รู้แล้ว...ว่ารัก
ผลิตโชค นักร้องหนุ่มที่กำลังเงียบหายไปจากวงการ แต่แล้วโชคชะตาได้ขีดเส้นทางให้เขาได้พบกับเธอ...พีช...หรือ "นุช" มาช่วยลุ้นในความรักของทั้งคู่ว่าจะลงเอยอย่างไร
ปล..เรื่องนี้ผู้แต่ง เป็นแนวฟิคนะ ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ผู้แต่งมโนเอง อ่านเพื่อความสนุกคร่า
ปล..เรื่องนี้ผู้แต่ง เป็นแนวฟิคนะ ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ผู้แต่งมโนเอง อ่านเพื่อความสนุกคร่า
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอน 22
หญิงสาวเกาะราวรถสองแถวที่ขับผ่านชายหาดด้วยความเร็วไม่เกินหกสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง เธอมองหาดทรายที่ทอดยาว มีนักท่องเที่ยวเดินตามหาดไม่มากนัก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของที่นี่อยู่แล้ว ลมทะเลที่พัดผ่านปะทะใบหน้าเนียนจนผมที่มุ่นมวยไว้นั้นปลิวไสว มือเล็กกำสายเป้ไว้แน่น ดวงตากลมโตดูแห้งแล้ง ไม่มีชีวิตชีวาอย่างที่เคย เธอใช้ปลายลิ้นแตะริมฝีปากที่แห้งผากก่อนจะหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อลดความกระหาย เธอชะโงกศีรษะออกนอกตัวรถเพื่อมองจุดหมายปลายทางพร้อมกับเอื้อมมือไปกดกริ่งเพื่อให้รถหยุดก่อนจะลงจากรถอย่างรวดเร็ว
เธอสะพายเป้ขึ้นหลังพร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน คิดถึงชายหนุ่มหน้าเรียวขาว คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากแดงอย่างคนสุขภาพดี ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นดวงตาชั้นเดียวเรียวยาวมองเธอด้วยความรักเสมอ เธอกัดริมฝีปากด้านในโดยไม่รู้สึกเจ็บ น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เธอรีบกดรับและกะพริบตาถี่ๆ เพื่อให้น้ำตาที่เอ่อมานั้นหายไป
“นุช อยู่ที่ไหน ทำไมไม่กลับมาพร้อมกับผลิต ผลิตบอกว่านุชเบื่อที่ต้องเดินทางจึงขอลาออก ทำไมถึงลาออกล่ะ มีอะไรทำไมไม่บอกพี่” ปอนด์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“พี่โชคบอกอย่างนั้นเหรอคะ” เธอย้อนถามน้ำเสียงที่สั่นสะท้าน
“อือ ใช่ ทะเลาะกันหรือเปล่า”
“ปะ..เปล่าค่ะ หนูขอบคุณพี่ปอนด์นะคะห่วงหนูตลอดเลย” เธอบอกเบาๆ รู้สึกร้อนผ่าวที่กระบอกตา น้ำตาที่ห้ามไว้นั้นรินไหลผ่านร่องแก้มอย่างช้าๆ
“นุชเป็นเหมือนน้องพี่คนหนึ่ง พี่ต้องห่วงสิ ตัดสินใจดีแล้วใช่มั้ย แล้วนี่จะไปทำอะไร กลับไปอยู่ขนอมเหรอ เดี๋ยวพี่ไปหานะ” ปลายเสียงบอกอย่างห่วงใย
“เปล่าค่ะ” เธอตอบกลับไปสั้นๆ
“อ้าว แล้วจะไปทำอะไร อยู่ไหน” ปลายเสียงถามอย่างร้อนรน
“เดี๋ยวหนูจะบอกพี่ปอนด์อีกทีนะ รถมาแล้ว หนูต้องไปก่อนนะคะ ขอบคุณพี่ปอนด์อีกครั้งค่ะ” เธอบอกเร็วๆ ก่อนจะตัดสายไปโดยไม่ให้อีกฝ่ายตอบโต้อะไร หญิงสาวเม้มปากแน่นก่อนตัดสินใจเด็ดขาด มือเรียวแกะโทรศัพท์ก่อนจะดึง ซิมโทรศัพท์ทิ้งถังขยะทันที หญิงสาวดึงสายเป้ให้กระชับหลังมากขึ้นก่อนจะก้าวเดินออกไปอย่างช้าๆ
เธอตัดสินใจแล้ว...จะไม่มีวันย้อนกลับไปให้เสียใจอีก พอกันที...
