กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า: พิมมาศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะเสียงกระซิบจากชายในฝัน
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: สายเปย์ รุกจีบ น่ารัก ดราม่า แก้แค้น ลอนดอน ฟลอเรนซ์
ตอน: บทที่ 30 -40%
ในช่วงเวลาที่สองหนุ่มสาวกำลังมีความสุข
คฤหาสน์หรูโบราณหลังงามของสิทธิ์ที่กรุงเทพฯ ดูเหมือนว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์คลื่นใต้น้ำ...เจ้าของคฤหาสน์หรูมักใช้เวลาอยู่กับตัวเองเงียบๆ ภายในห้องทำงานส่วนตัวมาได้สักระยะแล้ว จวบจนกระทั่งบ่ายวันหนึ่งที่สิทธิ์ต้องใช้ความคิดอย่างหนัก เพราะรู้ดีแก่ใจว่าในอีกไม่กี่นาทีต่อมา ห้องทำงานของเขาต้องร้อนดั่งไฟเป็นแน่!
สิทธิ์ถึงกับทอดถอนใจออกมาเมื่อวางสายจากคนของเขาที่ส่งไปที่ประจวบฯ ทางนั้นรายงานว่าชานนท์พาเด็กสาวคนหนึ่งขึ้นเรือออกจากฝั่งหายไปด้วยกันหลายวันแล้ว และเพิ่งรู้มาว่าตอนนี้อยู่ที่เกาะสมุย นอกจากนี้ ยังรายงานพฤติกรรมของชานนท์กับเด็กสาวคนนั้นตอนที่ยังอยู่ประจวบฯ ด้วยกันให้เขาฟังอีกหลายอย่าง
คำรายงานพวกนั้นทำให้สิทธิ์มีสีหน้าไม่สู้ดี และพานนึกย้อนไปคืนวันที่ชานนท์จัดกระเป๋าอยู่ในห้องนอนเพื่อเตรียมออกเดินทางไปประจวบฯ
วันนั้น...สิทธิ์เข้าไปหาหลานชายที่ห้องก็จริง แต่ไม่ได้แค่พูดฝากฝังเรื่องธุรกิจโรงแรมริมทะเลของเขาเท่านั้น!
‘...เอาเป็นว่าลุงฝากที่ผืนนี้ให้เราดูแลจัดการตามใจชอบเลยแล้วกัน ตัวบ้านน่ะ จะทุบทิ้งหรือคงไว้หรือปรับปรุงก็แล้วแต่เราเลย’
‘ขอบคุณครับคุณลุง’ ชานนท์ยกมือไหว้ขอบคุณผู้เป็นลุง
‘ผมจะทำให้ดีที่สุด ความใฝ่ฝันที่สิทธรากรุ๊ปจะมีโรงแรมริมทะเลเต็มรูปแบบกำลังจะเป็นจริงแล้ว คุณลุงรอดูความสำเร็จได้เลยครับ’
‘อืม ลุงก็ขอบใจเราเช่นกัน’
สิทธิ์ยิ้มให้หลานชายอยู่ครู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นฝาดเฝื่อน
‘แต่ลุง...มีเรื่องบางอย่างที่ต้องบอกเรา...เกี่ยวกับบ้านสีขาวบนที่ผืนนั้น พอรู้แล้วหลังจากนั้นเราจะทำอะไรกับมัน ลุงคงห้ามเราไม่ได้...’
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ดึงชายชราหลุดจากห้วงภวังค์นั้น กลับมามีสติอยู่กับตัวเองภายในห้องทำงานอีกครั้ง
ไม่รอให้เจ้าของห้องเอ่ยเชิญ คนเคาะก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมสีหน้ายิ้มแย้ม
“คุณพี่มีธุระอะไรกับน้องหรือคะ” ภิรณีย์นั่นเอง เนื่องจากก่อนหน้านี้มีสาวใช้ไปตามหล่อน บอกว่าสิทธิ์ต้องการให้มาพบที่ห้องทำงาน
สิทธิ์ยังคงอยู่หลังโต๊ะทำงานจึงบังคับรถเข็นพาตัวเองไปที่โซฟาตัวยาวหนึ่งเดียวภายในห้อง เป็นการบอกให้น้องสาวไปนั่งคุยกับเขาตรงนั้น
“ธุระสำคัญมากไหมคะคุณพี่” ภิรณีย์ยังคงถามต่อพลางเดินตามมานั่ง “น้องว่าจะออกไปช็อปปิงแก้เซ็งเสียหน่อย ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาที่ไหนเท่าไรเลย”
“ตอนนี้เจ้าอเล็กซ์รู้แล้วนะว่าตัวเองเป็นใคร ฉันบอกความจริงกับเขาไปแล้ว”
“คะ?” คนกำลังพล่ามชะงักงัน
“ขะ...คุณพี่บอกอะไรอเล็กซ์ไปคะ!”
