สาวสุดเซอร์ฯ: Special Chapter
ความรักไม่ได้สวยงามเสมอไป บนเส้นทางของความรักของหนุ่มสาวสองคนที่แตกต่าง วันหนึ่งเมื่อรอยร้าวมันเกิดขึ้น ในที่สุดก็ถึงจุดที่ต้องเลือก
Tags: สิรินดา, สาวสุดเซอร์, นรี, คีตา

ตอน: เรื่องเซอร์ไพรส์...กว่า

หกเดือนต่อมา....

คีตารู้สึกเหมือนกำลังถูกหินหรือก้อนเหล็กน้ำหนักหลายกิโลกรัมมาถ่วงไว้ทั่วร่าง ร่างกายหนักอึ้ง ในขณะที่หน้าผากร้อนรุ่ม

…ในที่สุดมันก็เกิดขึ้น ความเจ็บปวดสุดแสนจะปวดแล่นไปทั่วร่างกายที่แทบไม่เคยป่วยตลอดหลายปีที่ผ่านมา…

เมื่อวานทุกอย่างก็ยังดูปกติดี เขามีประชุมยาวทั้งวัน จนได้เวลาเคลียร์เอกสารค้างก็เย็นมากแล้ว จนได้กินอาหารเย็นคนเดียวในห้องทำงาน มันอาจไม่สามารถเรียกว่าอาหารได้ เพราะเป็นเพียงแซนด์วิชหนึ่งชิ้นกับกาแฟร้อนแก้วที่สามของวัน เข้านอนไปตอนตีสอง หลังจากตรวจงานชิ้นสุดท้ายเรียบร้อย ตอนนั้นทุกอย่างของร่างกายก็ดูปกติดี

ถึงตอนนี้…ชายหนุ่มพยายามจะลืมตา แต่มันก็ทำได้ยากลำบากเหลือเกิน หลังจากค่อย ๆ กัดฟันขยับแขนจนมือหนาค่อย ๆ ควานไปที่โต๊ะด้านข้างเพื่อจะหาโทรศัพท์มือถือ และเกือบทำมันตกเพราะข้อนิ้วที่ไร้เรี่ยวแรง สมองของเขาหมุนติ้ว ก่อนจะขยับเปลือกตาให้เปิดออกอย่างยากเย็น และเลือกกดเบอร์ฉุกเฉินที่เก็บไว้

เสียงปลายสายกดรับเมื่อเสียงโทร. ออกดังครั้งที่สาม แต่คนต้นเรื่องกลับไม่สามารถเอ่ยออกมาเป็นเสียงได้

สิบห้านาทีต่อมา…

“พี่คี พี่คี” ร่างสูงของเพื่อนร่วมงานคนสนิทยืนอยู่ชิดเตียงและเขย่าร่างของคีตาเบา ๆ พักใหญ่ชายหนุ่มจึงลืมตาขึ้น เหมือนจะพยายามพูดอะไรสักอย่างแต่เสียงที่เปล่งออกจากลำคอกลับกลายเป็นเสียงเบาหวิวแทบจับใจความไม่ได้ และเดาเอาว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้ยินเช่นกัน

“…”

“พี่คี ไหวไหม ไปโรงพยาบาลกัน”

“เจตน์…” คีตาเค้นเสียงเอ่ยด้วยพลังทั้งหมดที่มี เหงื่อซึมที่หน้าผาก ลมหายใจหอบกระชั้น เขาพยายามจะส่ายหน้าด้วยเรี่ยวแรงน้อยนิด จากนั้นสติก็ดับวูบไปอีกครั้ง

ณ โรงพยาบาลเอกชนใกล้บ้านพักของคีตา ในห้องไอซียู ชายหนุ่มร่างสูงนอนหลับตามีผ้าพันแผลพันรอบศีรษะ ร่างกายซีดเซียวผิดกับภาพเจ้าของบริษัทที่มีแววตาคมกริบ และมาดนิ่งที่เตะตาสาว ๆ หลายคนอย่างเคย

