แรกรักพันใจ: มาสฬฎา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
มีมารดาเลี้ยงใจร้าย บวกกับพี่สาวใจยักษ์ ชีวิตดูน่ารันทดนัก
แต่ ‘วรีวาฏิกา’ สาวชื่อยาวยิ่งกว่าแม่น้ำไนล์ก็หาได้แคร์ไม่
แต่พอคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่ชาย...จากที่เคยอบอุ่นน่ารักเอาใจ กลายเป็นเย็นชาหมางเมินใส่ เธอก็เลยต้องเริ่มจะแคร์
เจอกันตอนเด็กๆ เธอคิดว่า ‘ภควัตน์’ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนมีเมตตา
เจอกันช่วงวัยรุ่น วรีวาฏิกาก็ยังคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่หล่อเหลาและแสนดี
เจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน...
ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปชั่วร้ายได้ขนาดนี้เล่า!
นี่ถ้าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ภควัตน์ก็เสแสร้งตลบตะแลงเก่งเกินไปแล้ว!
“ชื่อเล่นผม มีไว้ให้คนสนิทกันเรียก และนั่นไม่ใช่คุณ!”
ประโยคเดียวเบิกเนตรจนวรีวาฏิกาต้องหันกลับมามองท่านรองประธานเสียใหม่
ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อนก็ไม่เป็นไร
เจอกันคราวต่อไป ก็อย่าหวังให้เธอเห็นใจก็แล้วกัน!
*******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "มาสฬฎา" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก คอมเมดี้ ที่รับประกันเลยว่าทั้งสนุก ตลก น่ารัก และฟินมากกกกกก ได้ปาความเครียดทิ้งไปแน่นอน! เพราะพี่พาร์ค พระเอกของเรื่องแม้จะเป็นบอสสายเย็นชา แต่(แอบ)รักนางเอกสุดหัวใจ ส่วนนางเอกก็เป็นน้องมึนที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ 5555 #รับประกันความสนุก!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 458 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนรวด)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 350฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
แต่ ‘วรีวาฏิกา’ สาวชื่อยาวยิ่งกว่าแม่น้ำไนล์ก็หาได้แคร์ไม่
แต่พอคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่ชาย...จากที่เคยอบอุ่นน่ารักเอาใจ กลายเป็นเย็นชาหมางเมินใส่ เธอก็เลยต้องเริ่มจะแคร์
เจอกันตอนเด็กๆ เธอคิดว่า ‘ภควัตน์’ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนมีเมตตา
เจอกันช่วงวัยรุ่น วรีวาฏิกาก็ยังคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่หล่อเหลาและแสนดี
เจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน...
ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปชั่วร้ายได้ขนาดนี้เล่า!
นี่ถ้าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ภควัตน์ก็เสแสร้งตลบตะแลงเก่งเกินไปแล้ว!
“ชื่อเล่นผม มีไว้ให้คนสนิทกันเรียก และนั่นไม่ใช่คุณ!”
ประโยคเดียวเบิกเนตรจนวรีวาฏิกาต้องหันกลับมามองท่านรองประธานเสียใหม่
ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อนก็ไม่เป็นไร
เจอกันคราวต่อไป ก็อย่าหวังให้เธอเห็นใจก็แล้วกัน!
*******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "มาสฬฎา" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก คอมเมดี้ ที่รับประกันเลยว่าทั้งสนุก ตลก น่ารัก และฟินมากกกกกก ได้ปาความเครียดทิ้งไปแน่นอน! เพราะพี่พาร์ค พระเอกของเรื่องแม้จะเป็นบอสสายเย็นชา แต่(แอบ)รักนางเอกสุดหัวใจ ส่วนนางเอกก็เป็นน้องมึนที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ 5555 #รับประกันความสนุก!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 458 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนรวด)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 350฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
Tags: เลขา บอส พระเอกเย็นชา แม่เลี้ยง ลูกเลี้ยง ตลก
ตอน: บทที่ 1 -50%
ปัจจุบัน
เรซูเม่ของ นางสาววรีวาฏิกา อัครากร
ชื่อ : วรีวาฏิกา อัครากร...ยาวไป? งั้นเรียกว่า ‘วา’ เฉยๆ ก็พอ เราคนกันเอง เธอไม่ถือ...
