ร้อยเล่ห์...นายเหมันต์
เขียนนิยายรักแนวหวานมาหลายเรื่อง อยากลองแนวอิโรติกดูบ้าง มาดูกันว่าจะได้แค่ไหน
Tags: สิรินดา, รักเล่ห์, นิยายรัก

ตอน: คลี่คลาย?

ฉันตั้งใจพาเหมันต์ลงลิฟต์มาที่ชั้น 2 ซึ่งจัดเป็น creatvie zone และร้านกาแฟ แต่ระหว่างที่กำลังจะถึงลิฟต์อีกฝ่ายกระตุกข้อมือของฉันเบาๆ

"ผมอยากใช้เครื่องคอมฯ มีที่ไหนที่เราจะใช้ได้แบบไม่มีใครสนใจไหม"

"ยากแล้วละ เพราะถ้ากลับเข้าห้องใช้คอมฯ ของฉัน ก็จะมีคนเห็นแน่ๆ นายจะเอาไปทำอะไร"

"จัดการเจ้าเมศ" เขาตอบ "ผมอยากมั่นใจว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย"

ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าเหมันต์จะจัดการเพื่อนของเขายังไง หลังจากใช้เวลาคิดเสี้ยววินาที ตัดสินใจโทรไปหาเพื่อนร่วมงานที่อยู่ฝ่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งอยู่ชั้นถัดไป

หลังจากนั้นอีกห้านาที ฉันกับเหมันต์นั่งอยู่ที่ห้องฝึกอบรมคอมพิวเตอร์ของบริษัท วันนี้ไม่มีอบรมช่วงบ่าย ห้องทั้งห้องซึ่งมีสิบห้าที่นั่งว่าง เจ้าบอย เพื่อนรุ่นน้องซึ่งเป็นคนดูแลห้องอนุญาตให้เราใช้ห้องและอุปกรณ์ได้ตลอดบ่าย

เหมันต์เปิดเครื่อง เข้าระบบสำรองข้อมูลที่เขากับเพื่อนสามารถเห็นข้อมูลด้วยกันได้ ไล่ดูข้อมูลหลายอย่าง ก่อนจะพิมพ์ข้อความ chat กับเพื่อน

"ฉันยังไม่ได้ส่งข้อมูลให้เมศเลย...ฉัน..."

"ไม่ต้องส่ง ผมกับเพื่อนกำลังจัดการมันอยู่ ตอนนี้คงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องของคุณหรอก ยุ่งอยู่กับการเอาตัวรอดกับความลับของตัวเองเรื่องอื่นๆ อยู่"

"บอกหน่อยได้ไหม ว่านายทำอะไรกันแล้วรู้ได้ยังไงว่าเมศจะไม่มาราวีฉัน"

"มันโทรมาหาคุณอีกไหมล่ะ"

ฉันส่ายหน้า นี้ก็เลยเวลาที่ถูกขู่ไว้มาเป็นชั่วโมงแล้ว แต่ปรเมศยังเงียบอยู่

"ลองโทรไปสิ อยากรู้ว่าเจ้านั่นมันจะรับไหม...ไม่มีทาง"

"ทำไมจะต้องโทร ฉันไม่อยากคุยกับเขา"

เหมันต์ยักไหล่ "ก็แล้วแต่คุณ เอ่อ ผมขอทำเรื่องนี้เงียบๆ สักสิบห้านาทีได้ไหม"

"ได้ แต่บอกก่อนว่านายทำอะไร ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเรื่องที่พวกนายทำกันจะไม่ทำให้ฉันต้องเดือดร้อนอีก"

ชายหนุ่มตวัดสายตามาหาฉันแวบหนึ่ง ...แววตาของเขาทำให้ฉันหุบปากเงียบ

ไม่อยากรู้ก็ได้

"รับรองว่าไม่ทำให้คุณเดือดร้อน ผมสัญญาว่าจะบอกหลังจากนี้ ทุกเรื่อง ถ้าไม่มีอะไรทำช่วยไปหาอะไรให้กินหน่อยได้ไหม ผมวุ่นอยู่กับเรื่องนี้ตั้งแต่เช้าไม่มีเวลาหาของกิน"

