เรื่องสั้น Yaoi By Ha.Ma.06 - จบ
เรื่องสั้นที่ถูกรวบรวมไว้ในเรื่องนี้มีทั้งหมด 10 เรื่อง จบเพียงตอนเดียว


Tags: เรื่องสั้น วาย Yaoi

ตอน: เกลียดเสียงดังแต่ไม่คิดเกลียดนาย (Yaoi)

ผมชื่อธามเป็นโรคที่ไม่ชอบเสียงดังตั้งแต่เด็กไม่ว่าจะเสียงอะไรก็แล้วแต่ ผมต้องติดที่อุดหูไว้ในกระเป๋าเสมอๆ แต่แล้วผมก็ซุ่มซ่ามทำกระเป๋าหายที่สวนหย่อมหลังตึกที่ทำงาน

"ไปไหนนะ อยู่ไหนนะ" ก้มๆ เงยๆ อยู่อย่างนั้นเพื่อหาสิ่งที่หาย แต่ก็ไม่พบ แล้วจะเอาอะไรอุดหูละทีนี้ 

"หาซื้อใหม่แล้วกัน" บ่นน้อยๆ กับของใช้ที่จำเป็นและมักหาย

อาชีพของเขาคือช่างภาพ จึงต้องออกเดินทางไปหาภาพสวยๆ ตลอด ถ้าเขาต้องไปอยู่ในหมู่คนมากมายล่ะก็ แถมที่อุดหูก็ไม่มี งานนี้คงไม่รอด

"ธาม พี่รับงานใหม่มาให้เราแล้วนะ" พี่ธีม พี่ชายสุดแสนจะดีของธาม มักจะหางานให้ธามทำอยู่ตลอด และแต่ละงานมักจะกระเป๋าหนักกลับมาหาพี่ชาย 

เราสองคนเปิดร้านถ่ายรูปมาด้วยกันหลังจากแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนพ่อนะเหรอ ไม่ต้องพูดถึง เขาทิ้งพวกเราไปตั้งแต่ยังจำความไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ร้านนี้จึงเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายที่แม่ทิ้งไว้ให้พวกเขาได้คิดถึงวันเก่าๆ ของครอบครัวที่ไม่มีพ่อ

"งานนี้ลูกชายของเจ้าของบริษัทห้างใหญ่จ้างพวกเราให้ไปถ่ายที่เกาะส่วนตัว เขาอยากได้ช่างถ่ายรูปฝีมือดี พี่เลยเสนอเราไปนะ"

พี่ธีมก็ทำหน้าจริงจังเกินไป ร้านของแม่มีผมคนเดียวที่ถ่ายรูปเป็น ช่างฝีมือดีในร้านก็มีผมนี่แหละคนเดียวไม่มีใครแข่งด้วย

"พี่ก็ตลก ร้านเรามีพนักงานแค่สองคนคือผมกับพี่ พี่ถ่ายภาพไม่เก่งแต่ตัดต่อภาพและทำกราฟิกได้ดี ส่วนผมเป็นช่างภาพ พี่ไม่เสนอผมแล้วจะเสนอแมวที่ไหน" ธามยักไหล่แล้วเดินไปเปิดตู้เย็น ถ้าคนจ้างเป็นระดับคนรวยที่มีถึงเกาะส่วนตว มันน่าแปลกที่ทำไมจู่ๆ ถึงมาจ้างร้านเล็กๆ ที่มีพนักงานแค่สองคน ทำไมกัน มันน่าสงสัย

"นี่ คุณชายช่างระแวง แม้กระทั่งพี่ชายแท้ๆ ของนายยังไม่ละเว้น" ธีมบ่นแล้วทำหน้างอน

"งอนจนหน้าหักผมก็ไม่ง้อพี่หรอก แล้วนี่ผมต้องไปกี่วันล่ะ" 

"ก็หนึ่งเดือน"

น้ำในปากแทบพุ่งกระฉูดออกมาเป็นละอองฝอย หนึ่งเดือนเต็มๆ กะจะถ่ายให้เป็นซีรีส์เลยหรือยังไงกัน 

"แกนี่ก็โอเว่อร์ ทำตัวสกปรกอีกแล้ว ที่ฉันรับงานนี้ก็เพราะว่า..."

"เพราะอะไร พูดดีๆ นะ ไม่ใช่ว่าไปรับเงินเขามาแล้วหรอกนะ"

"แหะๆ ทำไมรู้ใจพี่ขนาดนี้ละครับ"

"เฮ้ยย...พีธีม ตั้งเดือนนึงพี่จะขายน้องหรือไงกัน"

"ขายอะไรกันแค่เดือนเดียวเอง และพี่ก็ใช้เงินไปแล้วด้วย แฮะๆ"

ไม่ตลกนะ ไอ้พี่ธีมรับเงินเขามาแล้วยังใช้หมดอีก แล้วแบบนี้ผมจะปฏิเสธยังไง

"บอกผมมาว่ารับมาเท่าไหร่ "

"ห้า..."

"ห้าพัน"

"ไม่ใช่ ห้าหมื่น"

ไอ้พี่โง่ ผมจะเป็นลมแล้วนอนตายตรงหน้าพี่นี่แหละ ไอ้บ้านั่นจ้างผมห้าหมื่น บ้านมันผลิตเงินหรือไง

"แล้วไหนเงิน"

"คือ...หมดแล้ว"

"หมด...หมดแล้ว...ผมฟังผิดหรือเปล่า พี่คงจะบอกว่าหมดซะเมื่อไหร่ใช่ไหม หรือเอาไปฝากธนาคารหมดแล้วแบบนี้ใช่ไหมครับ"

"ไม่ใช่ทั้งสอง คือ...พี่เอาไปซื้อโน้ตบุ๊คใหม่ นี่ไง โปรแกรมการตัดต่อดีเยี่ยมไม่มีสะดุด"

เครื่องบ้าอะไรเกือบครึ่งแสน ขอร้องไห้เป็นสายเลือดและลาออกจากการเป็นน้องชายมันตั้งแต่ตอนนี้เลย

"ผมไม่ไปทำหรอก คนจ้างอะไรให้ไปตั้งเดือนหนึ่ง พี่ไม่ห่วงน้องชายสุดที่รักบ้างหรือไง" ผมทำหน้าอ้อนวอนให้น่าสงสารสุดฤทธิ์ คนสติดีที่ไหนจะมาจ้างคนอย่างพวกเรา

"ไปทีนะ พี่ขอร้อง เขาบอกว่าถ้างานเสร็จเรียบร้อยจะให้อีก"

