A castle wall *กำแพงรัก*
ถ้าความรักคือเรื่องของคนสองคน ต้องมนต์ คงไม่นับรวมอยู่ในนั้นเป็นแน่ เพราะการแอบรักคนที่ไม่มีวันเป็นไปได้อย่าง ปัถย์ มันก็เหมือนยืนบนพื้นดินแล้วแหงนคอมองคนบนหอคอย อย่างไรอย่างนั้น...แต่ก็ไม่รู้ทำไม เสียงข้างในจิตใจก็ร่ำร้องถึงเค้าอยู่ร่ำไปสิน่า..
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 16 : ความจริงที่เปิดเผย


บทที่ 16 : ความจริงที่เปิดเผย




เรื่องที่คุณริต้าเล่าให้ฟังนั้น ฟังแล้วแทบช๊อคเป็นลมตรงนั้นเสียให้ได้ หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดฉันไม่อยากเข้าใกล้คุณเต้เลย....คนอะไรเหลี่ยมจัดชะมัด คุณริต้าเธอยอมรับว่าเธอเคยแอบรักคุณปัถย์แต่เขาไม่รับรักและยังคงวางตำแหน่งน้องสาวไว้เป็นอย่างดี ประกอบกับเวลานั้นคุณเต้ได้เข้ามาทำความรู้จักหล่อนด้วย คุณริต้าไม่เคยทราบมาก่อนว่า คุณเต้นั้นได้คบหากับเพื่อนนางแบบในวงการ เธอมารู้อีกทีก็ตอนที่เริ่มมีใจให้คุณเต้ไปแล้ว เธอจึงเริ่มตีตัวห่างออกจากคุณเต้ เพราะเกรงว่าจะผิดใจกับเพื่อนในวงการเดียวกัน ในเวลานั้นเธอมองเห็นที่พึ่งเดียวที่มีนั่นก็คือคุณปัถย์ แต่กลับกลายเป็นว่าเรื่องมันยิ่งยุ่งยากเข้าไปอีกเมื่อคุณเต้เข้าใจผิด คิดว่าคุณริต้าหักหลังคุณเต้โดยแอบมาคบกับคุณปัถย์


“เดี๋ยวก่อนนะค่ะ คุณริต้า...แป๋มขอถามอะไรอย่างนึง” ฉันเอ่ยขัดขึ้น แล้วหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่อยู่ในกระเป๋า เปิดรูปที่ฉันได้รับเมื่อห้าเดือนก่อนตอนที่คุณปัถย์ไปดูงานที่ประเทศจีน


“รูปนี้...นี่ ใช่คุณริต้าไหมค่ะ” คุณริต้ามองดูรูปภาพในมือถือแล้วถึงกับอุทานออกมา



“คุณแป๋มได้รูปนี้มายังไงค่ะ”



“มีคนส่งมาให้ค่ะ แป๋มก็ไม่ทราบว่าใครส่งมา โทรกลับไปเบอร์ที่ส่งมาก็ไม่ติด”

“รูปนี้ริต้าเองค่ะ...ตอนนั้นคุณเต้พยายามตอแยริต้าอย่างหนักค่ะ ริต้าเลยตัดสินใจรับงานโฆษณาที่จีน แล้วบังเอิญพี่ปัถย์ไปดูงานของคุณป๋าด้วย ริต้าก็เลยนัดให้ออกมาทานข้าวด้วยกัน...อย่าบอกนะคะว่า คุณแป๋มทะเลาะกับพี่ปัถย์เรื่องรูปนี้”

“อ่อ...ยังหรอกค่ะ..แค่เกือบเกือบเอง ปกติเวลาแป๋มมีเรื่องอะไร แป๋มมักจะถามพี่ปัถย์ตลอดค่ะ คือ....แป๋มไม่ค่อยชอบเก็บเรื่องไม่สบายใจไว้กับตัวน่ะค่ะ” ฉันได้แต่บอกแล้วส่งยิ้มแห้งๆไปให้ ประกอบกับคนที่รับมะเร็งอย่างเต็มที่เดินเข้ามาพอดี คอยดูนะ ถ้าท้องเมื่อไรจะจับเลิกให้ได้....คอยดู!!!!!!!!



