เคียงเธอ
หวันยิหวาแอบรักจิระ เพื่อนชายข้างบ้านที่รู้จักกันตั้งแต่เกิด โดยที่ไม่รู้ว่าเขาและเธอมีใจตรงกัน วันหนึ่งหวาไม่สบาย จิระจึงช่วยดูแล...แล้วเขาก็เผลอใจจูบเธอเข้าโดยที่เธอไม่รู้ตัว

เป็นตัวละครคู่พี่ของเรื่องเหตุเกิดที่...หัวใจ แต่เพื่อความกระชับและความต่อเนื่อง จึงขอแยกออกมาเป็นอีกเรื่องนึงค่ะ
Tags: จิระ หวันยิหวา แอบรัก เพื่อนสนิท

ตอน: ตอนที่ 13 : สู่ขอ

จิระรีบพังประตูเข้าไปทันทีที่มาถึง ภาพที่เขาเห็นคือมันกำลังก้มหน้าลงจะซุกไซ้ซอกคอของคนรัก เท่านั้นเองชายหนุ่มก็บุกเข้ากระชากหัวมันทันทีพร้อมประเคนหมัดลุนๆ ไปที่กรามข้างซ้าย แรงกระแทกจากจิระทำให้นายศักดิ์กระเด็นไปกองที่พื้น แต่ชายหนุ่มไม่รอให้มันตั้งตัว เขาชกไปที่จุดเดิมอีกครั้ง ก่อนอีกหลายหมัดจะตามมาในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่มันไม่ยอมให้จิระต่อยอยู่ฝ่ายเดียวมันสวนกลับและคราวนี้มันเป็นฝ่ายได้เปรียบเมื่อร่างของมันคร่อมชายหนุ่มอยู่

ตากล้องหนุ่มรีบมาทบเห็นเจ้านายหนุ่มเสียเปรียบอยู่ก็รีบเข้าไปช่วย สามสาวที่วิ่งตามมาก็รีบเอาผ้ามาคลุมให้ก่อนจะประคองหวันยิหวาออกไป คราวนี้จิระได้เปรียบชายหนุ่มชกเปรี้ยงไปที่ปลายคาง แต่นายศักดิ์ยังไม่หมดฤทธิ์ จิระจึงหยิบปืนที่วางอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งมาเล็งที่ตัวนายศักดิ์ทันที คราวนี้คนร้ายจึงสงบและยอมให้จับแต่โดยดี



สามสาวพาหวันยิหวามาหลบที่ห้องพัก เมื่อจัดการมัดคนร้ายไว้เรียบร้อยแล้วจิระก็รีบมาหาหญิงสาวทันที จิระโผเข้าเข้ากอดหวันยิหวาแน่น สามสาวรู้หน้าที่จึงรีบออกจากห้องไปเพื่อจะให้เจ้านายมีความเป็นส่วนตัว

วงแขนแข็งแกร่งโอบร่างเล็กที่นั่งอยู่ที่ปลายเตียงและมือหนาลูบไหล่ลูบหลังหญิงสาวอย่างปลอบประโลม หวันยิหวากอดชายหนุ่มแน่นเช่นกัน หน้าเนียนซบลงกับไหล่กว้างก่อนน้ำตาจะไหลออกมา

“หวาไม่เป็นแล้วนะ จีมาช่วยแล้ว” ร่างสูงบอกอย่างอ่อนโยน หวันยิหวาตัวสั่นและเย็นเฉียบเขาอ้อมกอดให้แน่นยิ่งขึ้นเผื่อว่าความอบอุ่นในตัวเขาจะส่งถึงเธอได้เพียงบางส่วนก็ยังดี

“ไม่ต้องกลัว” เขาลูบไหล่หญิงสาวเบาๆ แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้เธอหยุดร้องได้ น้ำจากตาคู่สวยไหลซึมผ่านเสื้อจนจิระรู้สึกได้ ความชื้นนั้นทำให้เขาเจ็บแปลบไปที่หัวใจ

“หวานึกว่าตัวเองจะไม่รอดแล้วรู้ไหม” หวันยิหวาถอนใบหน้าออกมาเสียงพูดปนสะอื้นฮักพร้อมน้ำตาที่ยังไหลเป็นสาย มือหนาลูบซับน้ำตาที่แก้มใส