เสียงร้องอย่างดีใจของเพื่อนสาวทำให้เธออดยิ้มไม่ได้ ร่างอวบวิ่งเข้ามากอดจนเธอผงะไปด้านหลัง แรงกอดรัดทำให้ใจที่ห่อเหี่ยวนั้นฟูขึ้นอย่างรู้สึกได้
“พีช พีช คิดถึงเหลือเกิน เป็นไงบ้าง” ปุ๊กถามระรัว มองหน้าเพื่อนด้วยความคิดถึง
“สบายดี ปุ๊กล่ะ ขายของโอเคมั้ย” เธอถามกลับยิ้มๆ วางเป้กับพื้นก่อนจะนั่งลงอย่างเหนื่อยอ่อน
“พอได้จ้ะ แล้วนี่มาคนเดียวเหรอ พี่โชคล่ะ” ปุ๊กเอ่ยถามพลางชะเง้อมองหาชายหนุ่มร่างสูงเพรียว
“....” เธอนิ่ง เม้มปากแน่น สบตาเพื่อนสาวด้วยแววตาเศร้าหมอง
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ” ปุ๊กเอ่ยถาม รับรู้ถึงความผิดปกติของพีช มืออวบขาวนั้นจับมือเธอไว้แล้วบีบแน่นอย่างให้กำลังใจ
“....”
“โอเค ไม่เป็นไรนะ ไว้พีชอยากเล่าเมื่อไร ค่อยบอกแล้วกัน หิวมั้ย” ปุ๊กถามด้วยความเป็นห่วง แต่คนตรงหน้าส่ายหน้าอย่างช้าๆ น้ำตาที่เจ้าตัวพยายามกลั้นไว้นั้นเริ่มเอ่อล้นก่อนจะสะอื้นตัวโยนจนเธอต้องไปกอด เธอลูบหลังพีชไปมาโดยไม่ได้เอ่ยอะไร
เวลาผ่านไปพักใหญ่ ไม่มีคำพูดอะไรหลุดจากปากคนในอ้อมกอด การร่ำไห้ที่บ่งบอกถึงความเสียใจ เสียงสะอื้นที่ที่ออกมาจากลำคอนั่นทำให้เธออดน้ำตาคลอตามไม่ได้ เธอไม่เคยเห็นพีชร้องไห้หนักอย่างนี้มาก่อน แสดงว่าสิ่งที่พีชได้รับต้องเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนใจหนักมาก ร่างบางหยุดสะอื้นแล้ว เธอดันตัวออกห่างพร้อมกับเช็ดน้ำตาไปมา
“พีชไม่เป็นอะไรแล้ว ขอโทษนะที่ทำให้ปุ๊กเป็นห่วง” เธอพึมพำบอกเบาๆ
“เรื่องพี่โชคเหรอ” ปุ๊กอดไม่ได้ที่จะย้อนถาม
“อย่าเอ่ยชื่อนี้ให้พีชได้ยินอีก” เธอบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาเด็ดขาดจนปุ๊กรู้สึกหวั่นเกรงแทนชายหนุ่มขึ้นมาทีเดียว
“โอเค โอเค ปุ๊กจะไม่พูดถึงอีก ไปพักก่อนนะ เดี๋ยวเย็นนี้ปุ๊กจะทำอะไรอร่อยๆ ให้ทาน” ปุ๊กบอกพร้อมกับดันหญิงสาวให้ไปในห้องพักเล็กๆ ในร้าน
“ขอบคุณอีกครั้งนะ พีชขอนอนพักหน่อย รู้สึกเหนื่อยจัง” เธอบอกยิ้มๆ ก่อนจะปิดประตูเบาๆ
เสียงคุ้นหูจากรายการบันเทิงทางโทรทัศน์ทำให้ปุ๊กต้องหันไปมอง ผลิตโชคกำลังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเป็นนายแบบให้กับนิตยสารชื่อดังฉบับหนึ่ง น้ำเสียงสุภาพ การตอบคำถามที่ฉลาด เธอเอียงคอมองอย่างพิจารณา ใบหน้ายิ้มแย้มที่ทุกคนเห็นนั้น อาจจะดูเหมือนมีความสุข แต่เธอมั่นใจว่า...ไม่ใช่ แม้ว่าใบหน้าหล่อเหลานั้นจะยิ้มแย้มแต่รอยยิ้มนั้นมันไปไม่ถึงแววตาที่มองมาเลยสักนิด
ปุ๊กเดินกลับมานั่งอย่างครุ่นคิด พีชกับพี่โชคต้องมีปัญหากันแน่ๆ เท่าที่เธอเห็นพี่โชครักพีชมาก เธอยังจำแววตาที่พี่โชคมองตามพีชได้เลย แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น...ทำไมพีชกลับมาคนเดียว มิหนำซ้ำยังกลับมาอย่างบอบช้ำอีก เธอขมวดคิ้ว เม้มปากอย่างใช้ความคิดก่อนจะหันไปมองประตูห้องที่ปิดสนิท ไม่รู้ว่าคนข้างในจะนอนหลับหรือเปล่า หรืออาจจะกำลังนั่งร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด ตั้งแต่รู้จักกันมาเธอไม่เคยเห็นพีชในสภาพอ่อนแอแบบนี้เลย ปัญหาที่พีชแบกรับอยู่นั้นคืออะไร เธอจะต้องหาคำตอบให้ได้!!!
พีชคนดาร์คชอคโกแลตกับเนยสดให้ละลายหลังจากที่ได้รับความร้อน ปกติเธอจะชอบกลิ่นหอมของเนยสดและชอคโกแลตที่รวมกันเป็นเนื้อเดียว แต่ในวันนี้เธอรู้สึกว่ากลิ่นมันแปลกไปทั้งๆ ที่เธอเพิ่งซื้อวัตถุดิบมาใหม่แท้ๆ เธอขยี้จมูกตัวเองไปมาก่อนจะเทชอคโกแลตเข้มข้นลงในชามแป้งเอนกประสงค์ที่เธอผสมทุกอย่างไว้แล้ว วันนี้เธอจะทำบราวนี่หน้ากรอบ หวานน้อย บราวนี่...ที่ใครบางคนชอบทาน...