หน้าห้อง ชายหนุ่มร่างสูงที่เหมือนเป็นมือขวาในการทำงานยืนอยู่กับ นรีและสริสา

“นรีกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” เจตน์ถามแปลกใจ

“เพิ่งกลับมา พี่ก็พามานี่เลย” สริสาตอบแทนคนที่ทำเหมือนจะชะงักไม่แน่ใจว่าจะตอบอย่างไรดี “หมดเวลาพักร้อนแล้ว”

“พี่เก๋ก็” นรีก้มหน้า เม้มปาก

“หมอว่าไงบ้าง” สริสาถามชายหนุ่มร่างสูงที่เป็นคนพาคนป่วยมาส่งโรงพยาบาล

“อาการโดยทั่วไปยังอยู่ในระดับดีครับ แต่ส่วนสมองได้ผลกระทบแค่ไหน อาจจะต้องรอถามคุณหมอเพิ่ม”

“แล้ว…เอ่อ…แฟนเขาล่ะ” สริสามองไปรอบตัว เมื่อไม่พบคนที่คิดว่าน่าจะตามมาดูแลคีตาจึงเอ่ยถามขึ้น แล้วก็แอบเห็นว่าร่างบางของคนข้างตัวที่ดูเหมือนจะผอมไปกว่าเดิมหลายกิโลกรัมเบือนหน้าออกเมื่อเธอถามคำถามนั้นกับลูกน้องคนสนิทของคนป่วย “ขอโทษที่ต้องถามนะ แต่ตั้งแต่พี่มา ไม่เห็นมีใครมาดูแลคีเลย นอกจากเจตน์”

สริสาเองก็ไม่ได้ติดต่อกับคีตาเลยนับแต่เกิดเรื่อง

นรีส่ายหน้าเมื่อเห็นคนถูกถามอึกอัก “เรื่องนั้นช่างมันเถอะพี่เก๋...เรามาเยี่ยมคนป่วยนะคะ”

“ช่างมันได้ยังไง…ทำไมทิ้งคีไว้อย่างนี้? พี่ไม่เข้าใจ”

เจตน์ก้มหน้า เพราะเขาเองก็ตอบเรื่องนี้ไม่ได้เช่นกัน จังหวะเดียวกันนั้นพยาบาลก็เดินมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับญาติคนไข้ ชายหนุ่มจึงผละไปคุยด้วย

สริสาได้เห็นว่านรีมองตามเจตน์ไป เจ้าตัวแอบเอาปลายนิ้วกรีดน้ำตาหยดหนึ่งที่ปลายหางตา

“พี่ขอโทษที่พูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมานะนรี…แต่มันอดไม่ได้จริง ๆ” สริสาดึงมือของนรีมากุมไว้หลวม ๆ

“นรีเข้าใจค่ะ…แล้วเขาจะเป็นไรไหมคะพี่เก๋” เสียงสุดท้ายเบาหวิว

“เฮ้อ โกรธก็โกรธนะ แต่พอเห็นคีเป็นอย่างนี้ก็อดที่จะสงสารไม่ได้”

นรีมองตามสายตาของพี่สะใภ้ เธอเข้าใจได้ว่าทำไมสริสาจึงผูกพันกับคนตรงหน้า พี่ชายของเธอจากไปหลายปีแล้ว ความทรงจำดี ๆ ยังมีอยู่ และคนที่นอนอยู่บนเตียงคือเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทที่สุดของพี่นุภาพ ทั้งคู่ก่อร่างสร้างบริษัทซอฟต์แวร์ซึ่งตอนนี้มีแพลตฟอร์มเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยทางออนไลน์ที่ใช้กันในหลายประเทศด้วยกันมา

ตอนที่เธอเกิดเรื่องกับคีตา สริสายังเคยเอ่ยแบบเสียดายว่าถ้าหากนุภาพยังอยู่ คงไม่ปล่อยให้เรื่องเลยเถิดไปจนต้องแยกกันแบบนี้

เจตน์หายเข้าไปคุยกับพยาบาลพักใหญ่ก็เดินออกมา

“พยาบาลว่ายังไงบ้าง”

