แรกรักพันใจ: มาสฬฎา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
มีมารดาเลี้ยงใจร้าย บวกกับพี่สาวใจยักษ์ ชีวิตดูน่ารันทดนัก
แต่ ‘วรีวาฏิกา’ สาวชื่อยาวยิ่งกว่าแม่น้ำไนล์ก็หาได้แคร์ไม่
แต่พอคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่ชาย...จากที่เคยอบอุ่นน่ารักเอาใจ กลายเป็นเย็นชาหมางเมินใส่ เธอก็เลยต้องเริ่มจะแคร์
เจอกันตอนเด็กๆ เธอคิดว่า ‘ภควัตน์’ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนมีเมตตา
เจอกันช่วงวัยรุ่น วรีวาฏิกาก็ยังคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่หล่อเหลาและแสนดี
เจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน...
ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปชั่วร้ายได้ขนาดนี้เล่า!
นี่ถ้าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ภควัตน์ก็เสแสร้งตลบตะแลงเก่งเกินไปแล้ว!
“ชื่อเล่นผม มีไว้ให้คนสนิทกันเรียก และนั่นไม่ใช่คุณ!”
ประโยคเดียวเบิกเนตรจนวรีวาฏิกาต้องหันกลับมามองท่านรองประธานเสียใหม่
ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อนก็ไม่เป็นไร
เจอกันคราวต่อไป ก็อย่าหวังให้เธอเห็นใจก็แล้วกัน!
*******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "มาสฬฎา" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก คอมเมดี้ ที่รับประกันเลยว่าทั้งสนุก ตลก น่ารัก และฟินมากกกกกก ได้ปาความเครียดทิ้งไปแน่นอน! เพราะพี่พาร์ค พระเอกของเรื่องแม้จะเป็นบอสสายเย็นชา แต่(แอบ)รักนางเอกสุดหัวใจ ส่วนนางเอกก็เป็นน้องมึนที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ 5555 #รับประกันความสนุก!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 458 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนรวด)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 350฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
แต่ ‘วรีวาฏิกา’ สาวชื่อยาวยิ่งกว่าแม่น้ำไนล์ก็หาได้แคร์ไม่
แต่พอคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่ชาย...จากที่เคยอบอุ่นน่ารักเอาใจ กลายเป็นเย็นชาหมางเมินใส่ เธอก็เลยต้องเริ่มจะแคร์
เจอกันตอนเด็กๆ เธอคิดว่า ‘ภควัตน์’ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนมีเมตตา
เจอกันช่วงวัยรุ่น วรีวาฏิกาก็ยังคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่หล่อเหลาและแสนดี
เจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน...
ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปชั่วร้ายได้ขนาดนี้เล่า!
นี่ถ้าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ภควัตน์ก็เสแสร้งตลบตะแลงเก่งเกินไปแล้ว!
“ชื่อเล่นผม มีไว้ให้คนสนิทกันเรียก และนั่นไม่ใช่คุณ!”
ประโยคเดียวเบิกเนตรจนวรีวาฏิกาต้องหันกลับมามองท่านรองประธานเสียใหม่
ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อนก็ไม่เป็นไร
เจอกันคราวต่อไป ก็อย่าหวังให้เธอเห็นใจก็แล้วกัน!