“หวาทำไมแก้มเป็นรอยแดงขนาดนี้” นิ้วเรียวลูบที่รอยแดงเบาๆ

“หวาถูกเขาตบ” หวันยิหวาบอกเสียงเบา ได้ยินดังนั้นมืออีกข้างของเขาก็กำแน่น กรามขบจนเป็นสันนูน

“ความจริงน่าจะโดนผู้หญิงตบก่อนนะเนี่ย ถูกผู้ชายตบเลยรู้สึกเหมือนข้ามขั้น” หล่อนพูดติดตลกแต่คนฟังกลับไม่ตลกด้วย

‘ไอ้เลวนั่น...’ เหมือนหญิงสาวรู้ว่าเขาคิดอะไร มือบางเลื่อนมือมาจับมือหนาบีบเบาๆ

“หวาเจ็บตรงไหนอีกบ้าง” เขาถามพร้อมมองสำรวจก็สะดุดเข้ากับกระดุมเสื้อของเจ้าหล่อนถูกปลดถึงเม็ดที่สองเผยให้เห็นผิวขาวของเนินอกที่มีเพียงผ้าชิ้นเล็กๆ ปิดบังไว้ จิระรีบติดกระดุมเสื้อให้ก่อนถามต่อ

“มันทำอะไรหวารึเปล่า” จิระขบกรามแน่น อยากเข้าไปชกมันสักเปรี้ยง

“เขาแค่ปลดกระดุมเสื้อ แต่ยังไม่ทันทำอะไร จีก็มาช่วยหวาพอดี” เธอบอกเสียงเบา

“ไม่เป็นไรจริงๆ นะ” หวันยิหวาพยักหน้ายืนยัน มือหนาเอื้อมมือไปแตะแก้มใสที่มีรอยแดงเป็นปื้นอีกครั้ง

“ขอบคุณจีนะที่มาช่วย”

“ถ้าหวาไม่โทรหา จีก็คงช่วยหวาไม่ทันเหมือนกัน” จิระลูบไหล่บางอย่างปลอบโยน

“หวาไม่อยากจะคิดเลยถ้าจีมาไม่ทัน...หวาก็คง...” หญิงสาวพูดยังไม่จบชายหนุ่มก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

“อย่าพูดหวา ตอนนี้หวาไม่เป็นอะไรแล้ว” ชายหนุ่มก้มลงจูบซับน้ำตาที่ดวงตาคู่สวยแล้วเลื่อนไปที่หน้าผากมนก่อนกอดกระชับอีกรอบ คำพูดของหล่อนเกือบทำให้น้ำตาลูกผู้ชายเกือบจะไหลออกมา...เมื่อคิดว่าหากเขามาช่วยหล่อนไม่ทัน...เขาคงไม่ให้อภัยตัวเองตลอดชีวิต ผ่านไปครู่ใหญ่หวันยิหวาถอนใบหน้าออกจากอกกว้างเขาจึงคลายอ้อมแขนเล็กน้อยเพื่อให้เจ้าหล่อนขยับตัว

“หวาไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ” หวันยิหวาบอกพร้อมกับยิ้มให้

“ขอบคุณอีกครั้ง” หญิงสาวจุมพิตแก้มสากของจิระอย่างรวดเร็วไปทีนึง หน้าเข้มจึงมีสีเรื่อขึ้น

“เปลี่ยนคำขอบขอบคุณเป็นการหอมแก้มอีกข้างก็ไม่ว่านะ”



ทางขวัญฤดีก็เปิดเพลงนั่งครึ้มอกครึ้มใจดื่มไวน์ รอฟังผลงานของนายศักดิ์

“ดูสิถ้าหล่อนป่นปี้ไปแล้วเขายังจะรักหล่อนอยู่ไหม” แต่แล้วขวัญฤดีก็ต้องสะดุ้ง เมื่อได้ยินพนักงานคนอื่นๆ เดินตามหาหวันยิหวา

“หรือว่านายศักดิ์ทำพลาด” แล้วขวัญฤดีก็ตกใจอีกครั้ง หน้าสวยถึงกับซีดเผือดเมื่อพบกับจิระที่ยืนอยู่ข้างหลังหล่อน

