แฟนเด็กพี่ภาคิน
เรื่องราวความสัมพันธ์ของเราเริ่มต้นเพราะผมเมาแล้วไปนั่งตักพี่เขา จากคนที่แอบชอบเงียบ ๆ จวนจะยอมแพ้แล้วเลิกชอบพี่เขาแล้วแต่พอได้ใกล้ชิดกันแบบนี้ผมกลับรู้สึกดีมากขึ้น เอาละ ผมจะชอบพี่ต่อไปก็ได้พี่เบียร์
Tags: แฟนเด็กพี่ภาคิน นิยายวาย oncloud69
ตอน: หนึ่งวันกับพี่หมอ
EPISODE : 32 หนึ่งวันกับพี่หมอ
"พี่หมอครับ" หลังวุ่นวายกับเรื่องความรักของตัวเอง จนเมื่อเคลียร์การบ้านเรียบร้อยพอมีวันหยุดทั้งทีผมเลยหาโอกาสเพื่อแวะมาหาพี่ชายสุดที่รัก พี่หมอก็หายหน้าไปนาน ไม่แวะมาหาผมเมื่อมีเคสเข้ามาเยอะ พี่ชายแสนดีที่กำลังจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย
"อ้าวน้องมาได้ไง" ผมฉีกยิ้มกว้าง ใบหน้าอิดโรยของพี่ชายคนบ้างานนั้นเป็นอย่างนี้มาโดยตลอดตั้งแต่พี่เลือกเรียนสัตวแพทย์ พี่บอกว่ารักสัตว์และอยากดูแลสัตว์ทุกตัวให้มีชีวิตที่ดีตั้งแต่นั้นมาพี่ก็ทำตามความปรารถนาของตัวเองโดยมีครอบครัวของเราสนับสนุน พี่หมอจึงได้เป็นสัตวแพทย์และเพิ่งจะมีคลีนิกของตัวเองเมื่อสามปีก่อน
"รักก็แวะมาหาพี่ชายสุดที่รักยังไงละครับ" ผมบอกพี่ชาย อยากอ้อนอยู่หรอกแต่พี่เหมือนจะยังทำงานไม่เสร็จ ถ้าพี่ชายทำงานไม่เสร็จก็จะไม่หันสนใจอย่างอื่นเป็นอันขาด
"เรื่องนั้นพี่รู้ครับ พี่แค่แปลกใจว่าทำไมวันนี้น้องมาหาพี่ได้" คนสายตาสั้นขยับแว่นตาของตัวเองพลางมองผมให้ชัด พี่ชายก็น่ารักทุกอริยบทแค่พี่ชายขยับตัวผมก็ว่าน่ามองหมด
"ก็รักคิดถึงพี่หมอนี่ครับ" ผมบอกน้ำเสียงอ้อน พี่หมอมองผมแล้วหันไปสนใจงานในจอคอมพิวเตอร์อีก ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเป็นผมเองที่มารบกวนเวลาทำงานของพี่ชาย
"ไม่ใช่ว่ามีแฟนแล้วหายหน้าจนลืมหน้าพี่ชายคนนี้ไปแล้วเหรอครับ" ผมสะดุ้งที่ได้ยินพี่ชายพูดอย่างนั้น พี่หมอรู้เรื่องที่ผมกำลังดูใจกับพี่เบียร์แล้วงั้นเหรอ ไม่รู้ว่าพี่จะโอเคกับคนนี้ไหม
"แฟนอะไรครับรักยังโสด ยังเป็นน้องชายของพี่หมอเหมือนเดิม"
"ถึงพี่จะงานยุ่งแต่ก็มีเวลาเล่นโซเชียลนะครับ" ผมอมยิ้ม ไม่ได้อยากปิดบังอะไรพี่ชายอยู่แล้ว เว้นแต่คุณป๊ารายนั้นไม่ชอบเล่นโซเชียลอยู่แล้วผมเลยถือว่าโชคดี พี่หมอเงยหน้าขึ้นมามองผม "แล้วเขาไม่มาด้วยเหรอ"
