แรกรักพันใจ: มาสฬฎา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
มีมารดาเลี้ยงใจร้าย บวกกับพี่สาวใจยักษ์ ชีวิตดูน่ารันทดนัก
แต่ ‘วรีวาฏิกา’ สาวชื่อยาวยิ่งกว่าแม่น้ำไนล์ก็หาได้แคร์ไม่
แต่พอคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่ชาย...จากที่เคยอบอุ่นน่ารักเอาใจ กลายเป็นเย็นชาหมางเมินใส่ เธอก็เลยต้องเริ่มจะแคร์
เจอกันตอนเด็กๆ เธอคิดว่า ‘ภควัตน์’ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนมีเมตตา
เจอกันช่วงวัยรุ่น วรีวาฏิกาก็ยังคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่หล่อเหลาและแสนดี
เจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน...
ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปชั่วร้ายได้ขนาดนี้เล่า!
นี่ถ้าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ภควัตน์ก็เสแสร้งตลบตะแลงเก่งเกินไปแล้ว!
“ชื่อเล่นผม มีไว้ให้คนสนิทกันเรียก และนั่นไม่ใช่คุณ!”
ประโยคเดียวเบิกเนตรจนวรีวาฏิกาต้องหันกลับมามองท่านรองประธานเสียใหม่
ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อนก็ไม่เป็นไร
เจอกันคราวต่อไป ก็อย่าหวังให้เธอเห็นใจก็แล้วกัน!
*******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "มาสฬฎา" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก คอมเมดี้ ที่รับประกันเลยว่าทั้งสนุก ตลก น่ารัก และฟินมากกกกกก ได้ปาความเครียดทิ้งไปแน่นอน! เพราะพี่พาร์ค พระเอกของเรื่องแม้จะเป็นบอสสายเย็นชา แต่(แอบ)รักนางเอกสุดหัวใจ ส่วนนางเอกก็เป็นน้องมึนที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ 5555 #รับประกันความสนุก!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 458 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนรวด)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 350฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
แต่ ‘วรีวาฏิกา’ สาวชื่อยาวยิ่งกว่าแม่น้ำไนล์ก็หาได้แคร์ไม่
แต่พอคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่ชาย...จากที่เคยอบอุ่นน่ารักเอาใจ กลายเป็นเย็นชาหมางเมินใส่ เธอก็เลยต้องเริ่มจะแคร์
เจอกันตอนเด็กๆ เธอคิดว่า ‘ภควัตน์’ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนมีเมตตา
เจอกันช่วงวัยรุ่น วรีวาฏิกาก็ยังคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่หล่อเหลาและแสนดี
เจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน...
ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปชั่วร้ายได้ขนาดนี้เล่า!
นี่ถ้าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ภควัตน์ก็เสแสร้งตลบตะแลงเก่งเกินไปแล้ว!
“ชื่อเล่นผม มีไว้ให้คนสนิทกันเรียก และนั่นไม่ใช่คุณ!”
ประโยคเดียวเบิกเนตรจนวรีวาฏิกาต้องหันกลับมามองท่านรองประธานเสียใหม่
ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อนก็ไม่เป็นไร
เจอกันคราวต่อไป ก็อย่าหวังให้เธอเห็นใจก็แล้วกัน!
*******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "มาสฬฎา" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก คอมเมดี้ ที่รับประกันเลยว่าทั้งสนุก ตลก น่ารัก และฟินมากกกกกก ได้ปาความเครียดทิ้งไปแน่นอน! เพราะพี่พาร์ค พระเอกของเรื่องแม้จะเป็นบอสสายเย็นชา แต่(แอบ)รักนางเอกสุดหัวใจ ส่วนนางเอกก็เป็นน้องมึนที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ 5555 #รับประกันความสนุก!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 458 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนรวด)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 350฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
Tags: เลขา บอส พระเอกเย็นชา แม่เลี้ยง ลูกเลี้ยง ตลก
ตอน: บทที่ 19 -25%
พอคว้าสาวที่เพิ่งชนจนล้มมาอุ้มไว้ในอ้อมแขนได้ ภควัตน์ก็ออกเดินทันที แต่คนโดนอุ้มเอาแต่ดิ้นขลุกขลักพร้อมบอก
“ปล่อย! ฉันไปเองได้!”
“ไม่ปล่อย!”
