ดุจจันทร์ดั้นเมฆ: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ตรีเมฆ’ ไม่ได้เกิดมามีชีวิตเลวร้าย เขาไม่ได้มีปมด้อยจนต้องสร้างจุดเด่น ตรงกันข้ามเขามีพร้อมทุกอย่าง แต่ความ ‘พร้อม’ นั้นทำให้ชายหนุ่มใช้ชีวิตอย่างประมาทจนสุดท้ายต้องถูกตราหน้าว่าเป็น ‘ไอ้ขี้คุก’ เขาผลาญทำลายชีวิตทุกคนที่รักเขา และในวันที่เขาได้รับอิสรภาพทางกาย จิตใจเขากลับถูกความรู้สึกผิดพันธนาการแน่นหนา
‘จันทน์กะพ้อ’ หล่อนมองโลกใบนี้สวยงามไปเสียหมด มองทุกอย่างเป็นบวกจนบางครั้งพลาดพลั้งกลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ แต่หล่อนกลับไม่สิ้นหวังที่จะมองแต่แง่งามของชีวิต เมื่อก้าวเข้ามาในครอบครัวที่เว้าแหว่งของตรีเมฆ หล่อนกล้าๆ กลัวๆ ชายหนุ่มห่าม ดิบ เถื่อนที่พ่วงมากับป้าชราและเด็กน้อยผู้น่าสงสาร
เขามันต้องตำราผู้ชายที่พ่อสอนนักหนาว่าให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้
ใจหนึ่งหล่อนก็อยากทำอย่างนั้น แต่อีกใจก็อยากเอาชนะความหยาบกระด้างของเขา อยากให้คนที่เอาแต่มองโลกตาขวาง หันมาเห็นแง่งามของชีวิตเสียบ้าง
แต่โดยที่หล่อนไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ดวงตาคมดุคู่นั้นกลับเอาแต่จับจ้องหล่อนไม่วาง ในเมื่อหล่อนกล้ามาส่องแสงวับๆ แวมๆ ในหัวใจที่มืดดำของเขา เมฆร้ายก้อนนี้ก็จะโอบล้อม ตีประชิด กักกั้นไว้ไม่ให้หล่อนเคลื่อนคล้อยหนีหายไปทางไหนได้อีกเลย
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง พนาพร่ำรัก และฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา) และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นแนวโรแมนติกดราม่า พาฟิน และอบอวลในหัวใจมากๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีความน่ารักของครอบครัวที่มาพร้อมกับปัญหาสังคมในแง่มุมต่างๆ ด้วย หอมดึกบอกเล่าชีวิตคนรากหญ้าผ่านตัวละครได้มีมิติมากๆ #รับประกันความสนุกเช่นเคย!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้าน Banniyayindy(Budsara Thongrussamee) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘จันทน์กะพ้อ’ หล่อนมองโลกใบนี้สวยงามไปเสียหมด มองทุกอย่างเป็นบวกจนบางครั้งพลาดพลั้งกลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ แต่หล่อนกลับไม่สิ้นหวังที่จะมองแต่แง่งามของชีวิต เมื่อก้าวเข้ามาในครอบครัวที่เว้าแหว่งของตรีเมฆ หล่อนกล้าๆ กลัวๆ ชายหนุ่มห่าม ดิบ เถื่อนที่พ่วงมากับป้าชราและเด็กน้อยผู้น่าสงสาร
เขามันต้องตำราผู้ชายที่พ่อสอนนักหนาว่าให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้
ใจหนึ่งหล่อนก็อยากทำอย่างนั้น แต่อีกใจก็อยากเอาชนะความหยาบกระด้างของเขา อยากให้คนที่เอาแต่มองโลกตาขวาง หันมาเห็นแง่งามของชีวิตเสียบ้าง
