กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า: พิมมาศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะเสียงกระซิบจากชายในฝัน
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง

Love go on, until the end of the world…

เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง


***************************

นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!


***************************

นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ

***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***

1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ

2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น

3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks

4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee

หนังสือพร้อมส่ง

คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า

สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)

หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"

***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***

Tags: สายเปย์ รุกจีบ น่ารัก ดราม่า แก้แค้น ลอนดอน ฟลอเรนซ์

ตอน: บทที่ 30 -100%

ท่ามกลางสายฝนที่เทลงมาอย่างหนักจวบจนค่ำมืด ไอเย็นและละอองฝนปะทะกระจกบ้านพักจนเป็นฝ้า ชานนท์บรรจงเลื่อนม่านลงมาปิด ในห้องจึงมืดสลัวมีเพียงแสงริบหรี่จากเทียนหอมที่จุดพอให้มีแสงสลัวและกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้คนนอนหลับคุดคู้ถึงกับเคลิ้มฝัน       

“ฉันรักคุณลุงค่ะ”

เสียงละเมอเบาๆ นั้นเรียกความสนใจจากชานนท์ที่กำลังจะล้มตัวลงนอนต่อชะงักเล็กน้อย

ชายหนุ่มเหลือบมองเสี้ยวหน้าหวานของสาวน้อยข้างกายแล้วอดไม่ ได้คลี่ยิ้มจางๆ ออกมาอย่างมีความสุข มือหนาลูบไล้เส้นผมละเอียดที่ลงมาปรกหน้าปรกตาเอรินให้เข้าทรง ก่อนจะบรรจงจูบลงบนหน้าผากนวลเนียนของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา

“ฉันก็รักเธอเหมือนกัน ห้ามทิ้งฉันนะ เอริน”

เขานอนกอดกระชับร่างบอบบางเข้าหาตัว คนถูกกอดก็ซุกตัวอยู่ในอ้อมอกอุ่นของเขาเช่นกัน เพราะอากาศข้างนอกค่อนข้างเย็นชื้น

สองหนุ่มสาวคงยังนอนกอดให้ความอบอุ่นกันอยู่อย่างนั้น ถ้าไม่มีเสียงโทรศัพท์ปลุกชานนท์ให้รู้สึกตัวตื่นขึ้นอีกครั้งในกลางดึก เขารำคาญใจไม่น้อยเพราะมันสั่นครืดๆ อยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงไม่หยุดเสียทีเลยคว้ามาดู เมื่อเห็นว่าเจ้าของเบอร์เป็นใครก็จำต้องตัดใจลุกขึ้นจากเตียง

ขณะนั้นเอรินงัวเงียลืมตาตื่นพอกันเพราะรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวยวบยาบบนเตียงกว้าง ชานนท์คว้าผ้าเช็ดตัวมาพันลวกๆ แล้วยิ้มให้หล่อนครู่หนึ่งก่อนจะเดินออกไปคุยโทรศัพที่ระเบียงบ้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง

“เรื่องที่พี่บอกให้เราจัดการไปถึงไหนแล้ว”

ชานนท์ไม่รีรอเอ่ยถามคนในสาย ขณะเดียวกันก็เหลือบมองเข้าไปในบ้านเป็นระยะแต่สีหน้านิ่งเฉยไม่แสดงความรู้สึกใด

“กว่าจะรับสายได้ดึกเลยนะพี่นนท์ มินจะบอกว่าวันพรุ่งนี้ทีมงานที่ติดต่อให้จะเริ่มดำเนินการรื้อถอนบางส่วนแล้วค่ะ”

สิมิลันนั่นเองที่โทร.มา หล่อนแจ้งข่าวกับพี่ชายน้ำเสียงกระตือรือร้น

“พี่อยากให้หยุดไว้ก่อน” ชานนท์ตัดสินใจบอกออกมาหลังจากที่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถอนหายใจยาวอย่างหนักหน่วง