"เท่าไหร่"

"เขาบอกว่าตามงานนะ"

"เฮ้อออ..แล้วแต่พี่แล้วกัน และผมขอเบิกเงินล่วงหน้าติดตัวด้วยนะ ฮึ"

"จ้าๆ"

สามวันก่อนออกเดินทาง ผมต้องจัดของและเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมโดยเฉพาะที่อุดหูใหม่ รีบทำงานแล้วรีบกลับจะได้ไม่ต้องรู้จักใครให้วุ่นวาย

"พี่ธีม เสร็จงานนี้พี่ต้องซื้อที่อุดหูใหม่ให้ผมด้วยนะ ผมลงแรงเดือนที่แล้วเงินเดือนยังไม่ได้เลย"

"อย่ามาพูดเรื่องเงินเดือนของแกเลยเถอะ เดือนที่แล้วฉันรับงานมาให้ตั้งหลายเจ้า แต่เพราะไอ้ความเรื่องมากของแกนี่แหละทำให้ลูกค้าหนีหมด งานนี้อย่าทิ้งอีกล่ะ ไม่อย่างนั้นไม่ให้เงินเดือน ฮึ"

"เฮอะ ไม่ต้องมาพูดเลย ไม่มีเงินจะจ้างน้องก็บอกมาเถอะ"

"เดี๋ยวโดนเตะ"

"ฮ่าๆ... อีกไม่กี่วันผมก็ต้องเดินทางแล้วนะ ผมไม่อยู่พี่อย่านอนกอดหมอนข้างแล้วคุยกับเพดานล่ะ ฮิฮิ"

"ไม่หรอกโว๊ย"

ข้าวของลอยตามมาพร้อมกับทักษะการหลบของผม การกลั่นแกล้งพี่ชายเป็นความสุขเล็กๆ ที่น้องชายอย่างผมจะมอบให้ ก่อนจะไปเจองานหนักที่ต้องทำแบบนี้ก่อนถึงจะมีแรงทำงาน

และแล้ววันเดินทางก็มาถึง ไอ้พี่ธีมบ้า ให้ผมมายืนรอที่หน้าปากซอยแล้วบอกว่าจะมีคนมารับนี่ผมยืนมาเป็นชั่วโมงแล้วนะ ยืนจนขาจะตะคริวกินแล้วด้วย ถ้าน้องชายแบบผมพิการขึ้นมาจะทำยังไง แล้วไอ้นายจ้างปริศนาก็อีกคน เบอร์ที่ให้มาก็ติดต่อกลับไม่ได้และยังไม่บอกอีกนะว่าเกาะส่วนตัวนั่นอยู่ที่ไหน ไอ้เกาะบ้านั่นมันลึกลับมากขนาดนั้นเลยหรือไง อย่างกับซ่อนสมบัติเอาไว้อย่างนั้นแหละ

"แม้ง...เมื่อไหร่จะมารับซะทีวะ" บ่นไปอย่างนั้น ถ้าไอ้พี่บ้าไม่รับงานนี้มาและยังเอาเงินไปทำเครื่องงี่เง่า ผมคงไม่ต้องมารับงานแบบนี้หรอกนะ อึดอัดชะมัดจะปฏิเสธก็ปฏิเสธไม่ได้ 

จู่ๆ ก็มีรถมาจอดตรงหน้าธาม รถใหม่ป้ายแดงทำเอาธามอึ้งเล็กน้อย และคนขับได้ลงจากรถพร้อมกับชุดสูทเต็มยศอย่างกับจะไปออกงานที่ไหนสักแห่ง 

"เชิญครับ คุณธาม" เขาเปิดประตูหลังให้ธามเข้าไปนั่ง งานนี้มีแต่คำถาม

ภายในรถแอร์เย็นฉ่ำจนรู้สึกดี ตั้งแต่นั่งรถมาเขาไม่กล้าถามคำถามกับพนักงานขับรถเลยสักนิด บรรยากาศเงียบมาก

"เอออ...คุณครับ" กลั้นใจส่งเสียงเรียกออกไป

คำตอบคือสายตาที่มองผ่านทางกระจกยิ่งทำให้เขาเกร็ง 

"คือ...เราจะไปไหนกันครับ" 

"ถึงแล้วก็รู้เอง"

คนขับรถหรือมาเฟียโหดกันแน่ ธามไม่อยากคิด เขาเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่น่ากลัว งานนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิดซะแล้ว ลูกน้องยังมีออร่ามืดมัวขนาดนี้เจ้านายจะขนาดไหน ธามกลืนน้ำลายอึกโตและคิดในใจว่า 'ลาก่อนพี่ธีม ผมตายแล้วจะไปหาพี่'

.

"ถึงแล้วครับ" เสียงเปิดประตูและเสียงเรียกทำให้ธามเริ่มลืมตาตื่น นี่เขาหลับไปตอนไหนเรานั่งสบายมากจนเผลอหลับเลยหรือ

ธามขนสัมภาระของตนเองเดินตามคนขับและพนักงานต้อนรับชายสองคน เข้าไปในบ้านพัก ทางเดินซับซ้อนจนแอบคิดว่าถ้าหลงคงหาทางออกไม่เจอแน่ 

แต่เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมเขารู้สึกคุ้นกับที่แห่งนี้จัง

"วันนี้พวกเราพักที่นี่ก่อนนะครับ บอสสั่งให้คุณนั่งเรือเข้าเกาะวันพรุ่งนี้"

"คะ...ครับ" ธามพยักหน้า และเดินตามสาวใช้สองคนที่ยืนรอหน้าประตู

ให้ตายสิ ที่นี่มันวังหรือไงกันใหญ่โตลูกน้องมากมาย ถ้าเดินหลงคงหาทางออกไม่เจอแน่

"ห้องของคุณค่ะ" สาวใช้พาธามขึ้นชั้นสองและเลี้ยวขวาและมาหยุดอยู่ที่ห้องหนึ่ง

"ขอบคุณครับ" งานนี้ไม่บอกก็คงไม่ต้องถาม ห้องนอนสำหรับเขาที่จะทำงานให้บอสลึกลับนั่น ทำไมใหญ่กว่าห้องนอนของเขากับพี่ชายรวมกันอีก ไหนจะห้องน้ำในตัว ระเบียงห้องนอน ถ้าเขาทำไม่พอใจหรือทำอะไรผิดพลาดนอกจากต้องชดใช้แล้วจะโดนกักขังอีกหรือเปล่า

