ร้อยเล่ห์...นายเหมันต์
เขียนนิยายรักแนวหวานมาหลายเรื่อง อยากลองแนวอิโรติกดูบ้าง มาดูกันว่าจะได้แค่ไหน
Tags: สิรินดา, รักเล่ห์, นิยายรัก
ตอน: 11: วันที่โชคไม่เข้าข้าง
เมื่อคืนฉันนอนแทบไม่หลับ...สมองคิดวุ่นวายแต่เรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นหากไม่สามารถหาคำตอบให้ปรเมศได้ทันเวลาที่เขากำหนด
เลิกงาน แยกย้ายกับหัวหน้า...ระหว่างขับรถกลับบ้าน ฉันตัดสินใจลองโทรไปหาเจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการ คนที่ตอนที่เจอกันครั้งแรกเขาเจ้ากี้เจ้าการให้ฉันอ่านเอกสารจากแฟ้มกระดาษหนาเป็นปึกนั่นแหละ ฉันรู้ว่าเขาเป็นผู้ทำงานหลัก น่าจะเก็บข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับการแข่งขันไว้
ถ้าจะได้ข้อมูล ก็ต้องจากคนคนนี้...
"น้องคะ พอดีพี่ต้องรายงานให้เจ้านายทราบเกี่ยวกับผลคะแนนล่าสุด ก่อนที่จะตัดสินรอบสุดท้าย น้องพอจะส่งคะแนนของทุกกลุ่มให้พี่ก่อนได้ไหมคะ ก่อนสิบโมงพรุ่งนี้" ฉันโกหกหน้าตาเฉย บอกตัวเองว่าเพื่อความปลอดภัยในชื่อเสียงของตัวเอง ไม่ทำก็ไม่ได้ อย่างน้อยขอให้มีข้อมูลมาก่อน จะส่งให้ปรเมศหรือไม่ค่อยคิดอีกที
"เอิ่ม...ก็ไม่แน่ใจนะครับ ต้องลองถามหัวหน้าผมก่อน"
"ก็ได้ค่ะ ฝากลองถามดูนะคะ"
"ปกติเราจะไม่ให้กรรมการก่อน"
"พี่ทราบค่ะ พี่แค่อยากเอามาประกอบการคุยกับเจ้านาย เพราะรอบสุดท้ายท่านแจ้งว่าอาจจะไปเองค่ะ"
ฉันถือโอกาสที่บริษัทของฉันเป็นผู้จ่ายรายใหญ่ เผื่อว่ามันจะใช้ขู่เขาได้บ้าง
...ทำไปแล้วก็รู้สึกแย่กับตัวเองจนนอนไม่หลับ...พอๆ กับแย่ที่คิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดีถึงทำให้ตัวเองพ้นจากสภาวะเหล่านี้
ไม่น่าเชื่อว่าฉันรู้จักปรเมศเพียงไม่ถึงสามเดือน เรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ฉันเผลอตัวเผลอใจไปกับเขาจนเกือบหมด ถ้าไม่เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันวันนั้นที่คอนโด ป่านนี้ฉันคงมีอะไรกับเด็กหนุ่มคนนี้ไปแล้ว
อยากจะโทษว่ามันเป็นเพราะเขาตั้งใจมาหาผลประโยชน์จากฉัน
อยากจะโทษว่าเขามันร้ายกาจ เจ้าเล่ห์
แต่..พอมาคิดดีๆ แล้ว ฉันเองนั่นแหละที่ผิด ไม่คิดให้รอบคอบ ไม่ใช้วิจารณญาณในการคบใครสักคน หน้ามืดตามัว หลงลมคำพูดหวานๆ หน้าตาดีๆ ของเขา
ถึงจุดนี้...โทษใครไม่ได้
