ร้อยเล่ห์...นายเหมันต์
เขียนนิยายรักแนวหวานมาหลายเรื่อง อยากลองแนวอิโรติกดูบ้าง มาดูกันว่าจะได้แค่ไหน
Tags: สิรินดา, รักเล่ห์, นิยายรัก
ตอน: ผมจะไม่มีวันปล่อยคุณไป
ฝนกำลังตก มันตกแรงมาก ละอองฝนสาดกระทบหน้าต่างด้านที่ติดกับระเบียงเสียงดัง เสียงฟ้าร้องดังๆ ทำให้ฉันกังวลว่าส่วนของครัวจะมีน้ำไหลเข้ามาหรือเปล่า เพราะมีหน้าต่างเล็กๆ เอาไว้ระบายอากาศอยู่ตรงนั้น
ฉันเปิดประตู เหมันต์นอนอยู่ที่โซฟา มีผ้าห่มผืนบางๆ ห่มไว้ ดูท่าจะหนาว ฉันเดินด้วยปลายเท้า พยายามทำเสียงเบาสุดๆ เพื่อไปปิดหน้าต่าง เรียบร้อยแล้วจึงย่องกลับเข้าห้อง
ภาพของเหมันต์ที่นอนขดตัวไม่สบายนักทำให้ฉันนอนไม่หลับ เด็กหนุ่มคนนั้นดูแลฉันอย่างดีตลอดเกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา อากาศดีๆ แบบนี้เขาควรได้นอนอุ่นๆ สบายๆ อยู่ที่ที่พักของตัวเอง ไม่ใช่มานอนในที่จำกัดแบบนั้น
เขาใช้ชีวิตอยู่ในส่วนที่ใช้เป็นห้องนั่งเล่นและรับแขกในห้องมาหลายวันแล้ว บางทีก็เอาคอมพิวเตอร์ส่วนตัวมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือทำอะไรของตัวเองเงียบๆ
หากฉันอยากได้อะไร เขาจะวางทุกสิ่งและทำอะไรก็ได้ ที่ฉันต้องการ
เป็นเพราะเขารู้สึกผิดงั้นเหรอ ฉันเฝ้าแต่ถามตัวเอง และคิดว่าคงใช่
รู้สึกผิด ทั้งๆ ที่เรื่องทั้งหมดนี่ เกี่ยวกับเขาแค่นิดเดียว คิดไปคิดมา ฉันเองก็มีส่วนทำให้เรื่องราวเลวร้ายมาถึงจุดนี้ด้วยเช่นกัน
ฝนยังตกแรง ฉันเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หาผ้าห่มสำรองอีกผืนที่เก็บไว้ แล้วเดินออกมานอกห้อง กำลังจะคลี่ผ้าห่มให้คนที่นอนหลับอยู่ เขาก็รู้สึกตัว ลืมตาขึ้น
"คุณลิน"
"ฝนตกแรง กลัวหนาว" ฉันส่งผ้าห่มให้
เขารับไว้ แต่แทนที่จะเอาไปห่ม กลับลุกขึ้นนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง "ตกแรงจริงๆ นี่ผมหลับไม่รู้เรื่องเลย"
ฉันนั่งลงที่เก้าอี้ข้างโซฟา
"ฉันสิ นอนไม่หลับ"
คนฟังหันมา มองหน้าฉันผ่านแสงสลัว
"ไม่ได้คิดมาก แค่เสียงฟ้ามันดัง ไม่ชอบเลย" พูดพลางกอดอก เสียงฟ้าร้องกับฉันเป็นเรื่องที่เข้ากันไม่ได้แต่ไหนแต่ไร อาจเป็นเพราะประสบการณ์ไม่ค่อยดีในวัยเด็กเกี่ยวกับเรื่องนี้
คนฟังพยักหน้า "้ถ้าไม่ง่วงคุยกันก่อนก็ได้ ผมนอนพอแล้ว"
ฉันยิ้ม "นายเป็นคนดีจัง ขอบใจนะ สำหรับทุกเรื่องเลย"
เหมันต์ส่ายหน้า "ไม่เลยครับ ผมเป็นคนนิสัยไม่ไดีเลย ยิ่งเมื่อก่อนนี้นะ ถ้าไม่ได้อาจารย์วิทยา ผมคงเละเทะไม่ได้มีงานพิเศษทำ ไม่ได้เรียนจนใกล้จบได้"
"เพราะอย่างนี้ นายถึงยอมมาช่วยอาจารย์ ตามหาคนที่ทำร้ายจิตใจลูกแกใช่ไหม"
เขาพยักหน้า
"คุณเป็นยังไงบ้าง อยากถามหลายวันแล้ว แต่ไม่กล้า รู้สึกโอเคขึ้นบ้างหรือยัง"
"เบื่อเฝ้าแล้วเหรอ" ฉันชันเข่าขึ้นเอามือกอดอก รู้สึกหนาว "ดีขึ้นแล้ว"
อีกฝ่ายมองหน้าฉันนิ่งๆ นั่นทำให้ฉันก้มหน้าหลบ เพราะกลัวเขาจะจับโกหกได้
"เหนือ..."