เธอเม้มปากจนป็นเส้นตรง ดวงตากลมโตฉายแววหม่นหมอง มือเรียวหยุดชะงักชั่วขณะก่อนจะเริ่มตลบแป้งให้เข้ากับชอคโกแลตอย่างรวดเร็ว เวลาผ่านไปสองเดือนแล้ว เธอควรจะลืมเขาได้แล้ว ไม่ใช่มาคอยคิดถึงอย่างนี้
พีช...เธอจงจำไว้ว่า...ผลิตโชคเป็นคนใจร้าย คำพูดที่พร่ำบอกมานั้น ไม่เป็นความจริง เขาไม่เคยรักใครจริงจัง....
“อุ๊ย” เธออุทานเมื่ออยู่ๆ ภาพตรงหน้านั้นพร่ามัว มองอะไรเบลอไปหมด ทำให้เธอละจากไม้พายที่คนขนมมาจับขอบโต๊ะไว้แน่น เธอหลับตาลงทันทีรู้สึกเหมือนพื้นที่ยืนอยู่นั้นมันยวบยาบ เหงื่อซึมออกตามไรผม เธอรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ หญิงสาวค่อยๆ รูดตัวเองนั่งลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
“พีช พีช เป็นอะไร” ปุ๊กเปิดประตูร้านเข้ามาเป็นจังหวะเดียวกับที่พีชค่อยๆ ทรุดตัวลงไปหลังเคานนเตอร์ เธอรีบวิ่งเข้ามาหาด้วยความตกใจ สอดมือเข้าไปพยุงเพื่อนสาวให้ลุกขึ้นก่อนจะประคองไปนั่งเก้าอี้ มองหน้าพีชที่เวลานี้ซีดขาว เม็ดเหงื่อเล็กๆ ผุดเต็มใบหน้า
“ขอยาดมหน่อย” พีชเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เธอลูบหน้าที่ชื้นไปด้วยเหงื่อด้วยมือที่สั่นอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่
“อ่ะ นี่” ปุ๊กยื่นยาดมให้ เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกหลายครั้ง จนรู้สึกดีขึ้น “เป็นไงบ้าง” ปุ๊กเอ่ยถาม
“ค่อยยังชั่วล่ะ เมื่อกี้ตาลายมากเลย” เธอบอกเบาๆ
“กินอะไรหรือยัง เอาแต่ทำขนม ดูสิจะเป็นลมใช่มั้ย ถ้าปุ๊กเข้ามาไม่ทันจะทำไงเนี่ย” ปุ๊กบ่นพร้อมกับถอนหายใจ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเพื่อนสาวคนนี้ดื้อขนาดไหน
“ไม่เป็นไรแล้ว สงสัยจะหิวข้าว ตั้งแต่เช้ายังไมได้กินอะไรเลย” พีชบอกแล้วยิ้มแหยๆ ให้ปุ๊กที่นั่งมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง
“ปุ๊กซื้อก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าที่เราไปกินกันบ่อยๆ ขอกากหมูแบบพิเศษมาให้พีชด้วย รอแป้บนะ” ปุ๊กบอกพร้อมกุลีกุจอใส่ชามมาให้เธออย่างรวดเร็วจนพีชอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
“ขอบใจนะ โชคดีของพีชจังที่มีปุ๊กเป็นเพื่อน” เธอบอกยิ้มๆ พร้อมกับรับชามก๋วยเตี๋ยวมาวางตรงหน้า
“อย่าคิดมาก เราเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ปุ๊กจะอยู่ข้างๆ พีชเสมอ” ปุ๊กวางมือไว้บนบ่าเธออย่างอ่อนโยน พีชเอื้อมมือไปจับมือปุ๊กพร้อมกับบีบแน่นก่อนจะปล่อย
“น่ากินจัง” เธอบอกพร้อมกับชิมรสชาติ ก่อนจะรู้สึกเหมือนลมตีขึ้นอีกครั้ง เธอวางช้อน ปิดปากตัวเองก่อนจะวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที โดยมีปุ๊กวิ่งตามไปอย่างตกใจ
พีชจับอ่างล้างหน้าแน่น โก่งคออาเจียนจนน้ำตาไหลซึ่งมันไม่มีอะไรออกมาเพราะตั้งแต่เช้าเธอยังไม่ได้ทานอะไร มีเพียงน้ำเปรี้ยวๆ ที่ผ่านลำคอมาเท่านั้น
“พีช ไหวหรือเปล่า ไปหาหมอมั้ย” ปุ๊กถามรัวๆ ลูบหลังเพื่อนสาวอย่างอ่อนโยน แต่พีชส่ายหน้าไปมา เธอบ้วนปากก่อนจะเงยหน้าขึ้น น้ำตาคลอหน่วย หน้าขาวซีดยิ่งกว่าเดิม