“คุยเรื่องอะไรกัน” คุณปัถย์เอ่ยถามทันทีที่เข้ามา


“ริต้ากำลังอธิบายเรื่องรูปที่คุณแป๋มได้รับน่ะค่ะ” คุณปัถย์เหลือบสายตามามองฉัน


“ก็แป๋มแค่ถามว่ารูปนี้ใช่คุณริต้ากับคุณปัถย์รึเปล่า เท่านั้นเอง”



“ไม่ใช่ตอนเย็นกลับไปนอนร้องไห้ ไล่พี่ไปนอนนอกห้องอีกนะ” ใส่ร้าย..ใครจะไปไล่ยักษ์ตนนี้ได้ย่ะ


“ริต้าว่านะค่ะ...รูปนี้ได้มาจากคนของคุณเต้ที่เค้าส่งให้คอยตามริต้าแน่แน่” ฉันได้แต่นั่งจดจำข้อมูล ถึงขั้นตามตัวเลยเหรอเนี่ย...ว่าไปเราก็เคยถูกตามตอนไปดูตัวครั้งนั้น..วื่อออออ เต็มไปด้วยคนโรคจิต


“ทำไมถึงคิดแบบนั้น” คุณปัถย์กล่าวขึ้น


“ก็หลังจากที่ริต้ากลับจากจีน คุณเต้ก็พยายามจะนัดริต้าให้ออกไปทานข้าวด้วยตลอด แต่ริต้าบอกปัด เพราะตอนนั้น เพื่อนริต้าก็เหมือนเริ่มระแคะระคาย แล้วคุณเต้ก็พูดกับริต้าว่า เค้ามีหลักฐานจะประจานริต้า ถ้าริต้าไม่ไปพบเค้า แล้วเค้าก็ต่อว่าเรื่องที่ริต้าคิดจะหันไปคบพี่ปัถย์”
คุณปัถย์ทำท่าทางใช้ความคิดอยู่พักใหญ่ แล้วจึงเอ่ยขึ้น

“วันรุ่งขึ้นหลังจากที่แป๋มได้รูป...นายเต้มันมาหาแป๋มที่บ้านใช่ไหม” ฉันพยักหน้าหงึกหงึก


“แต่พี่เต้มาถามเรื่องงานแต่งของเราสองคนนะค่ะ”


“พี่เต้เคยพูดว่า ถ้าริต้าคิดตะหันไปคบพี่ปัถย์ ก็อย่าคิดว่าจะสมหวัง เพราะเค้าจะทำทุกทางให้ริต้าและพี่ปัถย์ไม่สมหวัง



“ไปกันใหญ่ล่ะ พี่ว่าพี่ต้องคุยกับนายเต้...ปล่อยไว้นานเรื่องจะยิ่งแย่”
คุณปัถย์พูดจบก็ต่อโทรศัพท์ถึงคุณเต้ทันที
“เดี๋ยวนายเต้จะมาอีกชั่วโมงนึง” คุณปัถย์บอกหลังจากที่วางสาย



“งั้นริต้าขอตัวกลับก่อนนะค่ะ”



“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น....อยู่เจอหน้ามันสิ ดูสิว่ามันจะทำหน้ายังไง” คุณริต้าได้แต่ทำหน้าพะอืดพะอม ฉันล่ะหวั่นใจจริงจริง สงครามจะเกิดในประเทศไทยไหมเนี่ย


เราทั้งสามคนนั่งนับเวลาหนึ่งชั่วโมงถอยหลังด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป คงเป็นฉันคนเดียวล่ะมั้งที่หวาดกลัวสามีตัวเองจะไปวางมวยกับฝ่ายที่ถูกเชิญมาเข้าให้ ยิ่งชอบปะทะคารมกันอยู่บ่อยๆ ใช้เวลาไม่นานเกินกว่าที่คุณปัถย์บอก คุณเต้ก็มายืนฝั่งตรงข้ามของพวกเราแล้ว