"ใครครับ" ผมรู้ว่าพี่หมอถามถึงพี่เบียร์แต่วันนี้พี่เบียร์ติดเรียนผมจึงได้แวะมาหาพี่ชายด้วยตนเอง
"แฟนน้องไงครับ ชื่อภาคินเรียนวิศวะใช่ไหม"
"โหสืบเยอะเลยแฮะ" กลายเป็นผมที่ตกใจเพราะพี่ชายรู้เรื่องของพี่เบียร์ ผมยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพี่เพราะที่ผ่านมามันเป็นแค่การแอบรัก เมื่อตอนนี้สถานะหัวใจผมมันพัฒนามากกว่าเดิม ผมจึงอยากจะมาบอกพี่ชายให้รับรู้ด้วยตนเอง
"บนโปรไฟล์เขาบอกแค่นั้น พี่ดูรอบเดียวก็จำได้" พี่หมอรีบอธิบาย ผมกลับรู้สึกชอบมากกว่าที่พี่ชายใส่ใจเรื่องคนรักของผม
"ฮ่า ๆ ครับรักรู้ว่าพี่หมอไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น" เพราะปกติถ้าไม่ใช่คนสำคัญในชีวิตพี่หมอจะไม่สนใจสักนิด ถ้าจะให้พูดถูกก็คือพี่หมอสนใจพวกสัตว์ตัวน้อยมากกว่าคนเสียอีก "แล้วในสายตาพี่หมอพี่เบียร์เขาเป็นไงบ้างครับ"
"ก็..." พี่ชายผมพูดแล้วเว้นช่วงไปยาว ทำเอาคนอยากรู้อย่างผมลุ้น ก็ผมอยากรู้ว่าพี่ชายจะชอบพี่เบียร์บ้างหรือเปล่า
"ว่าไงครับพี่หมอ พี่เบียร์คนนี้ผ่านไหมครับ น้องแอบรักเขาตั้งแต่เทอมที่แล้วแล้วไม่คิดไม่ฝันว่าเทอมนี้จะได้ใกล้ชิดกันนะครับ" ผมคาดคั้นเพราะคาดหวังกับคำตอบของพี่ชาย อยากให้พี่ชอบพี่เบียร์เหมือนอย่างที่ผมชอบ
"ก็แสดงว่าตอนนี้สมหวังแล้วใช่ไหม"
"สมหวังนิดเดียวครับ เรายังไม่ได้ตกลงคบหากัน แค่ดู ๆ ใจกันก่อน" ผมบอกตามความเป็นจริง ขอแค่พี่ชายชอบคนนี้ผมจะได้โล่งใจ เวลาผมรักใครผมก็อยากให้ครอบครัวของผมได้รักคนนั้นบ้าง
"ดูใจกันก่อนก็ดี ถ้าไม่ใช่สิ่งที่ต้องการทั้งสองฝ่ายจะได้เลิกกันไปได้ง่าย" เรื่องนั้นผมรู้
"แต่คนนี้รักจริงจังนะครับ ถ้าพี่หมอเจอคนที่ทำให้หัวใจเต้นรัวทุกครั้งที่เจอหน้าพี่หมอจะรู้ว่าเขาคือคนพิเศษ" แค่คิดถึงหน้าพี่เบียร์ความรู้สึกมายมากก็ถาโถมจนอยากเจอหน้ากันอีกแล้ว
"ครับ พอมีความรักแล้วพูดเก่ง" ผมคงพูดมากมากกว่าเดิม ก็มีแต่เรื่องพี่เบียร์นั่นแหละที่ผมพูดบ่อย "รอพี่แป๊ปเดียวนะ ใกล้จะเสร็จแล้ว"