คนอุ้มปฏิเสธหน้าตาเฉย วรีวาฏิกาเลยได้แต่ฮึดฮัด พอเขาเดินไปอีกสองก้าว เธอก็ตาไวเห็นเพื่อนอย่างมะลิเดินมาแต่ไกล เห็นมะลิก็เหมือนเห็นทางสว่าง เลยรีบบอกคนอุ้มทันทีว่า
“ปล่อยได้แล้วค่ะ! ฉันจะไปกับมะลิ!”
ก่อนจะรีบตะโกนเรียกเพื่อนให้เดินมาหาไวๆ เห็นรูปการณ์นั้นมะลิก็รีบวิ่งเข้ามาดูด้วยความตกใจ พอมาถึงวรีวาฏิกาก็รีบแจ้งความประสงค์ต่อเพื่อนทันที
“มะลิ กระดูกข้อเท้าฉันน่าจะร้าวอีกรอบแน่เลย แกช่วยพยุงพาไปขึ้นรถหน่อยได้ไหม”
ขณะกำลังจะรับอาสา มะลิก็รับรู้ได้ถึงสายตาเย็นยะเยียบจากชายหนุ่มผู้เป็นนายเสียก่อน ด้วยความอยู่เป็น หมูเขาจะหาม เรื่องอะไรจะเอาคานมาสอด มะลิรีบส่ายหัวดิก พร้อมบอกเพื่อนว่า
“แกเดินไม่ไหวหรอก ให้คุณภควัตน์อุ้มไปส่งนั่นแหละดีแล้ว อย่าเรื่องมาก!”
ยายมะลิ! จำไว้เลย!
คาดโทษมะลิในใจเสร็จ วรีวาฏิกาก็หาตัวช่วยอื่นทันที เธอหันไปขอความช่วยเหลือจากหนุ่มคนเดิมที่ยังยืนเซ่ออยู่ที่เดิม
“ไมค์! ไปส่งวาที่โรงพยาบาลหน่อยค่ะ”
นี่ก็อีกคนที่อยู่เป็น พอสบสายตาเพื่อนตัวดีอย่างไอ้พาร์ค ไมเคิลก็ส่ายหัวทันที อ้างว่า
“ผมไม่มีรถ มาแท็กซี่ คุณไปกับไอ้พาร์คสะดวกกว่า”
โห ตัดรอนกันอย่างนี้ก็ได้เรอะ!
สุดท้ายเมื่อภควัตน์อุ้มเธอมาถึงหน้าตึก วรีวาฏิกาก็เหลือบไปเห็นสันต์ที่รอเธออยู่หน้าประตูตรงที่ประจำเข้าพอดี เธอเห็นเขาเหมือนเห็นความหวังสุดท้ายเลยรีบบอก
“คุณสันต์คะ ขับรถไปส่งวาที่โรงพยาบาลหน่อยได้ไหม”
ยังไม่ทันจะตอบรับ ภควัตน์ก็ตัดบททันทีด้วยการบอกว่า
“ไม่ต้องสันต์! ผมพาไปเอง”
บอดี้การ์ดนกสองหัวอย่างสันต์เลยรีบหลบฉากออกไปอย่างรู้งาน วรีวาฏิกาเลยได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ตัดสินใจบอกคนอุ้มเธอไม่ยอมปล่อยว่า
“เมื่อกี้เป็นอุบัติเหตุ ฉันไม่ไปฟ้องคุณย่าหรอก ฉะนั้นคุณปล่อยฉันลงได้แล้ว ฉันจะไปกับสันต์!”
“ไม่ปล่อย! แล้วก็เลิกดิ้นสักทีวา ยังไงผมก็จะไปส่งคุณเอง”
และโดยไม่ฟังคำคัดค้านใดๆ อีก ภควัตน์ก็อุ้มเธอไปที่รถเขาทันทีก่อนจะวางเธอลงที่เบาะหน้าข้างคนขับและคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย พร้อมออกรถโดยมีวรีวาฏิการ้องประท้วง
“ไม่เอา ฉันไม่ไปกับคุณ! แล้วคุณก็ไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น ฉันบอกแล้วว่าคุณย่าจะไม่รู้เรื่องนี้ แล้วฉันก็ไม่อยากไปไหนกับคุณด้วย! ที่ผ่านมาไม่ใช่แค่คุณเกลียดฉันอยู่ฝ่ายเดียวเสียเมื่อไหร่ ตอนนี้ฉันก็เกลียดคุณเข้าไส้ เกลียดแบบโคตรเกลียดเลย รู้ไว้ด้วย!”