"ครับ..."
"กอดฉันหน่อยได้ไหม"
"...."
"ไม่เป็นไร ฉันพูดเพ้อเจ้อน่ะ ไปนอนดีกว่า ... นอนต่อนะ พรุ่งนี้เจอกัน" ฉันลุกขึ้น แต่ไม่ทันจะเดินออกไป เหมันต์จับแขนฉันและดึงฉันนั่งลงข้างๆ
เขาคลี่ผ้าห่มคลุมร่างและกอดฉัน
แรกๆ ดูเขาจะกล้าๆ กลัวๆ แต่กลับเป็นฉันเองที่ซุกหน้าเข้ากับอกกว้าง
"คุณลิน"
เราเคยมีอะไรกันแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาดู...ขัดเขินพิกล
ฉันทบทวนถึงคืนนั้น จำได้ว่าตัวเองเมา ตื่นมา เหมันต์บอกว่ามีอะไรกัน หรือว่าเขาโกหก
"นายโกหกฉันใช่ไหม คืนที่ฉันเมา เรื่องที่เรามีอะไรกัน"
ฉันได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอ
"วันนั้นผมอยากแกล้งคุณ"
"เล่าหน่อยสิ วันนั้นเกิดอะไรขึ้น"
ผ้าห่มถูกกระชับลงบนไหล่ฉัน และอ้อมแขนของเขากอดทับมาอีกที ฉันเอนลงซบไหล่นั้น
"คุณเมา จำอะไรไม่ได้ อ้วกใส่ผม ผมเลยต้องอาบน้ำ หาเสื้อใส่ใหม่ก็ไม่ได้ เลยต้องรอให้เสื้อแห้ง แล้วคุณก็ตื่นมา ผมเลยแกล้งอำเล่น ไม่คิดว่าคุณจะเชื่อ"
ฉันทบทวนเหตุการณ์วันนั้น แล้วก็หัวเราะ จำได้ว่าตัวเองตกใจแค่ไหนที่มีอะไรกับเด็กอายุน้อยกว่า คนที่ไม่คิดว่าจะมีอะไรด้วย
"วันนั้นฉันตกใจมาก ปรเมศยังไม่เคยขึ้นมาที่ห้อง แต่นายขึ้นมาสองครั้ง แถม..."
เหมันต์เองก็ไหล่สั่น "หน้าตาคุณตลกมากเลยรู้ไหมตอนนั้น แบบตกใจสุดๆ"
"สาวโสด สวยๆ อย่างฉัน มันก็ต้องตกใจอยู่บ้าง จู่ๆ ก็...มีผู้ชายมานอนด้วยแบบไม่รู้ตัว จำอะไรก็ไม่ได้" ตอบพลางหัวเราะ "แต่ถ้าเป็นตอนนี้มีข่าวลงทุกสื่อโซเชี่ยล คงไม่มีใครอยากใกล้...ขายไม่ออก"
คนฟังนิ่งไปนิด
"ไม่จริงนะครับ" เขาเถียง "ต้องยังมีคนที่...สนใจคุณแน่ๆ"
ฉันพลิกหน้ามองใบหน้าด้านข้างของคนที่พูดตะกุกตะกักขึ้นมาทันใด
"นายยังคิดว่ามีใครต้องการฉันอีกเหรอ...เป็นแบบนี้แล้ว อย่ามาพูดโกหกให้กำลังใจกันเลย"
เหมันต์ส่ายหน้า "คิดมาก ไม่มีใคร...ที่..."