“ใครพลาด ขวัญฤดี!” จิระถามเสียงดัง หน้าตาที่เคยหล่อเหลากลับบูดบึ้งด้วยแรงโทสะ

“ผมรู้นะว่าเป็นฝีมือคุณ” มือหนาบีบต้นแขนของเจ้าหล่อนแน่นจนขวัญฤดีร้องออกมา

“โอ๊ย ฉันเจ็บ” สาวสวยโอดครวญแต่ชายหนุ่มดูจะไม่แยแสเลยสักนิด

“ผมไม่สนว่าคุณเจ็บหรือไม่เจ็บ” ชายหนุ่มตวาดลั่นด้วยความแค้น

“ผมมานี่เพื่อมาจับคุณส่งตำรวจ” เขาตวาดเสียงดังกล่าวเดิม

“มาจับฉันทำไม ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด” สาวสวยจ้องหน้าชายหนุ่มนิ่ง เป็นเหตุให้ความอดทนของจิระที่มีเหลืออยู่น้อยนิดขาดผึงทันที จิระยกมือข้างหนึ่งมาบีบคางหญิงสาวแน่น หล่อนพยายามดันมือเขาออกแต่ไม่เป็นผล

“ไม่ต้องมาแก้ตัวขวัญฤดี คนของคุณถูกผมจับไว้แล้ว ถ้าฆ่าคนไม่ผิดกฏหมายผมฆ่าคุณไปแล้ว ไม่ปล่อยให้ลอยหน้าลอยตาอยู่อย่างนี้หรอก” ชายหนุ่มพูดเสียงเหี้ยม ชี้หน้าด่าขวัญฤดีดวงตาคู่คมแทบจะลุกเป็นไฟ

“อีกสักพักตำรวจก็มาถึง เตรียมตัวเตรียมใจไปนอนในคุกได้เลย”



ตำรวจมาจับกุมตัวนายศักดิ์กับขวัญฤดีที่โรงพัก สามสาวสำนักข่าวกรองบอกอย่างยินดีว่าจะเป็นพยานเรื่องนี้ให้เอง หลังแจ้งความเรียบร้อยจิระก็โทรบอกเรื่องราวต่างให้ให้บิดาฟังเนื่องจากไม่อยากให้ขวัญฤดีประกันตัวได้ง่ายๆ จิระจึงต้องใช้กำลังภายในของพ่อเขาสักเล็กหน่อย ถึงแม้จะเกษียณไปแล้วแต่บารมีของพลโทวริศก็พอจะมีอยู่ จิระคิดว่าเจ้าหล่อนคงใช้เส้นสายให้ตัวเองพ้นผิดเป็นแน่ ก็ลองดูว่าเขากับหล่อนใครจะแน่กว่ากัน

“อย่าบอกเรื่องนี้ให้แม่ผมกับแม่หวารู้เลยนะครับ เดี๋ยวจะกังวลไปเปล่าๆ หวาก็ไม่เป็นไรมาก” คุณวริศก็เห็นด้วย

“ได้ พ่อจะช่วยปิดให้” จิระกล่าวขอบคุณ

“เรื่องนี้หวาต้องเดือดร้อนเพราะผมครับ” ชายหนุ่มบอกบิดา

“มัวแต่พูดเรื่องคดี จนลืมบอกข่าวดีพ่อเลย”

“ข่าวดีอะไรลูก” คุณวริศถามบุตรชาย

“ก่อนเกิดเรื่องนี้ ผมขอหวาแต่งงานแล้วนะครับ หวาก็ตกลง ตอนแรกจะบอกพ่อกับแม่พรุ่งนี้แต่มาเกิดเรื่องซะก่อน” บิดาได้ยินก็ดีใจ

“จริงเหรอลูก” คุณวริศยินดีกับสิ่งที่ได้ยิน พอดีกับที่คุณจิตราเดินกลับมาพอดี

“แม่เขามาแล้ว เราบอกแม่เองล่ะกัน” คุณวริศยื่นโทรศัพท์ให้ภรรยา

“ลูกอยากคุยด้วย” แล้วคุณสามีก็นั่งรอดูปฏิกิริยาของภรรยาตอนที่ได้ยินข่าวดี

“แม่ครับ คือผมมีข่าวดีจะบอก” ชายหนุ่มพูดเสียงหวาน

“ข่าวดีอะไรเหรอลูก น้ำเสียงดีใจขนาดนี้แสดงว่าเป็นข่าวดีมากแน่ๆ เลยใช่ไหม” คุณจิตราผู้เป็นแม่จึงเอ่ยถามลูกชายอย่างสงสัยพร้อมสันนิษฐาน ซึ่งทำให้คนเป็นลูกถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนยอมรับออกมา

“คือผมสารภาพรักกับหวาแล้วครับ ขอแต่งงานไปแล้วด้วย...แล้วหวาก็ตกลง ก็เลยอยากให้แม่สู่ไปขอหวาจากน้าวรรณให้หน่อยน่ะครับ” เท่านั้นแหละคนเป็นแม่ถึงกับถามเสียงสูงอีกครั้งด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจที่ลูกของหล่อนและเพื่อนจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน ความจริงหล่อนเองกับเพื่อนก็เคยวางแผนให้ลูกทั้งสองคนแต่งงานกัน แต่ถ้าทำอย่างนั้นมันก็คือการคลุมถุงชน ถ้าทั้งสองคนนั้นไม่ได้ชอบใจก็เท่ากับว่าบรรดาแม่ๆ ทำร้ายจิตใจของลูกตัวเอง นึกไม่ถึงว่าจะมีวันนี้จริงๆ

“จีพูดจริงนะ ไม่ได้แกล้งหลอกแม่เล่นใช่ไหมลูก” คุณจิตราถามย้ำ

“โธ่แม่ครับเรื่องอย่างนี้ใครเขาล้อเล่นกัน”

“แต่มันเร็วไปหรือเปล่าลูก เพิ่งบอกรักน้องแล้วก็ขอแต่งงานเลยนี่”

“ไม่เร็วหรอกครับแม่ มาคิดๆ ดูแล้วเราสองคนก็รู้จักกันมานาน อายุเราทั้งคู่ก็เกือบจะสามสิบกันอยู่แล้ว หรือว่าแม่ไม่อยากอุ้มหลานเร็วๆ เหรอครับ” จิระย้อนถามผู้เป็นแม่

“ไวไฟจริงลูกคนนี้ ตกลงจะให้แม่ไปขอน้องเลยใช่ไหม”

“ครับ”

“ไว้แม่จะหาฤกษ์แต่งงานให้เอง น้ำเสียงอย่างนี้อยากแต่งไวๆ สิท่า” คุณจิตราแกล้งถามเย้าลูกชาย

“ครับแม่” หลังจากวางโทรศัพท์จากลูกชายคุณจิตราก็รีบฉุดสามีไปหาเพื่อนรักที่พักห้องข้างๆ ทันทีเพื่อสู่ขอหวันยิหวาให้ลูกชาย ฝ่ายคุณวรรณาและสามีพอรู้เรื่องที่จิระพูดก็ยกลูกสาวให้ทันทีเช่นกัน ด้วยความที่รู้จักมักคุ้นกันมานาน เพราะฝ่ายพ่อก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่อยู่เตรียมทหารและฝ่ายแม่ก็เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ตอนเรียนมัธยม แล้วยิ่งสองครอบครัวอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกัน อีกอย่างเด็กทั้งสองก็รู้จักกันตั้งแต่เกิด

หลังจากสู่ขอกันเรียบร้อยก็มาพูดถึงเรื่องสินสอดทองหมั้น โดยพ่อแม่ของฝ่ายหญิงขอแค่แหวนเพชรวงเดียวที่สวมที่นิ้วนางข้างซ้ายของลูกสาวก็พอ คุณจิตราได้ยินถึงกับไม่ยอมทันที โดยพ่อแม่ของทางฝ่ายชายยืนยันจะให้ค่าสินสอดให้ได้ ผลสรุปก็คือคุณจิตราได้จ่ายค่าสินสอด พอได้รับแล้วคุณวรรณาก็จะยกเงินค่าสินสอดให้ลูกๆ ทั้งสองคนเป็นขวัญถุงในการแต่งงานซึ่งทั้งสองครอบครัวก็เห็นด้วยกับผลสรุปในข้อนี้



เช้าวันรุ่งขึ้นคุณวรรณาโทรหาลูกสาว ใจอยากจะโทรมาหาตั้งแต่เมื่อคืนแต่เห็นว่าดึกแล้วก็เลยไม่อยากกวนลูก

“สวัสดีค่ะแม่” หวันยิหวากรอกเสียงหวานมาตามสาย คุณวรรณาคุยกับลูกเรื่องทั่วๆ ไปสักพักหนึ่ง ก่อนเกริ่นนำเข้าเรื่องการสู่ขอ

“หวาเมื่อกี้น้าตามาสู่ขอหวาให้ลูกชายเขา นี่แม่ก็เพิ่งตกลงเรื่องค่าสินสอดทองหมั้นเสร็จก็เลยโทรมาหาลูก”

“อะไรนะคะ!” หวันยิหวาได้ยิ่งคำกล่าวของแม่ถึงกับตกใจ รีบถามย้ำอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