คนโมโหโพล่งความในใจออกไปแบบหมดเปลือก พอจบประโยคนั้น เธอกลับได้เห็นแววตาตัดพ้อของภควัตน์ที่เผยออกมาให้เห็นแวบหนึ่ง ก่อนจะจางหายไป เมื่อเจ้าตัวบอก
“ผมรู้ คุณเคยบอกผมแล้ว”
“คะ?”
“คุณบอกผมตอนที่คุณเป็นไข้ไง ผมจำได้ทุกคำ”
“ฉันบอกคุณ? บอกอะไรคะ”
วรีวาฏิกาหน้าเหลอหลาอุทานด้วยความงุนงง ภควัตน์เลยยิ่งตอกย้ำสิ่งที่เธอทำลงไปแบบไม่รู้ตัวในวันนั้น ด้วยการจ้องตาเธอเงียบๆ ก่อนจะเอ่ยว่า
“คุณละเมอบอกผมเองตอนผมไปเยี่ยมไข้คุณที่บ้าน คุณบอกว่าเกลียดผมยังไงบ้าง ให้ผมทวนให้ฟังไหมว่าคุณบอกว่าเกลียดผมมาก เกลียดจนไม่อยากจะเกี่ยวข้องด้วย แล้วคุณจะดีใจมากถ้าผมทำเหมือนคุณเป็นอากาศ เจอกันก็ไม่ต้องทัก เพราะคุณเกลียดผมขนาดที่ไม่อยากจะเสวนาด้วย...แม้แต่คำเดียว”
จบประโยคนั้น คนฟังก็คิดทบทวนถึงความฝันเลือนรางเมื่อสองเดือนก่อนตอนที่ตัวเองนอนซมเพราะพิษไข้ แล้วถึงกับนั่งนิ่ง
เธอจำได้ จำได้ว่าเธอฝัน ฝันว่าภควัตน์มาหา ตอนนั้นเพราะโมโหเรื่องโดนไล่ลงจากรถทำให้เธอด่าเขาไปหลายคำ และถ้าจำไม่ผิด เธอด่าเขามากกว่าที่เขาบอกซะอีก แต่คนโดนด่ากลับนิ่งเงียบรับฟังอย่างสงบ ภควัตน์ในความฝันไม่ว่าอะไรเธอสักคำ เขาเพียงนั่งฟังเธอระบายความอัดอั้นตันใจอยู่นาน จนเธอหมดแรง ภควัตน์ก็เอื้อมมือมาไล้ที่ผิวแก้มเธอแผ่วเบาเพื่อเช็ดหยาดน้ำตาให้ แล้วบอก
‘พักผ่อนเถอะ ผมรู้แล้วว่าวาเกลียดผมแค่ไหน ต่อไปผมจะพยายามอยู่ให้ห่างวา ให้วาไม่รำคาญตาอีก’
เขาพูดประโยคนั้นด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า ก่อนเธอจะรู้สึกได้ว่า หน้าผากเธอถูกจุมพิตเบาๆ หลังจากนั้นเธอก็ผล็อยหลับไป...
แต่นั่นมันไม่ใช่ความฝันหรือไง ใครจะไปคิดเล่าว่าคนอย่างภควัตน์จะไปเยี่ยมไข้เธอถึงบ้านในเวลาทำงาน แถมยัง...แถมยังจูบหน้าผากเธอด้วย! เธอก็ต้องคิดว่าฝันไปน่ะสิ!
แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรออกไป ภควัตน์ก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงบาดลึก
“สองเดือนที่ผ่านมาผมพยายามทำอย่างที่คุณต้องการแล้ว แต่...ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะเลิกทำ เสียใจด้วยนะวา แต่ยังไงคุณคงต้องกลับไปอดทนเจอหน้าคนที่คุณเกลียดจนไม่อยากจะเสวนาต่ออยู่ดี”
คำพูดนั้นของเขาทำเอาวรีวาฏิกาตัวหดลีบทันที เลิกโวยวายให้เขาปล่อยเธอลงจากรถ แถมยังนั่งครุ่นคิดเหม่อลอยจนถึงโรงพยาบาล
**********************
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ค่ะรีดเดอร์^^ ร่ำรวยๆ สุข สมหวังกันถ้วนหน้าค่าาาา
หนูวากับพี่พาร์คเค้าจะดีกันแล้วนะคะ >//< เขินแทนหนูวา
“ปล่อย! ฉันไปเองได้!”
“ไม่ปล่อย!”