“ฟังก่อนยายภิ ฉันจำเป็นต้องบอก...เรื่องบ้านสีขาวหลังนั้นนั่นละ ฉันบอกก่อนที่อเล็กซ์จะไปประจวบฯ” สิทธิ์พยายามไม่ร้อนตาม ค่อยๆ เล่าให้ฟังอย่างใจเย็นที่สุด ยังผลให้คนน้องโอดครวญทั้งใจหายวาบ
“คุณพี่...ทำไมทำกับน้องแบบนี้! ถ้าอเล็กซ์มาถามน้องจะตอบยังไง ลำพังแค่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้อเล็กซ์ก็ห่างเหินกับน้องจะแย่อยู่แล้ว”
“ฉันรู้ แต่มันก็ยังดีกว่าปล่อยให้เจ้าอเล็กซ์ไปรู้เองจากคนอื่น” สิทธิ์บอกแล้วก็ผ่อนลมหายใจหนักหน่วงออกมา
“แกคงยังไม่รู้เรื่องที่เจ้าอเล็กซ์กำลังจะมีแฟนสินะ มินมันตื่นเต้นอดไม่ได้มาเล่าให้ฉันฟังสักพักแล้วว่า อเล็กซ์กำลังตกหลุมรักผู้หญิงคนนึงอยู่... เป็นคนที่แกคาดไม่ถึงทีเดียวเชียวล่ะ”
“อ้าว แล้วหนูราเชลล่ะคะคุณพี่”
“เลิกกันไปนานแล้ว” สิทธิ์ถึงกับส่ายหัวที่น้องสาวไม่เคยรู้เรื่องหรือคิดที่จะใส่ใจเรื่องของลูกชายตัวเองบ้างเลย แม้จะเป็นแค่ลูกบุญธรรมก็เถอะ!
“แกลืมไอ้พัชระ ลูกชายบ้านสวนโฮมสเตย์คนที่เป็นเบ๊แกเมื่อยี่สิบเอ็ดปีก่อนไปแล้วรึไง หึ แกเตรียมตัวดองกับมันได้เลย”
“หมายความว่ายังไง น้องไม่เข้าใจ”
“เป็นคนเข้าใจยากตั้งแต่เมื่อไหร่หายายภิ! คนที่เจ้าอเล็กซ์ชอบพออยู่ เป็นลูกสาวของหมอนั่น เข้าใจรึยัง”
“อะ...อะไรนะคะคุณพี่! เด็กคนนั้นน่ะหรือคะ” ภิรณีย์ถึงกับร้องถามเสียงหลง
“มันจะเป็นไปได้ไง อเล็กซ์อยู่ลอนดอนเกือบยี่สิบปีแล้ว ตั้งแต่เด็กนั่นมัน...น้องไม่อยากพูดถึงเรื่องเก่า”
“จี้ใจดำแกล่ะสิ” สิทธิ์หัวเราะหึในลำคอ
“มินบอกว่าสองคนนั้นไปเจอกันที่ลอนดอน แกคิดดูก็แล้วกัน ขนาดเราส่งอเล็กซ์ไปไกลขนาดนั้น พวกเขายังไปเจอกันได้”
“ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ อเล็กซ์จำเรื่องราวในอดีตไม่ได้นี่คะ”
“จำไม่ได้ตอนนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะจำไม่ได้ตลอดไปนะยายภิ แบบนี้ไงฉันถึงไม่อยากให้อเล็กซ์มารู้ทีหลัง ไม่งั้นเขาจะคิดกับแกยังไง นี่ฉันก็ส่งคนให้คอยตามดูอเล็กซ์อยู่” ประโยคหลังคนบอกกลับมีสีหน้าไม่สู้ดีขึ้นมาอีกครั้ง
ปกติแล้วสิทธิ์ไว้ใจชานนท์เสมอ แม้ให้ไปอยู่ตั้งไกลถึงต่างประเทศมาเกือบยี่สิบปี เขาก็ไม่เคยส่งคนตามประกบหรือคอยจับผิดอะไร เพราะรับรู้ได้ด้วยหัวใจของเขาว่าเด็กคนนี้มีความกตัญญูไม่น้อย
