กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า: พิมมาศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะเสียงกระซิบจากชายในฝัน
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: สายเปย์ รุกจีบ น่ารัก ดราม่า แก้แค้น ลอนดอน ฟลอเรนซ์
ตอน: บทที่ 31 -50%
ชานนท์วางสายจากสิมิลันด้วยความรู้สึกพลุ่งพล่าน เนื่องจากเมื่อครู่น้องสาวโทรศัพท์มารายงานว่า เริ่มมีชาวบ้านมาด้อมๆ มองๆ บริเวณโครงการโรงแรมริมทะเลของเขาและบ้านสีขาวที่เขาเพิ่งสั่งระงับการรื้อถอน ที่สำคัญ สิมิลันเจอคนที่ชื่อกรณ์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเอรินเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้นด้วย รายนั้นอ้างว่าคิดถึงเอรินเลยมาเดินเล่นตามประสา เพราะเอรินชอบแวะไปที่บ้านสีขาวหลังนั้นอยู่บ่อยๆ
‘แต่มินยังไม่ได้บอกเขานะคะว่าติดต่อพี่ได้แล้ว โชคดีที่เขาไม่สงสัยที่เจอมิน มินทำทีเป็นว่าไปเดินเล่นชายหาดแถวนั้นเหมือนกันน่ะค่ะ’
สิมิลันบอกอย่างโล่งอก
แต่สำหรับชานนท์ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแม้แต่น้อย! ตั้งแต่ได้ยินเหตุผลว่า ‘คิดถึง’ ของผู้ชายที่ชื่อกรณ์คนนั้นแล้ว แสดงว่าเอรินกับหมอนั่นสนิทกันมาก แล้วมันมีสิทธิ์อะไรมายุ่มย่ามบนพื้นที่ของเขา!
ชานนท์หันมองไปทางประตูห้องน้ำสีหน้าเคร่งเครียด ระหว่างที่เขาคุยโทรศัพท์กับสิมิลัน เอรินลุกจากเตียงหายเข้าห้องน้ำไปได้สักพักแล้ว เขามีเรื่องต้องคุยกับหล่อน แต่จนป่านนี้ยังไม่เห็นออกมาสักที
“เอริน...ทำไมเงียบไป ฉันเป็นห่วงนะ เข้าไปได้ไหม”
ชานนท์เคาะประตูเรียก
รออยู่ชั่วอึดใจเอรินก็เปิดประตูห้องน้ำออกมา ชานนท์รีบดันประตูค้างไว้ แต่แล้วภาพที่เห็นทำให้หัวใจของเขากระตุกวูบ
“ร้องไห้ทำไมเอริน”
“นะ...นี่มันอะไรคะ” เอรินถามตะกุกตะกักพลางปาดน้ำตาที่กำลังหยาดหยด ก่อนจะยกมือข้างซ้ายของตนที่มีแหวนทองคำขาวฝังเพชรสีฟ้าเม็ดย่อมให้ชายหนุ่มดู
“โธ่...ฉันก็นึกว่าเรื่องอะไร”
ชานนท์ค่อยยิ้มออก ดึงสาวน้อยตรงหน้ามาโอบกอดไว้ในอ้อมแขน
“ของขวัญที่ฉันว่าจะให้เธอไง วันนี้วันสุดท้ายของเราที่นี่แล้วนะ ฉันเพิ่งสวมให้เธอเมื่อเช้าเอง ชอบหรือเปล่า”
เอรินไม่ได้ตอบในทันทีเพราะยังกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เลยซุกหน้ากับอกอุ่นๆ ของเขา ตอบเสียงอู้อี้ว่า
“ชอบก็ชอบอยู่หรอกค่ะ แต่มันแพงเกินไป”
“หืม ฉันว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำถ้าเทียบกับความรักที่ฉันมีให้เธอ”
“แต่ฉัน...”