*******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "มาสฬฎา" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก คอมเมดี้ ที่รับประกันเลยว่าทั้งสนุก ตลก น่ารัก และฟินมากกกกกก ได้ปาความเครียดทิ้งไปแน่นอน! เพราะพี่พาร์ค พระเอกของเรื่องแม้จะเป็นบอสสายเย็นชา แต่(แอบ)รักนางเอกสุดหัวใจ ส่วนนางเอกก็เป็นน้องมึนที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ 5555 #รับประกันความสนุก!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 458 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนรวด)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 350฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
Tags: เลขา บอส พระเอกเย็นชา แม่เลี้ยง ลูกเลี้ยง ตลก
ตอน: บทที่ 4 -100%
ยังไม่ทันจะได้เวลาเลิกงาน ระหว่างที่วรีวาฏิกากำลังเคลียร์งานของวันนี้ให้เสร็จ ก็มีความจำเป็นต้องกลับไปที่แผนกเก่าเพื่อหาเอกสารบางอย่างจากโต๊ะทำงานตัวเอง แต่พอเดินผ่านโต๊ะของมะลิซึ่งอยู่แผนกบุคคล เธอก็โดนเพื่อนสาวลากเข้าไปยังมุมแพนทรีแถวนั้นทันที
ตอนแรกเธอนึกว่าเพื่อนลากมาเพราะได้ข่าวความซวยของเธอ เลยจะรีบมาแสดงความเห็นใจ แต่ที่ไหนได้ ยายมะลิกลับกรีดร้องด้วยความดีใจว่าจะได้เพื่อนเป็นแหล่งข่าวใกล้ชิด
“งั้นเพื่อแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น แกสลับกับฉันสิ มาเป็นเลขาแทนฉันเอาไหม แลกกัน ฉันจะวิ่งไปบอกหัวหน้าแกให้เดี๋ยวนี้เลย”
วรีวาฏิการีบเสนอแกมคะยั้นคะยอเมื่อเห็นเพื่อนตาเป็นประกายเสียขนาดนั้น แต่ก็ต้องหงายเงิบเมื่อมะลิเอ่ยออกมาอย่างหัวเด็ดตีนขาดว่า
“ไปให้โง่สิแก สำหรับคุณพาร์คก็เหมือนพระอาทิตย์นั่นแหละ อยู่ใกล้ไปจะร้อนจนตัวไหม้ อยู่ไกลๆ ระดับที่ฉันอยู่เนี่ยดีที่สุดแล้ว แถมยังได้ข่าวคราวจากแกด้วย สบายจะตาย”
อ้าว! แล้วแบบนี้เธอไม่ตัวไหม้เป็นไก่ย่างถูกเผาหรือไง!
โถ...วรีวาฏิกา นี่ที่ผ่านมาเธอไปทำกรรมอะไรไว้ถึงต้องมาพบเจอเจ้านายอย่างนี้! คอยดูนะ กลับบ้านวันนี้เธอจะไปบริกรรมคาถาร่ายมนตร์ดำให้ไอ้เจ้านายป่าเถื่อนอย่างภควัตน์ถูกอะวาดา เคดาฟราตายตามลอร์ด โวลเดอมอร์ไปเลย!
ยังก่นด่าภควัตน์ในใจไม่หายแค้น มะลิก็ขยายความสิ่งที่ได้ยินมาให้วรีวาฏิกาฟังต่อ “โอ๊ย แกรู้ไหม พอคุณพาร์คบอกว่าจะเอาแกเป็นเลขานะ แผนกฉันนี่โล่งอกกันเป็นแถบๆ ยื่นเรซูเม่ไปให้สิบกว่าคน คุณพาร์คโยนคืนเรียบ นี่ก็ไม่ดี นั่นก็ไม่เอา พอนายฉันถามว่าแล้วต้องการแบบไหน จะรีบไปดึงตัวมาให้ คุณพาร์คบอกชื่อแกทันทีเลย แกแน่ใจนะว่าเขาเกลียดแกอย่างที่แสดงออกจริงๆ บางทีคุณพาร์คเขาอาจจะเลิกเขม่นแกแล้วก็ได้นะ ไม่งั้นคงไม่เจาะจงให้แกไปทำงานหน้าห้องหรอก”
“เขม่นฉัน? ตลกแล้ว เขาเนี่ยนะไม่มีสิทธิ์มาเหม็นขี้หน้าหรือโกรธอะไรฉันทั้งนั้นย่ะ! นี่ฉันคิดทบทวนร้อยตลบแล้วยังจำไม่ได้สักนิดว่าไปทำอะไรเขา ถึงขั้นทวนไปถึงเรื่องเคยขัดใจเขาหรือเปล่าช่วงที่ไปอาศัยบ้านเขาอยู่ ฉันก็ยังนึกไม่ออกเลย แกคิดดูนะ ขนาดพี่พาร์ค เอ๊ย! คุณภควัตน์เคยห้ามฉันกินชานมไข่มุกที่ฉันอุตส่าห์ดั้นด้นนั่งรถไฟไปซื้อมาจากไชน่าทาวน์กลางดึก เพราะน้ำหนักฉันขึ้นมาห้าโลในสองอาทิตย์ ฉันยังไม่กล้ากินเลย จนทุกวันนี้ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วฉันก็ยังไม่ได้แตะชานมไข่มุกสักแอะ ฉันรักษาสัญญายิ่งชีพขนาดนี้ เขายังมาโกรธอะไรฉันไม่ทราบ!”