“ว่าไงครับ...วันนี้ถึงนัดผมออกมาได้ แล้วนี่ใครล่ะ....” ทันทีที่คุณริต้าหันไป คุณเต้ถึงกับสีหน้าเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด


“สวัสดีค่ะ...คุณดิษฎา” โอ้ววว...มาโหมดชื่อเต็ม นี่ฉันเกือบลืมชื่อเขาไปแล้วนะเนี่ย


“หึหึ...แล้วไงครับวันนี้รวมตัวกันพร้อมเลย” คุณเต้เปลี่ยนสีหน้าจากตกใจเป็นยิ้มมุมปากเล็กน้อย


“พี่มีเรื่องต้องคุยกับนาย” คุณปัถย์เอ่ยขัดขึ้นทันที



“ฟังดูซีเรียสจังนะครับ....สงสัยจะเรื่องใหญ่” คุณเต้นี่แอบกวนประสาทจริงจริง



“ถ้านายไม่คิดจะนั่งก็ยืนต่อไป” เยี่ยมมากสามี....ไปพูดแบบนั้นได้ไงงงงงงงงงง



“เอ่อ...แป๋มว่าคุณเต้นั่งก่อนนะค่ะ....” ต้องมนต์ฝ่ายประนีประนอม..ออกตัว

คุณริต้าขยับตัวเองให้ไปนั่งริมสุดของโซฟาเมื่ออีกฝ่ายทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน...แสดงความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด

“นายเป็นคนส่งรูปของฉันกับริต้าให้แป๋มใช่ไหม” คุณปัถย์หยิบมือถือจากมือฉันที่เปิดรูปเหล่านั้นค้างไว้อยู่ส่งให้คุณเต้



“อ้าว...ผมนึกว่ารู้นานแล้ว แหม...ขนาดรูปชัดขนาดนี้ งานแต่งก็มีต่อไป หึ.....” เฮ้...กวนไปแล้วนะเฟร่ย



“ก็ยังดีที่มีความเป็นสุภาพบุรุษยอมรับว่าตัวเองทำ” สามีเก่งมากค่ะ.....



“แต่ผลที่ได้มันกลับตรงข้ามกับที่ผมหวังนะสิ...อยากให้เลิกกันมากกว่าแต่งงานกันด้วยซ้ำ” กรี๊ดดดดด..ทำไมพูดจาได้น่าตบแบบนี้



“คุณนี่มัน......เลว จริงจริง” คุณริต้าที่ทนไม่ไหว ถึงกับหันหน้ามาต่อว่า...ดีค่ะ ด่าเลย


“ฮ่า...เพิ่งรู้เหรอริต้า...แล้วรู้ไหมว่าทำไมผมถึงทำแบบนี้” คุณเต้หันไปส่งสายตาที่แสนจะร้ายกาจกับคุณริต้า



“เพราะสันดานคุณไง” เจ็บแสบมากคุณริต้า


“หึ...สันดานผมก็คงมีส่วนแต่ที่ผมทำแบบนี้เพราะคุณต่างหาก”



“เกี่ยวอะไรกับฉัน” นี่มันเริ่มเป็นเรื่องในครอบครัวแล้วนะ....อยากจะชวนสามีกลับบ้านกันไหม

“ถ้าคุณไม่ปฏิเสธผม..ผมก็คงไม่ต้องทำแบบนี้ อยู่ดีดีคุณก็เดินออกไปจากชีวิตผม แล้วดันไปคบคุณปัถย์ คุณจะให้ผมคิดยังไง ผมจะบอกให้รู้ไว้นะริต้า...คุณจะชอบใครก็ได้แต่ต้องไม่ใช่มัน” คุณเต้พูดพร้อมทั้งชี้หน้ามาที่สามีฉันทันที เล่นเอาฉันต้องห้ามทัพเป็นการใหญ่


“นายอย่ามาเรียกฉันแบบนั้นนะ” สามีฉันเริ่มอารมณ์ขึ้น


“แป๋มว่าเราค่อยค่อยคุยกันดีไหมค่ะ”
ต้องห้ามทัพ แม้จะอยากตะบันหน้าคุณเต้มากเพียงใด