"ครับ" ผมจำเป็นต้องนั่งรอพี่ชาย ระหว่างพี่หมอทำงานผมก็ถือโอกาสถ่ายรูปแล้วส่งให้น้องชายตัวดี เจ้าขาจะได้รู้ว่าวันนี้พี่ชายสุดรักถูกผมจองตัวหนึ่งวัน
ระหว่างนั้นมีลูกค้าเข้ามาในร้าน โดนที่มีคนรับใช้อุ้มสัตว์ตัวใหญ่ไว้ในอ้อมอก พี่หมอรีบลุกแล้วบอกให้พาเจ้าแมวไปข้างในห้องตรวจทันที
"คุณแม่" ผมแปลกใจมากเมื่อได้เจอคุณแม่ของพี่เบียร์ที่คลีนิคชองพี่ชายตัวเอง มันไม่บังเอิญเกินไปหน่อยเหรอ
"อ้าว น้องรักมาทำอะไรที่นี่คะ"
"รักมาหาพี่ชายครับ แล้วคุณแม่พาแมวมารักษาที่นี่ประจำเหรอครับ" ผมเอ่ยถามอย่างประหม่าและตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อบังเอิญเจอกับคุณแม่ของรุ่นพี่ที่กำลังดูใจกัน คุณแม่ของพี่เบียร์เดินมาใกล้พร้อมกับจับมือผม
"ใช่ค่ะ คุณแซม่อนไม่สบายอีกแล้วน่ะค่ะแม่เลยต้องพามาหาคุณหมออีก" น้ำเสียงดูกังวลเพราะเป็นห่วงสัตว์เลี้ยง แต่ผมมั่นใจในฝีมือของพี่ชายตัวเอง พี่หมอต้องรักษาคุณแซวม่อนได้แน่
"คุณหมอคนนั้นพี่ชายรักเองครับ ชื่อพี่เจ้าคุณ"
"ตายจริง โลกกลมอีกแล้วนะคะ แล้ววันนี้น้องรักมาคนเดียวเหรอคะ" บอกออกไปแล้วคุณแม่ก็ประหลาดใจอีกรอบเมื่อพี่ชายที่ผมพูดถึงคือคุณหมอที่รักษาคุณแซวม่อน
"ครับ พี่เบียร์มีเรียนผมคิดถึงพี่หมอก็เลยแวะมาครับ"
"ค่ะ งั้นเดี๋ยวแม่มาคุยด้วยนะคะ"
"ครับ" ว่าแต่ทำไมผมต้องคิดถึงพี่เบียร์ด้วย บอกไปว่ามาหาพี่ชายก็จบจะไปพูดถึงพี่เบียร์ไปทำไม คุณแม่เดินเข้าไปข้างในด้วยสีหน้ากังวล ผ่านไปหลายนาทีคุณแม่ก็เดินออกมา ผมลุกขึ้นไปหาพร้อมถามอาการแมวตัวนั้น
"เป็นไงบ้างครับ คุณแซวม่อนปลอดภัยนะครับ"
"อาการแย่ลงค่ะแต่อยู่ในมือคุณหมอแล้วแม่ก็หายห่วงค่ะ" คุณแม่ยิ้มสู้แม้ว่าอาการคุณแซวม่อนจะไม่ได้ดีขึ้นมาในทันตา ผมพาคุณแม่พี่เบียร์มานั่งแล้วปลอบโยน คุณแม่คงรักเจ้าแมวมากแน่
"ครับ พี่หมอเขาเก่ง รักษาสัตว์ทุกตัวด้วยใจรักและจิตวิญญาณ รักว่ายังไงคุณแซวม่อนก็หายป่วยอีกครับ" ผมมั่นใจสุด ๆ คุณแม่ระบายยิ้มพลางสำรวจมองหน้าผมจนผมรู้สึกประหม่า
"ค่ะแม่ก็เชื่ออย่างนั้น แล้วช่วงนี้น้องรักเป็นยังไงบ้างคะไม่แวะไปที่บ้านอีกเลย" ได้ยินคุณแม่พูดแล้วผมก็รู้สึกตื่นเต้นกว่าเดิม คุณแม่พี่เบียร์ยินดีให้ผมไปที่บ้านอีก
