ดุจจันทร์ดั้นเมฆ: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ตรีเมฆ’ ไม่ได้เกิดมามีชีวิตเลวร้าย เขาไม่ได้มีปมด้อยจนต้องสร้างจุดเด่น ตรงกันข้ามเขามีพร้อมทุกอย่าง แต่ความ ‘พร้อม’ นั้นทำให้ชายหนุ่มใช้ชีวิตอย่างประมาทจนสุดท้ายต้องถูกตราหน้าว่าเป็น ‘ไอ้ขี้คุก’ เขาผลาญทำลายชีวิตทุกคนที่รักเขา และในวันที่เขาได้รับอิสรภาพทางกาย จิตใจเขากลับถูกความรู้สึกผิดพันธนาการแน่นหนา
‘จันทน์กะพ้อ’ หล่อนมองโลกใบนี้สวยงามไปเสียหมด มองทุกอย่างเป็นบวกจนบางครั้งพลาดพลั้งกลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ แต่หล่อนกลับไม่สิ้นหวังที่จะมองแต่แง่งามของชีวิต เมื่อก้าวเข้ามาในครอบครัวที่เว้าแหว่งของตรีเมฆ หล่อนกล้าๆ กลัวๆ ชายหนุ่มห่าม ดิบ เถื่อนที่พ่วงมากับป้าชราและเด็กน้อยผู้น่าสงสาร
เขามันต้องตำราผู้ชายที่พ่อสอนนักหนาว่าให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้
ใจหนึ่งหล่อนก็อยากทำอย่างนั้น แต่อีกใจก็อยากเอาชนะความหยาบกระด้างของเขา อยากให้คนที่เอาแต่มองโลกตาขวาง หันมาเห็นแง่งามของชีวิตเสียบ้าง
แต่โดยที่หล่อนไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ดวงตาคมดุคู่นั้นกลับเอาแต่จับจ้องหล่อนไม่วาง ในเมื่อหล่อนกล้ามาส่องแสงวับๆ แวมๆ ในหัวใจที่มืดดำของเขา เมฆร้ายก้อนนี้ก็จะโอบล้อม ตีประชิด กักกั้นไว้ไม่ให้หล่อนเคลื่อนคล้อยหนีหายไปทางไหนได้อีกเลย
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง พนาพร่ำรัก และฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา) และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นแนวโรแมนติกดราม่า พาฟิน และอบอวลในหัวใจมากๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีความน่ารักของครอบครัวที่มาพร้อมกับปัญหาสังคมในแง่มุมต่างๆ ด้วย หอมดึกบอกเล่าชีวิตคนรากหญ้าผ่านตัวละครได้มีมิติมากๆ #รับประกันความสนุกเช่นเคย!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้าน Banniyayindy(Budsara Thongrussamee) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘จันทน์กะพ้อ’ หล่อนมองโลกใบนี้สวยงามไปเสียหมด มองทุกอย่างเป็นบวกจนบางครั้งพลาดพลั้งกลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ แต่หล่อนกลับไม่สิ้นหวังที่จะมองแต่แง่งามของชีวิต เมื่อก้าวเข้ามาในครอบครัวที่เว้าแหว่งของตรีเมฆ หล่อนกล้าๆ กลัวๆ ชายหนุ่มห่าม ดิบ เถื่อนที่พ่วงมากับป้าชราและเด็กน้อยผู้น่าสงสาร
เขามันต้องตำราผู้ชายที่พ่อสอนนักหนาว่าให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้