แต่คราวนี้ที่ประจวบฯ สิทธิ์จำเป็นต้องทำ! ซึ่งนั่นกลับทำให้ตัวเขาเองรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ ถ้าต้องเลือก ยังไงภิรณีย์ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขาก็ย่อมสำคัญกว่าหลานชายอย่างชานนท์อยู่แล้ว ยิ่งมารู้จากสิมิลันลูกสาวของเขาด้วยว่าชานนท์จะคบหากับเด็กสาวที่ชื่อเอรินคนนั้นอย่างจริงจัง การบอกความจริงเรื่องบ้านสีขาวหลังนั้นให้ชานนท์รู้เสียตั้งแต่ตอนนี้ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับภิรณีย์แล้ว
หากทว่าตอนชานนท์รู้เรื่องจากเขา กลับไม่แสดงอารมณ์หรือสีหน้าใดให้เขาจับทางได้เลย นอกจากเช้าวันรุ่งขึ้นหลานชายออกเดินทางสายกว่าที่ควรจะเป็น หน้าตาไม่สดชื่นอย่างเห็นได้ชัด แสดงว่าเรื่องที่เขาเล่าไปน่าจะส่งผลต่อหลานชายมากทีเดียว
เหตุนี้เขาถึงไม่อาจวางใจได้!
“เอาเถอะ แกอย่าเพิ่งตื่นตูมไป นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว อเล็กซ์ยังเงียบๆ ไม่ถามอะไรแกก็ดีแล้วล่ะ เขาคงเข้าใจ” สิทธิ์จำต้องเอ่ยปลอบน้องสาวไปแบบนั้น
“แต่กว่าน้องจะทำให้อเล็กซ์เชื่อได้ว่าเป็นลูกของเพื่อนน้อง มันไม่ง่ายเลยนะคุณพี่” ภิรณีย์เสียงสั่น “น้องต้องโกหกว่าเขากำพร้า ไม่มีญาติที่ไหนแล้วเราถึงได้รับเลี้ยงเขา ที่ผ่านมาน้องก็ชดเชยด้วยการเลี้ยงดูเขาแล้ว”
“แกห้ามโชคชะตาไม่ได้หรอกยายภิ ที่ฉันบอกให้รู้เสียวันนี้ก็เพราะแกจะได้มีเวลาเตรียมใจ บาปกรรมมันไม่ได้ลบล้างกันได้ง่ายๆ ไม่อย่างนั้นจะมีเรื่องบุญเรื่องบาปเตือนใจกันไปทำไม...ถ้าแกยังมีอารมณ์ไปช็อปปิงก็ไปเถอะ ฉันไม่รบกวนเวลาของแกแล้ว”
สิทธิ์ตัดบทแล้วเข็นรถพาตัวเองกลับไปที่โต๊ะทำงาน เขาไม่อยากมองหน้าน้องสาวที่เวลานี้เหมือนคนจวนจะร้องไห้เต็มที คำพูดเมื่อครู่คงทิ่มแทงใจภิรณีย์พอสมควร แต่มันคือความจริงที่เจ้าหล่อนควรรับรู้และเข้าใจมันได้เสียที เพราะเขาพยายามอย่างที่สุดแล้วที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อทุกคนภายใต้คฤหาสน์หลังนี้
ที่สำคัญ เขาเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนเหมือนกันว่า เด็กหนุ่มในวันนั้น จะได้มาพบเจอกับเด็กหญิงตัวน้อยในอดีตที่โตเป็นสาวแล้วในวันนี้!