“พี่ไม่อยากทำแล้ว พี่จะพาเอรินไปอยู่ฟลอเรนซ์ด้วยกัน”

“อ้าว เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะพี่นนท์” สิมิลันเริ่มเป็นห่วง

“จริงสิคะ เมื่อเช้าคุณกรณ์...เพื่อนของเอรินน่ะค่ะ มาหามินที่บ้าน เขาร้อนใจติดต่อเอรินไม่ได้ เบอร์ที่พี่ให้ไว้กับคนบ้านสวนก็โทร.ไม่ติด เลยมาถามมินว่าพี่มีเบอร์อื่นอีกหรือเปล่า แต่มินไม่ได้ให้ไปนะคะเพราะเห็นว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์ส่วนตัวพี่ ไม่แน่ใจว่าพี่อยากให้ใครรู้บ้าง”

“อืม ดีแล้วล่ะ” ชานนท์ตอบสั้นๆ แค่นั้น แต่ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินชื่อเพื่อนของเอรินคนนั้น เพราะไม่เคยรู้จักมาก่อน

“แล้วตกลงพี่กับเอริน...”

“พี่กับเอรินโอเค ไม่ต้องเป็นห่วง” ชานนท์รีบบอกก่อนที่น้องสาวจะซักไปมากกว่านี้

“ส่วนเรื่องที่จ้างคนมาทุบ ทำตามที่พี่บอกแล้วกัน วันมะรืนพี่ก็กลับแล้ว ถึงประจวบฯ จะโทร.คุยกับคุณลุงเอง พี่ไม่อยากมีปัญหากับเอรินน่ะ ก็มินบอกพี่เองไม่ใช่เหรอว่า ถ้าใครรื้อถอนบ้านหลังนั้นเอรินจะประท้วง”

“แต่มันไม่ใช่บ้านของเธอนะคะ”

“เถอะน่า พี่ขอร้อง”

“โอเคค่ะ มินแล้วแต่พี่นนท์อยู่แล้ว” สิมิลันไม่ค้านอะไรอีก แม้รู้สึกได้ว่านั่นไม่น่าใช่เหตุผลที่แท้จริงของพี่ชายก็ตาม เลยเอ่ยออกมาหน่อยว่า

“มินไม่รู้หรอกนะคะว่าเพราะอะไรพี่ถึงเปลี่ยนใจ แต่แบบนี้ก็ดีแล้วละค่ะ เราอาจเสียหายที่ไม่ทำตามสัญญาจ้าง แต่ถ้าเป็นมินความรู้สึกของคนที่เรารักสำคัญกว่าค่ะ...น้องคนนี้รอฟังข่าวดีอยู่นะคะ”

สิมิลันแซวก่อนวางสาย

ชานนท์ยังคงมองโทรศัพท์มือถือตัวเองแล้วทอดถอนใจออกมาอีกครั้ง ใจเขานั้นอยากบอก ‘ข่าวดี’ ตอนนี้ให้สิมิลันรู้ใจจะขาด แต่ลึกๆ แล้วก็รู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลา ไหนจะปัญหาส่วนตัวของเขาที่ยังไม่ได้สะสาง และเรื่องโครงการโรงแรมริมทะเลบนที่ดินบ้านสีขาวหลังนั้นอีก ถ้าเอรินรู้เรื่องทั้งหมดเข้าจะเป็นอย่างไรบ้าง...

