แฟนเด็กพี่ภาคิน
เรื่องราวความสัมพันธ์ของเราเริ่มต้นเพราะผมเมาแล้วไปนั่งตักพี่เขา จากคนที่แอบชอบเงียบ ๆ จวนจะยอมแพ้แล้วเลิกชอบพี่เขาแล้วแต่พอได้ใกล้ชิดกันแบบนี้ผมกลับรู้สึกดีมากขึ้น เอาละ ผมจะชอบพี่ต่อไปก็ได้พี่เบียร์
Tags: แฟนเด็กพี่ภาคิน นิยายวาย oncloud69
ตอน: คุณพ่อคุณแม่พี่เบียร์
EPISODE : 25 คุณพ่อคุณแม่ของพี่เบียร์
"พี่เบียร์ล่ะคะลูก" ทันทีที่ผมลงมาข้างล่าง คุณแม่ของพี่เบียร์ก็เดินมาถามเล่นเอาผมที่กำลังมองดูรูปภาพในบ้านสะดุ้งตกใจ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของคุณแม่ผมก็คลายความกังวล
"พี่เบียร์หาของอยู่ครับ รักว่างก็เลยว่าจะลงมาช่วย เผื่อคุณแม่อยากได้ผู้ช่วยทำกับข้าว" ผมอาสาเพราะจะให้อยู่เฉย ๆ ก็รู้สึกเกรงใจ คุณแม่พี่เบียร์เดินมาใกล้ พลางจับมือผมอย่างเป็นกันเอง แม้จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อยแต่ผมก็รู้สึกดีที่คุณแม่พี่เบียร์ไม่ได้ตั้งแง่ไม่ชอบผมอย่างที่ผมกังวล
"ไม่ต้องหรอกลูก ที่บ้านมีแม่ครัวอยู่แล้วค่ะ" คุณแม่บอกเสียงหวาน ผมเพียงพยักหน้าเล็กน้อย
"ครับ" ผมหันไปสนใจรูปต่อ "รูปนี้พี่เบียร์ตอนเด็กใช่ไหมครับ น่ารักมาก" ผมรีบชวนคุยเรื่องอื่นต่อก่อนที่ผมจะกลายเป็นใบ้เงียบนิ่งไม่มีเรื่องจะพูดคุยสานสัมพันธ์ที่ดีกับคุณแม่ของคนที่ผมแอบรัก คุณแม่มองดูรูปแล้วยิ้มตามมือของท่านหยิบเอารูปใบนั้นมาดูใกล้ ๆ
"ใช่ค่ะ สักตอนสามขวบได้ ส่วนนี่ก็เฮียโซดาค่ะหนูรู้จักไหม พี่เขาก็เรียนคณะเดียวกับหนูด้วย" ผมเผลอยิ้มกว้างเมื่อคุณแม่จำได้ว่าผมเรียนอยู่คณะเดียวกับเฮีย
"รู้จักครับ เฮียเป็นพี่เทคของรักครับ"
"งั้นเหรอ โลกกลมซะจริง" คุณแม่ก็ดูแปลกใจไม่ต่างจากผม ถ้าเล่าเรื่องของพี่เหล้าคุณแม่ก็คงแปลกใจยิ่งหว่านี้ผมใกล้ชิดกับญาติของพี่เบียร์ถึงสองคน หากพี่ไวน์เป็นคนที่ตีสนิทได้ง่ายผมก็คงหาทางสนิทด้วยเพราะอยากรู้เรื่องของพี่เบียร์ แต่พี่ไวน์ดูเข้าถึงได้ยากขนาดเราไปทริปเที่ยวด้วยกันผมยังไม่สามารถสนิทกับพี่ไวน์ได้เหมือนอย่างเพ้นส์
"เฮียหน้าดุ ส่วนพี่เบียร์หน้าหวาน" ผมวิจารณ์ให้คุณแม่ได้รับรู้ในสิ่งที่คิด สำหรับผมแล้วพี่น้องบ้านนี้มีเอกลักษณ์มาตั้งแต่เด็ก ผมเห็นครั้งแรกก็แยกออกได้ทันทีว่าใครเป็นคนไหน
"หน้าหวานเหมือนแม่ค่ะ แต่พอโตมาแล้วหน้าเหมือนพ่อจนแม่แอบคิดว่าตัวเองได้สามีคนก่อนกลับมาตลอด" คุณแม่พูดติดตลก ผมพาลหัวเราะไปกับท่านด้วย คงจริงอย่างที่คุณแม่บอก พี่เบียร์หน้าเหมือนคุณพ่อช่วงวัยรุ่นมาก