ธามสลัดเรื่องทั้งหมดออกไป รีบนอนและรีบโฟกัสงานให้จบเลยดีกว่า หนึ่งเดือนกับงานที่ไม่เคยทำ ถึงยังไงก็ประสบการณ์และกำไรชีวิต

"อาบน้ำแล้วเย็นสบายแบบนี้นี่เอง ขอนอนก่อนนะ"

ธามรู้สึกดีกับการได้รับความสะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยได้รับจากงานไหน มากสุดก็ถ่ายรูปงานแต่ง นอกนั้นก็จ้างเขาไปถ่ายรูปบ้าน รูปงานแต่ง รูปแมว งานเทศกาลที่มีแต่ผู้คนมากมาย อยากออกท่องเที่ยวให้เยอะกว่านี้แต่เงินใช้แต่ละวันยังไม่ค่อยจะมี ว่าไปแล้วเขานี่จนแบบมหาจนจริงๆ งานนี้ต้องตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด

คงเป็นเพราะเตียงจึงทำให้เขาหลับในเวลาไม่นาน แต่มีบางคนต้องไปรายงานบอสที่พักอยู่ห้องอ่านหนังสือ

"บอสครับ" เสียงฝีเท้าเดินเข้าห้องได้หยุดลงพร้อมกับก้มหน้าเล็กน้อย

"เขามาแล้วสินะ" เสียงทุ้มๆ กับท่าทางที่ไม่เหมือนใคร สงบนิ่ง กับรอยยิ้มเพียงมุมปากได้ปิดหนังสือและวางลงบนโต๊ะเพื่อฟังรายงานของลูกน้อง

"ครับ จะให้ผมเริ่มเตรียมเรือเพื่อข้ามไปเกาะพรุ่งนี้เลยไหมครับ" 

"ยังก่อน ฉันอยากให้เขาพักสักสองสามวัน" 

.

เช้าวันใหม่มาถึง ธามเตรียมของเพื่อทำงานในวันนี้ ถึงจะตื่นสายและยังไม่มีวี่แววของสาวใช้หรือพนักงานมาปลุก

"เพราะเตียงบ้าทำตื่นสาย" ให้ตายสิ นอนสบายเกินไปเลยตื่นบ่ายจนได้ สายแบบนี้นายจ้างจะกินหัวเราไหม

ยิ่งคิดก็ต้องยิ่งรีบ งานนี้สำคัญมากถ้าทำไม่ดีมีหวังโดนใช้เป็นทาสแรงงานชดใช้หนี้ไม่มีวันจบสิ้น

ธามค่อยๆ ย่องเดินตามทางเพื่อหาทางออก ไอ้ทางบ้ายังมีทางเลี้ยวไปอีก บ้านถึงจะใหญ่โตขนาดไหนแต่ทำไมทำให้ซับซ้อน ถ้าขโมยขึ้นบ้านมาคงแอบได้เป็นเดือนๆ แน่

"เอ๊ะ...ทางลงไปทางไหนนะ ทำไมวนกลับมาที่เดิม" เขาจำได้ห้องขวามือเป็นห้องของเขา อย่าบอกนะว่าหลงทาง 

เหงื่อตกหน้าซีด ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเดินหลงทางมาก่อนที่นี่เป็นที่แรก

ลองเดินหาใหม่อีกครั้ง เขาตัดสินใจเดินกลับไปทางเก่าและเห็นทางแยกที่ยังไม่เคยเดินไป จึงตัดสินใจเดินไปทางนั้นและประตูตรงหน้าของเขาใหญ่กว่าประตูปกติสักสองเท่าน่าจะได้

"ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอเปิดแล้วกัน" 

"แอ๊ด..."

เดี๋ยวก่อนนะ เจ้าของบ้านรวยมากเลยหรือไง ที่นี่เป็นห้องสมุดส่วนตัวจริงๆ หรือ 

ไม่ว่าจะเดินไปตรงไหนก็มีแต่หนังสือถูกจัดเรียงเป็นระเบียบ ตรงนั้นคนนี้น่า

"ใครกันนะ" ธามค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ คนที่นอนเหยียดตัวอย่างสบายโดยมีหนังสือปิดหน้า 

เขาค่อยๆ เอาหนังสือที่ปิดหน้าชายคนนั้นออกช้าๆ สิ่งที่เขาเห็นเป็นใบหน้าของชายหนุ่มรูปงาม ให้ตายสิ....ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงหลงเสน่ห์แล้วล่ะ

จู่ๆ คนที่นอนอยู่ก็ตื่นขึ้น ธามเห็นดังนั้นก็รีบทิ้งหนังสือและลุกเดินถอยหลัง

"ขอ...ขอโทษครับ ผมหลงทางและไม่ได้ตั้งใจปลุกคุณ" แย่แล้ว เขาจะถูกจับโยนออกนอกบ้านไหม

"ผมไม่โทษคุณหรอก คุณมาก็ดีแล้ว มากับผมหน่อย" 

ชายคนนั้นไม่เปิดโอกาสให้ธามถามเลยสักนิด เขาลุกเดินและหันมามองให้ธามเดินตาม 

ถึงจะงงหรือสงสัยมากมายขนาดไหน เขาบอกให้ทำอะไรก็ต้องทำตามสินะ

และแล้วชายคนนั้นก็พาธามมายังห้องทำงานของเขาและเดินไปนั่ง

"เชิญครับ" เขาเชิญธามให้นั่งลงตรงเก้าอี้ตรงหน้าเขา 

ธามทำตามที่เขาสั่งทุกอย่าง จ้องมองคนตรงหน้าอย่างระวัง ให้ตายสิคนอะไรทำไมดูดีจริงๆ 

"ช่วงนี้คุณพักผ่อนก่อนนะครับ เรื่องงานยังคงไม่ต้องทำ ถ้าจะไปเดี๋ยวผมให้คนพาไปเอง"

"อ้าว ทำไมไม่รีบทำงานให้เสร็จครับ" ถึงจะให้เวลาหนึ่งเดือนก็ตามแต่ถ้าไม่รีบเก็บภาพ ให้เป็นมืออาชีพขนาดไหนก็ไม่มีทางทำได้แน่

"ไม่ต้องรีบร้อน ผมอยากให้คุณค่อยๆ ซึมซับกับที่นี่ไปครับ" 

ธามเอียงคอน้อยๆ มองคนตรงหน้าที่นิ่งมากจนเขารู้สึกเกร็ง รอยยิ้มสักนิดก็ไม่มีเขาเป็นใครกันหรือจะเป็นนายจ้างเขา หรือเป็นลูกน้องที่รับคำสั่งอีกที จะถามก็ไม่กล้า นิ่งเงียบซะขนาดนั้น