"แล้วนายล่ะ..." ฉันถามอย่างท้าทาย ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้
"คุณลิน รู้หรือเปล่าว่าพูดอะไร"
ฉันยิ้ม นั่งตัวตรงมองหน้าเหมันต์อย่างค้นคว้า
"ฉัน...ไม่แน่ใจอีกต่อไปแล้ว ว่าจะเป็นที่ต้องการของใครได้อีกไหม" เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นหัวข้อสนทนาระหว่างฉันกับหมอจิตวิทยา
การที่รู้สึกว่าตัวเองมีมลทิน มันทำให้ฉันไม่อยากออกไปเจอใคร ไม่อยากทำอะไร ฉันต้องหลุดจากความคิดวกวนนี้ให้ได้
หมอบอกว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้นตามเวลา ... และหากฉันมีใครสักคนที่ต้องการฉันจริงๆ
เด็กหนุ่มจับมือฉันมากุมไว้
"คุณลินอยากพิสูจน์อะไร...มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะครับ"
เราตาสบกัน ฉันเห็นแววตาอบอุ่นในดวงตาที่นิ่งเป็นนิจคู่นั้น
"ฉันแค่อยากรู้สึกดี ในอ้อมกอดของใครสักคน"
"คุณลิน" เหมันต์บีบมือที่กำลังกุมอยู่ มองตาฉันอย่างค้นคว้า
"ผมไม่ดีพอที่จะกอดคุณหรอกครับ"
ฉันพยักหน้า ลุกขึ้น เดินเร็วๆ ตั้งใจตรงกลับเข้าห้อง รู้สึกอายเหลือเกินที่พูดอะไรเหมือนเชิญชวนเด็กหนุ่มคนนั้น
ฉันอาจเหงา
ฉันคงกลัว
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ก็พูดออกไปแล้ว น่าอายชะมัด
แย่จริง...ทั้งหมดจะทำให้เขาหนีหายไปหรือเปล่าก็ไม่รู้
"คุณลินครับ" เหมันต์ลุกขึ้นก้าวเร็วๆ มาทันฉันที่หน้าห้อง "มันไม่ใช่ผมไม่อยากกอดคุณนะครับ แต่...ผมกลัว"
"กลัว? อย่างเหนือน่ะเหรอกลัวอะไรได้ด้วย"
เหมันต์มองสบตาฉันตรงๆ แววตาของเขาเข้มจัด จริงจัง
"ผมกลัวว่าถ้าคุณลินกลับไปสบายใจดีแล้ว...จะเสียใจที่ปล่อยให้ผมทำอะไรแบบนี้"
ใจเต้นของฉันเต้นผิดจังหวะ
เหมันต์ดึงฉันเข้ามาหาตัว กอดไว้ด้วยลำแขนแข็งแรงทั้งสองข้าง
"ถ้าผมได้กอดคุณ...ผมจะไม่มีวันปล่อยคุณไป" เสียงของเขากระซิบที่ข้างหู
"เหนือ" ฉันเงยหน้า สบตาของเด็กหนุ่ม
เขาก้มหน้าลงมา และ...
ริมฝีปากของเราก็พบกัน
ฉันเปิดประตู เหมันต์นอนอยู่ที่โซฟา มีผ้าห่มผืนบางๆ ห่มไว้ ดูท่าจะหนาว ฉันเดินด้วยปลายเท้า พยายามทำเสียงเบาสุดๆ เพื่อไปปิดหน้าต่าง เรียบร้อยแล้วจึงย่องกลับเข้าห้อง
ภาพของเหมันต์ที่นอนขดตัวไม่สบายนักทำให้ฉันนอนไม่หลับ เด็กหนุ่มคนนั้นดูแลฉันอย่างดีตลอดเกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา อากาศดีๆ แบบนี้เขาควรได้นอนอุ่นๆ สบายๆ อยู่ที่ที่พักของตัวเอง ไม่ใช่มานอนในที่จำกัดแบบนั้น
เขาใช้ชีวิตอยู่ในส่วนที่ใช้เป็นห้องนั่งเล่นและรับแขกในห้องมาหลายวันแล้ว บางทีก็เอาคอมพิวเตอร์ส่วนตัวมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือทำอะไรของตัวเองเงียบๆ
หากฉันอยากได้อะไร เขาจะวางทุกสิ่งและทำอะไรก็ได้ ที่ฉันต้องการ
เป็นเพราะเขารู้สึกผิดงั้นเหรอ ฉันเฝ้าแต่ถามตัวเอง และคิดว่าคงใช่