"ช่วงนี้ก็งานเยอะนิดหน่อยครับแล้วคุณแม่สบายดีนะครับ"
"สบายดีค่ะ แม่คิดถึงน้องรักนะคะถ้าว่างก็แวะไปหาที่บ้านได้เสมอ"
"ครับคุณแม่" แม้จะฟังดูแปลกไปหน่อยแต่ผมกลับชื้นใจที่คุณแม่ของคนที่แอบรักรู้สึกดีด้วย ผมนั่งมองไปยังประตูห้อง เฝ้ารอการออกมาของคุณหมอเพื่อบอกอาการของเจ้าแมวตัวนั้น ขอให้คุณแซวม่อนหายป่วยไว ๆ
"ว่าแต่ทานข้าวกันมาหรือยังคะ ชวนคุณหมอไปทานข้าวด้วยกัน นี่ก็ใกล้เวลาพักเที่ยงแล้ว" คุณแม่ใจดีชวนไปทานข้าวด้วย จะปฏิเสธผมก็เกรงใจเพราะตอนเช้ามาผมก็ทานแค่ซีเรียลกับนมแค่นั้น ตั้งใจว่าจะมาทานมื้อเที่ยงกับพี่หมอ
"รักยังไม่ทานเลยครับ แต่เรื่องจะไปทานข้าวด้วยกันรักคงต้องถามพี่หมอก่อนนะครับว่าสะดวกไปด้วยไหม" หากพี่หมอสบายใจจะไปทานข้าวด้วยกันมันก็ยิ่งดี เพราะผมเองก็อยากให้พี่ชายได้รู้จักกับคุณแม่ของพี่เบียร์ในฐานะคุณแม่ของคนที่ผมแอบรักไม่ใช่ในฐานะลูกค้าที่พาแมวมารักษา
"ค่ะลูก น้องรักถามคุณหมอก่อนก็ได้ค่ะถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ"
"ครับ" นั่งรอจนพี่หมอรักษาคุณแซวม่อนเสร็จ คุณแซวม่อนปลอดภัยดีแล้วแต่ต้องอยู่รออาการที่คลีนิกก่อน ผมถามถึงเรื่องไปทานมื้อเที่ยงแม้จะโดนเขกหัวไปหนึ่งครั้งแต่สุดท้ายพี่หมอก็ยอมไปทานข้าวด้วย กลายเป็นว่าพี่เบียร์เห็นรูปผมทานข้าวกับแม่ของตัวเองด้วยความงุนงงจึงได้ทักมาหา
'อยู่ไหนแล้วครับ'
'อยู่ข้างนอกครับ'
'ทานข้าวกับใครอยู่เหรอครับ'
'พี่เบียร์พูดถึงเรื่องอะไรครับ'
'นั่นสิ พี่พูดถึงเรื่องอะไรอยู่'
'ส่งสติกเกอร์หน้ายิ้ม'
'ส่งรูปภาพ'
'แม่พี่อวดใหญ่เลยครับ ว่าแต่ไปเจอกันได้ยังไงครับ'
'ความลับครับ'
'ความลับอีกแล้วนะครับ'
'พี่เบียร์มีเรียนอีกไหมครับ'
'วันนี้หมดแล้วครับแต่พี่แวะมาร้านเฮียกับเพื่อนครับ ว่าแต่เราจะกลับมอ.เมื่อไหร่ครับ พี่คิดถึง'
'ส่งสติกเกอร์ยิ้มกว้าง'
'ทุ่มนึงครับพี่หมอไปส่ง'
'โอเคครับ ฝากหอมแก้มคุณแม่พี่ก่อนจะกลับด้วยนะครับ บอกว่าพี่ฝากมา'
'จะบ้าเหรอครับ รักไม่กล้าทำหรอก'
'เป็นลูกชายสุดรักของคุณแม่พี่แล้ว เรื่องแค่นี้คุณแม่อนุญาตแน่ครับ'