เช้าวันนี้ฉันมาทำงานด้วยความเครียดที่ยังไม่ลดลงจากคืนก่อน อยากจะโทรไปหาผู้ประสานงานโครงการอีกรอบเพื่อขอผลคะแนน แต่ก็ไม่กล้า
เก้าโมงครึ่ง เจ้านายเรียกประชุม (อีกแล้ว) เพราะเรื่องงานด่วนเมื่อวานมีประเด็นที่ต้องเตรียมข้อมูลต่อ ฉันกับน้องที่ช่วยงานเมื่อวานถูกเรียกเข้าห้องและแจกงานอย่างรวดเร็ว
งานด่วน งานสำคัญ แต่ไม่มีสมาธิทำงานเลย
ในใจเอาแต่นับเวลาถอยหลัง
หลังจากคุยเรื่องงานเสร็จ เจ้านายบอกให้ธีรวิชออกไปก่อน และขอคุยกับฉันต่อ
"จะบอกว่าผมได้รับคะแนนจากผู้ประสานงาน UStart แล้วขอบใจมากนะที่ขอคะแนนการแข่งขันให้ กำลังคิดอยู่เลยว่าจะทำยังไงให้ตามเรื่องติดได้ เพราะปล่อยให้คุณไปแทนเสียเกือบทุกครั้ง ทุกปีผมไม่เคยงานยุ่งเท่านี้เลย"
ฉันนิ่งอึ้ง หมายความว่า คะแนนถูกส่งมาแล้ว แต่ไม่ได้ส่งมาให้ฉัน ...มันส่งให้ผู้บังคับบัญชา
เขาจะแปลกใจไหมนะ ว่า...ทำไมฉันถึงทำแบบนั้น ดูจากหน้าตาท่าทาง...น่าจะไม่
หรือถ้าเขาสงสัย ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาทางสีหน้า
"ค่ะ" ฉันตอบได้แค่นั้น รู้สึกเหงื่อซึมที่ฝ่ามือ สมองหมุนติ้ว
"ดีแล้ว เดี๋ยวครั้งสุดท้ายผมจะไปเองก็แล้วกัน ผู้ประสานงานส่งกำหนดการมาแล้ว จะขอให้ผมแถลงข่าวด้วยในฐานะสปอนเซอร์รายใหญ่ อย่างนี้ไม่ไปก็คงไม่ได้"
อะไรนะ...เจ้านายจะไป หมายความว่า...
"ตอนแรกคุณอ้อยบอกว่าคุณบัญชาไม่สะดวกนี่คะ"
"ใช่ แต่เมื่อเช้าคุยกับอ้อยใหม่แล้ว เคลียร์คิวให้งานนี้ ผมอยากให้คุณสรุปประเด็นน่าสนใจของแต่ละผลงานให้หน่อย เผื่อวันสุดท้ายให้คะแนนจะได้ไม่ผิดทาง"
"เอิ่ม...ได้ค่ะ"
ฉันเดินออกมาจากห้องผู้บริหารอย่างมึนงง
สรุปว่า ผู้ประสานงานส่งคะแนน ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรเมศต้องการมาให้แล้ว แต่เขาไม่ได้ส่งให้ฉัน กลับส่งให้เจ้านายของฉันแทน
...หมายความว่าฉันจะไม่มีโอกาสได้รู้เลย ไม่มีโอกาสได้เห็นคะแนนนั่น
แล้วจะทำยังไงดีค่ะ เหลืออีกไม่ถึงชั่วโมง ก็หมดเวลาที่ปรเมศให้ไว้แล้ว
"อ้อ ผมมีประชุมต่อ เดี๋ยวจะออกไปข้างนอกกลับมาบ่ายๆ นะ ถ้างานที่ให้ไว้มีประเด็นก็โทรหาผมได้เลย อย่าเกรงใจ"
"ค่ะ" ฉันพยักหน้า แล้วก็เดินคอตกออกมา
ทำยังไงดี ทำยังไงดี
เดินมานั่งที่โต๊ะ เปิดคอมพิวเตอร์อย่างเครียดๆ เสียงเตือนจากข้อความ LINE ดังขึ้น
"ผมยังไม่ได้ข้อมูลนะครับ"
ฉันโทรกลับปรเมศทันที
"...เมศ พี่มี..."