“ผมรู้สึกเสียศักดิ์ศรีมากแค่ไหนคุณรู้ไหมริต้า...คุณชอบพี่ปัถย์มาก่อนผมพอรู้ แต่ในเมื่อคุณก็แสดงออกว่าคุณก็ชอบผมเหมือนกัน แล้วอยู่ดีดีคุณก็ตีตัวออกห่างผม แล้วกลับไปคบพี่ปัถย์อีก คุณจะให้ผมรู้สึกยังไง” ตอนนี้ทั้งร้านเริ่มมองเราทั้งสามคนแล้ว....ง่า........


“ฉันไม่เคยคบกับพี่ปัถย์ คุณรู้ไว้ซะด้วย และที่ฉันไม่สานต่อกับคุณ เพราะคุณเป็นแฟนกับเพื่อนของฉัน ฉันไม่หน้าด้านพอที่จะไปแย่งของของใคร โดยเฉพาะของเพื่อน”


“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมคบกับเพื่อนคุณ”



“ก็เพื่อนฉันบอก”



“แล้วคุณก็เชื่อ!!!!!แปลกนะที่คุณไม่เคยถามผม ขนาดวันที่คุณกับผมมีอะไรกัน คุณยังไม่ปริปากจะถามผมสักคำ” ฉันรีบเอามืออุดปากทันทีที่ได้ยิน เรื่องแบบนี้ไม่ควรพูดออกสื่อนะ



“คุณเต้!!!!!!คุณพูดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง”



“ก็แล้วคุณหนีผมไปทำไม...ทำไมต้องหลบหน้า ทำไมต้องพยายามอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้”



“คุณจะให้ฉันกลับไปพูดคุยกับคุณได้ยังไง ในเมื่อคุณก็มีเพื่อนฉันทั้งคน”



“ผมไม่เคยคบกับเนส...ไม่เคยคิดจะคบด้วยซ้ำ...คุณนั่นแหละที่หูเบา เชื่อทุกคำที่คนอื่นพูด”



“นี่กลายเป็นฉันผิดรึไงห๊ะ” น่าน...คุณริต้าขึ้นเสียงสูง



“แล้วมันถูกนักรึไง...ที่ทิ้งผมไปโดยไม่พูดอะไรกับผมสักคำ” ฉันได้ยินเสียงดังจากคนทั้งคู่แล้วก็รู้สึกหวาดกลัว นี่มันอะไรกันนักเนี่ย คุณริต้าเธอเข้มแข็งกว่าที่ฉันคิดไว้มาก เพราะฉันเห็นแต่หยดน้ำตาที่มันสั่นระริกในดวงตาคู่สวยเท่านั้น


“แล้วรู้ไหมว่าทำไมผมถึงให้คนตามคุณ เพราะผมอยากรู้ว่าคุณจะไปกับใคร แล้วผมก็พบว่า คุณไปกับพี่ปัถย์ นั่นมันทำให้ผมยิ่งแค้น แค้นที่ทำอะไรคุณสองคนไม่ได้ ผมเลยคิดจะทำลายความรักของพี่ปัถย์กับแป๋มแทนไง” คุณเต้ชี้มือมาทางฉันและคุณปัถย์ ไม่น่าเชื่อ...ว่าจะมีคนริษยาความรักของฉัน คุณเต้ร้ายกาจมาก


“เสียใจด้วยนะคุณเต้ที่คุณทำไมสำเร็จ เพราะพี่ปัถย์เค้ารักคุณแป๋มมาก และคุณแป๋มก็รักพี่ปัถย์มากเช่นกัน...คนอย่างคุณทำอะไรความรักของเค้าไม่ได้หรอก แล้วที่สำคัญคุณเองที่แพ้...แพ้ที่คิดจะใช้วิธีแบบนี้ทำลายความรักของเค้าทั้งสองคน” คุณริต้ายืนขึ้นแผดเสียงดังลั่นร้านเลยคราวนี้ ก่อนที่เธอจะคว้ากระเป๋าเดินออกจากร้านไปทันที ทิ้งให้เราทั้งสามคนนั่งมองหน้ากันไปมา