อายุ : ๒๔ ปี
สถานะ : โสด...ใช่ อ่านถูกแล้ว ใครมีปัญหาอะไรมิทราบ
คู่สมรส : ไม่-เคย-มี...ไม่เห็นหรือไงว่าข้างบนบอกว่าโสด! และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครยัดเยียดความเป็นสามีให้เธอเลยสักคน
บุตร : นี่จะถามตอกย้ำเธอให้ได้อะไรขึ้นมา?
กรุณาติดรูปถ่าย ๑ นิ้ว ถ่ายมาไม่เกิน ๖ เดือน แนบมากับเอกสารสมัครงาน
จะอยากดูรูปไปทำไม ไหนว่าบริษัทมีนโยบายไม่คัดเลือกสีผิวไม่ใช่เหรอ โกหกกันนี่ ใช่สิ เธอมันหน้าไม่แต่ง วันๆ คร่ำครึเป็นหนอนหนังสือ เอาแต่กินจนเริ่มจะอ้วนท้วนสมบูรณ์และยังปากไม่ดี แถมผิวขาวจัดซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เป็นข้อดีตอนนี้ก็กลายเป็นสีแดงไปแล้วหลังจากไปทะเลกับเพื่อนครั้งล่าสุด แล้วอย่างนี้ใครมันจะไปอยากติดรูปถ่ายหน้าตรงกัน
พอกันที เธอจะไม่กรอกใบสมัครงานบ้าบอนี่อีกแล้ว เพราะหลังจากที่กรอกมาเกือบร้อยฉบับ วรีวาฏิกาก็ได้งานแรกในชีวิตกับเขาสักที!
หลังจากที่ตระเวนสอบสัมภาษณ์มาหลายที่ ในที่สุดฟ้าก็มีตา เมื่อวานมีโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล บริษัทชั้นนำของเมืองไทยโทร.มาแจ้งว่าเธอได้งานในตำแหน่ง Management Trainee ฝ่ายการตลาดของผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งในเครือ เธอกระดี๊กระด๊าอยู่สามวัน คุณย่าดีใจถึงขนาดพาไปเลี้ยงข้าวสามวันสามคืนติดต่อกัน แถมเมื่อเริ่มต้นทำงานก็ได้เจ้านายแสนน่ารักอย่าง ‘พี่จุ๋ม’ เป็นคนช่วยสอนงานให้อย่างกระตือรือร้น ช่างโชคดีเสียนี่กระไร
โชคดีชั้นที่สองของเธอคือ มะลิ เพื่อนสาวคนสนิทที่เรียนด้วยกันสมัยมัธยมฯ ก็ทำงานที่นี่ด้วย แถมทำมาก่อนเธอตั้งสองปีแล้วถึงแม้จะคนละแผนกก็ตาม
แต่ทว่าความโชคดีที่เอ่ยมาทั้งหมดนั้น มันก็เป็นเพียงความโชคดีระยะสั้นเท่านั้น เพราะความสุขของเธอ สุขที่วรีวาฏิกาคนนี้ควรจะมีจากความโชคดีเหล่านั้นมันมลายสิ้น ตั้งแต่การปรากฏตัวของคนที่เธอเคยเรียกอย่างสนิทสนมว่า...พี่พาร์ค!
