อุบายลวงระบบเบรค อุบัติเหตุพิศวง
วัตถุประสงค์ของเรื่องนี้ คือต้องการให้ความรู้เกี่ยวกับระบบเบรครถยนต์ ผ่านวรรณกรรม โดยเนื้อหาของเรื่องนี้จะนำคุณไปร่วมติดตามการไขคดีอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่มีเบื้องหลังบางอย่าง เพื่อค้นหากลอุบายที่คนร้ายใช้กับระบบเบรคของรถ และสืบหาตัวผู้อยู่เบื้องหลัง
Tags: สืบสวน,อุบัติเหตุ,เบรครถยนต์
ตอน: ไฟล์#2 ปมขัดแย้งทางธุรกิจ
ญาติที่ไม่สนิทมิตรสหายที่ไม่ใกล้ชิดมักจะมารวมตัวในงานที่เจ้าของงานไม่มีโอกาสได้เชื้อเชิญอีกแล้วในเกือบทุกงานศพที่ร้อยตำรวจเอกชิงชนะได้พบเห็นมา ยกเว้นงานศพนี้ จากการสังเกตการณ์ของผู้กองหนุ่มได้สักพักจึงพบว่าแขกเหรื่อส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานในสังกัดบริษัทของผู้ตายหรือไม่ก็เป็นตัวแทนจากภาคีบริษัทที่อยู่ในแวดวงเดียวกัน ไม่ปรากฏบุคคลที่เป็นญาติทางฝ่ายผู้เสียชีวิตเลย จะปรากฎก็เพียงภรรยาผู้เสียชีวิตและญาติสนิททางฝ่ายภรรยาเท่านั้น ความน่าสงสัยและสมมุติฐานมากมายผุดขึ้นมาในหัวผู้กองหนุ่ม เบื้องลึกของชายที่ชื่อโอฬารคงต้องมีเบื้องหลังบางอย่าง ดังนั้นบุคคลที่พอจะให้ข้อมูลของผู้เสียชีวิตในเชิงลึกได้คงเหลือเพียงภรรยาสาวของผู้ตาย เมื่อเห็นว่ากลุ่มญาติสนิทของเธอปลีกตัวออกไป ไม่ต้องรอให้ต่อมความคึกคักใต้สมองต้องสั่งการ เขาจึงตรงเข้าไปหาเธอทันทีเพราะพบว่ามันเป็นโอกาสเหมาะที่จะได้เริ่มการ“สืบสวน”จากเธอแล้ว
เธอมีผมยาวประบ่า ใบหน้าของเธอเป็นวงรีดั่งรูปไข่ องคาพยพบนใบหน้าถูกจัดวางอย่างลงตัว ใบหน้าของเธอซีดขาวไม่มีเครื่องประทินโฉมใดมาอำพราง แต่บัดนี้ต้องประดับไปด้วยน้ำตา ใบหน้าที่พานให้จินตนาการได้ว่าถ้าแต่งเติมไปด้วยรอยยิ้มและความสุขคงน่าชมไม่น้อย แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่สิ่งที่สวยงามเช่นนี้กลับถูกพรากไปพร้อมกับเหตุการณ์แสนสยดจากอุบัติเหตุรถยนต์ที่ตกทางพิเศษ นายร้อยหนุ่มนอกเครื่องแบบเหม่อมองสำรวจเธออย่างลืมตัว และแล้วปากน้อยนิดของเธอก็ขยับขึ้นเอ่ยคำพูด
“ขอโทษด้วยนะคะ ดิฉันยังทำใจไม่ได้จริงๆ ไม่คิดว่าเขาจะด่วนจากไปเร็วขนาดนี้” แม้รู้ว่าเป็นการเสียมารยาทต่อผู้มาเยือนแต่เธอก็ยังหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวขึ้นมาเพื่อซับน้ำตา อันเป็นการเผยให้เห็นข้อมือและข้อแขนอ้อนแอ้นขาวผ่องซึ่งตัดกับชุดสีดำหลวมกว้างของเธออย่างเห็นได้ชัด ผู้กองชิงชนะได้แต่เบี่ยงสายตาไปดูบรรยากาศรอบๆงานศพก่อนจิตใจจะฟุ้งซ่านไปกว่านี้