"คุณแม่ก็หน้าใสเหมือนเดิมเลยครับ ในรูปกับตอนนี้รักแยกไม่ออก ไม่คิดว่ามันจะห่างกันหลายสิบปีขนาดนี้นะครับ" ผมเอ่ยบอกตามที่เห็น เมื่อเปรียบเทียบรูปคุณแม่เมื่อตอนยังสาวกับตอนนี้ก็ดูไม่แตกต่างกันมาก คุณแม่ยิ้มกว้างดูพอใจเมื่อถูกผมเอ่ยชม
"เราอย่าชมมากลูก แม่เขาชอบเหลิงเวลาถูกชมบ่อย ๆ" ได้ยินเสียงคุณพ่อเดินเข้ามาผมจึงหันไปมอง คุณพ่อพี่เบียร์เดินมาคนเดียวแปลว่าญาติผู้ใหญ่ของพี่เบียร์ท่านอื่นคงจะกลับกันไปแล้ว
คุณพ่อพี่เบียร์มีท่าทีใจดีกว่าที่ผมคิดเอาไว้มาก นึกว่าคุณพ่อจะเหมือนคุณป๊าผมซะอีก
"คุณก็รู้ดีว่ารัมยังหน้าเด็กเหมือนตอนนั้น" ผมยืนมองท่านทั้งสองคุยกันแล้วอมยิ้ม คุณพ่อคุณแม่พี่เบียร์ดูสวีทหวานมากกว่าคุณป๊ากับคุณแม่ของผม ท่านทั้งสองแสดงออกความรักได้อย่างง่ายดายผิดกับคุณป๊าของผมชอบวางมาดไม่ค่อยจะอ้อนคุณแม่สักเท่าไร
"ครับ เมียผมยังสวยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน" เห็นท่านทั้งสองเดินมานั่งคุย ผมจึงได้เดินมานั่งบนโซฟาด้วย จะให้ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่มันก็แปลก พี่เบียร์ก็อยู่บนห้องยังไม่ลงมา ผมสูดลมหายใจเข้าเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเองแค่คุยกับพ่อแม่ของพี่เบียร์ทำไมผมต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วย
"ว่าแต่รู้จักกับพี่เบียร์นานแล้วเหรอลูก" คุณแม่ถามอีกผมยิ้มให้ท่านทั้งสองก่อนจะตอบ
"รักรู้จักมานานแล้วครับแต่รักไม่กล้าทำความรู้จัก แต่ตอนนี้เราก็เพิ่งจะมาสนิทกันน่ะครับ" ในความคิดของผม ระหว่างผมกับพี่เบียร์ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเราเริ่มกระชับใกล้มากกว่าเมื่อก่อน
"พี่เบียร์เข้าหาง่ายนะลูก ถึงจะดูแบบนั้นพี่เบียร์เขาใจดี" คุณพ่อบอกเสียงเรียบ น้ำเสียงดูเข้าใจลูกชายตัวเองผมก็เห็นด้วยกับเรื่องที่คุณพ่อบอก
"ครับ" เรื่องความใจดีนั้นผมรับรู้ได้ดี อาจเพราะว่าผมเริ่มต้นจากการแอบรักพี่เบียร์ก่อนเราจึงรู้จักกันช้า เพราะหากว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่เบียร์ป่านนี้ผมก็คงได้สนิทกับพี่เบียร์ในฐานะน้องชายของเฮียเท่านั้น
"พ่อก็ว่าหนูหน้าคุ้น ๆ ที่แท้คนที่เคยช่วยเราสองคนครั้งก่อนนั้นไว้นี่น่า" ผมขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคุณพ่อของพี่เบียร์พูดขึ้น คุณแม่พี่เบียร์จ้องมองผมครู่เดียวก็พลอยยิ้มกว้างตาม
"จริงด้วยหนูคนที่ดันรถให้เราตอนนั้น"
"ครับ?"