พลันนั้นสัมผัสบางอย่างทำให้ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง หันกลับมามองทันทีที่มีผ้าคลุมสีขาวผืนหนาคลุมอยู่บนไหล่กว้างของเขา

“อะ...เอริน มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ฝนตกหนักอย่างนี้อากาศชื้น ฉันกลัวคุณจะไข้กลับอีก เดี๋ยวก็ต้องมาเดือดร้อนฉัน”

“โธ่ ไม่หรอกน่า มีเมียดูแลดีขนาดนี้ ต่อไปคงไม่ป่วยง่ายๆ แล้ว”

ชานนท์ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู เอรินยามนี้อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวใบหน้าไม่แต่งแต้มเครื่องสำอางใด ผมยุ่งนิดๆ ท่าทางเขินอาย ช่างน่ารักในสายตาเขา...โดยเฉพาะเวลาแสนงอน

“ออกมาตามฉันให้ไปอาบน้ำด้วยเหรอ”

“คุ๊ณ! พูดจาอะไรน่าเกลียด” หล่อนต่อว่าหน้าแดง

“คุณคุยธุระเสร็จแล้วหรือคะ”

“จ้ะ มินโทร.มาถามว่าเราจะกลับเมื่อไหร่ ฉันก็เลยบอกไปว่าตอนนี้เรากำลังฮันนีมูนกันที่เกาะสมุย” ชานนท์ปด สีหน้าอึดอัด

“ไปบอกคุณมินเธอแบบนั้นได้ไง ฉันอายเธอนะ” คนได้ยินเช่นนั้นหน้าบูด พองลมเต็มแก้มขัดใจ ชานนท์เลยหยิกแก้มกลมใสทั้งสองข้างของเจ้าหล่อนอย่างมันเขี้ยว

“อื้อ ฉันเจ็บนะ หยิกอยู่ได้แก้มยิ่งอ้วนๆ อยู่ ย้วยกันพอดี”

“ก็ใครใช้ให้เมียน่ารักน่าหยิกล่ะ”

“อีกแล้ว คุณนี่ชอบพูดจาประเจิดประเจ้ออยู่เรื่อยเลย ฉันไม่คุยด้วยแล้ว” ว่าแล้วเอรินก็จะหนีกลับเข้าบ้าน แต่ไม่ทันชายหนุ่มด้านหลังที่เข้ามาช้อนร่างบอบบางลอยเหนือพื้นโอบอุ้มไว้ในอ้อมแขน

“อะไรกันคุณอเล็กซ์ ฉันจะไปอาบน้ำค่ะ”

“ยังดึกอยู่เลย รอให้เช้าก่อนก็ได้ อาบน้ำไปตอนนี้ตาสว่างกันพอดี”

“งั้นคุณก็ปล่อยฉันลงสิคะ ฉันเดินเองได้ คุณกำลังจะทำให้ฉันเคยตัวนะรู้ไหม” เอรินอิดออดแต่ชานนท์หาได้สนใจไม่ พาร่างนุ่มนิ่มไปวางลงบนเตียง

“ฉันมีความสุขมากนะเอริน อยากอยู่กับเธอไปจนตายเลย”

“ฉันก็เหมือนกันค่ะ” เอรินยิ้มตอบแล้วเป็นฝ่ายจูบที่แก้มสากของเขาก่อนอย่างรักใคร่

เวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายชั่วโมงจวบจนกระทั่งรุ่งสาง...

ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนเริ่มซาลงแล้ว เหลือแค่สายฝนโปรยปรายกับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า เอรินยังคงหลับใหลอยู่ในอ้อมแขนอบอุ่น ชานนท์ลูบไล้ผิวแก้มนวลเรื่อชมพูธรรมชาตินั้นด้วยความรักและทะนุถนอม ก่อนที่สายตาคู่นั้นจะหยุดอยู่ที่มือนุ่มนิ่มของสาวน้อยในอ้อมแขน

ชายหนุ่มมีสีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่ก็ตัดสินใจเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักหัวเตียง หยิบกล่องกำมะหยี่ขนาดเล็กกะทัดรัดสีแดงสดออกมา ชานนท์แอบซื้อให้เอรินตอนที่มาถึงเกาะตั้งแต่วันแรกแล้ว เป็นแหวนทองคำขาวฝังเพชรเม็ดขนาดกำลังดี เมื่อต้องแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าที่สาดส่องผ่านหน้าต่างห้องเข้ามาก็ยิ่งส่องแสงประกายแวววาวสวยจับตาจับใจ