“ตาจีให้แม่เขามาสู่ขอหนูน่ะลูก”

“เขาเพิ่งขอหวาเมื่อวาน หวายังไม่ทันเล่าให้แม่ฟังเลย วันนี้ตกลงเรื่องสินสอดแล้วเหรอคะ” หญิงสาวถามผู้เป็นแม่ โกรธก็โกรธเขินก็เขินเพราะตาบ้านั่นแท้ๆ เชียว

“ตาจีใช่ใครที่ไหนล่ะ เรากับเค้าก็รู้จักมักคุ้นกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ แล้วแม่รู้นะว่าหนูแอบชอบเขามาตั้งนานแล้ว” แล้วประโยคหลังของผู้เป็นแม่ก็ทำให้ลูกสาวนิ่งอึ้ง หลายวินาทีเหมือนกันกว่าที่หวันยิหวาจะหาเสียงของตัวเองเจอ ก็คำพูดคุณวรรณาเสมือนปล่อยหมัดขวาตรงชกเปรี้ยงแบบแทบน็อคกลางอากาศ จะไม่ให้อึ้งได้อย่างไร

“แม่รู้ ?”

“รู้สิลูก แม่เป็นแม่ของหนูนะ แม่รู้ว่าลูกสาวแม่คิดอย่างไร รู้สึกอย่างไร แม่อยากให้ลูกสมหวัง อายุอานามของลูกกับจีก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วนะ พ่อกับแม่บอกตามตรงว่าอยากเห็นหน้าหลาน นับวันก็จะยิ่งแก่ลงเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกนานเท่าไร...” คุณวรรณาปล่อยหมัดแย็บเบาๆ อีกหลายทีก่อนปล่อยขวาตรงตามอีกรอบ หญิงสาวที่ได้ยินคำจากมารดาก็ถึงกับใจอ่อนยวบลงทันที

“แม่คะ แม่อย่าพูดอย่างนั้นสิ แม่ต้องอยู่กับหนูนานๆ นะคะ”

“ก็อยากอยู่นะลูก แต่สังขารคนเรามันไม่เที่ยง” คุณวรรณาแกล้งสะอื้นเบาๆ ให้ลูกสาวได้ยิน ส่วนผู้เป็นพ่อที่แอบฟังแม่ลูกคุยกันถึงกับรีบเอามือปิดปากหัวเราะคิกทันที ภรรยาของเขาก็ร้ายใช่ย่อยเลยนะเนี่ย

“แม่อยากเห็นหน้าหลานก่อนจะไม่มีโอกาส แล้วที่สำคัญคือ...หนูก็รักเขา เขาก็รักหนู จะแต่งเร็วแต่งช้าค่าก็เท่ากัน นี่พ่อๆ แม่ๆ ก็กำลังจะออกไปดูฤกษ์แต่งงานให้หนู ได้ฤกษ์แล้วแม่จะโทรบอกนะลูกนะ”

“ค่ะแม่” หวันยิหวารับคำก่อนวางสาย...โล่งอกที่นายจีไม่ได้บอกเรื่องหล่อนถูกทำร้ายเมื่อคืน แต่ไหนบอกว่าจะโทรหาคุณลุงเรื่องคดีแป๊บเดียว ไปๆ มาๆ มาคุยเรื่องสู่ขอได้ยังไงกัน



หลังจากวางโทรศัพท์จากมารดาแล้วหวันยิหวาก็เดินไปเคาะประตูห้องพักของชายหนุ่มตัวต้นเหตุ ร่างบางยืนรอพร้อมกับกอดอก ปากบางเม้มแน่น คิ้วเรียวขมวดจนหัวคิ้วแทบจะติดกัน กริยาทั้งสามอย่างนี้ก็สามารถบ่งบอกอารมณ์ของคนที่ยืนอยู่หน้าประตูว่าเป็นอย่างไร จิระเปิดประตูออกมาเห็นหน้าของว่าที่ภรรยาก็พอจะเดาได้

“มาแต่เช้าเลย คิดถึงจีเหรอ” จิระหลีกทางให้หญิงสาวเข้ามาข้างในพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง แต่หญิงสาวรู้ทันไม่ยอมเข้าไปง่าย...เข้าไปก็เสียรู้โดนทั้งกอดทั้งหอม ไม่ทันได้พูดกันพอดี

