A castle wall *กำแพงรัก*
ถ้าความรักคือเรื่องของคนสองคน ต้องมนต์ คงไม่นับรวมอยู่ในนั้นเป็นแน่ เพราะการแอบรักคนที่ไม่มีวันเป็นไปได้อย่าง ปัถย์ มันก็เหมือนยืนบนพื้นดินแล้วแหงนคอมองคนบนหอคอย อย่างไรอย่างนั้น...แต่ก็ไม่รู้ทำไม เสียงข้างในจิตใจก็ร่ำร้องถึงเค้าอยู่ร่ำไปสิน่า..
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 15 : ศึกสองด้าน

บทที่ 15 : ศึกสองด้าน




ฉันขยับตัวหรี่ตาเล็กน้อยเพราะสายตาของตัวเองยังไม่ค่อยสู้แสงแดดยามเช้าเท่าไร จะขยับตัวแล้วก็เจ็บชะมัด พอคิดถึงเรื่องเมื่อคืนก็ได้แต่แอบอมยิ้มกรุ่มกริ่ม....ชีวิตวัยสาวได้เติมเต็มสักที(คิคิ) ทะลึ่งจริงฉัน...ฉันพยายามขยับตัวให้เบาที่สุดกลัวว่าคนข้างข้างจะรู้ตัว





“จะหนีพี่ไปไหน” ฉันหันขวับไปทางต้นเสียงก็เห็นตากลมแป๋วของอีกฝ่าย..นี่ไม่ยอมนอนเลยรึไง





“แป๋มจะไปอาบน้ำค่ะ”





“อาบทำไม...เช้าเช้าอย่างนี้ มาหาอะไรทำกันดีกว่า”





“พี่ปัถย์!!!!!!”

ฉันได้แต่ตะโกนเช่นนั้นเพราะปีศาจหื่นคว้าเอวที่ปราศจากเสื้อผ้าแล้วจัดการพลิกตัวจากนั้นจึงปิดปากฉันด้วยปากของเขาเสียแนบแน่น





“มีเมียน่ารักขนาดนี้...ไม่ไปทำงานแล้ว”





"ไม่เอาแล้วพี่ปัถย์...แป๋มจะไปอาบน้ำ"ฉันพยายามผลักไสเต็มที่ ทั้งที่ร่างกายตัวเองตอนนี้กลับร้อนขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว



"ไม่ให้ไป..พี่จะกอดเมีย"

จบคำพูดคุณปัถย์ก็ก้มลงมาปิดปากฉันอีกครั้งไม่ให้เถียงหรือปฏิเสธใดใดเลย เชื่อเค้าเลย......แล้วความสามารถของพี่ปัถย์ก็เหนือชั้นมากกว่าฉันหลายขุม เขาพยายามทำให้ฉันยอมโอนอ่อนจนได้ แล้วอย่างสามีฉันน่ะเหรอจะทำไม่สำเร็จ...วันนี้ฉันจะได้ออกจากห้องไปไหนไหมเนี่ย







เสร็จจากกิจกรรมผ่านพ้นไป...เราทั้งสองก็ยังคงนอนเล่นกันอยู่บนเตียง ฉันหมดแรงจริงจริง ไม่รู้ว่าคุณปัถย์ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนักหนาเนี่ย คุณปัถย์ก็พยายามวนเวียนอยู่แต่กับตัวฉันไม่เลิกรา....ช้ำไปหมดทั้งตัวแล้ว





“พี่ปัถย์ค่ะ....แป๋มถามอะไรหน่อยสิ” ฉันพยายามจะจับมือที่ตอนนี้มันเริ่มสะเปะสะปะไปจนทั่วร่างของฉัน





“หืม....อะไรค่ะ”







“พี่ปัถย์เอามืออกไปก่อนสิค่ะ”



“ทำไมล่ะ...ก็พี่รักของพี่นี่น่า” บ้า....เขินนะ







“แต่แป๋มเล่าไม่ได้อ่ะ...พี่ปัถย์ปล่อยแป๋มก่อนนะ” หยุดเลยนะ...อย่าเอามือต่ำลงไปกว่านั้น กรี๊ดดดดดดดดดดดดด





“พี่ปัถย์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ” ต้องให้ขึ้นเสียงตลอด