"ที่นี่เงียบไหม" จู่ๆ เขาก็ถามขึ้น

"เออ...คือ....เงียบครับ" จริงอย่างที่พูด ธามไม่ปฏิเสธแน่ ตั้งแต่มาที่นี่เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างแปลกประหลาด และที่สำคัญไม่เสียงดังจนต้องใช้ที่อุดหู จริงๆ แล้วเป็นบรรยากาศที่เขาชอบมาก 

"คุณอยากลงไปข้างล่างไหมครับ"

"ครับ อยากลงไปข้างล่างแต่ผมหลงทาง...แฮะๆ" อายเหมือนกันที่ต้องพูดแบบนี้ แต่ทำไงได้ใครใช้ให้บ้านหลังนี้ใหญ่จนหาทางไปห้องครัวไม่ได้กัน

"งั้นผมพาคุณไปเอง...ตามผมมาสิครับ" ลุกขึ้นยืนและหันมามองธามกับรอยยิ้มเพียงมุมปากที่สามารถกระชากวิญญาณหญิงสาว และอาจจะดึงสติของธามไปด้วยก็ได้

ธามส่ายหน้าเบาๆ เดินตามชายที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร เอาเถอะตอนนี้เริ่มจะหิวแล้ว

การทานอาหารช่างเงียบเหลือเกิน ธามรู้สึกอึดอัดกับคนที่ชวนเขามาแต่กลับไม่พูดอะไรสักคำ

"คุณครับ"

"อืม" ส่งเสียงเล็กน้อยแต่ไม่เงยหน้ามอง

"คุณพาผมไปหาเจ้าของบ้านได้ไหมครับ...หรือ...หรือคนจ้างผมมาถ่ายภาพที่เกาะได้ไหม"

"อืม...คุณไม่ต้องรีบร้อนนักหรอก เกาะมันไม่หนีไปไหน คุณแค่อยู่อย่างสบายๆ ก็พอแล้ว" 

ท่าทางไม่เดือดร้อนกับสิ่งที่ธามร้อนใจ ยิ่งทำให้เขาอึดอัด ทำไมถึงใจเย็นได้ แล้วอีกอย่างเขาเป็นใครกัน

"เออ...คือว่า"

"รีบกินสิครับ เดี๋ยวเย็นหมดนะ"

เอาล่ะสิ ทำไมเขาต้องมาอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ด้วยนะ แทนที่จะรีบทำงานแล้วรีบกลับ

ผ่านบรรยากาศแสนอึดอัดมาได้ธามก็ขอตัวกลับห้องแต่จริงๆ แล้วเขาเดินไปหยิบกล้องลงมาเดินเล่นในสวนข้างหลัง ถึงจะไม่เคยชินกับทางเดินคดเคี้ยวแต่เขารู้สึกบางอย่างที่คุ้นเคยโดยเฉพาะสวนดอกไม้แห่งนี้ 

"ว้าว...สวยมากๆ" ถึงแม้จะไม่ใหญ่มากมายและข้างหลังเป็นป่าก็ตาม เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เสียงใบไม้เล่นกับลม หรือเสียงลมกระทบกับตัวบ้าน เขาได้ยินหมด อย่างน้อยเสียงแบบนี้ก็ไม่ใช่เสียงที่คนทำขึ้นมา

"เป็นธรรมชาติสุดๆ"

ธามถึงแม้จะเกิดมาไม่เหมือนคนอื่น ตรงที่สัมผัสเสียงได้เร็วกว่าใคร บางคนไม่ได้ยินเสียงคุยกันแต่เขาได้ยิน จึงเป็นเหตุที่ว่าทำไมถึงคบกับพี่ชายคนเดียว เพื่อนสนิทไม่มีสักคนไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีแต่ทุกคนไม่มีใครอยากคบกับเขาเลย เขาคงเป็นตัวประหลาด

.

"ชอบไหม"

"ชอบครับ เอ๊ะ!" ธามสะดุ้งตกใจกับเสียงด้านหลัง เขาอีกแล้ว

"คุณอีกแล้ว"

"อืม...อีกสองสามวันผมจะพาคุณไปเกาะแล้วคุณอยากเก็บภาพหรือบรรยากาศอะไร เก็บได้เต็มที่เลยนะครับ" พูดจบก็หันมายิ้มให้

รอยยิ้มแทบทำให้ธามชะงัก ไม่ใช่ว่ายิ้มจะกระชากใจหรอกนะ แต่เป็นยิ้มที่ไม่ต้องยิ้มซะดีกว่า 

.

ผ่านไปอย่างรวดเร็วกับชีวิตที่เงียบสงบจนอยากร้องไห้กลับบ้าน ธามและชายหน้านิ่งพาเขานั่งเรือส่วนตัวมาถึงเกาะที่มองยังไงก็มีแต่ป่า นี่เขาหลงมาอยู่ในป่าลึกลับหรือไง จะมีสัตว์ประหลาดโผล่มาไหมนะ 

"กลัวหรือไง" ชายที่ใครๆ เรียกเขาว่าบอสหวัง ทำให้ธามรู้เลยว่าชายหน้าตายตรงหน้าเป็นคนจ้างเขานั่นเอง

"ไม่ครับ" ส่ายหน้าปฏิเสธไปอย่างนั้นแต่แท้จริงแล้วอยู่ใกล้หมอนี่น่ากลัวกว่าอีก ทำอย่างกับเป็นหัวหน้ามาเฟีย

ธามและพี่ชายใส่สูทชุดดำกับหัวหน้าพาเขามาพักที่บ้านพักกลางเกาะ มองรอบๆ บ้านแล้วเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนมันเลือนรางจนจำไม่ได้ 

"เมื่อก่อนไม่ใช่เกาะของฉัน ฉันพึ่งซื้อไม่นานมานี้" จู่ๆ บอสหวังก็เอ่ยขึ้น 

ธามฟังแต่ไม่ได้สนใจนัก เขามาถ่ายรูปใช่ว่าจะอยู่นาน เรื่องของเจ้านายก็คือเรื่องของเจ้านาย ลูกจ้างชั่วคราวอย่างเขาจะเอามาใส่ใจทำไมกัน

การสำรวจสถานที่ของธามเริ่มตอนเช้าและงานทุกอย่างราบรื่นไปได้ด้วยดีตามที่ธามคำนวณไว้ เขาไม่ให้ตามขณะที่ทำงานอยู่ไม่อย่างนั้นงานออกมาต้องไม่ธรรมชาติแน่ๆ ในเมื่อบอสหวังไม่ได้กำหนดหรือบังคับงานของเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนทำงาน งานนี้ตามใจฉัน

