กรงตะวัน: ดาริยา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เรื่องย่อ:
ความรักแสนงดงามก่อเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศชวนฝัน ในดินแดนแห่งทิวลิป ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์
ใครจะคาดคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 'เอกตะวัน' อาจารย์หนุ่มลูกครึ่งไทย-ดัตช์ และ 'จันทร์กันยา' ลูกศิษย์สาวชาวไทยอันน่าประทับใจจะกลับกลายจากหวานเป็นขม เพราะปมแค้น ซึ่งทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตตามมามากมาย
‘กรง’ ที่ชายหนุ่มพยายามกักขังเธอไว้ในแดนทิวลิปนั้น แม้เขาจะมุ่งมั่นให้เธอทุกข์ทรมาน แต่ทำไมเขากลับทุกข์ทรมานมากกว่า
หรือ ‘กรงแค้น’ ที่เขาสร้างขึ้นแท้จริงแล้วมันคือ ‘กรงรัก’ กักขังผูกมัดหัวใจสองดวงเข้าด้วยกันจนดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
. . . . . . . . . . . . . .
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "ดาริยา" นักเขียนเจ้าของผลงานเรื่อง "ทะเลลวง" ที่เคยเป็นละครทางช่อง 7 มาแล้ว กลับมาครั้งนี้ ดาริยานำนิยายโรแมนติก ดราม่ามาให้อ่านกันค่ะ และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60% ของเรื่องนะคะ
ความรักแสนงดงามก่อเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศชวนฝัน ในดินแดนแห่งทิวลิป ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์
ใครจะคาดคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่าง 'เอกตะวัน' อาจารย์หนุ่มลูกครึ่งไทย-ดัตช์ และ 'จันทร์กันยา' ลูกศิษย์สาวชาวไทยอันน่าประทับใจจะกลับกลายจากหวานเป็นขม เพราะปมแค้น ซึ่งทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตตามมามากมาย
‘กรง’ ที่ชายหนุ่มพยายามกักขังเธอไว้ในแดนทิวลิปนั้น แม้เขาจะมุ่งมั่นให้เธอทุกข์ทรมาน แต่ทำไมเขากลับทุกข์ทรมานมากกว่า
หรือ ‘กรงแค้น’ ที่เขาสร้างขึ้นแท้จริงแล้วมันคือ ‘กรงรัก’ กักขังผูกมัดหัวใจสองดวงเข้าด้วยกันจนดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
. . . . . . . . . . . . . .
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "ดาริยา" นักเขียนเจ้าของผลงานเรื่อง "ทะเลลวง" ที่เคยเป็นละครทางช่อง 7 มาแล้ว กลับมาครั้งนี้ ดาริยานำนิยายโรแมนติก ดราม่ามาให้อ่านกันค่ะ และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60% ของเรื่องนะคะ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 4 (60%)
“กลับหอด่วนเลยลิน ฉันไม่อยากคุยกับอาจารย์เอกตะวัน”
จันทร์กันยาเร่งเพื่อนสาวพลางเก็บของลงกระเป๋าอย่างรวดเร็วทันทีที่เลิกคาส ขณะที่อาจารย์หนุ่มกำลังถูกรุมล้อมถามโดยนักศึกษาสาวนับสิบเช่นเคย