“อ่ะ..อ่ะ มีไรค่ะคนดี”





“พี่ปัถย์รู้จักกับคุณริต้าถึงขั้นไหนค่ะ” การกระทำทุกอย่างของคุณปัถย์หยุดชะงักจริงจริง ฉันได้ยินเสียงถอนหายใจเบาเบาของคุณปัถย์





“แป๋มหมายความว่ายังไง” แหน่ะ...ก็หมายความอย่างที่ถามแหละย่ะ





“ก็หมายความอย่างที่ถามแหละค่ะ...พี่ปัถย์บอกแป๋มเองว่า เราเป็นคนคนเดียวกันแล้ว มีอะไรก็ให้แป๋มถาม แป๋มไม่ชอบเก็บอะไรไว้ค่ะ มันไม่สบายใจ” คุณปัถย์มองหน้าฉันโดยไม่พูดอะไรจนฉันเริ่มอึดอัด





“ถ้าพี่ปัถย์ไม่พูด แป๋มไม่อยากรู้ก็ได้ค่ะ”

ฉันพยายามจะแกะมือที่โอบตัวฉันอยู่





“ริต้าเค้าท้อง”

ฉันเงยหน้ามองคุณปัถย์ทันที...ท้องงั้นเหรอ...ท้องกับใคร...







“ท้อง!!!!!!ท้องกะ....กับ....คะ....ใคร ค่ะ”

หวังเหลือเกินว่าคำตอบจะไม่ใช่แบบที่ฉันคิด







“แป๋มอย่าตกใจนะ”

คุณปัถย์มองหน้าฉันอย่างแน่วแน่ ส่วนฉันได้แต่มองตาคนที่นอนหันหน้าเข้าหากัน...ไม่ให้ฉันตกใจ...มันหมายความว่ายังไง





“นายเต้” สิ้นคำของคุณปัถย์ฉันได้แต่อ้าปากค้าง ใจนึงตกใจกับคำตอบที่ได้รับ แต่อีกใจนึงก็โล่งใจอย่างบอกไม่ถูก...อย่างน้อยน้อยสามีฉันก็ยังปราศจากพันธะในอดีต






“คุณเต้เนี่ยนะ......เป็นไปได้ยังไงค่ะ”







“เรื่องรายละเอียดพี่ไม่ค่อยรู้...แต่ริต้าบอกพี่ว่า...นายเต้เป็นพ่อของลูกเค้า”





“แล้วคุณเต้ทราบเรื่องไหมค่ะ”





“คิดว่าไม่นะ”




“สงสารคุณริต้านะค่ะ”

ฉันนึกสงสารคุณริต้าขึ้นมาทันที...มิน่าล่ะทุกครั้งที่เจอคุณริต้า ฉันถึงพบแต่สีหน้าเศร้าสร้อยของหล่อนตลอด..คุณริต้าคงอึดอัดมากจริงจริง





“แล้วทำไมแป๋มถึงสงสัยเรื่องนี้”





ฉันตัดสินใจย้อนความหลังเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณปัถย์ฟัง ตั้งแต่ที่ฉันตื่นขึ้นมาไม่พบเค้าแล้วเดินไปตามหาคุณปัถย์จนได้ยินเสียงคุณปัถย์พูดคุยกับคุณริต้า







“มิน่าล่ะ..ร้องไห้จนตาบวมเลยใช่ไหม” ฉันพยักหน้าหงึกหงัก







“เรื่องคิดเองเออเองนี่เก่งจริงจริงนะ” ใครได้ยินอย่างนั้นก็ต้องคิดนี่น่า





“แป๋ม...ได้ยินเต็มสองรูหู แล้วคุณปัถย์ก็ไม่พูดอะไรให้ชัดเจนอีกต่างหาก”



“พี่บอกแป๋มตลอดเลยนะ...ว่าแป๋มคือเจ้าสาวคนเดียวของพี่ และที่สำคัญ...พี่รักแป๋มจนไม่มีที่เหลือให้ใครแล้ว เข้าใจไหม”

คุณปัถย์บอกรักฉันอีกแล้ว...หัวใจฉันก็ยังคงไม่ชินกับคำบอกรักจากสามีของตัวเองเสียที