ธามเดินเพลินจนมาหยุดอยู่ที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง ความรู้สึกคุ้นเคยก็ค่อยๆ มากขึ้นเรื่อยๆ

"จำได้แล้ว" ใช่แล้วเขาเคยมาที่นี่ แต่เมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้ ที่นี่ดูร้างมากจนทุกอย่างเก่าพร้อมพังตลอดเวลา

"ตรงนี้เราเคยเข้ามานี่นา" ธามเดินเข้าไปในบ้านร้านสำรวจภายในด้วยความมึน ความทรงจำที่เขาไม่ต้องการจำกลับเข้ามา 

"เปี๊ยะ...ตุบ" เสียงคานไม้บนเพดานเริ่มรัาวหล่นลงมาโดยที่ธามไม่รู้สึกตัว

"โอ๊ย..." ด้วยสัญชาตญาณของธามเขาต้องหลบไม้นั่นและล้มลงนั่งก้มหน้าพร้อมยอมรับความเจ็บปวด

แต่ทำไมไม่เจ็บ ...

"เป็นอะไรไหม" เสียงนุ่มปนความห่วงใยของบอสหวัง เขาเข้ามารับไม้ที่หล่นแทนธามจนได้รับบาดเจ็บ

"ไม่ครับ...แต่คุณ...เลือดๆ" ตกใจกับเลือดสีแดงและกลิ่นคาวเลือดที่คลุ้งจนธามทนไม่ไหวเป็นลมทันที

"อ้าว...แค่นี้ก็เป็นลมแล้วแบบนี้จะอยู่กับผมได้ยังไง"

.

หลังจากความมืดมิดเล่นงานธามอย่างไม่ทันตั้งตัว พอรู้สึกตัวอีกทีเขาก็มานอนบนที่นอนของตัวเองซะแล้ว

"เฮ้ย...ใครเปลี่ยนชุดให้" ธามจับตามตัวมองดูทุกส่วนของร่างกายว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า

"ผมไม่ทำอะไรคนป่วยหรอก สบายใจได้"

ธามชะงักกับคนที่ไม่น่ามายืนอยู่ในห้อง บอสหวังคิดจะทำอะไร ประตูหลังยังบริสุทธิ์อยู่ใช่ไหมหรือเขาจะเห็นของเราแล้ว 

ยิ่งคิดยิ่งหน้าซีด ผู้ชายคนนี้ทำไมออร่าน่ากลัว ทำให้เขารู้สึกถึงการเสียความบริสุทธิ์ตลอดเวลา

"กลัวอะไร หรือเสียใจอยากให้ผมทำมากกว่านี้" บอสหวังเดินเข้าไปใกล้ ใกล้จนแทบจะได้ยินเสียงลมหายใจ

"หยุดนะ..." ธามยกมือสองข้างยันหน้าอกของบอสหวังและหลับตาปี๋ด้วยความตกใจ

ตุ๊บ...ตุ๊บ...เสียงหัวใจที่ไม่รู้ว่าเป็นของเขาหรือของบอสหวังกันแน่ 

"ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก แค่คุณปลอดภัยผมก็ดีใจแล้วครับ" มือทั้งสองของธามถูกบอสหวังรวบเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว

"แขนคุณเป็นยังไงบ้าง" ธามพึ่งนึกออกว่าก่อนที่เขาจะเป็นลมไปนั้น เขาจำได้ว่าบอสหวังบาดเจ็บเพราะมารับไม้ที่หล่นแทนเขา

"ออ...ดีขึ้นแล้วครับ" บอสหวังปล่อยมือทั้งสองของธามและถกแขนเสื้อให้ธามเห็น

"สบายมากครับ...แผลถลอกนิดหน่อยเอง" 

"นิดหน่อยแต่ต้องดูให้ดีนะครับ ไม่อย่างนั้นจะป่วยเอาได้" ธามรีบเถียง นี่เขาเป็นห่วงชายตรงหน้าตั้งแต่ตอนไหนกัน

"คุณเป็นห่วงผม" บอสหวังยิ้ม

"ไม่ใช่สักหน่อย แค่ไม่อยากเห็นใครมาเจ็บตัวเพราะผมต่างหาก" ธามหลบหน้าพลิกตัวนอนตะแคงหนีบอสหวัง ทำไมหน้าร้อนขนาดนี้นะ

"ฮึ...คุณพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวผมจะให้พยาบาลมาดูแลคุณ"

ไม่มีเสียงตอบจากธาม เขาหลับตาหนีบอสหวังจนได้ยินเสียงฝีเท้าและประตูถูกปิดลง ตอนนั้นธามถึงจะลืมตาอีกครั้ง เขาผลิกตัวกลับมานอนหงายและเชื่อมโยงกับความทรงจำที่เขานึกออกตอนอยู่บ้านร้าง สิ่งที่เขาคาใจและตั้งคำถามมากมายคำตอบทั้งหมดจะอยู่ที่บอสหวังไหม 

"หรือเขาจะเป็นเด็กคนนั้น"

ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนนั้นธามมาเที่ยวกับครอบครัว เกาะแห่งนี้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงบ้านหลังโตของบอสหวัง เมื่อก่อนเป็นบ้านให้นักท่องเที่ยวมาเช่าอาศัยชั่วคราว หนึ่งในนั้นมีครอบครัวธามรวมอยู่ด้วย

"ธาม นายจะไปไหน" ธีมถาม เพราะเขาจะไปด้วย

"ไม่ต้องตามมา ธามจะไปเดินเล่น" 

"อ้าว เดี๋ยวหลงแม่ตีนะ" ธีมขู่ทันที

"ตีพี่ดิ ไม่เกี่ยวกับธามซะหน่อย" ก่อนวิ่งหนีธามแลบลิ้นใส่ทันที เรื่องอะไรจะให้พี่ธีมตามมา อิสระของธามกำลังจะมาแล้ว