แต่โดยที่หล่อนไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ดวงตาคมดุคู่นั้นกลับเอาแต่จับจ้องหล่อนไม่วาง ในเมื่อหล่อนกล้ามาส่องแสงวับๆ แวมๆ ในหัวใจที่มืดดำของเขา เมฆร้ายก้อนนี้ก็จะโอบล้อม ตีประชิด กักกั้นไว้ไม่ให้หล่อนเคลื่อนคล้อยหนีหายไปทางไหนได้อีกเลย
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง พนาพร่ำรัก และฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา) และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นแนวโรแมนติกดราม่า พาฟิน และอบอวลในหัวใจมากๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีความน่ารักของครอบครัวที่มาพร้อมกับปัญหาสังคมในแง่มุมต่างๆ ด้วย หอมดึกบอกเล่าชีวิตคนรากหญ้าผ่านตัวละครได้มีมิติมากๆ #รับประกันความสนุกเช่นเคย!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้าน Banniyayindy(Budsara Thongrussamee) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 4 -100% + วางขาย eBook
กีสสสสสส แจ้งข่าวล่ามาแรงค่ะทุกคน ดุจจันทร์ วางขายในรูปแบบ eBook ที่เว็บ mebmarket แล้วนะคะ ตอนนี้พิเศษให้มีโปรฯ เปิดตัว ลดหนักถึง 26% เลยค่ะ! ไปโหลดกันๆๆๆๆ ถึงแค่ 20 เมษายนนี้เท่านั้นนะคะ พ้นจากนี้ไปจะกลับมาเป็นราคา eBook ปกติค่ะ
***********
เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ตรีเมฆยังไม่กลับมาในห้องครัว มื้อค่ำตั้งไว้รอท่า และสมาชิกตัวน้อยที่สุดในบ้านเริ่มมือไม้อยู่ไม่สุข ทำท่าจะแอบหยิบขนุนเนื้อสีจำปาหอมกรุ่นเข้าปากหลายรอบ
“เพชร ไปตามลุงยักษ์มากินข้าวไป”
“เพชรกลัว”
“กลัวอะไร เมื่อตะกี้ครูยังเห็นเถียงเขาอยู่ฉอดๆ จริงไหม”
“ครับ” เด็กชายว่าแล้วก็ไถลตัวลงจากเก้าอี้ เดินแบบกล้าๆ กลัวๆ ไปทางปีกบ้านด้านที่ตรีเมฆอาศัยอยู่ หายไปไม่นานก็วิ่งตึงๆ กลับมาอย่างไม่กลัวดุ ตามมาด้วยตรีเมฆที่ผมเปียกหมาดเพราะเพิ่งสระใหม่ๆ เขาสวมเสื้อกล้ามกับกางเกงเนื้อนิ่มสบายแบบเดิม มือที่เคยพันผ้าเช็ดหน้าไว้แปะผ้าพันแผลเรียบร้อย รวมทั้งที่หัวไหล่และต้นคอ
“ลุงยักษ์ ตัวอะไรกัดคออะ ดูสิ กัดตั้งสองสามที่ ลุงยักษ์เล่นซนปีนต้นมะม่วงเรอะ”
“แสนรู้” ตรีเมฆพึมพำ ตวัดสายตาดุมองข้ามโต๊ะมาทางหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามราวกับจะคาดโทษหล่อน
มันเรื่องอะไรกันเล่า ฉันไม่ได้เล่านะว่าคุณไปเล่นจ้ำจี้กับ... เอ่อ ฉันไม่รู้เรื่องด้วยนะ!
“เจ็บไหมลุงยักษ์”
“พอแล้วเจ้าเพชร ห้ามพูดเวลากินข้าว ยายบอกแล้วยังไงล่ะ”
“ครับยาย” เด็กชายทำท่าหงอยได้สักครึ่งวินาทีก็เริงร่ากับอาหารสารพัดที่วางอยู่ตรงหน้าดังเดิม
ตาเด็กน้อยดีนัก เขายังเห็นรอยสักเล็กๆ รูปสายฟ้าบนก้อนเมฆที่ต้นแขนขวาของตรีเมฆ เด็กน้อยแอบมองอีกหลายครั้งด้วยความสนใจ
ตรีเมฆเคี้ยวอาหารช้าๆ มองผลไม้ที่เขาขนมากลายเป็นของหวานน่ากินบนโต๊ะอย่างพึงพอใจ คนเคยกินเพื่ออยู่ไปวันๆ แค่ประคองไม่ให้อดตายหรือไม่เสียสติไปเสียก่อนในคุกอย่างเขา แม้สันดานจะหยาบแต่ก็ยังอดมองผลไม้ที่จัดสลับเรียงใส่จานอย่างสวยงามน่ากินนั้นไม่ได้