"นั่งยิ้มอยู่นั่น ข้าวล่ะเมื่อไหร่จะกิน" ผมละสายตาจากมือถือแล้วเงยหน้ามองพี่ชายกับคุณแม่ของพี่เบียร์ กลางโต๊ะอาหารที่มีผู้ใหญ่คุยกันแต่ผมกลับเสียมารยาทมาคุยแชทกับพี่เบียร์
"พี่หมออย่าดุสิครับ" พอโดนดุเข้าผมก็ใช้ไม้อ้อนเข้าสู้ คุณแม่ที่นั่งข้าง ๆ ถามผมด้วยรอยยิ้มหวาน
"ว่าแต่คุยกับพี่เบียร์เหรอลูก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลย"
"ครับ พี่เบียร์บอกว่าก่อนกลับฝากหอมแก้มคุณแม่แทนพี่เบียร์ด้วยครับ" ก็พี่เบียร์ฝากมาอย่างนั้นผมก็บอกไปถึงแม้จะรู้สึกเขินเล็กน้อย คุณแม่พี่เบียร์ก็ช่างน่ารัก นอกจากไม่ถือตัวแล้วยังทำตัวสนิทสนมกับผมด้วย แบบนี้ผมก็ยิ่งได้ใจนะซิ
"เอาสิ ๆ ตาลูกคนนี้ก็ช่างร้ายนักนะไม่บอกแม่ก็รู้ว่าพี่เบียร์อยากให้น้องรักมาเป็นลูกแม่อีกคน"
"รักไม่กล้าหรอกครับ" ผมส่ายหน้าเพราะความเขิน ยิ่งมีพี่ชายอยู่ด้วยผมก็ยิ่งเขิน กับคุณแม่ตัวเองที่นานครั้งจะเจอกันก็มีหอมแก้มกันบ้างแต่มาเป็นคุณแม่ของพี่เบียร์มาก็ขัดเขินเล็กน้อย
"มา ๆ ขยับมาค่ะลูกเดี๋ยวแม่ถ่ายรูปอวดคนไม่มาค่ะ"
"ครับ" และต่อมาพี่เบียร์ก็ได้รูปที่ผมหอมแก้มคุณแม่ส่งไปให้ หลังทานมื้อเที่ยงเสร็จคุณแม่ก็ขอตัวกลับเหลือเพียงผมกับพี่หมอแค่สองคน
"โอ๊ย ๆ เจ็บจังเลย" ผมแกล้งร้องโอดครวญเมื่อถูกพี่ชายเขกหัวให้อีกรอบ ทำไมชอบเขกหัวผมก็ไม่รู้ พี่หมอส่ายหน้าคล้ายกับเอือมระอากับมุขเจ็บตัวของผม
"ทะเล้นละ พี่ไม่ได้มือหนักขนาดนั้น"
"ฮา ๆ รักล้อเล่นครับ แล้วเราจะไปไหนกันต่อดีครับนานทีพี่หมอจะว่างมีเวลาให้น้องชาย" ก็เพราะเป็นพี่ชายที่รักเลยรู้ว่าผมแค่แกล้งเรียกร้องความสนใจ พี่หมอเช็ดแว่นตัวเองแล้วใส่กลับไปใหม่ ในบ้านของเราก็มีพี่หมอกับคุณแม่นี่แหละที่ใส่แว่นเพราะสายตาสั้น
"ว่างที่ไหนเรามาขโมยเวลาทำงานของพี่ต่างหาก"
"โห ปากคอเราะรายจัง" ผมยู่ปากเมื่อถูกพี่ชายบ่น แต่ผมก็มาขโมยเวลาทำงานของพี่หมอจริงนั่นแหละ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด
"ไปดูหนังกันไหมหรือไปช็อปปิ้งดี" ผมครุ่นคิดหลังจากพี่ชายเสนอ ความจริงก็มีอีกหลายสถานที่ที่อยากไปเพราะผมเบื่อกับสองตัวเลือกนี้แล้ว
"รักอยากนั่งชมวิวมากกว่า แต่ช่วงบ่ายแดดแรง เราไปหอศิลป์ฆ่าเวลาแถมยังมีรูปอวดน้องเจ้าดีกว่านะครับ" ผมลองเสนอ ก็มันนานแล้วที่ไม่ได้เดินเล่นกับพี่ชาย ถ้ามีเวลาอีกหน่อยผมอยากพาพี่ชายไปสวนสนุกมากกว่า