โอเค เธอขอยอมรับอย่างโง่ๆ เลยว่า ถึงจะเคยอยู่อพาร์ตเมนต์เขาถึงหนึ่งเดือนเต็มที่อังกฤษ แต่เธอไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเขานักหรอก อย่างมากก็แค่เรื่องงานของเขาที่โน่นนิดๆ หน่อยๆ กับเพื่อนที่เคยแวะมาหาเขาบ้าง ฉะนั้นเมื่อบังเอิญมาเจอพี่พาร์คในวันแรกของการเข้าทำงานที่นี่หลัง จากที่ไม่เจอกันเลยถึงสามปี คนดีใจที่ได้เจอจนลืมตัว เลยรีบวิ่งเข้าไปหา แถมดึงชายเสื้อเขาไว้เพราะกลัวตามไม่ทัน พร้อมทักเสียงดังลั่นว่า
“พี่พาร์ค พี่พาร์คใช่ไหมคะ ไม่เจอกันตั้งนาน จำวาได้ไหมคะ”
หลังจากรัวคำถามไปเป็นชุดด้วยอาการตื่นเต้นดีใจ คนที่เธอดึงเสื้อไว้ก็หันมามองจ้องนิ่งๆ พร้อมกับแกะมือเธอออกแล้วบอก
“ชื่อเล่นผม ผมอนุญาตให้เฉพาะคนที่สนิทกันเท่านั้นเรียก และนั่น...ไม่ใช่คุณ”
และตอนที่เธอยังยืนตกตะลึงพรึงเพริดอยู่ตรงนั้น อดีตพี่พาร์คที่เธอเคยคิดว่าใจดีและอบอุ่นสุดๆ ก็เดินอ้อมเธอไปเหมือนเดินอ้อมขยะ ทำเหมือนคนที่เขาแกะมือออกจากชายเสื้อเมื่อกี้เป็นอากาศธาตุ วรีวาฏิกายืนหน้าชาท่ามกลางสายตาพนักงานนับร้อยคนที่เดินไปมาในยามเช้าตรู่ จนมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มะลิวิ่งมากระตุกแขนเสื้อ
“แกกล้ามาก! มาวันแรกก็เข้าไปกระตุกเสื้อเชิ้ตท่านรองประธานเลยเหรอ ฉันรู้หรอกนะว่าเขาหล่อจนแกอดใจไม่ไหว แต่แกนี่มันไม่มีความยับยั้งชั่งใจบ้างเลยหรือไง หา!”
และก่อนที่ยายมะลิจะเทศนาไปมากกว่านี้ วรีวาฏิกาที่กำลังยืนนิ่งอึ้งถามเพื่อนว่า
“เดี๋ยวนะมะลิ คนเมื่อกี้ที่ฉันไปดึงเสื้อ เขา...เป็นรองประธานบริษัทเหรอ”
“เออ สิ เห็นอายุสามสิบกว่าๆ หล่อเหลา ตาสวย กรามชัด ซิกแพคแน่นปังขนาดนั้น แต่เขาก็เป็นรองประธานย่ะ”
เธออยากบอกเพื่อนมากว่าคำบรรยายสรรพคุณความหล่อทั้งหลายอย่างเช่นซิกแพคอะไรนั่นไม่ต้องบอกกันก็ได้ เธออยากได้แบบเนื้อๆ ไม่เอาน้ำ แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากบอก มะลิก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการเล่าประวัติของ ‘ท่านรองประธาน’ ต่ออย่างละเอียดยิบ
“คุณพาร์คเคยทำบริษัทสตาร์ตอัปกับเพื่อนที่เมืองนอกอยู่พักนึงก็ขายให้บริษัทยักษ์ใหญ่ได้เป็นพันล้านแน่ะ ก่อนจะแบ่งเงินกับเพื่อน แล้วโดนท่านประธานตามกลับมาดูแลบริษัทเรา ตั้งแต่มาทำงานที่นี่นะ ด้วยความโหดทมิฬหินชาติของคุณพาร์ค ทำให้เรามีกำไรเป็นประวัติการณ์เลยล่ะแก แถมคุณพาร์คยัง...”
ก่อนที่เพื่อนสาวผู้แน่นปึกด้วยข้อมูลมหาศาลประหนึ่งเป็นวิกิพีเดียเดินได้จะสาธยายต่อ วรีวาฏิกาก็เบรกทันทีด้วยการโพล่งถามขัดจังหวะว่า
“เออ แล้วเขาชื่อจริงว่าอะไรนะ”
“ภควัตน์ อัศวธนา ชื่อเล่นชื่อพาร์ค แต่ไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อเล่น ฉันเลยได้แต่แอบเรียกลับหลัง หล๊อหล่อเนอะแก”
วรีวาฏิกาไม่ได้ฟังที่เพื่อนบรรยายสรรพคุณความหล่อของคนที่เพิ่งทำเหมือนไม่รู้จักเธออีก เพราะตอนนี้มันแน่ชัดแล้วว่า เธอไม่ได้ทักคนผิด เขาคือพี่พาร์คจริงๆ! และเขาเองนั่นแหละที่เป็นคนบอกให้เธอเรียกชื่อเล่นตอนเจอกันเมื่อสามปีก่อน แล้วนี่มาบอกว่าไม่รู้จักกันได้ไง
หรือเขาจะความจำเสื่อม?