"หนูคงจำไม่ได้แล้ว วันนั้นพ่อกับแม่รถเสียกลางทางแล้วหนูก็วิ่งมาช่วยดันรถให้ ตอนนั้นพ่อจำได้ว่าหนูห้อยป้ายชื่อตัวใหญ่ไว้ด้วย ไม่คิดว่าตัวผอมขนาดนั้นจะมีแรงดันรถได้" ผมประมวลเรื่องราวที่คุณแม่พูดก็พอจะจำได้ราง ๆ
"แต่นั่นมันเมื่อเทอมที่แล้วเลยนะครับ ตอนนั้นรักยังใส่แว่น ยังดัดฟัน คุณพ่อกับคุณแม่ยังอุตส่าห์จำรักได้อีกนะครับ" พอคิดถึงเรื่องวันนั้นแล้วผมก็แอบเขิน ตอนนั้นผมยังไม่มีความมั่นใจในตัวเองมากเท่าตอนนี้ เคยคิดว่าไม่มีใครสนใจด้วยซ้ำ ผมแอบแปลกใจที่คุณพ่อของพี่เบียร์ยังจำกันได้
"จำได้สิ ดวงตาหนูมันสดใสตลอดทั้งตอนนั้นและตอนนี้พ่อเลยจำได้ครับ" ผมฉีกยิ้มกว้างกับคำพูดแสนเพราะกินใจนั้น น้อยครั้งที่จะมีคนชมผมจากใจ
"แม่เกือบจำไม่ได้แหนะ หนูดูโตขึ้น วันนั้นเหมือนเด็กมัธยมแต่วันนี้เหมือนเด็กมหาลัยแล้ว" คุณแม่แซว
"นั่นสินะ ฮ่า ๆ" พอเห็นท่านทั้งสองหัวเราะผมก็หัวเราะตาม คุณพ่อกับคุณแม่พี่เบียร์ช่างเป็นคนที่น่ารักเหมือนพี่เบียร์จริง ๆ พลันสายตาผมหันไปมองพี่เบียร์ที่เดินลงบันไดมา
"คุยอะไรกันอยู่ครับ" พี่เบียร์เดินมานั่งข้างกาย ผมรู้สึกโล่งใจที่มีพี่เบียร์อยู่ด้วย
"กำลังคุยเรื่องความลับของเราสามคนที่พี่เบียร์ไม่รู้ค่ะ" คุณแม่พี่เบียร์หยอกเย้าอย่างนั้นผมก็ยิ่งได้ใจ ดีใจที่คุณแม่เอ็นดูผม รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงมีให้ผมตลอด
ใบหน้าพี่เบียร์มีแต่เครื่องหมายคำถาม พี่เบียร์มองหน้าผมราวกับไม่เชื่อว่าผมไปมีความลับกับคุณพ่อคุณแม่เขาด้วย
"มีความลับอะไรที่บอกผมไม่ได้ด้วยเหรอครับ"
"มีสิค่ะความลับนี้พี่เบียร์ไม่มีทางรู้เพราะเป็นเรื่องของคุณพ่อ แม่แล้วก็น้องเจ้ารักเท่านั้น" ผมส่ายหน้าปฏิเสธที่จะบอกความลับให้พี่เบียร์ฟังเมื่อเจ้าตัวหันมาคาดคั้น คุณพ่อหัวเราะออกมาบอกให้พี่เบียร์หยุดพยายามคาดคั้นผมเพราะเรื่องความลับนี้เราสามคนจะไม่บอกใครเด็ดขาด
"ร้ายนะเรามาถึงแป๊ปเดียวก็ขโมยคุณพ่อคุณแม่ของพี่ไปแล้ว"
"รักเปล่าทำอย่างนั้นสักหน่อยครับพี่เบียร์" ผมรีบเถียงเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริงเลย ผมไม่ได้แย่งคุณพ่อคุณแม่พี่เบียร์สักหน่อย
"อย่าปรักปรำน้อง" คุณแม่เอ่ยเตือนผมก็ยิ่งดีใจ ทำไมคุณพ่อคุณแม่พี่เบียร์ถึงได้น่ารักขนาดนี้
"โอ้โหผมกลายเป็นหมาหัวเน่าแล้ว" ผมอมยิ้ม อยากหัวเราะพี่เบียร์แต่ก็กลัวว่าพี่เบียร์จะเสียใจที่โดนคุณพ่อและคุณแม่แกล้ง เรานั่งคุยกันอยู่สักพักแม่บ้านก็เดินมาตามไปกินข้าวกัน