"ก็ได้ ถ้าอย่างนั้น ฉันลงไปหาอะไรกินเดี๋ยวซื้อมาฝาก" มีเวลาอีกไม่ถึงชั่วโมงจะต้องกลับไปทำงาน หาอะไรรองท้องก่อนดีกว่า

ฉันได้แซนด์วิชสองชิ้น กาแฟอีกสามแก้ว เดินตรงไปฝากผู้ดูแลห้องแก้วหนึ่ง แล้วก็ถือส่วนที่เหลือมาที่ที่เหมันต์นั่งอยู่ เขากำลังใช้โทรศัพท์หน้าเครียดเหมือนเคย

จับใจความได้ว่า เขากำลังโทรไปหาใครอีกคน บอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว วางสาย ฉันส่งแซนด์วิชกับกาแฟเย็นให้ มองเลยไปที่หน้าจอ

ฉันชะโงกหน้าเข้าไปดู นั่นมัน facebook ของปรเมศนี่นา!

"นายทำอะไรน่ะ"

บนหน้าเพจมีรูปภาพข้อความ chat ของปรเมศอยู่หลายรูป หนึ่งในนั้นคือคำคู่ที่เขาขู่ฉัน ดีหน่อยที่ไอคอนซึ่งเป็นรูปของฉันถูกเบลอเอาไว้

"นายเอารูปพวกนี้มาจากไหน!"

"แฮ็กโทรศัพท์เจ้าเมศ" เขาตอบหน้าตาเฉย

นี่ฉันเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไรกันนี่

"นายทำไมเอารูปฉันลงไปลงในนั้น"

"เพราะว่ามันใหม่ที่สุด ผมขอให้คุณทำอะไรให้หน่อย"

ฉันส่ายหน้า "ไม่เอาด้วยหรอก ที่ผ่านมาก็เดือดร้อนพออยู่แล้วนะ" จะให้ฉันไปเกี่ยวเรื่องนี้ด้วยทำไม ถ้าใครมาเห็นเข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

"ฟังกันก่อนได้ไหม...ผมอยากให้คุณโทรไปหามัน บอกว่าคุณเห็นรูป และโกรธมาก"

"เพื่อ"

"เพื่อกันคุณออกจากเรื่องนี้ ผมอยากจะจัดการกับมันตรงๆ"

"ไม่กลัวเมศแจ้งตำรวจเหรอ ทำแบบนี้"

"คิดว่าผมกลัวรึ ถ้าทำขนาดนี้แล้ว กลัวก็ไม่ต้องทำ" คำตอบสั้นๆ จริงจัง ระหว่างสองคนนี่มีอะไรกันนะ ทำไมเหมันต์เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ มันต้องมีอะไรมากกว่าที่เขาบอก...ฉันคิด

"ตามใจ ทุกการตัดสินใจเป็นเรื่องของคุณ"

เหมันต์กลับไปสนใจกับคอมพิวเตอร์ต่ออีกพักหนึ่ง หลังจากลบประวัติการใช้คอมพิวเตอร์ของตัวเองทั้งหมดก่อนปิดเครื่อง ฉันส่งแซนด์วิชให้พร้อมน้ำ เรานั่งกินกาแฟพร้อมอาหารกลางวันง่ายๆ ด้วยกันกลางห้องที่มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์รอบตัว

บรรยากาศรอบตัวเงียบ...นิ่ง ไม่มีความโรแมนติกสักนิด แต่วันนี้ฉันมองเด็กหนุ่มคนนี้เปลี่ยนไป จากเดิมที่เขาไม่เคยออยู่ในสายตา ตอนนี้ฉันอยากรู้จักเขามากขึ้น อย่างน้อยก็อยากรู้ว่าทำไมเขาจึงเข้ามาเกี่ยวข้อง เข้ามาแก้ปัญหาให้ฉัน ทั้งๆ ที่เราไม่เคยรู้จักกันเลย

หลายอย่างที่เขาทำ...มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ

"ขอบใจนะ ที่ช่วยฉันได้ทันเวลา"

คนที่กำลังกัดแซนด์วิชคำโตเงยหน้าขึ้น ตาของเราสบกัน เขาเบือนสายตาไปทางอื่น

"ผมแค่ไม่อยากให้คุณเจอแบบ..."

