ชิเอโกะ [Yaoi]
ความรักบริสุทธิ์ส่งผลให้ทั้งตระกูลต้องล่มสลาย เด็กชายชนชั้นสูงแห่งเอโดะต้องผันตัวมาเป็นโสเภณีชาย ก่อนจะได้ล่วงรู้บางสิ่งที่ทำให้ไฟโทสะสุมไหม้ ตัดสินใจแก้แค้นเอาคืน
Tags: Yaoi

ตอน: บทที่ 31

ดวงตะวันลาลับขอบฟ้าไปนานมากแล้ว มีก็แต่แสงของดวงจันทร์สีนวลที่สาดส่องไปทั่วทั้งท้องนภาดั่งเช่นทุกค่ำคืน คิโยชิที่บัดนี้กำลังอยู่ในห้องเรียนกับมาซาโตะมีสีหน้าที่เคร่งเครียดราวกับว่าเขายังไม่สบอารมณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนบ่ายที่ผ่านมา มาซาโตะเองก็เช่นเดียวกัน… หลังจากที่ได้รับรู้ว่าคิโยชิและเคนตะมีความสัมพันธ์ทางกายอย่างแน่นแฟ้นแล้วนั้นเขาก็ไม่อาจลบล้างภาพในจินตนาการออกไปได้ มันช่างเจ็บปวดเหลือเกินกับทุกความรู้สึกที่กำลังประดังเข้ามาราวกับวิญญาณจะแตกเป็นเสี่ยงๆ คิโยชิที่นิ่งเงียบและเมินเฉยต่อเขามาตลอดการเรียนในวันนี้ทำให้มาซาโตะตัดสินใจเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย พยายามบังคับไม่ให้มันสั่นคลอนเพราะดวงใจกำลังบอบช้ำอย่างหนัก

"วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้นะขอรับ ดูเหมือนว่าท่านคิโยชิจะไม่ค่อยมีสมาธิ" สิ้นเสียง คิโยชิก็ลุกขึ้นในทันทีราวกับรอเวลานี้มานาน เขาเดินออกไปจากห้องโดยที่ไม่เอ่ยถ้อยคำใดออกมาผิดกับตอนปกติที่จะต้องค้อมตัวและเอ่ยขอบคุณหลังจากเรียนเสร็จทุกครั้ง เสียงประตูที่ถูกเลื่อนปิดลงดังฉึบทำให้มาซาโตะหลับตาลงด้วยความปวดร้าวที่ถาโถมเข้ามาในดวงใจอย่างไม่อาจห้าม บัดนี้แม้กระทั่งความเป็นเพื่อนคิโยชิก็คงจะให้เขาไม่ได้ ในสายตาของเด็กหนุ่มในตอนนี้นั้นคงจะมองเขาเป็นศัตรูอันดับหนึ่งไปแล้ว คิดพลางดวงใจที่ถูกบีบเค้นเข้าอีกคราจนรู้สึกเจ็บแปลบไปทั้งอกแกร่ง



คิโยชิก้าวเข้ามาในห้องนอนของตนด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย เคนตะมองแผ่นหลังของร่างเล็กด้วยแววตาที่อ่อนลง หลังจากเกิดเรื่องเมื่อตอนบ่ายคิโยชิก็ไม่พูดไม่จากับเขาเลยตลอดทั้งวันแถมยังทำท่าคิดอะไรอยู่คนเดียวตั้งนานสองนาน เขาเองก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยถ้อยคำใด เฝ้ารอให้คนตัวเล็กใจเย็นลงก่อน ซึ่งบัดนี้ก็ควรค่าแก่เวลาแล้ว คิดพลางเดินเข้าไปใกล้คิโยชิที่กำลังยืนมองพระจันทร์ดวงสวยอยู่ที่ริมหน้าต่าง อ้อมแขนแข็งแรงค่อยๆ โอบเข้ากับเอวคอดกิ่วอย่างแผ่วเบาราวกับต้องการปลอบประโลมจิตใจที่สับสนยุ่งเหยิงของคนตรงหน้าให้คลายลง คิโยชิที่นิ่งเฉยไม่ขัดขืนทำให้เคนตะวางใจลงได้บ้าง เขาจุมพิตลงบนเส้นผมหอมแล้วเอ่ยเสียงกระซิบอ่อนโยน

"ท่านคงจะทราบดีว่าข้าถูกใส่ร้าย… ข้ามีเพียงแต่ท่านแค่คนเดียว ท่านทราบเรื่องนี้ดีกว่าใคร" คิโยชิสายตาสั่นคลอนเล็กน้อย ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างสูงที่โอบกอดเขาเอาไว้ทำให้หัวใจดวงน้อยเสมือนถูกชโลมไปด้วยหยาดน้ำค้างยามเช้าตรู่ที่โอบอุ้มปกคลุมพื้นหญ้าอย่างอ่อนโยน เคนตะบรรจงจุมพิตลงบนเส้นผมนุ่มอีกครา มือเรียวจับเข้าที่คางมน แตะสัมผัสใบหน้าสวยให้หันมามองเขา คิโยชิสบเข้ากับดวงตาคมคายที่สะท้อนความอบอุ่นและห่วงหาออกมาอย่างเต็มเปี่ยม เสียงทุ้มนุ่มนวลเอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยความรู้สึกมากมายในน้ำเสียง

"ท่านเชื่อใจข้าใช่ไหม" คิโยชิกะพริบตาพริบ เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยแกมถอนหายใจยาว

"ข้าเชื่อท่าน แต่ว่า… ใครกันที่จะใส่ร้ายท่าน ท่านพี่ไม่ได้เป็นศัตรูกับใครที่ไหน" หันมองไปยังท้องฟ้ากว้างไกลเบื้องหน้า เคนตะครุ่นคิดกับคำพูดนั้น ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ค่อยๆ ฉายเข้ามาในหัวพลันเสียงทุ้มก็เอ่ยกระซิบออกมาเบาๆ กับตนเอง แต่คนตัวเล็กกลับได้ยินมันด้วยเช่นเดียวกัน

"มาซาโตะ" คิโยชิหันหน้าขวับไปมองร่างสูงในทันที คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันน้อยๆ กับชื่อนั้นที่ร่างสูงเอ่ยออกมา ถึงแม้ว่าความรู้สึกลึกๆ ของเขาเองก็จะคิดว่าเป็นมาซาโตะ แต่เขาก็ยังคิดหาเหตุผลที่มาซาโตะจะต้องใส่ร้ายเคนตะไม่ออก ตำแหน่งของมาซาโตะนั้นสูงกว่า เงินทองและบารมีก็มีมากกว่า แม้กระทั่งเรื่องที่อยากชิงตำแหน่งองครักษ์ของเคนตะเพื่อที่จะให้ลูกหลานมาทำแทนนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้เพราะมาซาโตะไม่มีครอบครัว เหตุใดจึงจะต้องใส่ร้ายเคนตะผู้เป็นซามูไรองครักษ์ที่ด้อยกว่าเขาทุกประการเช่นนี้ คิโยชิถอนหายใจดังพรืด ครุ่นคิดไปมาในหัวแล้วเอ่ยด้วยความไม่เข้าใจ

"แต่ว่ามาซาโตะจะใส่ร้ายท่านทำไมกัน" เคนตะมีสีหน้าหนักใจเล็กน้อยกับสิ่งที่ตนกำลังคิด เขาชั่งใจว่าจะพูดออกไปดีหรือไม่แต่ก็เอ่ยตอบในที่สุด

"เพราะว่าเขาชอบท่านยังไงล่ะ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ" คิโยชินิ่งเงียบไป หัวใจดวงน้อยบีบตัวด้วยความรู้สึกบางอย่างที่กระแทกเข้ามากลางใจราวกับว่าความจริงทุกอย่างที่เขาไม่อยากยอมรับมาตลอดสองสามปีมานี้ในที่สุดก็มีใครบางคนที่สังเกตเห็นเช่นเดียวกับเขา ถูกต้อง… มาซาโตะคงจะตกหลุมรักเขาเสียแล้ว แต่เขาทำเป็นไม่รับรู้มาโดยตลอด แม้กระทั่งตอนนี้เอง หัวใจก็ยังไม่อยากยอมรับคนคนนั้น ไม่ทันจะได้เอ่ยคำพูดใด เสียงทุ้มของร่างสูงก็เอ่ยขึ้นมาอีกรอบ

"ถ้าเขากำจัดข้าได้ ทุกอย่างก็ง่ายขึ้นไม่ใช่เหรอ" คิโยชิเม้มปากเข้าหากันเบาๆ กับคำพูดนั้น นั่นสินะ… เพราะเหตุนี้เองเหรอมาซาโตะ… ฝ่ามือใหญ่ค่อยๆ สอดเข้าไปใต้ชุดยูกาตะสีเข้มของคนตัวเล็ก ใบหน้าคมคายโน้มเข้ามาใกล้ใบหูแล้วเอ่ยกระซิบแผ่ว

"ถ้าเขากำจัดข้าได้… เขาก็จะได้สัมผัสร่างกายของท่านง่ายดายขึ้นยังไงล่ะ" คิโยชิขำพรืดกับคำพูดนั้นก่อนจะย่นปากราวกับถูกขัดใจแล้วเอ่ยด้วยเสียงง้องอน

"ไม่ให้จับหรอก" หันตัวเข้าไปหาร่างสูงใหญ่ที่กำลังมองเขาอยู่ด้วยสายตาทีเล่นทีจริง ร่างเล็กเอ่ยกระซิบเบาๆ

"ให้ท่านพี่จับคนเดียวดีกว่า" คนตัวสูงมองดูคนตรงหน้าที่กลายร่างเป็นคุณหนูแสนซนอีกครั้ง รอยยิ้มกรุ้มกริ่มผุดขึ้นบนริมฝีปากแล้วเอ่ยกระซิบถามพลางโน้มใบหน้าหล่อเหลาเข้าไปใกล้

"จริงเหรอ… จับตรงไหนบ้างล่ะ หืม" ริมฝีปากร้อนทาบทับลงบนกลีบปากบาง ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปบนผิวกายขาวก่อนจะค่อยๆ ปลดชุดยูกาตะออกเผยให้เห็นผิวกายอ่อนนุ่มนวลเนียนน่าสัมผัสที่ต้องกับแสงจันทร์ยามค่ำคืน นิ้วเรียวลูบเข้าที่ช่องทางสีอ่อนอย่างเบามือเรียกเสียงครางหวานให้ดังขึ้นเบาๆ อีกครั้งท่ามกลางสายลมอ้อยอิ่งที่พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างบานกว้าง










B13A
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ต.ค. 2564, 01:37:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ต.ค. 2564, 01:37:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 189





<< บทที่ 30   บทที่ 32 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account