“เดี๋ยวนะ! นี่แกเคยสนิทกับคุณพาร์คถึงขนาดเขามายุ่งเรื่องอาหารการกินแกเลยเหรอ”
“หึ ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห เมื่อก่อนทำแซนด์วิช พาไปปิกนิกดูละครที่ Regent's Park พี่พาร์คก็เคยพาฉันไปทั้งนั้นแหละ นี่ยังโมโหไม่หายเลยว่าจากพี่ชายที่แสนดีขนาดนั้น อยู่ดีๆ ร้ายกาจขนาดนี้ได้ยังไง ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนทำอาหารให้ฉันกินแท้ๆ ตอนนี้มาแย่งข้าวกะเพราฉันหน้าตาเฉย คนเรามันจะเปลี่ยนอะไรได้ขนาดนั้น นี่เขาผีเข้าหรือเปล่าฉันยังสงสัยจนทุกวันนี้เลย!”
“โอ๊ย...พาไปปิกนิก!!!! นี่แกทำบุญด้วยอะไรยะยายวา ฉันก็อยากจะไปปิกนิกสุดโรแมนติกกับพี่พาร์คบ้าง”
“โรแมนติกกับผีสิ! ฉันโดนหลอกให้ไปปิกนิก เพราะเขาตั้งใจลากฉันไปวิ่งต่างหาก! กลัวว่าไขมันฉันจะทำโซฟาที่บ้านพังมั้ง ไม่ก็กลัวโดนคุณย่าเอ็ดเรื่องทำฉันน้ำหนักขึ้นเพราะเลี้ยงดีเกิน”
และก่อนที่จะได้นินทาไปมากกว่านั้น เสียงสั่นจากโทรศัพท์ของคนที่แอบอู้งานมานินทาเจ้านายตัวเองก็ดังแทรกขึ้นมา วรีวาฏิกาหยิบมือถือขึ้น มาดูก็เห็นหน้าจอโชว์เบอร์ลำดับสามของภควัตน์หรา ยังไม่ทันจะกดรับ สายก็ตัดไป โชว์ให้เห็นว่าเขาโทร.มาด้วยเบอร์ลำดับสองถึงสามครั้งแล้ว แต่เธอเปิดเป็นระบบสั่นแล้วมัวแต่เมาท์เลยไม่ได้ยิน พอภควัตน์โทร.เข้ามาอีกครั้ง วรีวาฏิกาก็กดรับสายอย่างกล้าๆ กลัวๆ เสียงเขาดังมาตามสายอย่างเหี้ยมโหดทันที
“กล้ามากนะวรีวาฏิกา ทำงานเป็นเลขาผมวันแรกก็อู้งานเลย คุณอยู่ไหน มาที่ห้องผมเดี๋ยวนี้!”