"ไปกินข้าวกันเถอะ" คุณพ่อชวน
"ไปกันค่ะน้องรัก" คุณแม่กลายเป็นคนเดินมาควงแขนผมแล้วพากันมาทานมื้อแรกร่วมกัน ผมหันหลังไปมองพี่เบียร์ที่เดินตามหลังมาตลอด เห็นคนตัวโตยิ้มให้ก็อุ่นใจ
วันนี้ผมก้าวเข้าไปใกล้ชิดพี่เบียร์อีกก้าวแล้ว
"พี่เบียร์ล่ะคะลูก" ทันทีที่ผมลงมาข้างล่าง คุณแม่ของพี่เบียร์ก็เดินมาถามเล่นเอาผมที่กำลังมองดูรูปภาพในบ้านสะดุ้งตกใจ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของคุณแม่ผมก็คลายความกังวล
"พี่เบียร์หาของอยู่ครับ รักว่างก็เลยว่าจะลงมาช่วย เผื่อคุณแม่อยากได้ผู้ช่วยทำกับข้าว" ผมอาสาเพราะจะให้อยู่เฉย ๆ ก็รู้สึกเกรงใจ คุณแม่พี่เบียร์เดินมาใกล้ พลางจับมือผมอย่างเป็นกันเอง แม้จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อยแต่ผมก็รู้สึกดีที่คุณแม่พี่เบียร์ไม่ได้ตั้งแง่ไม่ชอบผมอย่างที่ผมกังวล
"ไม่ต้องหรอกลูก ที่บ้านมีแม่ครัวอยู่แล้วค่ะ" คุณแม่บอกเสียงหวาน ผมเพียงพยักหน้าเล็กน้อย
"ครับ" ผมหันไปสนใจรูปต่อ "รูปนี้พี่เบียร์ตอนเด็กใช่ไหมครับ น่ารักมาก" ผมรีบชวนคุยเรื่องอื่นต่อก่อนที่ผมจะกลายเป็นใบ้เงียบนิ่งไม่มีเรื่องจะพูดคุยสานสัมพันธ์ที่ดีกับคุณแม่ของคนที่ผมแอบรัก คุณแม่มองดูรูปแล้วยิ้มตามมือของท่านหยิบเอารูปใบนั้นมาดูใกล้ ๆ
"ใช่ค่ะ สักตอนสามขวบได้ ส่วนนี่ก็เฮียโซดาค่ะหนูรู้จักไหม พี่เขาก็เรียนคณะเดียวกับหนูด้วย" ผมเผลอยิ้มกว้างเมื่อคุณแม่จำได้ว่าผมเรียนอยู่คณะเดียวกับเฮีย
"รู้จักครับ เฮียเป็นพี่เทคของรักครับ"
"งั้นเหรอ โลกกลมซะจริง" คุณแม่ก็ดูแปลกใจไม่ต่างจากผม ถ้าเล่าเรื่องของพี่เหล้าคุณแม่ก็คงแปลกใจยิ่งหว่านี้ผมใกล้ชิดกับญาติของพี่เบียร์ถึงสองคน หากพี่ไวน์เป็นคนที่ตีสนิทได้ง่ายผมก็คงหาทางสนิทด้วยเพราะอยากรู้เรื่องของพี่เบียร์ แต่พี่ไวน์ดูเข้าถึงได้ยากขนาดเราไปทริปเที่ยวด้วยกันผมยังไม่สามารถสนิทกับพี่ไวน์ได้เหมือนอย่างเพ้นส์
"เฮียหน้าดุ ส่วนพี่เบียร์หน้าหวาน" ผมวิจารณ์ให้คุณแม่ได้รับรู้ในสิ่งที่คิด สำหรับผมแล้วพี่น้องบ้านนี้มีเอกลักษณ์มาตั้งแต่เด็ก ผมเห็นครั้งแรกก็แยกออกได้ทันทีว่าใครเป็นคนไหน
"หน้าหวานเหมือนแม่ค่ะ แต่พอโตมาแล้วหน้าเหมือนพ่อจนแม่แอบคิดว่าตัวเองได้สามีคนก่อนกลับมาตลอด" คุณแม่พูดติดตลก ผมพาลหัวเราะไปกับท่านด้วย คงจริงอย่างที่คุณแม่บอก พี่เบียร์หน้าเหมือนคุณพ่อช่วงวัยรุ่นมาก