“ไม่ทราบว่าคุณคือ...” เมื่อเธอเริ่มหยุดสะอื้นจึงเริ่มหันมาสนใจบุรุษที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง
“ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ อีกอย่างต้องเป็นผมต่างหากครับ ที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ ผมร้อยตำรวจเอกชิงนะ จากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง” ร้อยตำรวจหนุ่มกล่าวแนะนำตัวพร้อมส่งสายตาที่เป็นมิตร
“ตำรวจ?” เธอทวนคำด้วยความฉงนเมื่อรับรู้ถึงฐานะของเขา
“ต้องขอเรียนตามตรงนะครับว่า ที่ผมมาวันนี้เพราะอุบัติเหตุของสามีคุณ” ผู้กองหนุ่มเริ่มหันเหหัวข้อสนทนาเพื่อเริ่มสืบสอบข้อมูล “ทั้งๆที่คุณยังเสียใจเรื่องการเสียชีวิตของคุณโอฬารอยู่ แต่ไม่ทราบว่าคุณพอจะทราบมั้ยครับว่าคุณโอฬารเคยมีเรื่องบาดหมางหรือเคยมีเรื่องที่ขัดผลประโยชน์กับใครหรือไม่ครับ” ผู้กองหนุ่มเจาะเข้าประเด็นทันที
“ทำไมคุณตำรวจถึงสอบถามถึงผู้ที่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือว่าเคยขัดผลประโยชน์กับสามีดิฉันล่ะคะ หรือการเสียชีวิตของสามีดิฉันไม่ใช่...ไม่ใช่อุบัติเหตุ?” สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความปวดร้าว แค่การสูญเสียคนรักก็เป็นเรื่องที่ทรมานจิตใจมากพอแล้ว หรือนี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของความเสียใจ
“เป็นอุบัติเหตุครับ เพียงแต่ว่าทางตำรวจเพียงต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อที่จะสรุปได้ เราจึงต้องการตัดประเด็นอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป เนื่องจากคุณโอฬารเป็นนักธุรกิจหนุ่มอนาคตไกล แต่มีอีกเรื่องที่ผมสงสัยเป็นการส่วนตัว ทำไมวันนี้ไม่มีญาติของคุณโอฬารมาร่วมงานเลยล่ะครับ” ผู้กองชิงชนะชี้แจงเหตุผลด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน และเพราะต้องการนำเธอออกจากห้วงทุกข์ จึงโยนคำถามให้เธอได้ขบคิดทบทวนข้อมูลเพื่อดึงเธอกลับมาในโลกของเหตุผลและความจริง
“คุณพ่อคุณแม่ของสามีดิฉันท่านเสียไปหมดแล้วค่ะ จะมีก็แต่พี่สาวและน้องชายที่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศ ส่วนเรื่องบาดหมางหรือขัดผลประโยชน์เท่าที่ดิฉันทราบเขาไม่เคยมีปัญหากับใคร หรือถ้ามีเขาอาจไม่บอกให้ดิฉันรับรู้ ” เธอเปล่งวาจาด้วยความครุ่นคิด หัวคิ้วของเธอขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนที่จะเอ่ยต่อ “เพียงแต่มีเรื่องหนึ่งที่ดิฉันไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องหรือเปล่า...”
“เรื่องอะไรหรือครับ?”