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
คฤหาสน์หรูโบราณหลังงามของสิทธิ์ที่กรุงเทพฯ ดูเหมือนว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์คลื่นใต้น้ำ...เจ้าของคฤหาสน์หรูมักใช้เวลาอยู่กับตัวเองเงียบๆ ภายในห้องทำงานส่วนตัวมาได้สักระยะแล้ว จวบจนกระทั่งบ่ายวันหนึ่งที่สิทธิ์ต้องใช้ความคิดอย่างหนัก เพราะรู้ดีแก่ใจว่าในอีกไม่กี่นาทีต่อมา ห้องทำงานของเขาต้องร้อนดั่งไฟเป็นแน่!
สิทธิ์ถึงกับทอดถอนใจออกมาเมื่อวางสายจากคนของเขาที่ส่งไปที่ประจวบฯ ทางนั้นรายงานว่าชานนท์พาเด็กสาวคนหนึ่งขึ้นเรือออกจากฝั่งหายไปด้วยกันหลายวันแล้ว และเพิ่งรู้มาว่าตอนนี้อยู่ที่เกาะสมุย นอกจากนี้ ยังรายงานพฤติกรรมของชานนท์กับเด็กสาวคนนั้นตอนที่ยังอยู่ประจวบฯ ด้วยกันให้เขาฟังอีกหลายอย่าง
คำรายงานพวกนั้นทำให้สิทธิ์มีสีหน้าไม่สู้ดี และพานนึกย้อนไปคืนวันที่ชานนท์จัดกระเป๋าอยู่ในห้องนอนเพื่อเตรียมออกเดินทางไปประจวบฯ
วันนั้น...สิทธิ์เข้าไปหาหลานชายที่ห้องก็จริง แต่ไม่ได้แค่พูดฝากฝังเรื่องธุรกิจโรงแรมริมทะเลของเขาเท่านั้น!
‘...เอาเป็นว่าลุงฝากที่ผืนนี้ให้เราดูแลจัดการตามใจชอบเลยแล้วกัน ตัวบ้านน่ะ จะทุบทิ้งหรือคงไว้หรือปรับปรุงก็แล้วแต่เราเลย’
‘ขอบคุณครับคุณลุง’ ชานนท์ยกมือไหว้ขอบคุณผู้เป็นลุง
‘ผมจะทำให้ดีที่สุด ความใฝ่ฝันที่สิทธรากรุ๊ปจะมีโรงแรมริมทะเลเต็มรูปแบบกำลังจะเป็นจริงแล้ว คุณลุงรอดูความสำเร็จได้เลยครับ’
‘อืม ลุงก็ขอบใจเราเช่นกัน’
สิทธิ์ยิ้มให้หลานชายอยู่ครู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นฝาดเฝื่อน
‘แต่ลุง...มีเรื่องบางอย่างที่ต้องบอกเรา...เกี่ยวกับบ้านสีขาวบนที่ผืนนั้น พอรู้แล้วหลังจากนั้นเราจะทำอะไรกับมัน ลุงคงห้ามเราไม่ได้...’
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ดึงชายชราหลุดจากห้วงภวังค์นั้น กลับมามีสติอยู่กับตัวเองภายในห้องทำงานอีกครั้ง
ไม่รอให้เจ้าของห้องเอ่ยเชิญ คนเคาะก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมสีหน้ายิ้มแย้ม
“คุณพี่มีธุระอะไรกับน้องหรือคะ” ภิรณีย์นั่นเอง เนื่องจากก่อนหน้านี้มีสาวใช้ไปตามหล่อน บอกว่าสิทธิ์ต้องการให้มาพบที่ห้องทำงาน
สิทธิ์ยังคงอยู่หลังโต๊ะทำงานจึงบังคับรถเข็นพาตัวเองไปที่โซฟาตัวยาวหนึ่งเดียวภายในห้อง เป็นการบอกให้น้องสาวไปนั่งคุยกับเขาตรงนั้น
“ธุระสำคัญมากไหมคะคุณพี่” ภิรณีย์ยังคงถามต่อพลางเดินตามมานั่ง “น้องว่าจะออกไปช็อปปิงแก้เซ็งเสียหน่อย ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาที่ไหนเท่าไรเลย”
“ตอนนี้เจ้าอเล็กซ์รู้แล้วนะว่าตัวเองเป็นใคร ฉันบอกความจริงกับเขาไปแล้ว”
“คะ?” คนกำลังพล่ามชะงักงัน
“ขะ...คุณพี่บอกอะไรอเล็กซ์ไปคะ!”