"คุณแม่ก็หน้าใสเหมือนเดิมเลยครับ ในรูปกับตอนนี้รักแยกไม่ออก ไม่คิดว่ามันจะห่างกันหลายสิบปีขนาดนี้นะครับ" ผมเอ่ยบอกตามที่เห็น เมื่อเปรียบเทียบรูปคุณแม่เมื่อตอนยังสาวกับตอนนี้ก็ดูไม่แตกต่างกันมาก คุณแม่ยิ้มกว้างดูพอใจเมื่อถูกผมเอ่ยชม
"เราอย่าชมมากลูก แม่เขาชอบเหลิงเวลาถูกชมบ่อย ๆ" ได้ยินเสียงคุณพ่อเดินเข้ามาผมจึงหันไปมอง คุณพ่อพี่เบียร์เดินมาคนเดียวแปลว่าญาติผู้ใหญ่ของพี่เบียร์ท่านอื่นคงจะกลับกันไปแล้ว
คุณพ่อพี่เบียร์มีท่าทีใจดีกว่าที่ผมคิดเอาไว้มาก นึกว่าคุณพ่อจะเหมือนคุณป๊าผมซะอีก
"คุณก็รู้ดีว่ารัมยังหน้าเด็กเหมือนตอนนั้น" ผมยืนมองท่านทั้งสองคุยกันแล้วอมยิ้ม คุณพ่อคุณแม่พี่เบียร์ดูสวีทหวานมากกว่าคุณป๊ากับคุณแม่ของผม ท่านทั้งสองแสดงออกความรักได้อย่างง่ายดายผิดกับคุณป๊าของผมชอบวางมาดไม่ค่อยจะอ้อนคุณแม่สักเท่าไร
"ครับ เมียผมยังสวยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน" เห็นท่านทั้งสองเดินมานั่งคุย ผมจึงได้เดินมานั่งบนโซฟาด้วย จะให้ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่มันก็แปลก พี่เบียร์ก็อยู่บนห้องยังไม่ลงมา ผมสูดลมหายใจเข้าเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเองแค่คุยกับพ่อแม่ของพี่เบียร์ทำไมผมต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วย
"ว่าแต่รู้จักกับพี่เบียร์นานแล้วเหรอลูก" คุณแม่ถามอีกผมยิ้มให้ท่านทั้งสองก่อนจะตอบ
"รักรู้จักมานานแล้วครับแต่รักไม่กล้าทำความรู้จัก แต่ตอนนี้เราก็เพิ่งจะมาสนิทกันน่ะครับ" ในความคิดของผม ระหว่างผมกับพี่เบียร์ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเราเริ่มกระชับใกล้มากกว่าเมื่อก่อน
"พี่เบียร์เข้าหาง่ายนะลูก ถึงจะดูแบบนั้นพี่เบียร์เขาใจดี" คุณพ่อบอกเสียงเรียบ น้ำเสียงดูเข้าใจลูกชายตัวเองผมก็เห็นด้วยกับเรื่องที่คุณพ่อบอก
"ครับ" เรื่องความใจดีนั้นผมรับรู้ได้ดี อาจเพราะว่าผมเริ่มต้นจากการแอบรักพี่เบียร์ก่อนเราจึงรู้จักกันช้า เพราะหากว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่เบียร์ป่านนี้ผมก็คงได้สนิทกับพี่เบียร์ในฐานะน้องชายของเฮียเท่านั้น
"พ่อก็ว่าหนูหน้าคุ้น ๆ ที่แท้คนที่เคยช่วยเราสองคนครั้งก่อนนั้นไว้นี่น่า" ผมขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคุณพ่อของพี่เบียร์พูดขึ้น คุณแม่พี่เบียร์จ้องมองผมครู่เดียวก็พลอยยิ้มกว้างตาม
"จริงด้วยหนูคนที่ดันรถให้เราตอนนั้น"
"ครับ?"