ใจหนึ่งหล่อนก็อยากทำอย่างนั้น แต่อีกใจก็อยากเอาชนะความหยาบกระด้างของเขา อยากให้คนที่เอาแต่มองโลกตาขวาง หันมาเห็นแง่งามของชีวิตเสียบ้าง
แต่โดยที่หล่อนไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ดวงตาคมดุคู่นั้นกลับเอาแต่จับจ้องหล่อนไม่วาง ในเมื่อหล่อนกล้ามาส่องแสงวับๆ แวมๆ ในหัวใจที่มืดดำของเขา เมฆร้ายก้อนนี้ก็จะโอบล้อม ตีประชิด กักกั้นไว้ไม่ให้หล่อนเคลื่อนคล้อยหนีหายไปทางไหนได้อีกเลย
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง พนาพร่ำรัก และฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา) และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นแนวโรแมนติกดราม่า พาฟิน และอบอวลในหัวใจมากๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีความน่ารักของครอบครัวที่มาพร้อมกับปัญหาสังคมในแง่มุมต่างๆ ด้วย หอมดึกบอกเล่าชีวิตคนรากหญ้าผ่านตัวละครได้มีมิติมากๆ #รับประกันความสนุกเช่นเคย!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้าน Banniyayindy(Budsara Thongrussamee) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 6 -50%
“งานเยอะเหรอหนูจันทน์วันนี้ กลับเสียเกือบสองทุ่ม” ป้ามาลีทักทาย เมื่อหล่อนเดินขึ้นบ้านมา
“ใช่ค่ะ ระบบใหม่น่ะค่ะป้า งานเอกสารเยอะแยะเลย คุณเมฆเอาเงินมาให้ป้าหรือยังคะ” หล่อนเอ่ยถามโดยไม่ทันคิด
“ให้แล้วจ้ะ ขอบใจนะ นี่ส่วนของหนู”
“จันทน์ไม่เอาค่ะป้า”
“ไม่ได้นะลูก ไม่อย่างนั้นครั้งหน้าป้าไม่อยากรบกวนละ”
“ไม่รู้ว่าจะมีครั้งหน้าหรือเปล่านะคะ” น้ำเสียงของหล่อนชวนให้กังวล
“อ้าว ทำไมล่ะ หรือว่าวิทยาลัยไม่ให้ขาย”
“เปล่าค่ะ คนอื่นๆ ก็ขายของกินเล่นกันดาษดื่น เพียงแต่วันนี้คุณเมฆ เอ่อ...”
“มันทำอะไร เล่ามาหนูจันทน์” ป้ามาลีคาดคั้น
จันทน์กะพ้อจำต้องเล่าเรื่องที่ตวงทองโวยวายพฤติกรรมของตรีเมฆให้ป้ามาลีฟัง เล่าจบป้ามาลีก็ได้แต่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า
“มันก็ไม่สมควรจริงๆ นี่นะ ไปถอดเสื้อถอดผ้าอะไรในวิทยาลัยเขา กลางวันแสกๆ อย่างนั้น”
“แล้วจะให้ทำยังไงละครับ ยางมะม่วง ยางขนุนเต็มไหล่ผมไปหมด แถมมีมดอีก ที่ไหล่ก็เพิ่งนวดยาแก้เคล็ดไป มันแสบคัน ผมก็ต้องล้างตัว อีกอย่างผมไปใช้ก๊อกน้ำหลังตึก ทำไมยังมีคนตาดี สอดเข้าไปเห็นอีก”
“อาจารย์ตวงทองอาจจะคิดว่ามันไม่เหมาะสม ในกรณีที่อาจจะมีนักศึกษาหญิงไปเห็นคุณถอดเสื้อเข้าน่ะค่ะ”
“เหอะ เดี๋ยวนี้นักศึกษาสาวๆ เขาไม่จิตอ่อนขนาดนั้นหรอก บางทีผู้ชายถอดช้าไม่ทันใจ แม่อาจจะรี่เข้ามาถอดให้เลยก็ได้”
“ตรีเมฆ/คุณเมฆ”
“วันหลังชี้ให้ผมดูด้วยนะอาจารย์คนนี้น่ะ ดัดจริตนัก ชักอยากเห็นหน้า”