“ไม่มีแต่”
ชานนท์คลายอ้อมกอดเสียเองแล้วเชยคางเอรินให้เงยหน้าสบมอง
“สำหรับภรรยาที่ฉันรัก ไม่มีอะไรที่แพงเกินไป...ฉันอยากทำให้เธอมั่นใจว่าฉันจริงจังและจริงใจกับเธอจริงๆ อยู่กับฉันตลอดไปนะเอริน สัญญากับฉันได้หรือเปล่า”
“ทำไมต้องสัญญาด้วยคะในเมื่อเราก็จดทะเบียนกันแล้ว”
“จดก็ส่วนจดสิที่รัก ฉันอยากได้ยินเธอสัญญากับฉันมากกว่า”
เอรินยังคงมองมาอย่างไม่เข้าใจ ทำให้ชายหนุ่มตรงหน้ายิ่งร้อนรน คว้ามือนุ่มนิ่มทั้งสองข้างมากอบกุมไว้แนบอก
“สัญญากับฉันสิเอริน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนับจากนี้เธอจะหนักแน่นและเชื่อมั่นในตัวฉัน เราจะผ่านทุกปัญหาไปด้วยกัน...ได้ไหม”
“ถ้าเป็นสิ่งที่ถูกต้องและฉันยอมรับได้ ฉันก็อยู่กับคุณตลอดไปอยู่แล้วค่ะ” แม้เอรินจะไม่ได้เอ่ยคำว่าสัญญาออกมาตรงๆ แต่ชายหนุ่มที่ได้ยินชื่นใจไม่น้อย รวบร่างบางมากอดไว้ทั้งตัว
ชานนท์ถือว่านั่นคือคำสัญญาที่หล่อนและเขามีให้แก่กันแล้ว
วันสุดท้ายของทริปฮันนีมูนแสนหวานระหว่างชานนท์และเอริน จึงหมดไปกับการเที่ยวรอบเกาะสมุยตามประสาคู่รักข้าวใหม่ปลามัน จนแสงสุดท้ายลาลับขอบฟ้า ชานนท์เหลือบมองเอรินที่นั่งอิงซบไหล่เขาอย่างมีความ สุขบนหาดทรายสีน้ำตาลอ่อนอันเงียบสงบหน้าวิลลาส่วนตัวที่ไร้ผู้คน
สองหนุ่มสาวพยายามตักตวงช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ไว้ให้มากที่สุด เพราะพรุ่งนี้แล้วที่ทั้งเขาและหล่อนจะต้องกลับไปเผชิญกับความจริง และทุกคนที่กำลังรอคอยพวกเขาอยู่อย่างใจจดใจจ่อที่ประจวบฯ!
***************
รถญี่ปุ่นสี่ประตูสีขาวสภาพกลางเก่ากลางใหม่แล่นเข้ามาจอดยังลานจอดรถของโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ กรณ์ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำเปิดกระดุมสองเม็ดบนและกางเกงสแล็กสีดำสนิทลงมาจากรถด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ มือข้างหนึ่งกำโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดแนบหูก่อนจะปิดประตูรถเดินตรงมายังลิฟต์ของโรงแรม จุดหมายของชายหนุ่มคือห้องพักของหญิงสาวเอาแต่ใจที่อยู่ชั้นสิบ
“โอเคๆ” กรณ์วางสายแล้วถึงกับถอนหายใจที่ต้องมาเจอกับคู่กรณีสาวที่ถึงแม้จะสวยเซ็กซี่ถูกสเปกเขาเพียงใด แต่ทว่าทำตัวน่ารำคาญเกินทน เพราะเจ้าหล่อนเล่นคอยบงการเขาไปเสียทุกเรื่อง ยังกับเขาเป็นทาสในเรือนเบี้ยก็ไม่ปาน เจอหน้าคงต้องโวยกันหน่อย!
ทันทีที่ถึงหน้าห้องหญิงสาว กรณ์ก็กดกริ่งเรียกรัวๆ ประตูห้องจึงถูกกระชากเปิดออก ตามมาด้วยสาวเจ้าของห้องยืนเท้าแขนกับกรอบประตูสีหน้าหงุดหงิด
วันนี้ราเชลอยู่ในชุดเสื้อยืดแขนกุดสีแดงกับกางเกงยีนขาสั้นสีฟ้า และสวมเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งสีขาวบางเบาคลุมทับยาวถึงต้นขา แม้ขาเรียวสวยของหญิงสาวยังใส่เฝือกหนาอยู่ตรงข้อเท้าขึ้นมาเกือบถึงเข่าขวาก็ตาม แต่ก็ยังทำให้ชายหนุ่มซึ่งอยู่หน้าห้องเผลอมองอย่างลืมตัว ทั้งที่ตั้งท่าจะโวยใส่เสียดิบดี!