ลินาไม่รู้หรอกว่าที่จันทร์กันยาเพื่อนรักต้องรีบร้อน พยายามหลบหน้า เป็นเพราะเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ลินาป่วย แล้วจันทร์กันยาต้องมาเรียนคนเดียวนั้น หลังเลิกคลาสอาจารย์หนุ่มคอยแต่จะหาโอกาสพบจันทร์กันยานอกห้องเล็กเชอร์ พร้อมชวนคุยอย่างสนิทสนม ทำเอาหล่อนเกิดอาการกลัวใจตัวเอง เพราะทุกคราวที่เอกตะวันเข้ามาพูดคุยด้วย น้ำเสียงและแววตาของเขามีผลต่อหัวใจของหล่อนอย่างยิ่ง นอกจากเต้นรัวแล้วยังพองฟูด้วยรู้สึกว่าตน ‘เหนือ’ กว่านักศึกษาสาวคนอื่นๆ อย่างช่วยไม่ได้
“แต่วันนี้ฉันมีข้อสงสัยต้องถามอาจารย์” ลินายืนยัน พยายามทำน้ำเสียงให้เป็นการเป็นงานสุดชีวิต
“ข้อสงสัย? โห! ดูจริงจังเนอะเพื่อนฉัน คนตั้งใจเรียนวิชานี้อย่างแกยังมีข้อสงสัยอะไรอีก ก็ไหนชมไม่ขาดปากว่าอาจารย์สอนดีนักหนา”
“ก็สอนดีไง ฉันถึงได้คิดวิเคราะห์ตามจนเกิดข้อสงสัย ไม่เหมือนใครบางคน ระยะหลังนี่ดูไม่มีสมาธิเรียนวิชาของอาจารย์เอกตะวันเลยนะยะ ผิดฟอร์มมาก” ลินาย้อน
“ใครว่าไม่มีสมาธิ ฉันตั้งใจเต็มที่ก็เลยเข้าใจคำอธิบายทุกคำ” คนแกล้งอวดชูคอ
“ถ้างั้นเรียนเชิญแกกลับหอไปก่อนเลยย่ะ แม่คนเก่ง ฉันอยากถามอาจารย์ เพราะสงสัยจริงๆ”
“โอเคๆ งั้นฉันกลับก่อนแล้วกัน จะไปเตรียมทำสลัดทูน่ารอแกกลับ ไปกิน วันนี้ฉันโชว์ฝีมือเอง” จันทร์กันยายืดตัวตรง วางมาดราวกับเป็นเชฟสาวมือหนึ่ง
“ได้ข่าวว่าแค่ล้างผักให้สะอาดก็เสร็จแล้วปะวะ น้ำสลัดก็ซื้อเอา ปลาทูน่ากระป๋องอีกต่างหาก” ลินาส่งค้อน สีหน้ารู้ทัน
“พูดมากเดี๋ยวไม่ทำให้กินซะเลย ฉันกลับก่อนละ แกรีบไปต่อคิวสิ แถวยาวเป็นรถไฟแล้วนั่น ไม่รู้จะสงสัยอะไรกันนักหนา” คนพูดรวบหนังสือบนโต๊ะไว้ในอ้อมแขนแล้วโบกมือลาเพื่อน ก่อนเดินออกจากห้อง
จันทร์กันยาไม่ทันเหลียวไปมองว่ามีดวงตาสีน้ำทะเลของอาจารย์หนุ่มที่ถูกรุมล้อมอยู่หน้าห้องเล็กเชอร์นั้นมองตามร่างเล็กของหล่อนไปจนลับตา
********************
“เป็นยังไง เข้าใจดีแล้วใช่ไหมลินา”
เอกตะวันถามลูกศิษย์สาวคนสุดท้ายที่มีข้อสงสัยพิเศษจนต้องอธิบายเสียละเอียดยิบ แม้เลยเวลาเลิกคลาสไปพักใหญ่แล้วก็ตาม
“ค่ะอาจารย์ ยิ่งฟังอาจารย์นอกรอบแล้วยิ่งเข้าใจ ฮอลแลนด์โชคดีมากที่มีคนหัวก้าวหน้าอย่างอาจารย์ สามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยการเกษตรได้มากมายขนาดนี้ ลินไม่เคยนึกเลยว่าอาชีพเกษตรกรรมจะมีเรื่องน่าสนใจ ทันสมัยจนน่าทึ่ง”
“ต้องยอมรับว่าเราเป็นประเทศชั้นนำเรื่องเทคโนโลยีทางการเกษตร และบังเอิญธุรกิจของครอบครัวผมก็เน้นทางนี้ มีอะไรที่จะทำให้คุณเข้าใจเรื่องที่เรียนได้ก็บอกเลย หรืออยากไปดูงานที่บริษัทผมก็ยังได้นะ”
อาจารย์หนุ่มออกปากชวน ทำเอาลินาเคลิ้ม ทั้งที่ความจริงแล้วเขาอาจพูดอย่างนี้กับลูกศิษย์ทุกคนก็ได้
“อุ๊ย! ไม่กล้ารบกวนค่ะอาจารย์ งั้นลินขอตัวกลับก่อนนะคะ ใช้เวลาอาจารย์ไปเยอะกว่าจะเข้าใจชัดเจน ลินยอมรับเลยว่าทึ่งในความทุ่มเทของอาจารย์มาก เข้าใจแล้วว่าทำไมมหาวิทยาลัยต้องเชิญอาจารย์มาสอน แถมเปิดคอร์สพิเศษให้นักศึกษาทุกคณะทุกชั้นปีมาลงเพิ่มประสบการณ์ได้”
ลูกศิษย์สาวพูดจากใจจริงจนอีกฝ่ายยิ้มกว้าง รอยยิ้มของเขาทำให้โลกของลินาหยุดหมุน เฝ้าแต่ถามตัวเองว่าตั้งแต่เกิดมาเคยเจอผู้ชายหล่อสมบูรณ์แบบขนาดนี้ไหม...คำตอบคือไม่!