ชายหนุ่มสวมแหวนวงนั้นให้ที่นิ้วนางข้างซ้ายของเอริน และจูบแผ่วเบาลงบนนิ้วเรียวข้างนั้น     

“มันสวยมากเมื่อได้อยู่บนนิ้วเล็กๆ ของเธอ ฉันตีตราจองเธอตลอดไปนะ สาวน้อย”

ชานนท์วางมือซ้ายของตัวเองลงบนมือซ้ายของเอริน ที่นิ้วนางข้างนั้นของเขาก็สวมแหวนแบบเดียวกันกับที่ให้หล่อน เมื่อวางซ้อนทับกันก็ยิ่งเป็นภาพที่ชวนให้เจ้าของแหวนตราตรึงไม่น้อย

“ขอโทษที่ผูกมัดเธอไว้ด้วยวิธีนี้ แต่ฉันคงทนไม่ได้จริงๆ ถ้าต้องเสียเธอไปอีก...หวังว่าจะเข้าใจพี่นะ ยายตัวเล็กของพี่”

ชานนท์พึมพำ สีหน้ายิ้มสลดลง

ณ ตอนนี้ เวลานี้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่อยู่ในตัวเขากำลังต่อสู้กันอย่างหนัก แต่สิ่งเดียวที่เขามั่นใจคือเขาจะไม่มีวันยอมเสียเอรินไปเด็ดขาด แม้ว่าในขณะเดียวกันเขาไม่อาจยับยั้งความรู้สึกโกรธแค้นในใจได้เลยก็ตาม ...โดยเฉพาะบิดาของหล่อน!



****************



ราเชลมองซองเอกสารสำคัญสีน้ำตาลในมืออย่างชั่งใจ หล่อนได้มันมาจากห้องของชานนท์ที่ฟลอเรนซ์ก่อนจาก เขาวางลืมไว้ทำให้หล่อนรู้ว่าที่เขาต้องการกลับมาเมืองไทยก็เพื่อตามหาเด็กสาวที่ชื่อเอรินคนนั้น

เด็กสาวที่เห็นแค่แว่บเดียวก็ไม่มีอะไรน่าสนใจพอจะเป็นคู่แข่งของหล่อนได้เลยด้วยซ้ำ...!

ความน้อยใจและความคับแค้นใจที่อัดอั้นอยู่ในอกพานเรียกน้ำใสๆ เอ่อคลอหน่วยตา หญิงสาวเอื้อมหยิบไม้ค้ำที่วางพาดอยู่ใกล้ๆ มาชันกายลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบาก หล่อนยังใช้มันไม่คล่องนักหรือต่อให้ใช้จนคุ้นชินแล้วก็ตาม ตราบใดที่ยังอยู่ในสภาพพิการแบบนี้จะไปไหนมาไหนสะดวกเหมือนเคยได้อย่างไรกัน แต่หล่อนช้ากว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ป่านนี้สองคนนั่นอาจเจอกันแล้วก็ได้

ราเชลเดินกะเผลกไปหยิบโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่พร้อมเบอร์ที่เพิ่งให้พนักงานโรงแรมไปหาซื้อมาให้สดๆ ร้อนๆ จากนั้นก็กดโทร.หาคู่กรณีตัวแสบ หล่อนถือสายรออยู่ชั่วอึดใจก็โทร.ติด เสียงเข้มใส่คนปลายสายทันที

“ทำอะไรอยู่ชักช้าเสียจริง!”