“ไม่เป็นอะไรหรอก พีชคงหิวมาก ปล่อยให้ท้องว่างจนเกินไป” เธอบอกพร้อมกับลูบใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเองอีกครั้ง
“เดี๋ยวปุ๊กพาไปที่ห้องพักแล้วจะอุ่นนมให้ดื่มรองท้องนะ” ปุ๊กประคองเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วงซึ่งพีชเดินตามอย่างว่าง่าย เธอนั่งลงบนเตียงอย่างช้าๆ รู้สึกเวียนศีรษะ มองไปทางไหนก็เบลอไปหมด เธอเอนตัวลงนอนอย่างหมดแรง
“พีชขอนอนแป้บนึงนะ เดี๋ยวคงดีขึ้น” เธอพีมพำบอกเพื่อนก่อนจะหลับตาลง
“แล้วนม...” ปุ๊กพูดไม่จบประโยคเพราะพีชยกมือส่งสัญญาณปฏิเสธ “งั้นนอนเถอะ ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวปุ๊กอบขนมต่อเอง”
พีชลืมตาขึ้นทันทีหลังจากที่ประตูห้องปิดลง เธอมองเพดานสีขาวด้วยดวงตาครุ่นคิด แขนเรียวที่วางแนบลำตัวนั้นถูกยกขึ้นมาวางไว้บนหน้าท้องแบนราบ เธอลูบท้องตัวเองเบาๆ ภาวนาในใจว่า...ขอให้อย่าให้เป็นอย่างที่เธอคิด มันไม่ใช่เวลานี้...เธอหลับตาลงอีกครั้งพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลออกจากหางตาทั้งสองข้าง
ผลิตโชคผลักจานอาหารตรงหน้าออกไปเมื่อได้กลิ่นอาหารที่ชวนผะอืดผะอม เขายกน้ำขึ้นมาดื่มทำให้ปอนด์มองเขาอย่างสงสัย
“อิ่มแล้วเหรอ ทำไมกินน้อยจัง หมูผัดกะปิของโปรดไม่ใช่เหรอ” ปอนด์มองจานข้าวที่ยังไม่พร่องเลยแม้แต่นิด
“เหม็นอ่ะ ผมไม่อยากกินแล้ว” เขาบอกพร้อมขยี้จมูกแล้วหันหน้าหนีทันที
“อะไรกัน เจ้านี้อร่อยที่สุดแล้ว ผลิตยังชมบ่อยๆ เลย” ปอนด์มองอย่างสงสัย อาหารบนโต๊ะเรียกได้ว่าเป็นของโปรดผลิตโชคทั้งนั้น แต่ชายหนุ่มกับกินได้น้อยมาก ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ
“ต่อไปพี่ปอนด์ไม่ต้องซื้ออาหารร้านนี้มาแล้วนะ ผมไม่กินแล้ว เหม็นมากเลย” เขาส่ายหน้าอย่างขัดใจ ดวงตาเรียวยาวมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์
“ผลิต..รู้ตัวมั้ยว่าเดี๋ยวนี้เป็นคนหงุดหงิดง่ายเหลือเกิน บางเรื่องไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย แต่ผลิตก็จะหงุดหงิดจนพวกนักดนตรีไม่กล้าเข้าใกล้แล้ว” ปอนด์ตัดสินใจพูดหลังจากที่เขาเห็นอาการแบบนี้มาสักพัก ชายหนุ่มหันมาสบตาเขาชั่วขณะก่อนจะถอนหายใจ
“ขอโทษครับพี่ปอนด์ ผลิตไม่ได้ตั้งใจ ผลิตก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนผลิตอดทนและใจเย็นกว่านี้” เขาบอกเบาๆ ก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด
“เอาเถอะ ไม่เป็นไรนะ ผลิตอาจจะเหนื่อย เพราะงานอีเว้นท์เยอะ ไหนจะคอนเสิร์ตอีก แล้วเรื่องที่สมุยไปถึงไหนแล้ว” ปอนด์ย้อนถาม
“ผลิตให้เพื่อนไปดูอยู่ ถ้าเสร็จคอนเสิร์ตใหญ่นี้ ผลิตขอพักสองอาทิตย์นะ” ชายหนุ่มหันมาบอกแล้วยิ้มเหมือนกับเด็กชายตัวน้อยที่เขาเคยดูแลเมื่อก่อน
“เอาสิ พี่จัดไว้ให้แล้วอยู่แล้ว” ปอนด์ตอบกลับไปพร้อมกับตบบ่าเบาๆ “แล้วผลิตติดต่อนุชบ้างหรือเปล่า พี่โทรหาแต่เหมือนเบอร์นี้ไม่มีคนใช้แล้ว เราไปขนอมกันมั้ย เผื่อนุชจะอยู่ที่นั่น”