อิสระของธามคือการหลงทางมาอยู่ที่บ้านร้างแห่งหนึ่ง

"ฝนจะตกแล้ว...ทำไงดี" อยากร้องไห้แต่ทำอะไรไม่ถูก 

"เปรี้ยงๆ..." จู่ๆ เสียงฟ้าผ่าก็ดังขึ้น ธามตกใจวิ่งเข้าไปอยู่ในบ้านร้างทันที 

"ทำไงดี ที่อุดหูลืมเอามา" กลัวสุดๆ ไม่ใช่การที่ฝนตกแต่เป็นเสียงที่ดังจนเกินไป

"ฮือๆ...พี่ธีมช่วยธามด้วย" ขดตัวแอบอยู่ใต้โต๊ะจนตัวสั่น เมื่อไหร่จะหมดเสียที 

"นาย เป็นอะไรไหม" จู่ๆ ก็มีเด็กหนุ่มหน้าตาดีแนวลูกครึ่งโซนเอเชียเปิดผ้าคลุมโต๊ะออกเพื่อมองคนที่ตัวสั่นอยู่ข้างในอย่างเป็นห่วง

"ฮือๆ พี่ธีมใช่ไหม" น้ำตากลบการมองเห็นเมื่อมองหน้าเด็กหนุ่มคนนั้น

"ไม่ใช่ แต่นายไม่เป็นอะไรนะ" เขาเข้ามานั่งเบียดและกอดธามไว้ไม่ให้ตื่นกลัว ทำอย่างกับธามเป็นเด็กที่ต้องดูแล

ช่วงเวลานั้นผ่านพ้นไปเมื่อธามถูกอุ้มจากพ่อบ้านของเด็กหนุ่มที่ออกตามหาคุณหนูของพวกเขา และพ่อบ้านได้พาธามกับคุณหนูของเขาไปพักที่บ้านของตระกูลซึ่งไม่ได้อยู่ในเกาะ 

"คุณหนู ไม่อยากบอกคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงจริงหรือครับ"

"ไม่...ถ้าใครถามก็บอกว่าเป็นเพื่อนผม กว่าคุณพ่อกับคุณแม่จะกลับจากฮานีมูนก็อีกหลายเดือน" 

"แต่ผมคิดว่าน่าจะแจ้งความตามหาพ่อกับแม่ของเขาหน่อยไหมครับ" สิ่งที่กังวลไม่ใช่อะไร แต่เป็นคนแปลกหน้าที่ไม่รู้ว่ามาจากครอบครัวไหน ไว้ใจได้หรือไม่นี่สิปัญหา แล้วถ้าพ่อกับแม่ของเด็กคนนี้ตามหาและเขาเอาเรื่องขึ้นมาจะไม่ทันแก้ไข

"ไม่ต้องห่วง ผมรู้ตัวเองดีว่าทำอะไรอยู่" 

"ครับคุณหนู" พ่อบ้านก้มหน้าเล็กน้อยแล้วถอยหลังเดินกลับไป

ตอนนี้เหลือแต่หนุ่มน้อยสองคนในห้องนอน 

"ร้องไห้อยู่เหรอ" เขาไม่ปฏิเสธว่าธามน่ารักตั้งแต่แรกเห็น เขาอยากเป็นพี่ธีมที่ธามร้องเรียกหาเสียจริง 

"ธีม คือใครกัน" ทำไมรู้สึกขัดใจที่ธามเรียกหาคนอื่นมากกว่าสนใจเขาที่อยู่ใกล้มากกว่า

"นายตื่นเมื่อไหร่ค่อยมาเล่นด้วยกันนะ" ล้มตัวนอนกอดธามอย่างสบายใจ ถ้ามีธามอยู่เขาคงไม่มีวันเหงาแน่

เวลาผ่านไปจากสามวันเป็นหนึ่งอาทิตย์ จากหนึ่งอาทิตย์เป็นเดือน ธามเหมือนคนถูกขังในกรงทอง ถึงจะมีทุกอย่างแต่เขากลับรู้สึกเหงาแปลกๆ 

"เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงกินข้าวน้อยจัง" 

"ฉันอยากกลับบ้าน เมื่อไหร่คนที่บ้านจะมารับซะที" ธามเริ่มงอแง

"เดี๋ยวเขาก็มารับ พ่อบ้านติดต่อให้นายแล้วล่ะ"

"นายโกหก ที่นี่ที่ไหนและพ่อกับแม่ฉันไม่มีทางลืมมารับฉันแน่ ฉันจะโทรหาตำรวจ" ธามไม่ยอมแพ้

"อีกสามวัน ถ้านายไม่ดื้อ รับรองพ่อกับแม่นายต้องมารับแน่นอน"

ธามชะงักเล็กน้อย ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เขาไม่ได้รับอนุญาตออกนอกรั้วบ้านหลังนี้เลยสักครั้ง แต่ถ้าอีกสามวันเพื่อได้ออกไป เขาก็ยอมอดทนอีกนิดก็ได้

แต่โชคไม่เข้าข้างใคร เมื่อธามแอบได้ยินสาวใช้คุยกัน

"เธอ เด็กที่มาอยู่กับคุณหนูน่าสงสารจริงๆ "

"ทำไมล่ะ"

"ฉันได้ยินมาว่าเด็กคนนั้นอยากกลับบ้าน และรอครอบครัวมารับ แต่เธอรู้ไหมคุณหนูไม่ได้ตามหาครอบครัวให้จริงๆ หรอกนะ"

"อืม...น่าสงสารจริงๆ คุณผู้หญิงน่าจะหาใครมาเล่นกับคุณหนูเสียที ไม่ใช่เอาลูกใครมาขังเล่นแบบนี้นะ น่าสงสารจริงๆ"

"ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องของพวกเรา เดี๋ยวคุณพ่อบ้านคงหาทางเตือนคุณหนูเองนั่นแหละ"

การสนทนาของสาวใช้ทำให้ธามคิดอะไรไม่ออก นี่เขาโดนหลอกให้อยู่ที่นี่ใช่ไหม จะทำยังไงดีถึงจะออกจากที่นี่ได้

"คุณหนูธาม" จู่ๆ ก็มีเสียงของพ่อบ้านร้องเรียกจากด้านหลัง ทำให้ธามสะดุ้งตกใจ

"คะ...ครับ" ธามพูดไม่ออกเลยทีเดียว คุณพ่อบ้านจะได้ยินที่เขาคิดไหม

"คุณหนูเรียกหาครับ" พ่อบ้านยิ้มและพาธามไปหาคุณหนูของเขา

ชีวิตในแต่ละวันของธามผ่านไปอย่างน่าเบื่อ จนกระทั่งเขาเห็นรถตำรวจผ่านมาแถวประตูทางเข้า เป็นโอกาสหนีที่ดีที่สุด ธามตัดสินใจวิ่งลงจากชั้นสองเพื่อร้องเรียกตำรวจ 