“พี่คีมีระบบหายใจผิดปกติ ต้องปรับทำอะไรเพิ่มนิดหน่อย น่าจะฟื้นดึก ๆ ครับ แล้วก็ต้องอยู่โรงพยาบาลอีกประมาณหนึ่งอาทิตย์เพื่อดูผลข้างเคียง หลังจากนั้นถ้าอาการทรงตัวอาจย้ายเข้าห้องธรรมดาได้” ร่างสูงตอบ “ตอนนี้ก็ได้แต่รอ”

“คีเอ๊ย ทำไมโชคร้ายอย่างนี้ไม่รู้นะ แล้วนี่เจตน์มีงานไหม จะให้พี่หาคนเฝ้าแทนให้ไหม”

“ไม่เป็นไรครับ พี่คีสั่งไว้ตั้งแต่เริ่มรู้ว่าไม่สบายแล้ว”

สริสาเลิกคิ้ว “รู้?”

เจตน์ก้มหน้าหลบตา “ครับ รู้มาสักพักแล้วว่ามีเนื้องอกในสมอง พี่คีมีแผนนัดหมอผ่าตัดเดือนหน้า พอเกิดเรื่องเสียก่อนหมอเลยผ่าตัดด่วน”

สริสาหันมาหานรี ทั้งคู่สบตากัน และนรีส่ายหน้า

“นรีไม่ทราบมาก่อนค่ะ ไม่ได้ติดต่อกันเลย”

“พี่ก็เหมือนกัน ไม่ได้คุยกันต่อหน้าเลย มีโทรหากันบ้าง เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่บอก” พี่สะใภ้ของนรีหันไปหาเจตน์

“ผม…ก็ไม่ทราบครับ อาจจะตอนนี้ยุ่ง ๆ กันอยู่”

สริสาส่ายหน้า

“ถ้าไม่มีอะไร นรีขอกลับก่อนนะคะ บอกเพื่อนว่าจะขอไปนอนคอนโดเพื่อนก่อน” คนที่เงียบฟังอยู่ตลอดเวลาเอ่ย

“เดี๋ยวสิ อยู่อีกพักเถอะ เดี๋ยวกลับด้วยกัน” หญิงสาวอีกคนเอ่ย “อยู่เป็นเพื่อนเจตน์ก่อน”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเตรียมตัวมาเรียบร้อย ค้างคอนโดรุ่นน้องใกล้ ๆ นี่เอง คงไป ๆ มา ๆ อยู่ดูแลจนกว่า...จะหาคนดูแทนได้ ตอนนี้น้อง ๆ ที่บริษัทกำลังช่วย ๆ กันครับ”

คนพูดเห็นแววตาวูบไหวของหญิงสาวผมซอยสั้นกุดทั้ง ๆ ที่มันเคยยาวจนถึงกลางหลัง แม้จะพยายามทำเป็นไม่ใส่ใจก็ตาม

“แย่ตรงพี่คีไม่มีใครนี่แหละครับ ผมเองก็วุ่น ๆ ต้องช่วยดูบริษัท หยุดงานได้อย่างมากก็อาทิตย์เดียว ออกจากโรงพยาบาลยังไม่รู้ยังไงเลย”

“...”

“คีเอ๊ย...อยากตีก็อยากตี สมน้ำหน้าก็สมน้ำหน้า” สริสาเอ่ย “ถ้ายังดี ๆ กันอยู่อย่างน้อยนรีก็ยัง...”