“สะใจนายแล้วใช่ไหม” คุณปัถย์เอ่ยทักขึ้น



“ผมแค่รักริต้ามาก...และทนเห็นเค้าไปรักพี่ไม่ได้”



“วิธีที่นายแสดงออกมันเหมือนไม่ใช่รัก....มันเหมือนอยากเอาชนะ และที่สำคัญที่ฉันอยากบอกให้นายรู้ ริต้าก็รักนาย แต่นายนั่นแหละที่ทำให้เค้าไม่เชื่อมั่นในความรักของนายที่มีต่อเค้า...ทุกครั้งที่เค้าอยู่กับฉัน เค้ามักจะพูดแต่เรื่องนายกับเพื่อนของเค้า...."



“ผม...........” ฉันเห็นสีหน้าของคุณเต้ซีดลงทันทีที่คุณปัถย์พูดจบ



“นายนั่นแหละที่ไม่ได้รักริต้า...สมควรแล้วที่เค้าไม่ยอมบอกว่า ท้องกับคนอย่างนาย”
คุณเต้ทำหน้าตาตกใจอย่างเต็มที่ที่ได้ยินคำว่าท้อง แต่ทว่าคุณปัถย์กลับลุกขึ้นจากโต๊ะไปอีกคน ฉันกำลังหันไปคว้ากระเป๋าของตัวเอง เตรียมตัวจะลุกตามคุณปัถย์ไป



“พี่ขอโทษนะน้องแป๋ม” ฉันได้แต่ชะงัก หยุดทุกอิริยาบถ



“เอ่อ.....”



“พี่คงเลวอย่างที่ริต้าบอก...พี่เห็นแก่ตัวเกินกว่าที่เค้าจะรับเป็นพ่อของลูกเค้าจริงจริง”


“แค่พี่เต้คิดได้ก็ดีแล้วค่ะ...ส่วนเรื่องของแป๋ม แป๋มไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ เพราะวันนี้พี่ปัถย์กับแป๋มก็ลงเอยกันได้ด้วยดี จริงจริงแป๋มต้องขอบคุณพี่เต้ด้วย หลายครั้งที่แป๋มหวั่นไหวไปกับคำพูดของพี่เต้ แต่พี่ปัถย์ก็พยายามแสดงให้แป๋มเห็นว่า เค้ารักแป๋มจริง”

“น่าอิจฉาน้องแป๋มนะ...อิจฉาพี่ปัถย์ด้วยที่มีคนรักที่มั่นคงแบบน้องแป๋ม”


“ถ้าเรารักใครสักคนด้วยใจจริง...ไม่ว่าจะมีอุปสรรคแค่ไหนมันก็จะเล็กน้อยไปทันทีและแป๋มก็ยังเชื่อว่า...ถ้าเราแค่หันหน้าคุยกันมากขึ้น เรื่องยากมันก็จะง่ายขึ้นค่ะ” ฉันทิ้งท้ายไว้เท่านี้ เพราะสามีฉันยืนทะมึงถึงตรงประตูทางออกหน้าร้านอาหารแล้ว


“แป๋มเชื่อว่าถ้าพี่เต้รักคุณริต้าอย่างที่เต้บอกจริงจริง ทุกอย่างจะผ่านไปได้ค่ะ”


ฉันเดินออกมาพบกับสามีหน้ายักษ์ส่งสายตาโกรธที่ฉันบังอาจไปนั่งคุยกับคุณเต้นานสองนาน แต่ฉันก็ยังยิ้มกว้างส่งไปให้สามีสุดที่รักอยู่ดี จนคุณปัถย์เลิกคิ้วสูงมองหน้าฉันประหนึ่งว่าฉันเป็นสับประหลาด ฉันจึงตัดสินใจหอมแก้มของสามี


“รักพี่ปัถย์จังค่ะ”