"ผมรอได้ แต่อีกไม่นาน ตามที่เราตกลงกันไว้นะ หึ หึ" พูดจบก็วางสาย ไม่แม้แต่จะฟังว่าฉันจะพูดอะไร
ฉันอยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งลงถังขยะนัก ถ้าไม่กลัวเพื่อนร่วมงานจะสนใจว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ทำได้คือปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไล่ดูเอกสารด่วนที่กำลังทำ และพยายามตั้งสมาธิทำงานด่วนให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด โชคดีที่งานนี้มีคนช่วยทำอีกคน แต่ถ้าไม่มีสมาธิ ข้อมูลส่วนที่ฉันทำอาจจะพลาดได้เหมือนกัน
โอย...ทำยังไงดีเนี่ย งานด่วนก็ต้องทำ ผลคะแนนก็ต้องหาให้เมศ
วันนี้โชคไม่เข้าข้างกันเลย ทุกอย่างดูเหมือนมารุมฉันอยู่ตรงหน้า ณ เวลานี้
เอ๊ะ! เดี๋ยวสิ เจ้านายออกไปข้างนอก
แปลว่าในห้องทำงานของเขาว่างอยู่ และท่านอาจวางเอกสารพวกนั้นไว้บนโต๊ะ คะแนนของ UStart ถ้าฉัน...
ฉันลุกขึ้น เดินไปที่ห้องทำงานของเจ้านายทันที เลขาของเขาเงยหน้าขึ้น
"พี่อ้อย ลินลืมเอกสารไว้ที่โต๊ะท่านน่ะ ขอเข้าไปเอาหน่อยนะ ต้องทำงานด่วน"
เลขาฯ พยักหน้า แล้วเดินไปเปิดห้องให้ จังหวะนั้นเองมีเสียงโทรศัพท์เข้า เธอจึงเดินกลับออกมารับโทรศัพท์และเปิดประตูทิ้งไว้
ฉันรีบปิดประตูแบบไม่สนิท แต่ตั้งใจให้พ้นกับสายตาคนนั่งอยู่หน้าห้อง รีบเดินไปที่โต๊ะทำงานของเจ้านาย กวาดสายตาอย่างรวดเร็ว ไม่มีเอกสารที่ฉันต้องการอยู่ มันอยู่ไหนนะ
หรือว่ามันยังอยู่ในคอมพิวเตอร์ ท่านอาจยังไม่ได้ print มันออกมา
ฉันเดินข้ามโต๊ะไปที่คอมพิวเตอร์ซึ่งตั้งไว้ด้านข้างของโต๊ะ กำลังจะเอามือจับเมาส์เพื่อคลิกหาข้อมูล
"เจอไหมลิน"
"อุ๊ย ตกใจหมด" ฉันปล่อยเมาส์ทันที
"แหมขวัญอ่อนจริง พี่ถามว่าเจอเอกสารที่อยากไหม"
"เอิ่ม...ยังไม่เจอเลยค่ะ สำคัญเสียด้วย หรือท่านติดมือไปก็ไม่รู้" ฉันแกล้งทำเป็นค้นเอกสารต่อ
"ทำไงดีคะ"
"นั่นสิคะ แย่จัง มีอีกที่ เอกสารอยู่ในอีเมลของท่าน แต่ลินเข้าไม่ได้"
"อีเมลเหรอ ไหนข้อมูลอะไร พี่ print ให้ลินก็ได้นะ"
เลขาฯ พูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ เธอไว้ใจฉัน เพราะฉันเป็น "มือดี" และถูกเรียกทำงานด่วนๆ หลายครั้ง
แต่ตอนนี้ฉันจะไม่ใช่คนดีคนนั้นแล้ว
เอิ่ม เอกาสารชื่อ... พี่มาเปิดอีเมล์ก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวลินบอกให้ว่าอันไหน
.....