“ฟังก่อนยายภิ ฉันจำเป็นต้องบอก...เรื่องบ้านสีขาวหลังนั้นนั่นละ ฉันบอกก่อนที่อเล็กซ์จะไปประจวบฯ” สิทธิ์พยายามไม่ร้อนตาม ค่อยๆ เล่าให้ฟังอย่างใจเย็นที่สุด ยังผลให้คนน้องโอดครวญทั้งใจหายวาบ
“คุณพี่...ทำไมทำกับน้องแบบนี้! ถ้าอเล็กซ์มาถามน้องจะตอบยังไง ลำพังแค่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้อเล็กซ์ก็ห่างเหินกับน้องจะแย่อยู่แล้ว”
“ฉันรู้ แต่มันก็ยังดีกว่าปล่อยให้เจ้าอเล็กซ์ไปรู้เองจากคนอื่น” สิทธิ์บอกแล้วก็ผ่อนลมหายใจหนักหน่วงออกมา
“แกคงยังไม่รู้เรื่องที่เจ้าอเล็กซ์กำลังจะมีแฟนสินะ มินมันตื่นเต้นอดไม่ได้มาเล่าให้ฉันฟังสักพักแล้วว่า อเล็กซ์กำลังตกหลุมรักผู้หญิงคนนึงอยู่... เป็นคนที่แกคาดไม่ถึงทีเดียวเชียวล่ะ”
“อ้าว แล้วหนูราเชลล่ะคะคุณพี่”
“เลิกกันไปนานแล้ว” สิทธิ์ถึงกับส่ายหัวที่น้องสาวไม่เคยรู้เรื่องหรือคิดที่จะใส่ใจเรื่องของลูกชายตัวเองบ้างเลย แม้จะเป็นแค่ลูกบุญธรรมก็เถอะ!
“แกลืมไอ้พัชระ ลูกชายบ้านสวนโฮมสเตย์คนที่เป็นเบ๊แกเมื่อยี่สิบเอ็ดปีก่อนไปแล้วรึไง หึ แกเตรียมตัวดองกับมันได้เลย”
“หมายความว่ายังไง น้องไม่เข้าใจ”
“เป็นคนเข้าใจยากตั้งแต่เมื่อไหร่หายายภิ! คนที่เจ้าอเล็กซ์ชอบพออยู่ เป็นลูกสาวของหมอนั่น เข้าใจรึยัง”
“อะ...อะไรนะคะคุณพี่! เด็กคนนั้นน่ะหรือคะ” ภิรณีย์ถึงกับร้องถามเสียงหลง
“มันจะเป็นไปได้ไง อเล็กซ์อยู่ลอนดอนเกือบยี่สิบปีแล้ว ตั้งแต่เด็กนั่นมัน...น้องไม่อยากพูดถึงเรื่องเก่า”
“จี้ใจดำแกล่ะสิ” สิทธิ์หัวเราะหึในลำคอ
“มินบอกว่าสองคนนั้นไปเจอกันที่ลอนดอน แกคิดดูก็แล้วกัน ขนาดเราส่งอเล็กซ์ไปไกลขนาดนั้น พวกเขายังไปเจอกันได้”
“ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ อเล็กซ์จำเรื่องราวในอดีตไม่ได้นี่คะ”
“จำไม่ได้ตอนนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะจำไม่ได้ตลอดไปนะยายภิ แบบนี้ไงฉันถึงไม่อยากให้อเล็กซ์มารู้ทีหลัง ไม่งั้นเขาจะคิดกับแกยังไง นี่ฉันก็ส่งคนให้คอยตามดูอเล็กซ์อยู่” ประโยคหลังคนบอกกลับมีสีหน้าไม่สู้ดีขึ้นมาอีกครั้ง
ปกติแล้วสิทธิ์ไว้ใจชานนท์เสมอ แม้ให้ไปอยู่ตั้งไกลถึงต่างประเทศมาเกือบยี่สิบปี เขาก็ไม่เคยส่งคนตามประกบหรือคอยจับผิดอะไร เพราะรับรู้ได้ด้วยหัวใจของเขาว่าเด็กคนนี้มีความกตัญญูไม่น้อย