"ใคร? นายมีใครที่รู้จักเคยถูกปรเมศทำแบบนี้เหรอ"

อีกฝ่ายพยักหน้า

"เพื่อน?"

เหมันต์พยักหน้า "ปรเมศทำแบบนี้กับหลายคนแล้ว เสียกันไปหลายหมื่น ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กกว่า ตอนที่มันเริ่มจีบคุณ ผมอยากจะบอกเหมือนกันแต่ไม่รู้ว่าจะเตือนยังไงดี"

นั่นหรือเปล่านะที่ทำให้เขาหน้าบึ้งตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาที่เจอฉันกับปรเมศอยู่ด้วยกัน

"มันหน้าตาดี พูดจาดี ง่ายอยู่แล้วที่ใครๆ จะหลง"

ผิดกับอีกฝ่าย ฉันคิด ไม่เคยพูดจาดีๆ ด้วยเลย

"ทำไมนายจะต้องช่วยฉัน ทั้งๆ ที่จะทำเฉยๆ ก็ได้ แถมถ้าได้ข้อมูลที่ปรเมศต้องการไป ทีมของนายจะได้ประโยชน์เสียด้วยนะ"

"ผมไม่อยากได้ที่หนึ่ง หรือได้รางวัลเพราะการทำอะไรม่ตรงไปตรงมาหรอกนะ ผมได้อยากแข่งอยู่แล้ว แต่อาจารย์ให้ผมทำ เป็นทางเดียวที่จะเข้าใกล้ตัวมันได้"

ฉันเลิกคิ้ว "อาจารย์ของนาย...ใคร แล้วเขารู้เรื่องนี้ได้ยังไง"

เหมันต์พยักหน้า

"เรื่องมันยาว คุณรู้เท่านี้พอ"

อยากรู้ แต่รู้ว่าโอกาสยังไม่ได้ อย่างเหมันต์ไม่มีทางบอกแน่ๆ

กินเสร็จ บ่ายกว่าๆ เหมันต์ก็ขอตัวกลับ

"ผมอาจมีเรื่องให้คุณช่วยอีกเรื่อง แต่รอให้ถึงโอกาสก่อนแล้วจะบอกว่าเรื่องอะไร"

ฉันขมวดคิ้ว นึกในใจว่าบอกให้มันสิ้นเรื่องเลยไม่ได้หรือไง จะได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อน

"ผมจะพยายามทำให้คุณเดือดร้อนน้อยที่สุด" เขาบอกก่อนจากไปเงียบๆ ส่วนฉันกลับขึ้นไปทำงาน ซึ่งก็ทันเวลาที่เจ้านายกลับมาพอดี เดาเอาว่าท่านไม่ได้สังเกตว่าคอมพิวเตอร์ถูกค้น และมีคนพรินต์เอกสารออกมาจากอีเมล เพราะไม่ได้ถามอะไร ชวนฉันเข้าไปคุยเรื่องงานที่ค้างอยู่ตามปกติ

จนเย็น งานเสร็จเร็วกว่าที่คิด ทำให้ไม่ต้องอยู่รอแก้งานด่วนอีก ฉันขับรถกลับคอนโด รู้สึกแปลกๆ ว่าเรื่องทั้งหมดมัดเงียบสงบง่ายเหลือเกิน เมื่อวานชีวิตของฉันยังแขวนอยู่บนเส้นด้าย พร้อมๆ กับงานด่วนที่ไม่คาดคิด แต่วันนี้...

"สวัสดี" ร่างสูงเดินเข้ามาประชิดตัวจากมุมตึก อ้อมแขนแข็งๆ ของอีกฝ่ายเอื้อมมาโอบรอบแขนของฉันไว้ พร้อมกับอีกมือที่ปิดปาก

"อุ๊บส์..." ฉันเบิกตากว้าง

ปรเมศ!



สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ส.ค. 2563, 07:54:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ส.ค. 2563, 07:54:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 650





<< 12: หมดเวลาแล้ว!   เรื่องร้ายแรง (กว่า) >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account