“มาช้ามาก ฉันรอตั้งนาน” ราเชลบ่นขณะหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้อง ผมสีดำยาวสลวยของเจ้าหล่อนสะบัดใส่หน้าชายหนุ่มจนต้องหันหนี
“มาให้เห็นก็บุญแล้ว วันนี้ผมมีธุระแต่คุณก็ยังโทร.มากวน บ้านผมอยู่ประจวบฯ ไม่ใช่ลาดพร้าว จะได้มาถึงรวดเร็วทันใจคุณ” กรณ์บ่นพอกันก่อนจะกระแทกตัวลงนั่งบนโซฟากลางห้องอย่างแรง
ราเชลเลยเบ้ปากให้หนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างหมั่นไส้ “ไม่ต้องมากวนกันเลย ฉันอายุมากกว่าคุณตั้งกี่ปี พูดจาให้มันดีๆ หน่อย วันนี้ฉันจะไปหาเดรสใส่ไปพบผู้ใหญ่ แล้วก็คุณต้องคอยรับส่งฉันวันนี้ทั้งวัน ห้ามปฏิเสธ”
หล่อนเดินกะเผลกๆ มานั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้าม ชายหนุ่มมองตามขาอ่อนขาวๆ ของสาวตรงหน้าแล้วรู้สึกผิดขึ้นมา ที่หล่อนต้องมาเจ็บตัวก็เพราะความประมาทเลินเล่อของเขา
แต่แล้วคนรู้สึกผิดต้องสะดุ้งเมื่อมองไปมองมาสบกับนัยน์ตาคมดุจเหยี่ยวของสาวสวยเข้า รีบเอ่ยถามกลบเกลื่อน
“แล้วจะไปกันหรือยัง บอกไว้ก่อนว่าคืนนี้ผมนอนค้างคอนโดฯ ไม่ได้ ต้องรีบกลับประจวบฯ มีนัดสำคัญ”
ชื่อจังหวัดที่เขาบอกสะดุดหูราเชล มีท่าทีสนใจขึ้นมาทันที
“จริงสิ! คุณอยู่ประจวบฯ พอจะรู้จักบ้านสวนโฮมสเตย์หรือเปล่า”
“อืม รู้จัก ถามทำไม”
“ไม่ต้องสนใจหรอก เอาเป็นว่าฉันจะไปประจวบฯ กับคุณ บ้านสวนอะไรนั่นน่ะแหละ วันนี้เลย หรือถ้าไม่สะดวก จะมารับฉันพรุ่งนี้อีกทีก็ได้”
“เฮ้ย! จะไปทำไม อย่าบอกนะว่าหลงเสน่ห์ผมอีกคน”
กรณ์ทำหน้าสยอง
“จะบ้าเหรอ!” ราเชลค้อนขวับ มองหนุ่มหล่อศีรษะจรดปลายเท้า
“หน้าตานายก็พอดูได้ แต่ไม่ได้หล่อขนาดแบรดพิตต์นะยะฉันจะได้มอง อย่าสำคัญตัวผิดไปหน่อยเลย ฉันไม่นิยมเลี้ยงเด็ก แล้วยิ่งเด็กไม่เอาไหนแบบนี้ฉันไม่ชอบ”
“แสดงว่าถ้าไม่เด็กก็น่าสนเหมือนกันสิ คุณน่ะปากไม่ตรงกับใจรู้ตัวหรือเปล่า เอ...หรือที่คุณคอยสั่งให้ผมมารับมาส่งอยู่นี่ เพราะอยากเห็นหน้าเด็กอย่างผมก็สารภาพมา”
“เพ้อเจ้อ!” ราเชลแหวใส่หน้าบึ้ง
“ไหนว่ารีบไง พาฉันไปธุระได้แล้ว มัวแต่ไร้สาระอยู่ได้”
ว่าแล้วหล่อนก็รีบลุกเดินกะเผลกๆ นำออกไปนอกห้องก่อนโดยมีไม้ค้ำยันช่วย กรณ์เลยมองตามสาวตรงหน้าไปยิ้มๆ ทั้งอดขำไม่ได้ที่แม่คุณยั่วโมโหขึ้น ทั้งสีหน้าครุ่นคิด เขายังแปลกใจอยู่ที่จู่ๆ ราเชลอยากจะไปบ้านสวนโฮมสเตย์ของเอริน...