“ถ้าเพื่อนคุณคิดอย่างคุณบ้างคงดี” ดวงตาคมกล้าสีฟ้าหม่นทอดมองไปนอกหน้าต่างห้องเรียน
“อาจารย์หมายถึงจันทร์ใช่ไหมคะ” ลินาถามออกไปทั้งที่รู้คำตอบ
“ใช่ ผมรู้สึกว่าเธอมีทัศนคติด้านลบกับผมเยอะมาก ต่างจากคุณเลยแหละ ทั้งที่เป็นเพื่อนสนิทกันแท้ๆ”
“อาจารย์อย่าไปถือสาเลยนะคะ จันทร์เป็นคนนิสัยดี อาจจะปากไวไปนิด แต่จริงๆ เป็นคนน่ารักค่ะ ลินรับประกันได้”
“อันนั้นผมก็ไม่ปฏิเสธ”
กรี๊ด...! ลินาอยากกรีดร้องให้ลั่นห้องเล็กเชอร์ อาจารย์เอกตะวันชมว่าจันทร์กันยาน่ารัก! แค่ชมเพื่อน หล่อนยังดีใจปานนี้ แล้วถ้าอาจารย์ชมตัวหล่อนเองล่ะ ถึงตอนนั้นคงกระโดดตัวลอยไปนอกโลก
“ผมขอรบกวนเวลาคุณอีกนิดได้ไหมลินา”
โอย! อาจารย์เอกตะวันขอคุยต่อ แม้จะเดาได้ว่าเรื่องคงไม่เกี่ยวกับหล่อนนัก แต่ลินายังแอบดีใจ ก็แหม! ใครไม่เคยไม่มีทางเข้าใจหรอกว่าการได้คุยกับหนุ่มหล่อขั้นเทพของจริงมันช่วยให้หัวใจกระชุ่มกระชวยขนาดไหน
“เรียกลินก็ได้ค่ะ”
“โอเค ลิน ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณ เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะผมไม่รู้จะพูดกับใครจริงๆ”
หญิงสาวใจเต้นแรง อาจารย์หนุ่มสุดหล่อจะปรึกษา ‘เรื่องส่วนตัว’ กับหล่อนเช่นนั้นหรือ นี่มันไกลเกินฝันไปมากมายเหลือเกิน
“ได้เลยค่ะอาจารย์ ลินพร้อมรับฟังค่ะ”
“งั้นเราออกไปหากาแฟดื่มกันดีกว่า เอาร้านใกล้ๆ นี่ละ ผมรบกวนเวลาคุณไม่นานหรอก”
“นานก็ได้ค่ะ ลินไม่มีธุระอะไร” ลินาตอบออกไปแบบไร้การวางมาดโดยสิ้นเชิง นาทีนี้สาวใดรู้เข้าว่าหล่อนจะได้ไปดื่มกาแฟกับอาจารย์เอกตะวัน คงอิจฉาจนอยากสลับร่างกันเลยทีเดียว
“งั้นตามผมมา”
เอกตะวันเดินนำนักศึกษาสาวผิวสีน้ำผึ้งออกไปนอกอาคารเรียน ตรงไปยังรถสปอร์ตสีบรอนซ์ของเขาที่จอดในลานจอดรถ
“เอ่อ อาจารย์จะให้ลินนั่งรถไปด้วยกันหรือคะ ลินว่า...เรานัดเจอกันที่ร้านกาแฟก็ได้ เดี๋ยวลินขี่จักรยานตามไปค่ะ” ลินาเสนอในสิ่งที่ตรงข้ามกับใจเป็นที่สุด
“ไม่เอาน่า ทำไมต้องยุ่งยากด้วย ก็ไปเสียด้วยกัน กินเสร็จผมจะขับมาส่งคุณที่นี่ แล้วคุณค่อยขี่จักรยานกลับหอ”
ลินาอยากกรีดร้องอีกแล้ว นี่หล่อนกำลังจะกลายร่างเป็นบาร์บี้ ได้นั่งเบาะหน้าเคียงคู่ไปกับอาจารย์เอกตะวันราวกับเป็นตุ๊กตาหน้ารถของเขา แล้วดูสิ! ตอนนี้แค่ได้เดินเคียงข้างไปกับร่างสูงสง่า พวกสาวหัวทองทั้งหลายก็จ้องกันตาไม่กะพริบ บางรายถึงกับอ้าปากค้างกันเลย
ให้รู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร สาวเอเชียถึงจะร่างเล็กกว่า หุ่นไม่อวบอั๋นเท่า แต่ก็มีดีนะ
นั่งรถเพียงครู่เดียวก็มาถึงร้านกาแฟเป้าหมาย เอกตะวันตรงมาเปิดประตูรถให้ โอย! นี่หล่อนกำลังฝันไปหรือเปล่า แบบนี้คือสุภาพบุรุษในหนังชัดๆ
หญิงสาวเดินตามอาจารย์หนุ่มไปนั่งในร้าน เอกตะวันไม่เลือกโต๊ะที่เรียงรายติดถนนด้านนอก คงเพราะไม่อยากให้คนเอาไปพูดต่อกันมากนัก เขาพาหล่อนไปนั่งโต๊ะภายในร้าน เมื่อสั่งกาแฟแล้ว เอกตะวันก็เริ่มทันที
“ทำไมวันนี้จันทร์กันยาถึงรีบกลับหอก่อน มีอะไรหรือเปล่า”
“...”
สมองของลินากำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อคิดหาคำพูดที่ดูดีและไม่ทำร้ายจิตใจอาจารย์หนุ่มเช่นคำว่า ‘รังเกียจ’ หรือ ‘ไม่อยากเจอหน้า’
“เอิ่ม มะ...ไม่มีอะไรค่ะอาจารย์ แค่จันทร์เป็นคนแปลกๆ สักหน่อย จันทร์ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับผู้ชายน่ะค่ะ”
คราวนี้อาจารย์หนุ่มปล่อยเสียงหัวเราะดังลั่น
“นี่อย่าบอกนะว่า จันทร์กันยาชอบผู้หญิงด้วยกัน”
“อ๊าย! ไม่ใช่ค่ะอาจารย์ แค่จันทร์ค่อนข้างซีเรียสนิดหนึ่ง ตั้งใจจะมาเรียนอย่างเดียว ไม่อยากเสียสมาธิเพราะผู้ชายค่ะ”
“ทำไมต้องตั้งใจมากมายขนาดนั้น” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ลินาอยากบอกว่าการที่อาจารย์เอกตะวันขมวดคิ้วแบบนี้ ไม่ได้ทำให้ความหล่อของเขาลดน้อยลงไปเลย แต่กลับยิ่งทำให้เขาน่ามอง น่าค้นหาเข้าไปอีก
“อาจารย์อาจจะยังไม่ทราบว่าจันทร์มาเรียนด้วยทุนเออีเอส” หญิงสาวหยุดเพื่อชั่งใจว่าควรเล่าหรือไม่ ในที่สุดจึงเอ่ยต่อ “คือ...ทางบ้านจันทร์ฐานะไม่ได้ดีมากมาย แต่ด้วยความมุมานะ อยากมาเรียนที่นี่ ก็เลยดั้นด้นมาจนได้”
ลินาห้ามตัวเองได้ทัน หล่อนยังไม่ควรเล่าละเอียดถึงขนาดว่าจุดเริ่มต้นในการเลือกมาเรียนที่เนเธอร์แลนด์ของจันทร์กันยานั้นดูจะแปลกประหลาดสักหน่อย...มันมาจากการอยากเห็นกังหันลมของจริง และที่สำคัญ จันทร์กันยาใฝ่ฝันอยากเดินเล่นในสวนเคอเคนฮอฟ หลังจากได้รับโปสการ์ดภาพสวนแสนสวยนั่นจากเพื่อนคนหนึ่งที่เคยมาเรียนปริญญาตรีที่นี่
“แสดงว่าเรียนเก่งใช้ได้สิ ผมรู้ว่าทุนนี้เลือกที่ผลการเรียนโดดเด่นด้วย”
“ใช่ค่ะ จันทร์เป็นเด็กเรียนตัวยงเลย ส่วนลิน มาด้วยทุนตัวเองค่ะ” ลินาหัวเราะเบาๆ ไม่อยากเล่าหรอกว่าที่หล่อนจบปริญญาตรีมาได้ก็เพราะมีจันทร์กันยาช่วยฉุดช่วยลากกันมานี่แหละ
“เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะลิน คือ...คุณเชื่อในเรื่องรักแรกพบไหม”
โอย! กรี๊ดได้ไหมเนี่ย ใครตอบหน่อยว่าทำได้ไหมในร้านกาแฟที่มีคนเต็มร้านแบบนี้ สรุปแล้วลินาคนนี้ฟังไม่ผิดแน่ อาจารย์เอกตะวันสนใจนักศึกษาสาวชื่อจันทร์กันยา!!! กรี๊ด นังจันทร์เพื่อนช้าน
ลินาโวยวายโหวกเหวกอยู่ในใจ ไม่ได้พูดอะไรออกไปสักคำ เอาแต่ทำตาโตจ้องหน้าอาจารย์หนุ่ม รอฟังว่าเขาจะกล้าพูดออกมามากขนาดไหน
“เอาตรงๆ คือ ผมชอบจันทร์กันยา ถูกชะตาจนบอกไม่ถูก ถ้าคุณยังไม่มีประสบการณ์อาจจะไม่เข้าใจ แต่ความรู้สึกแบบนี้มันรุนแรงมาก สำหรับผมแล้ว...นี่คือครั้งแรกในชีวิตที่ผมรู้สึกกับผู้หญิงขนาดนี้”