ซวยแล้วไหมล่ะ นินทายังไม่ทันถึงสิบห้านาที กรรมก็ติดจรวดซะแล้ว
คนโดนตามรีบวิ่งกระหืดกระหอบกลับไปที่ห้องเจ้านายตัวเองโดยใช้เวลาเพียงแค่สองนาทีเท่านั้น หญิงสาวเปิดประตูห้องพร้อมเข้าไปยืนรองรับอารมณ์โกรธของเจ้านายอย่างน่าสงสาร
“หายไปไหนมา” ภควัตน์เปิดฉากถามด้วยน้ำเสียงสุดเยือกเย็น
“ไปเอาเอกสารที่แผนกเก่าค่ะ ดิฉันยังขนมาไม่หมด”
“เหรอ ผมโทร.หาคุณไม่ติดเลยโทร.ไปหาคุณจุ๋ม แต่ไม่เห็นคุณจุ๋มบอกว่าคุณไปที่แผนกนะ”
“ยังเดินไปไม่ถึงค่ะ คือ...คือว่า พอดีเจอมะลิ เลยหยุดคุยนิดหน่อยค่ะ”
“เหรอ แล้วคุยเรื่องอะไรล่ะ นิดหน่อยที่ว่า”
จะอยากรู้ไปทำไมไม่ทราบ! ก็นินทาเขาไง ไม่เห็นจะต้องถาม!
แต่กล้าตอบไปอย่างที่ใจคิดไหม บอกเลยว่าไม่ คนโดนซักเลยได้แต่เอาสีข้างเข้าแถ
“ก็คุยเรื่องที่มารับตำแหน่งชั่วคราวค่ะ พอดีมะลิเพิ่งรู้”
“แต่ที่ผมได้ยินมันไม่ใช่แค่เรื่องตำแหน่งใหม่นะ วรีวาฏิกา”
ซวยละ นี่อย่าบอกนะว่า...
“คุณภควัตน์ไปยืนแอบฟังที่พวกเราคุยกันเหรอคะ!”
“เปล่า...แต่ตอนผมโทร.ไป มีคนเซ่อซ่าบางคนเผลอมือไปกดรับโทรศัพท์โดยไม่รู้ตัว ผมเลยได้ยินที่คุณพูดทั้งหมด”
ภควัตน์พูดจบปุ๊บ เลขาคนใหม่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว
จริงด้วย! นอกจากที่มีสามสายไม่ได้รับของภควัตน์ มีสายหนึ่งจากเขาที่เธอเผลอกดรับ หน้าจอโชว์ว่าบทสนทนานั้นยาวนานถึงสิบนาที
ตาย ตาย ตาย แบบนี้ตาย ตายแหงๆ!
พอเธอรวบรวมความกล้ามองไปยังคนที่ถูกเธอนินทาก็เห็นภควัตน์ยิ้มที่มุมปากอย่างดูแคลน ก่อนจะพูดต่อว่า
“ผมไม่ได้ถูกผีเข้า และไม่ได้จำคุณไม่ได้ ผมจำได้ แต่ตอนนี้ผมไม่คิดว่าเราสนิทกันพอที่คุณจะเรียกชื่อเล่นผมได้เหมือนเมื่อก่อน และอย่าหวังจะเอาเรื่องเก่าๆ มาทำให้ผมใจดีกับคุณ เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว”
ไหนๆ ก็ไหนๆ ในเมื่อเขาพูดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว เธอก็จะถามต่อแบบไม่เกรงใจล่ะว่า
“แล้วทำไมมันถึงเปลี่ยนไปล่ะคะ คุณภควัตน์”
“คุณเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ อย่าทำเป็นเหมือนไม่รู้อะไรเลยวรีวาฏิกา!”