“ไม่” ผลิตโชคกัดฟันจนกรามขึ้นเป็นสันนูน ดวงตาเรียวนั้นฉายแววเคืองขุ่นก่อนจะปรับสายตาเป็นปกติ
“พี่ไม่รู้นะว่า ผลิตกับนุชเลิกกันเพราะอะไร แต่พี่จะบอกว่า...ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำทุกอย่างให้ผลิตอย่างที่นุชทำ พี่ว่า...ผลิตควรจะไปง้อนุชดีกว่านะ แต่อาจจะเหนื่อยหน่อยเพราะเราไม่รู้ว่า ตอนนี้นุชอยู่ที่ไหน” ปอนด์บอกสั้นๆ ก่อนจะลุกแล้วเดินจากไป ทิ้งให้ชายหนุ่มนั่งคิดอยู่คนเดียวเพียงลำพัง มือขาวกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน
เธอสะพายเป้ขึ้นหลังพร้อมกับถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน คิดถึงชายหนุ่มหน้าเรียวขาว คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากแดงอย่างคนสุขภาพดี ช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นดวงตาชั้นเดียวเรียวยาวมองเธอด้วยความรักเสมอ เธอกัดริมฝีปากด้านในโดยไม่รู้สึกเจ็บ น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เธอรีบกดรับและกะพริบตาถี่ๆ เพื่อให้น้ำตาที่เอ่อมานั้นหายไป
“นุช อยู่ที่ไหน ทำไมไม่กลับมาพร้อมกับผลิต ผลิตบอกว่านุชเบื่อที่ต้องเดินทางจึงขอลาออก ทำไมถึงลาออกล่ะ มีอะไรทำไมไม่บอกพี่” ปอนด์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง
“พี่โชคบอกอย่างนั้นเหรอคะ” เธอย้อนถามน้ำเสียงที่สั่นสะท้าน
“อือ ใช่ ทะเลาะกันหรือเปล่า”
“ปะ..เปล่าค่ะ หนูขอบคุณพี่ปอนด์นะคะห่วงหนูตลอดเลย” เธอบอกเบาๆ รู้สึกร้อนผ่าวที่กระบอกตา น้ำตาที่ห้ามไว้นั้นรินไหลผ่านร่องแก้มอย่างช้าๆ
“นุชเป็นเหมือนน้องพี่คนหนึ่ง พี่ต้องห่วงสิ ตัดสินใจดีแล้วใช่มั้ย แล้วนี่จะไปทำอะไร กลับไปอยู่ขนอมเหรอ เดี๋ยวพี่ไปหานะ” ปลายเสียงบอกอย่างห่วงใย
“เปล่าค่ะ” เธอตอบกลับไปสั้นๆ
“อ้าว แล้วจะไปทำอะไร อยู่ไหน” ปลายเสียงถามอย่างร้อนรน
“เดี๋ยวหนูจะบอกพี่ปอนด์อีกทีนะ รถมาแล้ว หนูต้องไปก่อนนะคะ ขอบคุณพี่ปอนด์อีกครั้งค่ะ” เธอบอกเร็วๆ ก่อนจะตัดสายไปโดยไม่ให้อีกฝ่ายตอบโต้อะไร หญิงสาวเม้มปากแน่นก่อนตัดสินใจเด็ดขาด มือเรียวแกะโทรศัพท์ก่อนจะดึง ซิมโทรศัพท์ทิ้งถังขยะทันที หญิงสาวดึงสายเป้ให้กระชับหลังมากขึ้นก่อนจะก้าวเดินออกไปอย่างช้าๆ
เธอตัดสินใจแล้ว...จะไม่มีวันย้อนกลับไปให้เสียใจอีก พอกันที...
เสียงร้องอย่างดีใจของเพื่อนสาวทำให้เธออดยิ้มไม่ได้ ร่างอวบวิ่งเข้ามากอดจนเธอผงะไปด้านหลัง แรงกอดรัดทำให้ใจที่ห่อเหี่ยวนั้นฟูขึ้นอย่างรู้สึกได้
“พีช พีช คิดถึงเหลือเกิน เป็นไงบ้าง” ปุ๊กถามระรัว มองหน้าเพื่อนด้วยความคิดถึง
“สบายดี ปุ๊กล่ะ ขายของโอเคมั้ย” เธอถามกลับยิ้มๆ วางเป้กับพื้นก่อนจะนั่งลงอย่างเหนื่อยอ่อน
“พอได้จ้ะ แล้วนี่มาคนเดียวเหรอ พี่โชคล่ะ” ปุ๊กเอ่ยถามพลางชะเง้อมองหาชายหนุ่มร่างสูงเพรียว
“....” เธอนิ่ง เม้มปากแน่น สบตาเพื่อนสาวด้วยแววตาเศร้าหมอง
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ” ปุ๊กเอ่ยถาม รับรู้ถึงความผิดปกติของพีช มืออวบขาวนั้นจับมือเธอไว้แล้วบีบแน่นอย่างให้กำลังใจ
“....”