ของสวยๆ งามๆ แบบนั้นก็ทำให้เจริญอาหารได้ไม่น้อยเหมือนกัน
“ขนุนดกมากเหรอคะ” จันทน์กะพ้อชวนคุยทำลายบรรยากาศน่าอึดอัดระหว่างสองแม่ลูก ใจนึกว่าตรีเมฆก็ช่างกระไร ตัวเองเป็นลูกก็น่าจะอ่อนเข้าหาแม่บ้าง หากแม่ของหล่อนยังมีชีวิตอยู่จันทน์กะพ้อคงจะออดอ้อนชวนคุยอยู่ทั้งวันไม่ไปไหน
“ดกมาก สุกร่วงไปหลายลูก ผมแบ่งให้คนสวนของแม่ไปสองลูก”
“ตาเกิดนั่นน่ะหรือ นึกว่าเลิกทำงานไปเสียแล้ว เห็นไปทีไรสวนก็รกท่วมหัว หนแรกแกมาขอเหมาทำ เห็นว่าจะทำกับลูกชายลูกสะใภ้”
“ครับ แกมีปัญหาทางบ้าน แต่ก็ยังอยากทำงานอยู่”
“แล้วแต่เมฆก็แล้วกัน”
“ครับ”
“ความจริงสวนข้างๆ นั่นก็ของตาเกิดแกนะ แกเคยมีที่เป็นห้าสิบหกสิบไร่ แต่เหลืออยู่ไม่เท่าไร” นางมาลีไม่พูดต่อว่าเป็นเพราะอะไร แต่แค่ดูจากสีหน้าที่ขรึมลงของตรีเมฆ จันทน์กะพ้อก็พอจะเดาออกว่า ปัญหาทางบ้านของลุงเกิดคนสวนก็คงไม่ต่างจากปัญหาทางบ้านที่นางมาลีกับสามีเคยประสบกระมัง
จันทน์กะพ้อลอบระบายลมหายใจเบาๆ ความเงียบเข้ามาครอบงำบรรยากาศมื้อเย็นอีกครั้ง จนกระทั่งตรีเมฆเอ่ยขึ้นว่า
“ผมคิดว่าจะติดอินเทอร์เน็ตให้พวกที่มาเช่าห้องแถวใช้ ค่าใช้จ่ายไม่เท่าไรครับ”
“เอาสิ” นางมาลีเอ่ยแล้วตักข้าวเข้าปากเคี้ยวเงียบๆ ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยของนางคือความกลัดหนองในอกผู้เป็นแม่ผู้วางทุกข์ไม่ลง ลำคอของตรีเมฆตีบตันขึ้นมาทันที เขาฝืนกลืนเม็ดข้าวนุ่มๆ ที่กลับหยาบระคายคอราวกับกลืนกินกากข้าวลงไปเป็นกำๆ
อย่าลืมไปโหลด eBook กันเน้อ ลดถึงแค่ 20 เมษายนนะคะ จาก 402 บาท เหลือ 298 บาท!!! ที่เว็บไซต์ mebmarket
***********
เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ตรีเมฆยังไม่กลับมาในห้องครัว มื้อค่ำตั้งไว้รอท่า และสมาชิกตัวน้อยที่สุดในบ้านเริ่มมือไม้อยู่ไม่สุข ทำท่าจะแอบหยิบขนุนเนื้อสีจำปาหอมกรุ่นเข้าปากหลายรอบ
“เพชร ไปตามลุงยักษ์มากินข้าวไป”
“เพชรกลัว”
“กลัวอะไร เมื่อตะกี้ครูยังเห็นเถียงเขาอยู่ฉอดๆ จริงไหม”
“ครับ” เด็กชายว่าแล้วก็ไถลตัวลงจากเก้าอี้ เดินแบบกล้าๆ กลัวๆ ไปทางปีกบ้านด้านที่ตรีเมฆอาศัยอยู่ หายไปไม่นานก็วิ่งตึงๆ กลับมาอย่างไม่กลัวดุ ตามมาด้วยตรีเมฆที่ผมเปียกหมาดเพราะเพิ่งสระใหม่ๆ เขาสวมเสื้อกล้ามกับกางเกงเนื้อนิ่มสบายแบบเดิม มือที่เคยพันผ้าเช็ดหน้าไว้แปะผ้าพันแผลเรียบร้อย รวมทั้งที่หัวไหล่และต้นคอ
“ลุงยักษ์ ตัวอะไรกัดคออะ ดูสิ กัดตั้งสองสามที่ ลุงยักษ์เล่นซนปีนต้นมะม่วงเรอะ”
“แสนรู้” ตรีเมฆพึมพำ ตวัดสายตาดุมองข้ามโต๊ะมาทางหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามราวกับจะคาดโทษหล่อน
มันเรื่องอะไรกันเล่า ฉันไม่ได้เล่านะว่าคุณไปเล่นจ้ำจี้กับ... เอ่อ ฉันไม่รู้เรื่องด้วยนะ!