เมื่อคิดได้ปุ๊บ ก็ถามเพื่อนปั๊บ
“มะลิๆ ท่านรองประธานของแกเขาเคยความจำเสื่อมหรือเปล่า”
มะลิมองหน้าเธองงๆ ตอบให้แต่ยังมิวายบ่น “ถามบ้าอะไรของแกเนี่ย เขาก็ดูปกติดีนะ แต่ถึงเคย ฉันจะไปรู้ได้ยังไง!”
ในขณะที่เพื่อนสาวบ่นพร้อมส่ายหน้า วรีวาฏิกาก็ยังหน้าด้านถามต่อ “พี่พาร์คที่ฉันรู้จัก น่ารัก แถมใจดีมากๆ แต่คนเมื่อกี้น่ากลัวมากกกกกก แกแน่ใจนะว่าเขาไม่ได้ความจำเสื่อมหรือมีฝาแฝด”
“ลูกชายคนเดียวย่ะ ไม่มีฝาแฝด ถามฉันนี่ ฉันท่องประวัติคุณพาร์คได้หมดแล้ว อีกอย่างตั้งแต่ทำงานที่นี่มา ฉันเคยได้ยินคนพูดถึงคุณพาร์คหลายอย่าง แต่คำว่า ใจดี กับ น่ารัก เนี่ย ไม่มีในสารบบชัวร์ พี่พาร์คของแกเขาตอแหลตอนอยู่ต่อหน้าคุณหญิงย่าแกหรือเปล่า ที่ทำงานเนี่ยโคตรจะโหด เย็นชา ใจร้าย ใจยักษ์ ใจดำ เลยนะแก แต่หล๊อหล่อ...”
คำพูดของยายมะลิต่อจากนั้นเธอไม่ได้ยินอีกแล้ว ก็ถ้าเมื่อกี้พี่พาร์คไม่ได้ความจำเสื่อม เป็นพี่พาร์คตัวจริง งั้นที่แกล้งเมินใส่เธอ ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนความจำดีเลิศเนี่ย แสดงว่าตั้งใจทำเมินแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกันชัดๆ! นี่เธอไปทำอะไรให้เขามิทราบ ย้อนกลับไปคิดดูตอนอยู่ห้องเดียวกันเธอก็ทำความสะอาดห้องดีจะตายไป
เอ๊ะ! หรือเธอจะแก่สะอาดไปหน่อย?
เท่าที่จำได้ รู้สึกเธอจะใช้เดทตอลทำความสะอาดของทุกอย่างในอพาร์ตเมนต์เขาอย่างเมามันหลังจากเข้ามาอยู่ได้แค่วันเดียว จนโดนเจ้าของห้องบ่นว่าห้องกลิ่นเหมือนโรงพยาบาล! แต่ก็แค่บ่น ไม่เห็นพี่พาร์คดุหรือมีปัญหาอะไรเลย
เอ๊ะ! หรือจะลืมเธอ?
เพราะครั้งล่าสุดที่เจอกันก็สามปีก่อนแล้ว เธอไม่เคยติดต่อกลับไปเลยหลังจากที่พี่พาร์คอยู่ดีๆ ก็กลับเมืองไทยไปดื้อๆ ไม่บอกไม่กล่าว แต่เขาก็ไม่ได้ติดต่อมาเหมือนกันนี่!
ช่างเถอะ! จะโกรธอะไรก็ช่าง ไม่อยากรู้จักกันก็ไม่ต้องรู้จัก!
เธอไม่ใช่คนชอบคิดให้เปลืองสมองอยู่แล้ว เขาเป็นถึงรองประธาน แต่เธอมันแค่พนักงานเข้าใหม่ บริษัทมีพนักงานเป็นพันคน คงไม่ได้เจอกันง่ายๆ ให้ลำบากใจหรอก
เรซูเม่ของ นางสาววรีวาฏิกา อัครากร
ชื่อ : วรีวาฏิกา อัครากร...ยาวไป? งั้นเรียกว่า ‘วา’ เฉยๆ ก็พอ เราคนกันเอง เธอไม่ถือ...