"เราน่ะนะ เป็นพี่น้องคลานตามกันมาแท้ ๆ ทำไมถึงได้ไม่ถูกชะตากัน" พี่ชายคนโตก็คงแปลกใจนั่นแหละว่าทำไมผมกับน้องเจ้าถึงได้ทะเลาะกันตั้งแต่เด็กจนโต
"ก็น้องเจ้านิสัยไม่ดี วันก่อนก็ยังมาป่วนทำให้รักกับพี่เบียร์ทะเลาะกัน"
"จริงร้อยเปอร์เซ็นแน่นะ" ผมเห็นพี่หมอหรี่ตามอง คงรู้ดีอีกว่าผมกำลังใส่ร้ายน้องเจ้าอีก พอโดนจับไต๋ได้ผมก็ได้แต่บอกเสียงอ่อน จะหลอกพี่หมอหลอกไม่เคยจะได้เลย
"ก็เจ็ดสิบเปอร์เซ็นส่วนอีกสามสิบเปอร์รักเติมแต่งเอง" พูดออกไปแล้วพี่หมอก็ดีดหน้าผากใส่หน้าผม "โอ๊ย พี่หมอ"
"เห็นไหม เราน่ะคิดมากเรื่องเจ้าขา เป็นพี่น้องกันก็รักกันสิจะทะเลาะกันตั้งแต่เล็กจนโตหรือไง" พี่ชายบ่นผมเรื่องน้องเจ้าอีก รายนั้นเกิดมาแล้วทำให้ผมดูไม่ดีกับทุกคนเลย ยังโชคดีที่มีเพื่อนแสนดีทั้งสองคนเข้าใจผม ก็น้องเจ้ามาแกล้งผมก่อน
"ไม่รู้แหละถ้าน้องเจ้ายังแกล้งรัก รักก็ไม่ยอม"
"นิสัยดื้อรั้นกันทั้งสองเลย" พี่หมอโอบกอดผมแทนเมื่อเราพากันเดินมายังรถ ถึงพี่หมอจะไม่เลือกเข้าข้างใครแต่พี่หมอเป็นพี่ชายที่ดีมาก ๆ รักน้องและไม่ชอบให้ผมกับเจ้าขาทะเลาะกัน
"งั้นถ้าให้เลือกระหว่างรักกับน้องเจ้าพี่หมอรักใครมากกว่ากันครับ" ผมถามพี่ชายขึ้น ก็มันอยากรู้นี่น่า พี่หมอมุ่นคิ้วเล็กน้อย เท้าหยุดเดินเพื่อมาคุยกัน
"อย่าถามเหมือนให้พี่เลือกระหว่างคุณป๊ากับคุณแม่สิ พี่เลือกใครสักคนไม่ได้เพราะพี่รักทั้งสอง น้องของพี่สองคนพี่ก็รักเท่ากัน" ซีเรียสมากจนผมอดที่จะขำพี่ชายไม่ได้ พี่หมอช่างไม่รู้จักวิธีเอาใจเสียเลย
"พี่หมอนี่ไม่ได้เรื่องเลย เป็นรักล่ะก็ถ้าตอนนั้นใครถามก็บอกว่ารักคนนั้นครับ เพราะยังไงคนถามก็อยากได้คำตอบว่าเป็นตัวเองอยู่ดี"
"อ้อ งั้นพี่ต้องตอบว่ารักน้องมากกว่าน้องเจ้าสินะ" เหมือนพี่หมอจะเพิ่งเข้าใจผมพยักหน้าทันที ก็ที่อยากได้ยินคือพี่หมอรักผมมากกว่าน้องเจ้านั่นแหละ ผมยิ้มพอใจทันทีเมื่อพี่ชายเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการ
"ถูกต้องนะครับ พี่หมอพูดบอกรักรักใหม่นะครับ รักจะถ่ายวิดีโออวดน้องเจ้า"