คำทักทายแรกที่ได้ยินเมื่อรับโทรศัพท์ กรณ์ถึงกับถอนใจเหนื่อยหน่าย แม่สาวจอมหยิ่งชอบโทร.มากวนเวลาส่วนตัวของเขาอยู่เรื่อย แถมยังพูดจาไม่ถูกหูอีก จึงถามกลับเสียงห้วน

“มีไร ผมอยู่ชายหาดเสียงคลื่นมันดัง”

“พรุ่งนี้มาเป็นคนขับรถให้หน่อย ฉันจะไปธุระ”

“ไม่เอา” เขาปฏิเสธทันควันก่อนเอ่ยต่อ

“คุณอยากไปไหนก็จ้างคนขับสิ ออกจากโรง’บาลไปอยู่โรงแรมหรูตั้งห้าดาว รถโรงแรมก็มี หรือจะให้ผมช่วยจ่าย คุณก็ออกเองไปก่อนแล้วกัน ค่อยมาเรียกเก็บผมทีหลัง พรุ่งนี้ผมยุ่งไม่ว่างไปบริการ”

“ไม่ได้! ฉันไม่ไว้ใจใคร ยิ่งเดินไม่ค่อยสะดวกอยู่”

ราเชลโอดระคนต่อว่า

“อย่าลืมว่าที่ฉันต้องขาเดี้ยงแบบนี้ก็เพราะคุณ! คิดจะมาปัดความรับผิดชอบกันดื้อๆ เนี่ยนะ คนไม่รักษาคำพูด!”

กรณ์ไม่ตอบโต้อีก ได้แต่หายใจแรงๆ รดหูโทรศัพท์...ถ้าเจ้าหล่อนโผล่หน้าทะลุผ่านสายโทรศัพท์มาได้ก็จะเห็นว่าเขากำลังฉุนขาด!

ลำพังแค่เรื่องเอรินตอนนี้ก็ทำให้เขาเป็นห่วงมากพออยู่แล้ว เพราะตั้งแต่กลับบ้านที่ประจวบฯ เขายังติดต่อหญิงสาวไม่ได้เลย ส่วนลูกทัวร์คนนั้นที่ชื่อชานนท์ก็ติดต่อยากเย็น ไม่น่าไว้ใจสักนิด! ยังดีที่เมื่อวานไปหาสิมิลันแล้วหล่อนรับปากว่าจะช่วยติดต่อให้ แต่ถึงอย่างนั้นกรณ์ก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี ก็ไอ้ชานนท์อะไรนั่นทำตัวลับๆ ล่อๆ ชอบกล แล้วยังจะมาเจอแม่สาวสวยราเชลเรื่องมากใส่เขาวันนี้อีก ปวดกบาลฉิบ

แต่ทว่าแม่สาวสวยราเชลยังคงไม่รู้ตัว พูดให้คนในสายยิ่งหงุดหงิด!

“ก็ดี ถ้าคุณไม่มา ฉันจะได้จำไว้ว่าผู้ชายไทยมันเห็นแก่ตัว กะล่อนปลิ้นปล้อน พูดจาเชื่อถือไม่ได้ เวรกรรมของฉันจริง ต้องมาเจอคนไม่มีความรับผิดชอบ เสียความรู้สึกชะมัด”

“อ้าว อย่ามาพาลกันสิคุณ!”

“ก็มันจริงไหมล่ะ!” ราเชลย้อนแล้วยิ้มเยาะ เอ่ยอย่างเป็นต่อ

“ถ้าจะไม่รับผิดชอบกันแล้วก็บอกมาคำเดียวแฟร์ๆ อย่ามาต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง มันไม่แมน”

“ก็แล้วคุณจะอะไรกับผมนักหนา ตอนอยู่โรงพยาบาลผมก็ดูแลคุณอย่างดี ไม่เกี่ยงค่ารักษาสักบาท พอคุณหายก็ผมอีกที่เป็นคนไปส่งคุณถึงโรงแรม ขอให้ผมได้หายใจบ้างเถอะ! ขาคุณก็ดีขึ้นมากแล้วด้วย พูดอย่างกับผมพลาดทำคุณท้องแล้วชิ่งไม่รับผิดชอบอย่างนั้น”

“เอ๊ะคุณ!”