“คือ ก่อนที่สามีดิฉันจะออกมาเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างของตัวเอง เขาเคยทำงานเป็นวิศวกรให้กับ บริษัทเคจีทีคอนสตรัคชั่น เมื่อสามีดิฉันได้ตั้งบริษัทของตนเอง ลูกน้องและคนสนิทที่เคยทำงานร่วมกับเขาที่บริษัทเก่าก็เข้ามาร่วมงานด้วยหลายคน”
(ปมขัดแย้งทางธุรกิจรึ? บริษัทเคจีทีคอนสตรัคชั่นที่สูญเสียมือดีไปหลายคน แถมยังมีคู่แข่งทางธุรกิจเพิ่มขึ้นมาอีกต่างหาก) ร้อยตำรวจเอกประมวลผลสิ่งสมองที่วิเคราะห์ออกมาได้ในใจเมื่อได้รับฟังข้อมูลใหม่จากเธอ
จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นขัดการสนทนา
“จงรักขอตัวสักครู่นะคะ” จงรักหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูพร้อมกับกล่าวขอตัวกับนายตำรวจหนุ่มเพื่อไปคุยโทรศัพท์ ผู้กองชิงชนะแว่วเสียงจำนรรจาของจงรักเกี่ยวกับเอกสารผู้รับผลประโยชน์ เข้าใจว่าปลายสายของเธอน่าจะเป็นตัวแทนของบริษัทประกันชีวิตที่สามีของเธอได้ทำไว้ เสียงของจงรักค่อยๆห่างออกไปแต่เป้าในสายตาของชิงชนะยังตามติดอยู่ที่เธอ
จบไฟล์#2 โปรดติดตามไฟล์ต่อไป
เธอมีผมยาวประบ่า ใบหน้าของเธอเป็นวงรีดั่งรูปไข่ องคาพยพบนใบหน้าถูกจัดวางอย่างลงตัว ใบหน้าของเธอซีดขาวไม่มีเครื่องประทินโฉมใดมาอำพราง แต่บัดนี้ต้องประดับไปด้วยน้ำตา ใบหน้าที่พานให้จินตนาการได้ว่าถ้าแต่งเติมไปด้วยรอยยิ้มและความสุขคงน่าชมไม่น้อย แต่น่าเสียดายเหลือเกินที่สิ่งที่สวยงามเช่นนี้กลับถูกพรากไปพร้อมกับเหตุการณ์แสนสยดจากอุบัติเหตุรถยนต์ที่ตกทางพิเศษ นายร้อยหนุ่มนอกเครื่องแบบเหม่อมองสำรวจเธออย่างลืมตัว และแล้วปากน้อยนิดของเธอก็ขยับขึ้นเอ่ยคำพูด
“ขอโทษด้วยนะคะ ดิฉันยังทำใจไม่ได้จริงๆ ไม่คิดว่าเขาจะด่วนจากไปเร็วขนาดนี้” แม้รู้ว่าเป็นการเสียมารยาทต่อผู้มาเยือนแต่เธอก็ยังหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวขึ้นมาเพื่อซับน้ำตา อันเป็นการเผยให้เห็นข้อมือและข้อแขนอ้อนแอ้นขาวผ่องซึ่งตัดกับชุดสีดำหลวมกว้างของเธออย่างเห็นได้ชัด ผู้กองชิงชนะได้แต่เบี่ยงสายตาไปดูบรรยากาศรอบๆงานศพก่อนจิตใจจะฟุ้งซ่านไปกว่านี้
“ไม่ทราบว่าคุณคือ...” เมื่อเธอเริ่มหยุดสะอื้นจึงเริ่มหันมาสนใจบุรุษที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง
“ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ อีกอย่างต้องเป็นผมต่างหากครับ ที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ ผมร้อยตำรวจเอกชิงนะ จากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง” ร้อยตำรวจหนุ่มกล่าวแนะนำตัวพร้อมส่งสายตาที่เป็นมิตร
“ตำรวจ?” เธอทวนคำด้วยความฉงนเมื่อรับรู้ถึงฐานะของเขา
“ต้องขอเรียนตามตรงนะครับว่า ที่ผมมาวันนี้เพราะอุบัติเหตุของสามีคุณ” ผู้กองหนุ่มเริ่มหันเหหัวข้อสนทนาเพื่อเริ่มสืบสอบข้อมูล “ทั้งๆที่คุณยังเสียใจเรื่องการเสียชีวิตของคุณโอฬารอยู่ แต่ไม่ทราบว่าคุณพอจะทราบมั้ยครับว่าคุณโอฬารเคยมีเรื่องบาดหมางหรือเคยมีเรื่องที่ขัดผลประโยชน์กับใครหรือไม่ครับ” ผู้กองหนุ่มเจาะเข้าประเด็นทันที