เลิกงาน แยกย้ายกับหัวหน้า...ระหว่างขับรถกลับบ้าน ฉันตัดสินใจลองโทรไปหาเจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการ คนที่ตอนที่เจอกันครั้งแรกเขาเจ้ากี้เจ้าการให้ฉันอ่านเอกสารจากแฟ้มกระดาษหนาเป็นปึกนั่นแหละ ฉันรู้ว่าเขาเป็นผู้ทำงานหลัก น่าจะเก็บข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับการแข่งขันไว้
ถ้าจะได้ข้อมูล ก็ต้องจากคนคนนี้...
"น้องคะ พอดีพี่ต้องรายงานให้เจ้านายทราบเกี่ยวกับผลคะแนนล่าสุด ก่อนที่จะตัดสินรอบสุดท้าย น้องพอจะส่งคะแนนของทุกกลุ่มให้พี่ก่อนได้ไหมคะ ก่อนสิบโมงพรุ่งนี้" ฉันโกหกหน้าตาเฉย บอกตัวเองว่าเพื่อความปลอดภัยในชื่อเสียงของตัวเอง ไม่ทำก็ไม่ได้ อย่างน้อยขอให้มีข้อมูลมาก่อน จะส่งให้ปรเมศหรือไม่ค่อยคิดอีกที
"เอิ่ม...ก็ไม่แน่ใจนะครับ ต้องลองถามหัวหน้าผมก่อน"
"ก็ได้ค่ะ ฝากลองถามดูนะคะ"
"ปกติเราจะไม่ให้กรรมการก่อน"
"พี่ทราบค่ะ พี่แค่อยากเอามาประกอบการคุยกับเจ้านาย เพราะรอบสุดท้ายท่านแจ้งว่าอาจจะไปเองค่ะ"
ฉันถือโอกาสที่บริษัทของฉันเป็นผู้จ่ายรายใหญ่ เผื่อว่ามันจะใช้ขู่เขาได้บ้าง
...ทำไปแล้วก็รู้สึกแย่กับตัวเองจนนอนไม่หลับ...พอๆ กับแย่ที่คิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดีถึงทำให้ตัวเองพ้นจากสภาวะเหล่านี้
ไม่น่าเชื่อว่าฉันรู้จักปรเมศเพียงไม่ถึงสามเดือน เรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ฉันเผลอตัวเผลอใจไปกับเขาจนเกือบหมด ถ้าไม่เกิดเรื่องเข้าใจผิดกันวันนั้นที่คอนโด ป่านนี้ฉันคงมีอะไรกับเด็กหนุ่มคนนี้ไปแล้ว
อยากจะโทษว่ามันเป็นเพราะเขาตั้งใจมาหาผลประโยชน์จากฉัน
อยากจะโทษว่าเขามันร้ายกาจ เจ้าเล่ห์
แต่..พอมาคิดดีๆ แล้ว ฉันเองนั่นแหละที่ผิด ไม่คิดให้รอบคอบ ไม่ใช้วิจารณญาณในการคบใครสักคน หน้ามืดตามัว หลงลมคำพูดหวานๆ หน้าตาดีๆ ของเขา
ถึงจุดนี้...โทษใครไม่ได้
เช้าวันนี้ฉันมาทำงานด้วยความเครียดที่ยังไม่ลดลงจากคืนก่อน อยากจะโทรไปหาผู้ประสานงานโครงการอีกรอบเพื่อขอผลคะแนน แต่ก็ไม่กล้า