“...ค่ะ ถ้าเขายังอนุญาตให้คุณเข้าไปอีกนะคะ”
“หนูจันทน์ ป้าว่าหนูอย่าเอาของไปขายที่วิทยาลัยอีกเลยนะ อาจจะมีคนเขม่นเข้า เดี๋ยวจะเสียงานเสียการ” ป้ามาลีเอ่ย แม้จะเสียดายลูกค้าและผลไม้ที่กำลังทยอยสุกและก็คงเน่าเสียทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่นางห่วงจันทน์กะพ้อมากกว่า ขณะที่ตรีเมฆแค่ขมวดคิ้วมุ่น แต่ไม่พูดอะไร
“ใครสนใจก็ให้เขาสั่งมา แล้วเดี๋ยวเราเอามาไว้ที่ห้องแถวนี่ก็ได้ ถ้าลูกค้าอยากได้จริงๆ ก็ให้เขามาซื้อที่นี่ เอาแบบนี้ละ เดี๋ยวจะได้ไม่คุ้มเสีย”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตั้งแผงขายผลไม้ที่หน้าห้องแถวมันเสียเลยสิ”
ตรีเมฆแสดงความคิดเห็นตัดรำคาญ
“ขายยังไง แผงเผิงเราก็ไม่มี” แม้น้ำเสียงจะฟังดูไม่ใส่ใจ แต่มีความหวังเต้นระริกอยู่ในดวงตาของนาง
“เดี๋ยวผมกับลุงเกิดจัดการให้ แม่จะขายเองหรือจะจ้างลำดวนลูกสะใภ้ลุงเกิดมาขายด้วยล่ะ” คำพูดประโยคนั้นของเขาทำให้จันทน์กะพ้อหันไปมอง เขาพูดเป็นฉากๆ ราวกับเป็นเรื่องที่คิดไว้มาก่อนแล้ว
“อืม ให้ลำดวนมาขายด้วยก็ดี อยู่บ้านก็รังแต่จะรองรับอารมณ์ผัวเปล่าๆ”
“ครับ”
*****************
ในเวลาอีกเพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ แผงขายผลไม้สวนครูตรีเนตรของป้ามาลีก็ตั้งขึ้นบริเวณที่ว่างด้านหน้าของห้องแถว ตรีเมฆทลายกำแพงของห้องแถวลงราวสิบเมตรขยายปากทางเข้าให้กว้างขวางขึ้นและปลูกเพิงมุงสังกะสีกันแดดกันฝนทนทานพอสมควรขึ้นติดกับถนนใหญ่ที่มีรถราและผู้คนผ่านไปมาไม่น้อย เมื่อแผงขายผลไม้เสร็จสิ้น มะม่วงก็กำลังออกมากพอดี ส่วนลูกค้าเดิมที่วิทยาลัยที่ติดใจผลไม้สวนครูตรีเนตรต่างตามมาอุดหนุนไม่ขาดสาย จันทน์กะพ้อเองก็เบาใจลงเพราะคำครหาเรื่องที่หล่อนหารายได้ในที่ทำงานก็มีมาหนาหูไม่น้อย ถึงขนาดหัวหน้าสาขาเรียกหล่อนไปคุยด้วยในเรื่องนี้โดยเฉพาะ เจ้าหน้าที่หลายคนที่เอาของกินเล่นจุกจิกมาขายก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย จันทน์กะพ้อตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้
“ผอ. ท่านว่ามันไม่เหมาะสม เหตุผลคือสถานศึกษาไม่ใช่ที่ค้าขาย”
“ต้องขอโทษหัวหน้าด้วยนะคะ ดิฉันคิดน้อยไปจริงๆ” ใบหน้าสลดของอาจารย์น้องใหม่ที่ขยันขันแข็งขึ้นมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของสาขาได้ในเวลาไม่นาน เพราะไม่เคยเกี่ยงงาน ทำให้อาจารย์วิวัฒน์ทอดถอนใจ
มันจะมีอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องความอิจฉาของผู้หญิง