“ผู้หญิงอะไรเรื่องมากจริง” กรณ์ยังบ่นต่อไม่หยุด ก่อนจะตัดใจพูดออกมาว่า “โอเค ครั้งนี้ผมจะไปรับคุณอีกก็ได้ ถือเสียว่าซื้อความสบายหู กี่โมง ให้ไปรับที่ไหน”

“พรุ่งนี้ก่อนเก้าโมง ที่เดิมนั่นแหละ”

“อืม” กรณ์ทำเสียงรับรู้ในลำคอแล้ววางสายทันที

คนถูกวางสายใส่อย่างราเชลได้แต่อ้าปากค้าง มองหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเองสายตาขุ่นเคือง เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครกล้าตัดสายใส่หล่อนมาก่อน!

แต่พอนึกขึ้นได้ว่าในที่สุดคู่รณีตัวแสบก็ยอมตกลงมารับหล่อนแล้ว เลยอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย ใช้ไม้ค้ำยันเดินกะเผลกกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม

หญิงสาวเปิดเอกสารในซองสีน้ำตาล พลิกอ่านไปมาซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น สิ่งที่ชานนท์ทิ้งไว้เป็นข้อมูลโดยคร่าวเกี่ยวกับครอบครัวเอริน และภาพถ่ายอีกเป็นสิบๆ ใบ มีแต่คนที่หล่อนไม่รู้จัก แต่ที่สะดุดใจหล่อนคือภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกถ่ายไว้มากกว่าคนอื่นๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นบิดาของเอริน และภาพข่าวอุบัติเหตุของครอบครัวหนึ่งที่มีรวมอยู่ในกองภาพถ่ายเหล่านั้นด้วย

ราเชลถึงกับทนไม่ได้ขยำมันคามือ  

“คิดว่าจะสลัดฉันทิ้งได้ง่ายๆ เหรออเล็กซ์ หึ ตอนนี้คุณคงอยู่ที่บ้านสวนโฮมสเตย์ของยายเอรินแล้วสินะ ในเมื่อคุณเห็นยายเด็กนั่นดีกว่าฉันถึงขนาดต้องจ้างนักสืบตามสืบเรื่องมัน ฉันนี่แหละ จะตามไปขัดขวางคุณให้ถึงที่สุดเลย คอยดู!”

*************

มาต่อให้เช้าเลยค่ะ^^ สำหรับกระซิบรักฯ อีก 2 บทจะเป็นบทสุดท้ายที่สามารถลงให้อ่านกันได้นะคะ(ได้อีกราวๆ 4 ตอนย่อย) เรื่องนี้หนามว๊ากกกก มีถึง 50 กว่าบทขึ้นไปค่ะ ฉะนั้นตามต่อกันในเล่มได้น้าาาา เรื่องราวชักยุ่งเหยิงมากขึ้นทุกที หวานกันมดไต่ ก่อนพายุดราม่ากำลังจะมา ปมแค้นตั้งแต่รุ่นผู้ใหญ่ยันรุ่นลูกเต็ม อุ๊บส์


eBook โหลดได้ที่ mebmarket

หนังสือ line สั่งซื้อกับสนพ.ได้เลยนะคะ พิมพ์ค้นหา id: plaipakkabooks และกดแอด จากนั้นแชตไลน์มาทักได้เลยค่ะ^^

หรือสะดวกส่งข้อความ (inbox) ทางเพจสนพ.ก็จัดไปจ้า จัดส่งให้ทันทีหลังได้รับการแจ้งโอนเงิน จุ๊บๆ


หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ



ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ก.พ. 2563, 09:10:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ก.พ. 2563, 09:12:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 426





<< บทที่ 30 -40%   บทที่ 31 -50% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account