เก้าโมงครึ่ง เจ้านายเรียกประชุม (อีกแล้ว) เพราะเรื่องงานด่วนเมื่อวานมีประเด็นที่ต้องเตรียมข้อมูลต่อ ฉันกับน้องที่ช่วยงานเมื่อวานถูกเรียกเข้าห้องและแจกงานอย่างรวดเร็ว
งานด่วน งานสำคัญ แต่ไม่มีสมาธิทำงานเลย
ในใจเอาแต่นับเวลาถอยหลัง
หลังจากคุยเรื่องงานเสร็จ เจ้านายบอกให้ธีรวิชออกไปก่อน และขอคุยกับฉันต่อ
"จะบอกว่าผมได้รับคะแนนจากผู้ประสานงาน UStart แล้วขอบใจมากนะที่ขอคะแนนการแข่งขันให้ กำลังคิดอยู่เลยว่าจะทำยังไงให้ตามเรื่องติดได้ เพราะปล่อยให้คุณไปแทนเสียเกือบทุกครั้ง ทุกปีผมไม่เคยงานยุ่งเท่านี้เลย"
ฉันนิ่งอึ้ง หมายความว่า คะแนนถูกส่งมาแล้ว แต่ไม่ได้ส่งมาให้ฉัน ...มันส่งให้ผู้บังคับบัญชา
เขาจะแปลกใจไหมนะ ว่า...ทำไมฉันถึงทำแบบนั้น ดูจากหน้าตาท่าทาง...น่าจะไม่
หรือถ้าเขาสงสัย ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาทางสีหน้า
"ค่ะ" ฉันตอบได้แค่นั้น รู้สึกเหงื่อซึมที่ฝ่ามือ สมองหมุนติ้ว
"ดีแล้ว เดี๋ยวครั้งสุดท้ายผมจะไปเองก็แล้วกัน ผู้ประสานงานส่งกำหนดการมาแล้ว จะขอให้ผมแถลงข่าวด้วยในฐานะสปอนเซอร์รายใหญ่ อย่างนี้ไม่ไปก็คงไม่ได้"
อะไรนะ...เจ้านายจะไป หมายความว่า...
"ตอนแรกคุณอ้อยบอกว่าคุณบัญชาไม่สะดวกนี่คะ"
"ใช่ แต่เมื่อเช้าคุยกับอ้อยใหม่แล้ว เคลียร์คิวให้งานนี้ ผมอยากให้คุณสรุปประเด็นน่าสนใจของแต่ละผลงานให้หน่อย เผื่อวันสุดท้ายให้คะแนนจะได้ไม่ผิดทาง"
"เอิ่ม...ได้ค่ะ"
ฉันเดินออกมาจากห้องผู้บริหารอย่างมึนงง
สรุปว่า ผู้ประสานงานส่งคะแนน ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรเมศต้องการมาให้แล้ว แต่เขาไม่ได้ส่งให้ฉัน กลับส่งให้เจ้านายของฉันแทน
...หมายความว่าฉันจะไม่มีโอกาสได้รู้เลย ไม่มีโอกาสได้เห็นคะแนนนั่น
แล้วจะทำยังไงดีค่ะ เหลืออีกไม่ถึงชั่วโมง ก็หมดเวลาที่ปรเมศให้ไว้แล้ว
"อ้อ ผมมีประชุมต่อ เดี๋ยวจะออกไปข้างนอกกลับมาบ่ายๆ นะ ถ้างานที่ให้ไว้มีประเด็นก็โทรหาผมได้เลย อย่าเกรงใจ"
"ค่ะ" ฉันพยักหน้า แล้วก็เดินคอตกออกมา
ทำยังไงดี ทำยังไงดี
เดินมานั่งที่โต๊ะ เปิดคอมพิวเตอร์อย่างเครียดๆ เสียงเตือนจากข้อความ LINE ดังขึ้น
"ผมยังไม่ได้ข้อมูลนะครับ"
ฉันโทรกลับปรเมศทันที
"...เมศ พี่มี..."