รู้สึกผิด ทั้งๆ ที่เรื่องทั้งหมดนี่ เกี่ยวกับเขาแค่นิดเดียว คิดไปคิดมา ฉันเองก็มีส่วนทำให้เรื่องราวเลวร้ายมาถึงจุดนี้ด้วยเช่นกัน
ฝนยังตกแรง ฉันเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หาผ้าห่มสำรองอีกผืนที่เก็บไว้ แล้วเดินออกมานอกห้อง กำลังจะคลี่ผ้าห่มให้คนที่นอนหลับอยู่ เขาก็รู้สึกตัว ลืมตาขึ้น
"คุณลิน"
"ฝนตกแรง กลัวหนาว" ฉันส่งผ้าห่มให้
เขารับไว้ แต่แทนที่จะเอาไปห่ม กลับลุกขึ้นนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง "ตกแรงจริงๆ นี่ผมหลับไม่รู้เรื่องเลย"
ฉันนั่งลงที่เก้าอี้ข้างโซฟา
"ฉันสิ นอนไม่หลับ"
คนฟังหันมา มองหน้าฉันผ่านแสงสลัว
"ไม่ได้คิดมาก แค่เสียงฟ้ามันดัง ไม่ชอบเลย" พูดพลางกอดอก เสียงฟ้าร้องกับฉันเป็นเรื่องที่เข้ากันไม่ได้แต่ไหนแต่ไร อาจเป็นเพราะประสบการณ์ไม่ค่อยดีในวัยเด็กเกี่ยวกับเรื่องนี้
คนฟังพยักหน้า "้ถ้าไม่ง่วงคุยกันก่อนก็ได้ ผมนอนพอแล้ว"
ฉันยิ้ม "นายเป็นคนดีจัง ขอบใจนะ สำหรับทุกเรื่องเลย"
เหมันต์ส่ายหน้า "ไม่เลยครับ ผมเป็นคนนิสัยไม่ไดีเลย ยิ่งเมื่อก่อนนี้นะ ถ้าไม่ได้อาจารย์วิทยา ผมคงเละเทะไม่ได้มีงานพิเศษทำ ไม่ได้เรียนจนใกล้จบได้"
"เพราะอย่างนี้ นายถึงยอมมาช่วยอาจารย์ ตามหาคนที่ทำร้ายจิตใจลูกแกใช่ไหม"
เขาพยักหน้า
"คุณเป็นยังไงบ้าง อยากถามหลายวันแล้ว แต่ไม่กล้า รู้สึกโอเคขึ้นบ้างหรือยัง"
"เบื่อเฝ้าแล้วเหรอ" ฉันชันเข่าขึ้นเอามือกอดอก รู้สึกหนาว "ดีขึ้นแล้ว"
อีกฝ่ายมองหน้าฉันนิ่งๆ นั่นทำให้ฉันก้มหน้าหลบ เพราะกลัวเขาจะจับโกหกได้
"เหนือ..."
"ครับ..."
"กอดฉันหน่อยได้ไหม"
"...."
"ไม่เป็นไร ฉันพูดเพ้อเจ้อน่ะ ไปนอนดีกว่า ... นอนต่อนะ พรุ่งนี้เจอกัน" ฉันลุกขึ้น แต่ไม่ทันจะเดินออกไป เหมันต์จับแขนฉันและดึงฉันนั่งลงข้างๆ
เขาคลี่ผ้าห่มคลุมร่างและกอดฉัน
แรกๆ ดูเขาจะกล้าๆ กลัวๆ แต่กลับเป็นฉันเองที่ซุกหน้าเข้ากับอกกว้าง
"คุณลิน"
เราเคยมีอะไรกันแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาดู...ขัดเขินพิกล
ฉันทบทวนถึงคืนนั้น จำได้ว่าตัวเองเมา ตื่นมา เหมันต์บอกว่ามีอะไรกัน หรือว่าเขาโกหก
"นายโกหกฉันใช่ไหม คืนที่ฉันเมา เรื่องที่เรามีอะไรกัน"
ฉันได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอ
"วันนั้นผมอยากแกล้งคุณ"
"เล่าหน่อยสิ วันนั้นเกิดอะไรขึ้น"
ผ้าห่มถูกกระชับลงบนไหล่ฉัน และอ้อมแขนของเขากอดทับมาอีกที ฉันเอนลงซบไหล่นั้น
"คุณเมา จำอะไรไม่ได้ อ้วกใส่ผม ผมเลยต้องอาบน้ำ หาเสื้อใส่ใหม่ก็ไม่ได้ เลยต้องรอให้เสื้อแห้ง แล้วคุณก็ตื่นมา ผมเลยแกล้งอำเล่น ไม่คิดว่าคุณจะเชื่อ"
ฉันทบทวนเหตุการณ์วันนั้น แล้วก็หัวเราะ จำได้ว่าตัวเองตกใจแค่ไหนที่มีอะไรกับเด็กอายุน้อยกว่า คนที่ไม่คิดว่าจะมีอะไรด้วย
"วันนั้นฉันตกใจมาก ปรเมศยังไม่เคยขึ้นมาที่ห้อง แต่นายขึ้นมาสองครั้ง แถม..."