อายุ : ๒๔ ปี
สถานะ : โสด...ใช่ อ่านถูกแล้ว ใครมีปัญหาอะไรมิทราบ
คู่สมรส : ไม่-เคย-มี...ไม่เห็นหรือไงว่าข้างบนบอกว่าโสด! และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครยัดเยียดความเป็นสามีให้เธอเลยสักคน
บุตร : นี่จะถามตอกย้ำเธอให้ได้อะไรขึ้นมา?
กรุณาติดรูปถ่าย ๑ นิ้ว ถ่ายมาไม่เกิน ๖ เดือน แนบมากับเอกสารสมัครงาน
จะอยากดูรูปไปทำไม ไหนว่าบริษัทมีนโยบายไม่คัดเลือกสีผิวไม่ใช่เหรอ โกหกกันนี่ ใช่สิ เธอมันหน้าไม่แต่ง วันๆ คร่ำครึเป็นหนอนหนังสือ เอาแต่กินจนเริ่มจะอ้วนท้วนสมบูรณ์และยังปากไม่ดี แถมผิวขาวจัดซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่เป็นข้อดีตอนนี้ก็กลายเป็นสีแดงไปแล้วหลังจากไปทะเลกับเพื่อนครั้งล่าสุด แล้วอย่างนี้ใครมันจะไปอยากติดรูปถ่ายหน้าตรงกัน
พอกันที เธอจะไม่กรอกใบสมัครงานบ้าบอนี่อีกแล้ว เพราะหลังจากที่กรอกมาเกือบร้อยฉบับ วรีวาฏิกาก็ได้งานแรกในชีวิตกับเขาสักที!
หลังจากที่ตระเวนสอบสัมภาษณ์มาหลายที่ ในที่สุดฟ้าก็มีตา เมื่อวานมีโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล บริษัทชั้นนำของเมืองไทยโทร.มาแจ้งว่าเธอได้งานในตำแหน่ง Management Trainee ฝ่ายการตลาดของผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งในเครือ เธอกระดี๊กระด๊าอยู่สามวัน คุณย่าดีใจถึงขนาดพาไปเลี้ยงข้าวสามวันสามคืนติดต่อกัน แถมเมื่อเริ่มต้นทำงานก็ได้เจ้านายแสนน่ารักอย่าง ‘พี่จุ๋ม’ เป็นคนช่วยสอนงานให้อย่างกระตือรือร้น ช่างโชคดีเสียนี่กระไร
โชคดีชั้นที่สองของเธอคือ มะลิ เพื่อนสาวคนสนิทที่เรียนด้วยกันสมัยมัธยมฯ ก็ทำงานที่นี่ด้วย แถมทำมาก่อนเธอตั้งสองปีแล้วถึงแม้จะคนละแผนกก็ตาม
แต่ทว่าความโชคดีที่เอ่ยมาทั้งหมดนั้น มันก็เป็นเพียงความโชคดีระยะสั้นเท่านั้น เพราะความสุขของเธอ สุขที่วรีวาฏิกาคนนี้ควรจะมีจากความโชคดีเหล่านั้นมันมลายสิ้น ตั้งแต่การปรากฏตัวของคนที่เธอเคยเรียกอย่างสนิทสนมว่า...พี่พาร์ค!