“ทำไมพี่ปัถย์ถึงรักแป๋ม”





“เพราะแป๋มเป็นแป๋ม” เหตุผลยังไม่พออยากรู้อีก





“แค่นี้เองเหรอค่ะ” ฉันมองหน้าคุณปัถย์ทำท่าครุ่นคิดอยู่พักใหญ่...ลีลาจริงจริง





“พี่เป็นผู้ชายที่รักจะใช้ชีวิตแบบมีเหตุผลมาตลอด ไม่ว่าจะเรียนหรือเรื่องทำงาน ไม่ว่าเรื่องจะยากแค่ไหน พี่จะพยายามหาเหตุผลเพื่อแก้ปัญหาทุกครั้ง แต่แป๋มเป็นสิ่งเดียวที่พี่รัก....แบบไม่มีเหตุผล พี่มารู้ตัวอีกที ก็อยากแกล้งแป๋ม อยากเห็นแป๋มหน้าแดง ชอบเห็นเวลาแป๋มหน้าตาเหลอหลา และที่สำคัญ....พี่อยากเห็นทุกอย่างที่เป็นแป๋มแบบนี้....ไปทั้งชีวิต” คุณปัถย์กดจูบลงมาบนหน้าผากของฉัน...ทำเอาฉันซึ้งใจจนน้ำตาปริ่มเลยล่ะ...











“แป๋มก็รักพี่ปัถย์ม๊ากกก..มากเลย”











“เรื่องนั้นพี่รู้ตั้งแต่เราเจอกันแล้ว” หลงตัวเองไม่เปลี่ยนแปลงเลยสามีฉัน...







สุดท้ายแล้วฉันเลยได้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับคุณริต้าและคุณเต้ คุณปัถย์บอกว่าจริงจริงแล้วเขาพอรู้ว่าคุณริต้าคิดยังไงกับเขา แต่เขาคิดกับคุณริต้าแค่น้องสาวทั่วไปเท่านั้น ส่วนเรื่องที่คุณเต้รู้จักกับคุณริต้านั้น คุณปัถย์บอกว่าไม่รู้เรื่องรายละเอียดว่าทั้งสองคนไปคบหากันยังไง แต่คุณเต้รู้จักคุณริต้าก็ตอนที่คุณเต้ไปหาคุณปัถย์ที่บริษัทแล้วจึงพบกับคุณริต้า แต่พี่ปัถย์บอกว่า หลังจากนั้นไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปสานสัมพันธ์กันตอนไหน ฉันได้แต่ถอนหายใจกับเรื่องความรักของคุณริต้า อยากจะหาทางช่วยเหลือคนทั้งคู่ให้สมหวัง (คุณปัถย์บอกว่า สนใจเรื่องของเราจะดีกว่า) ฉันได้แต่คิดว่าจะพยายามหาทางช่วยให้คนคู่นี้ให้ได้คู่กันเสียที อย่างน้อยๆเด็กในท้องของคุณริต้าก็จะได้มีพ่อเป็นตัวเป็นตนสักที



เราทั้งสองกลับบ้านปิลันธบุตรในเวลาเกือบสี่โมงเย็น รู้สึกแปลกที่วันนี้มีจุดหมายใหม่ที่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง





“พี่ปัถย์ค่ะ..แป๋มว่าเรามาหาทางช่วยคุณเต้กับคุณริต้ากันไหม” ทันทีที่เราสองคนอยู่บนห้องกันตามลำพัง ฉันก็เอ่ยถึงความคิดที่ค้างคามาตลอดทาง





“แป๋มจะช่วยอะไรเค้า...ขนาดริต้าเองยังไม่กล้าบอกใครเลย”





“เอาน่า...แป๋มซะอย่าง” คุณปัถย์เดินมาบีบจมูกของฉันพร้อมทั้งพูดว่า





“รอรับความรักจากพี่อย่างเดียวดีกว่าไหม...เรื่องริต้ากับนายเต้ปล่อยให้เป็นเรื่องของพี่ดีกว่า”







“พี่ปัถย์อยากเป็นฮีโร่คนเดียวนี่น่า...”