เหมันต์เองก็ไหล่สั่น "หน้าตาคุณตลกมากเลยรู้ไหมตอนนั้น แบบตกใจสุดๆ"
"สาวโสด สวยๆ อย่างฉัน มันก็ต้องตกใจอยู่บ้าง จู่ๆ ก็...มีผู้ชายมานอนด้วยแบบไม่รู้ตัว จำอะไรก็ไม่ได้" ตอบพลางหัวเราะ "แต่ถ้าเป็นตอนนี้มีข่าวลงทุกสื่อโซเชี่ยล คงไม่มีใครอยากใกล้...ขายไม่ออก"
คนฟังนิ่งไปนิด
"ไม่จริงนะครับ" เขาเถียง "ต้องยังมีคนที่...สนใจคุณแน่ๆ"
ฉันพลิกหน้ามองใบหน้าด้านข้างของคนที่พูดตะกุกตะกักขึ้นมาทันใด
"นายยังคิดว่ามีใครต้องการฉันอีกเหรอ...เป็นแบบนี้แล้ว อย่ามาพูดโกหกให้กำลังใจกันเลย"
เหมันต์ส่ายหน้า "คิดมาก ไม่มีใคร...ที่..."
"แล้วนายล่ะ..." ฉันถามอย่างท้าทาย ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้
"คุณลิน รู้หรือเปล่าว่าพูดอะไร"
ฉันยิ้ม นั่งตัวตรงมองหน้าเหมันต์อย่างค้นคว้า
"ฉัน...ไม่แน่ใจอีกต่อไปแล้ว ว่าจะเป็นที่ต้องการของใครได้อีกไหม" เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นหัวข้อสนทนาระหว่างฉันกับหมอจิตวิทยา
การที่รู้สึกว่าตัวเองมีมลทิน มันทำให้ฉันไม่อยากออกไปเจอใคร ไม่อยากทำอะไร ฉันต้องหลุดจากความคิดวกวนนี้ให้ได้
หมอบอกว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้นตามเวลา ... และหากฉันมีใครสักคนที่ต้องการฉันจริงๆ
เด็กหนุ่มจับมือฉันมากุมไว้
"คุณลินอยากพิสูจน์อะไร...มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะครับ"
เราตาสบกัน ฉันเห็นแววตาอบอุ่นในดวงตาที่นิ่งเป็นนิจคู่นั้น
"ฉันแค่อยากรู้สึกดี ในอ้อมกอดของใครสักคน"
"คุณลิน" เหมันต์บีบมือที่กำลังกุมอยู่ มองตาฉันอย่างค้นคว้า
"ผมไม่ดีพอที่จะกอดคุณหรอกครับ"
ฉันพยักหน้า ลุกขึ้น เดินเร็วๆ ตั้งใจตรงกลับเข้าห้อง รู้สึกอายเหลือเกินที่พูดอะไรเหมือนเชิญชวนเด็กหนุ่มคนนั้น
ฉันอาจเหงา
ฉันคงกลัว
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ก็พูดออกไปแล้ว น่าอายชะมัด
แย่จริง...ทั้งหมดจะทำให้เขาหนีหายไปหรือเปล่าก็ไม่รู้
"คุณลินครับ" เหมันต์ลุกขึ้นก้าวเร็วๆ มาทันฉันที่หน้าห้อง "มันไม่ใช่ผมไม่อยากกอดคุณนะครับ แต่...ผมกลัว"
"กลัว? อย่างเหนือน่ะเหรอกลัวอะไรได้ด้วย"
เหมันต์มองสบตาฉันตรงๆ แววตาของเขาเข้มจัด จริงจัง
"ผมกลัวว่าถ้าคุณลินกลับไปสบายใจดีแล้ว...จะเสียใจที่ปล่อยให้ผมทำอะไรแบบนี้"
ใจเต้นของฉันเต้นผิดจังหวะ
เหมันต์ดึงฉันเข้ามาหาตัว กอดไว้ด้วยลำแขนแข็งแรงทั้งสองข้าง
"ถ้าผมได้กอดคุณ...ผมจะไม่มีวันปล่อยคุณไป" เสียงของเขากระซิบที่ข้างหู
"เหนือ" ฉันเงยหน้า สบตาของเด็กหนุ่ม
เขาก้มหน้าลงมา และ...
ริมฝีปากของเราก็พบกัน
สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ส.ค. 2563, 08:38:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ส.ค. 2563, 08:38:32 น.
จำนวนการเข้าชม : 693
<< เผชิญหน้ากับความจริง | ผมอยากคุย >> |