“แต่...อาจารย์คงไม่ลืมว่าสถานะของจันทร์คือลูกศิษย์ของอาจารย์นะคะ จะเหมาะเหรอคะ ถ้าคิดกับจันทร์แบบนั้น”
จริงอยู่ที่ลินาแอบเชียร์ แต่หล่อนจะไม่ลืมเรื่องความเหมาะสมเป็นอันขาด
“ผมให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนะ ที่ผ่านมาก็คิดและระวังตัวมาตลอด คุณคงสังเกตเห็นว่าในคลาส ผมปฏิบัติกับจันทร์กันยาเท่าเทียมกับเพื่อนคนอื่น ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรที่ประเจิดประเจ้อจนเกินไปแน่นอน ผมชอบเธอจากใจจริง จากความรู้สึกของผู้ชายคนหนึ่ง”
โอย นังจันทร์! ฉันอยากให้แกมาได้ยินกับหู ฉันอยากเป็นแกแล้วอะ มีผู้ชายมาพูดแบบนี้ ตายไปก็ไม่เสียชาติเกิดแล้วแกเอ๊ย
แน่นอนว่านั่นเป็นการรำพึงในใจเช่นเคย ลินายังคงนั่งหน้าตื่น ฟังคำสารภาพอันแสนโรแมนติกในความรู้สึกของหล่อน
“ดังนั้น ผมมีเรื่องอยากขอร้องคุณ”
ลงให้อ่านทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์นะคะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
จันทร์กันยาเร่งเพื่อนสาวพลางเก็บของลงกระเป๋าอย่างรวดเร็วทันทีที่เลิกคาส ขณะที่อาจารย์หนุ่มกำลังถูกรุมล้อมถามโดยนักศึกษาสาวนับสิบเช่นเคย
ลินาไม่รู้หรอกว่าที่จันทร์กันยาเพื่อนรักต้องรีบร้อน พยายามหลบหน้า เป็นเพราะเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ลินาป่วย แล้วจันทร์กันยาต้องมาเรียนคนเดียวนั้น หลังเลิกคลาสอาจารย์หนุ่มคอยแต่จะหาโอกาสพบจันทร์กันยานอกห้องเล็กเชอร์ พร้อมชวนคุยอย่างสนิทสนม ทำเอาหล่อนเกิดอาการกลัวใจตัวเอง เพราะทุกคราวที่เอกตะวันเข้ามาพูดคุยด้วย น้ำเสียงและแววตาของเขามีผลต่อหัวใจของหล่อนอย่างยิ่ง นอกจากเต้นรัวแล้วยังพองฟูด้วยรู้สึกว่าตน ‘เหนือ’ กว่านักศึกษาสาวคนอื่นๆ อย่างช่วยไม่ได้
“แต่วันนี้ฉันมีข้อสงสัยต้องถามอาจารย์” ลินายืนยัน พยายามทำน้ำเสียงให้เป็นการเป็นงานสุดชีวิต
“ข้อสงสัย? โห! ดูจริงจังเนอะเพื่อนฉัน คนตั้งใจเรียนวิชานี้อย่างแกยังมีข้อสงสัยอะไรอีก ก็ไหนชมไม่ขาดปากว่าอาจารย์สอนดีนักหนา”
“ก็สอนดีไง ฉันถึงได้คิดวิเคราะห์ตามจนเกิดข้อสงสัย ไม่เหมือนใครบางคน ระยะหลังนี่ดูไม่มีสมาธิเรียนวิชาของอาจารย์เอกตะวันเลยนะยะ ผิดฟอร์มมาก” ลินาย้อน
“ใครว่าไม่มีสมาธิ ฉันตั้งใจเต็มที่ก็เลยเข้าใจคำอธิบายทุกคำ” คนแกล้งอวดชูคอ
“ถ้างั้นเรียนเชิญแกกลับหอไปก่อนเลยย่ะ แม่คนเก่ง ฉันอยากถามอาจารย์ เพราะสงสัยจริงๆ”