“โอเค ไม่เป็นไรนะ ไว้พีชอยากเล่าเมื่อไร ค่อยบอกแล้วกัน หิวมั้ย” ปุ๊กถามด้วยความเป็นห่วง แต่คนตรงหน้าส่ายหน้าอย่างช้าๆ น้ำตาที่เจ้าตัวพยายามกลั้นไว้นั้นเริ่มเอ่อล้นก่อนจะสะอื้นตัวโยนจนเธอต้องไปกอด เธอลูบหลังพีชไปมาโดยไม่ได้เอ่ยอะไร
เวลาผ่านไปพักใหญ่ ไม่มีคำพูดอะไรหลุดจากปากคนในอ้อมกอด การร่ำไห้ที่บ่งบอกถึงความเสียใจ เสียงสะอื้นที่ที่ออกมาจากลำคอนั่นทำให้เธออดน้ำตาคลอตามไม่ได้ เธอไม่เคยเห็นพีชร้องไห้หนักอย่างนี้มาก่อน แสดงว่าสิ่งที่พีชได้รับต้องเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนใจหนักมาก ร่างบางหยุดสะอื้นแล้ว เธอดันตัวออกห่างพร้อมกับเช็ดน้ำตาไปมา
“พีชไม่เป็นอะไรแล้ว ขอโทษนะที่ทำให้ปุ๊กเป็นห่วง” เธอพึมพำบอกเบาๆ
“เรื่องพี่โชคเหรอ” ปุ๊กอดไม่ได้ที่จะย้อนถาม
“อย่าเอ่ยชื่อนี้ให้พีชได้ยินอีก” เธอบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาเด็ดขาดจนปุ๊กรู้สึกหวั่นเกรงแทนชายหนุ่มขึ้นมาทีเดียว
“โอเค โอเค ปุ๊กจะไม่พูดถึงอีก ไปพักก่อนนะ เดี๋ยวเย็นนี้ปุ๊กจะทำอะไรอร่อยๆ ให้ทาน” ปุ๊กบอกพร้อมกับดันหญิงสาวให้ไปในห้องพักเล็กๆ ในร้าน
“ขอบคุณอีกครั้งนะ พีชขอนอนพักหน่อย รู้สึกเหนื่อยจัง” เธอบอกยิ้มๆ ก่อนจะปิดประตูเบาๆ
เสียงคุ้นหูจากรายการบันเทิงทางโทรทัศน์ทำให้ปุ๊กต้องหันไปมอง ผลิตโชคกำลังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเป็นนายแบบให้กับนิตยสารชื่อดังฉบับหนึ่ง น้ำเสียงสุภาพ การตอบคำถามที่ฉลาด เธอเอียงคอมองอย่างพิจารณา ใบหน้ายิ้มแย้มที่ทุกคนเห็นนั้น อาจจะดูเหมือนมีความสุข แต่เธอมั่นใจว่า...ไม่ใช่ แม้ว่าใบหน้าหล่อเหลานั้นจะยิ้มแย้มแต่รอยยิ้มนั้นมันไปไม่ถึงแววตาที่มองมาเลยสักนิด
ปุ๊กเดินกลับมานั่งอย่างครุ่นคิด พีชกับพี่โชคต้องมีปัญหากันแน่ๆ เท่าที่เธอเห็นพี่โชครักพีชมาก เธอยังจำแววตาที่พี่โชคมองตามพีชได้เลย แล้วนี่เกิดอะไรขึ้น...ทำไมพีชกลับมาคนเดียว มิหนำซ้ำยังกลับมาอย่างบอบช้ำอีก เธอขมวดคิ้ว เม้มปากอย่างใช้ความคิดก่อนจะหันไปมองประตูห้องที่ปิดสนิท ไม่รู้ว่าคนข้างในจะนอนหลับหรือเปล่า หรืออาจจะกำลังนั่งร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด ตั้งแต่รู้จักกันมาเธอไม่เคยเห็นพีชในสภาพอ่อนแอแบบนี้เลย ปัญหาที่พีชแบกรับอยู่นั้นคืออะไร เธอจะต้องหาคำตอบให้ได้!!!
พีชคนดาร์คชอคโกแลตกับเนยสดให้ละลายหลังจากที่ได้รับความร้อน ปกติเธอจะชอบกลิ่นหอมของเนยสดและชอคโกแลตที่รวมกันเป็นเนื้อเดียว แต่ในวันนี้เธอรู้สึกว่ากลิ่นมันแปลกไปทั้งๆ ที่เธอเพิ่งซื้อวัตถุดิบมาใหม่แท้ๆ เธอขยี้จมูกตัวเองไปมาก่อนจะเทชอคโกแลตเข้มข้นลงในชามแป้งเอนกประสงค์ที่เธอผสมทุกอย่างไว้แล้ว วันนี้เธอจะทำบราวนี่หน้ากรอบ หวานน้อย บราวนี่...ที่ใครบางคนชอบทาน...
เธอเม้มปากจนป็นเส้นตรง ดวงตากลมโตฉายแววหม่นหมอง มือเรียวหยุดชะงักชั่วขณะก่อนจะเริ่มตลบแป้งให้เข้ากับชอคโกแลตอย่างรวดเร็ว เวลาผ่านไปสองเดือนแล้ว เธอควรจะลืมเขาได้แล้ว ไม่ใช่มาคอยคิดถึงอย่างนี้
พีช...เธอจงจำไว้ว่า...ผลิตโชคเป็นคนใจร้าย คำพูดที่พร่ำบอกมานั้น ไม่เป็นความจริง เขาไม่เคยรักใครจริงจัง....