“อารมณ์ไหนเนี่ย” คุณปัถย์ได้แต่ทำสีหน้างุงงง แต่ฉันรู้ว่าสามีฉันกำลังเขิน



“แป๋มขอบคุณที่พี่ปัถย์รักแป๋มค่ะ” ฉันจับมือสามีให้เดินไปที่รถด้วยกัน

“พี่ต้องขอบคุณที่แป๋มรักพี่ไหม”
ฉันจึงหยุดเดินหันมองหน้าสามี แล้วจึงตัดสินใจยื่นแก้มของตัวเองให้ คุณปัถย์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันทันที


“พี่มีวิธีขอบคุณที่ดีกว่าแป๋มทำกับพี่....เยอะเลย”
ฉันได้ยินแต่เสียงกระซิบเท่านั้น รู้ตัวอีกทีคุณปัถย์ก็ลากฉันมายังรถของเราแล้ว วิธีขอบคุณของคุณปัถย์คงเป็นแบบพิเศษของเขาแน่แน่



แม้ว่าเรื่องราวของคุณเต้ที่พยายามจะเข้ามาใกล้ชิดฉันเพียงเพราะเค้าต้องการจะเห็นความผิดหวังจากคุณปัถย์ โดยใช้ฉันเป็นตัวปั่นหัวเล่นก็ตาม แต่ฉันก็ยังแอบคิดในด้านดีว่าคุณเต้คงแค่อยากจะมีคุณริต้าอยู่ข้างกายเขา โดยคุณเต้หลงลืมที่จะแสดงความจริงใจให้คุณริต้าได้รับรู้ แต่เค้ากลับแสดงออกตรงกันข้ามโดยพยายามประชด แต่ทั้งที่ในใจก็เป็นห่วงคุณริต้า ไม่งั้นคงไม่ส่งคนตามตลอดเวลาหรอก...ฉันได้แต่หวังว่า ขอให้ความรักของคนทั้งคู่จะสมหวังในเร็ววันแล้ววัน ไม่ว่าจะเรื่องลูกในท้อง หรือ พ่อตาที่ชื่อเจ้าสัวประทีป..เรื่องแบบนี้มันเหนือความสามารถของฉันจริงจริง ตอนนี้คงต้องรับมือกับสามีสุดหื่นแทน...เฮ้อออออ.....แต่จากเรื่องราวทั้งหมดที่ได้รู้......สามีสุดที่รักคนนี้ ไม่เคยนอกลู่นอกทาง แค่เพียงเท่านี้ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้รักผู้ชายคนนี้แล้วล่ะ




- - - - - - - - - - - - - - -





เย้เย้ จบตอนแล้ววววววว....สุดท้ายเรื่องราวก็ลงเอยได้ด้วยดี
แต่งานนี้นายเต้กับริต้าจะเป็นยังไง ขอไม่ขโมยซีน ฮันนีมูนตอนหน้าแล้วกันเนอะ
เอาแบบรวบรัดพอ ไปเกาะล้อเครื่องบินตามป๋อมแป๋มไปฮันนีมูนดีกว่าาาาา
ปล.ตอนหน้าก็จบล่ะน้าาาาา....แต่มีตอนพิเศษอีกสักสองสามตอน ต้องดูว่าจะเพิ่มตรงไหนยังไงดี


จะพยายามปั่นให้เสร็จเร็วๆ
แอบสารภาพว่ากำลังปั่นคำสารภาพหมดไส้ของคุณปัถย์อยู่ แฮ่ๆๆๆ
รักคนอ่านเด้อออออออ....



คุณิณพัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ส.ค. 2554, 23:41:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ส.ค. 2554, 23:41:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 2526





<< บทที่ 15 : ศึกสองด้าน    บทที่ 17 : My sweetest honeymoon - - ตอนจบ >>
Auuuu 23 ส.ค. 2554, 00:41:23 น.
หวังว่านายเต้จะคิดได้อย่างถ่องแท้จริงๆนะคะ :)))


pretty 23 ส.ค. 2554, 09:08:39 น.
รอๆๆๆๆ


mhengjhy 23 ส.ค. 2554, 10:07:58 น.
รอด้วยคนค่าาาา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account