โอเค เธอขอยอมรับอย่างโง่ๆ เลยว่า ถึงจะเคยอยู่อพาร์ตเมนต์เขาถึงหนึ่งเดือนเต็มที่อังกฤษ แต่เธอไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเขานักหรอก อย่างมากก็แค่เรื่องงานของเขาที่โน่นนิดๆ หน่อยๆ กับเพื่อนที่เคยแวะมาหาเขาบ้าง ฉะนั้นเมื่อบังเอิญมาเจอพี่พาร์คในวันแรกของการเข้าทำงานที่นี่หลัง จากที่ไม่เจอกันเลยถึงสามปี คนดีใจที่ได้เจอจนลืมตัว เลยรีบวิ่งเข้าไปหา แถมดึงชายเสื้อเขาไว้เพราะกลัวตามไม่ทัน พร้อมทักเสียงดังลั่นว่า
“พี่พาร์ค พี่พาร์คใช่ไหมคะ ไม่เจอกันตั้งนาน จำวาได้ไหมคะ”
หลังจากรัวคำถามไปเป็นชุดด้วยอาการตื่นเต้นดีใจ คนที่เธอดึงเสื้อไว้ก็หันมามองจ้องนิ่งๆ พร้อมกับแกะมือเธอออกแล้วบอก
“ชื่อเล่นผม ผมอนุญาตให้เฉพาะคนที่สนิทกันเท่านั้นเรียก และนั่น...ไม่ใช่คุณ”
และตอนที่เธอยังยืนตกตะลึงพรึงเพริดอยู่ตรงนั้น อดีตพี่พาร์คที่เธอเคยคิดว่าใจดีและอบอุ่นสุดๆ ก็เดินอ้อมเธอไปเหมือนเดินอ้อมขยะ ทำเหมือนคนที่เขาแกะมือออกจากชายเสื้อเมื่อกี้เป็นอากาศธาตุ วรีวาฏิกายืนหน้าชาท่ามกลางสายตาพนักงานนับร้อยคนที่เดินไปมาในยามเช้าตรู่ จนมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มะลิวิ่งมากระตุกแขนเสื้อ
“แกกล้ามาก! มาวันแรกก็เข้าไปกระตุกเสื้อเชิ้ตท่านรองประธานเลยเหรอ ฉันรู้หรอกนะว่าเขาหล่อจนแกอดใจไม่ไหว แต่แกนี่มันไม่มีความยับยั้งชั่งใจบ้างเลยหรือไง หา!”
และก่อนที่ยายมะลิจะเทศนาไปมากกว่านี้ วรีวาฏิกาที่กำลังยืนนิ่งอึ้งถามเพื่อนว่า
“เดี๋ยวนะมะลิ คนเมื่อกี้ที่ฉันไปดึงเสื้อ เขา...เป็นรองประธานบริษัทเหรอ”
“เออ สิ เห็นอายุสามสิบกว่าๆ หล่อเหลา ตาสวย กรามชัด ซิกแพคแน่นปังขนาดนั้น แต่เขาก็เป็นรองประธานย่ะ”
เธออยากบอกเพื่อนมากว่าคำบรรยายสรรพคุณความหล่อทั้งหลายอย่างเช่นซิกแพคอะไรนั่นไม่ต้องบอกกันก็ได้ เธออยากได้แบบเนื้อๆ ไม่เอาน้ำ แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากบอก มะลิก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยการเล่าประวัติของ ‘ท่านรองประธาน’ ต่ออย่างละเอียดยิบ
“คุณพาร์คเคยทำบริษัทสตาร์ตอัปกับเพื่อนที่เมืองนอกอยู่พักนึงก็ขายให้บริษัทยักษ์ใหญ่ได้เป็นพันล้านแน่ะ ก่อนจะแบ่งเงินกับเพื่อน แล้วโดนท่านประธานตามกลับมาดูแลบริษัทเรา ตั้งแต่มาทำงานที่นี่นะ ด้วยความโหดทมิฬหินชาติของคุณพาร์ค ทำให้เรามีกำไรเป็นประวัติการณ์เลยล่ะแก แถมคุณพาร์คยัง...”
ก่อนที่เพื่อนสาวผู้แน่นปึกด้วยข้อมูลมหาศาลประหนึ่งเป็นวิกิพีเดียเดินได้จะสาธยายต่อ วรีวาฏิกาก็เบรกทันทีด้วยการโพล่งถามขัดจังหวะว่า
“เออ แล้วเขาชื่อจริงว่าอะไรนะ”
“ภควัตน์ อัศวธนา ชื่อเล่นชื่อพาร์ค แต่ไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อเล่น ฉันเลยได้แต่แอบเรียกลับหลัง หล๊อหล่อเนอะแก”
วรีวาฏิกาไม่ได้ฟังที่เพื่อนบรรยายสรรพคุณความหล่อของคนที่เพิ่งทำเหมือนไม่รู้จักเธออีก เพราะตอนนี้มันแน่ชัดแล้วว่า เธอไม่ได้ทักคนผิด เขาคือพี่พาร์คจริงๆ! และเขาเองนั่นแหละที่เป็นคนบอกให้เธอเรียกชื่อเล่นตอนเจอกันเมื่อสามปีก่อน แล้วนี่มาบอกว่าไม่รู้จักกันได้ไง
หรือเขาจะความจำเสื่อม?