“ทำไมคุณตำรวจถึงสอบถามถึงผู้ที่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือว่าเคยขัดผลประโยชน์กับสามีดิฉันล่ะคะ หรือการเสียชีวิตของสามีดิฉันไม่ใช่...ไม่ใช่อุบัติเหตุ?” สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความปวดร้าว แค่การสูญเสียคนรักก็เป็นเรื่องที่ทรมานจิตใจมากพอแล้ว หรือนี่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดของความเสียใจ
“เป็นอุบัติเหตุครับ เพียงแต่ว่าทางตำรวจเพียงต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อที่จะสรุปได้ เราจึงต้องการตัดประเด็นอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป เนื่องจากคุณโอฬารเป็นนักธุรกิจหนุ่มอนาคตไกล แต่มีอีกเรื่องที่ผมสงสัยเป็นการส่วนตัว ทำไมวันนี้ไม่มีญาติของคุณโอฬารมาร่วมงานเลยล่ะครับ” ผู้กองชิงชนะชี้แจงเหตุผลด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน และเพราะต้องการนำเธอออกจากห้วงทุกข์ จึงโยนคำถามให้เธอได้ขบคิดทบทวนข้อมูลเพื่อดึงเธอกลับมาในโลกของเหตุผลและความจริง
“คุณพ่อคุณแม่ของสามีดิฉันท่านเสียไปหมดแล้วค่ะ จะมีก็แต่พี่สาวและน้องชายที่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศ ส่วนเรื่องบาดหมางหรือขัดผลประโยชน์เท่าที่ดิฉันทราบเขาไม่เคยมีปัญหากับใคร หรือถ้ามีเขาอาจไม่บอกให้ดิฉันรับรู้ ” เธอเปล่งวาจาด้วยความครุ่นคิด หัวคิ้วของเธอขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนที่จะเอ่ยต่อ “เพียงแต่มีเรื่องหนึ่งที่ดิฉันไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องหรือเปล่า...”
“เรื่องอะไรหรือครับ?”
“คือ ก่อนที่สามีดิฉันจะออกมาเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างของตัวเอง เขาเคยทำงานเป็นวิศวกรให้กับ บริษัทเคจีทีคอนสตรัคชั่น เมื่อสามีดิฉันได้ตั้งบริษัทของตนเอง ลูกน้องและคนสนิทที่เคยทำงานร่วมกับเขาที่บริษัทเก่าก็เข้ามาร่วมงานด้วยหลายคน”
(ปมขัดแย้งทางธุรกิจรึ? บริษัทเคจีทีคอนสตรัคชั่นที่สูญเสียมือดีไปหลายคน แถมยังมีคู่แข่งทางธุรกิจเพิ่มขึ้นมาอีกต่างหาก) ร้อยตำรวจเอกประมวลผลสิ่งสมองที่วิเคราะห์ออกมาได้ในใจเมื่อได้รับฟังข้อมูลใหม่จากเธอ
จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นขัดการสนทนา
“จงรักขอตัวสักครู่นะคะ” จงรักหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูพร้อมกับกล่าวขอตัวกับนายตำรวจหนุ่มเพื่อไปคุยโทรศัพท์ ผู้กองชิงชนะแว่วเสียงจำนรรจาของจงรักเกี่ยวกับเอกสารผู้รับผลประโยชน์ เข้าใจว่าปลายสายของเธอน่าจะเป็นตัวแทนของบริษัทประกันชีวิตที่สามีของเธอได้ทำไว้ เสียงของจงรักค่อยๆห่างออกไปแต่เป้าในสายตาของชิงชนะยังตามติดอยู่ที่เธอ
จบไฟล์#2 โปรดติดตามไฟล์ต่อไป

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ส.ค. 2554, 11:37:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ส.ค. 2554, 12:01:26 น.
จำนวนการเข้าชม : 1714
<< ไฟล์#1 การพยศของระบบเบรค | ไฟล์#3 ช่าง(ผู้ต้อง)สงสัย >> |