ตวงทองนั้นจะว่าไปก็เหนือกว่าจันทน์กะพ้อทุกประการ แม้ใบหน้าจะสวยงามกันไปคนละแบบ แต่ฐานะ ชาติตระกูล วิชาความรู้ของหล่อนนั้นมีภาษีเหนืออีกฝ่ายมากมายนัก สิ่งเดียวที่อาจารย์ตวงทองทำไม่ได้คือการอยู่ทำงานเอกสารหามรุ่งหามค่ำ รับผิดชอบประสานงานของสาขาวิชาสารพัดอย่างโดยไม่ได้อะไรตอบแทนอย่างที่จันทน์กะพ้อทำ หล่อนมักจะบอกว่า
‘ไม่เป็นไรค่ะ จันทน์พักอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง จันทน์ทำให้ได้ค่ะ’
ความจริงก็คืออาจารย์ท่านอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นสตรีและมีอายุ มีครอบครัวที่ต้องดูแลแล้วต่างก็เบื่อหน่ายงานเอกสารเหล่านี้ อาจารย์ผู้ชายก็มักอ้างว่าไม่ถนัดงานเอกสารหรือประสานงาน ภาระงานจึงมาตกที่น้องน้อยสองคนของสาขา เมื่ออาจารย์ตวงทองผู้ไฉไลทำไม่ได้เพราะไม่อยากทำ แต่อาจารย์จันทน์กะพ้อกลับทำทุกอย่างอย่างเสมอต้นเสมอปลายอย่างไม่เกี่ยงงอน มันจึงง่ายที่คณาจารย์และเจ้าหน้าที่จะเอ็นดูหล่อนอย่างจริงใจ แม้จะประจบสอพลออีกคนกันบ้างเพราะหวังผลทางหน้าที่การงาน
หากอาจารย์ตวงทองเคืองเพราะเหตุนี้ แม้อีกฝ่ายจะไม่ด่างพร้อยแม้แต่น้อยก็คงไม่พ้นต้องโดนจับตามองอยู่ดี
“ดิฉันควรจะรู้ดีว่าไม่ควรมาหารายได้ในสถานศึกษา ดิฉันคิดแค่ว่าอยากจะช่วยป้าน่ะค่ะ ป้ามาลีมีพระคุณกับดิฉันเหลือเกิน”
“ความจริงที่นี่เราก็เคยอยู่กันแบบพึ่งพาอาศัยกันแบบนี้ละ สั่งข้าวกล่องของกินกันเองอุดหนุนกันไป แต่คราวนี้ลูกสาวท่าน ผอ. ท่านหัวสมัยใหม่ เห็นว่าไม่เหมาะสม ผมก็เลยต้องมาตักเตือนอาจารย์ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วผมถือโอกาสเตือนให้อย่างพี่สอนน้องนะครับ ผมเองถึงใจจะไม่ใช่ผู้ชาย แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องหยุมหยิมของผู้หญิงนักหรอก แต่ผมว่ามันคงไม่พ้นเรื่อง จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน นั่นละครับ”
“ขอบคุณค่ะ” จันทน์กะพ้อประนมมือไหว้ หล่อนเดินกลับบ้านป้ามาลีในเย็นวันนั้นด้วยสีหน้างุนงง
ความดีเด่นอะไรหรือที่นำภัยมาให้หล่อน...
eBook ดุจจันทร์ และเรื่องอื่นๆ ของปลายปากกาสำนักพิมพ์ ลดหนักวันนี้วันสุดท้าย!!!!! ที่ meb fair เว็บไซต์ www.mebmarket.com หรือ app Meb
“ใช่ค่ะ ระบบใหม่น่ะค่ะป้า งานเอกสารเยอะแยะเลย คุณเมฆเอาเงินมาให้ป้าหรือยังคะ” หล่อนเอ่ยถามโดยไม่ทันคิด
“ให้แล้วจ้ะ ขอบใจนะ นี่ส่วนของหนู”
“จันทน์ไม่เอาค่ะป้า”
“ไม่ได้นะลูก ไม่อย่างนั้นครั้งหน้าป้าไม่อยากรบกวนละ”
“ไม่รู้ว่าจะมีครั้งหน้าหรือเปล่านะคะ” น้ำเสียงของหล่อนชวนให้กังวล
“อ้าว ทำไมล่ะ หรือว่าวิทยาลัยไม่ให้ขาย”
“เปล่าค่ะ คนอื่นๆ ก็ขายของกินเล่นกันดาษดื่น เพียงแต่วันนี้คุณเมฆ เอ่อ...”