คนอุ้มปฏิเสธหน้าตาเฉย วรีวาฏิกาเลยได้แต่ฮึดฮัด พอเขาเดินไปอีกสองก้าว เธอก็ตาไวเห็นเพื่อนอย่างมะลิเดินมาแต่ไกล เห็นมะลิก็เหมือนเห็นทางสว่าง เลยรีบบอกคนอุ้มทันทีว่า
“ปล่อยได้แล้วค่ะ! ฉันจะไปกับมะลิ!”
ก่อนจะรีบตะโกนเรียกเพื่อนให้เดินมาหาไวๆ เห็นรูปการณ์นั้นมะลิก็รีบวิ่งเข้ามาดูด้วยความตกใจ พอมาถึงวรีวาฏิกาก็รีบแจ้งความประสงค์ต่อเพื่อนทันที
“มะลิ กระดูกข้อเท้าฉันน่าจะร้าวอีกรอบแน่เลย แกช่วยพยุงพาไปขึ้นรถหน่อยได้ไหม”
ขณะกำลังจะรับอาสา มะลิก็รับรู้ได้ถึงสายตาเย็นยะเยียบจากชายหนุ่มผู้เป็นนายเสียก่อน ด้วยความอยู่เป็น หมูเขาจะหาม เรื่องอะไรจะเอาคานมาสอด มะลิรีบส่ายหัวดิก พร้อมบอกเพื่อนว่า
“แกเดินไม่ไหวหรอก ให้คุณภควัตน์อุ้มไปส่งนั่นแหละดีแล้ว อย่าเรื่องมาก!”
ยายมะลิ! จำไว้เลย!
คาดโทษมะลิในใจเสร็จ วรีวาฏิกาก็หาตัวช่วยอื่นทันที เธอหันไปขอความช่วยเหลือจากหนุ่มคนเดิมที่ยังยืนเซ่ออยู่ที่เดิม
“ไมค์! ไปส่งวาที่โรงพยาบาลหน่อยค่ะ”
นี่ก็อีกคนที่อยู่เป็น พอสบสายตาเพื่อนตัวดีอย่างไอ้พาร์ค ไมเคิลก็ส่ายหัวทันที อ้างว่า
“ผมไม่มีรถ มาแท็กซี่ คุณไปกับไอ้พาร์คสะดวกกว่า”
โห ตัดรอนกันอย่างนี้ก็ได้เรอะ!
สุดท้ายเมื่อภควัตน์อุ้มเธอมาถึงหน้าตึก วรีวาฏิกาก็เหลือบไปเห็นสันต์ที่รอเธออยู่หน้าประตูตรงที่ประจำเข้าพอดี เธอเห็นเขาเหมือนเห็นความหวังสุดท้ายเลยรีบบอก
“คุณสันต์คะ ขับรถไปส่งวาที่โรงพยาบาลหน่อยได้ไหม”
ยังไม่ทันจะตอบรับ ภควัตน์ก็ตัดบททันทีด้วยการบอกว่า
“ไม่ต้องสันต์! ผมพาไปเอง”
บอดี้การ์ดนกสองหัวอย่างสันต์เลยรีบหลบฉากออกไปอย่างรู้งาน วรีวาฏิกาเลยได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ตัดสินใจบอกคนอุ้มเธอไม่ยอมปล่อยว่า
“เมื่อกี้เป็นอุบัติเหตุ ฉันไม่ไปฟ้องคุณย่าหรอก ฉะนั้นคุณปล่อยฉันลงได้แล้ว ฉันจะไปกับสันต์!”
“ไม่ปล่อย! แล้วก็เลิกดิ้นสักทีวา ยังไงผมก็จะไปส่งคุณเอง”
และโดยไม่ฟังคำคัดค้านใดๆ อีก ภควัตน์ก็อุ้มเธอไปที่รถเขาทันทีก่อนจะวางเธอลงที่เบาะหน้าข้างคนขับและคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย พร้อมออกรถโดยมีวรีวาฏิการ้องประท้วง
“ไม่เอา ฉันไม่ไปกับคุณ! แล้วคุณก็ไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น ฉันบอกแล้วว่าคุณย่าจะไม่รู้เรื่องนี้ แล้วฉันก็ไม่อยากไปไหนกับคุณด้วย! ที่ผ่านมาไม่ใช่แค่คุณเกลียดฉันอยู่ฝ่ายเดียวเสียเมื่อไหร่ ตอนนี้ฉันก็เกลียดคุณเข้าไส้ เกลียดแบบโคตรเกลียดเลย รู้ไว้ด้วย!”