“เจ็บไหมลุงยักษ์”
“พอแล้วเจ้าเพชร ห้ามพูดเวลากินข้าว ยายบอกแล้วยังไงล่ะ”
“ครับยาย” เด็กชายทำท่าหงอยได้สักครึ่งวินาทีก็เริงร่ากับอาหารสารพัดที่วางอยู่ตรงหน้าดังเดิม
ตาเด็กน้อยดีนัก เขายังเห็นรอยสักเล็กๆ รูปสายฟ้าบนก้อนเมฆที่ต้นแขนขวาของตรีเมฆ เด็กน้อยแอบมองอีกหลายครั้งด้วยความสนใจ
ตรีเมฆเคี้ยวอาหารช้าๆ มองผลไม้ที่เขาขนมากลายเป็นของหวานน่ากินบนโต๊ะอย่างพึงพอใจ คนเคยกินเพื่ออยู่ไปวันๆ แค่ประคองไม่ให้อดตายหรือไม่เสียสติไปเสียก่อนในคุกอย่างเขา แม้สันดานจะหยาบแต่ก็ยังอดมองผลไม้ที่จัดสลับเรียงใส่จานอย่างสวยงามน่ากินนั้นไม่ได้
ของสวยๆ งามๆ แบบนั้นก็ทำให้เจริญอาหารได้ไม่น้อยเหมือนกัน
“ขนุนดกมากเหรอคะ” จันทน์กะพ้อชวนคุยทำลายบรรยากาศน่าอึดอัดระหว่างสองแม่ลูก ใจนึกว่าตรีเมฆก็ช่างกระไร ตัวเองเป็นลูกก็น่าจะอ่อนเข้าหาแม่บ้าง หากแม่ของหล่อนยังมีชีวิตอยู่จันทน์กะพ้อคงจะออดอ้อนชวนคุยอยู่ทั้งวันไม่ไปไหน
“ดกมาก สุกร่วงไปหลายลูก ผมแบ่งให้คนสวนของแม่ไปสองลูก”
“ตาเกิดนั่นน่ะหรือ นึกว่าเลิกทำงานไปเสียแล้ว เห็นไปทีไรสวนก็รกท่วมหัว หนแรกแกมาขอเหมาทำ เห็นว่าจะทำกับลูกชายลูกสะใภ้”
“ครับ แกมีปัญหาทางบ้าน แต่ก็ยังอยากทำงานอยู่”
“แล้วแต่เมฆก็แล้วกัน”
“ครับ”
“ความจริงสวนข้างๆ นั่นก็ของตาเกิดแกนะ แกเคยมีที่เป็นห้าสิบหกสิบไร่ แต่เหลืออยู่ไม่เท่าไร” นางมาลีไม่พูดต่อว่าเป็นเพราะอะไร แต่แค่ดูจากสีหน้าที่ขรึมลงของตรีเมฆ จันทน์กะพ้อก็พอจะเดาออกว่า ปัญหาทางบ้านของลุงเกิดคนสวนก็คงไม่ต่างจากปัญหาทางบ้านที่นางมาลีกับสามีเคยประสบกระมัง
จันทน์กะพ้อลอบระบายลมหายใจเบาๆ ความเงียบเข้ามาครอบงำบรรยากาศมื้อเย็นอีกครั้ง จนกระทั่งตรีเมฆเอ่ยขึ้นว่า
“ผมคิดว่าจะติดอินเทอร์เน็ตให้พวกที่มาเช่าห้องแถวใช้ ค่าใช้จ่ายไม่เท่าไรครับ”
“เอาสิ” นางมาลีเอ่ยแล้วตักข้าวเข้าปากเคี้ยวเงียบๆ ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยของนางคือความกลัดหนองในอกผู้เป็นแม่ผู้วางทุกข์ไม่ลง ลำคอของตรีเมฆตีบตันขึ้นมาทันที เขาฝืนกลืนเม็ดข้าวนุ่มๆ ที่กลับหยาบระคายคอราวกับกลืนกินกากข้าวลงไปเป็นกำๆ
อย่าลืมไปโหลด eBook กันเน้อ ลดถึงแค่ 20 เมษายนนะคะ จาก 402 บาท เหลือ 298 บาท!!! ที่เว็บไซต์ mebmarket
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 เม.ย. 2563, 09:07:06 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 เม.ย. 2563, 09:07:06 น.
จำนวนการเข้าชม : 430
| << บทที่ 4 -70% | บทที่ 5 -20% >> |