“มันทำอะไร เล่ามาหนูจันทน์” ป้ามาลีคาดคั้น
จันทน์กะพ้อจำต้องเล่าเรื่องที่ตวงทองโวยวายพฤติกรรมของตรีเมฆให้ป้ามาลีฟัง เล่าจบป้ามาลีก็ได้แต่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า
“มันก็ไม่สมควรจริงๆ นี่นะ ไปถอดเสื้อถอดผ้าอะไรในวิทยาลัยเขา กลางวันแสกๆ อย่างนั้น”
“แล้วจะให้ทำยังไงละครับ ยางมะม่วง ยางขนุนเต็มไหล่ผมไปหมด แถมมีมดอีก ที่ไหล่ก็เพิ่งนวดยาแก้เคล็ดไป มันแสบคัน ผมก็ต้องล้างตัว อีกอย่างผมไปใช้ก๊อกน้ำหลังตึก ทำไมยังมีคนตาดี สอดเข้าไปเห็นอีก”
“อาจารย์ตวงทองอาจจะคิดว่ามันไม่เหมาะสม ในกรณีที่อาจจะมีนักศึกษาหญิงไปเห็นคุณถอดเสื้อเข้าน่ะค่ะ”
“เหอะ เดี๋ยวนี้นักศึกษาสาวๆ เขาไม่จิตอ่อนขนาดนั้นหรอก บางทีผู้ชายถอดช้าไม่ทันใจ แม่อาจจะรี่เข้ามาถอดให้เลยก็ได้”
“ตรีเมฆ/คุณเมฆ”
“วันหลังชี้ให้ผมดูด้วยนะอาจารย์คนนี้น่ะ ดัดจริตนัก ชักอยากเห็นหน้า”
“...ค่ะ ถ้าเขายังอนุญาตให้คุณเข้าไปอีกนะคะ”
“หนูจันทน์ ป้าว่าหนูอย่าเอาของไปขายที่วิทยาลัยอีกเลยนะ อาจจะมีคนเขม่นเข้า เดี๋ยวจะเสียงานเสียการ” ป้ามาลีเอ่ย แม้จะเสียดายลูกค้าและผลไม้ที่กำลังทยอยสุกและก็คงเน่าเสียทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่นางห่วงจันทน์กะพ้อมากกว่า ขณะที่ตรีเมฆแค่ขมวดคิ้วมุ่น แต่ไม่พูดอะไร
“ใครสนใจก็ให้เขาสั่งมา แล้วเดี๋ยวเราเอามาไว้ที่ห้องแถวนี่ก็ได้ ถ้าลูกค้าอยากได้จริงๆ ก็ให้เขามาซื้อที่นี่ เอาแบบนี้ละ เดี๋ยวจะได้ไม่คุ้มเสีย”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตั้งแผงขายผลไม้ที่หน้าห้องแถวมันเสียเลยสิ”
ตรีเมฆแสดงความคิดเห็นตัดรำคาญ
“ขายยังไง แผงเผิงเราก็ไม่มี” แม้น้ำเสียงจะฟังดูไม่ใส่ใจ แต่มีความหวังเต้นระริกอยู่ในดวงตาของนาง
“เดี๋ยวผมกับลุงเกิดจัดการให้ แม่จะขายเองหรือจะจ้างลำดวนลูกสะใภ้ลุงเกิดมาขายด้วยล่ะ” คำพูดประโยคนั้นของเขาทำให้จันทน์กะพ้อหันไปมอง เขาพูดเป็นฉากๆ ราวกับเป็นเรื่องที่คิดไว้มาก่อนแล้ว
“อืม ให้ลำดวนมาขายด้วยก็ดี อยู่บ้านก็รังแต่จะรองรับอารมณ์ผัวเปล่าๆ”
“ครับ”
*****************
ในเวลาอีกเพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ แผงขายผลไม้สวนครูตรีเนตรของป้ามาลีก็ตั้งขึ้นบริเวณที่ว่างด้านหน้าของห้องแถว ตรีเมฆทลายกำแพงของห้องแถวลงราวสิบเมตรขยายปากทางเข้าให้กว้างขวางขึ้นและปลูกเพิงมุงสังกะสีกันแดดกันฝนทนทานพอสมควรขึ้นติดกับถนนใหญ่ที่มีรถราและผู้คนผ่านไปมาไม่น้อย เมื่อแผงขายผลไม้เสร็จสิ้น มะม่วงก็กำลังออกมากพอดี ส่วนลูกค้าเดิมที่วิทยาลัยที่ติดใจผลไม้สวนครูตรีเนตรต่างตามมาอุดหนุนไม่ขาดสาย จันทน์กะพ้อเองก็เบาใจลงเพราะคำครหาเรื่องที่หล่อนหารายได้ในที่ทำงานก็มีมาหนาหูไม่น้อย ถึงขนาดหัวหน้าสาขาเรียกหล่อนไปคุยด้วยในเรื่องนี้โดยเฉพาะ เจ้าหน้าที่หลายคนที่เอาของกินเล่นจุกจิกมาขายก็พลอยเดือดร้อนไปด้วย จันทน์กะพ้อตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลายขนาดนี้