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
‘แต่มินยังไม่ได้บอกเขานะคะว่าติดต่อพี่ได้แล้ว โชคดีที่เขาไม่สงสัยที่เจอมิน มินทำทีเป็นว่าไปเดินเล่นชายหาดแถวนั้นเหมือนกันน่ะค่ะ’
สิมิลันบอกอย่างโล่งอก
แต่สำหรับชานนท์ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแม้แต่น้อย! ตั้งแต่ได้ยินเหตุผลว่า ‘คิดถึง’ ของผู้ชายที่ชื่อกรณ์คนนั้นแล้ว แสดงว่าเอรินกับหมอนั่นสนิทกันมาก แล้วมันมีสิทธิ์อะไรมายุ่มย่ามบนพื้นที่ของเขา!
ชานนท์หันมองไปทางประตูห้องน้ำสีหน้าเคร่งเครียด ระหว่างที่เขาคุยโทรศัพท์กับสิมิลัน เอรินลุกจากเตียงหายเข้าห้องน้ำไปได้สักพักแล้ว เขามีเรื่องต้องคุยกับหล่อน แต่จนป่านนี้ยังไม่เห็นออกมาสักที
“เอริน...ทำไมเงียบไป ฉันเป็นห่วงนะ เข้าไปได้ไหม”
ชานนท์เคาะประตูเรียก
รออยู่ชั่วอึดใจเอรินก็เปิดประตูห้องน้ำออกมา ชานนท์รีบดันประตูค้างไว้ แต่แล้วภาพที่เห็นทำให้หัวใจของเขากระตุกวูบ
“ร้องไห้ทำไมเอริน”
“นะ...นี่มันอะไรคะ” เอรินถามตะกุกตะกักพลางปาดน้ำตาที่กำลังหยาดหยด ก่อนจะยกมือข้างซ้ายของตนที่มีแหวนทองคำขาวฝังเพชรสีฟ้าเม็ดย่อมให้ชายหนุ่มดู
“โธ่...ฉันก็นึกว่าเรื่องอะไร”
ชานนท์ค่อยยิ้มออก ดึงสาวน้อยตรงหน้ามาโอบกอดไว้ในอ้อมแขน
“ของขวัญที่ฉันว่าจะให้เธอไง วันนี้วันสุดท้ายของเราที่นี่แล้วนะ ฉันเพิ่งสวมให้เธอเมื่อเช้าเอง ชอบหรือเปล่า”
เอรินไม่ได้ตอบในทันทีเพราะยังกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เลยซุกหน้ากับอกอุ่นๆ ของเขา ตอบเสียงอู้อี้ว่า
“ชอบก็ชอบอยู่หรอกค่ะ แต่มันแพงเกินไป”
“หืม ฉันว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำถ้าเทียบกับความรักที่ฉันมีให้เธอ”
“แต่ฉัน...”