“โอเคๆ งั้นฉันกลับก่อนแล้วกัน จะไปเตรียมทำสลัดทูน่ารอแกกลับ ไปกิน วันนี้ฉันโชว์ฝีมือเอง” จันทร์กันยายืดตัวตรง วางมาดราวกับเป็นเชฟสาวมือหนึ่ง
“ได้ข่าวว่าแค่ล้างผักให้สะอาดก็เสร็จแล้วปะวะ น้ำสลัดก็ซื้อเอา ปลาทูน่ากระป๋องอีกต่างหาก” ลินาส่งค้อน สีหน้ารู้ทัน
“พูดมากเดี๋ยวไม่ทำให้กินซะเลย ฉันกลับก่อนละ แกรีบไปต่อคิวสิ แถวยาวเป็นรถไฟแล้วนั่น ไม่รู้จะสงสัยอะไรกันนักหนา” คนพูดรวบหนังสือบนโต๊ะไว้ในอ้อมแขนแล้วโบกมือลาเพื่อน ก่อนเดินออกจากห้อง
จันทร์กันยาไม่ทันเหลียวไปมองว่ามีดวงตาสีน้ำทะเลของอาจารย์หนุ่มที่ถูกรุมล้อมอยู่หน้าห้องเล็กเชอร์นั้นมองตามร่างเล็กของหล่อนไปจนลับตา
********************
“เป็นยังไง เข้าใจดีแล้วใช่ไหมลินา”
เอกตะวันถามลูกศิษย์สาวคนสุดท้ายที่มีข้อสงสัยพิเศษจนต้องอธิบายเสียละเอียดยิบ แม้เลยเวลาเลิกคลาสไปพักใหญ่แล้วก็ตาม
“ค่ะอาจารย์ ยิ่งฟังอาจารย์นอกรอบแล้วยิ่งเข้าใจ ฮอลแลนด์โชคดีมากที่มีคนหัวก้าวหน้าอย่างอาจารย์ สามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยการเกษตรได้มากมายขนาดนี้ ลินไม่เคยนึกเลยว่าอาชีพเกษตรกรรมจะมีเรื่องน่าสนใจ ทันสมัยจนน่าทึ่ง”
“ต้องยอมรับว่าเราเป็นประเทศชั้นนำเรื่องเทคโนโลยีทางการเกษตร และบังเอิญธุรกิจของครอบครัวผมก็เน้นทางนี้ มีอะไรที่จะทำให้คุณเข้าใจเรื่องที่เรียนได้ก็บอกเลย หรืออยากไปดูงานที่บริษัทผมก็ยังได้นะ”
อาจารย์หนุ่มออกปากชวน ทำเอาลินาเคลิ้ม ทั้งที่ความจริงแล้วเขาอาจพูดอย่างนี้กับลูกศิษย์ทุกคนก็ได้
“อุ๊ย! ไม่กล้ารบกวนค่ะอาจารย์ งั้นลินขอตัวกลับก่อนนะคะ ใช้เวลาอาจารย์ไปเยอะกว่าจะเข้าใจชัดเจน ลินยอมรับเลยว่าทึ่งในความทุ่มเทของอาจารย์มาก เข้าใจแล้วว่าทำไมมหาวิทยาลัยต้องเชิญอาจารย์มาสอน แถมเปิดคอร์สพิเศษให้นักศึกษาทุกคณะทุกชั้นปีมาลงเพิ่มประสบการณ์ได้”
ลูกศิษย์สาวพูดจากใจจริงจนอีกฝ่ายยิ้มกว้าง รอยยิ้มของเขาทำให้โลกของลินาหยุดหมุน เฝ้าแต่ถามตัวเองว่าตั้งแต่เกิดมาเคยเจอผู้ชายหล่อสมบูรณ์แบบขนาดนี้ไหม...คำตอบคือไม่!
“ถ้าเพื่อนคุณคิดอย่างคุณบ้างคงดี” ดวงตาคมกล้าสีฟ้าหม่นทอดมองไปนอกหน้าต่างห้องเรียน
“อาจารย์หมายถึงจันทร์ใช่ไหมคะ” ลินาถามออกไปทั้งที่รู้คำตอบ
“ใช่ ผมรู้สึกว่าเธอมีทัศนคติด้านลบกับผมเยอะมาก ต่างจากคุณเลยแหละ ทั้งที่เป็นเพื่อนสนิทกันแท้ๆ”
“อาจารย์อย่าไปถือสาเลยนะคะ จันทร์เป็นคนนิสัยดี อาจจะปากไวไปนิด แต่จริงๆ เป็นคนน่ารักค่ะ ลินรับประกันได้”
“อันนั้นผมก็ไม่ปฏิเสธ”