คุณปัถย์ได้แต่หัวเราะออกมา ฉันเลยทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว ก็คนมันอยากช่วยนี่น่า







“งั้นตามใจ ตอนนี้แป๋มต้องรับศึกสองด้านนะ ถ้าอยากช่วยพี่เรื่องนี้”







“ทำไมต้องสองด้านอ่ะค่ะ”





“ก็ด้านนึง เรื่องของริต้าที่แม่มดน้อยของพี่อยากจะช่วยเหลือเกิน” คุณปัถย์หรี่ตามองฉันอย่างมีเลศนัย





“ไม่มีปัญหา” ต้องมนต์ซะอย่าง สบายสบาย ชิวชิว



“แล้วอีกด้าน.....” คุณปัถย์เดินเข้ามาใกล้ตัวฉันระยะประชิดอีกแล้ว...แล้วดูสายตาซิ โอ๊ย.....หื่นเกินไปแล้ว




“ก็จากพี่.............”

ฉันยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำพูดใดใด ก็โดนคุณปัถย์จัดการทำลายทุกความคิดที่อยากจะเอื้อนเอ่ยออกไปทันทีด้วยปากของคุณสามีแล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามที่มันควรจะเป็นอีกครั้งแต่ทว่าคราวนี้มันกลับร้อนแรงกว่ารอบที่แล้ว (เขินอ่ะ).........ไม่น่าเปิดโอกาสเลย วันนี้รอบที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย.....แงงงงงงงงงงงงงงงงงงง





เช้าวันใหม่ก็ล่วงเลยมาถึง โดยที่ฉันและคุณปัถย์ไม่มีอะไรตกถึงท้อง...ฉันเชื่อเค้าเลยที่ว่า ศึกจากคุณปัถย์ที่ฉันต้องรับมือใหญ่หลวงยิ่งนัก....วันนี้คุณปัถย์ตัดสินใจโทรศัพท์ถึงคุณริต้าเพื่อนัดแนะให้หล่อนมาเจอคุณปัถย์และฉันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง วันนี้คุณริต้าสวมชุดแซกลายดอกไม้ดูสดใสเหมือนเด็กสาววัยแรกรุ่น แต่ใบหน้าของเธอช่างดูอิดโรยยิ่งนัก




“อ้าว...คุณแป๋ม”

คุณริต้ามีสีหน้าไม่สู้ดีนักเมื่อเห็นหน้าฉัน คุณปัถย์จึงอธิบายว่า ฉันอยากที่จะช่วยเหลือคุณริต้าด้วยความจริงใจ และไม่มีวันที่ฉันจะเผยความลับแบบนี้ให้ใครรู้เป็นแน่



“ริต้าทำให้พี่ปัถย์และคุณแป๋มต้องลำบาก”





“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...แป๋มอยากช่วยคุณริต้าจริงจริง”

ฉันรู้สึกถึงรัศมีความเป็นนางเอกของตัวเอง(หลงตัวเองไปนะฉัน)





“แพ้มากไหมริต้า” คุณปัถย์เอ่ยถาม







“มากค่ะ ทานอะไรไม่ค่อยได้เลย ทานออกมาก็อ้วก...ของเปรี้ยวของดองที่คนเค้าว่ากันริต้าก็ทานไม่ได้”



“แล้วจะบอกคุณพ่อเมื่อไร”

เสียงของคุณปัถย์เอ่ยถาม ในขณะที่คุณริต้านั่งประสานมือไว้บนหน้าตักของหล่อน และขยับนิ้วไปมา





“ถ้าบอกคุณป๋าต้องฆ่าริต้าแน่แน่...และที่สำคัญ ถ้ารู้ว่าพ่อของเด็กในท้อง คือ คุณเต้”





“ไม่มีพ่อคนไหนฆ่าลูกตัวเองได้ลงหรอก พ่อริต้าท่านรักเธอมากนะ...คุยกันซะ เรื่องของเธอจะง่ายขึ้น”

คุณปัถย์พูดง่ายแต่ทำยากนะเนี่ย...ว่าแต่ทำไมคุณป๋าของคุณริต้าถึงจะต้องทวีความโกรธถ้ารู้ว่าพ่อของเด็กในท้องคุณริต้าคือคุณเต้ล่ะ