เธอว่า เธอไม่ได้คิดไปเอง...ตอนที่ภควัตน์พูดประโยคนั้น เสียงเขาเย็นชากว่าเดิมอีกหลายขุม เย็นชาจนเธอหนาวไปถึงขั้วหัวใจ พอเห็นท่าทางน่ากลัวแบบนั้นวรีวาฏิกาก็ไม่กล้าถามอะไรอีกได้แต่เอ่ยขอตัวกลับไปทำงานต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ โดยที่ภควัตน์ก็ไม่ได้ห้ามอะไรเช่นกัน
**************
มาต่อให้แล้วค่า พรุ่งนี้เค้าขอพักวันนึงนะตัวเอง >< มาต่อให้อีกทีวันจันทร์จ้า จุ๊บๆ พักผ่อนกันในวันหยุดยาวค่าาาาาา
ตอนแรกเธอนึกว่าเพื่อนลากมาเพราะได้ข่าวความซวยของเธอ เลยจะรีบมาแสดงความเห็นใจ แต่ที่ไหนได้ ยายมะลิกลับกรีดร้องด้วยความดีใจว่าจะได้เพื่อนเป็นแหล่งข่าวใกล้ชิด
“งั้นเพื่อแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น แกสลับกับฉันสิ มาเป็นเลขาแทนฉันเอาไหม แลกกัน ฉันจะวิ่งไปบอกหัวหน้าแกให้เดี๋ยวนี้เลย”
วรีวาฏิการีบเสนอแกมคะยั้นคะยอเมื่อเห็นเพื่อนตาเป็นประกายเสียขนาดนั้น แต่ก็ต้องหงายเงิบเมื่อมะลิเอ่ยออกมาอย่างหัวเด็ดตีนขาดว่า
“ไปให้โง่สิแก สำหรับคุณพาร์คก็เหมือนพระอาทิตย์นั่นแหละ อยู่ใกล้ไปจะร้อนจนตัวไหม้ อยู่ไกลๆ ระดับที่ฉันอยู่เนี่ยดีที่สุดแล้ว แถมยังได้ข่าวคราวจากแกด้วย สบายจะตาย”
อ้าว! แล้วแบบนี้เธอไม่ตัวไหม้เป็นไก่ย่างถูกเผาหรือไง!
โถ...วรีวาฏิกา นี่ที่ผ่านมาเธอไปทำกรรมอะไรไว้ถึงต้องมาพบเจอเจ้านายอย่างนี้! คอยดูนะ กลับบ้านวันนี้เธอจะไปบริกรรมคาถาร่ายมนตร์ดำให้ไอ้เจ้านายป่าเถื่อนอย่างภควัตน์ถูกอะวาดา เคดาฟราตายตามลอร์ด โวลเดอมอร์ไปเลย!
ยังก่นด่าภควัตน์ในใจไม่หายแค้น มะลิก็ขยายความสิ่งที่ได้ยินมาให้วรีวาฏิกาฟังต่อ “โอ๊ย แกรู้ไหม พอคุณพาร์คบอกว่าจะเอาแกเป็นเลขานะ แผนกฉันนี่โล่งอกกันเป็นแถบๆ ยื่นเรซูเม่ไปให้สิบกว่าคน คุณพาร์คโยนคืนเรียบ นี่ก็ไม่ดี นั่นก็ไม่เอา พอนายฉันถามว่าแล้วต้องการแบบไหน จะรีบไปดึงตัวมาให้ คุณพาร์คบอกชื่อแกทันทีเลย แกแน่ใจนะว่าเขาเกลียดแกอย่างที่แสดงออกจริงๆ บางทีคุณพาร์คเขาอาจจะเลิกเขม่นแกแล้วก็ได้นะ ไม่งั้นคงไม่เจาะจงให้แกไปทำงานหน้าห้องหรอก”
“เขม่นฉัน? ตลกแล้ว เขาเนี่ยนะไม่มีสิทธิ์มาเหม็นขี้หน้าหรือโกรธอะไรฉันทั้งนั้นย่ะ! นี่ฉันคิดทบทวนร้อยตลบแล้วยังจำไม่ได้สักนิดว่าไปทำอะไรเขา ถึงขั้นทวนไปถึงเรื่องเคยขัดใจเขาหรือเปล่าช่วงที่ไปอาศัยบ้านเขาอยู่ ฉันก็ยังนึกไม่ออกเลย แกคิดดูนะ ขนาดพี่พาร์ค เอ๊ย! คุณภควัตน์เคยห้ามฉันกินชานมไข่มุกที่ฉันอุตส่าห์ดั้นด้นนั่งรถไฟไปซื้อมาจากไชน่าทาวน์กลางดึก เพราะน้ำหนักฉันขึ้นมาห้าโลในสองอาทิตย์ ฉันยังไม่กล้ากินเลย จนทุกวันนี้ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วฉันก็ยังไม่ได้แตะชานมไข่มุกสักแอะ ฉันรักษาสัญญายิ่งชีพขนาดนี้ เขายังมาโกรธอะไรฉันไม่ทราบ!”