“อุ๊ย” เธออุทานเมื่ออยู่ๆ ภาพตรงหน้านั้นพร่ามัว มองอะไรเบลอไปหมด ทำให้เธอละจากไม้พายที่คนขนมมาจับขอบโต๊ะไว้แน่น เธอหลับตาลงทันทีรู้สึกเหมือนพื้นที่ยืนอยู่นั้นมันยวบยาบ เหงื่อซึมออกตามไรผม เธอรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ หญิงสาวค่อยๆ รูดตัวเองนั่งลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
“พีช พีช เป็นอะไร” ปุ๊กเปิดประตูร้านเข้ามาเป็นจังหวะเดียวกับที่พีชค่อยๆ ทรุดตัวลงไปหลังเคานนเตอร์ เธอรีบวิ่งเข้ามาหาด้วยความตกใจ สอดมือเข้าไปพยุงเพื่อนสาวให้ลุกขึ้นก่อนจะประคองไปนั่งเก้าอี้ มองหน้าพีชที่เวลานี้ซีดขาว เม็ดเหงื่อเล็กๆ ผุดเต็มใบหน้า
“ขอยาดมหน่อย” พีชเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เธอลูบหน้าที่ชื้นไปด้วยเหงื่อด้วยมือที่สั่นอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่
“อ่ะ นี่” ปุ๊กยื่นยาดมให้ เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกหลายครั้ง จนรู้สึกดีขึ้น “เป็นไงบ้าง” ปุ๊กเอ่ยถาม
“ค่อยยังชั่วล่ะ เมื่อกี้ตาลายมากเลย” เธอบอกเบาๆ
“กินอะไรหรือยัง เอาแต่ทำขนม ดูสิจะเป็นลมใช่มั้ย ถ้าปุ๊กเข้ามาไม่ทันจะทำไงเนี่ย” ปุ๊กบ่นพร้อมกับถอนหายใจ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเพื่อนสาวคนนี้ดื้อขนาดไหน
“ไม่เป็นไรแล้ว สงสัยจะหิวข้าว ตั้งแต่เช้ายังไมได้กินอะไรเลย” พีชบอกแล้วยิ้มแหยๆ ให้ปุ๊กที่นั่งมองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง
“ปุ๊กซื้อก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าที่เราไปกินกันบ่อยๆ ขอกากหมูแบบพิเศษมาให้พีชด้วย รอแป้บนะ” ปุ๊กบอกพร้อมกุลีกุจอใส่ชามมาให้เธออย่างรวดเร็วจนพีชอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
“ขอบใจนะ โชคดีของพีชจังที่มีปุ๊กเป็นเพื่อน” เธอบอกยิ้มๆ พร้อมกับรับชามก๋วยเตี๋ยวมาวางตรงหน้า
“อย่าคิดมาก เราเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ปุ๊กจะอยู่ข้างๆ พีชเสมอ” ปุ๊กวางมือไว้บนบ่าเธออย่างอ่อนโยน พีชเอื้อมมือไปจับมือปุ๊กพร้อมกับบีบแน่นก่อนจะปล่อย
“น่ากินจัง” เธอบอกพร้อมกับชิมรสชาติ ก่อนจะรู้สึกเหมือนลมตีขึ้นอีกครั้ง เธอวางช้อน ปิดปากตัวเองก่อนจะวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที โดยมีปุ๊กวิ่งตามไปอย่างตกใจ
พีชจับอ่างล้างหน้าแน่น โก่งคออาเจียนจนน้ำตาไหลซึ่งมันไม่มีอะไรออกมาเพราะตั้งแต่เช้าเธอยังไม่ได้ทานอะไร มีเพียงน้ำเปรี้ยวๆ ที่ผ่านลำคอมาเท่านั้น
“พีช ไหวหรือเปล่า ไปหาหมอมั้ย” ปุ๊กถามรัวๆ ลูบหลังเพื่อนสาวอย่างอ่อนโยน แต่พีชส่ายหน้าไปมา เธอบ้วนปากก่อนจะเงยหน้าขึ้น น้ำตาคลอหน่วย หน้าขาวซีดยิ่งกว่าเดิม
“ไม่เป็นอะไรหรอก พีชคงหิวมาก ปล่อยให้ท้องว่างจนเกินไป” เธอบอกพร้อมกับลูบใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเองอีกครั้ง
“เดี๋ยวปุ๊กพาไปที่ห้องพักแล้วจะอุ่นนมให้ดื่มรองท้องนะ” ปุ๊กประคองเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วงซึ่งพีชเดินตามอย่างว่าง่าย เธอนั่งลงบนเตียงอย่างช้าๆ รู้สึกเวียนศีรษะ มองไปทางไหนก็เบลอไปหมด เธอเอนตัวลงนอนอย่างหมดแรง
“พีชขอนอนแป้บนึงนะ เดี๋ยวคงดีขึ้น” เธอพีมพำบอกเพื่อนก่อนจะหลับตาลง
“แล้วนม...” ปุ๊กพูดไม่จบประโยคเพราะพีชยกมือส่งสัญญาณปฏิเสธ “งั้นนอนเถอะ ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวปุ๊กอบขนมต่อเอง”