"ธาม นายคิดจะทำอะไร" โดนจับได้จนได้

"ปะ...ป่าว...ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย" อยากร้องไห้ทำไมถึงต้องมาโดนคนโรคจิตจับตัวกันแน่นะ

"ไปนั่งเล่นในห้องสมุดกันไหม วันนี้มีหนังสือใหม่มาเพิ่มหลายเล่ม" 

ธามจำใจต้องพยักหน้าและเดินตามอย่างกับคนหมดหวัง ทำยังไงดี จะหนียังไงดี

จนกระทั่งตกดึกคืนนั้น ธามเดินย่องออกมาข้างนอก คืนนี้เป็นคืนที่เขารวมความกล้าเพื่อจะหนี หนีกลับบ้านไปหาครอบครัวของเขา

"มืดจัง" ธามกลั้นใจต้องออกจากที่นี่ให้ได้ 

การปีนข้ามรั้วเป็นไปไม่อยากเพราะเขาตัวเล็ก เขาคาดหวังว่าจะเจอป้อมตำรวจ ถึงจะกลัวจนขาดใจก็ตามแต่ต้องรอด

ทางด้านคุณหนูของบ้าน ตื่นมาพร้อมกับความว่างเปล่า เขารับรู้และเตรียมใจตั้งนานเกี่ยวกับแผนการหลบหนีของธาม อ่านออกง่ายกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก

"คุณหนูครับ" พ่อบานเปิดประตูเข้ามาและร้องเรียกคุณหนูของเขา

"เขาไปแล้วสินะ"

"ครับ...ผมแจ้งตำรวจที่เรารู้จักให้ดักคุณธามไปส่งที่บ้าน ตามที่คุณหนูต้องการแล้วครับ" 

"อืม ขอบใจมาก" 

เมื่อพ่อบ้านเดินออกจากห้องไป หนุ่มน้อยก็เริ่มร้องไห้ ทำไมเหงาจัง

.

.

กลับมาปัจจุบัน ธามที่นั่งทบทวนเรื่องราวในอดีตที่ตนจำได้ ก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา กลัวว่าจะโดนขังเหมือนตอนเด็ก

"ทานข้าวต้มร้อนๆ ครับ" บอสหวังถือชามข้าวต้มเข้ามาในห้อง

"ไม่...ไม่เป็นไร เดี๋ยว...เดี๋ยวฉันกินเอง" ท่าทางที่แปลกไปของธาม ทำให้บอสหวังรู้แล้วว่าธามจำทุกอย่างได้แล้ว

"เข้าใจแล้วครับ ผมวางข้าวต้มไว้ตรงนี้นะครับ" เขาวางข้าวต้มบนหัวนอนของธามและก่อนจะออกจากห้อง เขาได้ทิ้งท้ายไว้ว่า

"ผมขอให้คุณทำงานตามสัญญา ถ้าคุณจะไปก่อนผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าคุณอยู่จนครบสัญญา วันสุดท้ายผมอยากให้คุณตอบคำถามหนึ่ง" 

ธามคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมด เขามีจรรยาบรรณในการทำงานพอ ไม่ทิ้งงานกลางทางแน่นอน 

การตัดสินใจของธามกับท่าทางนิ่งเฉยของบอสหวัง ทำให้ธามทำงานอย่างสบายใจแต่ลึกๆ กลับรู้สึกขาดอะไรไปบางอย่าง 

จนกระทั่งวันสุดท้ายของการทำงาน ธามเข้าไปหาบอสหวังตามสัญญา ท่ามกลางสวนดอกไม้และกลิ่นละอองเกสรที่ถูกลมพัดผ่านจนหอมฟุ้งไปทั่ว 

"ผมขอถามคุณเพียงอย่างเดียว" บอสหวังเป็นคนเอ่ยก่อน เมื่อธามมายืนใกล้เขา

"ครับ"

"คุณจะยกโทษให้ผมกับเรื่องอดีตที่ผ่านมาได้ไหมครับ" 

"ผมยกโทษให้ จริงๆ ผมก็ไม่ได้โกรธอะไร แค่ไม่ชอบวิธีการของคุณที่กักขังและโกหกผมเท่านั้น" เป็นวิธีการหาเพื่อนแบบแปลกๆ ของคนรวยหรือเปล่า

"ผมสบายใจจริงๆ ครับ ตั้งแต่คุณกลับไปผมก็คิดถึงตลอด ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ถ้าคุณกลับบ้านผมคง...ไม่ไปได้ไหม อยู่กับผมตลอดไปได้ไหมครับ" บอสหวังถามอีกครั้งอย่างมีความหวัง

"คำถามมากกว่าหนึ่งข้อแล้วครับ ผมไม่ตอบ ผมขอกลับไปหาพี่ชายแล้วกัน" 

"ตามที่คุณต้องการ ตามสัญญาผมจะโอนเงินก้อนสุดท้ายให้คุณครับ" ความผิดหวังทำให้บอสหวังต้องหุบยิ้มและกลับมานิ่งอีกครั้ง ครั้งนี้เขาตั้งใจว่าจะไม่บังคับธาม อยากให้ธามตัดสินใจเอง

ทุกอย่างเป็นไปตามสัญญาการทำงาน ธามได้กลับไปหาธีมด้วยความรู้สึกสับสน

"กลับมาแล้วหรือไอ้น้องชาย" 

"เอ้า....ภาพทั้งหมดอยู่ในกล้อง" ธามยื่นกล้องที่มีภาพต่างๆ อยู่ในนั้นให้พี่ชายจัดการต่อ

"โอเค...จัดไป" งานต่อไปคือของธีม และต้องจัดทำให้ดีก่อนส่งให้นายจ้าง

ธามหันไปมองพี่ชายที่ทำงานอย่างจริงจังเพื่อเงินก้อนสุดท้าย แต่ทำไมเขากลับไม่ดีใจ

เขายอมรับตลอดเวลาที่อยู่กับบอสหวังเขารู้สึกว่าตนเองเป็นคนสำคัญ และทุกวันต้องเจอบอสหวังจนเขารู้สึกเหงาแปลกๆ เมื่อรู้ว่าวันนี้และวันพรุ่งนี้จะไม่มีคนหน้าตาอย่างบอสหวังมากวนอีกต่อไป

เวลาผ่านไปสามวันกับการส่งงานให้บอสหวังของพี่ชาย แต่ต้องตกใจเมื่อคนจ้างไม่รับงานที่ธีมทำ