“นรีกลับก่อนนะคะ ต้องกลับจริง ๆ ค่ะ นึกได้ว่ามีงาน” คนร่างเล็กพูดสวนออกมา “พี่เก๋อยู่คุยกับเจตน์ไปก่อนก็ได้ ....สวัสดีค่ะ”

“นรี...” สริสาพยายามจะเรียกคนที่พนมมือไหว้และหันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ทัน “นรีเอ๊ย”

เจตน์ถอนหายใจหนักหน่วง “โคตรหน่วงเลยพี่”

คนฟังพยักหน้า “จริงด้วย...สงสารนรี ดูจากสายตาก็รู้ว่าห่วงน่าดู แต่ทำอะไรไม่ได้ เลยต้องกลั้นใจกลับไปแบบนั้น”

“ครับ พี่คีก็ไม่รู้จะกลับมาเป็นปกติได้หรือเปล่า”

สริสาส่ายหน้า

“แล้ว เราจะทำยังไงกันดีครับพี่” คราวนี้อีกฝ่ายถามจริงจัง “ผมมองคู่นี้มาพักใหญ่แล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่อง พี่คีก็กลายเป็นใครก็ไม่รู้ที่ผมแทบไม่รู้จัก ส่วนคุณนรีก็...ไม่ได้เจอกันเลย แต่เห็นตัดผมเสียสั้นกุดแบบนั้น เห็นแววตา ผมก็รู้ได้ว่าเจ็บปวดไม่แพ้กัน”

“พี่ก็ไม่รู้ทำไงเหมือนกัน” สริสาตอบ คิดถึงสามีที่เสียชีวิตไปแล้ว ถ้าเขายังอยู่คงช่วยตัดสินใจเรื่องนี้ได้



ห้าเดือนก่อน-วันวาเลนไทน์

วันนี้นรีมาคุยงานกับลูกค้าเจ้าของคอนโดสร้างใหม่ยังไม่เสร็จดีที่นอกเมือง บริษัทของนรีรับตกแต่งภายในห้องตัวอย่างและพื้นที่ส่วนกลาง หญิงสาวมาเตรียมงานที่ได้รับมอบหมายเพิ่มก่อนที่จะเปิดตัวคอนโดอย่างเป็นทางการจึงเข้ามาดูสถานที่จริงและดูความเรียบร้อยของงานด้วย

เนื่องจากบริษัทของคุณกฤษณ์ซึ่งเป็นลูกค้าเก่าแก่ของ ANZ design แถมเคยให้นรีทำงานพิเศษให้หลายชิ้น ทำให้หญิงสาวใช้เวลาอ้อยอิ่งคุยงานด้วยนานกว่าปกติ

“ไปดื่มกาแฟกันไหมนรี” เจ้าของโครงการบอก “ผมให้เขาทำร้านกาแฟที่ใต้คอนโด ที่ให้นรีออกแบบเลย์เอาต์ให้นั่นแหละ ตอนนี้จ้างบาริสต้ามือดีมาเลยนะ กาแฟอร่อยมาก”

นอกจากพื้นที่พักผ่อน ที่นี่ยังวางแผนให้มีมอลล์ขนาดเล็กใกล้ ๆ มีร้านกาแฟเก๋ ๆ แต่เป็นส่วนตัวอยู่ด้านล่างหญิงสาวดูนาฬิกาข้อมือ ยังมีเวลา และลูกค้ารายนี้ก็น่าคุยด้วยไม่น้อย เผื่อจะได้โครงการเพิ่ม

“ได้สิคะ แต่ว่า คุณกฤษณ์ชวนดื่มกาแฟ จะให้นรีทำอะไรให้อีกแน่ ๆ”

คนชวนหัวเราะ เดินนำหน้าอีกฝ่ายออกมาจากห้องประชุมเล็ก

“รู้จริง” เขาเดินไปเปิดลิฟต์ ออฟฟิศชั่วคราวของคุณกฤษณ์อยู่ชั้นสาม ทำให้ทั้งคู่ใช้เวลาพักหนึ่งในการรอลิฟต์ที่กำลังเคลื่อนตัวมาจากชั้นสิบเอ็ด “กะว่าจะให้บริษัทของนรีออกแบบตกแต่งคอนโดโครงการใหม่ที่หัวหินให้ ขอคิวไว้ก่อนได้ไหม แบบคอนโดยังไม่เสร็จ น่าจะปีหน้าถึงเริ่มงาน”

“ให้คุยคอนเซปต์กันก่อนก็ได้ค่ะจะได้เข้าใจแบบแต่ต้น”