พีชลืมตาขึ้นทันทีหลังจากที่ประตูห้องปิดลง เธอมองเพดานสีขาวด้วยดวงตาครุ่นคิด แขนเรียวที่วางแนบลำตัวนั้นถูกยกขึ้นมาวางไว้บนหน้าท้องแบนราบ เธอลูบท้องตัวเองเบาๆ ภาวนาในใจว่า...ขอให้อย่าให้เป็นอย่างที่เธอคิด มันไม่ใช่เวลานี้...เธอหลับตาลงอีกครั้งพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลออกจากหางตาทั้งสองข้าง
ผลิตโชคผลักจานอาหารตรงหน้าออกไปเมื่อได้กลิ่นอาหารที่ชวนผะอืดผะอม เขายกน้ำขึ้นมาดื่มทำให้ปอนด์มองเขาอย่างสงสัย
“อิ่มแล้วเหรอ ทำไมกินน้อยจัง หมูผัดกะปิของโปรดไม่ใช่เหรอ” ปอนด์มองจานข้าวที่ยังไม่พร่องเลยแม้แต่นิด
“เหม็นอ่ะ ผมไม่อยากกินแล้ว” เขาบอกพร้อมขยี้จมูกแล้วหันหน้าหนีทันที
“อะไรกัน เจ้านี้อร่อยที่สุดแล้ว ผลิตยังชมบ่อยๆ เลย” ปอนด์มองอย่างสงสัย อาหารบนโต๊ะเรียกได้ว่าเป็นของโปรดผลิตโชคทั้งนั้น แต่ชายหนุ่มกับกินได้น้อยมาก ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ
“ต่อไปพี่ปอนด์ไม่ต้องซื้ออาหารร้านนี้มาแล้วนะ ผมไม่กินแล้ว เหม็นมากเลย” เขาส่ายหน้าอย่างขัดใจ ดวงตาเรียวยาวมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์
“ผลิต..รู้ตัวมั้ยว่าเดี๋ยวนี้เป็นคนหงุดหงิดง่ายเหลือเกิน บางเรื่องไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย แต่ผลิตก็จะหงุดหงิดจนพวกนักดนตรีไม่กล้าเข้าใกล้แล้ว” ปอนด์ตัดสินใจพูดหลังจากที่เขาเห็นอาการแบบนี้มาสักพัก ชายหนุ่มหันมาสบตาเขาชั่วขณะก่อนจะถอนหายใจ
“ขอโทษครับพี่ปอนด์ ผลิตไม่ได้ตั้งใจ ผลิตก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนผลิตอดทนและใจเย็นกว่านี้” เขาบอกเบาๆ ก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด
“เอาเถอะ ไม่เป็นไรนะ ผลิตอาจจะเหนื่อย เพราะงานอีเว้นท์เยอะ ไหนจะคอนเสิร์ตอีก แล้วเรื่องที่สมุยไปถึงไหนแล้ว” ปอนด์ย้อนถาม
“ผลิตให้เพื่อนไปดูอยู่ ถ้าเสร็จคอนเสิร์ตใหญ่นี้ ผลิตขอพักสองอาทิตย์นะ” ชายหนุ่มหันมาบอกแล้วยิ้มเหมือนกับเด็กชายตัวน้อยที่เขาเคยดูแลเมื่อก่อน
“เอาสิ พี่จัดไว้ให้แล้วอยู่แล้ว” ปอนด์ตอบกลับไปพร้อมกับตบบ่าเบาๆ “แล้วผลิตติดต่อนุชบ้างหรือเปล่า พี่โทรหาแต่เหมือนเบอร์นี้ไม่มีคนใช้แล้ว เราไปขนอมกันมั้ย เผื่อนุชจะอยู่ที่นั่น”
“ไม่” ผลิตโชคกัดฟันจนกรามขึ้นเป็นสันนูน ดวงตาเรียวนั้นฉายแววเคืองขุ่นก่อนจะปรับสายตาเป็นปกติ
“พี่ไม่รู้นะว่า ผลิตกับนุชเลิกกันเพราะอะไร แต่พี่จะบอกว่า...ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำทุกอย่างให้ผลิตอย่างที่นุชทำ พี่ว่า...ผลิตควรจะไปง้อนุชดีกว่านะ แต่อาจจะเหนื่อยหน่อยเพราะเราไม่รู้ว่า ตอนนี้นุชอยู่ที่ไหน” ปอนด์บอกสั้นๆ ก่อนจะลุกแล้วเดินจากไป ทิ้งให้ชายหนุ่มนั่งคิดอยู่คนเดียวเพียงลำพัง มือขาวกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน
แมกไม้
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ธ.ค. 2562, 16:23:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.พ. 2563, 08:53:20 น.
จำนวนการเข้าชม : 500
<< ตอน 21 | ตอน 23 >> |
สิรินดา 24 ธ.ค. 2562, 05:24:26 น.
แวะมาเจิม และแอบมองความรักของผลิต และนุช อิอิ
แวะมาเจิม และแอบมองความรักของผลิต และนุช อิอิ
แมกไม้ 2 ม.ค. 2563, 08:57:07 น.
อุแง๊...พี่ตา นุ้งเขิลลลลล 555
อุแง๊...พี่ตา นุ้งเขิลลลลล 555