"ครับ ๆ" เมื่อพี่หมอยอมพูดบอกรักให้ผมได้ถ่ายวิดีโอเพื่อแกล้งน้องเจ้าเสร็จ เราก็เดินกันมาถึงรถของพี่หมอ ผมมัวแต่กดส่งวิดีโอและคุยแชทกับน้องเจ้าอย่างดุเดือด คอยดูวันนี้ผมจะอวดรูปส่งไปให้เจ้าขาได้กระอัดไปเลย มาแกล้งผมก่อนดีนัก จนเมื่อพี่หมอเปิดประตูจะขึ้นรถผมเลยเงยหน้าเรียก
"พี่หมอ"
"ครับ"
"ตอนนี้รักกำลังมีความรักนะครับ พี่หมออาจจะเคยเห็นรูปพี่เขามาบ้างแล้วและก็เพิ่งจะเจอคุณแม่ของพี่เบียร์เขาด้วย แต่กับคนนี้รักจริงจังนะครับ รักชอบพี่เขามากและอยากอยู่กับพี่เขาไปนาน ๆ" ผมบอกในเรื่องที่อยากจะบอกมานาน อย่างน้อยผมก็อยากให้มีคนในครอบครัวได้ยินดีกับความรักของผม แต่ก่อนที่คุณป๊าจะรู้เรื่องผมต้องบอกทุกคนเพื่อเป็นกำลังเสริมไว้ต่อกรกับคุณป๊า เมื่อตอนนี้น้องเจ้าขารู้แล้ว พี่หมอก็รู้ ก็เหลือแต่คุณแม่ ผมจะรีบหาโอกาสเหมาะเพื่อแนะนำคนที่ผมรักให้ เชื่อว่าคุณแม่ต้องรักพี่เบียร์เหมือนอย่างที่ผมรัก
"อือพี่รู้แล้ว วันว่าง ๆ ก็พาเขามาแนะนำให้พี่รู้จักด้วยละ"
"ครับ แต่พี่หมอห้ามบอกคุณป๊าเรื่องพี่เบียร์นะครับรักไม่อยากถูกคุณป๊าดุ" ผมเอ่ยขอเพราะหากคุณป๊ารู้เรื่องเมื่อไหร่ คนหวงลูกอย่างคุณป๊าคงไม่ยอมให้ผมได้คบหากับพี่เบียร์
"ได้สิ"
"น่ารักที่สุด พี่ชายสุดที่รักของรักน่ารักกว่าใครเลย" ผมชอบพี่หมอก็ตรงนี้ ตามใจผมทุกอย่างไม่ขัดใจและชวนทะเลาะเหมือนน้องเจ้า เราต่างเปิดประตูรถแล้วขึ้นรถเพื่อออกเดินทางกัน
"น่ารักกว่าแฟนน้องหรือเปล่า" พี่หมอไม่วายล้อผมเรื่องพี่เบียร์
"ตอนนี้ยังไม่ใช่แฟนสักหน่อยครับ"
"เดี๋ยวก็เป็น" ผมยิ้มกว้างเมื่อคิดว่าจะได้เป็นแฟนของพี่เบียร์อย่างที่พี่หมอบอก
"พี่หมออย่าพูดให้ดีใจสิครับ ดีใจมาก ๆ รักก็คิดถึงพี่เขาอีก"
"อาการหนักแล้ว" ฮา ๆ คงใช่อย่างที่พี่หมอว่านั่นแหละว่าแล้วผมก็หยิบมือถือมาแชทคุยกับเบียร์ ผมเชื่อแล้วว่าความคิดถึงมันฆ่าคนได้
Oncloud69
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ธ.ค. 2564, 09:36:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ธ.ค. 2564, 09:36:53 น.
จำนวนการเข้าชม : 308
<< ออกกำลังกายด้วยกัน | นายจีบได้ป่าว >> |