กรี๊ด...! ลินาอยากกรีดร้องให้ลั่นห้องเล็กเชอร์ อาจารย์เอกตะวันชมว่าจันทร์กันยาน่ารัก! แค่ชมเพื่อน หล่อนยังดีใจปานนี้ แล้วถ้าอาจารย์ชมตัวหล่อนเองล่ะ ถึงตอนนั้นคงกระโดดตัวลอยไปนอกโลก
“ผมขอรบกวนเวลาคุณอีกนิดได้ไหมลินา”
โอย! อาจารย์เอกตะวันขอคุยต่อ แม้จะเดาได้ว่าเรื่องคงไม่เกี่ยวกับหล่อนนัก แต่ลินายังแอบดีใจ ก็แหม! ใครไม่เคยไม่มีทางเข้าใจหรอกว่าการได้คุยกับหนุ่มหล่อขั้นเทพของจริงมันช่วยให้หัวใจกระชุ่มกระชวยขนาดไหน
“เรียกลินก็ได้ค่ะ”
“โอเค ลิน ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณ เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะผมไม่รู้จะพูดกับใครจริงๆ”
หญิงสาวใจเต้นแรง อาจารย์หนุ่มสุดหล่อจะปรึกษา ‘เรื่องส่วนตัว’ กับหล่อนเช่นนั้นหรือ นี่มันไกลเกินฝันไปมากมายเหลือเกิน
“ได้เลยค่ะอาจารย์ ลินพร้อมรับฟังค่ะ”
“งั้นเราออกไปหากาแฟดื่มกันดีกว่า เอาร้านใกล้ๆ นี่ละ ผมรบกวนเวลาคุณไม่นานหรอก”
“นานก็ได้ค่ะ ลินไม่มีธุระอะไร” ลินาตอบออกไปแบบไร้การวางมาดโดยสิ้นเชิง นาทีนี้สาวใดรู้เข้าว่าหล่อนจะได้ไปดื่มกาแฟกับอาจารย์เอกตะวัน คงอิจฉาจนอยากสลับร่างกันเลยทีเดียว
“งั้นตามผมมา”
เอกตะวันเดินนำนักศึกษาสาวผิวสีน้ำผึ้งออกไปนอกอาคารเรียน ตรงไปยังรถสปอร์ตสีบรอนซ์ของเขาที่จอดในลานจอดรถ
“เอ่อ อาจารย์จะให้ลินนั่งรถไปด้วยกันหรือคะ ลินว่า...เรานัดเจอกันที่ร้านกาแฟก็ได้ เดี๋ยวลินขี่จักรยานตามไปค่ะ” ลินาเสนอในสิ่งที่ตรงข้ามกับใจเป็นที่สุด
“ไม่เอาน่า ทำไมต้องยุ่งยากด้วย ก็ไปเสียด้วยกัน กินเสร็จผมจะขับมาส่งคุณที่นี่ แล้วคุณค่อยขี่จักรยานกลับหอ”
ลินาอยากกรีดร้องอีกแล้ว นี่หล่อนกำลังจะกลายร่างเป็นบาร์บี้ ได้นั่งเบาะหน้าเคียงคู่ไปกับอาจารย์เอกตะวันราวกับเป็นตุ๊กตาหน้ารถของเขา แล้วดูสิ! ตอนนี้แค่ได้เดินเคียงข้างไปกับร่างสูงสง่า พวกสาวหัวทองทั้งหลายก็จ้องกันตาไม่กะพริบ บางรายถึงกับอ้าปากค้างกันเลย
ให้รู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร สาวเอเชียถึงจะร่างเล็กกว่า หุ่นไม่อวบอั๋นเท่า แต่ก็มีดีนะ
นั่งรถเพียงครู่เดียวก็มาถึงร้านกาแฟเป้าหมาย เอกตะวันตรงมาเปิดประตูรถให้ โอย! นี่หล่อนกำลังฝันไปหรือเปล่า แบบนี้คือสุภาพบุรุษในหนังชัดๆ
หญิงสาวเดินตามอาจารย์หนุ่มไปนั่งในร้าน เอกตะวันไม่เลือกโต๊ะที่เรียงรายติดถนนด้านนอก คงเพราะไม่อยากให้คนเอาไปพูดต่อกันมากนัก เขาพาหล่อนไปนั่งโต๊ะภายในร้าน เมื่อสั่งกาแฟแล้ว เอกตะวันก็เริ่มทันที
“ทำไมวันนี้จันทร์กันยาถึงรีบกลับหอก่อน มีอะไรหรือเปล่า”
“...”
สมองของลินากำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อคิดหาคำพูดที่ดูดีและไม่ทำร้ายจิตใจอาจารย์หนุ่มเช่นคำว่า ‘รังเกียจ’ หรือ ‘ไม่อยากเจอหน้า’
“เอิ่ม มะ...ไม่มีอะไรค่ะอาจารย์ แค่จันทร์เป็นคนแปลกๆ สักหน่อย จันทร์ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับผู้ชายน่ะค่ะ”
คราวนี้อาจารย์หนุ่มปล่อยเสียงหัวเราะดังลั่น
“นี่อย่าบอกนะว่า จันทร์กันยาชอบผู้หญิงด้วยกัน”
“อ๊าย! ไม่ใช่ค่ะอาจารย์ แค่จันทร์ค่อนข้างซีเรียสนิดหนึ่ง ตั้งใจจะมาเรียนอย่างเดียว ไม่อยากเสียสมาธิเพราะผู้ชายค่ะ”
“ทำไมต้องตั้งใจมากมายขนาดนั้น” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ลินาอยากบอกว่าการที่อาจารย์เอกตะวันขมวดคิ้วแบบนี้ ไม่ได้ทำให้ความหล่อของเขาลดน้อยลงไปเลย แต่กลับยิ่งทำให้เขาน่ามอง น่าค้นหาเข้าไปอีก
“อาจารย์อาจจะยังไม่ทราบว่าจันทร์มาเรียนด้วยทุนเออีเอส” หญิงสาวหยุดเพื่อชั่งใจว่าควรเล่าหรือไม่ ในที่สุดจึงเอ่ยต่อ “คือ...ทางบ้านจันทร์ฐานะไม่ได้ดีมากมาย แต่ด้วยความมุมานะ อยากมาเรียนที่นี่ ก็เลยดั้นด้นมาจนได้”
ลินาห้ามตัวเองได้ทัน หล่อนยังไม่ควรเล่าละเอียดถึงขนาดว่าจุดเริ่มต้นในการเลือกมาเรียนที่เนเธอร์แลนด์ของจันทร์กันยานั้นดูจะแปลกประหลาดสักหน่อย...มันมาจากการอยากเห็นกังหันลมของจริง และที่สำคัญ จันทร์กันยาใฝ่ฝันอยากเดินเล่นในสวนเคอเคนฮอฟ หลังจากได้รับโปสการ์ดภาพสวนแสนสวยนั่นจากเพื่อนคนหนึ่งที่เคยมาเรียนปริญญาตรีที่นี่
“แสดงว่าเรียนเก่งใช้ได้สิ ผมรู้ว่าทุนนี้เลือกที่ผลการเรียนโดดเด่นด้วย”
“ใช่ค่ะ จันทร์เป็นเด็กเรียนตัวยงเลย ส่วนลิน มาด้วยทุนตัวเองค่ะ” ลินาหัวเราะเบาๆ ไม่อยากเล่าหรอกว่าที่หล่อนจบปริญญาตรีมาได้ก็เพราะมีจันทร์กันยาช่วยฉุดช่วยลากกันมานี่แหละ
“เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะลิน คือ...คุณเชื่อในเรื่องรักแรกพบไหม”
โอย! กรี๊ดได้ไหมเนี่ย ใครตอบหน่อยว่าทำได้ไหมในร้านกาแฟที่มีคนเต็มร้านแบบนี้ สรุปแล้วลินาคนนี้ฟังไม่ผิดแน่ อาจารย์เอกตะวันสนใจนักศึกษาสาวชื่อจันทร์กันยา!!! กรี๊ด นังจันทร์เพื่อนช้าน
ลินาโวยวายโหวกเหวกอยู่ในใจ ไม่ได้พูดอะไรออกไปสักคำ เอาแต่ทำตาโตจ้องหน้าอาจารย์หนุ่ม รอฟังว่าเขาจะกล้าพูดออกมามากขนาดไหน
“เอาตรงๆ คือ ผมชอบจันทร์กันยา ถูกชะตาจนบอกไม่ถูก ถ้าคุณยังไม่มีประสบการณ์อาจจะไม่เข้าใจ แต่ความรู้สึกแบบนี้มันรุนแรงมาก สำหรับผมแล้ว...นี่คือครั้งแรกในชีวิตที่ผมรู้สึกกับผู้หญิงขนาดนี้”
“แต่...อาจารย์คงไม่ลืมว่าสถานะของจันทร์คือลูกศิษย์ของอาจารย์นะคะ จะเหมาะเหรอคะ ถ้าคิดกับจันทร์แบบนั้น”
จริงอยู่ที่ลินาแอบเชียร์ แต่หล่อนจะไม่ลืมเรื่องความเหมาะสมเป็นอันขาด
“ผมให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนะ ที่ผ่านมาก็คิดและระวังตัวมาตลอด คุณคงสังเกตเห็นว่าในคลาส ผมปฏิบัติกับจันทร์กันยาเท่าเทียมกับเพื่อนคนอื่น ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรที่ประเจิดประเจ้อจนเกินไปแน่นอน ผมชอบเธอจากใจจริง จากความรู้สึกของผู้ชายคนหนึ่ง”
โอย นังจันทร์! ฉันอยากให้แกมาได้ยินกับหู ฉันอยากเป็นแกแล้วอะ มีผู้ชายมาพูดแบบนี้ ตายไปก็ไม่เสียชาติเกิดแล้วแกเอ๊ย
แน่นอนว่านั่นเป็นการรำพึงในใจเช่นเคย ลินายังคงนั่งหน้าตื่น ฟังคำสารภาพอันแสนโรแมนติกในความรู้สึกของหล่อน
“ดังนั้น ผมมีเรื่องอยากขอร้องคุณ”
ลงให้อ่านทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์นะคะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 มิ.ย. 2565, 19:30:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 มิ.ย. 2565, 19:30:14 น.
จำนวนการเข้าชม : 199
<< บทที่ 3 (100%) | บทที่ 4 (100%) >> |