อุบัติรักใต้คำสาปร้าย (Yaoi) - จบ
เมื่อการพบเจอระหว่างชายหนุ่มต้องคำสาปอย่าง ระวง กับชายที่โดนทำร้ายจนปางตายอย่าง ดอกเตอร์ และเพื่อช่วยต่ออีกชีวิตหนึ่งต้องเชื่อมเข้ากับอีกชีวิตหนึ่ง จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยของพวกเขา


โดยอีกคนต้องการหาสาเหตุของโรคประหลาดที่เกิดขึ้นกับอาของตน ส่วนอีกคนที่เป็นคนต้องคำสาปมีหน้าที่อันหนักอึ้ง ในการคลายคำสาปให้กับทุกคนในหมู่บ้าน ภายในวันเกิดอายุครบ 45 ปี ซึ่งเขามีเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น ที่จะรักษาคนป่วยด้วยวิชาที่ตนมี พร้อมกับค้นหาหยดน้ำเพชรประจำหมู่บ้าน ซึ่งหายสาบสูญไปพร้อมกับคำสาปร้ายที่กลืนกินทุกคนในหมู่บ้านวันนั้น


แล้วเบื้องหลังของการเกิดคำสาปเหล่านี้ จะโดนเปิดเผยหรือจมหายไปพร้อมกับความล้มเหลวในการแก้ไข และพวกเขาจะสามารถค้นหาหยดน้ำเพชรประจำหมู่บ้านได้หรือไม่ แล้วการที่ดอกเตอร์มามีชะตาร่วมกับระวงนั้น เป็นเหตุบังเอิญหรือถูกกำหนดไว้กันแน่
Tags: นิยายรัก แฟนตาซี คำสาปร้าย โรคประหลาด

ตอน: มีแต่คนแปลก

“เมื่อไหร่ผมจะหาย”

คำถามที่ดอกเตอร์ถามระวงนั้น เป็นเพราะเขาไม่อยากดื่มน้ำขม ๆ สีดำ ๆ ที่ไม่น่าทานตรงหน้า แต่คนตัวเล็กกลับไม่พูดสิ่งใดยังคงยื่นให้เขา เพื่อให้เขาดื่มให้หมด

“ดื่ม” ระวงยื่นถ้วยไม้ใส่ยามาตรงหน้าดอกเตอร์อีกรอบ จนแทบจะกรอกปากชายหนุ่มที่นั่งหน้าพะอืดพะอมบนเตียงเลยก็ว่าได้  

ตั้งแต่เกิดมาดอกเตอร์เลี่ยงยาแทบทุกชนิด ถ้าไม่จำเป็นแทบไม่อยากไปเหยียบโรงพยาบาลหรือหาหมอให้ถูกฉีดยา เขาเข้าโรงพยาบาลแทบนับครั้งได้ แต่ทำไมหนุ่มน้อยตรงหน้ากลับชอบบังคับขู่เข็ญเขานัก เขาไม่เคยโดนบังคับให้ทานยาแบบนี้มาก่อนเลย

“ดื่มสิ” ระวงยังคงไม่ยอมแพ้ เขาต้องการให้ชายหนุ่มร่างบางดื่มยาที่เขาทำให้จนหมดหม้อ อีกแค่สองสามงวดก็คงพอ และอาการของชายหนุ่มตรงหน้าก็ดีมากขึ้นแล้ว รอให้แผลหายจนสนิทดีก็คงได้ออกไปเดินเล่นนอกกระท่อมได้

“ดื่มก็ได้ ไม่เห็นต้องดุกันเลย” ดอกเตอร์จำใจรับมาดื่ม เขามีสีหน้าบ่งบอกว่าไม่อยากกลืนลงคอจนระวงทนไม่ไหวกับท่าทางชักช้าของเขาจึงจับบีบปากและกรอกยาในถ้วยเข้าไปทันที