“ก็ดีนะ”

ลิฟต์เปิดออก ภายในลิฟต์มีคนอยู่ก่อนหน้าสามคน คนที่อยู่ติดกับประตูน่าจะเป็นพนักงานขายซึ่งพาลูกค้าคู่หนึ่งไปดูห้องข้างบน ทั้งคู่น่าจะเป็นคู่รัก เพราะยืนจับมือกันและฝ่ายหญิงเอนตัวไปซบไหล่ของฝ่ายชายอย่างใกล้ชิด

นรีเบิกตากว้าง…รู้สึกเหมือนจะหยุดหายใจ

คุณกฤษณ์ผายมือให้นรีเข้าไปก่อน หญิงสาวชะงักไปสองสามวินาที แล้วก็ได้สติเดินเข้าไปก่อนโดยที่มีลูกค้าคนสำคัญเดินตามเข้าไปติด ๆ และพนักงานรีบยกมือไหว้

“พักนี้งานเยอะไหมนรี” คนข้างตัวของนรีหันมาถามหลังจากพยักหน้าให้พนักงานต้อนรับแล้ว

“...อะ...ก็ เยอะค่ะ แต่ถ้าคุณกฤษณ์ต้องการด่วน นรีให้น้อง ๆ ในทีมทำให้ก่อนได้ค่ะ”

“อยากได้ฝีมือนรีมากกว่า” เขาตอบ “ทำกันมาหลายโครงการไว้ใจ เชื่อมือกว่า”

นรียิ้มเฝื่อน รู้สึกว่าข้างหลังมีเสียงคุยกันเบา ๆ กลิ่นน้ำหอมนี้เธอจำได้...เพราะเธอซื้อให้เขาเอง

“พี่คีว่าโอเคไหมคะ บีว่าราคามันโอเคมากเลยนะคะ”

“ก็...แล้วแต่บี”

“ห้องราคานี้มีเฉพาะช่วงวาเลนไทน์นี้เท่านั้นนะคะ เราจัดโปรพิเศษจริง ๆ ค่ะ ถ้าคุณลูกค้าไม่รีบตัดสินใจ เดี๋ยวโครงการเสร็จห้องสวย ๆ จะไม่เหลือ” พนักงานขายรีบนำเสนอ เพื่อจูงใจให้ปิดการขายโดยเร็ว

นรีเม้มปาก รู้สึกว่าลิฟต์มันช่างเคลื่อนตัวลงไปถึงชั้นล่างช้าเหลือเกิน

…แล้วแต่บี…คำนั้นสะท้อนไปมาให้สมองของนรี

วันนี้คีตาบอกว่ามีธุระต้องไปประชุมต่างจังหวัด และกลับบ้านค่ำจึงอาจอยู่ฉลองวันวาเลนไทน์ด้วยกันไม่ได้ เขาให้ของขวัญไว้ก่อนแล้วตั้งแต่ยี่สิบเจ็ดมกราคม

…เธอไม่คิด…ว่านั่นคือคำโกหก

เขาไม่ได้ไปต่างจังหวัด

แต่เขามาซื้อคอนโดใหม่ ราคาหลายร้าน กับผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่ง…ที่เธอไม่เคยเห็นหน้า

…แล้วแต่บี…

หญิงสาวกำมือแน่นเมื่อก้าวออกจากลิฟต์และเดินตามคุณกฤษณ์ไปยังร้านกาแฟ สมองพร่าเบลอ มึนชาจนแทบจะคุยกับลูกค้าไม่รู้เรื่อง ในขณะที่คู่ชายหญิงเดินตามพนักงานขายไปยังสำนักงานขาย

…เขาไม่แม้แต่แสดงว่ารู้จักเธอ ซึ่งเป็นภรรยา…

และแต่งงานกันมากว่าสี่ปีแล้ว

.

.

.

.



สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ก.พ. 2565, 17:45:52 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ก.พ. 2565, 17:45:52 น.

จำนวนการเข้าชม : 474





<< เมื่อคีตาเปลี่ยนไป   เรื่องจำใจ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account