เมื่อคิดได้ปุ๊บ ก็ถามเพื่อนปั๊บ
“มะลิๆ ท่านรองประธานของแกเขาเคยความจำเสื่อมหรือเปล่า”
มะลิมองหน้าเธองงๆ ตอบให้แต่ยังมิวายบ่น “ถามบ้าอะไรของแกเนี่ย เขาก็ดูปกติดีนะ แต่ถึงเคย ฉันจะไปรู้ได้ยังไง!”
ในขณะที่เพื่อนสาวบ่นพร้อมส่ายหน้า วรีวาฏิกาก็ยังหน้าด้านถามต่อ “พี่พาร์คที่ฉันรู้จัก น่ารัก แถมใจดีมากๆ แต่คนเมื่อกี้น่ากลัวมากกกกกก แกแน่ใจนะว่าเขาไม่ได้ความจำเสื่อมหรือมีฝาแฝด”
“ลูกชายคนเดียวย่ะ ไม่มีฝาแฝด ถามฉันนี่ ฉันท่องประวัติคุณพาร์คได้หมดแล้ว อีกอย่างตั้งแต่ทำงานที่นี่มา ฉันเคยได้ยินคนพูดถึงคุณพาร์คหลายอย่าง แต่คำว่า ใจดี กับ น่ารัก เนี่ย ไม่มีในสารบบชัวร์ พี่พาร์คของแกเขาตอแหลตอนอยู่ต่อหน้าคุณหญิงย่าแกหรือเปล่า ที่ทำงานเนี่ยโคตรจะโหด เย็นชา ใจร้าย ใจยักษ์ ใจดำ เลยนะแก แต่หล๊อหล่อ...”
คำพูดของยายมะลิต่อจากนั้นเธอไม่ได้ยินอีกแล้ว ก็ถ้าเมื่อกี้พี่พาร์คไม่ได้ความจำเสื่อม เป็นพี่พาร์คตัวจริง งั้นที่แกล้งเมินใส่เธอ ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนความจำดีเลิศเนี่ย แสดงว่าตั้งใจทำเมินแกล้งทำเป็นไม่รู้จักกันชัดๆ! นี่เธอไปทำอะไรให้เขามิทราบ ย้อนกลับไปคิดดูตอนอยู่ห้องเดียวกันเธอก็ทำความสะอาดห้องดีจะตายไป
เอ๊ะ! หรือเธอจะแก่สะอาดไปหน่อย?
เท่าที่จำได้ รู้สึกเธอจะใช้เดทตอลทำความสะอาดของทุกอย่างในอพาร์ตเมนต์เขาอย่างเมามันหลังจากเข้ามาอยู่ได้แค่วันเดียว จนโดนเจ้าของห้องบ่นว่าห้องกลิ่นเหมือนโรงพยาบาล! แต่ก็แค่บ่น ไม่เห็นพี่พาร์คดุหรือมีปัญหาอะไรเลย
เอ๊ะ! หรือจะลืมเธอ?
เพราะครั้งล่าสุดที่เจอกันก็สามปีก่อนแล้ว เธอไม่เคยติดต่อกลับไปเลยหลังจากที่พี่พาร์คอยู่ดีๆ ก็กลับเมืองไทยไปดื้อๆ ไม่บอกไม่กล่าว แต่เขาก็ไม่ได้ติดต่อมาเหมือนกันนี่!
ช่างเถอะ! จะโกรธอะไรก็ช่าง ไม่อยากรู้จักกันก็ไม่ต้องรู้จัก!
เธอไม่ใช่คนชอบคิดให้เปลืองสมองอยู่แล้ว เขาเป็นถึงรองประธาน แต่เธอมันแค่พนักงานเข้าใหม่ บริษัทมีพนักงานเป็นพันคน คงไม่ได้เจอกันง่ายๆ ให้ลำบากใจหรอก
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 พ.ย. 2563, 08:11:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 พ.ย. 2563, 08:11:36 น.
จำนวนการเข้าชม : 444
<< บทนำ | บทที่ 1 -100% >> |