“อั๊กๆ อั๊กๆ อั๊กๆ อึก” ยาขมๆ แทบทำให้อ้วกแต่ระวงกลับปิดปากเขาแน่นและดันหน้าของเขาให้เงยคอขึ้นเพื่อบังคับให้กลืนยาลงไปให้หมด ความรุนแรงที่ไม่เคยได้รับจากที่ไหนแทบทำให้เขาน้ำตาร่วงแต่คงต้องร่วงในใจเพราะหนุ่มน้อยได้ขู่อีกครั้ง

“อย่าร้องและอย่าคาย หรือล้วงออกมาไม่อย่างนั้นได้เจอมีดผมแน่” ไม่ขู่อย่างเดียวควักมีดที่เหน็บข้างตัวมาปักบนแคร่ที่ดอกเตอร์ใช้นอน จนคนที่นอนอยู่ต้องสะดุ้งเฮือก ๆ กลืนน้ำลายลงคอหลายอึก

“อะ...อื้ม...ผะ...ผมเข้าใจแล้วครับ” อยากร้องไห้ให้น้ำตาเป็นสายเลือด ทำไมหนุ่มน้อยตรงหน้าชอบขู่เข็ญเขาแบบนี้ เอะอะอะไรก็ใช้แต่กำลังจนบอบช้ำไปหมดทั้งตัวแต่คงได้แต่ก่นด่าในใจไม่กล้าแม้แต่ออกเสียง



กาลเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนดอกเตอร์สามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างสบาย ตอนนี้เขาหายเกือบปกติดีแล้วและไม่น่าเชื่อว่าตนนั้นเคยเฉียดตายมาแล้วหนหนึ่ง คงต้องขอบคุณคนที่นี่ที่ช่วยเหลือเขา

แต่ที่แห่งนี้มันน่าประหลาดใจ ตั้งแต่เขาฟื้นขึ้นมาระวงมักจะกำชับให้นอนนิ่งๆ และอยู่แต่ในกระท่อม มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาคิดจะออกไปข้างนอกแต่ระวงกลับชักมีดมาขู่แล้วใครจะกล้า แต่คราวนี้ไม่ใช่แล้ว เขามีแรงสามารถเตะเด็กอวดดีให้กระเด็นยังทำได้ ไม่เพียงคิดเปล่า ลงจากเตียงและแง้มประตูค่อยๆ สอดส่องมองซ้ายขวาว่าข้างนอกเขาอยู่กันกี่คน ทำอะไรกันอยู่ ทำไมถึงเงียบเชียบและที่สำคัญเขาอยู่ที่ไหนกันแน่



สิ่งที่ดอกเตอร์เห็นเป็นชาวบ้านที่ใช้ชีวิตประจำวันเหมือนหมู่บ้านทั่วไป เพียงแค่หมู่บ้านแห่งนี้มีจำนวนประชากรไม่มากเท่าไหร่ ครอบครัวหนึ่งมีเพียงพ่อแม่ ลูกสาวหรือลูกชายเพียงหนึ่งคนเท่านั้นแล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้นได้ยิ่งคิดยิ่งเอียงคอสงสัย ซ้ำร้ายไปกว่านั้นหมู่บ้านนี้เงียบเหงาจนเกินไป ผู้คนไร้ชีวิตชีวาแลดูมืดมนอย่างบอกไม่ถูก นี่เขาอยู่ที่ไหนกันแน่

ขาทั้งสองข้างของชายหนุ่มค่อยๆ ก้าวออกจากกระท่อมที่เขาใช้พักฟื้นตลอดทั้งเดือน เขาเดินออกสำรวจตามจุดต่างๆ ของหมู่บ้าน รู้สึกตึงๆ ตามร่างกายบ้างเหมือนกัน อาจเป็นเพราะนอนแต่บนแคร่ร่างกายจึงยึดไปหมด เพียงแค่เดินสำรวจไม่กี่ก้าวเขาได้เหลือบไปเห็นหญิงสาวหน้าใสใส่เสื้อผ้าไหมดูเรียบง่ายจึงเดินเข้าไปทัก

“คุณครับ อะ...เออ...ที่นี่ที่ไหนครับ” ดอกเตอร์ไม่รู้ว่าตนถามแบบนี้จะดีไหม เธอจะเข้าใจหรือเปล่า แต่คำตอบที่ได้รับกลับเป็นสายตาที่คาดเดาอยาก ให้ตายสินี่เขาอยู่ที่ไหนกันแน่