"หนูคงจำไม่ได้แล้ว วันนั้นพ่อกับแม่รถเสียกลางทางแล้วหนูก็วิ่งมาช่วยดันรถให้ ตอนนั้นพ่อจำได้ว่าหนูห้อยป้ายชื่อตัวใหญ่ไว้ด้วย ไม่คิดว่าตัวผอมขนาดนั้นจะมีแรงดันรถได้" ผมประมวลเรื่องราวที่คุณแม่พูดก็พอจะจำได้ราง ๆ
"แต่นั่นมันเมื่อเทอมที่แล้วเลยนะครับ ตอนนั้นรักยังใส่แว่น ยังดัดฟัน คุณพ่อกับคุณแม่ยังอุตส่าห์จำรักได้อีกนะครับ" พอคิดถึงเรื่องวันนั้นแล้วผมก็แอบเขิน ตอนนั้นผมยังไม่มีความมั่นใจในตัวเองมากเท่าตอนนี้ เคยคิดว่าไม่มีใครสนใจด้วยซ้ำ ผมแอบแปลกใจที่คุณพ่อของพี่เบียร์ยังจำกันได้
"จำได้สิ ดวงตาหนูมันสดใสตลอดทั้งตอนนั้นและตอนนี้พ่อเลยจำได้ครับ" ผมฉีกยิ้มกว้างกับคำพูดแสนเพราะกินใจนั้น น้อยครั้งที่จะมีคนชมผมจากใจ
"แม่เกือบจำไม่ได้แหนะ หนูดูโตขึ้น วันนั้นเหมือนเด็กมัธยมแต่วันนี้เหมือนเด็กมหาลัยแล้ว" คุณแม่แซว
"นั่นสินะ ฮ่า ๆ" พอเห็นท่านทั้งสองหัวเราะผมก็หัวเราะตาม คุณพ่อกับคุณแม่พี่เบียร์ช่างเป็นคนที่น่ารักเหมือนพี่เบียร์จริง ๆ พลันสายตาผมหันไปมองพี่เบียร์ที่เดินลงบันไดมา
"คุยอะไรกันอยู่ครับ" พี่เบียร์เดินมานั่งข้างกาย ผมรู้สึกโล่งใจที่มีพี่เบียร์อยู่ด้วย
"กำลังคุยเรื่องความลับของเราสามคนที่พี่เบียร์ไม่รู้ค่ะ" คุณแม่พี่เบียร์หยอกเย้าอย่างนั้นผมก็ยิ่งได้ใจ ดีใจที่คุณแม่เอ็นดูผม รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงมีให้ผมตลอด
ใบหน้าพี่เบียร์มีแต่เครื่องหมายคำถาม พี่เบียร์มองหน้าผมราวกับไม่เชื่อว่าผมไปมีความลับกับคุณพ่อคุณแม่เขาด้วย
"มีความลับอะไรที่บอกผมไม่ได้ด้วยเหรอครับ"
"มีสิค่ะความลับนี้พี่เบียร์ไม่มีทางรู้เพราะเป็นเรื่องของคุณพ่อ แม่แล้วก็น้องเจ้ารักเท่านั้น" ผมส่ายหน้าปฏิเสธที่จะบอกความลับให้พี่เบียร์ฟังเมื่อเจ้าตัวหันมาคาดคั้น คุณพ่อหัวเราะออกมาบอกให้พี่เบียร์หยุดพยายามคาดคั้นผมเพราะเรื่องความลับนี้เราสามคนจะไม่บอกใครเด็ดขาด
"ร้ายนะเรามาถึงแป๊ปเดียวก็ขโมยคุณพ่อคุณแม่ของพี่ไปแล้ว"
"รักเปล่าทำอย่างนั้นสักหน่อยครับพี่เบียร์" ผมรีบเถียงเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริงเลย ผมไม่ได้แย่งคุณพ่อคุณแม่พี่เบียร์สักหน่อย
"อย่าปรักปรำน้อง" คุณแม่เอ่ยเตือนผมก็ยิ่งดีใจ ทำไมคุณพ่อคุณแม่พี่เบียร์ถึงได้น่ารักขนาดนี้
"โอ้โหผมกลายเป็นหมาหัวเน่าแล้ว" ผมอมยิ้ม อยากหัวเราะพี่เบียร์แต่ก็กลัวว่าพี่เบียร์จะเสียใจที่โดนคุณพ่อและคุณแม่แกล้ง เรานั่งคุยกันอยู่สักพักแม่บ้านก็เดินมาตามไปกินข้าวกัน
"ไปกินข้าวกันเถอะ" คุณพ่อชวน
"ไปกันค่ะน้องรัก" คุณแม่กลายเป็นคนเดินมาควงแขนผมแล้วพากันมาทานมื้อแรกร่วมกัน ผมหันหลังไปมองพี่เบียร์ที่เดินตามหลังมาตลอด เห็นคนตัวโตยิ้มให้ก็อุ่นใจ
วันนี้ผมก้าวเข้าไปใกล้ชิดพี่เบียร์อีกก้าวแล้ว
Oncloud69
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 พ.ย. 2564, 18:37:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 พ.ย. 2564, 19:01:29 น.
จำนวนการเข้าชม : 281
<< ไปบ้านของพี่เบียร์ | ทดลองเป็นแฟน >> |