็นร่างกำยำและใบหน้าคมเข้มขึ้นไรหนวดประปรายของชายหนุ่มอยู่ในระยะประชิด!
ชานนท์ได้ทีโอบกระชับเอวคอดกิ่วที่ยังเร้นกายใต้ผ้าห่มไม่ให้ขยับไปไหนได้อีก
“บอกผมมาซิ เมื่อเช้าคุณหายไปไหนมา”
“ฉันไปเดินเล่นชายหาดแถวนี้มา แล้วบังเอิญเจอเพื่อนไกด์ด้วยกันเลยขอให้เขามาส่ง แค่นั้น ปล่อยได้รึยังคะ” หล่อนเน้นคำว่าแค่นั้นและหวังว่าพอตอบคำถามเขาหมดแล้วจะยอมปล่อย แต่เปล่าเลย เขากลับยิ่งกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น
“คุณอยากไปทำไมไม่บอกผม หืม รู้ไหมทำผมเป็นห่วงจนแทบบ้า นึกว่าคุณหนีผมไปแล้ว”
“ฉันจะไปไหน ทำอะไรมันก็เรื่องของฉันค่ะ คุณจะตามไปกวนโมโหฉันทุกทีเลยหรือไง ฉันอยากอยู่สงบๆ ของฉันบ้าง”
“แต่เราเป็นสามีภรรยากันแล้วนะเอริน”
“เป็นแค่ทางกฎหมายค่ะ” หล่อนแย้ง
“คุณเล่นข้ามขั้นตอน ยอมจดทะเบียนกับฉันก็แค่เพื่อรักษาเกียรติให้ฉัน คุณไม่แม้แต่จะพยายามแก้ความเข้าใจผิดลุงกองด้วยซ้ำ แต่กลับยอมปล่อยให้เรื่องมันเลยเถิดมาขนาดนี้”
“ก็ผมตั้งใจ บอกแล้วไงว่าผมรักคุณจริงๆ”
“แต่เมื่อวานคุณแค่บอกชอบฉัน”
“แล้วตอนที่ผมบอกรักคุณ คุณเชื่อผมบ้างหรือเปล่า ผมสิควรน้อยใจที่คุณไม่เคยสนใจคำว่ารักของผมเลย”
กลายเป็นเขาที่ตัดพ้อขึ้นมา ยอมปล่อยสาวในอ้อมแขนเป็นอิสระ
“คุณเอาแต่ระแวงผม จนตอนนี้คุณก็ยังไม่ไว้ใจผมทั้งที่ทุกครั้งเวลาที่คุณตกอยู่ในอันตราย ผมไม่เคยคิดลังเลที่จะเสี่ยงชีวิตไปช่วยคุณเลยสักครั้ง บางทีผมก็แอบคิดนะว่าคุณคงไม่ได้รักผมแล้ว...”
พูดจบชานนท์ก็จะลุกจากเตียง แต่มือนุ่มนิ่มของเอรินจับแขนเขาไว้
ตอนนั้นเองเขาเลยหันมาเห็นว่า สาวน้อยข้างกายคลายผ้าห่มออกแล้ว ตาโตๆ ของเจ้าหล่อนนั้นสบมองเขาอยู่
“คุณนอนพักเถอะ ผมไม่กวนคุณแล้ว” เขาจะแกะมือหล่อนออก
“ฉัน...เอ่อ...อยากให้คุณทำแผลให้”
ปากบอกเขาไปแบบนั้น แต่ดวงหน้านวลร้อนผ่าว มองเขาแววตาละห้อย ชานนท์กำลังแกะมือหญิงสาวออกเลยชะงัก
“ผมจะทำแผลให้คุณ แต่คุณต้องบอกมาก่อนว่าเข้าใจที่ผมพูดมาทั้งหมดเมื่อกี้ไหม”
ชานนท์ไม่ยอมปล่อยผ่านอีก เอรินแค่พยักหน้าแก้มแดง
ชายหนุ่มอดเอ็นดูไม่ได้ ลูบศีรษะภรรยาตัวน้อยแสนดื้อของเขาแผ่วเบา พลางเอ่ยต่ออีกว่า “คราวนี้ก็รู้แล้วนะว่าที่ผมทำไปทั้งหมดเพราะรักและจริงใจกับคุณจริงๆ แล้วคุณล่ะเอริน บอกให้ผมชื่นใจหน่อยไม่ได้เหรอว่ารักผม ไม่งั้นผมจะนั่งมองหน้าคุณอยู่แบบนี้จนเย็นเลย”
“ฉันก็บอกคุณไปเมื่อวานแล้วนี่คะ” เอรินอิดออดเขินอาย
“ก็ผมอยากฟังอีก เวลาเมียบอกรักแล้วชื่นใจ”
“ค่ะ ฉันก็รักคุณ แต่ถ้าคุณทำฉันเสียใจอีก ฉันโกรธจริงๆ ด้วย”