“ผอ. ท่านว่ามันไม่เหมาะสม เหตุผลคือสถานศึกษาไม่ใช่ที่ค้าขาย”
“ต้องขอโทษหัวหน้าด้วยนะคะ ดิฉันคิดน้อยไปจริงๆ” ใบหน้าสลดของอาจารย์น้องใหม่ที่ขยันขันแข็งขึ้นมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของสาขาได้ในเวลาไม่นาน เพราะไม่เคยเกี่ยงงาน ทำให้อาจารย์วิวัฒน์ทอดถอนใจ
มันจะมีอะไรถ้าไม่ใช่เรื่องความอิจฉาของผู้หญิง
ตวงทองนั้นจะว่าไปก็เหนือกว่าจันทน์กะพ้อทุกประการ แม้ใบหน้าจะสวยงามกันไปคนละแบบ แต่ฐานะ ชาติตระกูล วิชาความรู้ของหล่อนนั้นมีภาษีเหนืออีกฝ่ายมากมายนัก สิ่งเดียวที่อาจารย์ตวงทองทำไม่ได้คือการอยู่ทำงานเอกสารหามรุ่งหามค่ำ รับผิดชอบประสานงานของสาขาวิชาสารพัดอย่างโดยไม่ได้อะไรตอบแทนอย่างที่จันทน์กะพ้อทำ หล่อนมักจะบอกว่า
‘ไม่เป็นไรค่ะ จันทน์พักอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง จันทน์ทำให้ได้ค่ะ’
ความจริงก็คืออาจารย์ท่านอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นสตรีและมีอายุ มีครอบครัวที่ต้องดูแลแล้วต่างก็เบื่อหน่ายงานเอกสารเหล่านี้ อาจารย์ผู้ชายก็มักอ้างว่าไม่ถนัดงานเอกสารหรือประสานงาน ภาระงานจึงมาตกที่น้องน้อยสองคนของสาขา เมื่ออาจารย์ตวงทองผู้ไฉไลทำไม่ได้เพราะไม่อยากทำ แต่อาจารย์จันทน์กะพ้อกลับทำทุกอย่างอย่างเสมอต้นเสมอปลายอย่างไม่เกี่ยงงอน มันจึงง่ายที่คณาจารย์และเจ้าหน้าที่จะเอ็นดูหล่อนอย่างจริงใจ แม้จะประจบสอพลออีกคนกันบ้างเพราะหวังผลทางหน้าที่การงาน
หากอาจารย์ตวงทองเคืองเพราะเหตุนี้ แม้อีกฝ่ายจะไม่ด่างพร้อยแม้แต่น้อยก็คงไม่พ้นต้องโดนจับตามองอยู่ดี
“ดิฉันควรจะรู้ดีว่าไม่ควรมาหารายได้ในสถานศึกษา ดิฉันคิดแค่ว่าอยากจะช่วยป้าน่ะค่ะ ป้ามาลีมีพระคุณกับดิฉันเหลือเกิน”
“ความจริงที่นี่เราก็เคยอยู่กันแบบพึ่งพาอาศัยกันแบบนี้ละ สั่งข้าวกล่องของกินกันเองอุดหนุนกันไป แต่คราวนี้ลูกสาวท่าน ผอ. ท่านหัวสมัยใหม่ เห็นว่าไม่เหมาะสม ผมก็เลยต้องมาตักเตือนอาจารย์ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วผมถือโอกาสเตือนให้อย่างพี่สอนน้องนะครับ ผมเองถึงใจจะไม่ใช่ผู้ชาย แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องหยุมหยิมของผู้หญิงนักหรอก แต่ผมว่ามันคงไม่พ้นเรื่อง จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน นั่นละครับ”
“ขอบคุณค่ะ” จันทน์กะพ้อประนมมือไหว้ หล่อนเดินกลับบ้านป้ามาลีในเย็นวันนั้นด้วยสีหน้างุนงง
ความดีเด่นอะไรหรือที่นำภัยมาให้หล่อน...
eBook ดุจจันทร์ และเรื่องอื่นๆ ของปลายปากกาสำนักพิมพ์ ลดหนักวันนี้วันสุดท้าย!!!!! ที่ meb fair เว็บไซต์ www.mebmarket.com หรือ app Meb
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 เม.ย. 2563, 13:34:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 เม.ย. 2563, 13:34:56 น.
จำนวนการเข้าชม : 483
<< บทที่ 6 -25% | บทที่ 6 -75% >> |