“ไม่มีแต่”
ชานนท์คลายอ้อมกอดเสียเองแล้วเชยคางเอรินให้เงยหน้าสบมอง
“สำหรับภรรยาที่ฉันรัก ไม่มีอะไรที่แพงเกินไป...ฉันอยากทำให้เธอมั่นใจว่าฉันจริงจังและจริงใจกับเธอจริงๆ อยู่กับฉันตลอดไปนะเอริน สัญญากับฉันได้หรือเปล่า”
“ทำไมต้องสัญญาด้วยคะในเมื่อเราก็จดทะเบียนกันแล้ว”
“จดก็ส่วนจดสิที่รัก ฉันอยากได้ยินเธอสัญญากับฉันมากกว่า”
เอรินยังคงมองมาอย่างไม่เข้าใจ ทำให้ชายหนุ่มตรงหน้ายิ่งร้อนรน คว้ามือนุ่มนิ่มทั้งสองข้างมากอบกุมไว้แนบอก
“สัญญากับฉันสิเอริน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนับจากนี้เธอจะหนักแน่นและเชื่อมั่นในตัวฉัน เราจะผ่านทุกปัญหาไปด้วยกัน...ได้ไหม”
“ถ้าเป็นสิ่งที่ถูกต้องและฉันยอมรับได้ ฉันก็อยู่กับคุณตลอดไปอยู่แล้วค่ะ” แม้เอรินจะไม่ได้เอ่ยคำว่าสัญญาออกมาตรงๆ แต่ชายหนุ่มที่ได้ยินชื่นใจไม่น้อย รวบร่างบางมากอดไว้ทั้งตัว
ชานนท์ถือว่านั่นคือคำสัญญาที่หล่อนและเขามีให้แก่กันแล้ว
วันสุดท้ายของทริปฮันนีมูนแสนหวานระหว่างชานนท์และเอริน จึงหมดไปกับการเที่ยวรอบเกาะสมุยตามประสาคู่รักข้าวใหม่ปลามัน จนแสงสุดท้ายลาลับขอบฟ้า ชานนท์เหลือบมองเอรินที่นั่งอิงซบไหล่เขาอย่างมีความ สุขบนหาดทรายสีน้ำตาลอ่อนอันเงียบสงบหน้าวิลลาส่วนตัวที่ไร้ผู้คน
สองหนุ่มสาวพยายามตักตวงช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ไว้ให้มากที่สุด เพราะพรุ่งนี้แล้วที่ทั้งเขาและหล่อนจะต้องกลับไปเผชิญกับความจริง และทุกคนที่กำลังรอคอยพวกเขาอยู่อย่างใจจดใจจ่อที่ประจวบฯ!
***************
รถญี่ปุ่นสี่ประตูสีขาวสภาพกลางเก่ากลางใหม่แล่นเข้ามาจอดยังลานจอดรถของโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพฯ กรณ์ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำเปิดกระดุมสองเม็ดบนและกางเกงสแล็กสีดำสนิทลงมาจากรถด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ มือข้างหนึ่งกำโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดแนบหูก่อนจะปิดประตูรถเดินตรงมายังลิฟต์ของโรงแรม จุดหมายของชายหนุ่มคือห้องพักของหญิงสาวเอาแต่ใจที่อยู่ชั้นสิบ
“โอเคๆ” กรณ์วางสายแล้วถึงกับถอนหายใจที่ต้องมาเจอกับคู่กรณีสาวที่ถึงแม้จะสวยเซ็กซี่ถูกสเปกเขาเพียงใด แต่ทว่าทำตัวน่ารำคาญเกินทน เพราะเจ้าหล่อนเล่นคอยบงการเขาไปเสียทุกเรื่อง ยังกับเขาเป็นทาสในเรือนเบี้ยก็ไม่ปาน เจอหน้าคงต้องโวยกันหน่อย!
ทันทีที่ถึงหน้าห้องหญิงสาว กรณ์ก็กดกริ่งเรียกรัวๆ ประตูห้องจึงถูกกระชากเปิดออก ตามมาด้วยสาวเจ้าของห้องยืนเท้าแขนกับกรอบประตูสีหน้าหงุดหงิด
วันนี้ราเชลอยู่ในชุดเสื้อยืดแขนกุดสีแดงกับกางเกงยีนขาสั้นสีฟ้า และสวมเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งสีขาวบางเบาคลุมทับยาวถึงต้นขา แม้ขาเรียวสวยของหญิงสาวยังใส่เฝือกหนาอยู่ตรงข้อเท้าขึ้นมาเกือบถึงเข่าขวาก็ตาม แต่ก็ยังทำให้ชายหนุ่มซึ่งอยู่หน้าห้องเผลอมองอย่างลืมตัว ทั้งที่ตั้งท่าจะโวยใส่เสียดิบดี!