"ผมรอได้ แต่อีกไม่นาน ตามที่เราตกลงกันไว้นะ หึ หึ" พูดจบก็วางสาย ไม่แม้แต่จะฟังว่าฉันจะพูดอะไร
ฉันอยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งลงถังขยะนัก ถ้าไม่กลัวเพื่อนร่วมงานจะสนใจว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ทำได้คือปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไล่ดูเอกสารด่วนที่กำลังทำ และพยายามตั้งสมาธิทำงานด่วนให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด โชคดีที่งานนี้มีคนช่วยทำอีกคน แต่ถ้าไม่มีสมาธิ ข้อมูลส่วนที่ฉันทำอาจจะพลาดได้เหมือนกัน
โอย...ทำยังไงดีเนี่ย งานด่วนก็ต้องทำ ผลคะแนนก็ต้องหาให้เมศ
วันนี้โชคไม่เข้าข้างกันเลย ทุกอย่างดูเหมือนมารุมฉันอยู่ตรงหน้า ณ เวลานี้
เอ๊ะ! เดี๋ยวสิ เจ้านายออกไปข้างนอก
แปลว่าในห้องทำงานของเขาว่างอยู่ และท่านอาจวางเอกสารพวกนั้นไว้บนโต๊ะ คะแนนของ UStart ถ้าฉัน...
ฉันลุกขึ้น เดินไปที่ห้องทำงานของเจ้านายทันที เลขาของเขาเงยหน้าขึ้น
"พี่อ้อย ลินลืมเอกสารไว้ที่โต๊ะท่านน่ะ ขอเข้าไปเอาหน่อยนะ ต้องทำงานด่วน"
เลขาฯ พยักหน้า แล้วเดินไปเปิดห้องให้ จังหวะนั้นเองมีเสียงโทรศัพท์เข้า เธอจึงเดินกลับออกมารับโทรศัพท์และเปิดประตูทิ้งไว้
ฉันรีบปิดประตูแบบไม่สนิท แต่ตั้งใจให้พ้นกับสายตาคนนั่งอยู่หน้าห้อง รีบเดินไปที่โต๊ะทำงานของเจ้านาย กวาดสายตาอย่างรวดเร็ว ไม่มีเอกสารที่ฉันต้องการอยู่ มันอยู่ไหนนะ
หรือว่ามันยังอยู่ในคอมพิวเตอร์ ท่านอาจยังไม่ได้ print มันออกมา
ฉันเดินข้ามโต๊ะไปที่คอมพิวเตอร์ซึ่งตั้งไว้ด้านข้างของโต๊ะ กำลังจะเอามือจับเมาส์เพื่อคลิกหาข้อมูล
"เจอไหมลิน"
"อุ๊ย ตกใจหมด" ฉันปล่อยเมาส์ทันที
"แหมขวัญอ่อนจริง พี่ถามว่าเจอเอกสารที่อยากไหม"
"เอิ่ม...ยังไม่เจอเลยค่ะ สำคัญเสียด้วย หรือท่านติดมือไปก็ไม่รู้" ฉันแกล้งทำเป็นค้นเอกสารต่อ
"ทำไงดีคะ"
"นั่นสิคะ แย่จัง มีอีกที่ เอกสารอยู่ในอีเมลของท่าน แต่ลินเข้าไม่ได้"
"อีเมลเหรอ ไหนข้อมูลอะไร พี่ print ให้ลินก็ได้นะ"
เลขาฯ พูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ เธอไว้ใจฉัน เพราะฉันเป็น "มือดี" และถูกเรียกทำงานด่วนๆ หลายครั้ง
แต่ตอนนี้ฉันจะไม่ใช่คนดีคนนั้นแล้ว
เอิ่ม เอกาสารชื่อ... พี่มาเปิดอีเมล์ก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวลินบอกให้ว่าอันไหน
.....
สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 มิ.ย. 2563, 16:51:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 มิ.ย. 2563, 16:51:56 น.
จำนวนการเข้าชม : 662
<< 10: เมศขอพี่มากไป | 12: หมดเวลาแล้ว! >> |