“พี่ปัถย์ค่ะ...ทำไมพ่อของคุณริต้าถึงจะต้องโมโหหนักด้วยถ้ารู้ว่าพ่อของหลานคือคุณเต้” ฉันกระซิบกระซาบถามคนข้างกาย...คนมันสงสัยนี่เนอะ



“หึ...นายเต้มันร้ายจะตาย เจ้าสัวประทีปคงไม่อยากให้ลูกตัวเองลงเอยกับคนแบบนี้หรอก”

ฉันหันขวับไปมองคุณริต้าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทันที คุณปัถย์พูดไม่รักษาน้ำใจเลยนะเนี่ย





“จริงอย่างที่พี่ปัถย์พูดแหละค่ะ...คุณป๋าโกรธควันออกหูแน่” คุณริต้าพยักหน้าพร้อมทั้งบอกยืนยันเสียงอ่อย





“บอกแป๋มกันได้ไหมค่ะ...ว่าทำไมต้องพูดเหมือนพี่เต้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น”



“หึ...แป๋มยังเด็กนัก...ดูคนแบบนี้ไม่ออกหรอก” เสียงคุณปัถย์เอ่ยขึ้น....ติดจะมีอารมณ์โกรธอยู่เนืองเนือง คุณริต้าก็ได้แต่ก้มหน้าอยู่อย่างนั้น ตกลงจะได้ฟังเรื่องของคุณเต้อะไรนี่รึเปล่าเนี่ย





ฉันแค่สงสัยว่า คนลักษณะอย่างคุณเต้ที่ดูไม่มีพิษมีภัยจะถูกผู้ใหญ่ของบ้านคุณริต้าหมายหัวอะไรได้มากมายขนาดนี้ แล้วเรื่องของคุณริต้ากับคุณเต้นี่ไปลงเอยกันจนมีเด็กในท้องเกิดมาได้อย่างไร ฉันหวังว่าจะได้รับความกระจ่างในเรื่องราวเหล่านี้โดยเร็ว





“คุณริต้าพอจะเล่าให้แป๋มฟังได้ไหมค่ะ”

ฉันเปลี่ยนเป้าหมายจากที่ร้องขอให้คุณปัถย์เล่าให้ฟัง เพราะคิดดูว่าหน้าตาคนข้างกายฉันก็บอกบุญไม่รับอย่างเต็มที่เมื่อเอ่ยชื่อ คุณเต้ แล้วตอนนี้เขาคงทนได้ยินชื่อคุณเต้ไม่ไหว ขอตัวออกไปรับมะเร็งอยู่ข้างนอกนู่น...เชื่อคุณปัถย์เขาเลย



“ถ้าริต้าเล่าให้ฟัง...รบกวนคุณแป๋มช่วยเก็บให้รู้แค่เราสามคนเท่านั้นนะคะ” คุณริต้าบอกด้วยสีหน้าจริงจัง







- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
มาแล้วค่ะ..บทที่สิบห้า ความจริงเริ่มกระจ่างทีละนิดแล้ว
อย่างน้อยน้อยตอนนี้สามีสุดที่รักของป๋อมแป๋มก็ไร้พันธะ เย้เย้
คุณปัถย์นี่หื่นทุกสถานการณ์จริงจริง....ฮ่าาาาาาาาา
ตอนหน้าก็จะได้รู้เรื่องราวของคุณเต้กับคุณริต้าแล้วค่ะ
ส่วนจะเกี่ยวกับคู่ข้าวใหม่ปลามันหรือไม่ต้องติดตามกันค่ะ


ขอบคุณทุกการรอคอย รวมทั้งรีวิว และ คอมเม้นทั้งหลายที่ให้กำลังใจป๋อมแป๋มนะค่ะ
ไรเตอร์ปลื้มใจจจจจ...
รักคนอ่านเด้อ จุ๊บจุ๊บ



คุณิณพัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ส.ค. 2554, 17:19:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ส.ค. 2554, 17:19:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 2479





<< บทที่ 14 : Just married    บทที่ 16 : ความจริงที่เปิดเผย >>
Auuuu 21 ส.ค. 2554, 21:28:10 น.
ท่าทางนายเต้จะร้ายมิใช่น้อย


xeve 21 ส.ค. 2554, 23:15:20 น.
บอกความจริงมาเลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account