“ไม่ต้องมาทำไก๋ ทำอะไรไว้ก็น่าจะรู้ตัวดี” หวันยิหวาจ้องหน้าชายหนุ่มที่กำลังยืนพิงประตู อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“จีให้น้าตาไปสู่ขอหวา ทำไมไม่บอกกันสักคำ”

“ก็อยากให้เซอร์ไพรส์ไง” ชายหนุ่มว่า

“แล้วถ้าแม่ไม่โทรมาบอก หวาก็ไม่มีทางรู้เลยว่านายไปทำอะไรไว้บ้าง” ดวงตากลมโตของเจ้าหล่อนวาววับ

“โธ่ ใครว่าจะไม่บอก ก็ขอเมื่อวานแล้วไง” จิระแก้ตัว

“แต่จะโทรไปบอกพวกคุณแม่ก็น่าจะปรึกษากันบ้าง” หวันยิหวาหน้ามุ่ย

“ก็จีใจร้อน อยากแต่งไวๆ” จิระยิ้มกว้าง

“ว่าแต่หวามาถามแค่นี้เหรอ เข้ามาในห้องกับจีก่อนก็ได้ ตอนนี้คุณผู้จัดการไม่อยู่” ชายหนุ่มยักคิ้วหลิ่วตาพร้อมผายมือเชื้อเชิญ

“ขืนเข้าไปฉันก็เสร็จนายน่ะสิ” หวันยิหวาส่ายหน้าไม่ยอม

“หลบได้หลบไป” จิระพูดเจือเสียงหัวเราะ ก่อนยื่นหน้าเข้าไปใกล้

“พอแต่งงานเมื่อไรจีจะเอาคืนให้ทบต้นทบดอกเลยทีเดียว” บอกเสร็จก็กดจมูกลงบนแก้มของว่าที่ภรรยาหนึ่งฟอด

“ชื่นใจ...หวันยิหวา...ยอดดวงใจของนายจี”



----------------------------------

ตัดเหลือ 15 ตอนนะคะ เพื่อความกระชับค่ะ

ตอนหน้า ตอนที่ 14 แต่งงาน อย่าลืมติดตามนะคะ





คุณ anOO
มาตามสัญญาจริงๆ
แหม หวานี่ฉลาดจริงๆ เลย เดี๋ยวนายศักดิ์จะได้เจอดีแน่
พร้อมยัยขวัญอีกคน

>> ได้รับผลกรรมเรียบร้อยค่ะ


คุณ silverraindrop
นายจีจะไปช่วยทัยไหม....ลุ้น..ลุ้น...

>> ถ้าหวาไม่โทรบอกนี่ก็ไม่แน่ค่ะ


คุณ violette
แง้ววว แต่จีมาทันแหงมๆใช่มั้ยค้าาา
สามสาวช่างสังเกตุสุดยอด แหมหวาเกือบจะหนีเองได้แล้วซิ (แต่ไม่งั้นจีคงอดทำหล่อช่วยสาวเลย โฮะๆ )
รออ่านต่อโลดค่ะ

>> ต้องมาช่วยสิคะ เป็นพระเอกทั้งที ^^



ปาลิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ส.ค. 2554, 22:44:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ส.ค. 2554, 23:11:25 น.

จำนวนการเข้าชม : 2147





<< ตอนที่ 12 : แผนร้าย   ตอนที่ 14 : แต่งงานซะที >>
ปาลิตา 25 ส.ค. 2554, 23:00:08 น.
พรุ่งนี้จะมาลงตอน 14 ตอนสายๆ นะคะ
ตอนจบ ตอนที่ 15 เจอกันวันเสาร์ ยังไม่แน่ว่ากี่โมงค่ะ
(ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด...เพราะจะไปต่างจังหวัด 3-4 วันนะคะ)


violette 26 ส.ค. 2554, 01:10:13 น.
ฮ่าๆ ได้ทำหล่อจริงๆด้วยอิอิ
คู่นี้เค้ามาสบายๆดีนะคะไม่ต้องมาเข้าใจอะไรผิดกันมากมาย น่ารักจริงๆ


anOO 26 ส.ค. 2554, 09:11:09 น.
รวดเร็วสมใจนายจีจริงๆ พอรู้ว่ารักก็เดินหน้าอย่างเดียวเลย


ปาลิตา 26 ส.ค. 2554, 12:44:58 น.
ตอนแรกว่าจะลงสายๆ ขอเลื่อนเป็นมืดๆ แทนนะคะ


นกขมิ้น 26 ส.ค. 2554, 20:54:33 น.
รับทราบค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account