คาดโทษเขาแล้วเอรินกลับสะดุ้งเสียเอง ชานนท์เล่นยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มหล่อนดังฟอด สวมกอดร่างบอบบางไว้ในอ้อมแขนพลัน
“ว่าง่ายแบบนี้สิค่อยน่ารักหน่อย”
“ไหนคุณบอกว่าจะทำแผลให้ฉันไง โกหกกันนี่” เอรินต่อว่าทีเล่นทีจริงเรียกรอยยิ้มขันจากคนกอด
“ผมไม่ได้โกหกคุณเสียหน่อย แค่บอกไม่หมดต่างหาก”
“คนเจ้าเล่ห์ ปล่อยเลย ฉันทำแผลเองก็ได้”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวผมทำให้ แต่ตอนนี้มีอะไรให้ทำสนุกกว่าทำแผลอีก”
ไม่แค่พูด แววตาชายหนุ่มพราวระยับจนเอรินหน้าเห่อร้อนยิ่งกว่าเดิม เอียงอายหลบสายตาเขา ชานนท์จึงเชยคางหญิงสาวขึ้นสบตา จูบเบาๆ ที่ปลายจมูกรั้น
“ถึงผมจะเจ้าเล่ห์ แต่สิ่งเดียวที่ผมไม่เคยโกหกคุณคือ ผมรักคุณ”
ริมฝีปากอุ่นร้อนของชายหนุ่มจูบแผ่วเบาที่แก้มนวลและไล้ระเรื่อยขึ้นไปบนหน้าผาก มือเรียวบางสั่นระริกกำแน่นด้วยความอุ่นซ่าน ชานนท์มองแววตาสับสนของสาวน้อยตรงหน้าอย่างรักใคร่พร้อมกระซิบเบาๆ กอดกระชับร่างบอบบางแนบแน่น
“เป็นของผมนะ”
“แต่ฉัน...”
“อย่าปฏิเสธผมอีกเลย ผมรักคุณจริงๆ เป็นของผม เป็นภรรยาผมนะเอริน”
เอรินชะงักเล็กน้อยกับคำขอตรงๆ ของเขา สบดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นที่มองมาแววตาเว้าวอน ลึกล้ำ หญิงสาวผู้ไม่เคยรักใครมาก่อนถึงกับปล่อยใจเคลิบเคลิ้มไปกับความรักที่รอคอยมายาวนานอย่างยากที่จะหักห้ามใจ...
*******************
สุขสันต์วันวาเลนไทน์จ้ารีดเดอร์ แน่ะๆ รอเค้าสวีตกันอะจิ 5555 ใครสนใจสั่งซื้อตอนนี้สนพ.ส่งฟรีแบบลงทะเบียนทุกเล่มนะคะ พิเศษให้ในวันวาเลนไทน์จ้า ถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้นนะ จุ๊บๆ
**ช่องทางสั่งซื้อ**
- inbox สั่งซื้อที่เพจ ปลายปากกาสำนักพิมพ์
- line: plaipakkabooks (อย่าลืมกดแอดนะจ๊ะ)
- เมล์ plaipakkabooks@gmail.com
******************
วิธีสั่งซื้อ : แจ้งเรื่องที่ต้องการ+จำนวนเล่ม+ชื่อผู้สั่งซื้อ จากนั้นสนพ.จะสรุปราคาและแจ้งเลขบัญชีสำหรับโอนเงินให้ทราบเป็นลำดับถัดไป ก่อนจัดส่งหนังสือ
ราคากระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า 385฿ (จากราคาปก 445฿)
ส่งฟรีลงทะเบียน
(ถ้าจัดส่ง EMS 70฿ รวมเป็น 455฿)
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ก.พ. 2563, 13:28:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ก.พ. 2563, 13:28:24 น.
จำนวนการเข้าชม : 429
<< บทที่ 28 -100% | บทที่ 29 -100% >> |