แต่คราวนี้ที่ประจวบฯ สิทธิ์จำเป็นต้องทำ! ซึ่งนั่นกลับทำให้ตัวเขาเองรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ ถ้าต้องเลือก ยังไงภิรณีย์ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขาก็ย่อมสำคัญกว่าหลานชายอย่างชานนท์อยู่แล้ว ยิ่งมารู้จากสิมิลันลูกสาวของเขาด้วยว่าชานนท์จะคบหากับเด็กสาวที่ชื่อเอรินคนนั้นอย่างจริงจัง การบอกความจริงเรื่องบ้านสีขาวหลังนั้นให้ชานนท์รู้เสียตั้งแต่ตอนนี้ จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับภิรณีย์แล้ว
หากทว่าตอนชานนท์รู้เรื่องจากเขา กลับไม่แสดงอารมณ์หรือสีหน้าใดให้เขาจับทางได้เลย นอกจากเช้าวันรุ่งขึ้นหลานชายออกเดินทางสายกว่าที่ควรจะเป็น หน้าตาไม่สดชื่นอย่างเห็นได้ชัด แสดงว่าเรื่องที่เขาเล่าไปน่าจะส่งผลต่อหลานชายมากทีเดียว
เหตุนี้เขาถึงไม่อาจวางใจได้!
“เอาเถอะ แกอย่าเพิ่งตื่นตูมไป นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว อเล็กซ์ยังเงียบๆ ไม่ถามอะไรแกก็ดีแล้วล่ะ เขาคงเข้าใจ” สิทธิ์จำต้องเอ่ยปลอบน้องสาวไปแบบนั้น
“แต่กว่าน้องจะทำให้อเล็กซ์เชื่อได้ว่าเป็นลูกของเพื่อนน้อง มันไม่ง่ายเลยนะคุณพี่” ภิรณีย์เสียงสั่น “น้องต้องโกหกว่าเขากำพร้า ไม่มีญาติที่ไหนแล้วเราถึงได้รับเลี้ยงเขา ที่ผ่านมาน้องก็ชดเชยด้วยการเลี้ยงดูเขาแล้ว”
“แกห้ามโชคชะตาไม่ได้หรอกยายภิ ที่ฉันบอกให้รู้เสียวันนี้ก็เพราะแกจะได้มีเวลาเตรียมใจ บาปกรรมมันไม่ได้ลบล้างกันได้ง่ายๆ ไม่อย่างนั้นจะมีเรื่องบุญเรื่องบาปเตือนใจกันไปทำไม...ถ้าแกยังมีอารมณ์ไปช็อปปิงก็ไปเถอะ ฉันไม่รบกวนเวลาของแกแล้ว”
สิทธิ์ตัดบทแล้วเข็นรถพาตัวเองกลับไปที่โต๊ะทำงาน เขาไม่อยากมองหน้าน้องสาวที่เวลานี้เหมือนคนจวนจะร้องไห้เต็มที คำพูดเมื่อครู่คงทิ่มแทงใจภิรณีย์พอสมควร แต่มันคือความจริงที่เจ้าหล่อนควรรับรู้และเข้าใจมันได้เสียที เพราะเขาพยายามอย่างที่สุดแล้วที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อทุกคนภายใต้คฤหาสน์หลังนี้
ที่สำคัญ เขาเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนเหมือนกันว่า เด็กหนุ่มในวันนั้น จะได้มาพบเจอกับเด็กหญิงตัวน้อยในอดีตที่โตเป็นสาวแล้วในวันนี้!
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ก.พ. 2563, 13:56:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ก.พ. 2563, 13:56:34 น.
จำนวนการเข้าชม : 427
<< บทที่ 29 -100% | บทที่ 30 -100% >> |