เพียงเวลาไม่นานหญิงสาวสะบัดหน้าหนีและหันหลังกลับหายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ดอกเตอร์ถึงกับอ้าปากค้าง นี่มันบ้าบออะไรกัน

ชายหนุ่มเดินสำรวจไปเรื่อยๆ โดยมีเสื้อที่ใช้คุมไหล่และผ้าคล้องแขนซ้ายที่ระวงทำให้เมื่อเช้าคล้องไว้อยู่ ถึงจะลำบากในการเดินและจับสิ่งของเพื่อค้นหาก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นอุปสรรคที่จะทำให้เขาค้นพบจุดสังเกตและรู้คำตอบว่า ตนนั้นอยู่ตำแหน่งไหนในประเทศไทย

การเดินสำรวจของดอกเตอร์ไปสะดุดทางเข้าป่าทางหนึ่ง เป็นทางเดินลงเขา และเขาคิดว่าน่าจะเป็นทางลงไปยังหุบเขา เขาจ้องมองอยู่นานจนรู้สึกเหมือนมีมนตร์สะกดให้เขาเดินไปตามทางดังกล่าว



เส้นทางเดินลงไปข้างล่างมันทั้งขรุขระและยากลำบากแต่ดอกเตอร์ไม่อาจเดินกลับเข้าหมู่บ้านได้ เพราะตอนนี้เขาหลงทางเสียแล้ว

“ทำไงดี ตรงนี้เราเดินมาแล้วนี่น่า”

ดอกเตอร์จำโขดหินขนาดใหญ่ข้างทางได้ดี ลักษณะไม่เหมือนตำแหน่งอื่น เขาหันซ้ายหันขวาไม่เจอทางเข้าหมู่บ้านเลยสักนิด จนไปสะดุดเนินดินหนึ่งเข้าและเนินดินนี้สามารถเป็นถ้ำขนาดย่อมยังได้ แต่ที่แปลกไปกว่านั้นมีประตูอยู่ ถ้ามีประตูก็แสดงว่าเบื้องหลังประตูนั้นต้องมีบางอย่างแอบซ่อนแน่

ความคิดที่เกิดขึ้นในหัว มีหรือคนอย่างดอกเตอร์ที่ชอบค้นหาสิ่งแตกต่างจากเดิมที่พบเจอ จะไม่ก้าวเท้าเข้าไปใกล้

“ไม่เห็นมีกลอนหรือที่จับเลย แล้วจะเข้าไปยังไงล่ะ” ดอกเตอร์บ่นพึมพำให้ตนเองได้ยิน เพียงเสี้ยววินาทีประตูไม้กลับเปิดออกทำให้เขาต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว



ภายในมืดมิดจนดอกเตอร์ไม่กล้าเข้าไป ข้างในมีสิ่งน่ากลัวหรือเปล่ายังไม่รู้แต่ทว่าความอยากรู้มักจะเหนือสิ่งอื่นใด แม้กระทั่งความกลัวที่อยู่ในจิตใจจึงจำเป็นต้องหลอกตนเองว่า ไม่เป็นไร เปิดประตูไว้ก็พอแล้ว

ชายหนุ่มร่างบางก้าวเท้าเข้าไปยังถ้ำที่มืดมิด แต่มีแสงจากภายนอกส่องให้เห็นภายในได้บ้าง จึงทำให้ดอกเตอร์สำรวจดูทุกอย่างได้โดยง่าย แต่ยังไม่ทันที่ตนจะสำรวจได้หมดทุกซอกทุกมุม ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

“ปั้ง!”

ประตูถูกปิดเข้าอย่างรวดเร็ว ทำให้ดอกเตอร์ตกใจล้มลงด้วยความกลัวและติดอยู่ภายในถ้ำที่มืดมิดนั่น








HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ธ.ค. 2563, 21:03:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ธ.ค. 2563, 21:03:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 326





<< ไข้กลับ   ถ้ำหรืออะไรกันแน่ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account