“เดี๋ยวนะ! นี่แกเคยสนิทกับคุณพาร์คถึงขนาดเขามายุ่งเรื่องอาหารการกินแกเลยเหรอ”
“หึ ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห เมื่อก่อนทำแซนด์วิช พาไปปิกนิกดูละครที่ Regent's Park พี่พาร์คก็เคยพาฉันไปทั้งนั้นแหละ นี่ยังโมโหไม่หายเลยว่าจากพี่ชายที่แสนดีขนาดนั้น อยู่ดีๆ ร้ายกาจขนาดนี้ได้ยังไง ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนทำอาหารให้ฉันกินแท้ๆ ตอนนี้มาแย่งข้าวกะเพราฉันหน้าตาเฉย คนเรามันจะเปลี่ยนอะไรได้ขนาดนั้น นี่เขาผีเข้าหรือเปล่าฉันยังสงสัยจนทุกวันนี้เลย!”
“โอ๊ย...พาไปปิกนิก!!!! นี่แกทำบุญด้วยอะไรยะยายวา ฉันก็อยากจะไปปิกนิกสุดโรแมนติกกับพี่พาร์คบ้าง”
“โรแมนติกกับผีสิ! ฉันโดนหลอกให้ไปปิกนิก เพราะเขาตั้งใจลากฉันไปวิ่งต่างหาก! กลัวว่าไขมันฉันจะทำโซฟาที่บ้านพังมั้ง ไม่ก็กลัวโดนคุณย่าเอ็ดเรื่องทำฉันน้ำหนักขึ้นเพราะเลี้ยงดีเกิน”
และก่อนที่จะได้นินทาไปมากกว่านั้น เสียงสั่นจากโทรศัพท์ของคนที่แอบอู้งานมานินทาเจ้านายตัวเองก็ดังแทรกขึ้นมา วรีวาฏิกาหยิบมือถือขึ้น มาดูก็เห็นหน้าจอโชว์เบอร์ลำดับสามของภควัตน์หรา ยังไม่ทันจะกดรับ สายก็ตัดไป โชว์ให้เห็นว่าเขาโทร.มาด้วยเบอร์ลำดับสองถึงสามครั้งแล้ว แต่เธอเปิดเป็นระบบสั่นแล้วมัวแต่เมาท์เลยไม่ได้ยิน พอภควัตน์โทร.เข้ามาอีกครั้ง วรีวาฏิกาก็กดรับสายอย่างกล้าๆ กลัวๆ เสียงเขาดังมาตามสายอย่างเหี้ยมโหดทันที
“กล้ามากนะวรีวาฏิกา ทำงานเป็นเลขาผมวันแรกก็อู้งานเลย คุณอยู่ไหน มาที่ห้องผมเดี๋ยวนี้!”
ซวยแล้วไหมล่ะ นินทายังไม่ทันถึงสิบห้านาที กรรมก็ติดจรวดซะแล้ว
คนโดนตามรีบวิ่งกระหืดกระหอบกลับไปที่ห้องเจ้านายตัวเองโดยใช้เวลาเพียงแค่สองนาทีเท่านั้น หญิงสาวเปิดประตูห้องพร้อมเข้าไปยืนรองรับอารมณ์โกรธของเจ้านายอย่างน่าสงสาร
“หายไปไหนมา” ภควัตน์เปิดฉากถามด้วยน้ำเสียงสุดเยือกเย็น
“ไปเอาเอกสารที่แผนกเก่าค่ะ ดิฉันยังขนมาไม่หมด”
“เหรอ ผมโทร.หาคุณไม่ติดเลยโทร.ไปหาคุณจุ๋ม แต่ไม่เห็นคุณจุ๋มบอกว่าคุณไปที่แผนกนะ”
“ยังเดินไปไม่ถึงค่ะ คือ...คือว่า พอดีเจอมะลิ เลยหยุดคุยนิดหน่อยค่ะ”
“เหรอ แล้วคุยเรื่องอะไรล่ะ นิดหน่อยที่ว่า”
จะอยากรู้ไปทำไมไม่ทราบ! ก็นินทาเขาไง ไม่เห็นจะต้องถาม!