“มาช้ามาก ฉันรอตั้งนาน” ราเชลบ่นขณะหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้อง ผมสีดำยาวสลวยของเจ้าหล่อนสะบัดใส่หน้าชายหนุ่มจนต้องหันหนี
“มาให้เห็นก็บุญแล้ว วันนี้ผมมีธุระแต่คุณก็ยังโทร.มากวน บ้านผมอยู่ประจวบฯ ไม่ใช่ลาดพร้าว จะได้มาถึงรวดเร็วทันใจคุณ” กรณ์บ่นพอกันก่อนจะกระแทกตัวลงนั่งบนโซฟากลางห้องอย่างแรง
ราเชลเลยเบ้ปากให้หนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างหมั่นไส้ “ไม่ต้องมากวนกันเลย ฉันอายุมากกว่าคุณตั้งกี่ปี พูดจาให้มันดีๆ หน่อย วันนี้ฉันจะไปหาเดรสใส่ไปพบผู้ใหญ่ แล้วก็คุณต้องคอยรับส่งฉันวันนี้ทั้งวัน ห้ามปฏิเสธ”
หล่อนเดินกะเผลกๆ มานั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้าม ชายหนุ่มมองตามขาอ่อนขาวๆ ของสาวตรงหน้าแล้วรู้สึกผิดขึ้นมา ที่หล่อนต้องมาเจ็บตัวก็เพราะความประมาทเลินเล่อของเขา
แต่แล้วคนรู้สึกผิดต้องสะดุ้งเมื่อมองไปมองมาสบกับนัยน์ตาคมดุจเหยี่ยวของสาวสวยเข้า รีบเอ่ยถามกลบเกลื่อน
“แล้วจะไปกันหรือยัง บอกไว้ก่อนว่าคืนนี้ผมนอนค้างคอนโดฯ ไม่ได้ ต้องรีบกลับประจวบฯ มีนัดสำคัญ”
ชื่อจังหวัดที่เขาบอกสะดุดหูราเชล มีท่าทีสนใจขึ้นมาทันที
“จริงสิ! คุณอยู่ประจวบฯ พอจะรู้จักบ้านสวนโฮมสเตย์หรือเปล่า”
“อืม รู้จัก ถามทำไม”
“ไม่ต้องสนใจหรอก เอาเป็นว่าฉันจะไปประจวบฯ กับคุณ บ้านสวนอะไรนั่นน่ะแหละ วันนี้เลย หรือถ้าไม่สะดวก จะมารับฉันพรุ่งนี้อีกทีก็ได้”
“เฮ้ย! จะไปทำไม อย่าบอกนะว่าหลงเสน่ห์ผมอีกคน”
กรณ์ทำหน้าสยอง
“จะบ้าเหรอ!” ราเชลค้อนขวับ มองหนุ่มหล่อศีรษะจรดปลายเท้า
“หน้าตานายก็พอดูได้ แต่ไม่ได้หล่อขนาดแบรดพิตต์นะยะฉันจะได้มอง อย่าสำคัญตัวผิดไปหน่อยเลย ฉันไม่นิยมเลี้ยงเด็ก แล้วยิ่งเด็กไม่เอาไหนแบบนี้ฉันไม่ชอบ”
“แสดงว่าถ้าไม่เด็กก็น่าสนเหมือนกันสิ คุณน่ะปากไม่ตรงกับใจรู้ตัวหรือเปล่า เอ...หรือที่คุณคอยสั่งให้ผมมารับมาส่งอยู่นี่ เพราะอยากเห็นหน้าเด็กอย่างผมก็สารภาพมา”
“เพ้อเจ้อ!” ราเชลแหวใส่หน้าบึ้ง
“ไหนว่ารีบไง พาฉันไปธุระได้แล้ว มัวแต่ไร้สาระอยู่ได้”
ว่าแล้วหล่อนก็รีบลุกเดินกะเผลกๆ นำออกไปนอกห้องก่อนโดยมีไม้ค้ำยันช่วย กรณ์เลยมองตามสาวตรงหน้าไปยิ้มๆ ทั้งอดขำไม่ได้ที่แม่คุณยั่วโมโหขึ้น ทั้งสีหน้าครุ่นคิด เขายังแปลกใจอยู่ที่จู่ๆ ราเชลอยากจะไปบ้านสวนโฮมสเตย์ของเอริน...
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.พ. 2563, 22:59:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ก.พ. 2563, 22:59:10 น.
จำนวนการเข้าชม : 441
<< บทที่ 30 -100% | บทที่ 31 -100% >> |