"ทำไมเขาไม่รับ เขาส่งอีเมลมาบอกว่าไม่รับให้แกเก็บไว้ แกไปทำอะไรให้เขาโกรธหรือเปล่า" ธีมเข้ามาโวยวาย งานที่ทำทั้งหมดถูกปฏิเสธแถมยังให้น้องชายเก็บไว้ มันยังไงกันแน่ 

"ผมจะไปรู้หรือไง" ธามยักไหล่ ใครมันจะไปคิดแทนบอสแบบนั้นได้ ตอนนี้เล่นอะไรอยู่ก็ไม่รู้

"ติ้ง..." เสียงเรียกเข้าทางโทรศัพท์ของธีมดังขึ้น จนน่าหงุดหงิด

"ใครมันส่งอะไรมาว่ะ"

"เงินเข้า..เฮ้ย...ได้ไง ไม่เอางานแถมเงินก็ให้อีก" ธีมแปลกใจ

"จริงอ่ะ เข้าเท่าไหร่" ธามตกใจไม่แพ้กัน

"เหมือนก้อนแรก ฮิฮิ...ทำดีมากไอ้น้องชาย เอ้า...เก็บไว้เป็นที่ระลึก ฉันไปล่ะ" ธีมโยนอัลบั้มคืนให้ธาม ก็เจ้าของต้องการแบบนั้นก็ต้องสนองให้เต็มที่

"อ้าว...พี่ธีม แล้วเงินน้องล่ะ" 

ความเงียบมาเยือน ไอ้พี่เลวงุบงิบเงินทำตีเนียนเงียบอีกแล้ว ถึงธามจะหงุดหงิดพี่ชายคาบเงินไปก็ตาม แต่เขาก็ชินแล้วกับการที่พี่ธีมของเขาทำแบบนี้ ยังไงเงินทั้งหมดที่ได้ก็ต้องเอามาลงทุนอยู่ดี 

ธามกลับยิ้มและดีใจมากกว่าที่เขาได้ภาพทั้งหมด เหมือนมีความทรงจำเกี่ยวกับบอสหวังเอาไว้ในใจ อยากเจอเขาอีกจัง

เป็นครั้งแรกตลอดเวลาที่รู้จักตัวตนของบอสหวัง เขาคิดว่าชายคนนี้ไม่น่าอยู่ใกล้แต่พอรู้ว่าอาจจะไม่เจออีกต่อไป ทำไมใจกลับหวิวจนเหงาอย่างบอกไม่ถูก

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปจนเป็นเดือน ธามได้ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ 

"ธามกลับมาแล้ว" ธีมรีบเปิดประตูให้น้องชายเข้าบ้าน

"มีอะไรพี่ธีม แล้วรถใครมาจอดหน้าบ้าน" รถคันนี้คุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน

"มีคนรอพบนาย ไอ้น้องชายทำไมมีเพื่อนหน้าตาดีขนาดนี้นะ" ธีมยิ้มเล็กน้อย

"ใครกัน" ธามขมวดคิ้วและนึกถึงหน้าเพื่อนฝูงที่รู้จักร้านของเขา ก็มีไม่กี่คน

และต้องตกใจเมื่อเห็นคนที่คิดถึงมาโดยตลอด ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้

"คุณ..."

"ผมอยากได้คำตอบ คุณยังตอบไม่ตรงคำถาม"

"คือ..."

"คบกับผมได้ไหม" จู่ๆ ก็พุ่งคำถามที่ไม่ทันตั้งตัว หรือให้เวลาได้ตัดสินใจสมกับเป็นบอสหวังเลยทีเดียว

"เดี๋ยวสิ" คนบ้าจะให้ตอบตอนนี้เลยหรือไง เคยอายกับเขาไหม

"ไม่ต้องตัดสินใจแล้วไปอยู่กับผม ผมให้พี่ชายคุณเก็บของให้แล้ว"

"ฮ๊ะ...นายจะบ้าหรือไง" ธามหันมามองธีม

"พอดีเขาอยากให้พี่ช่วยนะ พี่เลยสงสารจึงเก็บของสำคัญให้เราเรียบร้อยแล้วล่ะ" ธีมยื่นกระเป๋าส่งไปให้ทันที ทำไงได้ถ้าไม่ทำตามเขาขู่ว่าจะเผาร้านนี่น่า ทำเพื่อแม่นะน้องชาย พวกเราต้องรักษาร้านนี้ไว้

ธามเดินตามแรงจูงของบอสหวังอย่างมึนๆ นี่เขาถูกพี่ชายยกให้คนอื่นดูแลหรือเปล่านะ 

ตลอดทางธามไม่พูด หันหน้าหนีบอสหวังเพราะเขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ แล้วทำไมถึงต้องทำตามชายคนนี้อีกครั้งเพราะอะไร 

"ธาม ขอร้องอย่าหลบหน้าผมได้ไหม" เสียงอ้อนทำให้ธามเริ่มใจอ่อนจึงหันหน้าไปหาเจ้าของเสียง

"อุ๊ป..." ยังไม่ทันจะได้พูดธามก็ถูกประกบปากด้วยชายตรงหน้า

อื้ออ...หายใจไม่ออก...ชายคนนี้ไม่ให้เขาได้หายใจ

"แฮ่กๆ " หน้าแดงและรีบสูดอากาศเข้าปอดเมื่อบอสหวังปล่อยเขาให้เป็นอิสระ 

"ทำโทษที่ไม่มาหา และให้ผมรอนานเกินไป"

"อื้อ...ใครเขาให้นายรอกันล่ะ" ธามหน้าแดงและรีบเถียง 

"เถียงผมใช่ไหม...ต้องทำโทษอีกนะ"

ธามปิดปากถอยห่าง คนบ้าชอบบังคับจิตใจคน แต่ก็สู้แรงคนที่แข็งแรงกว่าไม่ได้ เขาถูกดึงให้มาอยู่ในอ้อมแขนแบบไม่ทันตั้งตัว

"ผมไม่ทำอะไรแล้ว...ขอบคุณนะที่ยอมขึ้นรถมาอยู่กับผม ผมรอคำตอบคุณไม่ไหว อย่าไปไหนอีกเลยนะผมขอร้อง" 

ธามนั่งนิ่งและพยักหน้าให้กับคนที่กำลังมีจังหวะหัวใจเต้นแรงไปพร้อมกับเขา 

"ผมถือว่า ท่าทางแบบนี้คือคำตอบที่จะอยู่กับผมนะครับ" 



HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 เม.ย. 2563, 08:22:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 เม.ย. 2563, 08:22:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 456





<< ณ โรงหนังเป็นนัดของสองเรา (Yaoi)   ความทรงจำวัยเยาว์ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account