แต่กล้าตอบไปอย่างที่ใจคิดไหม บอกเลยว่าไม่ คนโดนซักเลยได้แต่เอาสีข้างเข้าแถ
“ก็คุยเรื่องที่มารับตำแหน่งชั่วคราวค่ะ พอดีมะลิเพิ่งรู้”
“แต่ที่ผมได้ยินมันไม่ใช่แค่เรื่องตำแหน่งใหม่นะ วรีวาฏิกา”
ซวยละ นี่อย่าบอกนะว่า...
“คุณภควัตน์ไปยืนแอบฟังที่พวกเราคุยกันเหรอคะ!”
“เปล่า...แต่ตอนผมโทร.ไป มีคนเซ่อซ่าบางคนเผลอมือไปกดรับโทรศัพท์โดยไม่รู้ตัว ผมเลยได้ยินที่คุณพูดทั้งหมด”
ภควัตน์พูดจบปุ๊บ เลขาคนใหม่ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอย่างรวดเร็ว
จริงด้วย! นอกจากที่มีสามสายไม่ได้รับของภควัตน์ มีสายหนึ่งจากเขาที่เธอเผลอกดรับ หน้าจอโชว์ว่าบทสนทนานั้นยาวนานถึงสิบนาที
ตาย ตาย ตาย แบบนี้ตาย ตายแหงๆ!
พอเธอรวบรวมความกล้ามองไปยังคนที่ถูกเธอนินทาก็เห็นภควัตน์ยิ้มที่มุมปากอย่างดูแคลน ก่อนจะพูดต่อว่า
“ผมไม่ได้ถูกผีเข้า และไม่ได้จำคุณไม่ได้ ผมจำได้ แต่ตอนนี้ผมไม่คิดว่าเราสนิทกันพอที่คุณจะเรียกชื่อเล่นผมได้เหมือนเมื่อก่อน และอย่าหวังจะเอาเรื่องเก่าๆ มาทำให้ผมใจดีกับคุณ เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว”
ไหนๆ ก็ไหนๆ ในเมื่อเขาพูดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว เธอก็จะถามต่อแบบไม่เกรงใจล่ะว่า
“แล้วทำไมมันถึงเปลี่ยนไปล่ะคะ คุณภควัตน์”
“คุณเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจ อย่าทำเป็นเหมือนไม่รู้อะไรเลยวรีวาฏิกา!”
เธอว่า เธอไม่ได้คิดไปเอง...ตอนที่ภควัตน์พูดประโยคนั้น เสียงเขาเย็นชากว่าเดิมอีกหลายขุม เย็นชาจนเธอหนาวไปถึงขั้วหัวใจ พอเห็นท่าทางน่ากลัวแบบนั้นวรีวาฏิกาก็ไม่กล้าถามอะไรอีกได้แต่เอ่ยขอตัวกลับไปทำงานต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ โดยที่ภควัตน์ก็ไม่ได้ห้ามอะไรเช่นกัน
**************
มาต่อให้แล้วค่า พรุ่งนี้เค้าขอพักวันนึงนะตัวเอง >< มาต่อให้อีกทีวันจันทร์จ้า จุ๊บๆ พักผ่อนกันในวันหยุดยาวค่าาาาาา
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ธ.ค. 2563, 08:23:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ธ.ค. 2563, 08:23:48 น.
จำนวนการเข้าชม : 376
<< บทที่ 4 -50% | บทที่ 5 -50% >> |