คนโมโหโพล่งความในใจออกไปแบบหมดเปลือก พอจบประโยคนั้น เธอกลับได้เห็นแววตาตัดพ้อของภควัตน์ที่เผยออกมาให้เห็นแวบหนึ่ง ก่อนจะจางหายไป เมื่อเจ้าตัวบอก
“ผมรู้ คุณเคยบอกผมแล้ว”
“คะ?”
“คุณบอกผมตอนที่คุณเป็นไข้ไง ผมจำได้ทุกคำ”
“ฉันบอกคุณ? บอกอะไรคะ”
วรีวาฏิกาหน้าเหลอหลาอุทานด้วยความงุนงง ภควัตน์เลยยิ่งตอกย้ำสิ่งที่เธอทำลงไปแบบไม่รู้ตัวในวันนั้น ด้วยการจ้องตาเธอเงียบๆ ก่อนจะเอ่ยว่า
“คุณละเมอบอกผมเองตอนผมไปเยี่ยมไข้คุณที่บ้าน คุณบอกว่าเกลียดผมยังไงบ้าง ให้ผมทวนให้ฟังไหมว่าคุณบอกว่าเกลียดผมมาก เกลียดจนไม่อยากจะเกี่ยวข้องด้วย แล้วคุณจะดีใจมากถ้าผมทำเหมือนคุณเป็นอากาศ เจอกันก็ไม่ต้องทัก เพราะคุณเกลียดผมขนาดที่ไม่อยากจะเสวนาด้วย...แม้แต่คำเดียว”
จบประโยคนั้น คนฟังก็คิดทบทวนถึงความฝันเลือนรางเมื่อสองเดือนก่อนตอนที่ตัวเองนอนซมเพราะพิษไข้ แล้วถึงกับนั่งนิ่ง
เธอจำได้ จำได้ว่าเธอฝัน ฝันว่าภควัตน์มาหา ตอนนั้นเพราะโมโหเรื่องโดนไล่ลงจากรถทำให้เธอด่าเขาไปหลายคำ และถ้าจำไม่ผิด เธอด่าเขามากกว่าที่เขาบอกซะอีก แต่คนโดนด่ากลับนิ่งเงียบรับฟังอย่างสงบ ภควัตน์ในความฝันไม่ว่าอะไรเธอสักคำ เขาเพียงนั่งฟังเธอระบายความอัดอั้นตันใจอยู่นาน จนเธอหมดแรง ภควัตน์ก็เอื้อมมือมาไล้ที่ผิวแก้มเธอแผ่วเบาเพื่อเช็ดหยาดน้ำตาให้ แล้วบอก
‘พักผ่อนเถอะ ผมรู้แล้วว่าวาเกลียดผมแค่ไหน ต่อไปผมจะพยายามอยู่ให้ห่างวา ให้วาไม่รำคาญตาอีก’
เขาพูดประโยคนั้นด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า ก่อนเธอจะรู้สึกได้ว่า หน้าผากเธอถูกจุมพิตเบาๆ หลังจากนั้นเธอก็ผล็อยหลับไป...
แต่นั่นมันไม่ใช่ความฝันหรือไง ใครจะไปคิดเล่าว่าคนอย่างภควัตน์จะไปเยี่ยมไข้เธอถึงบ้านในเวลาทำงาน แถมยัง...แถมยังจูบหน้าผากเธอด้วย! เธอก็ต้องคิดว่าฝันไปน่ะสิ!
แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรออกไป ภควัตน์ก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงบาดลึก
“สองเดือนที่ผ่านมาผมพยายามทำอย่างที่คุณต้องการแล้ว แต่...ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะเลิกทำ เสียใจด้วยนะวา แต่ยังไงคุณคงต้องกลับไปอดทนเจอหน้าคนที่คุณเกลียดจนไม่อยากจะเสวนาต่ออยู่ดี”
คำพูดนั้นของเขาทำเอาวรีวาฏิกาตัวหดลีบทันที เลิกโวยวายให้เขาปล่อยเธอลงจากรถ แถมยังนั่งครุ่นคิดเหม่อลอยจนถึงโรงพยาบาล
**********************
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ค่ะรีดเดอร์^^ ร่ำรวยๆ สุข สมหวังกันถ้วนหน้าค่าาาา
หนูวากับพี่พาร์คเค้าจะดีกันแล้วนะคะ >//< เขินแทนหนูวา
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ก.พ. 2564, 20:29:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ก.พ. 2564, 20:29:04 น.
จำนวนการเข้าชม : 344
<< บทที่ 18 -100% | บทที่ 19 -50% >> |